Saturday, 5 July 2025
Hard News Team

กนอ. ตั้งนิคมฯ ‘ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้’ เล็งดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มในพื้นที่อีอีซี

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จับมือ บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เม็ดเงินพัฒนาโครงการ 4,856 ล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในขณะนี้มีสัญญาณบวกชัดเจนขึ้น เห็นได้จากหลายอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดี ประกอบกับมีความสนใจการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมองว่าประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และเหมาะกับการตั้งฐานธุรกิจในระยะยาว เห็นได้จากการย้ายฐานการผลิตที่เป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ (จีน-สหรัฐฯ) ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการจากจีนและไต้หวัน ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาย้ายฐานเข้ามาแล้ว 250 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 126,000 ล้านบาท (ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ) 

ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและเตรียมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development : EEC) กนอ.จึงลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงาน กับ บริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ S-Curve และ New S-Curve ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นการดำเนินงานในรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานที่เอกชนเป็น ผู้ลงทุนพัฒนา และให้บริการระบบสาธารณูปโภค จัดเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 67 โดยใช้ระยะเวลาพัฒนาโครงการประมาณ 2 ปี และจะเปิดขายพื้นที่/ให้เช่าพื้นที่ทั้งหมดได้ภายใน 4 ปี   

‘โบว์’ ค้าน!! แก้ กม.หมิ่นประมาท เหลือแค่โทษปรับเงิน ส่งเสริมคนใช้เงินแก้ปัญหา ให้ร้ายใครก็ได้ ไม่หวั่นคุก

‘โบว์’ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา – Nuttaa Mahattana’ ว่า…

เห็นว่ามีแนวคิดอยากแก้กฎหมายหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาให้เหลือแต่โทษปรับ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยค่ะ

การหมิ่นประมาท คือ การใส่ความให้ผู้เสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เป็นการกระทำโดยจงใจที่มีการวางแผนล่วงหน้าและอาจถึงขั้นทำลายอนาคตผู้อื่นได้ 

'นายกฯ' ห่วงเกษตรกร อนุมัติเงิน 2.7 หมื่นลบ. ประกันราคา ‘มันสำปะหลัง-ข้าว/ข้าวโพด’

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรี สั่งให้มีการแก้ไขปัญหาปุ๋ยราคาแพงอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งราคาปุ๋ยที่มีราคาสูงตั้งแต่ต้นปี มีสาเหตุจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าระวางเรือ และการนำเข้าจากต่างประเทศร้อยเปอร์เซ็นต์ นายกฯ จึงมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน ร่วมพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน รวมถึงการชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรว่ารัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขอยู่

นานธนกร กล่าวว่า นายกฯ ห่วงใยเกษตรกร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ จากสถานการณ์น้ำท่วม ราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร่งด่วน ซึ่งที่ประชุมครม.วันนี้ (25 ต.ค.) มีการอนุมัติกรอบวงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว

‘รอมแพง’ เอาจริง! ไม่มียอมความ เดินหน้าฟ้องผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ ‘พรหมลิขิต’

‘รอมแพง’ แจ้งความดำเนินคดีคนละเมิดลิขสิทธิ์ ‘พรหมลิขิต’ แล้ว งานนี้แฟนคลับแห่ซัพพอร์ตพร้อมบอกว่าให้สู้ๆ และนิยายสนุกมากๆ อีกด้วย

ทำเอาแฟนคลับและคอละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ ในภาค 1 โมโหตามเจ้าของบทประพันธ์ รอมแพง ทันทีหลังพบว่านิยายเรื่อง ‘พรหมลิขิต’ ซึ่งเป็นเสมือนภาค 2 ของบุพเพสันนิวาสที่กำลังดำเนินการถ่ายทำอยู่นั้นมีคนละเมิดลิขสิทธิ์ไป โดยรอมแพงได้ลงรูปเอกสารที่ยืนยันเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญาของนิยายเรื่องนี้ว่าเป็นของเธอในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเล่าผ่านแคปชั่นว่า...

“บิ๊กตู่” สั่งเร่งสำรวจความเสียหายน้ำท่วมพร้อมจัดงบเยียวยา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายฝ่ายปกครอง ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัย หลังหลายพื้นที่น้ำลดลง เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายทางบ้านเรือน ทรัพย์สิน ที่ทำกิน และสัตว์เลี้ยง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และเยียวยาเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไร่-นา ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564

“ผบ.ทร.” สั่งทุกพื้นที่บังคับใช้กม.อย่างจริงจัง สกัดลักลอบเข้าเมือง -สิ่งผิดกม. คาดโทษจนท.เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องฟันไม่เลี้ยง ทั้งวินัย-อาญา /พร้อมย้ำกำลังพล-ครอบครัว ในการใช้สื่อออนไลน์อย่างระมัดระวัง ในการแสดงความคิดเห็นที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.ท. ปกครอง  มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยการประชุมในครั้งนี้ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 โดยได้มีการตรวจ ATK เพื่อทำการคัดกรองผู้เข้าประชุม ก่อนเข้าร่วมการประชุม


 
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีการสั่งการในที่ประชุม ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำที่กองทัพเรือมีหน้าที่รับผิดชอบ ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะการนำแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง การค้ายาเสพติด สินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยเน้นย้ำกำลังพล และครอบครัวเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ การสร้างการรับรู้กรณีเฟคนิวส์ ซี่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการใช้สื่อออนไลน์ในการแสดงความคิดเห็นที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องทำให้สร้างความแตกแยกและขาดความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยเคารพเทิดทูน

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ รอง ผอ.ศรชล.ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดและหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้น

‘ดร.ชัยภัฏ’ ขู่ถอดถอน ผู้บริหารจุฬาฯ ยกแผง หากยังเพิกเฉย ปมยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว

ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล ในฐานะอดีตนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงกรณี องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ออกแถลงการณ์ ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ว่า การยกเลิกโดยอ้างเหตุผลว่าให้คนเท่าเทียมกันนั้น เป็นการโกหก ตลบตะแลง และสร้างความแตกแยก ซึ่งกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวเป็นการแสดงความกตัญญูรำลึกถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในฐานะผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย แต่การที่มายกเลิกกิจกรรม ถือเป็นการเนรคุณบุญคุณพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 คนที่ทำให้คนเท่ากันจริงคือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงเลิกทาส เลิกไพร่ และส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรี คนพวกนี้เหมือนอ่านหนังสือวนไปวนมาไม่เข้าใจ เนรคุณ ใช้คำพูดบิดเบือนสร้างความแตกแยก ทรยศผู้มีพระคุณ ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไร แต่เป็นพวกแหกคอก

ซึ่งทางคณะพิทักษ์เกียรติภูมิจุฬาฯ จะออกแถลงการณ์เรื่องนี้ในไม่ช้า ถึงผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ดำเนินการจัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่ทำผิดซ้ำซาก โดยเฉพาะนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากผู้บริหารจุฬาลงกรณ์ยังนิ่งเฉยไม่ยอมดำเนินการ ตนก็จะหาวิธีการถอดถอนอธิการบดี และนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต่อไป เพราะเมื่อเกิดเรื่องแล้วควรเรียกประชุมด่วนทันที สิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยนายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ต้องการสร้างความแตกแยก แต่มหาวิทยาลัยกลับไม่สนใจดำเนินการ

จีนพบเชื้อระบาดอีกระลอก หลังคุมได้ก่อนหน้า คาดอาจลามใหญ่ในอีกไม่กี่วัน

จากการรายงานของ Bloomberg มีคำเตือนจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนว่า การแพร่ระบาดจะยังคงเลวร้ายลงต่อไป และการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของจีนจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอาจยังคงขยายตัวต่อไป

อู๋เหลียงโหย่ว เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวในการบรรยายสรุปในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ การระบาดของโควิด-19 ในจีนในปัจจุบัน เกิดจากสายพันธุ์เดลตาจากต่างประเทศ

หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมาธิการกล่าวว่าคลื่นของการติดเชื้อแพร่กระจายไปยัง 11 มณฑลตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีประวัติการเดินทางข้ามภูมิภาค และเขาเรียกร้องให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ใช้ ‘โหมดฉุกเฉิน’

เตือนใจนักบุญโอนไว เหยื่อโหนสถาบันฯ ชั้นดี เจอบล็อกกลับ หากถามหา 'ความโปร่งใส'

จากเรื่องดีๆ สุดท้ายดันต้องกลายเป็นการเตือนภัยไปเสียนี่ หลังกลุ่มคนรักสถาบันได้มีการวิจารณ์ถึงบุคคลรายหนึ่ง ที่มักนำเสนอตนเองว่ารักในหลวง ปกป้องสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง จนโกยแม่ยกมาติดกันตรึม ชวนทำบุญเลี้ยงอาหารบุคลากรทางการแพทย์ ขอรับเงินโอนตั้งแต่พัน-สองพันยันหมื่นได้หมด!! 

แต่เหตุเจ้ากรรมดันโป๊ะแตกตรง พอมีคนถามถึงบัญชีกลับบล็อกผู้มีพระคุณเหล่านั้นเสียนี่!! 

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อ 10 ต.ค. 64 ในโซเชียลมีเดีย กลุ่มคนรักสถาบันพระมหากษัตริย์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่มักจะเขียนสเตตัสแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการรับเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนแล้วไม่แจงบัญชีรายรับ-รายจ่าย แต่กลับบล็อกคนที่เคยบริจาคให้ โดยบุคคลรายนี้ไม่ได้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่มีนามแฝงบนเฟซบุ๊ก นามสกุลคล้ายกับดารานักแสดงอาวุโสชื่อดัง มีไลฟ์สไตล์ชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ราคาแพง รักการออกกำลังกายและผจญภัย มักจะเขียนบทความปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์บ่อยครั้ง

บุคคลรายนี้มีชื่อเสียงมาจากคลิปวิดีโอที่อ้างว่าไม่รู้ใครทำ นำเสนอตนเองขี่รถจักรยานยนต์ราคาแพง กล่าวถึงกลุ่มที่ถูกคนบางกลุ่มด้อยค่าว่าสลิ่ม ไม่เดือดร้อนเลยไม่ได้เข้าร่วมม็อบขับไล่รัฐบาล ความจริงคือทุกคนเดือดร้อน แต่ไม่โวยวายเพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์ยึดเหนี่ยวจิตใจ คลิปดังกล่าวมีคนกดไลก์กดแชร์จำนวนมาก สร้างชื่อเสียงให้แก่บุคคลรายนี้ และเจ้าตัวได้เขียนสเตตัสบนเฟซบุ๊กในเชิงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์บ่อยครั้ง ทำให้มีผู้ติดตามและผู้สนับสนุนที่เรียกว่าแม่ยกจำนวนหนึ่ง

เมื่อถึงคราวที่ทำอาหารเพื่อทำบุญให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 ก็จะชวนแม่ยกเหล่านั้นร่วมสมทบทุนค่าอาหาร และแจ้งเลขที่บัญชีธนาคารส่วนตัวที่กล่องข้อความ ซึ่งมีแม่ยกโอนเงินให้บุคคลรายนี้ครั้งละ 1,000-2,000 บาททุกเดือน บางคนโอนให้ 6,000-10,000 บาท เพราะตั้งใจอยากจะช่วยสมทบทุนค่าอาหาร ปรากฏว่าเมื่อมีแม่ยกสอบถามรายรับ-รายจ่ายเพื่อความโปร่งใส ก็ไม่มีการแจกแจงบัญชี กลับบล็อกเฟซบุ๊กคนที่เคยโอนเงินไปให้

'สันติ' จี้ ผู้บริหารจุฬาฯ แสดงจุดยืนให้ชัด ปมเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว งานบอลประเพณี

นายสันติ กีระนันทน์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ข่าวที่เกี่ยวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในช่วงนี้ ที่ทำให้นิสิตเก่าเกิดความไม่พอใจอย่างมากในขณะนี้ ก็คือ ข่าวที่ผม copy มาจาก BBC NEWS ดังต่อไปนี้ครับ

คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ยังระบุด้วยว่า กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว "เป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน" ดังนั้น จากมติในวาระการประชุมสามัญครั้งที่ 1/2564 ของคณะกรรมการบริหารฯ มีมติ 29 : 0 เสียง เห็นควรให้มีการยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ โดยระบุเหตุผล "เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมมิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป"

"ไม่สูญสิ้นอะไรหรอก กิจกรรมนี้พึ่งมีมาไม่กี่ปีนี่เอง และก็แค่หมดสมัยไปแล้วเท่านั้น" นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ระบุบนเฟซบุ๊กของเขา

ความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ไม่อยากจะถกเถียงกับนิสิตปัจจุบัน (ซึ่งก็คงไม่ได้นับเป็นพี่น้องกันแล้ว ในยุคสมัยนี้)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top