Wednesday, 25 June 2025
Hard News Team

เลือดเย็น! ‘วันชัย’ ซัด ‘ทักษิณ’ ใจเร็วด่วนได้  เตือนระวังทำลายทั้ง ‘พรรค-ลูก-ครอบครัว’

(27 มี.ค. 65) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิ โพสต์ข้อความเรื่อง "ทักษิณใจเร็วด่วนได้ ทำลายพรรค ทำลายครอบครัว" ระบุว่า

“ทักษิณใจเร็วด่วนได้ ทำลายพรรคทำลายครอบครัว
อย่างที่รู้กันว่าอำนาจและการเมืองเป็นเรื่องโหดร้าย เจ็บปวด สาหัสสากรรจ์ วิบากกรรมอย่างที่เห็นก็เป็นเพราะการเมือง คุณทักษิณและครอบครัวต้องระหกระเหินไม่มีที่จะเดินในประเทศไทย ทั้งญาติพี่น้องลูกหลานหลายต่อหลายคนแม้จะอยู่ในประเทศไทยก็ไม่ค่อยกล้าจะปรากฏตัวสักเท่าใด ต้องอยู่อย่างเงียบๆก็เพราะอำนาจและการเมืองทั้งนั้น ยังไม่เข็ดกันอีกหรือ 7-8 ปีที่ผ่านมานึกว่ากาลเวลาจะเยียวยาแรงอาฆาตให้ลดลงไปได้บ้าง การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือเรื่องอื่นๆก็น่าจะพอทำได้แก้เหงาไปวันๆ แต่ถึงขั้นส่งเองลูกของตัวเองออกมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัวในขณะที่ตัวเองยังรับกรรมอยู่ จะเป็นการแก้กรรมหรือจะเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพิ่มเข้ามาอีก

“ตอนที่พรรคเพื่อไทยให้หมอชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรค ผมยังแอบชื่นชมเลยว่าคนในพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณเก่ง มีสายตากว้างไกล จิตใจกว้างขวาง หมอชลน่านเป็นคนมีฝีมือและฝีปากเหมาะสมกับการเป็นผู้นำพรรคในสถานการณ์นี้ เป็นคนรุ่นกลางๆ รุ่นสูงวัยก็เข้าได้ รุ่นกลางและวัยรุ่นก็ไปด้วยกันได้อย่างเหมาะเจาะพอดี คุณทักษิณเข้าใจเลือกคน ทุกคนกำลังจับจ้องดูความเปลี่ยนแปลงของเพื่อไทยภายใต้การนำของหมอชลน่าน คงจะลดความขัดแย้งสร้างความปรองดอง ประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย สร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง พรรคเพื่อไทยคงเป็นพรรคการเมืองของประชาชน กำลังจะถูกปลดปล่อยจากตระกูลชิน

อยากได้ใครเป็น ‘นายก’? ‘นิด้าโพล’ เปิดผลคนไทยหนุนใครเป็น ‘นายกฯ’ ด้าน ‘บิ๊กตู่-พิธา-อุ๊งอิ๊ง’ คว้าคะแนนิยมติด 1 ใน 5 อันดับ

(27 มีนาคม 65) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2565” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10-15 มีนาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,020 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

> อันดับ 1 ร้อยละ 27.62 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
> อันดับ 2 ร้อยละ 13.42 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา ชื่นชอบในวิธีการทำงาน มีวิสัยทัศน์และแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
> อันดับ 3 ร้อยละ 12.67 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์และสุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ นโยบายสามารถช่วยเหลือประชาชน ได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะได้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง
> อันดับ 4 ร้อยละ 12.53 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร
> อันดับ 5 ร้อยละ 8.22 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ ชื่นชอบนโยบาย มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ

> อันดับ 6 ร้อยละ 7.03 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนชัดเจน เด็ดขาด ตรงไปตรงมา มีความมุ่งมั่นในการทำงาน
> อันดับ 7 ร้อยละ 3.96 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนเก่ง ตรงไปตรงมา และตั้งใจทำงาน
> อันดับ 8 ร้อยละ 3.61 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
> อันดับ 9 ร้อยละ 2.77 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะ เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากต่างชาติ
> อันดับ 10 ร้อยละ 2.58 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ บริหารงานอย่างตรงไปตรงมา และตั้งใจทำงาน

ร้อยละ 5.59 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์)

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/64 เดือนธันวาคม 2564 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ , พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนลดลง

ในขณะผู้ที่ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) , น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) , คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) , พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) , นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) , นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

“อลงกรณ์” เผยเตรียมส่งออกขนุนจากภาคใต้สัปดาห์นี้ต่อด้วยลำไยจากภาคเหนือหลังจากขบวนรถไฟขนส่งทุเรียน-มะพร้าวจากภาคตะวันออกผ่านลาวไปจีนด้วยระบบขนส่งแบบผสมผสาน ”ราง-รถ” (Multi Modal-Transportation) ภายใต้พิธีสารผลไม้ไทย-จีน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ (เฉพาะกิจ)เปิดเผยวันนี้(27มีนาคม)ว่า

การขนส่งทุเรียน2ตู้คอนเทนเนอร์และมะพร้าวจำนวน6ตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟจากจังหวัดระยองในภาคตะวันออกไปยังสถานีรถไฟหนองคายเพื่อตรวจและออกใบรับรองตรวจโรคพืชไฟโตที่ด่านหนองคายตามพิธีสารผลไม้ไทย-จีน จากนั้นขบวนรถไฟจะขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวข้ามแม่น้ำโขงไปยังท่าบกท่านาแล้งก่อนยกขึ้นหัวลากจากท่านาแล้ง 2.9 กม. ไปขึ้นรถไฟลาว-จีนที่สถานีเวียงจันทน์ก่อนขนส่งไปสถานีรถไฟนาเตยแล้วยกขึ้นรถหัวลากเดินทางไปด่านบ่อเตนของลาวข้ามพรมแดนลาว-จีนไปตรวจปล่อยที่ด่านโมฮ่านในมณฑลยูนนานของจีนเป็นระบบการขนส่งหลายรูปแบบMulti Modal Transportationที่เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีที่ยังไม่สามารถขนส่งผลไม้ทางรถไฟจากลาวข้ามแดนไปด่านรถไฟโมฮ่านโดยตรงเนื่องจากจีนกำลังก่อสร้างอาคารและลานตรวจโรคพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่านจึงต้องไปใช้การตรวจโรคพืชที่ด่านโมฮ่านซึ่งเป็นด่านใหญ่ด่านเดิมไปพรางก่อน  

"บิ๊กป้อม" พลิกโฉมพื้นที่ริมคลอง  สร้างท่าเรือแข็งแรงปลอดภัย เร่งบำบัดน้ำเสีย เพื่อชาว กทม.

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนฟื้นฟู และพัฒนาในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จากที่ได้นำร่อง  3 คลองหลัก คือ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ สำหรับการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนริมคลอง มีผลงานรวมทั้งโครงการ คิดเป็นร้อยละ 55.6  ส่วนโครงการบ้านมั่นคง ที่คลองลาดพร้าว สามารถดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วเกินครึ่งกว่าร้อยละ 50.02  คือ 35 ชุมชน 3,536 ครัวเรือน  ส่วนคลองเปรมประชากร ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 12 คือ 5 ชุมชน 774 ครัวเรือน ขณะที่คลองแสนแสบ มีแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมกว่า 30 โครงการ ทั้งการสร้างท่าเรือที่มั่นคงแข็งแรงเพื่อสร้างความปลอดภัย การจัดการกับตะกอนท้องคลอง จัดเก็บขยะและวัชพืช บำบัดน้ำเสีย และปรับปรุงสภาพแวดล้อมริมคลอง ให้ถูกสุขลักษณะที่ดี

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' เดินหน้าแก้ไขปัญหา PM 2.5 กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาจนผลกระทบลดลง

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ โดยเน้นย้ำให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองทั้งในกรุงเทพฯ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วทั้งประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีห่วงใยผลกระทบที่อาจส่งผลถึงชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชน ซึ่งเกิดจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ

โดยได้กำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ซึ่งจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่า นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – 23 มีนาคม 2565 ได้มีการตรวจสอบตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศ และปรับปรุงค่ามาตรฐานควันดำโดยเพิ่มความเข้มงวดและประสิทธิภาพการแก้ปัญหา PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ โดยปรับมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 ซึ่งกำหนดค่าความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิมไม่เกินร้อยละ 45 และค่ากระดาษกรองไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมไม่เกิน ร้อยละ 50 หากตรวจพบค่าควันดำเกินกำหนดจะลงโทษเปรียบเทียบปรับสถานหนัก 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถทันที ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายนนี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับปัญหามลพิษอากาศจากหมอกควันและไฟป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” ซึ่งในปี 2564 สามารถดำเนินการเก็บขนเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่ามาใช้ประโยชน์ได้ 2,800 ตัน จากเป้าหมาย 1,000 ตัน ครอบคลุมพื้นที่ 400,000 ไร่ ทำให้จำนวนจุดความร้อนในพื้นที่ลดลงร้อยละ 60 และในปี 2565 มีการดำเนินงานต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสามารถเก็บขนเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่ามาใช้ประโยชน์ได้ 1,310 ตัน จากเป้าหมาย 3,000 ตัน และคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ปรับแนวคิดและระบบในการทำงานแบบใหม่ สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับชุมชน พร้อมทำงานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน

โยนเผือกร้อน! 'ยูเครน' อ้าง 'สหรัฐฯ' ไม่ขวาง 'โปแลนด์' หากส่งมอบเครื่องบินรบช่วยยูเครนสู้รัสเซีย

ยูเครนระบุว่าสหรัฐฯไม่คัดค้านการส่งมอบฝูงบินรบให้แก่เคียฟ เพื่อช่วยขจัดการรุกรานของรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้เพนตากอนปฏิเสธข้อเสนอหนึ่งจากโปแลนด์ ที่จะส่งมอบเครื่องบินรบแก่เคียฟผ่านฐานทัพอากาศอเมริกาในเยอรมนี

ดมรีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงความคิดเห็นกับเอเอฟพีว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ในวอชิงตัน "ไม่คัดค้านการส่งมอบเครื่องบิน ตราบใดที่เราสามารถหาข้อสรุป ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับฝั่งโปแลนด์ เราจะดูเรื่องนี้เพิ่มเติม ในการสนทนากับสหายโปแลนด์"

ความคิดเห็นของ คูเลบา มีขึ้นไม่นานหลังจากเขาร่วมประชุมหนึ่งในโปแลนด์ ซึ่งมี โอเลคซี เรซนิคอฟ รัฐมตรีกลาโหมยูเครนและประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ ไบเดน เดินทางเยือนโปแลนด์ ชาติสมาชิกนาโต เพื่อยกระดับการสนับสนุนของสหรัฐฯที่มีต่อประเทศแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดนติดกับยูเครน

โปแลนด์เคยระบุว่าพวกเขาสนับสนุนแผนๆหนึ่ง ซึ่งโปแลนด์จะส่งฝูงบินรบ MiG-29 ยุคสมัยสหภาพโซเวียต ผ่านฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ในเยอรมนี

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงต้นเดือน เพนตากอนได้ข้อสรุปปฏิเสธข้อเสนอของโปแลนด์ โดยบอกว่า "มันเสี่ยงเกินไป" ในแผนส่งเครื่องบินรบจากโปแลนด์ไปยังยูเครน เพื่อต่อสู้กับกองกำลังรัสเซีย ดับความหวังของยูเครนในความพยายามควานหาพลานุภาพบนท้องฟ้าเพิ่มเติม

"รัฐบาล" ยันดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เน้นใช้จ่ายงบประมาณใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง "ย้ำ" เสถียรภาพการคลังประเทศยังแข็งแกร่ง "ฟุ้ง"เสถียรภาพเศรษฐกิจยังเข้มแข็งขับเคลื่อนได้ คาดการขยายตัวภาคการส่งออกไทยปีนี้จะอยู่ที่ 5-10%

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ควบคู่กับทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าได้ รวมถึงออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพลังงานและเชื้อเพลิง ค่าครองชีพ ด้านขนส่ง แรงงานและนายจ้าง โดยมุ่งเน้นให้การใช้จ่ายงบประมาณที่มีอยู่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ และอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การบริหารจัดการที่เป็นไปอย่างมีระบบ มีแผนงาน/โครงการที่ชัดเจน ทำให้ขณะนี้ฐานะทางการเงินการคลังของประเทศไทยยังมีเสถียรภาพที่เข้มแข็ง โดยเสถียรภาพด้านการคลังดูได้จากการบริหารรายได้และรายจ่ายของภาครัฐ ซึ่งฐานะทางการคลังของรัฐบาลตัวเลขล่าสุดใน 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565) ระดับอัตราเงินคงคลังปลายงวดอยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงตามดุลเงินสดที่ขาดดุลอยู่ในขณะนี้และเป็นไปตามดุลงบประมาณ  

นายธนกร กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 901,414 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 1,429,194 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 394,465 ล้านบาท ซึ่งในปี 2565 ได้ตั้งงบประมาณขาดดุลไว้ที่ 700,000 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลังปลายงวด ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 418,588 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับที่รัฐบาลได้มีการกำหนดสภาพคล่องไว้อยู่ที่ประมาณ 400,000 – 500,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพพียงพอ ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลคาดจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดคือ 2.4 ล้านล้านบาท ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ยังมีความเข้มแข็งอยู่ที่ประมาณ 245,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับสูงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ 

นายธนกร กล่าวว่า ขณะเดียวกันเสถียรภาพทางด้านราคา ซึ่งดูจากอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีผู้บริโภคนั้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาพลังงาน โดยเดือนมกราคม อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% และเดือนกุมภาพันธ์ อัตราเงินเฟ้อประมาณ 5% แต่หากดูอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมเรื่องพลังงานกับอาหารสด อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 0.5 ในเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มที่ 1.8 ซึ่งรัฐบาลก็ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือประชาชนระยะสั้นในการลดต้นทุน และการช่วยเหลือค่าครองชีพต่าง ๆ ผ่าน 10 มาตรการสำคัญโดยพุ่งเป้าเน้นช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง

พร้อมมีการติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะต่อไป ส่วนอัตราการว่างงานในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ของแรงงานรวม ซึ่งเป็นผลมาจากที่รัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการและเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา รวมไปถึงการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ผู้ประกอบการด้านโรงแรมสามารถกลับมาเริ่มดำเนินกิจการและรักษาการจ้างงานได้ รวมทั้งประชาชนมีความมั่นใจที่จะเดินทางมากขึ้นภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 

"บิ๊กตู่' สั่งดูแลเส้นทางจราจรงาน "มอเตอร์โชว์" ลดปัญหาการจราจรคับคั่ง พร้อมติดตามการให้บริการผู้ป่วยโควิด – 19 อย่างครอบคลุม "เจอ แจก จบ" ดูแลผู้ป่วยไปแล้วเกือบ 7 แสนราย สธ. เผยพบ 92% พึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกในเส้นทางจราจร ที่จะเดินทางไปงานมอเตอร์โชว์ อิมแพค เมืองทองธานื เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วน   หลังได้รับรายงานเมื่อวานนี้ ตั้งแต่เปิดงาน-ช่วงบ่ายมีรถสะสมบนทางด่วนกว่า 400 เมตรและการจราจรติดขัดบนทางด่วนนายกว่า 30  นาที วันเดียวกันนี้  (27 มี.ค.) ซึ่งยังเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก  จึงขอให้ทั้งตำรวจภูธร จ. นนทบุรี การท่าพิเศษแห่งประเทศไทยร่วมจังหวัดนนทบุรี ติดตามสภาพการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทาง ใช้รถ ใช้ถนนของประชาชน ขณะเดียวกัน ยังกำชับให้ผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่ประจำบูธภายในงาน ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งประชาชนที่จะเข้าร่วมชมต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุดด้วย

"นายก ฯ ใส่ใจ ห่วงใยประชาชนที่วางแผนจะไปชมงาน มอเตอร์โชว์ หรือกิจกรรมต่างๆ ในช่วงนี้การ์ดอย่าตกและเน้นดูแลตนเองขั้นสูงสุด  พร้อมย้ำผู้จัดงาน ประสานทุกหน่วยงาน เตรียมความพร้อมเส้นทางจราจร สถานที่จอดรถ ไม่ให้กระทบต่อประชาชนที่สัญจรไปมาตามปกติ ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามมาตรความปลอดภัยสาธารณสุข ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ ศบค. ในการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย"  นายธนกรกล่าว

ไม่เป็นไปตามเป้า!! ‘รัสเซีย' ปรับยุทธศาสตร์บุก ‘ยูเครน’ นักวิเคราะห์ ชี้ แผนโค่น ‘เซเลนสกี’ ไม่เป็นตามแผน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า การบุกยูเครนระยะที่ 1 เสร็จสิ้นลงแล้ว หลังเป้าหมายสงครามเบื้องต้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยรัสเซียสามารถลดทอนความสามารถในการสู้รบของยูเครนลงได้สำเร็จ ต่อจากนี้ไปการบุกยูเครนของรัสเซียจะเน้นไปที่การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส ในภาคตะวันออกของยูเครน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากชาติตะวันตกชี้ว่า นี่อาจนับเป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของการบุกยูเครน หลังจากที่ดูเหมือนว่า เป้าหมายของรัสเซียที่ต้องการยึดเมืองสำคัญ ๆ ของยูเครนให้ได้อย่างรวดเร็ว และโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีเซเลนสกีจะไม่เป็นไปตามแผน หลังเผชิญการต้านทานอย่างดุเดือดจากทหารยูเครน

อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมรัสเซียย้ำว่า สิ่งที่เห็นนี้เป็นความตั้งใจที่จะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร ยุทโธปกรณ์ และกองกำลังติดอาวุธของยูเครน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ทำให้รัสเซียตรึงกองกำลังของยูเครนเอาไว้ ไม่ให้สามารถต่อต้านกองกำลังรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส จนกว่ากองทัพรัสเซียจะปลดปล่อยดินแดนของสาธารณรัฐโดเนสก์ และสาธารณรัฐลูฮันสก์อย่างสมบูรณ์

111 ปี ‘พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา ‘กรมศิลปากร'

ย้อนกลับไปเมื่อ 111 ปี ก่อน ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2454 นับเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งกับประเทศไทย เนื่องจากวันนี้ตรงกับ ‘วันสถาปนากรมศิลปากร’ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของ ‘มรดกศิลปวัฒนธรรม’ 

โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริ ให้โอนกิจการของช่างมหาดเล็ก จากกระทรวงวัง และกรมพิพิธภัณฑ์ จากกระทรวงธรรมการ มาจัดตั้งเป็น ‘กรมศิลปากร’ ซึ่งตลอดระยะเวลากว่าร้อยปี กรมศิลปากรได้ทำภารกิจเกี่ยวกับการคุ้มครอง  ป้องกัน อนุรักษ์ บำรุงรักษา ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างสรรค์ เผยแพร่ศึกษา ค้นคว้า วิจัย พัฒนา สืบทอดศิลปะและทรัพย์สินมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อธำรงคุณค่าและเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทยและความมั่นคงของชาติ  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top