Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

'สุทธวรรณ' แนะ 3 มาตรการคู่ขนานคลายล็อก ห่วงสถานการณ์ยังวิกฤตสูง รัฐต้องขยับด้วยความระมัดระวัง 

นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส.เขตจังหวัดนครปฐม กล่าวถึงมติ ศบค.ชุดเล็กเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการร้านค้า ซึ่งล่าสุดผ่านที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มาแล้วนั้น สะท้อนสิ่งที่น่ากังวลที่สุดภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้คือ การออกมาตรการที่แกว่งไปมา ไม่ว่าจะเป็นการสั่งล็อกหรือคลายล็อกก็ตาม จะเห็นว่าพอระบบสุขภาพเริ่มวิกฤตก็ตื่นตระหนกเร่งออกมาตรการเข้มงวดโดยไม่เตรียมแผนเยียวยารองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจไว้ ต่อมา พอฟากเศรษฐกิจกำลังแบกรับผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดและการดูแลช่วยเหลือแบบทิ้งขว้างไม่ชัดเจนไม่ไหวและกดดันไปที่รัฐบาลมากเข้าก็จะคลายล็อกทันที เหมือนกับว่าวิกฤตสาธารณสุขจบลงแล้ว ทั้งที่ขณะนี้ในแต่ละวั กราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตชันขึ้นทุกที เหมือนรถที่กำลังไต่ไปตามไหล่เขาสูงชันและเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ เป็นจังหวะที่ควรควบคุมความเร็วให้เหมาะสม แต่กลับยิ่งแตะคันเร่งเหมือนคนไร้สติไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็ไม่ปาน

อย่างไรก็ตาม สุทธวรรณ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะเสนออะไรให้รัฐบาลนี้นำไปวางแผนเพื่อนำพาประชาชนออกจากวิกฤตได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำได้สูญเสียความเชื่อมั่นจากประชาชนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ในสถานการณ์ตอนนี้ ความจริงทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดคือ การล็อกดาวน์ให้สนิทภายใต้การเยียวยาอย่างถ้วนหน้า อุดหนุนเม็ดเงินให้ผู้ประกอบการลงไปถึงรายย่อยกระทั่งพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกงตามฟุตบาทเพื่อให้เขายังสามารถพยุงธุรกิจได้ ต้องช่วยเหลือค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ทให้ประชาชนทำงานและเรียนหนังสือจากที่บ้านได้จริง

"แต่ปัญหาก็คือไม่มีใครเชื่อว่า หากล็อกดาวน์สนิทแล้ว พวกเขาจะได้รับการดูแลเยียวยาจากรัฐบาลได้ แม้รัฐบาลจะกู้เงินซ้ำแล้วซ้ำเล่ามามากกว่าหนึ่งล้านล้านมาแล้วก็ตาม พวกเขาต้องอยู่กับความเจ็บช้ำน้ำใจที่พึ่งพารัฐแบบนี้ไม่ได้มาแล้วเกือบ 2 ปี จึงไม่แปลกใจที่จะมีเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจให้คลายล็อก เพราะถ้าไม่มีรายได้เขาก็ตายเหมือนกัน สู้ไปว่ากันดาบหน้าหาวิธีเอารอดตัวรอดกันเองให้ได้ยังจะมีหวังกว่าการเชื่อใจรัฐบาลแบบนี้"

อย่างไรก็ตาม สุทธวรรณ ชี้ว่า เมื่อรัฐบาลบีบให้สถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องคลายล็อกเพื่อเพิ่มโอกาสรอดให้ประชาชนได้ทำมาหากิน หากแต่ยังคงต้องระวังและคำนึงถึงสถานการณ์ทางสาธารณสุขเช่นกัน จึงอยากเสนอแนะ 3 มาตรการไปยังรัฐบาลที่ต้องทำควบคู่ไปกับประกาศคลายล็อกของ ศบค. ซึ่งมาตรการเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องสนับสนุนความช่วยเหลือลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ อุปกรณ์ หรือการวางระบบต่างๆให้พร้อม เพื่อไม่ให้เกิดเป็นภาระต่อระบบสาธารณสุขที่ยังวิกฤตสูงในขณะนี้มากเกินไป 

1. การจัดหาชุดตรวจ ATK ฟรีสำหรับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้มต้องแจกสัปดาห์ละ 2 ครั้งต่อคน และเร่งหาวิธีให้การเข้าถึงชุดตรวจที่ผ่าน อย.แล้วมีราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่าย เพราะการคลายล็อกมีโอกาสทำให้การติดเชื้อสูงขึ้น แต่การตรวจเจอเชื้อเร็ว รักษาเร็วจะทำให้มีความเสี่ยงต่อชีวิตต่ำและเป็นการตัดวงจรการกระจายเชื้อ เพื่อไม่นำไปสู่การเกิดคลัสเตอร์ใหม่

2. กรณีทานอาหารในร้าน หรือใช้บริการบางประเภทในร้านที่อากาศปิดหรือเป็นห้องแอร์ เช่นร้านทำผม ร้านเสริมสวย นอกจากมาตรการลดความแออัดแล้ว ผู้มาใช้บริการต้องแสดงตนว่าได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือ 2 เข็ม จึงเข้ารับบริการได้ โดยนำหลักฐานการได้รับวัคซีนไปแสดงต่อร้านค้าหรือจุดบริการ จะเป็นแอพพลิเคชัน หรือเอกสาร จะต้องชี้แจงเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน

3. ด้านสาธารณสุข ความสะอาดและความเรียบร้อย ภาครัฐจะต้องมีกระบวนการเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือ เช่น อุปกรณ์เจลแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ชุดตรวจ ATK ที่ปัจจุบันยังหากซื้อยากและราคาแพง ซึ่งการปรับปรุงร้านให้ได้มาตรฐานมีต้นทุนสูง แต่ร้านจำนวนมากขาดรายได้มานาน รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการช่วยเหลือในการฟื้นฟูกิจการไม่ว่างบประมาณ องค์ความรู้ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ด้วย

"ยิ่งรัฐบาลบริหารอย่างปล่อยปละละเลยลอยตัวเหนือปัญหามานาน ปัญหาที่ต้องไล่ตามจัดการก็ยิ่งมาก ใช้งบประมาณก็ยิ่งมาก บุคลากรก็ยิ่งทำงานอย่างเหนื่อยล้าและเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาจะน้อยกว่านี้มากถ้าไม่ใช่รัฐบาลประยุทธ์เป็นผู้บริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเชื่อและฟังพวกเราบ้าง ป่านนี้คงมีวัคซีนหลากหลายให้เลือกและสามารถกระจายลงไปได้มากกว่านี้ เราคงเห็นการเยียวยาที่เหมาะสมถ้วนหน้าเพื่อให้สามารถใช้มาตรการปิดช่วงที่ควรปิด และเปิดช่วงที่ควรเปิดได้ ไม่ใช่การบริหารไปตามเสียงด่าอย่างรัฐบาลนี้ทำ และเราคงจะมี ATK เพื่อรุกตรวจได้มากกว่านี้และคงมีการวางระบบ Home Isolation เพื่อรองรับปัญหาภาระผู้ป่วนล้นเกินโรงพยาบาลและระบบสาธารณสุข ลดผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง และลดผู้เสียชีวิตลงได้มากกว่านี้ 

ดังนั้น เมื่อมี มติ ศบค.ชุดใหญ่ให้มีการคลายล็อคมากขึ้นแล้ว ก็อยากฝากข้อเสนอ 3 ข้อ ที่ดิฉันเสนอแนะไปด้วย แม้ว่าจะเป็นเพียงมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อประคับประคองสถานการณ์ที่ท่านก่อไว้ก็ตาม แต่แนวทางนี้อย่างน้อยก็จะช่วยชะลอการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ในวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ได้ลดลงจนถึงระดับที่วางใจ แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า กิจการห้างร้านก็ลำบากกันมากจริงๆ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผ่อนคลายให้พวกเขาลืมตาอ้างปากได้ แม้จะมีข้อจำกัดอยู่มาก แต่หากรัฐช่วยเหลือเต็มที่ เชื่อว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมเป็นอย่างดี จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ให้รัฐบาลไตร่ตรองอย่างรอบด้านไม่ว่าจะขยับมาตรการอะไรออกมาเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในประเทศนี้เดินไปพร้อมกับการรักษาเศรษฐกิจได้ "

IWRM ผู้ประกอบการธุรกิจน้ำ เพื่อการอุตสาหกรรม และอุปโภค บริโภค จัดกิจกรรมมอบน้ำดื่ม 3,600 ขวด ให้กับ  "สถาบันราชประชาสมาสัย" และ "ชุมชนปู่เจ้า"

ณ สถาบันราชประชาสมาสัย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ “ดร.นิยม ไกรปุย”รองผู้อำนวยการสถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติรับมอบน้ำดื่ม จำนวน 2,400 ขวด และ "นางสาวทัศนี ศรศิริ" ผู้นำจิตอาสา จำนวน 1,200 ขวด รวมเป็นทั้งสิ้น 3,600 ขวด จาก "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์ " เจ้าของสถานประกอบการธุรกิจน้ำ "IWRM" โดย "นายศราวุฒิ​ เปลี่ยนอารมย์ "


ผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการ​และ "นายวิเชษฐ์ เกตุแก้ว" ผู้ประสานงานพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีชี), เป็นผู้แทนมอบน้ำดื่ม ซึ่งกิจกรรมที่ดีในครั้งนี้ “นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษา "นายมานะ  โลหะวณิชย์" ประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย “นายโกสินธ์ จินาอ่อน” บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ที่ปรึกษา”สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชร" ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (น.ส.พ.สยามโฟกัสไทม์)เป็นสะพานบุญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงคนพิการ ครอบครัวคนพิการ ที่ป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และรักษาตัวอยู่ใน “สถาบันราชประชาสมาสัย” อีกทั้งยังเป็นการตอบแทนน้ำใจ ความเสียสละแรงกาย แรงใจ เวลาอันมีค่ามาดูแลรักษาพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ ให้รอดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ “ดร.นิยม ไกรปุย”รองผู้อำนวยการสถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้พา "คณะผู้ใจบุญ" ขึ้นเยี่ยมชมห้องประชุม และหอแสดงนิทรรศการประวัติเกี่ยวกับ"สถาบันราชประชาสมาสัย" ที่ได้รับพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ ทรงพระเมตตาดูแลทุกข์ ดูแลสุขของพสกนิกรชาวไทย และให้คงไว้ในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย สืบไป

ป.ป.ช.​ สั่ง จทน.ตรวจสอบทรัพย์สิน ผกก.โจ้ -ส่วนปม กระทำผิดต่อหน้าที่ รอ สตช. ดำเนินคดีแล้วเสร็จ ก่อนส่งมาให้ป.ป.ช.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ (ป.ป.ช.)​ ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.  เปิดเผยว่า​ ที่ประชุมคณะกรรมการ​ ป.ป.ช.เมื่อวันที่​ 26​ ส.ค.ได้รับทราบรายงานการตรวจสอบเรื่องของ พ.ต.อ.ฐิติสรรค์ อุทธนผล  หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสววรรค์  หลังก่อเหตุใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดย ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครสวรรค์ได้รายการการตรวจสอบ ว่าเป็นเรื่องการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามมาตรา  61 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. ประกอบกับขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ทาง ป.ป.ช.จึงได้ชะลอการดำเนินการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไว้ เพื่อรอการดำเนินคดีเสร็จสิ้น ทั้งนี้​ ทาง สตช.จะต้องส่งเรื่องนี้มาให้ ป.ป.ช.ดำเนินการภายใน 30 วัน  เบื้องต้นได้มีการประสานกับทาง สตช. ไว้แล้ว 

เมื่อถามถึงเรื่องทรัพย์สินของ​ พ.ต.อ.ฐิติสรรค์​ ที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้าน   ทั้งบ้าน และรถหรูมากมาย แบบนี้ป.ป.ช.สามารถตรวจสอบกรณีร่ำรวยผิดปกติได้หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า หลังปรากฎเป็นข่าว ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้สำนักตรวจทรัพย์สิน ของสำนักงาน ป.ป.ช.ไปดำเนินการประมวลข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นทันที ดูที่มาของทรัพย์สิน เพื่อดูว่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่  โดยป.ป.ช.จะเร่งดำเนินการเนื่องจากมีกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน 

เมื่อถามว่าตามกระแสข่าวระบุว่ามีการฝากเงินไว้กับนอมินีหลัก 200 ล้านบาท ป.ป.ช.จะตรวจสอบลงลึกไปถึงขั้นนั้นหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ถ้ามีการยกเป็นเรื่องไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติแล้ว ก็จะต้องตรวจสอบทุกเรื่อง ซึ่งจะต้องขอให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปที่สามารถชี้ช่องเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินของ พ.ต.อ.ฐิติสรรค์ สามารถส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ได้ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่าหาก ป.ป.ช.สามารถส่งเรื่องร้องขอให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ก็จะมีเงินรางวัลให้กับผู้ชี้ช่องเบาะแสด้วย

‘ฟู้ดเดลิเวอรี่’ ส่อวุ่นหนักหลังรัฐบีบลดค่า GP หลายฝ่ายประสานเสียงไร้ประโยชน์ซ้ำกระทบวงกว้าง

หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานำสู่การจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการจัดเก็บค่าส่วนแบ่งการขาย (ค่า GP) ที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มส่งอาหาร (ฟู้ดเดลิเวอรี่) เรียกเก็บจากร้านอาหารที่เข้าร่วมในแอปพลิเคชันในอัตรา 30-35% อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมและเหมาะสม โดยจะเร่งพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็วนั้น แหล่งข่าววงในจากวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ เผยว่า หากมีการควบคุมหรือกดดันให้ปรับลดค่า GP ลงจริง จะส่งผลกระทบต่อพนักงานส่งอาหาร (ไรเดอร์) และผู้บริโภค 

เนื่องจากผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ทุกเจ้ายังคงขาดทุน จากการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งด้านเทคโนโลยี การตลาดและการทำโปรโมชั่น หากภาครัฐปรับลดค่า GP ทางผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคงต้องหาทางลดต้นทุน เพราะไม่สามารถแบกรับปัญหาขาดทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดค่าตอบแทนหรือค่ารอบของคนขับ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 25-50% หรือการปรับขึ้นราคารองรับค่าแรงไรเดอร์ และต้นทุนต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ไลน์แมน วงใน กล่าวว่า คงต้องรอดูท่าทีของภาครัฐว่าจะมีนโยบายเรื่อง GP อย่างไร หากบังคับให้ลดค่าGP ก็มีโอกาสจะทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าขนส่งเพิ่มขึ้นส่วนตัวอยากให้ภาครัฐได้ดูโมเดลการแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกันของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ขอให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ช่วยลดค่า GP ลงมา และจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนต่างที่หายไปจากค่า GP ให้แพลตฟอร์มซึ่งเป็นวิธีที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ทั่วกันไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ลูกค้า ไรเดอร์ หรือแพลตฟอร์ม

ส่วนผู้บริหาร Food panda เสริมว่า ที่ผ่านมา บริษัทและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่น ๆ เคยให้ความร่วมมือกับภาครัฐปรับลดค่า GP ชั่วคราวมาแล้ว แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะยอดขายและรายได้ของร้านอาหารลดลง เนื่องจากค่า GP ถือเป็นต้นทุนการดำเนินงานในการทำโปรโมชั่นและการโปรโมทร้านค้า เมื่อถูกลดค่า GP การส่งเสริมการขายต่าง ๆ จึงถูกตัดทิ้งไป ขณะที่ไรเดอร์เองก็มีรายได้ลดลงเพราะจำนวนคำสั่งซื้อมีน้อยลง ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ไม่ได้รับโปรโมชั่นดี ๆ อย่างที่เคยได้รับ

ด้านตัวแทนไรเดอร์ นายอรรถพล คล้ายเอ็ม หนึ่งในแกนนำ “กลุ่ม Grab เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน” กล่าวว่า การลดค่า GP นอกจากจะกระทบคนขับโดยตรงแล้ว ยังส่งผลถึงผู้ใช้บริการและภาพรวมธุรกิจอาหารด้วย เพราะถ้ารายได้ของแพลตฟอร์มหายไปจากการลดค่า GP บริษัทก็ต้องมาลดค่ารอบคนขับ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนขับที่ได้รับผลกระทบรวมตัวกันออกไปแสดงพลังให้ภาครัฐได้รับรู้ถึงปัญหา และถ้าไม่มีทางออกที่ดีหรือรายได้ของคนขับไม่คุ้มค่า คงต้องมีคนขับจำนวนไม่น้อยหยุดให้บริการและหันไปทำอาชีพอื่นและจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในที่สุด เพราะเมื่อมีคนส่งอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรอนานหรืออาจจะไม่มีคนให้บริการเลยในช่วงโควิดฯ

ด้าน นายธนากร พลอยแสง แอดมินเพจ “กูขับ LINEMAN RIDER” กล่าวว่า ตนและสมาชิกในกลุ่มฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดปรับลดค่า GP เพราะท้ายที่สุดย่อมมีผลกระทบมาถึงกลุ่มไรเดอร์ โดยเฉพาะอาจถูกปรับลดค่ารอบและหากคำสั่งของภาครัฐมีผลบังคับใช้ครอบคลุมไปทั่วประเทศจะทำให้ไรเดอร์ในต่างจังหวัดที่ได้รับค่ารอบต่ำกว่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่กันอย่างยากลำบาก 

ทั้งนี้ ผลจากโควิด-19 และนโยบายล็อกดาวน์ของรัฐบาล จึงมีคนจำนวนมากหันมาประกอบอาชีพไรเดอร์ ทำให้ไรเดอร์เดิมถูกแย่งงานจนรายได้ต่อวันลดลงไปมาก หากมีการปรับค่า GP จนไรเดอร์ต้องถูกลดค่ารอบอีกเชื่อว่าจะต้องมีไรเดอร์จำนวนมากออกมาประท้วงแน่นอน

ด้าน นางสาวกีรตยา กำลังมาก เจ้าหน้าที่สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย หนึ่งในตัวแทนผู้บริโภคที่ใช้บริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ กล่าวว่าค่า GP ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสั่งซื้ออาหารของมากนัก เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาจากโปรโมชั่น เช่น ส่วนลดค่าอาหารหรือส่วนลดค่าส่ง เป็นหลัก โดยปกติตนจะเลือกสั่งอาหารจากร้านที่มีราคาถูกที่สุดอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐจะปรับลดค่า GP เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและยังอาจสร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ไรเดอร์หยุดให้บริการหรือเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน ทำให้ต้องรออาหารนานขึ้น หรืออาจต้องเสียค่าบริการเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไรเดอร์จัดส่งอาหารให้เร็วขึ้น


https://www.naewna.com/business/597830


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พล.อ.ประวิตร  แสดงความยินดี "สายสุนีย์ คว้าเหรียญทองแดง" พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ประเทศญี่ปุ่น  ประชุม กกท. กำชับสมาคม ดูแลนักกีฬาให้ดีที่สุด  เห็นชอบ ยุทธศาสตร์กีฬา ปี65-70 เน้นใช้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ พัฒนาศักยภาพนักกีฬา

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ครั้งที่ 7/2564  ผ่านระบบ Video Conference

ที่ประชุม กกท.ได้รับทราบ สรุปผลการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (23 ก.ค.-8 ส.ค.64) ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีนักกีฬาทีมชาติไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 16 ชนิดกีฬา 15 สมาคมกีฬา รวม 41คน ผลการแข่งขันนักกีฬาทีมชาติไทยได้ 1 เหรียญทอง จากกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง คือเรืออากาศตรี หญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และได้ 1 เหรียญทองแดงจากกีฬามวยสากลสมัครเล่น รุ่น 57-60 กก.หญิง คือนางสาว สุดาพร สีสอนดี โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 59 ของโลก อันดับที่ 12 ของเอเชียและอันดับที่ 3 ของอาเซียน  จากนั้นที่ประชุมได้มีการพิจารณา เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2565-2570 เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการประเมินผล รัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Assessment  Model : SE-AM) และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร  ซึ่งพล.อ.ประวิตร  ได้กำชับให้ กกท. เน้นย้ำการใช้ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาให้เต็มที่ด้วย  รวมทั้งได้มีการเห็นชอบ ข้อบังคับ กกท. ว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์ เพื่อให้เป็นสวัสดิการ ช่วยเหลือพนักงาน ลูกจ้างและครอบครัว ให้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม และแสดงความยินดีกับ "สายสุนีย์ จ๊ะนะ" นักกีฬาทีมชาติไทย ประเภทวีลแชร์ฟันดาบหญิง ที่สามารถคว้ารางวัลเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด  ซึ่ง "สายสุนีย์ "ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจแข่งขันอย่างเต็มความสามารถ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และคนไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ  สำหรับ กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่กำลังแข่งขัน อยู่ขณะนี้ (24ส.ค.-9ก.ย.64) ขอให้ กกท.และสมาคมฯ ได้ดูแลนักกีฬาคนพิการ และเจ้าหน้าที่ อย่างดีที่สุด และขอส่งกำลังใจ ให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศ ร่วมส่งแรงเชียร์ นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ต่อไป

เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีใกล้ประตูสนามบินคาบูล ดับ 13 ทหารสหรัฐฯ บาดเจ็บ “เครื่องบินรบทหารอิตาลี” ถูกยิงระหว่างขึ้นเทคออฟ

เอพี/เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – เกิดระเบิดบริเวณหนึ่งในประตูทางเข้าสนามบินฮามิดการ์ไซที่กำลังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต้องการอพยพออกจากอัฟกานิสถานช่วงบ่าย เชื่อว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย พยานในเหตุการณ์ระบุมีบาดเจ็บและเสียชีวิต พบมีเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ รวมอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเครื่องบินทหารอิตาลีถูกมือลึกลับยิงใส่ระหว่างกำลังเดินทางออกจากสนามบิน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รายงานสรุปการระเบิดที่สนามบินแล้ว

เอพีรายงานวันนี้ (26 ส.ค) ว่า เกิดระเบิดดังขึ้นใกล้กับสนามบินท่าอากาศยานฮามิดการ์ไซในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (26 ส.ค) ตามเวลาท้องถิ่นอัฟกานิสถานอ้างอิงจากโฆษกกระทรวงเพนตากอน จอห์น เคอร์บี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้ตัวเลขบาดเจ็บเสียชีวิต แต่ทว่าพยานในเหตุการณ์กล่าวว่า ดูเหมือนมีจำนวนไม่กี่คนจะเสียชีวิตหรือบาดเจ็บหลังระเบิดและเชื่อว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย

เจ้าหน้าที่เพนทากอนยืนยันกับเอพีถึงเหตุระเบิดแต่ยังไม่ยอมกล่าวถึงตัวเลขการสูญเสีย แต่ทว่า CNN รายงานด่วนเข้ามาว่า ในรายงานเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ รวมอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บ ส่วนรอยเตอร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตอลิบานชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 คนรวมเด็ก และเจ้าหน้าที่การ์ดของตอลิบานจำนวนมากบาดเจ็บเช่นกัน เอพีเปิดเผยว่ามีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 15 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน

ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถานแถลงว่า มีระเบิดครั้งร้ายแรงเกิดขึ้นและตามมาด้วยเสียงปืนต่อสู้ พร้อมเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ห้ามเดินทางมาที่สนามบินฮามิดกาไซเด็ดขาด

อดัม ข่าน (Adam Khan) พยานในเหตุการณ์ที่กำลังรออยู่ด้านนอกของสนามบินเปิดเผยว่า ระเบิดเกิดขึ้นในฝูงคนที่กำลังรอเพื่อจะได้เข้าไปด้านใน โดยเขายืนอยู่ห่างออกไปราว 30 เมตรมีคนไม่กี่คนดูเหมือนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรวมไปถึงคนที่สูญเสียอวัยวะ

CNN รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้รับรายงานสรุปเกี่ยวกับการระเบิดที่สนามบินคาบูล สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ยังมีทหารสหรัฐฯ ยังคงทำงานอยู่ด้านในสำหรับช่วยเหลือการอพยพ และล่าสุดรายงานว่า มีการเกิดระเบิดครั้งที่ 2 ใกล้โรงแรมบารอนที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบิน

นิสวีกรายงานว่า เครื่องบินกองทัพอิตาลีถูกยิงระหว่างกำลังจะขึ้นบินจากสนามบินคาบูล ไม่พบว่าตัวเครื่องบินได้รับเสียหาย โดยเครื่องบินลำเลียง C-130 นั้นอพยพชาวอัฟกันจำนวน 100 คนออกไป ขณะที่กำลังเทคออฟกลับถูกโจมตีด้วยการยิงออกมาจากสนามบินแต่ไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใดหรือเหตุผลของการยิง


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000084521


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่”ประชุม .ศบค. เตรียมคลายล็อก ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ 50% ของจำนวนที่นั่ง ห้าง-เสริมสวย-นวดฝ่าเท้า-สวนสาธารณะ คงเวลาเคอร์ฟิวส์  ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ยังขอความร่วมมือเท่าที่จำเป็น คงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)  29 จังหวัดเช

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 13/2564 ผ่านระบบ Video Conference เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ตามที่ ศบค.วงเล็ก เสนอ  โดยจะมีการพิจารณามาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ประกอบด้วย 

1.ร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือ เปิดแอร์อนุญาตนั่งรับประทานในร้านได้คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งในร้าน 2.ร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือไม่เปิดแอร์ ให้นั่งได้ 75  เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนที่นั่งในร้าน  ทั้งนี้ การเปิดให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้าน โดยจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ที่ประชุมเห็นว่า เนื่องจากยังมีประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงต้องนำไปหารือในที่ประชุมใหญ่ศบค.ใหญ่อีกครั้ง

นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึงเวลา 20.00 น. โดยผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว และจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK  เป็นระยะและมีมาตรการเข้มผู้เข้าใช้บริการ

ขณะที่ร้านเสริมสวย หรือตัดผม  ร้านนวด เปิดได้ตามปกติ แต่นวดได้เฉพาะฝ่าเท้า นอกจากนี้สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ยกเว้นฟิตเนส และอาคารในสถานศึกษา เปิดได้ตามปกติ แต่ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณา 

โดย ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบจำนวนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)  29 จังหวัดเช่นเดิม แต่ใช้มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล Univerasal Prevention  และเห็นชอบการรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เดิมกำหนดไม่เกิน 5 คน ขยายเป็น 25 คน

สำหรับ Universal Prevention หรือการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ประกอบด้วย

1. ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น

2. ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จำเป็น (น้อยครั้งและใช้
เวลาสั้นที่สุด)

3. เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่

4. สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน

5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น

6. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอจาม หรือสัมผัสวัตถุ/สิ่งของ ที่ใช้ร่วมกัน

7. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ

8. แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น

9. เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุกสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสำรับ หากทานร่วมกันให้ใช้ซ้อนกลางส่วนตัว

10. หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ที่อาจติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK เพื่อยืนยันว่ามี
การติดเชื้อหรือไม่ หรือไปรับการตร ม.บ.

นอกจากนี้ จะเปิดบริการรถสาธารณะ โดยต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 75 และคนขับรถจะต้องได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม และเปิดให้เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือผลตรวจโควิด-19 ด้วย

ขณะเดียวกัน ยังผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ สำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นเท่านั้น แต่ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีความจำเป็น  และยังห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นยังคงอยู่ โดยมาตรการผ่อนคลายต่างๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

ค้าชายแดน-ผ่านแดนรุ่ง ต่อเนื่อง! จุรินทร์ "ดันส่งออก" เดือน ก.ค. ทะลุ 90,101 ล้านบาท +41.70% 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ แถลงข่าวการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนของไทยเดือน กรกฎาคม 2564 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ช้ัน 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวแลขการค้าชายแดนผ่านแดน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออก ผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งมี 7 ประเทศ และการส่งออกผ่านการค้าชายแดนมี 4 ประเทศ คือมาเลเซีย เมียนมา ลาวและกัมพูชา ส่วนการส่งออกผ่านการค้าผ่านแดน คือ จีนเวียดนามและสิงคโปร์ รวมแล้วเป็น 7 ประเทศ โดยตัวเลขการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นบวกทุกตลาดทั้ง 7 ประเทศ โดยประเทศที่เป็นบวกสูงสุดคือจีน  +126.44% สินค้าส่งออกผ่านแดนไปจีนที่บวกมากที่สุดคือผลไม้สดและผลไม้แห้ง +348% มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนมีมูลค่า 10,600 ล้านบาท มังคุด 4,700 ล้านบาท และลำไย 370 ล้านบาท เป็นต้น ตัวเลขภาพรวมการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนรวมกันในเดือนกรกฎาคม 2564 มีมูลค่า 90,101 ล้านบาทเป็น +41.70% และภาพรวมการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดน 7 เดือนรวม 591,051 ล้านบาทเป็น +37.88% สำหรับการส่งออกผ่านการค้าชายแดน 4 ประเทศรวมกันมีมูลค่า 40,416 ล้านบาท +10.55% การส่งออกผ่านการค้าผ่านแดนใน 3 ประเทศที่เหลือคือ จีน เวียดนามและสิงคโปร์รวมกันมีมูลค่า 49,685 ล้านบาท +83.84%โดยมาเลเซีย +17.95% เมียนมา +10.65% สปป.ลาว +8.08% กัมพูชา +5.12% จีน +126.64% เวียดนาม +1.63% และสิงคโปร์ +59.85%

" ปัจจัยที่ส่งผลให้เป็นบวกถึง 41.70% คือ  1.การทำงานร่วมกันอย่างหนักและต่อเนื่องของกรอ.พาณิชย์ที่ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน ที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือการเร่งเปิดจุดผ่านแดน ด่านทั้งหมดมี 97 ด่าน สามารถเปิดแล้วถึง 44 ด่าน จากปิดตัวไปเยอะตอนเจอโควิดใหม่ๆ 2.การจับมือกับเอกชนแก้ปัญหาทันทีเชิงรุกทั้งด่านรอบบ้านเราและด่านการค้าผ่านแดน เช่น ที่ด่านใหญ่สุดที่เราแก้ปัญหาก่อนเข้าจีนคือด่านโหย่วอี้กวน การส่งออกทุเรียน มังคุดแก้ไขหน้างานได้ทันทีเกือบทุกครั้ง นอกจากนั้นประสานทางการจีนโดยทูตพาณิชย์และทูตเกษตรฯ การช่วยเพิ่มช่องทางที่ด่านตงซิงช่วยให้ระบบการขนส่งผลไม้ของไทยคล่องตัวขึ้น และบางช่วงมีข่าวจีนจะระงับการนำเข้าผลไม้ไทย เช่น จะระงับการนำเข้าทุเรียนเพราะตรวจพบโควิดในตลาดจีนสุดท้ายผ่านการเจรจาของทูตพาณิชย์และทูตเกษตรฯของเรา จีนยกเลิกความคิดที่จะระงับการนำเข้าทุเรียนไทย ลำไยแม้ปรากฏข่าวว่าเจอเพลี้ยแป้ง จากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรฯปัจจุบันจีนไม่ได้ระงับการนำเข้าและทั้งทุเรียน ลำไย 3.กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายช่วยต่อลมหายใจให้กับ SMEs ส่งออกซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำตัวเลขการส่งออกสินค้าข้ามแดนและชายแดนคือโครงการ “จับคู่กู้เงิน”สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยวันที่ 26 สิงหาคม EXIM Bank อนุมัติเงินกู้เงื่อนไขพิเศษให้ SMEs ส่งออกแล้ว 151 รายเป็นเงิน 618 ล้านบาท ช่วยให้เกิดสภาพคล่องในการทำตัวเลขส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนเพิ่มขึ้น 4.การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และความต้องการสินค้าบางประเภทเพิ่มขึ้นเช่น สินค้า Work from Home 5.ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงโดยเฉลี่ย 10% ช่วยให้เราสามารถแข่งขันในตลาดเพื่อนบ้านหรือตลาดจีนได้ดีขึ้น " นายจุรินทร์ 

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบที่เป็นตัวถ่วงตัวเลขการค้าชายแดนเช่นสถานการณ์โควิดซึ่งมาเลเซียเข้มงวดการนำเข้าสินค้าชายแดนผ่านไทยเพราะต้องควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำยางและส่งผลต่อราคาน้ำยางในประเทศไทยอย่างไรก็ตามยางก้อนถ้วยยังราคาดีมากและดีกว่าหลายยุคที่ผ่านมา เพราะ 3-5 ปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 15 บาท แต่วันนี้ 24 บาทราคาอาจหย่อนลงไปบ้างและระบบการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งข้ามจังหวัดที่มีอุปสรรคตอนข้ามจังหวัดบ้างและระบบการขนส่งข้ามประเทศที่ต้องแก้ปัญหาหน้างานตลอดทั้งจากไทยไปลาว ลาวไปเวียดนาม เป็นต้น หรือรวมทั้งข้ามฝั่งไปเมียนมาเพราะสถานการณ์การเมืองในเมียนมาเป็นปัจจัยตัวที่ทำให้การค้าชายแดนไม่คล่องตัวอย่างในภาวะปกติ

สำหรับด่านที่จะเร่งรัดเปิดต่อไปหลังจากเปิด 44 จาก 97 ด่าน 1.ตนมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเจรจากับจับมือกับเอกชนและจังหวัด ขณะนี้คืบหน้าใน 5 จังหวัดคือ เชียงราย เลย หนองคาย นครพนมและมุกดาหาร วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้มีการประชุม 3 ฝ่ายมีข้อสรุปว่าจะทำแผนในการเปิดด่านกับฝั่งลาว เกือบเสร็จแล้วใน 5 จังหวัด 2.ด่านปากแซง นาตาล ที่อุบลราชธานี ที่ตนไปดูด่านด้วยตนเองประสานจังหวัดจัดงบประมาณทำทางลาดลงไป มีความคืบหน้าในการเจรจาอยู่ในขั้นตอนรายละเอียด คาดว่าน่าจะเป็นด่านแรกๆที่จะสามารถเปิดด่านได้ 3.ที่นราธิวาส ด่านตากใบ กับบูเก๊ะตาจะเร่งรัดต่อไปตนได้มอบอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศใช้โมเดลเดียวกับด่านชายแดนลาวประชุม 3 ฝ่ายคาดว่าสัปดาห์หน้าจะประชุมได้ เมื่อได้แผนเปิดงานแล้วจะเจรจากับมาเลเซียต่อไป ซึ่งต้องคุยทั้ง 3 ฝ่ายเศรษฐกิจโควิดและความมั่นคง ต้องคุยด้วยกันถึงจะเปิดด่านได้ เป้าหมายปี 64 ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านได้ตั้งเป้าว่าจะ +3-6% แต่ตอนนี้เกินเป้าแล้วเพราะตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2564 ตัวเลขเป็นบวกแล้ว 37.88%

ด้าน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญไปยังประเทศมาเลเซีย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยางพารา ประเทศกัมพูชา สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สำหรับ สปป.ลาว สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซลน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆและรถยนต์นั่ง ประเทศเมียนมา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

ประมง -เจ้าท่า ไฟเขียวลดขั้นตอนยื่นขอใบอนุญาตใช้เรือ

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง และกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางในการดำเนินการเพื่อลดขั้นตอนการขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอออกใบอนุญาตใช้เรือประมง โดยปรับเปลี่ยนขั้นตอนใหม่ให้ชาวประมงสามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ ณ หน่วยงานกรมเจ้าท่าเพียงจุดเดียว เมื่อกรมเจ้าท่าได้รับคำร้องแล้วจะจัดส่งข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของทั้ง 2 หน่วยงานโดยอัตโนมัติ ภายใต้กรอบการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพเช่นเดิม ล่าสุดอยู่ระหว่างการร่วมกันพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถรองรับหลักการตามที่ได้เห็นชอบร่วมกัน คาดว่าจะเปิดใช้ระบบได้ช่วงต้นเดือนต.ค. นี้ 

ทั้งนี้ในการประชุมโครงการอบรมสัมมนาอาสาสมัครป้องกันปราบปรามประมงผิดกฎหมาย แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับซึ่งจัดโดยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.) ชาวประมง ได้เสนอให้กรมประมงลดขั้นตอนในการขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอรับใบอนุญาตใช้เรือประมง เนื่องจากมีขั้นตอนในการดำเนินการหลายขั้นตอน และต้องใช้ระยะเวลานานทำให้เกิดความล่าช้า และมีข้อเสนอแนะให้ภาครัฐมีหน่วยงานกลางที่สามารถรับคำร้องและคำขออนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำการประมงได้ในจุดเดียว และขอให้ลดจำนวนเอกสารที่ซ้ำซ้อนโดยพิจารณาเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาการขอรับหนังสือรับรองเพื่อประกอบการยื่นขอออกใบอนุญาตใช้เรือประมงนั้น เดิมกำหนดให้ชาวประมงต้องมายื่นคำขอกับกรมประมงเมื่อได้หนังสือรับรองแล้วก็นำไปยื่นขอต่อใบอนุญาตใช้เรือกับกรมเจ้าท่าส่งผลให้ ชาวประมงจะต้องติดต่อไปมาระหว่าง 2 หน่วยงานเกิดความยุ่งยาก และสร้างภาระแก่ชาวประมง โดยได้ข้อยุติร่วมกันในการลดภาระของชาวประมง ซึ่งมีเรือจำนวนกว่า 60,000 ลำในปัจจุบัน

“หากเริ่มดำเนินการใช้ระบบฯ จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก และกรมประมงยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับลดขั้นตอนในกระบวนงานอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ชาวประมงต่อไป นอกจากนี้ วิธีการที่ปรับเปลี่ยน ยังเป็นวิธีที่สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ที่ต้องลดการเคลื่อนที่ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้ออีกด้วย”

'ผู้กำกับโจ้' เผย ลูกน้องไม่เกี่ยว ยอมรับผิดคนเดียว ลั่น เครียดจนคิดอยากฆ่าตัวตายก่อนเข้ามอบตัว

ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงปิดคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกทรมานผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดจนเสียชีวิต

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้กำกับโจ้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวทางโฟนอิน โดยผู้กำกับโจ้ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ทำงานมา ไม่เคยซ้อมทรมานผู้ต้องหา นี่เป็นกรณีแรก และเป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว

"กราบขอโทษประชาชน ผมตั้งใจทำงานจริง ๆ แต่มันพลาดไป ต้องกราบขอโทษพ่อแม่น้อง ขอโทษผบ.ตร.และตำรวจทุกคน ผมผิดเองต้องขอโทษทุกคนครับ"

ผู้กำกับโจ้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าตอนที่เกิดเหตุรู้สึกช็อก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้

พร้อมกันนี้ผู้กำกับโจ้ยืนยันว่าไมได้ให้เงินพ่อผู้ต้องหาที่เสียชีวิต แค่ช่วยงานศพไป 30,000 บาท

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว ด้าน พล.ต.ต. เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ได้เปิดเผยว่า ก่อนผู้กำกับโจ้เข้ามอบตัว ได้โทรศัพท์หาตน บอกไม่ไหวแล้ว จะฆ่าตัวตาย ซึ่งตนตอบกลับไปว่า... 

"ตายแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเหลืออะไร เป็นตำรวจต้องมีเกียรติ ผิดก็ต้องยอมรับผิด จากนั้นเขาก็บอกให้ผมไปรับเขาที่ชลบุรี ผมก็แต่งเครื่องแบบไปรอเขาที่ที่หน้าสภ.แสนสุข รออยู่ประมาณ 15 นาที เขาก็นั่งรถยนต์มาพบผม จากนั้นผมก็เข้าไปลงบันทึกในสภ.แสนสุข และรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ" รองผบช.ภ .6 กล่าว


ที่มา: https://siamrath.co.th/n/275150
https://siamrath.co.th/n/275151


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top