Sunday, 15 June 2025
Hard News Team

'สันติ' จี้ ผู้บริหารจุฬาฯ แสดงจุดยืนให้ชัด ปมเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว งานบอลประเพณี

นายสันติ กีระนันทน์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ข่าวที่เกี่ยวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในช่วงนี้ ที่ทำให้นิสิตเก่าเกิดความไม่พอใจอย่างมากในขณะนี้ ก็คือ ข่าวที่ผม copy มาจาก BBC NEWS ดังต่อไปนี้ครับ

คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ยังระบุด้วยว่า กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว "เป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน" ดังนั้น จากมติในวาระการประชุมสามัญครั้งที่ 1/2564 ของคณะกรรมการบริหารฯ มีมติ 29 : 0 เสียง เห็นควรให้มีการยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ โดยระบุเหตุผล "เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมมิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป"

"ไม่สูญสิ้นอะไรหรอก กิจกรรมนี้พึ่งมีมาไม่กี่ปีนี่เอง และก็แค่หมดสมัยไปแล้วเท่านั้น" นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ระบุบนเฟซบุ๊กของเขา

ความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ไม่อยากจะถกเถียงกับนิสิตปัจจุบัน (ซึ่งก็คงไม่ได้นับเป็นพี่น้องกันแล้ว ในยุคสมัยนี้)

"จุรินทร์" แจง ถุงมือยางใช้ซ้ำส่งสหรัฐฯ พบเป็นกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบทำแบบผิดกฎหมาย ระบุ อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีสำนักข่าว CNN รายงานพบถุงมือยางที่ใช้งานแล้วจากประเทศไทยส่งไปยังสหรัฐอเมริกา ว่า เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 จึงมีความต้องการต้องใช้ถุงมือยาง ซึ่งเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง จึงเกิดกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบนำเข้าและส่งออกไปอย่างผิดกฎหมาย หากเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะถุงมือยาง เมื่อใช้แล้ว ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นเท่าที่ทราบข้อมูลมีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งทำผิดกฎหมาย และทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่

เมื่อถามว่า เป็นบริษัทที่ขายถุงมือยางอยู่แล้วหรือเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถตอบได้ ขอไปตรวจสอบข้อมูลดูอีกครั้ง โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการติดตามอยู่ขอเวลาตรวจสอบนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์โดยตรง โดย อย. น่าจะมีส่วนกำกับดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยบางส่วนเ

 

‘อนุทิน’ เผย เร่งระดมฉีดวัคซีน 4 จว.ใต้-เมืองคอน หลังพบยังระบาดหนัก ยันใช้งบจ้างลิซ่า-แอนเดรีย ร่วมงานเคาท์ดาวน์ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

วันที่ 25 ต.ค. 64 เวลา 08.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเปิดประเทศ ที่ขณะนี้ยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 50% ว่า เกิน 50% แล้ว ซึ่งเราตั้งเป้าตามทฤษฎีของระบาดวิทยา คือ 70% ของประชากร แต่หลังจากนั้นยังมีคนต้องการฉีดวัคซีนอยู่ อาจจะมีการจัดวัคซีนฉีดให้คนเหล่านั้น

เมื่อถามถึงพื้นที่ภาคใต้ที่ยังมีการแพร่ระบาดสูงอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า เริ่มจะนิ่งและมีแนวโน้มในทางที่ลดลง เพราะช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้เร่งจัดส่งวัคซีน ลงไป 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นการส่งไปเพื่อควบคุมโรคระบาดให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด และขณะนี้มีการฉีดไปจำนวนมากแล้ว และในสัปดาห์นี้จะเร่งส่งวัคซีนไปยังจังหวัดที่เริ่มมีการระบาดมากขึ้น เช่น นครศรีธรรมราช เพื่อสามารถสร้างภูมิโดยเร็ว ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับที่ส่งไปใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

‘หมอธีระ’ ห่วงเปิดประเทศรับนทท. หวั่นโควิดกลายพันธุ์เล็ดลอดเข้าไทย

‘หมอธีระ’ ห่วงเปิดประเทศเสี่ยงไวรัสกลายพันธุ์เล็ดลอดเข้าไทย เร่งขยายศักยภาพระบบคัดกรองตรวจ ‘RT-PCR’ เตือนประชาชนเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง

25 ต.ค. 64 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 314,526 คน ตายเพิ่ม 4,495 คน รวมแล้วติดไปรวม 244,405,520 คน เสียชีวิตรวม 4,963,326 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี ยูเครน และอเมริกา จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.93 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.86

…สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 9,351 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก หากรวม ATK อีก 4,163 คน จะขึ้นเป็นอันดับ 7 ของโลก และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

…มองไทย อเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ทั้งอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ล้วนอยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศที่ไทยประกาศให้สามารถเดินทางมาได้ตั้งแต่ต้นเดือนหน้า ทุกประเทศข้างต้นล้วนมีจำนวนการติดเชื้อใหม่ต่อวันสูง อยู่ในอันดับท็อปเท็นของโลกเช่นเดียวกับไทย จำนวนติดเชื้อแต่ละวันของเค้าสูงกว่าไทย แต่อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจน้อยกว่าไทย

อัตราการฉีดวัคซีนครบโดสนั้นสูงกว่าไทย แต่หากสังเกตจะพบว่าอเมริกาและสหราชอาณาจักรนั้นฉีดครบไปมากตั้งแต่ 6 เดือนก่อน ในขณะที่เยอรมันก็ใกล้จะครบ 6 เดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจมีระดับภูมิคุ้มกันที่ตกลงไป จนจำเป็นต้องได้เข็มกระตุ้น ส่วนศักยภาพของระบบการตรวจคัดกรองโรคมาตรฐานนั้น ทุกประเทศสามารถทำได้มากกว่าไทยหลายเท่า

‘จุรินทร์’ ฟุ้งปชป.กระแสดีกว่า 2 ปีที่แล้ว ดึงดูดคนแห่มาขอลงสมัครส.ส. ยันผู้สมัครที่เปิดตัวแล้วไม่ใช่หวยล็อก ต้องส่งคกก.สรรหาชี้ขาดควบคู่ก.ม.ใหม่ อ้างเรื่องขัดแย้งมีทุกพรรค  ไม่ปฏิเสธ “ดร.เอ้” สวมเสื้อปชป.ชิงผู้ว่าฯกทม.

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีกระแสความนิยมดีขึ้น ว่า  เราดูจากการลงพื้นที่และการทำงาน เมื่อเทียบกับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น มีเสียงตอบรับในทางที่ดีขึ้น  มีผู้สนใจลงสมัครส.ส.ในนามพรรคฯ มากขึ้น และชักชวนคนให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคฯได้ง่ายขึ้น โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ เรามีผู้สมัครเกือบครบแล้ว และในภาคใต้มีการแย่งกันลงสมัครหลายคน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ความผิดของใคร ส่วนภาคอีสานมีคนรุ่นใหม่และอดีตส.ส.ที่ศักยภาพสนใจเดินเข้ามาในพรรคหลาย และเราได้ทยอยเปิดตัว ทั้งนี้พรรคยินดีต้อนรับทุกคนที่สนใจและพรรคให้เกียรติทุกคน แต่ถ้ามีหลายคน พรรคก็ต้องใช้เกณฑ์กติกาในการพิจารณา ซึ่งสุดท้ายขึ้นอยู่กับมติพรรค  ทั้งนี้ เราเจอมาหลายยุคหลายสมัยที่เวลาพรรคมีกระแสที่ดีขึ้นมากๆ คนจะมาสนใจมากเป็นเงาตามตัว

 เมื่อถามจากการที่พรรคมีกระแสที่ดีขึ้นนั้น คาดว่าจะได้ส.ส.มากขึ้นแค่ไหน  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ไม่คาด แต่เอาเป็นว่าเรามั่นใจว่าเราดีขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา  เพราะผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้พรรคกลับมาตั้งหลักใหม่ในการกำหนดทิศทางเดิม แต่เมื่อมาถึงวันนี้ ตนมั่นใจว่าหลายอย่างเสถียรขึ้น และมีความชัดเจนมากขึ้น คือเน้นการทำงาน และลดการให้ความเห็นทางการเมือง   

ต่อข้อถามว่าขณะเดียวกันคิดว่าจะกรณีเลือดไหลออกจากพรรคอีกหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ขออนุญาตไม่ตอบคำถามนี้ เป็นสภาวะทางการเมืองที่ทุกพรรคต้องมีทั้งนั้น สามารถย้อนดูทุกพรรคได้ที่มีทั้งคนเข้าและคนออก แต่ละพรรคก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันไป  ขณะที่คนเดินเข้ามาก็มีอีกเหตุผลหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดา  เมื่อถามอีกว่าได้มีการทำความเข้าใจในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในการวางตัวผู้สมัครแล้ว หรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ไม่มีอะไรแล้ว และทุกคนเข้าใจกระบวนการ และเราผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก  

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายจุรินทร์ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในหลายเขตแล้ว จะต้องนำรายชื่อคนเหล่านี้ไปเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคฯ ที่มีนายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ เป็นประธาน อีกหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตรงนั้นขึ้นอยู่กับกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายการเลือกตั้งฉบับใหม่ว่าจะกำหนดขั้นตอนและกติกาอย่างไร รวมถึงข้อบังคับพรรคว่าอย่างไร แล้วนำมาผสมกัน ขณะที่ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติไปตามนั้น  

เมื่อถามว่าแสดงว่ารายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เหล่านั้นยังไม่ได้เป็นผลสรุปทางการใช่หรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายและข้อบังคับพรรค  ส่วนจะต้องทำไพรมารีโหวตก่อนหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องดูกฎหมายใหม่ว่าจะยังให้มีไพรมารีโหวตอีกหรือไม่  ถ้ามีก็ต้องทำตามนั้น แต่ถ้าไม่มี พรรคก็มีแนวทางปฏิบัติอีกอย่าง แต่ต้องทำตามกฎหมาย  

เมื่อถามว่ามีสมาชิกพรรคหลายคนสงสัยว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ควรทำไพรมารีโหวตแล้วหรือไม่ เพราะมีการเปิดตัวผู้สมัครก่อนทำตามขั้นตอนดังกล่าว และมีบางอดีตส.ส.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ไม่ทราบเรื่องหรือไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการคัดคน จนเกิดความไม่พอใจ  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  มันอยู่ที่แต่ละกรณี ซึ่งตนไม่ขอพูดรายละเอียด เดี๋ยวจะกลายเป็นการกระทบกระทั่งและเกิดเหตุโดยไม่จำเป็น  ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคมีหลักอยู่แล้ว คือการทำตามกฎหมายและข้อบังคับพรรค โดยต้องรอทำตามกฎหมายใหม่ หากมีการเลือกตั้งหลังจากมีกฎหมายใหม่ออกมา 

ผู้สื่อข่าวว่ารายชื่อบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคจะถูกว่าเป็นหวยล็อกล่วงหน้าหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  มันไม่มีหวยล็อกหรือไม่ล็อก เพราะทุกอย่างต้องยุติที่กฎหมายกำหนด

เมื่อถามว่ากรณีที่มีเสียงสนับสนุนว่านายจุรินทร์มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตนไม่ขอพูดตรงนี้ 

ไทยหนุนข้อเสนอ จัดเก็บภาษีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลของโออีซีดี สกัดบริษัทโอนย้ายกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ(Tax Haven) สร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี เดินหน้าตั้งกรรมการศึกษาผลกระทบ

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการประชุม “The 13th Inclusive Framework on BEPS” และการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาผลกระทบของข้อเสนอการจัดเก็บภาษีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) โดยมีกรอบข้อเสนอแนวทางการจัดเก็บภาษีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 2 แนวทางได้แก่

 Pillar 1 เป็นการกำหนดหลักการการจัดเก็บภาษีตามมาตรฐานสากลด้วยการเก็บภาษีตามสัดส่วนการปันกำไรของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่มายังประเทศแหล่งเงินได้ โดยกำหนดสัดส่วนของกำไรที่จะต้องแบ่งให้ประเทศที่ผู้ใช้งานอยู่ในการจัดเก็บภาษี โดยพิจารณาจุดเกาะเกี่ยวทางเศรษฐกิจจากยอดรายได้จากประเทศแหล่งเงินได้ซึ่งต้องมีรายได้อย่างน้อย 1 ล้านยูโร โดยแบ่งสัดส่วนการจัดเก็บภาษีไปยังประเทศผู้ใช้งานร้อยละ 25 ของส่วนกำไรที่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ และขอบเขตการจัดเก็บภาษีนั้น บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จะต้องมีรายได้รวมมากกว่า 20,000 ล้านยูโรและมีอัตรากำไรมากกว่า ร้อยละ 10  ของรายได้

ทั้งนี้คาดว่า Pillar 1จะสามารถนำข้อเสนอการจัดเก็บภาษีจากการปันกำไร มาบังคับใช้โดยการจัดทำความตกลงแบบพหุภาคี โดยจะเปิดให้ลงนามในปี 2565 และมีผลบังคับใช้ในปี 2566

สำหรับPillar 2 เป็นการกำหนดให้ธุรกิจมีการเสียภาษีขั้นต่ำอยู่ที่ร้อยละ 15  โดยหากมีการเสียภาษีในประเทศที่มีบริษัทในเครือไปทำธุรกิจในอัตราต่ำกว่าอัตราภาษีขั้นต่ำ ประเทศที่บริษัทแม่ตั้งอยู่สามารถเก็บภาษีได้เพิ่มเติมจากส่วนต่างระหว่างอัตราภาษีที่เสียและอัตราภาษีขั้นต่ำ และขอบเขตการจัดเก็บภาษีนั้น บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จะต้องมีรายได้รวมตั้งแต่ 750 ล้านยูโรขึ้นไป 

คาดว่า Pillar 2 จะสามารถนำเสนอร่างกฎหมายที่ให้แต่ละประเทศไปปรับใช้เป็นกฎหมายภายในได้ภายในปี 2565 และมีผลบังคับใช้ภายในปี  2566

ทั้งนี้OECD ได้แจ้งผลการประชุมว่า ณ ปัจจุบัน มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 136 ประเทศ จาก 140 ประเทศ ที่เห็นด้วยหรือไม่คัดค้านต่อกรอบ Revised Inclusive Framework Statement  ซึ่งรวมประเทศไทยด้วย ส่วน 4 ประเทศที่ไม่เห็นด้วยได้แก่ ศรีลังกา ไนจีเรีย เคนยา และ ปากีสถาน

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังระบุว่า ผลของการประชุมดังกล่าว ถือว่าเป็นการปฏิรูประบบภาษีโลกในยุคดิจิทัลที่มีความคืบหน้าและมีนัยสำคัญต่อประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโอนย้ายกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ(Tax Haven) สร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี 

รวมทั้งการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี และเพื่อป้องกันประเทศต่างๆดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ โดยการแข่งขันกันลดอัตราภาษี ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดเก็บภาษีของประเทศไทย นโยบายการค้าและการลงทุนของประเทศ รวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวม ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยต่อผลกระทบของ Pillar 1 และPillar 2 กระทรวงการคลังจะได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาผลกระทบของข้อเสนอการจัดเก็บภาษีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลของOECD

อดีตทูต แนะ!! อยากเท่าเทียม ควรเบรก ‘บอลประเพณี’ แล้วปรับแนวคิดไปร่วมทำกิจกรรมรับใช้สังคมแทน

ไม่นานมานี้ ‘นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล’ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดราม่าเกี่ยวกับยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ว่า...

เอางี้มั้ยครับ ถ้าอยากเน้นความเท่าเทียมกันในสังคม ด้วยการยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ผมว่าเรามองไปที่ต้นตอเลยดีกว่า นั่นคือ เลิกจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬา - มธ. ไปเลยละกัน นี่พยายามช่วยน้องๆ คิดนะครับ 

เพราะอะไร จะสรุปเป็นข้อๆ ละกัน 

1.) การแข่งขันฟุตบอลแต่ละปี เน้นเอาชนะ สร้างอัตตาว่า สถาบันของฉันเก่งกว่าของแก เวลาใครชนะ ใครแพ้ ก็ก่อให้เกิดอารมณ์ ทั้งสะใจ ทั้งประชดประชัน ทั้งเคือง ทั้งน้อยใจ บางทีก็เกิดปะทะกันในระหว่างเล่น บางทีอาจสร้างความแตกแยกแบ่งเขาแบ่งเราเกทับกันมากกว่าสร้างสามัคคีด้วยซ้ำ ยิ่งการแข่งขันในยุคปัจจุบันเน้นเอาชนะมากกว่าทุกสิ่ง ถึงขนาดดึงเอานักเล่นทีมชาติมาสังกัดสถาบันของตัวเอง แทนที่จะใช้ นิสิต นศ. จริงๆ เล่น 

2.) ประหยัดไม่ต้องมาทำเสื้อเชียร์ขาย ไม่ต้องตัดชุดแพงๆ เน้นแฟชั่นทุนนิยมให้บรรดาเชียร์ลีดเดอร์ ไม่ต้องขนคนให้มานั่งตากแดดแปรอักษร 

3.) จะได้ไม่ต้องมีขบวนล้อการเมืองที่มองอะไรแบบเอียงข้าง ด้วยมิติแบนๆ ด่าอีกฝ่าย แต่ไม่แตะอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ทำระยำพอกัน หรือมากกว่า

'เสกสกล' อัด 'ทักษิณ' เศรษฐีขี้โกง แนะจับตา อยากกลับมามีอำนาจ ลบคดีตัวเอง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ออกรายการในคลับเฮ้าส์ โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับรัฐบาล หาว่าแก้ปัญหาแบบกู้มาแจก เหมือนเอาปลามาให้ เอาแต่บอกให้ประชาชนพอเพียง ว่า ช่วงนี้พี่น้องคนอีสานอาจจะต้องทนกับนักการเมืองน้ำเน่าที่สลับหน้ากันลงไปพ่นคำหวานหาเสียง อาทิ นักเรียนนอกพระเอกลิเก - คุณหญิงตกกระป๋อง - มาจนถึงเศรษฐีขี้เหนียวและขี้โกง สังเกตดูคนพวกนี้จะคิดถึงคนอีสานก็ต่อเมื่อหวังผลประโยชน์จากคนอีสาน ต่างจากนายกฯประยุทธ์ ที่ปากไม่หวาน ไม่ได้เรียนจบนอก แต่ตีนติดดิน ลูกย่าโมโคราช คลุกฝุ่นทำงานจริง ลุยแก้วิกฤตร่วมกันกับพี่น้องคนไทยจากของจริง มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ทั่วโลกมีวิกฤตที่ไม่เคยเจอมาก่อน 

“ทักษิณยังหลับหูหลับตาปั่นวาทกรรมดึกดำบรรพ์ หาว่ามีคนดูถูกคนอีสานว่าจนเพราะโง่และขี้เกียจ อยากบอกว่างึดหลาย สงสัยหนีคดีไปต่างแดนนาน จนไม่รู้ว่าบ้านเกิดเมืองนอนไปถึงไหนแล้ว มีเศรษฐีคนอีสานเกิดใหม่มากมาย มีคนอีสานประสบความสำเร็จในชีวิต ได้เป็นพระเอกหนัง นักร้อง นักแสดง นักวิทยาศาสตร์ หมอ นักธุรกิจเก่งๆ ที่เป็นคนอีสานมากมาย แล้วแผ่นดินอีสานยุคใหม่ ถ้าเอาทักษิณไปปล่อย ดีไม่ดีอาจจะหลงทางเด้อ เพราะถนนหนทางตัดใหม่มากหลาย ทางรถไฟ สนามบิน รถไฟความเร็วสูงสายแรกก็ไปทางอีสาน อีสานกำลังพัฒนาเร็วขึ้นทุกวัน พัฒนาทั้งแหล่งน้ำ ชลประทาน การทำมาหากิน มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีคนละครึ่ง แต่ยังมีนักการเมืองน้ำเน่าเสือหิวพยายามหาเสียงด้วยวาทกรรมปั่นความชิงชัง น้อยเนื้อต่ำใจ โคตรโบราณ”

นายเสกสกล กล่าวว่า ทักษิณตอนเป็นนายกฯหาเสียงด้วยการหลอกให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนคนจน จากนั้นก็ไม่ได้อะไร  เทียบกับนายกฯประยุทธ์ให้ลงทะเบียนแล้วเติมเงินตรงเข้าบัตรสวัสดิการ ที่ชาวบ้านเรียกบัตรลุงตู่ 13 ล้านคนได้เงินทุกเดือน ไม่มีนายหน้ามากินหัวคิว รวมเป็นแสนล้านบาท  

นายเสกสกล กล่าวว่า คนอีสานเคยให้โอกาสทักษิณ ส่งน้องมาเป็นนายกฯ แต่สุดท้าย โกงจำนำข้าว เสี่ยเปี๋ยงมาหากินข้าวจีทูเจี๊ยะ รัฐมนตรีข้าราชการติดคุกระนาว ตัวเองช่วยน้องสาวหนีเอาตัวรอด ทิ้งหนี้โกงจำนำข้าวไว้หลายแสนล้าน รัฐบาลลุงตู่ต้องมาตามใช้หนี้ ปัจจุบันเหลือสองแสนกว่าล้านบาท ต้องเสียเงินปีละ 2-3 หมื่นล้านทยอยใช้หนี้ไปทุกปี ยังมีหน้ามาหาเสียง หวังหลอกรับประทานอีกหรือ

นายเสกสกล กล่าวว่า ทักษิณขี้โม้ อวดโง่ แขวะเศรษฐกิจพอเพียง เพราะคำว่าพอเพียงใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย รวยหรือจน คือการใช้ชีวิตอย่างพอประมาณสมเหตุสมผล แน่นอนว่าคนที่มันโกงอย่างไม่เคยพอ ย่อมไม่มีวันเข้าใจ ส่วนนายกฯประยุทธ์ ทำงานทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หาปลามาให้พี่น้องประชาชน และยังสนับสนุนเครื่องมือให้หาปลาเอง กำลังเดินหน้าพัฒนาประเทศไทย ทุกภูมิภาค และภาคอีสานก็เดินหน้ามาไกลแล้ว 

“รมว.ท่องเที่ยว” ยัน “ลิซ่า-แอนเดรีย” เคาท์ดาวน์ คุ้มค่าแน่นอน เผยช่วยโปรโมตประเทศด้านอื่น เตรียมชง เสนองบ ในครม.สัญจรกระบี่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงความชัดเจนการใช้งบประมาณจ้าง น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK  และ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลี ศิลปินเคาท์ดาวน์ ว่า จะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมครม.ในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่จังหวัดกระบี่ ในช่วงเดือนพ.ย.นี้ โดยงานดังกล่าวจะมีภาคเอกชนมาร่วมเป็นสปอนเซอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่าศิลปินที่จะเชิญมาร่วมงานมีการตอบรับมาแล้วหรือยัง นายพิพัฒน์ กล่าวว่าตอนนี้ยัง ต้องขอดูสัญญาในวันที่ 30 ต.ค.นี้ที่จะส่งมาก่อน โดยศิลปินที่จะมาคือลิซ่าเพียงคนเดียว ไม่ได้มาทั้งวง

เมื่อถามว่าชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะเชิญ น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK  ศิลปินเคป๊อปชื่อดังระดับโลกชาวไทย และ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาลี นายพิพัฒน์ กล่าวว่าใช่ ชัดเจนแล้ว ถามว่าจะนอกจากการแสดงดนตรี จะโปรโมท ประเทศไทยในด้านอื่นด้วยหรือไม่ รมว.ท่องเที่ยว กล่าวว่า ต้องหารือกันก่อน 

ครม.เตรียมเคาะโครงการประกันรายได้ “ข้าว มัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะครอบคลุมพืชสำคัญทั้ง 3 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงมาตรการคู่ขนานเพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาพืชแต่ละชนิดเอาไว้ แยกเป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 มีกรอบวงเงินที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) วงเงิน 89,402 ล้านบาท กำหนดเป้าหมายเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.689 ล้านครัวเรือน 

ทั้งนี้ได้กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน  

ส่วนการประกันรายได้ประกันรายได้มันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 มีวงเงิน 6,811 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับประกันรายได้ มันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ไม่เกิน 100 ตันต่อครัวเรือน และไม่ซ้ำแปลง คาดว่า จะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 520,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และมาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top