Saturday, 7 June 2025
Hard News Team

‘หมอธีระ’ เปิดข้อมูลงานวิจัยจุฬาฯ ล่าสุด พบ ‘หมา-แมว’ ติดโควิดจากเจ้าของที่ติดเชื้อได้

‘หมอธีระ’ เปิดข้อมูลงานวิจัยการติดเชื้อโควิด-19 ของสุนัขและแมวในไทย ชี้คนที่ติดเชื้อจะสามารถถ่ายทอดไปยังสัตว์เลี้ยงได้

วันนี้ (8 พ.ย. 64) ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า การติดเชื้อโควิด-19 ของสุนัขและแมวในไทย ล่าสุดมีงานวิจัยจากทีมคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รายงานในวารสารวิชาการเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ตรวจพบสุนัข 3 ตัวจากการตรวจ 35 ตัว และแมว 1 ตัวจากการตรวจ 9 ตัว ติดเชื้อโควิด-19 โดยเป็นทั้งหมดที่ตรวจนั้นสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนที่มีเจ้าของติดเชื้อโควิด-19

ข้อมูลข้างต้นนี้ช่วยกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญว่า คนที่ติดเชื้อจะสามารถถ่ายทอดไปยังสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้นหากมีอาการไม่สบาย นอกจากควรจะแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน

'หมอวรงค์' ท้า 'พท.' ฟื้นจำนำข้าว! เตือน!! ระวังเจอคุก-เผ่นนอกซ้ำแน่

‘หมอวรงค์’ ย้อนคดีจำนำข้าว แดงโร่โกงทั้งแผ่นดิน ท้า พท. กล้าฟื้นโครงการจริงมั้ย เตือนระวังติดคุก หรือได้เผ่นนอกประเทศซ้ำอีกแน่

8 พ.ย. 64 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “จำนำข้าวยิ่งลักษณ์” โดยระบุว่า

ช่วงนี้พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเรื่องข้าวกันมาก เลยเถิดไปถึงโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ออกมาเบี่ยงประเด็นเรื่องการขาดทุน

สิ่งที่ต้องย้ำให้พรรคเพื่อไทยให้ตาสว่าง ต้องแยกระหว่าง “ขาดทุน” กับ “โกง” การช่วยประชาชน ลำพังขาดทุนนั้นพอรับได้ แต่ไม่ควรให้ถึงชาติล่มจม

แต่ปัญหาใหญ่ของโครงการรับจำนำข้าวคือ “โกง” โกงกันทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ จนทำให้เงินที่ควรจะถึงชาวนา เกวียนละ 15,000 บาท ถ้าหักความชื้นถูกต้อง น่าจะเหลือ 14,000 บาท แต่เอาเข้าจริง ๆ เหลือ 10,000 - 12,000 บาทต่อเกวียนเท่านั้น

นักวิจัย พัฒนาโถส้วม ช่วยวิเคราะห์สุขภาพ เก็บข้อมูลจากลักษณะ ‘รูทวาร - สิ่งปฏิกูล’

นักวิจัย ต้องการให้ห้องน้ำได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความฉลาดขึ้น และไม่ใช่แค่เพียงเบาะนั่งที่มีความอุ่น หรือโถชำระล้าง The Wall Street Journal รายงานว่านักวิจัยกำลังพัฒนาเครื่องสแกนที่สามารถจดจำ “รอยพิมพ์รูทวาร” ที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้หรือ “ลักษณะเฉพาะของรูทวารพวกเขา”

โดยการเก็บข้อมูล จะเป็นติดตั้งกล้องในโถส้วม และใช้อัลกอริทึม Machine Learning เพื่อจับคู่ตัวอย่างอุจจาระกับผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจง ระบบยังสามารถคำนวณ “อัตราการไหลและปริมาณของปัสสาวะโดยใช้เทคโนโลยี Computer Vision”

ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณมีข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางนักวิจัย ได้ระบุว่า ข้อมูลที่ได้มา จะจัดเก็บและวิเคราะห์ในเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่มีการเข้ารหัสเฉพาะ

Sonia Grego ผู้ร่วมก่อตั้ง Coprata ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการตรวจสอบทางสรีรวิทยาของ Duke University ต้องการพัฒนาให้ส้วมอัจฉริยะ เพื่อสแกนตัวอย่างอุจจาระและปัสสาวะ สำหรับหาตัวบ่งชี้ด้านสุขภาพ รวมถึงโรคเรื้อรัง ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่างเช่น มะเร็ง

“เรามุ่งเน้นที่การใช้เลเซอร์ในการวิเคราะห์อุจจาระ เราคิดว่ายังมีโอกาสดี ๆ ที่ยังไม่ได้นำมาใช้สำหรับข้อมูลด้านสุขภาพ และข้อมูลนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้เพราะความกังวลว่าจะมีใครมาทำอะไรกับอุจจาระของคุณ” Grego กล่าว

บริษัทอีกแห่งที่มีชื่อว่า Toi Labs ได้พัฒนาแนวคิดไปอีกขั้นด้วยที่นั่งส้วมอัจฉริยะ TrueLoo ซึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลไบโอเมทริกซ์ที่มีการรวบรวมข้อมูลมาอย่างดี

“พวกมันมีน้ำหนักเท่าไหร่? พวกเขานั่งบนที่นั่งได้อย่างไร” Vik Kashyap ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว

จากนั้นเบาะนั่งสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระได้ “โดยใช้วิธีพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เช่น ปริมาตร ความชัดเจน ความสม่ำเสมอ และสี”

โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ

“มันเป็นหลักในการทำความเข้าใจเมื่อมีรูปแบบของอุจจาระที่ผิดปกติ หลังจากนั้นก็นำมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี และให้ผลการวิเคราะห์ที่สามารถนำมาใช้โดยแพทย์ที่จะช่วยในการรักษาให้กับความผิดปรกติที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้” Kashyap กล่าว

แต่เนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์ Internet of Things เป็นส่วนใหญ่ คำถามสำคัญก็คือ : ข้อมูลไปไหน? แน่นอนว่าผู้ใช้หลายคนคงจะไม่สบายใจแน่ ๆ ที่มีกล้องชี้ขึ้นที่ก้นของพวกเขา” Phil Booth ผู้ประสานงานของ MedConfidential กล่าว

ธุรกิจโรงแรมที่พักเดือนต.ค.เริ่มฟื้น ทยอยปัดฝุ่นเปิดให้บริการแล้ว 67%

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ประจำเดือนตุลาคม 2564 ระหว่างวันที่ 11-28 ตุลาคมที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 189 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักแรมได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ทำให้เห็นโรงแรมทั่วประเทศกลับมาเปิดกิจการตามปกติ 67% เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน อยู่ที่ 51%

จากภาพรวม โรงแรมในทุกภูมิภาคกลับมาเปิดกิจการปกติเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีโรงแรมที่ยังไม่กลับมาเปิดกิจการปกติ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มองว่า ต้นทุนในการเปิดดำเนินการ อาทิ ค่าสาธารณูปโภค และค่าจ้างพนักงาน อยู่ในระดับสูง และนักท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับต่ำเป็นสำคัญ โดยมีโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว ประมาณ 8% ส่วนอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 23.5% เพิ่มขึ้นประมาณ 51.6% จากเดือนกันยายน ที่มีอัตราเข้าพัก 15.5% โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของโรงแรมในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เป็นเพราะรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน และผลของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ รวมถึงโรงแรมส่วนใหญ่คาดว่าอัตราการเข้าพักในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 6.38% จากเดือนตุลาคม อยู่ที่ 25% ซึ่งเป็นเดือนที่โรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ แต่ปรับดีขึ้นจากเดือนกันยายน ที่ผ่านมา

“สงคราม” อัดรัฐมนตรีหนีสภาไม่อายประชาชนบ้างหรือ ชี้! 7 ปี “บิ๊กตู่” ไร้ค่าไม่ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรรมเมินช่วยเกษตรกร 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปี ของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร โดยเฉพาะราคาข้าวตกต่ำมากที่สุดในรอบหลาย 10 ปี แต่รัฐบาลยังคงไม่ให้ความสำคัญที่จะรับฟังปัญหาของประชาชน  

ที่ผ่านมารัฐบาลกู้เงินมามากกว่า 5.8 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับชาวนาเลย กู้เงินมาจำนวนมหาศาล  รัฐบาลนำไปใช้ในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ และอื่นๆ เป็นภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้ที่แม้แต่ชาวนาก็ต้องรับภาระหนี้ด้วยส่งผลให้ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะสะสมหลายล้านล้านบาท รัฐบาลอ้างว่ากู้มาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน สุดท้ายเงินกู้ทั้งหมดรัฐบาลนำไปใช้ในโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรให้ประชาชนเลย 

นายสงครามกล่าวด้วยว่า  นโยบายที่พรรครัฐบาลหาเสียงไว้กับประชาชน ว่าจะช่วยเหลือชาวนาทั้งในเรื่องต้นทุนการผลิตและราคา ไม่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติเลย เป็นได้แค่สร้างภาพลวงตาให้ประชาชนหลงไปกับคำพูดของพรรคการเมือง ที่เสนอให้พลเอกประยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ค่าแรก 425 บาทต่อวัน ข้าวเปลือกตันล่ะ 18,000 บาท อยู่ที่ไหนครับ เพราะวันนี้ราคาข้าว ก.ก.ละ 5-6 บาท ขายข้าว 1 กิโลซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ได้ ซื้อเครื่องดื่มชูกำลังหรือกาแฟไม่ได้ และต้องขายข้าวถึง 3 กิโล ถึงจะซื้อปลากระป๋องได้ 1 กระป๋อง และจะต้องขายข้าวถึง 10 กิโล ถึงจะซื้อน้ำมันพืชได้ 1 ขวด แม้จะมีโครงการประกันส่วนต่างของกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น 

‘หนุ่มบราซิล’ หนีฝูงผึ้งโดดลงทะเลสาบ สุดท้ายจมน้ำ-โดนปลาปิรันยารุมเขมือบดับ

ชายคนหนึ่งในบราซิล ดวงแตกสุดขีด พยายามหลบหนีจากฝูงผึ้งที่ไล่ล่าโจมตีเขา ตัดสินใจกระโดดลงทะเลสาบ สุดท้ายต้องมาจบชีวิตอย่างน่าเศร้า จมน้ำและถูกฝูงปิรันยารุมกิน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังคงอยู่ระหว่างสืบสวนว่าชายรายนี้จมน้ำเสียชีวิต หรือเสียชีวิตจากการถูกฝูงปิรันยารุมทึ้งรุมแทะ

รายงานของสำนักข่าวไนน์นิวส์ หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นในรัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล เปิดเผยว่าชายรายนี้กำลังตกปลาอยู่กับเพื่อน 2 คน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม แต่ระหว่างนั้นถูกฝูงผึ้งจู่โจมเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัว

ทั้ง 3 คนตัดสินใจกระโดดลงน้ำ แต่เหยื่อวัย 30 ปีจมลงสู่ใต้น้ำ ส่วนคนอื่น ๆ สามารถตะเกียกตะกายว่ายน้ำขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย

'โฆษกรัฐบาลเผย' เปิดประเทศ 7 วันน่าพอใจ ประชาชนเชื่อมั่น คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี “นายก” กำชับควบคุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากเปิดประเทศแล้ว 7 วัน รัฐบาลประเมินว่าสถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 20,000 คน ในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิดเพียง 15 คน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ประชาชนและนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นต่อการเปิดประเทศและแนวทางอื่นของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ที่มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้น ททท.คาดว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 300,000 คน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ประเทศและกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศมีมากขึ้นและราคาสินค้าก็จะปรับตัวดีขึ้นอย่างเหมาะสม 

นายธนกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความเป็นห่วงคือปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยได้กำชับฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงแรงงานให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 7 วันที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่าวด้าวลักลอบเข้าเมืองได้กว่า 2,800 คน

“ราเมศ” ยันพรุ่งนี้เพื่อ “ชาวนา”รอรับส่วนต่างงวดแรกจากโครงการประกันรายได้ ย้อนบางพรรคทำ “พรุ่งนี้เพื่อใคร”ชี้ชาวนาจำโครการจำนำข้าวได้ดี เตือนบิดเบือนคำพิพากษาระวังคนในคุกถาม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองพยายามโจมตีโครงการประกันรายได้ ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีหลักการสำคัญตรงกันคือดูแลใส่ใจเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างเต็มที่ และโครงการประกันรายได้ ยังคงเดินเครื่องเพื่อเป็นหลักประกันในเรื่องรายได้ของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งสถานการณ์ช่วงนี้เมื่อมีปัญหาเรื่องราคาข้าว แต่พี่น้องชาวนาก็จะได้รับส่วนต่างรายได้ที่ขาดหายไป ซึ่งรัฐบาลได้ชี้แจงล่าสุด เตรียมจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวงวดแรก 9 พ.ย.นี้ ซึ่งมีพี่น้องชาวนาเป็นจำนวนกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีมาตรการเสริมเพื่อผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้นอีกหลายประการ ที่สำคัญจะมีมาตรการส่งเสริมการส่งออกข้าว ซึ่งสิ้นปีนี้ ที่มีจำนวน กว่า 6 ล้านตัน เชื่อว่าสถานการณ์ราคาข้าวจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

“ความจริงแล้วพี่น้องชาวนาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการประกันรายได้ เป็นโครงการที่ดีและเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร พรรคการเมืองที่คิดเพียงแค่การบิดเบือนเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงประชาชนเขาดูออก การที่ยกโครงการจำนำข้าวมาพูดถึงก็เป็นสิทธิ แต่ควรพูดให้จริงและให้ครบถ้วน หากคิดถึงพี่น้องชาวนาควรติติงเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของชาวนา อย่าคิดเพียงเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง”นายราเมศกล่าว

 

“องอาจ” จี้ “บิ๊กตู่”เร่งแก้แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง หวั่นทำโควิดระบาดระลอกใหม่

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองว่า ขณะนี้ปรากฎว่ามีแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ โดยผิดกฎหมายจำนวนมาก เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบและจับกุมได้แต่ละครั้งนับร้อยคน แสดงให้เห็นถึงการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว มีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการ การนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีการตรวจคัดกรองตามระเบียบที่ทางราชการกำหนดก่อนเข้าเมือง เพราะจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ๆ และที่ผ่านมาพบว่าเกิดจากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

นายองอาจ กล่าวว่า ขอฝากนายกฯ เร่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางหยุดยั้งการนำแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จำนวนผู้ลักลอบเข้าเมืองจะมากขึ้นจนยากต่อการควบคุม และจากการที่มีขบวนการนำแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาจำนวนมากอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แสดงว่าตลาดแรงงานมีความต้องการแรงงานต่างด้าวอยู่จำนวนมาก จึงอยากให้นายกฯในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของ ศบค. ออกมาตรการให้มีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยถูกกฎหมาย  

นายกฯ อิรัก รอดตายจาก ‘โดรนลอบสังหาร’ ด้าน ‘โจ ไบเดน’ ออกโรงประณาม - อาสาส่งทีมช่วยสืบ

แบกแดด (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - นายกรัฐมนตรีอิรักแถลงด่วนผ่านทางโทรทัศน์ ประณามผู้ก่อเหตุหวังปลิดชีพเขาอย่างขี้ขลาด หลังรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารด้วยโดรนติดอาวุธมาได้หวุดหวิดเมื่อช่วงรุ่งสางเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ประณามการลอบสังหารดังกล่าวเช่นกัน

เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย ใช้อากาศยานไร้คนขับแบบติดอาวุธ มุ่งหน้ามายังบ้านพักของนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี ซึ่งตั้งอยู่ในกรีนโซน ซึ่งเป็นพื้นที่ความมั่นคงสูง ในกรุงแบกแดด เมื่อช่วงรุ่งสางของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพยายามลอบสังหารผู้นำอิรัก แต่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าไม่ประสบความสำเร็จ กองกำลังรักษาความมั่นคงกำลังดำเนินมาตรการที่จำเป็นเกี่ยวกับความพยายามลอบสังหารนี้ ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ชาวกรุงแบกแดดได้ยินเสียงระเบิดและเสียงยิงปืนดังมาจากทิศทางที่เป็นที่ตั้งเขตกรีนโซนในกรุงแบกแดด ซึ่งประกอบด้วยที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตต่างชาติ

ต่อมา คาดิมีแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาและครอบครัวปลอดภัยดี ไม่มีใครได้รับอันตราย และขอให้ประชาชนอย่าแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประณามผู้ที่ก่อเหตุอุกอาจใช้โดรนโจมตีที่พักของเขาในเขตกรีนโซน ว่าการโจมตีด้วยจรวดและโดรนอย่างขี้ขลาด ไม่ใช่วิธีที่จะสร้างมาตุภูมิและอนาคตของประเทศได้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่หลังจากนั้นมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกกรีนโซน และเสนอความช่วยเหลือที่จะเข้าไปร่วมสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จนถึงขณะนี้ ยังคงไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมาแสดงตัว ว่ามีความเกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารคาดิมี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ วัย 54 ปี ซึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอิรัก เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางการจับตาและเสียงวิจารณ์ของบรรดากองกำลังติดอาวุธในอิรัก ว่าคาดิมีมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ผู้นำอิรักพยายามแสดงท่าทีประนีประนอมกับทุกฝ่าย และรับหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านมาแล้วหลายครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top