Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

'โบว์ - ณัฏฐา' ชี้ ขายออนไลน์แล้วปากจัด เป็นหนึ่งใน 'การสร้างความบันเทิง' ท้ายสุด 'คุณภาพสินค้า' ก็ต้องมาก่อนเป็นที่หนึ่ง

ขายออนไลน์ต้องปากจัด ?

เหตุใดการค้าขายออนไลน์ในสมัยนี้ เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขายถึงมักงัด ‘ฝีปาก+ท่าทาง’ หรืออาจจะถึงขั้นทำพฤติกรรมถ่อยๆ ผ่านหน้าจอโซเชียลกันมากขึ้น 

เราจะเริ่มเห็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนหลายกลุ่ม เริ่มขายไปด่าไป บางรายหนักไปจนถึงขั้นท้าลูกค้าตบ แต่เรื่องน่าแปลก คือ แม้ว่าท่าทางและถ้อยคำที่ไม่สุภาพเหล่านั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์ แต่กลับกันดันมีกลุ่มนิยมและทำให้สินค้า ‘ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า’ 

เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย เกิดอะไรขึ้นกับวัฒนธรรมการค้าขาย และการเสพติดของคนในโซเชียลกันแน่?

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ‘คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา’ ได้ให้ความเห็นไว้ผ่านรายการ Meet THE STATES TIMES ‘เดอะ ดีเบต’ ว่า…

“การค้าขายในลักษณะนี้ หากมองในหลากหลายมิติ โดยเลือกมองในมิติที่ตื้นสุดแล้ว จะพบว่า การค้าขายเหล่านี้ คือ ‘การสร้างความบันเทิง’ อย่างหนึ่งให้กับผู้รับชม

“มิติต่อมา คือ ‘นี่เป็นของแปลก’ เพราะหากมองย้อนไปการค้าขายในรูปแบบก่อนๆ  ผู้ค้าขายมักจะประพฤติตนด้วยความสุภาพ ให้เกียรติลูกค้า พร้อมตั้งใจบรรยายสรรพคุณต่างๆ แต่พอเป็นสมัยนี้ การค้าขายเปลี่ยนรูปแบบการขายไปด่าไป หรืออาจใช้การแต่งตัวเข้าช่วย ก็ทำให้คนรู้สึกว่าแปลกใหม่ จึงสร้างความสนใจให้กันคน 

เลขาฯ อนุทิน สวนเดือด ‘ธีรรัตน์’ จอมบิดเบือน ตั้งตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ยังทำตัวน้ำเน่า

เลขาฯ อนุทิน สวนเดือด ‘ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์’ จอมบิดเบือน ปมกราฟิกยกเลิกสิทธิ์รักษาฟรี ผู้ป่วยโควิด-19 ซัด ตั้งตัวเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ยังทำงานแบบน้ำเน่า 

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพบนเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ระบุว่าอย่าด่วนปลดโควิด-19 จากสิทธิ์รักษาฟรี คนไทยยังลำบาก ผู้ติดเชื้อรายวันยังสูง โดยปรากฏหน้าของ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทยอยู่ในภาพว่า การทำกราฟิกออกมาเช่นนี้คือการบิดเบือนข่าวสารอย่างน่ารังเกียจที่สุด ในความเป็นจริง สิ่งที่ภาครัฐจะปฏิบัติ คือการเอาโควิด-19 ออกจากบริการ UCEP (ยูเซ็ป) หรือการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ แล้วให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์การรักษาที่มีแทน ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม สิทธิ์ข้าราชการ ซึ่งแปลว่ารัฐยังดูแลท่านอยู่ แต่ข้อความที่ น.ส.ธีรรัตน์นำเสนอออกมานั้น ทำให้คิดไปได้ว่ารัฐเทประชาชนแล้ว รัฐทิ้งประชาชนแล้ว จะรักษาโควิด-19 ต้องจ่ายเพิ่ม ไม่ฟรี ทั้งที่ความจริง นี่คือการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ระบาด ไปจนถึงการรักษาสถานภาพทางการเงิน และที่สำคัญประชาชนไม่ต้องไปจ่ายอะไรเพิ่มเลย

“พรรคกล้า” ทำบุญครบ 2 ปี “กรณ์” ย้ำเดินหน้าการเมืองคุณภาพ ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว ลั่นไม่ได้เป็นพรรคสำรองของใคร พร้อมเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ที่ทำการพรรคกล้า ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม จตุจักร กทม. พรรคกล้า จัดงานทำบุญครบรอบ 2 ปี วันก่อตั้งพรรค โดยทำบุญทำพิธีศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ โดยมีผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากภาคต่างๆ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ก. และผู้สนับสนุนพรรค มาร่วมงานจำนวนมาก

โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันดี เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันครบรอบวันจดทะเบียนชื่อพรรค เป็นวันเริ่มต้นเส้นทางทำงานการเมืองคุณภาพ เวลาผ่านไป 2 ปี พรรคกล้ามีโอกาสช่วยเหลือประชาชน ทำภารกิจสำคัญให้กับบ้านเมืองมากมาย ทั้งที่ยังไม่มีใครมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้พิสูจน์ตัวเองในสนามการเมืองมาหลายสนาม จึงมีความพร้อม ความมุ่งมั่นตั้งใจ และใกล้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะมีโอกาสได้เสนอแนวความคิดและตัวบุคลากรคุณภาพ ให้ประชาชนมีโอกาสได้เลือก ในสนามเลือกตั้งใหญ่ที่คิดว่าจะมาถึงในอีกไม่ช้า

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า พรรคกล้ายึดหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะความเป็นชาติคือสังคมต้องเข้มแข็ง ความขัดแย้งทั้งหมดที่ผ่านมา ต้องก้าวข้ามให้ได้ เศรษฐกิจต้องเข้มแข็ง ซึ่งวันนี้ประชาชนสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง และหลักการที่พรรคฯ ยึดถือมาตลอดคือหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย ยอมรับในความเป็นอิสระส่วนบุคคล ที่จะคิดจะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้อื่น ไม่มีผลกระทบในแง่ลบต่อสังคม ยอมรับความแตกต่างความหลากหลาย ยึดหลักเสียงข้างมากแต่ต้องให้เกียรติเสียงข้างน้อย

แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรื่องนี้ขาดหายไปจากการเมืองไทย และทำให้เราติดกับดักความขัดแย้ง ทำให้ประเทศชาติไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ส่วนหลักการปฏิบัติ เรามุ่งมั่นลงมือทำ ด้วยหลักปฏิบัตินิยม อยู่บนโลกความเป็นจริง เอาผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง โดยเป้าหมายหลักคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ส่วนเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน คือการให้ความสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ตอบโจทย์ปัญหาความท้าทาย ทั้งหมดนี้คือแนวความคิดความตั้งใจของพรรคฯและนโยบายทั้งหมดที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชน

ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายกรณ์ กล่าวว่า เป้าหมายพรรคฯตอนนี้อยู่ที่สนามเลือกตั้งใหญ่เป็นหลัก เพราะรัฐบาลยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อใด ดังนั้นในวันที่รัฐบาลมีความชัดเจน พรรคกล้าก็จะมีความชัดเจน ซึ่งตนพูดเรื่องนี้มาโดยตลอดว่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือเลือกตั้งใหญ่ก่อน แต่พรรคกล้าก็มีการเตรียมชุดความคิดในแง่นโยบายว่าอยากจะทำงานให้คนกรุงเทพฯ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวกรุงเทพฯให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ทำมาหากินโดยสะดวก มั่นใจว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญมากในการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองในฝันของพวกเราทุกคน

สำหรับการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งสนามใหญ่นั้น นายกรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนรอคอยการแก้ไข แต่ดูเหมือนรัฐบาลขาดสมาธิ ขาดความคิดใหม่ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน สถานการณ์รอบตัวลักษณะนี้ อดคิดไม่ได้ว่าการเลือกตั้งอาจจะเร็วกว่าที่คิดก็ได้ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเดือนนี้หรือเดือนหน้า ก่อนหรือหลังเดือนพฤษภาคม ปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ตาม มีเวลาเหลืออีกไม่มาก ซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา สะท้อนว่าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง และบ่งบอกว่าพรรคกล้ามาถูกทางแล้ว ที่นำเสนอทางเลือกใหม่และว่าที่ผู้สมัครคนใหม่ ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดคือสิ่งที่สังคมต้องการ

นายกรณ์  กล่าวถึงการวางเป้าหมายส่งผู้สมัครส.ส.ว่า ด้วยกติกาการเลือกตั้งและความเป็นพรรคการเมืองใหม่ การส่งผู้สมัครส.ส.ลงทุกเขตคงเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นก็จะเลือกเขตที่มองว่ามีโอกาส มีผู้สมัครที่พร้อม และเป็นผู้สมัครที่มีชุดความคิดตรงกับอุดมการณ์ของพรรคชัดเจน ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเราไม่ดันทุรังส่งผู้สมัครที่ไม่พร้อม แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ประเมินถึงจำนวนว่าจะส่งผู้สมัครส.ส.เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าพรรคกล้าจะเข้าไปเป็นส่วนสำคัญ ในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลรอบหน้า ขอย้ำว่าพรรคมีความตั้งใจเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ได้ตั้งพรรคมาเพื่อเป็นพรรคสำรองของใคร และจะเสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

“อนุทิน” หยอดคำหวาน “หนู”ช่วยอยู่แล้ว ยัน ไม่ถอนตัวรัฐบาล ลั่น มาด้วยกันไปด้วยกัน กั๊ก ปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวกระทบซักฟอก แย้ม ขอดูรายละเอียดก่อน

การเมือง/ทำเนียบ/14 ก.พที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่า “หนูช่วยหน่อยนะ”หลังการประชุมศบค.เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามตนเรื่องนี้ว่า “พี่พูดกับหนูเมื่อไหร่”จึงตอบไปว่าจำไม่ค่อยได้ แต่เป็นธรรมดา หาก พล.อ.ประยุทธ์ บอกให้ช่วยก็ต้องช่วยกันทำงาน เป็นหน้าที่อยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ พูดทำนองนี้ แต่ไม่ได้บอกว่า หนูช่วยหน่อยนะ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าให้ช่วยเรื่องอะไร แต่เป็นการช่วยทำงาน ช่วยให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดคุยดังกล่าวยืนยันตัวเลข 260 เสียงรัฐบาล กับนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวเลขนี้ไม่รู้มาจากไหน ยืนยันจะพยายามทำให้เกิดความมีเสถียรภาพให้ได้มากที่สุด
 
เมื่อถามว่าในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แม้ไม่มีการลงมติ พรรคภูมิใจไทยจะช่วยเหลือรัฐบาลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องสนับสนุน
นายกฯเต็มประตูอยู่แล้ว นายกฯยังไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ผิดไปจากนโยบายที่ได้แถลง ทุกอย่างเป็นไปตามทำนองคลองธรรม สิ่งที่นายกฯ ทำทุกอย่างถ้าเป็นประโยชน์กับประเทศ เราเป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องสนับสนุน ต้องช่วยกัน
 
เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีวาระพิจารณาประเด็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เห็นวาระการประชุม เมื่อถามย้ำว่า หากครม.พิจารณา แล้วผลไม่เป็นไปตามที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวย้อนว่า ให้เกิดขึ้นก่อน  ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากพิจารณาแล้วไม่ว่าผลจะออกมาทิศทางใด จะยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าจะเสนอเข้ามาในรูปแบบไหน จะไปพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม ส่วนรายละเอียดต้องให้ผู้เกี่ยวข้องนำมาชี้แจงในที่ประชุมครม. 

เมื่อถามว่าผลการพิจารณาเรื่องสายสีเขียว จะส่งผลต่อท่าทีของ ภูมิใจไทยในสภาฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คนอนุมัติเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ ครม. ต้องรอให้เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อน ยังไม่ทราบว่าหากรัฐมนตรีได้ฟังการหารือของสองหน่วยงาน ที่นำเหตุผลมาว่ากัน ผลจะออกมาอย่างไร อาจจะยังไม่มีข้อสรุปออกมาก็ได้ ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของรัฐบาล เป็นเพียงความเห็นที่ไม่ตรงกันของสองหน่วยงาน เป็นของเรื่องของการทำงาน ไม่เกี่ยวกับการเมือง

“อนุทิน”แจง ปมยกเลิก โควิด-19 ออกจากยูเซ็ป ยัน รัฐยังดูแลอยู่ตามสิทธิ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค(ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ(ก.น.จ.) ครั้งที่ 1/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกฯย้ำให้ติดตามงาน เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 จึงให้ความมั่นใจ ว่ากระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมแม้จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

เช่น กรณีนำโรคโควิด 19 ออกจากบริการ UCEP (ยูเซ็ป)หรือการให้บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ไม่ได้หมายความว่ายกเลิก แต่จะทำให้โควิด-19 เป็นโรคปกติ ไม่ใช่โรคฉุกเฉิน หากใครติดโควิด-19 แล้วมีอาการหนักสามารถเข้ารักษาฉุกเฉินได้ในสถานพยาบาลทุกที่ สปสช.ดูแลครบ และสิทธิบัตรทอง ใช้ได้ทุกที่อยู่แล้ว แต่การไปแปลความว่าจะยกเลิก ไม่จ่าย ไม่ดูแล ยืนยันว่าไม่ใช่ ถึงอย่างไรรัฐก็จ่ายตามสิทธิ์ที่ทุกคนมีอยู่ หากใครฉุกเฉินหรือมีอาการหนัก เรารักษาอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะโควิด-19 อย่างเดียว 

“สงคราม” แนะ “บิ๊กตู่” ทบทวนสิทธิ์รักษาโควิดฟรี ชี้ ข้ออ้างหมดเงินฟังไม่ขึ้นอัดรัฐบาลอย่าผลักภาระให้ประชาชน 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (ศบค.) มีแนวคิดในการยกเลิกการรักษาฟรีให้ประชาชน ที่ติดเชื้อโควิด อ้างว่า ใช้งบประมาณสูงมากมาก ที่ผ่านมา รัฐบาลทุ่มเงินให้ฟรีหมดไม่มีประเทศไหนทำ ในสถานการที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะแตะ วันล่ะ 14,000-15,000 คน แบบนี้ รัฐบาลไม่สามารถรับภาระได้ 

อยากเตือนไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ที่อ้างว่างบประมาณไม่พอนั้น อยากทราบว่าเงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท ที่มาขออำนาจสภาไปกู้มานำไปใช้อะไรหมด เงินส่วนนี้ควรนำไปใช้เพื่อบริการประชาชน เพราะเป็นเงินของประชาชน หรือนำเงินกู้ไปซื้ออาวุธให้กองทัพ รวมทั้งหากไม่รักษาให้ประชาชน ฟรีก็เป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ ตามาตรา 47 ที่บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ และบุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นรัฐจะมาโยนภาระให้กับประชาชนไม่ได้ 

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า จากเดิมเมื่อประชาชนหากติดเชื้อโควิดแล้วสามารถรักษาได้ทุกที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชน หากยกเลิกสิทธิรักษาโควิดฟรีทุกที่เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังผลักภาระให้ประชาชน ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังกลับมาพบผู้ติดเชื้อยอดทะลุ 10,000 รายต่อวันอีกครั้ง

‘วอลมาร์ต’ รัฐฟลอริด้า ใช้มาตรการเด็ด ล่าม แพ็กเนื้อสเต๊ก ด้วยลวดเหล็กกันขโมยฉก

รายงานข่าว เผยว่าห้างวอลมาร์ต รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ปกป้องแพ็กบรรจุริบอายสเต็กราคา 20 ดอลลาร์ ด้วยลวดตาข่ายโลหะหุ้มห่ออีกชั้น เพื่อไม่ให้ถูกฉกฉวย หรือขโมยออกไปง่ายๆ ท่ามกลางอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Florida Walmart ให้กับแพ็กเนื้อริบอาย (ribeyes) ในราคา 20.83 ดอลลาร์ (682 บาท) ด้วยการใช้ลวดตาข่ายโลหะหุ้มห่อไว้อีกชั้น “ตาข่ายและแท็กความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันการโจรกรรมเนื่องจากอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ”

ตามรายงานข่าว  Michael Fromhold ซึ่งเป็นลูกค้าจากฟลอริด้า พอเห็นแล้วตกตะลึงเมื่อสังเกตว่าแพ็กเนื้อสัตว์ ถูกล็อกด้วยเหล็กลวดหุ้มไว้อีกชั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการพยายามอย่างมากที่จะหยุดยั้งจากการถูกขโมย

‘ทิพานัน’ ซัด ‘เพื่อไทย’ จงใจบิดเบือน ปัดรัฐบาลถังแตก ยันติดโควิดยังรักษาฟรี

“ทิพานัน” ซัดเพื่อไทยฆ่าคนทั้งแผ่นดิน จงใจสื่อสารบิดเบือนรัฐบาลปลดโควิดจากการรักษาฟรี ชี้เข้าข่ายผิดพรบ.คอมพ์ฯ - ผิดมนุษยธรรม ยันหากปรับออกจากภาวะฉุกเฉิน (UCEP) เพราะสถานการณ์คลี่คลาย ย้ำผู้ป่วยโควิดยังรับการรักษาฟรีทุกคน ตามสิทธิเดิมที่มีได้

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการเผยแพร่รูปภาพตัดตอนบิดเบือนข้อความให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดว่าจะมีปลดโควิดจากการรักษาฟรีว่า เป็นการสื่อสารที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ที่นอกจากจะแสดงถึงมาตรฐานการสื่อสารของพรรคเพื่อไทยที่ตกต่ำลงแล้ว ยังส่งผลเสียหายอย่างประเมินไม่ได้ต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนที่หลงเชื่อข้อความดังกล่าว แล้วไม่ยอมเข้ารับการรักษาเพราะคิดว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำเพื่อประชาชนตามที่มักชอบกล่าวอ้าง 

“พรรคเพื่อไทยต้องระวังการตัดตอนข้อความไปสื่อสารเป็นภาพ แม้จะมีข้อความด้านใน แต่สะท้อนความจงใจบิดเบือนและสร้างความเข้าใจผิด เพียงแค่หวังจะโจมตีทางการเมืองอย่างนั้นหรือ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกสิ้นหวัง หมดสิ้นหนทาง ไม่กล้าไปรักษา จนอาจเป็นการฆ่าคนทั้งแผ่นดินให้ตายทั้งเป็น เป็นการผิดหลักมนุษยธรรมที่ควรพึ่งมีต่อชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ที่สำคัญกรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” 

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคือ แม้ในอนาคตอาจมีการปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากภาวะฉุกเฉินวิกฤติรักษาทุกที่ (UCEP) มาเป็นการรักษาตามสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพ ผู้ป่วยโควิดก็ยังสามารถเข้ารับการรักษาฟรีทุกคน สามารถเข้ารักษาตามระบบตามสิทธิสุขภาพของแต่ละคน ได้แก่ สิทธิสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม บัตรทอง ฯลฯ และหากป่วยเป็นโควิดแล้วมีอาการฉุกเฉินด้วย เช่น มีไข้สูง หายใจไม่สะดวก หอบเหนื่อย ความดันต่ำ ไม่ค่อยรู้สึกตัว รู้สึกจะเป็นลม ก็สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบได้ด้วยอาการฉุกเฉินวิกฤตินั้น ทางกองทุนสุขภาพของผู้ป่วยรายนั้นๆ จะตามไปดูแลให้

'กอบศักดิ์' ชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงในโลกเศรษฐกิจ หากเหตุ 'รัสเซีย-ยูเครน-พันธมิตร' ปะทุ!!

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กถึงปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจหากเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ว่า ...

ถึงเวลาที่เราต้องคิดเรื่อง Plan B ในกรณีของยูเครน !!!

ไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้ง ไม่อยากให้เกิดสงคราม อยากให้มีทางลงสวยๆ ที่ทุกคนตกลงยอมความกันได้ 

แต่จากสัญญาณต่างๆ ที่ออกมา ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

1.) การอพยพคนออกจากยูเครนของสถานทูตต่างๆ ซึ่งล่าสุด อิสราเอล ที่มีหน่วยข่าวกรองดีที่สุดประเทศหนึ่ง กำลังเร่งนำคนอิสราเอลออกยูเครนภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ เช่นกัน 

2.) การเคลื่อนไหวของกองทัพและยุทโธปกรณ์ของรัสเซียรอบๆ ยูเครน

3. การประชุมล่าสุด 62 นาทีระหว่างประธานาธิบดี Biden และ Putin ก็ไม่ได้มี breakthrough ซึ่งส่งผลอะไรที่จับต้องได้ในเชิงการเปลี่ยนใจ แต่ได้เป็นโอกาสในการส่งสัญญาณเตือนตรงๆ ว่า US will react decisively and impose swift and severe costs if Russia invade Ukraine.  

ทั้งหมดหมายความว่า เราควรจะเตรียมคิดไว้เบื้องต้นว่า จะต้องปรับตัวอย่างไร หากสถานการณ์ที่ยูเครนลุกลามมากขึ้น

สิ่งที่จะตามมาในเชิงเศรษฐกิจ ที่เราต้องรับมือ เมื่อปัญหาเริ่มลุกลามขึ้น คือ

1.) ความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งในส่วนหุ้น และ สินทรัพย์ทางเลือก

2.) ราคาน้ำมันและราคา Commodities บางตัวที่จะเพิ่มขึ้น (น้ำมันอาจจะทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล) จากการที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในน้ำมัน ก๊าซ ที่ยุโรปพึ่งพา และเป็นแหล่งผลิตสินค้า Commodities บางตัว เช่น พาลาเดี่ยม ที่จะมีนัยไปถึงการผลิต Chip ในตลาดโลก  

ทั้งหมดนี้ จะมีผลต่อเนื่องไปยังปัญหา Global supply disruption รวมทั้ง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ 

3.) การไหลเวียนของ Fund Flows ในโลกไปยัง Safe Haven ต่างๆ ทั้งในส่วนของ ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะ ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีความลึกมีสภาพคล่องที่ดี และจะส่งผลไปถึงค่าเงินดอลลาร์ต่อไป

'โฆษกรัฐบาล' เผย 'นายกฯ' ขอพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันทำงานเต็มที่ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องการเมือง วอน อย่าหยิบยกมาเป็นประเด็น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอความร่วมมือให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันทำงานเต็มที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน ว่า นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือจากทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้ช่วยกันทำงานในทุกเรื่อง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยไม่ได้เฉพาะแค่ว่าเรื่องการเมืองเท่านั้น  และไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าขอความร่วมมือจากพรรคภูมิใจไทยเพียงพรรคเดียว แต่ขอความร่วมมือจากทุกพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลเองก็ช่วยกันทำงานเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ไปขยายผลว่า นายกฯ ขอความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะเรื่องการเมืองเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top