Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

‘อ.ยักษ์’ เผยการทรงงานเพื่อคนไทยของ ‘ในหลวง ร.10’ ทุ่มทรัพย์ส่วนพระองค์มหาศาล แต่น้อยคนนักที่จะรู้ 

เป็นอีกหนึ่งคลิปที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ โดยช่อง YouTube KU Radio Thailand ได้เผยแพร่คลิปการบรรยายของ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อาจารย์ยักษ์ ผู้น้อมนำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่สู่ความพอเพียง ในหัวข้อ ‘การบูรณาการศาสตร์พระราชาศาสตร์กลและศาสตร์ชุมชน’ ไว้เมื่อ 9 ก.พ.ปีที่แล้ว โดยจากบรรยายดังกล่าวได้มีการสรุปไว้ว่า…

การ #ทรงงานในปัจจุบัน ของในหลวง ร.10 ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน

จากคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ การทำโคกหนองนา มาเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้มาดูคลิปนี้ของ อ.ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร

คลิปนี้ อ.ยักษ์ บรรยายเรื่อง ‘การบูรณาการศาสตร์พระราชา ศาสตร์สากล และศาสตร์ชุมชน’ บรรยายไว้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ความยาวเกือบ 3 ชม. 

อ.ยักษ์ เล่าถึงการทรงงานของในหลวง และการถวายงานต่อในหลวง ร.10 คร่าวๆ ดังนี้

>> อ.ยักษ์ ท่านเริ่มด้วยการพูดถึงในหลวง ร.10 ว่าวัยรุ่นในยุคนี้ไม่ค่อยชอบท่านเท่าไหร่ แม้กระทั่งคนในรุ่น อ.ยักษ์ เองก็ได้ยินเรื่องข่าวลือต่างๆ นานา มาด้วยเหมือนกัน แต่พอได้มาเห็นการทรงงานของท่านมาเป็น 10 กว่าโครงการ หมด ‘เงินส่วนพระองค์’ มา #หลายหมื่นล้านจนอาจจะถึงแสนล้านด้วยซ้ำ ซึ่งเงินตรงนี้คนละส่วนกับงบประมาณแผ่นดินของทางราชการนะครับ และทุกโครงการล้วนทำเพื่อประชาชน

>> ในทุกๆ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินจะทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษบางส่วน ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งมีนักโทษที่จะได้รับอภัยโทษมีประมาณ 3 หมื่นกว่าคน แล้ว ร.10 ท่านยังไม่ลงพระปรมาภิไธย (วีโต้) และท้วงติงไปว่าถ้าปล่อยออกไปตอนนี้จะดีหรือ เพราะตอนนี้คนตกงานกันเยอะ บริษัทก็ปิด วิศวกร หมอ และทุกๆ คนลำบากกันหมด แล้วคนที่ออกจากเรือนจำ เป็นคนคุก ออกไปแล้วจะไปหากินได้อย่างไร ท่านจึงพระราชทานแนวทางมาให้ว่าให้ฝึกอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่ในเรือนจำดู (แบบที่ท่านทำที่ราบ 11)

>> อ.ยักษ์และทีมงานเป็นผู้เขียนแบบถวาย ดำเนินงานฝึกอบรม ตรงนี้อาจารย์เล่าว่าในระหว่างที่ทำงานถวายท่านเนี่ย ท่านจะให้ทำรายงานถวายทุกวัน เช้า-เย็น ต้องมีภาพและวิดีโอ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มาเบิกกับท่าน ท่านรู้ว่ากรมราชทัณฑ์ไม่มีงบประมาณตรงนี้ ท่านไม่อยากให้ไปกระทบกับงบประมาณของรัฐบาล ท่านให้มาเบิกกับท่านทุกอย่าง 

>> ท่านให้เปิดพร้อมกันทั้งหมดทั่วประเทศ 137 ศูนย์ฝึก ใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์ ซึ่งทำสำเร็จ และยังมีการฝึกอบรมต่อเนื่องอยู่ในปัจจุบัน (อ.ยักษ์ บอกแกทำศูนย์ฝึกมา 20 ปี ได้แค่ 40 ศูนย์)

>> #จุดน่าสังเกตคือ ในทุกๆ ภาพวาดฝีพระหัตถ์พระราชทาน ล้วนออกมาในช่วงเวลาที่งานมีความคืบหน้าไปในแต่ละขั้นตอน ซึ่ง อ.ยักษ์ ได้อธิบายในคลิปอย่างละเอียดในแต่ละรูป

>> ร.10 ท่านไม่ประสงค์จะให้ประชาสัมพันธ์ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา ใครจะว่าร้ายอย่างไรก็ปล่อยเขา อ.ยักษ์ บอกตรงนี้คงเป็นวิบากของท่าน เพราะทำดีแต่คนก็ยังด่า ยังเข้าใจแบบผิดๆ

>> ร.10 ท่านบอกว่าต้องทำโมเดลให้ออกมาทำตามง่าย เข้าใจไม่ยาก ให้ทำแบบ Kiss คือ keep it simple, stupid (ตรงนี้ผมไปค้นหาที่มา พบว่าทฤษฎีนี้มาจาก U.S. Navy ครับ) ท่านบอกว่าท่านตามเสด็จพ่อกับแม่ท่านมา (ร.9, พระพันปี) ท่านไม่เห็นเคยได้ยินแบบที่ข้าราชการหรือนักวิชาการเอาไปเขียนเลย ท่านบอก ร.9 เนี่ยท่านให้ทำแบบง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ชาวบ้านสามารถทำตามได้ (บางทีข้าราชการนำหลักการของท่านไปตีความและถ่ายทอดมาจนผิดเพี้ยนและเข้าใจยาก)

>> นอกจากนี้ อ.ยักษ์ ยังได้สรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงการที่ ร.10 ท่านทำ #บางโครงการ ดังนี้…

1.) ตั้งโรงเรียนจิตอาสาฝึกอบรม (เข้าใจว่าในวัง) เพราะท่านเห็นว่าระบบราชการในปัจจุบันนี้สู้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้ 

2.) ระดมคนที่ผ่านการฝึกอบรมจิตอาสามาตั้งศูนย์ฝึกที่ราบ 11 ในพื้นที่ 200 กว่าไร่

3.) จัดโครงการ 8 วิธีแบบง่ายๆ ส่งจิตอาสาไปช่วยภาครัฐสู้กับภัยแล้ง

4.) นำนักเรียนจิตอาสารุ่นที่ 2 ไปร่วมมือกับเครือข่ายชาวบ้าน ไปทดลองทำป่าต้นน้ำที่ต้นน้ำน่าน ทำไว้เป็นต้นแบบ และให้ไปช่วยเหลือกันทั่วประเทศเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำ

5.) คนตกงานกันมากหลังจาก COVID-19 โดยให้นำฟาร์มตัวอย่างของพระพันปีหลวงไปรองรับคน พันกว่าคนใน 30 ฟาร์ม โดยภายใน 1 เดือนแรกต้องให้มีกินให้ได้ จะปลูกถั่วงอก ผักบุ้ง หรืออะไรก็ได้ และต้องมีเหลือไปฝากพ่อกับแม่ หรือว่าว่าเอาไปแจกจ่ายให้กับคนที่ตกงานและไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในฟาร์ม ยังไม่ให้ขาย ค่อยขายตอนรอต่อยอดไปเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม เอาไปแปรรูป ท่านอยากให้มีบริษัทในชุมชน ประมาณนี้

6.) 137 ศูนย์ฝึกในเรือนจำ

7.) ไปพัฒนาโรงเรียนแบบ PBL - Project-Based learning (แนวคิดของ John Dewey) เป็นการเรียนรู้จากปัญหาจริง โดยเริ่มจากโรงเรียนมัธยมในจังหวัดน่านก่อน โดยเน้นจาก (1.) เปิดห้องเรียนเอาปัญหาจากภายในมาศึกษา (ครอบครัว,ชุมชน) ไม่ใช่ศึกษาแต่ปัญหาของต่างประเทศ (2.) ใช้การเรียนแบบ active learning แก้ปัญหาร่วมกันทั้ง ครู พ่อแม่ และนักเรียน (3.) เปลี่ยนวิธีการประเมิน จากที่เคยใช้ KPI มาใช้ OKR, Competency Assessment (การประเมินสมรรถนะ) 

8.) พระราชทานที่ดินในพระตำหนักอาคารทรงไทย (ที่ๆ ร.5 นั่งทอดปลาทู) ทำโครงการกตัญญูต่อ ร.5 และต่อพระราชบิดา (ร.9) - พระราชมารดา โดยจะนำเอาองค์ความรู้ที่ ร.9 ทำมาตลอดกว่า 70 ปี มาย่อให้เข้าใจง่ายๆ แบบ Kiss - keep it simple, stupid

‘ก.อุตฯ’ ผนึก ‘พลังงาน’ ปั้นขยะเป็นไฟฟ้าใช้ในภาคอุตฯ พร้อมหนุนตั้งโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ ลดการฝังกลบ

กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ กระทรวงพลังงาน ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมเพื่อผลิตไฟฟ้า (Waste-to-Energy) และการส่งเสริมการผลิตการใช้พลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แสดงความยินดีในความร่วมมือในครั้งนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงพลังงานลงนามในบันทึกความเข้าใจการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมเพื่อผลิตไฟฟ้า (Waste-to-Energy) และการส่งเสริมการผลิตการใช้พลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีระยะเวลาความร่วมมือ 4 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ และได้พลังงานไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ สร้างมูลค่าจากขยะอุตสาหกรรม สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ที่เน้นในการพัฒนา 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) หรือโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มีความต้องการให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกกระบวนการ และสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมให้เป็นอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industry) และนโยบายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รวมทั้งการส่งเสริมการผลิต การใช้พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนทางพลังงานของประเทศ

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้วางแผนการดำเนินงาน (Roadmap) กำหนดเป้าประสงค์ (Achievement Target) และเป้าความสำเร็จย่อยเป็นระยะ ๆ (Milestone) โดยมีคณะกรรมการร่วมฯ ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามบันทึกความร่วมมือเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 โดยได้มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลธุรกิจอุตสาหกรรมรวมถึงวัตถุอันตรายด้านการผลิต สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ตามกรอบของกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินงาน

นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า กรอ. จะเร่งดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ โดยสนับสนุนข้อมูลพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการตั้งโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับขยะอุตสาหกรรมในประเทศไทย เช่น ปริมาณ ประเภท และคุณสมบัติของขยะอุตสาหกรรม รวมทั้งข้อมูลผู้ประกอบกิจการขยะอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ขยะอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบการจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้สำรวจปริมาณขยะอุตสาหกรรมที่มีค่าความร้อนที่เหมาะสมสำหรับนำมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้า เช่น เศษพลาสติก เมื่อทราบปริมาณและพื้นที่เป้าหมายแล้ว จะนำมาวางแนวทางความเป็นไปได้ในการตั้งโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมต่อไป

‘บางขุนเทียน’ จัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ เปิดพื้นที่ให้คู่รัก LGBTQ+ จูงมือจดแจ้งคู่สมรส 

วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 65 ของสำนักงานเขตบางขุนเทียน จัดงาน ”บางขุนเทียนแสงเทียนแห่งรัก" เปิดให้คู่รักชายหญิงเข้าจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ยังมีความพิเศษ คือ ได้เปิดให้คู่รักเพศทางเลือก LGBTQ+ ได้มาจดทะเบียนสมรสเช่นกัน โดยทุกคู่จะได้รับทะเบียนสมรสที่เรียกว่า ใบรับการแจ้งคู่ชีวิต พร้อมของที่ระลึกเป็นหลอดไฟเพื่อนำเป็นสัญลักษณ์ในการส่องสว่างชีวิตของคนทั้งคู่ 

คู่แรกที่ได้จดแจ้งชีวิตคู่อย่าง น.ส.ณัฐรดา ฉิมช้าง ชาวไทย กับ MISS SHANNON DENISE BATES ชาวอเมริกัน บอกว่า การแต่งงานเพศทุกเพศสำคัญไม่ว่าจะเพศอะไร สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการแบ่งแยก การจดทะเบียนในวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นนำร่องทางกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตคู่สมบูรณ์ขึ้น เช่นในกรณีเจ็บป่วย เราไม่สามารถเซ็นยินยอมให้รักษาได้ เพราะโรงพยาบาลไม่ยินยอม ต้องไปตามครอบครัวมาเซ็นยินยอม ซึ่งถ้าข้อกฎหมายนี้ผ่าน เราก็สามารถให้เขาที่คอยอยู่กับเรามีสิทธิเซ็นยินยอมได้ แต่ถ้ายังไม่มีการเริ่มก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ 

สวนนงนุช ผุดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวพัทยา จัดพิธีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง รับวาเลนไทน์

สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดพิธีจดทะเบียนสมรส บนหลังช้าง 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ ประจำปี 2565 ให้กับคู่บ่าวสาวจำนวน 9 คู่ โดยมี นักท่องเที่ยวร่วมเป็นสักขีพยานคับคั่ง

โดยภายในงานทางสวนนงนุชพัทยา ได้จัดขบวนแห่ขันหมากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยนำคู่สมรส 9 คู่แรก นั่งบนหลังช้าง เพื่อร่วมขบวนแห่ขันหมาก เข้าสู่บริเวณจัดงาน ณ สวนลอยฟ้า สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคู่บ่าวสาวที่มาร่วมงาน ซึ่งในปีนี้มีคู่รักมาร่วมจดทะเบียนคู่รักบนหลังช้าง กว่า 50 คู่ 

รัฐบาลเคาะงบพัฒนาจังหวัด-ภาค 4 หมื่นล้าน

นายเอนก มีมงคล รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรม.กลาโหม เป็นประธาน วันที่ 14 ก.พ.2565 ได้เห็นชอบเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566 – 2570 

ทั้งนี้ในการพัฒนาตามแผนนั้น กำหนดแนวทางไว้ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และแผนพัฒนาของแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือ เน้นการพัฒนาตามแผนล้านนา ครีเอทีฟ การแก้ปัญหาความยากจน ภาคอีสานเน้น เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มลุ่มน้ำโขง การท่องเที่ยว และภาคใต้ เน้นการท่องเที่ยว เกษตร และระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เป็นต้น

‘ครูธัญ’ ยินดีหน่วยงานตระหนักรู้ความเท่าเทียม หลังเขตบางขุนเทียน จัดจดทะเบียนคู่รัก LGBTQ+

‘ปักธงสมรสเท่าเทียม’ โดยภาครัฐ ‘ครูธัญ’ ชม สำนักงานเขตบางขุนเทียน จัดจดทะเบียนสมรสคู่รัก LGBTQ+ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก ชี้ ยอมให้แสดงสัญลักษณ์ แม้ยังไม่มีผลทางกฎหมาย คือความก้าวหน้า

วันที่ 14 ก.พ. 65 ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่าง ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. …. หรือ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม กล่าวชื่นชมสำนักงานเขตบางขุนเทียน ที่จัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสคู่รักผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ ที่ศูนย์การค้า The Bright พระราม 2 โดยระบุว่า เป็นอีกกิจกรรมที่สามารถสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นความหลากหลายทางเพศได้ แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือการจดทะเบียนในวันนี้จะยังไม่มีผลทางกฎหมาย อย่างไรก็ดี ตนรู้สึกมีความยินดีที่หน่วยงานราชการมีความตระหนักรู้และให้ความสำคัญต่อประเด็นความไม่เท่าเทียมที่ยังมีอยู่ในสังคม โดยเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตี มีส่วนในการร่วมเปลี่ยนแปลงผลักดัน แม้ในเชิงสัญลักษณ์ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ  

ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี 2569

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้เข้าพบ เพื่อมอบเอกสารประมูลสิทธิ์การขอจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 (ฉบับจริง) อย่างเป็นทางการ ต่อนายกสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH)  ซึ่งหากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้จะส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้คณะผู้บริหาร AIPH ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหาร ร่วมการประชุม Spring Meeting ของ AIPH ระหว่างวันที่ 6 – 12 มีนาคม 2565 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อพิจารณาการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นและการสนับสนุนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 ก่อนที่คณะผู้บริหาร AIPH จะเดินทางเข้าตรวจพื้นที่เพื่อประเมินความพร้อมของจังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 13 - 17 กุมภาพันธ์ 2565 ในการเสนอประมูลสิทธิ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ต่อไป

สำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลกเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกมาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 (Type A1) ได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2554 (Type B) ซึ่งประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการจัดงาน จนเป็นที่ประจักษ์และได้รับความชื่นชมจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในด้านพืชสวนโลกประเทศหนึ่งในเอเชีย เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล

‘อนุทิน’ ยันไม่ถอนตัวรัฐบาล ลั่น สนับสนุน ‘บิ๊กตู่’ เต็มประตู

“อนุทิน” หยอดคำหวาน “หนู” ช่วยอยู่แล้ว ยัน ไม่ถอนตัวรัฐบาล ลั่น มาด้วยกันไปด้วยกัน กั๊ก ปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวกระทบซักฟอก แย้ม ขอดูรายละเอียดก่อน

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่14 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่า “หนูช่วยหน่อยนะ” หลังการประชุมศบค. เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามตนเรื่องนี้ว่า “พี่พูดกับหนูเมื่อไหร่” จึงตอบไปว่าจำไม่ค่อยได้ แต่เป็นธรรมดา หาก พล.อ.ประยุทธ์ บอกให้ช่วยก็ต้องช่วยกันทำงาน เป็นหน้าที่อยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ พูดทำนองนี้ แต่ไม่ได้บอกว่า หนูช่วยหน่อยนะ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าให้ช่วยเรื่องอะไร แต่เป็นการช่วยทำงาน ช่วยให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดคุยดังกล่าวยืนยันตัวเลข 260 เสียงรัฐบาล กับนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวเลขนี้ไม่รู้มาจากไหน ยืนยันจะพยายามทำให้เกิดความมีเสถียรภาพให้ได้มากที่สุด

เมื่อถามว่าในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แม้ไม่มีการลงมติ พรรคภูมิใจไทยจะช่วยเหลือรัฐบาลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องสนับสนุน นายกฯ เต็มประตูอยู่แล้ว นายกฯ ยังไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ผิดไปจากนโยบายที่ได้แถลง ทุกอย่างเป็นไปตามทำนองคลองธรรม สิ่งที่นายกฯ ทำทุกอย่างถ้าเป็นประโยชน์กับประเทศ เราเป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องสนับสนุน ต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีวาระพิจารณาประเด็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เห็นวาระการประชุม เมื่อถามย้ำว่า หากครม. พิจารณา แล้วผลไม่เป็นไปตามที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวย้อนว่า ให้เกิดขึ้นก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากพิจารณาแล้วไม่ว่าผลจะออกมาทิศทางใด จะยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าจะเสนอเข้ามาในรูปแบบไหน จะไปพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม ส่วนรายละเอียดต้องให้ผู้เกี่ยวข้องนำมาชี้แจงในที่ประชุมครม. 

'รมว.เฮ้ง' สนองนโยบาย 'ลุงตู่' ลุยฝึกอาชีพแก้ไขปัญหาความยากจน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง สังคมไทยมีความสงบสุข สามัคคีและเอื้ออาทร ให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กระทรวงแรงงานมีนโยบายให้คนทุกกลุ่มมีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ มีการส่งเสริมการฝึกทักษะอาชีพ ตลอดจนดูแล เรื่องสวัสดิการและความคุ้มครองให้กับแรงงาน พัฒนาศักยภาพแรงงานของคนทุกกลุ่มให้มีทักษะในการทำงานหรือการประกอบอาชีพอิสระ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ารับการฝึกอาชีพสาขาต่างๆ และในขณะนี้มีคนว่างงานจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงกำชับให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งดำเนินการฝึกอบรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับปร+ะชาชนเป้าหมาย ขจัดความยากจนให้เกิดผลสำเร็จ    

นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีหลักสูตรการฝึกอบรมให้กับผู้ว่างงาน ผู้ตกงานจากสถานการณ์โควิด – 19 ระยะเวลาการฝึกอบรมหลักสูตรละ 5 วัน มีค่าอาหารให้ผู้ฝึกอบรมวันละ 100 บาท มีเป้าหมายดำเนินการทั้งสิ้น 20,000 คน เศษ ดำเนินการฝึกทุกหน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ  หลากหลายหลักสูตร อาทิ หลักสูตร Smart Farmer การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การสร้างสื่อมัลติมีเดียเพื่อการท่องเที่ยว การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร การประกอบธุรกิจร้านกาแฟ การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร การทำผลิตภัณฑ์จากผ้า และหลักสูตรอื่นๆ อีกมากมาย

โดยที่ผ่านมาผู้ผ่านการฝึกอบรมนำความรู้ไปประกอบอาชีพและทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ดังเช่นนางบัน บุญภา อายุ 45 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 14 บ้านหินโงม ตำบลสร้างนกทา อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ มีอาชีพเป็นเกษตรกรทำนาตามฤดูกาลและเลี้ยงวัว เข้าฝึกอาชีพกับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานอำนาจเจริญ หลักสูตรการจักสานผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติกขนาด 6 มิลลิเมตร ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจักสานผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติก จากแต่ก่อนไม่มีความรู้อะไรเลย พอมาฝึกอบรม ได้ใช้ความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาไปจักสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกแล้วนำลงขายในเฟซบุ๊กของน้องสาว ต่อมาจึงได้พัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้นนำลงขายในเฟซบุ๊กของตัวเอง และในเฟซบุ๊กของกลุ่มสานตะกร้าบ้านหินโงม ทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มเข้ามาใช้จ่ายในครอบครัว เดือนละ 4,000 บาท

โดยช่องทางในการจัดจำหน่ายก็มีขายตามเฟซบุ๊ก ของตัวเอง ชื่อว่าบัน บุญภา และขายผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่มจักสานตะกร้าพลาสติกบ้านหินโงม นอกจากนี้ก็ไปจดทะเบียน OTOP กับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งหากสำนักงานพัฒนาชุมชน มี event มีงานทางกลุ่มก็จะไปร่วมจัดจำหน่ายสินค้าโดยนำตะกร้าจากกลุ่มนี้ออกไปนำขายจัดจำหน่ายเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่ง

"โฆษกรัฐบาล" ยัน ผู้ป่วยโควิด-19 ยังรักษาฟรีตามสิทธิ “ข้าราชการ-ประกันสังคม-บัตรทอง” ย้ำ ไม่หมดสิทธิรักษาฟรี ประชาชนอย่าได้กังวล ขอให้เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย  เผย “บิ๊กตู่” กำชับต้องดูแลสุขภาพประชาชนไทยทุกกลุ่ม 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจง กรณีที่มีกระแสข่าวอ้างการถอดการรักษาโควิด-19 ออกจาก UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) หรือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า หากติดโควิด-19 แล้วต้องจ่ายค่ารักษาเองนั้น โดย กระทรวงสาธารณสุขมีแผนปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มาเป็นการรักษาตามสิทธิการรักษาพยาบาลของแต่ละคนนั้น ขอยืนยันว่า ประชาชนยังได้รับการรักษาเหมือนเดิมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งยังสามารถไปรับบริการในโรงพยาบาลเอกชนได้ หากมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ขอประชาชนอย่ากังวลเรื่องการรักษา ย้ำ การถอนโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินวิกฤติ ไม่ได้หมายความว่า “หมดสิทธิรักษาฟรี” 

นายธนกร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งผู้ป่วย 80-90% แทบไม่มีอาการ สามารถรักษาตัวที่บ้านในระบบ Home Isolation ได้ ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน จึงไม่มีเหตุที่ต้องรีบเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หากมีการประกาศให้โรคนี้ไม่เป็นภาวะฉุกเฉิน ผู้ป่วยก็สามารถไปรับการรักษาพยาบาลได้ตามระบบปกติตามสิทธิของตนที่มีอยู่ เช่น หากใช้สิทธิบัตรทอง จะมีหน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนไว้ ผู้ป่วยสามารถไปรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือหากเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation สปสช. ก็ยังดูแลค่าใช้จ่ายให้เหมือนเดิม แต่หากมีอาการฉุกเฉิน ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่สุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน ทั้งนี้ ปัจจุบันประชาชนไทยได้รับการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลจากรัฐบาล 3 ระบบใหญ่ด้วยกัน ได้แก่ 1) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ 2) สิทธิประกันสังคม และ 3 สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือบัตรทอง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top