Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

'นายกฯ' หารือ 'เอกอัครราชทูต EU' มุ่งสร้างความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหภาพยุโรปทุกมิติ พร้อมขยายร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ที่ได้เข้ารับตำแหน่ง เชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ที่มีความความคุ้นเคยกับประเทศไทยจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสานต่อความร่วมมืออีกหลากหลายสาขาในอนาคต และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหภาพยุโรปให้แน่นแฟ้มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งช่วยเปิดมุมมองใหม่ในสาขาที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่สหภาพยุโรปมีมติยอมรับเอกสารรับรอง Thailand Digital Health Pass บนระบบ ‘หมอพร้อม’ ให้ใช้เป็นหลักฐานในการเดินทางในยุโรปได้เทียบเท่ากับกับ EU Digital COVID Certificate (EU DCC) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการฟื้นฟูการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างกัน

ด้านเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนการทำงานมาตลอด โดยแสดงความชื่นชมการทำงานและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลไทย พร้อมเชื่อมั่นว่าไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งทางสหภาพยุโรปยินดีให้การสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ยังได้แสดงความยินดีต่อการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC 2022 ของไทยซึ่งเป็นบทบาทของไทยในเวทีโลก เชื่อมั่นว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขยายความร่วมมือทางการค้าการลงทุนและสามารถต่อยอดไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งนี้ ขอให้ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงสหภาพยุโรปในทุกความร่วมมือ เพราะยุโรปมีศักยภาพทั้งด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยี และอื่นๆ

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ด้านยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งไทยยินดีมีส่วนร่วมกับยุทธศาสตร์ฯ ในการขับเคลื่อนวาระสำคัญซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ท้าทายในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ทะเล การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่จะมีความร่วมมือกันได้ต่อไป ด้านความตกลงทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน

โดยได้หารือถึงกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Comprehensive Partnership and Cooperation Agreement - PCA) ซึ่งมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายประสงค์ให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว ซึ่งทางเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ มองว่า ไทยถือเป็นประเทศที่สำคัญในภูมิภาค ที่จะส่งผลประโยชน์ร่วมกันได้ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำการให้ความสำคัญต่อการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-EU โดยจะเร่งการเจรจาและกำหนดระดับเป้าหมายของ FTA ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

ธกส.เร่งแก้หนี้เกษตรกร สั่งพนง.ลงพื้นที่พบลูกค้าจัดชั้นหนี้

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้พนักงานในพื้นที่ไปพบลูกค้าทุกราย โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ใช้บริการสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. จำนวน 4.83 ล้านราย เพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพ ที่มาของรายได้มาประเมิน โดยวิเคราะห์ศักยภาพสมรรถนะและความสามารถในการประกอบอาชีพ ความสามารถในการชำระหนี้ จากนั้นจัดกลุ่มลูกหนี้ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด โดยแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่มตามศักยภาพ เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง กลุ่มศักยภาพปานกลาง และกลุ่มมีเหตุผิดปกติ 

ทั้งนี้เพื่อทำการบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปรับตารางกำหนดการชำระหนี้ใหม่ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้และการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามศักยภาพของลูกหนี้ การเติมสินเชื่อใหม่เพื่อฟื้นฟูอาชีพ รวมถึงพิจารณาช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนัก เนื่องจากรายได้ครัวเรือนลดลงหรือไม่ได้มีรายได้เพียงพอเพราะเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ชราภาพ เป็นต้น เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเป็นรายกรณีต่อไป 

สุโขทัย-ผบช.ภ.6 แถลงจับยาบ้าบิ๊กล๊อตมูลค่า 400 กว่าล้าน

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 และพล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.จสุโขทัย พร้อมด้วยนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายสมพงค์ ชมชัย นายอำเภอศรีสัชนาลัย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการจีบกุม ร่วมกันแถลงข่าวการสกัดจับกุมยาเสพติดล๊อตใหญ่ของตำรวจภูธรภาค6 บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรศรีสัชนาลัย พื้นที่จังหวัดสุโขทัย 

ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองประจำหน่วยบริการตำบลแม่สำ ทำการตั้งด่านปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จนเวลา 09.00น. มีรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนด์ รุ่นแคปติวา ทะบียน ฆย 5629 ก.ท.ม. ขับมาจากเส้นทางจ.แพร่ เมื่อมาถึงด่านตรวจคนร้ายไหวตัวทัน ทำการเลี้ยวรถเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามจนสามารถจับกุมได้ ต่อมาควบคุมนายวันมงคล เจริญอินทร์ หรือเต้ย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่.1 ต.โพชนไก่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี หลังตรวจสอบภายในรถพบกระสอบถุงปุ๋ยชนิดพลาสสติกลาย จำนวน 13 ใบ อัดแน่นอยู่ในรถและมีกลิ่นคล้ายยาบ้า

จึงควบคุมตัวและของกลางทำการตรวจสอบยังสภ.ศรีสัชนาลัย พบเป็นยาบ้าสีส้มจำนวน 2,710,000 เม็ดบรรจุในกระสอบถุงปุ๋ยพลาสติดลาย ทำการสอบสวน นายเต้ยยอมรับสารภาพว่ารับจ้างขับรถนำยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจาก จ.เชียงราย เพื่อไปส่งที่ จ.สิงห์บุรี โดยมีผู้ร่วมขบวนการคือนายเบิร์ด ขับรถเคลียร์เส้นทางด้านหน้าและทิ้งระยะห่างกันพอสมควร ซึ่งหากงานสำเร็จจะได้รับค่าจ้าง 350,000 บาท แต่รถของตนมาพลาดท่าถูกจับกุม ส่วนนายเบิร์ดไหวตัวทันหลบหนีไปได้

กองทัพบก เปิดตัวเฮลิคอปเตอร์พยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย 1 ใน 4 ลำ ทั่วประเทศ

กองพลทหารราบที่ 9 เปิดตัวเฮลิคอปเตอร์พยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยสุดทันสมัย 1 ใน 4 ลำทั่วประเทศ สำหรับใช้ดูแลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล 26 จังหวัดภาคกลาง พร้อมจัดการฝึกซ้อมสถานการณ์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลขึ้นเฮลิคอปเตอร์ สร้างความคุ้นเคยให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ที่บริเวณสนามบินภายในกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พลตรีกันตพจน์ เศรษฐารัศมี รองแม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วย พลตรีบรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ร่วมกันตรวจดูความพร้อมของเฮลิคอปเตอร์พยาบาล 1 ใน 4 ลำ จากทั่วประเทศที่ถูกส่งมาประจำการอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์แห่งนี้ โดยเฮลิคอปเตอร์พยาบาลนี้จัดสร้างขึ้นตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกที่อนุมัติให้นำอากาศยาน ฮ.ท.145 ซึ่งประจำการในกองทัพบกมาปรับปรุงเป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาล มีการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยสำหรับใช้ในการดูแลและลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินจากพื้นที่ห่างไกลมารับการรักษายังโรงพยาบาลในตัวเมือง

'รมว.สุชาติ' ลุยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ไปแล้วกว่า 3.7 ล้านโดส

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ไปแล้วกว่า 3.7 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงของโรคให้กับพี่น้องผู้ประกันตน

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องผู้ประกันตน สั่งการให้กระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกันตน ให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เสมือนคนในครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องผู้ประกันตนอย่างทั่วถึง เพื่อลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของโรค และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับพี่น้องผู้ประกันตน ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง

โดยสำนักงานประกันสังคมได้เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ไปแล้ว 3,781,511 โดส แบ่งเป็น เข็ม 1 จำนวน 1,695,913 โดส เข็ม 2 จำนวน 1,597,846 โดส และเข็ม 3 จำนวน 487,752 โดส โดยรวมกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนไปแล้วทั้งสิ้น ณ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ไปแล้วทั้งสิ้น 3,781,511 ล้านโดส

ด้านตัวแทนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนกับสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับภาคแรงงาน จัดสรรวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ให้กับลูกจ้างพนักงาน ทำให้พนักงานมีความมั่นใจในการประกอบอาชีพ มาทำงานอย่างมีความสุข ปลอดภัยจากโรคโควิด – 19 พร้อมทั้งขอขอบคุณรัฐบาล กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ใส่ใจดูแลให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง

สมุทรปราการ-แห่ฉีดวัคซีน!! “เทศบาลตำบลแพรกษา” เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไฟเซอร์-แอสตร้า กระตุ้นภูมิคุ้มกันสู้โควิด

ที่บริเวณอาคาร ชั้น 1 ศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแพรกษา เดินตรวจเยี่ยมประชาชนที่เดินทางมารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 พร้อมทั้งให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการประชาชนที่เดินทางมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน กว่า 300 คน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา

โดยในวันนี้ มีประชาชนจำนวนมากที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วต่างเดินทางมาขอรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายภายใต้การดูแลคัดกรองจากทางเจ้าหน้าที่ อสม. แบบ New normal และวัคซีนที่นำมาฉีดให้กับประชาชนที่ได้ลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนในวันนี้ คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนไฟเซอร์ โดยแบ่งเป็น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าฉีดให้กับประชาชน จำนวน 114 ราย และวัคซีนไฟเซอร์ฉีดให้กับประชาชน จำนวน 189 ราย รวม 303 ราย ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ด้าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา เป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ซึ่งในวันนี้ทางศูนย์ฉีดวัคซีนเทศบาลตำบลแพรกษา ได้เปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้มารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 คือเข็มกระตุ้นเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อีกทั้ง ที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากตั้งแต่วัคซีนเข็มแรกรวมถึงการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนผู้ป่วยติดเตียงในเขตพื้นที่อีกด้วย

"กมธ.พ.ร.บ.ตำรวจ" จ่อ สรุปเนื้อหา 15 ก.พ. เผย มีมติ เพิ่มอำนาจให้ ก.ตร. ร่วมเห็นชอบตั้ง ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ....  รัฐสภา ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ....ทำหน้าที่ประธาน ว่า ได้เข้าสู่การพิจารณาเนื้อหาที่ค้างการพิจารณา และในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้ ได้นัดประชุมเพื่อทบทวนเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ตำรวจทั้งฉบับ

สำหรับรายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งกมธ.มีมติแก้ไข คือ ประเด็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ตามเนื้อหาที่ผ่านขั้นรับหลักการ กำหนดให้ ก.ตร. มีหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์บริหารราชการตำรวจ และกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รวมถึงการบริหารงานบุคคล จัดระบบราชการตำรวจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 

ทั้งนี้ กมธ.มีมติกำหนดโครงสร้างองค์กรบริหาร สตช. จำนวน 2 องค์กร คือ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และ ก.ตร.โดยในบทบัญญัติของ ก.ต.ช. ที่เพิ่มขึ้นมานั้น ได้ให้หน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบาย และบริหารราชการตำรวจ รวมถึงพัฒนาระบบงานตำรวจ ติดตามและประเมินผล สำหรับกรรมการ ก.ต.ช. นั้น กมธ.ยังไม่มีข้อยุติ และวางประเด็นพิจารณาไว้ ดังนี้

1.ควรกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรี ที่นายกฯ มอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ ก.ต.ช.หรือไม่ 2.ควรกำหนดจำนวนรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกฯ มอบหมาย เป็นรองประธาน ก.ต.ช. หรือไม่ 3.ควรกำหนดให้นายกสภาทนายความ ตัวแทนภาคประชาชนและท้องถิ่น เป็นกรรมการโดยตำแหน่งหรือไม่ และ 4.ควรกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมาประชุมด้วยตนเอง จะมอบหมายให้บุคคลอื่นมาประชุมแทนมิได้หรือไม่

ขณะที่ ก.ตร. นั้น กมธ.ได้มีมติ ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. เช่นเดิม และแก้ไขในส่วนของกรรมการอื่นๆ โดยเพิ่มเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มาเป็น ก.ตร.ด้วย และให้เลขาธิการ ก.พ.ร. กำหนดจำนวนรองผบ.ตร.ตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คนให้เป็นก.ตร.ด้วย และได้ตัดกรรมการในส่วนของปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมออก รวมถึงเพิ่มอำนาจให้กับก.ตร.ในการให้ความเห็นชอบต่อการแต่งตั้งผบ.ตร.ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

“ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ยื่น ป.ป.ช.สอบเชิงลึกทรัพย์สินตัวเอง-ภริยา บอก ถูกกันแกล้งทางการเมือง ยัน ไม่ท้อ บอก ตอนนี้เดินหาเสียง แบบเป็นผู้ว่าฯแล้ว

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เข้าหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของตัวเองและภรรยา โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวว่าจากการที่โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตเเละประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ออกมาให้ข้อมูลอ้างว่ามีผู้ร้องเรียนที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ว่า ตนขณะดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ และยังให้ข้อมูลชี้นำตามสื่อว่าตนมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ 

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า จากข้อมูลการยื่นทรัพย์สินที่ตนยื่นต่อ ป.ป.ช. ทำให้ตนรู้สึกไม่ยุติธรรม ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการบวนการที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือและความตั้งในใจการออกมาทำงาน ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาเจอเรื่องที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ ยืนยันว่าตนลาออกมาเพื่อทำงานให้ประชาชน ไม่ปฏิเสธการถูกตรวจสอบ และพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ จึงมายื่นหนังสือที่ ป.ป.ช.เพราะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่มีหน้าที่ตามกฎหมายโดยตรงในการดำเนินการเรื่องนี้ จึงมั่นใจในกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ว่าจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัวได้ 

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ทุจริต บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยืนต่อ ป.ป.ช.ทำตามความจริง และไม่มีการร่ำรวยผิดปกติ ผมก้าวเดินมาถึงวันนี้ไม่ปฏิเสธการตรวจสอบ แต่ต้องเป็นการตรวจสอบโดย ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระ และมีหน้าที่โดยตรง

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนไม่เฉพาะชาว กทม. ที่ให้กำลังใจตนและครอบครัวผ่านทุกช่องทาง และยืนยันว่าไม่ท้อแต่อยากขอความเป็นธรรม และขอกำลังใจ ซึ่งไม่ได้ขอให้กับตนเท่านั้นแต่ขอให้กับคนรุ่นต่อๆไปที่จะออกมาทำงาน รุ่นน้องที่มีความพร้อมจะออกมาทำงานไม่ให้เขาถูกสกัดกั้นทางการเมืองจะได้ออกมารับใช้บ้านเมือง

เมื่อถามว่า มองว่ากมธ.ปปช. สภา ถูกแทรกแซงจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ขอให้ถามผู้ที่ออกมาให้ข่าว แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าสิ่งที่ กมธ.ปปช. ดำเนินการทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัย และมีผลกระทบกับตนและครอบครัว กระทบต่อความตั้งใจที่จะออกมาทำงาน  

เมีย ‘ฮุมเมลส์’ วอนอย่าเหมารวมคนไทยไม่ดี แม้เจ้าตัวโดนทุบหัวชิงทรัพย์ที่พังงา

จากกรณีที่ เคธี ฮุมเมลส์ ภรรยาของ มัตส์ ฮุมเมลส์ กองหลังของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดเผยออกสื่อว่าถูกทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์สิน ขณะเดินทางมาถ่ายทำรายการที่ภูเก็ต จนส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้เสียหาย

ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเหตุดังกล่าวเกิดในท้องที่ สภ.โคกกลอย จังหวัดพังงา โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย

ขณะที่ เคธี ฮุมเมลส์ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ระบุว่า แม้เธอจะถูกทำร้าย และชิงทรัพย์ไป แต่ก็รู้สึกดีใจที่ตนเองได้รับความช่วยเหลือ และความห่วงใยจากคนไทย

เบอร์หนึ่ง 2 ปีติด!! เปิดตัวแปร BMW ปั้นยอดแซง BENZ ในรอบ 20 ปี ‘ค่านิยม-รถใหม่-เซอร์วิสโดนใจ’ ดันขึ้นแท่นผู้นำ

...เรามักคุ้นเคยกับคำกล่าวที่มักเปรียบเทียบ 2 ค่ายรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมนีกันบ่อยๆ แม้จะผ่านนานข้ามยุคข้ามสมัย
...เจ้าหนึ่งถูกนิยามถึงประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับความภูมิฐาน
...อีกเจ้าถูกนิยามถึงความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย สมวัยคนรุ่นใหม่

เรากำลังพูดถึงนิยามของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ BMW ตามมุมมองความชื่นชอบของคนที่แตกต่างกัน

ในประเทศไทยการขับเคี่ยวของทั้ง 2 เจ้าเรียกว่าหาผู้เล่นใดขึ้นมาแทรก แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่ายดาวสามแฉกยังไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับ BMW เลยตลอดร่วม 20 ปี

ทว่าหากดูตัวเลขในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของตลาดรถหรูในไทยได้เปลี่ยนมือมาเป็น BMW โดยเฉพาะกับตัวเลขปีล่าสุด 2021 ที่ BMW เคลมตัวเลขยอดขายจากกรมขนส่งด้วยสัดส่วนยอดขายกว่า 45.5% โดยจุดเริ่มต้นของการช่วงชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ต้องย้อนไปในปี 2020 ที่ยอดขายอย่างเป็นทางการจาก BMW นั้น อยู่ที่ 11,242 คัน ลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นยอดขายที่ไม่รวมแบรนด์ในเครืออย่าง ‘มินิ’ ที่มียอดขาย 1,184 คัน ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 10,613 คัน ลดลง 29.7%

จากตัวเลขนี้ ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเถลิงแชมป์ยอดขายตลาดรถยนต์หรูไทยของ BMW 

...แล้วเหตุใด BMW ถึงสามารถกระชากบัลลังก์จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลงมาได้?

เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะต้องยอมรับว่าในยุคหลังคนรุ่นใหม่รวยเร็ว ความต้องการรถยนต์หรูมีไปถึงระดับซูเปอร์คาร์ แต่คนที่มีปัจจัยน้อยกว่าพรีเมียมคาร์ ก็จะเริ่มถูกเวทมาที่ค่ายพรรคนักปลุกใจคนรุ่นใหม่ อย่าง BMW

ไม่ใช่ว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยุคนี้แก่หรือเชย แต่ค่านิยมที่คุ้นเคยและยาวนาน บวกช่วงอายุของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาตามกาลเวลา ผสานตัวแปรของ BMW ในการเติบโตช่วง 2 ปีมานี้ มีมาก!! จนยากที่เจ้าตลาดจะคุมอยู่

ทั้งนี้หากลองมาดูภาพรวมของปี 2021 ที่การันตีให้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รักษาตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยได้อีกครั้งนั้น มาจากยอดขายรถยนต์รวมกันของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 45.5% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 44.6% ในปี 2563 

แถมปีนี้ทั้งปี ก็ยังเตรียมโฉมรถยนต์ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวม 10 รุ่น อีกทั้งยังเน้นย้ำการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในรูปแบบของ Gran Coupe ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู i4 รุ่นใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู i4 M50 ราคา 4,999,000 บาท และ บีเอ็มดับเบิลยู i4 eDrive40 M Sport ราคา 4,499,000 บาท รวมถึงทัพผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจทุกรุ่น อาทิ...

- บีเอ็มดับเบิลยู 430i Convertible M Sport ราคาโดยประมาณ 4,300,000 - 4,500,000 บาท
- บีเอ็มดับเบิลยู X6 xDrive40i M Sport (รุ่นประกอบในประเทศ) ราคา 5,499,000 บาท 
- บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport (รุ่นประกอบในประเทศ) ราคาโดยประมาณ 6,100,000 - 6,300,000 บาท

- มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ราคา 1,310,000 บาท สำหรับสี Triple Black / สี Racing Blue Metallic และ 1,420,000 บาท สำหรับ Option 719 Mineral White Metallic
- มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R ราคา789,000 บาท
- มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ราคาโดยประมาณ 1,600,000 - 1,800,000 บาท 

ด้านยอดสินเชื่อของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ก็ทำลายสถิติด้วยยอดสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 13% รวมมูลค่า 19,000 ล้านบาท พร้อมตัวเลขยอดสินเชื่อรวมในพอร์ททะยานสู่หลัก 52,000 ล้านบาท

ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์และสองล้อของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 33,428 คัน แถมยังเปิดตัวโมเดลใหม่ 10 รุ่น ทั้งจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุมให้แก่ลูกค้า รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่น

>> รถยนต์ไฟฟ้าเกมที่ต้องมองยาวๆ

แน่นอนว่าในระหว่างที่ข่าวคราวการวางแผนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มสูบของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในไทยจะน่าสนใจ แต่เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันว่องไว การแค่เลือกบางรุ่นที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW เข้ามาลองชิมตลาดนี้ จึงน่าจะเพียงพอ ภายใต้การบริหารงานของ มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่เชื่อในเรื่องของความยืดหยุ่นจากดีมานด์ไซส์ หรืออารมณ์อยากได้กันมากเดี๋ยวค่อยผลิตให้ตามความต้องการ ตามสไตล์ Limited Offer ที่ช่วงหลัง BMW ใช้ไม้นี้บ่อย จนทำให้รู้สึกว่าสินค้าของ BMW ช่างดูเอ็กซ์คลูซีฟเสียนี่กะไร

แต่ถึงกระนั้น หากดูจากยอดจดทะเบียนของ BMW และมินิในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ก็ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในส่วนของรถยนต์พรีเมียมไฟฟ้าด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 32.9% ร่วมกับการขยาย ChargeNow ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งคาดว่า BMW จะมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้ทั้งหมดกว่า 600 หัวจ่าย ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2565 แถมเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิสามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน EVolt ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเพื่อใช้บริการสถานี ChargeNow ซึ่งนี่คือการปูพรมแบบเงียบๆ

>> ตัวแปรสลับเก้าอี้ผู้นำ
อย่างไรก็ตาม หากลองวิเคราะห์แบบเห็นภาพชัดๆ หน่อยนั้น จะพบตัวแปรสำคัญของ BMW ในช่วง 2 ปีที่ส่งผลให้เกมพลิกกลับมานำเมอร์เซเดส-เบนซ์ในรอบ 20 ปีได้นั้น มันมีเหตุและผลที่สมควรแก่จังหวะเวลาจริงๆ

เรื่องแรก คือ รถใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดในการเพิ่มยอดขายหรือรักษายอดขายท่ามกลางวิกฤตของ BMW ในช่วงตั้งแต่ปี 2020 เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ซีรีส์ 3 ที่เป็นรถรุ่นขายดีที่สุดมาโดยตลอดอยู่แล้ว เวียนมาบรรจบกับการเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด ทำให้มีราคาถูกลงกว่ารุ่นนำเข้าถึงกว่า 400,000 บาท โดยมีราคาที่ 2,519,000 บาท ในรุ่น 320d และ 2,769,000 บาท ในรุ่น 330e

เช่นเดียวกับรุ่น เอ็กซ์ 1 ที่มีการทำราคารุ่นเริ่มต้นให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2 ล้านบาท พร้อมกับการไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมกระตุ้นความสดใหม่ รวมถึงการมีรถรุ่นอื่นๆ ทยอยออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่รุ่นที่โกยยอดขายเป็นกอบเป็นกำ แต่ส่งผลในแง่ของจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี เหนืออื่นใดคือ การมีรถพร้อมส่งมอบ ลูกค้าไม่ต้องรอนาน จึงทำให้ BMW รักษาระดับการขายเอาไว้ได้โดยลดลงเพียง 4.3% 

ในทางกลับกัน ปี 2020 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผิดแผนในหลายจุด โดยเฉพาะเรื่องของรถใหม่ ที่เป็นจังหวะของการเปลี่ยนโมเดลในการทำตลาดของตัวขายที่สำคัญอย่าง ซีแอลเอ (CLA) ที่มีการหยุดทำตลาดไปและมีรุ่น เอ-คลาส มาทำตลาดเป็นหลักแทนด้วยรุ่นนำเข้าตั้งแต่เมื่อปี 2019 โดยในปี 2020 นั้น เอ-คลาสจะมีรุ่นประกอบในประเทศออกจำหน่าย ซีแอลเอ จึงถูกถอดจากไลน์อัพการขายไปและไม่มีรถส่งมอบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top