Wednesday, 2 July 2025
Hard News Team

‘ปลัดแรงงาน’ เยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิทธิประโยชน์ทดแทนการขาดรายได้แก่ผู้ทุพพลภาพ  "ย้ำ"อาสาสมัครแรงงาน ในพื้นที่ให้บริการด้านแรงงานอย่างใกล้ชิด

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย โดยมี นายเกริกไกร นาสมยนต์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานและอาสาสมัครแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 59 ถนนประชาร่วมมิตร ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 

เพื่อมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพแก่นายพรศักดิ์ วงศ์จันทา ทุพพลภาพเมื่อวันที่ 15 ก.ย.44 ได้รับเงินทุพพลภาพเดือนละ 2,349 บาท ตลอดชีวิต และตั้งแต่เดือน ก.ย.44 - ก.ย.64 รับมาแล้วเป็นเงิน 585,360 บาท จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 139 ถนนวิบูลธรรม ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมอบเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพแก่นายเปียก สายสี ทุพพลภาพเมื่อวันที่ 29 เม.ย.58 ได้รับเงินทุพพลภาพเดือนละ 4,303.50 บาท ตลอดชีวิต และตั้งแต่เดือน เม.ย.58 – ก.ย.64 รับมาแล้วเป็นเงิน 331,799.85 บาท ซึ่งทั้งสองรายเป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ล้ม มีอาการลีบ เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ แขน ขา

‘โบว์’ มอง ‘ลิซ่า’ ร่วมคาท์ดาวน์ ไทยมีแต่ได้ ชี้!! ‘ปัง หรือ พัง’ วัดกันที่รายละเอียดงาน

นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ ‘โบว์’ นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ไอเดียนำลิซ่ามาเมืองไทยเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ถ้าคิดเป็นมูลค่าโฆษณา คุ้มมากค่ะ ปกติหน่วยงานการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ จะมีงบประชาสัมพันธ์แล้วก็เอาไปถ่ายทำซื้อพื้นที่โฆษณาออกช่องโทรทัศน์ต่างประเทศบ้างอยู่แล้ว เงินจำนวนเท่ากันเทียบกับการจ้างลิซ่าแล้วเกิด PR values จากสื่อที่ติดตามลิซ่าและแฟนคลับที่จะต่อยอดไปอีกมหาศาล ย่อมคุ้มกว่าโฆษณารูปแบบอื่นมากอยู่แล้ว แต่จะปั่นขึ้นไปได้ระดับไหนอยู่ที่การออกแบบโปรแกรม เช่น ถ้าดีลให้ลิซ่าทำ vlog ไปลงใน YouTube channel ของตัวเองได้ด้วย จะยิ่งได้ผลไปอีกไกล ซึ่งตรงนี้น่าจะเจรจาได้ ปกติบางที่ไปเที่ยวไหนนานๆ ที่เขาก็ทำอยู่แล้ว และมันจะได้ผลระยะยาว ไม่ใช่แค่ฤดูท่องเที่ยวปีนี้

“นายก” รับมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร ม.ค. - ส.ค. 64 ขยายตัว 11.58% 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.58%  ตั้งแต่เดือนม.ค. - ส.ค.2564 ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ขยายตัว 1.2% โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์สำคัญของประเทศไทยที่มีมูลค่าการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ทุเรียนและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 103,958 ล้านบาท มังคุดและผลิตภัณฑ์ มูลค่าการส่งออก 16,705 ล้านบาท ยางแท่ง มูลค่าการส่งออก 54,752 ล้านบาท น้ำยางข้น มูลค่าการส่งออก 32,172 ล้านบาท ยางแผ่นรมควัน มูลค่าการส่งออก 22,729 ล้านบาท มันเส้น มูลค่าการส่งออก 28,696 ล้านบาท แป้งมันสำปะหลัง มูลค่าการส่งออก 33,259 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมมีการขยายตัวได้ดี 

รวมถึงการมีตลาดส่งออกหลักที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาขยายช่องทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี อาทิ FTA อาเซียน-จีน รวมทั้งภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลาง เป็นต้น

“ผบ.ทอ.” สั่ง กองบิน 4 สนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) บินสำรวจสถานการณ์อุทกภัย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี และพื้นที่โดยรอบในรัศมี 20 กิโลเมตร“ผบ.ทอ.” สั่ง กองบิน 4 สนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) บินสำรวจสถานการ

ตามที่จังหวัดลพบุรี ได้ประสานมายังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เพื่อขอรับการสนับสนุนภาพถ่ายทางอากาศ ในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ของจังหวัดลพบุรี สำหรับนำไปวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มการเกิดอุทกภัย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนแจ้งเตือนและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที 

พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้สั่งการให้ กองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ จัดเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) ขึ้นปฏิบัติภารกิจบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศในพิกัดเป้าหมายที่ได้รับการประสาน ได้แก่ พื้นที่จุดเสี่ยงในอำเภอบ้านหมี่ อำเภอท่าวุ้ง อำเภอโคกสำโรง และอำเภอเมืองลพบุรี จากนั้นได้นำภาพถ่ายทางอากาศและภาพเคลื่อนไหว ส่งต่อให้จังหวัดลพบุรีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป 

เครือซีพี ยัน ‘เจ้าสัวธนินท์’ ถือสัญชาติไทย เตือนเผยแพร่-ส่งต่อข้อมูลเท็จ ผิดกฎหมาย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ออกประกาศชี้แจงข่าวลือ กรณีมีผู้เพยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเรื่องการถือสัญชาติของ “ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์” ความว่า

ตามที่มีข้อมูลอันเป็นเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน เกี่ยวกับการถือสัญชาติของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ นั้น ได้ก่อให้เกิดความสับสนและสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมอย่างมาก

สำนักยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ขอชี้แจงอย่างเป็นทางการมา ณ ที่นี้ ว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคือ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นคนไทย กำเนิดในประเทศไทยและถือสัญชาติไทย

'แบงก์ชาติ' ฟันธงเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุด แต่คนว่างงานยังวิกฤต พุ่ง 3.4 ล้านคน

15 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ครั้งที่ 6/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2564 ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และการส่งออกที่ชะลอลงกว่าคาด แต่พัฒนาการด้านวัคซีนที่ดีขึ้นชัดเจนและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยประเมินว่า ปี 2564 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ 0.7% และในปี 2565 ที่ระดับ 3.9% จากการทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญ ตามความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทยอยฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ขณะที่การส่งออกจะยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหา global supply disruption 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังเผชิญความไม่แน่นอนสูง โดยต้องติดตาม 1.) แนวโน้มการระบาดและการกลายพันธุ์ของไวรัส รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยว 2.) การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นภาคเอกชนหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ซึ่งจะส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุน 3.) ความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะต่อไป และ 4.) ปัญหา supply disruption และต้นทุนค่าขนส่งสินค้าทางเรือ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกสินค้า

“กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/2564 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะข้างหน้า แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่เลื่อนมาจากช่วงก่อนหน้า (pent-up demand) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากพัฒนาการด้านวัคซีนที่ปรับดีขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดที่เร็วกว่าคาด แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการด้านวัคซีนทั้งการนำเข้าและการกระจายตามแผนของรัฐบาล รวมถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาดหากการระบาดกลับมารุนแรงขึ้น” 

“ประวิตร” สั่งเข้ม ห้ามจนท.โยงค้ามนุษย์ ลั่น อย่าเกียร์ว่างในกาาช่วยเหยื่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนยกระดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสองระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และระยะปานกลางในการจัดตั้งสำนักวิชาการ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบบเสมือนจริง เพื่อยกระดับความสามารถเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปราม การจัดการคดีและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งสังคมไม่สามารถยอมรับเรื่องการกักขัง หน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์เหยื่อ และบังคับทรมานขืนใจหรือข่มขืน โดยเฉพาะเด็กและสตรี ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด รัฐบาลจะไม่เพิกเฉยปล่อยปละละเลยให้เกิดขึ้นในไทยอีกต่อไป

ดังนั้นให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมมือกันโดยเฉพาะแรงงานในภาคประมง ต้องไม่ปล่อยปละละเลย ให้นึกถึงใจเขาใจเรากับเหยื่อ ต้องขับเคลื่อนแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบ และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการพัฒนาศักยภาพและปฏิบัติงานไปด้วยกันให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านป้องกันและปราบปราม การจัดการคดี การคัดแยกเหยื่อและการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย 

 

‘ปลัดบุญชอบ’ พบ 5 เสือแรงงานอุบลราชธานี ย้ำ ทำงานเป็นทีม ถูกต้อง ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายภูมา ธรรมกุล หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายเกริกไกร นาสมยนต์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยนายบุญชอบได้กล่าวมอบแนวทางการปฏิบัติราชการว่า จุดแข็งของกระทรวงแรงงาน มีหน่วยงานในสังกัดทั้ง 5 หน่วยในส่วนภูมิภาคที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ยังมีระบบฐานข้อมูลเชิงลึก ที่ค่อนข้างละเอียด ในภาพรวมถือว่ามีฐานข้อมูลที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะฐานข้อมูลของประกันสังคม ในอนาคตควรจะมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ระหว่างหน่วยงานในสังกัดให้สามารถนำข้อมูลด้านแรงงานมาใช้ประโยชนร่วมกันได้ 

นายบุญชอบ ยังได้ฝากถึงบุคลากรทุกคนให้มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน บริการประชาชนให้เต็มที่ โดยให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานเป็นที่พึ่งของประชาชนโดยแท้จริง สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นตัวกลางในการประสานภารกิจของกระทรวงแรงงานในระดับพื้นที่ กรมการจัดหางานเน้นการจัดหางาน หางานให้คนทำ หาตำแหน่งงานว่างมาจับคู่ (Matching) กับคนหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มุ่งเน้นการพัฒนาฝีมือแรงงานโดยใช้ระบบไอที เพื่อปรับหลักสูตรให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในยุคที่เปลี่ยนแปลง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน บังคับใช้กฎหมาย โดยใช้ระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน และคุ้มครองดูแลแรงงานให้เป็นไปตามกฎหมาย และสำนักงานประกันสังคม ดูแลมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนนายจ้างลูกจ้างจากผลกระทบโควิด-19 

อดีตรองอธิการฯ มธ. ค้านดึง ‘ลิซ่า’ เคาท์ดาวน์ แนะใช้เงินภาษีปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวดีกว่า

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมทุ่มเงิน 200 ล้านจ้างศิลปินดังร่วมโปรโมทเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ว่า ล้มเลิกเสียเถิดครับ ที่จะใช้เงินงบแผ่นดิน 200 ล้าน จ้าง Lisa และ Andrea Bocelli มาเปิดการแสดงในงาน count down ของประเทศไทย 

งานที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชอบทำมากคือการจัด event คงเป็นเพราะจัดงานจบแล้วจบเลย เห็นผลงานทันที ไม่ต้องรอนาน พูดอีกอย่างหนึ่งคือ ดูเหมือนว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถนัดแต่การโปรโมทการท่องเที่ยวแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นการทำงาน marketing ที่ไม่ครบวงจร ไม่ครบ 4 p's ซึ่ง p ที่สำคัญที่สุดก็คือ p ตัวแรกคือ Product ที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าใดนัก ได้แต่ปล่อยให้อยู่ในมือของ เทศบาล อบต. อบจ. ไปตามยถากรรม

อย่าลืมว่าการโปรโมทเพียงอย่างเดียว โดยที่ตัว product ไม่ดีพอ จะไม่ทำให้เกิดการซื้อซ้ำ พูดง่ายๆ คือ หลงเชื่อการโปรโมท ซื้อครั้งเดียวแล้วเลิกเลย

แทนที่จะนำเงิน 200 ล้าน ไปละลายไปกับการจัด event แบบนี้ รัฐบาลน่าจะเอาเงินงบแผ่นดินที่มาจากภาษีของพวกเรา ประชาชนธรรมดา ไปปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ ที่สำคัญคือ ปรับปรุงห้องน้ำที่แสนสกปรกให้สะอาด ทันสมัย ไร้ที่ติ ทำที่จอดรถให้เพียงพอ และสะดวก จัดระเบียบร้านค้าที่สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดให้ดูสวยงาม เรียบร้อย ไม่เขละขละ รกรุงรัง เหมือนเช่นในปัจจุบัน จะดีกว่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top