Sunday, 22 June 2025
Hard News Team

"นายกฯ" แนะ ประชาชน ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนเดินทาง หลัง กรมอุตุฯ ประกาศ "พายุฤดูร้อน" 17-18 เมย.นี้

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตือนประชาชนที่จะเดินทางข้ามพื้นที่ ทั้งกลับจากภูมิลำเนาและกลับจากการท่องเที่ยว เพื่อกลับเข้ามาทำงานหลังวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศตลอดเส้นทางการเดินทาง ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 7 ให้ทุกภาคเตรียมรับมือ "พายุฤดูร้อน" ในช่วงวันที่ 17-18 เมษายน 2565  ซึ่งหลายจังหวัดจะมีสภาพอากาศ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง แนะผู้ขับขี่ควรตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะก่อนการเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอ ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 

นายกฯ ขอ ประชาชนเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎจราจร ควบคู่ มาตรการป้องกันโควิด-19 ย้ำ สังเกตอาการ-คัดกรองด้วย ATK

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย ศปถ. รายงานสรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ สะสม 5 วัน (11 - 15 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ ตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ 81.47% รองลงมา คือรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 7.17% และรถยนต์นั่ง 2.79% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ/ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต สะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 

นายธนกร กล่าวว่า จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้คุมเข้มโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้สูญเสียสูงสุด ให้เข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

นายธนกร กล่าวว่า ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ศปถ.ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เป็นต้น 

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. 65 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยทหารในพื้นที่ ภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชน หมู่บ้าน อาสาสมัครต่าง ๆ และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลให้เหลือน้อยที่สุด 

“โฆษกปชป” วอน อย่าดึงพรรคเข้ามาเกี่ยวข้องคดี “ปริญญ์” ยันประชาธิปัตย์ไม่ส่งเสริมให้ใครทำความผิด

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองมีความพยายามเชื่อมโยงโจมตีพรรค จากกรณีของปริญ พานิชภักดิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนที่ต้องแยกออกจากกันคือ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะผิดหรือไม่ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม พรรคจะไม่ไปก้าวล่วง และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้เต็มที่ 

ในส่วนของพรรค หลักการที่ชัดเจนคือเมื่อมีเรื่องที่มีการกล่าวหาสมาชิกพรรค ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายผิดหลักคุณธรรมจริยธรรม พรรคในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมืองมีกระบวนการรองรับอยู่อย่างชัดเจน ขณะนี้มีการติดตามรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พรรคไม่ส่งเสริมให้ใครไปกระทำความผิด ซึ่งหากใครไปกระทำความผิด ไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น

นายกฯ ขอบคุณ จนท.ทุกภาคส่วน เสียสละทำงานช่วงวันหยุดสงกรานต์ กำชับรองรับประชาชน เดินทางกลับจากภูมิลำเนา ย้ำ มาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 นี้ รวมถึงขอบคุณประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งช่วยในการลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีความห่วงใยการเดินทางสัญจรของประชาชน ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ที่คาดว่าจะมีการเดินทางจำนวนมากในช่วงระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ จึงได้เน้นย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”  เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ลดปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของประชาชนให้ได้มากที่สุด

บทละครที่ถูกจับทาง 'เสธ.นิด' มอง!! 'สงครามรัสเซีย-ยูเครน' ใต้เงา 'สหรัฐ-นาโต' ในวันที่ 'ปูติน' ไม่โดดเดี่ยวอย่างที่ 'ไบเดน' คาดหวังไว้ .

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ 'เสธ.นิด' อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'Vachara Riddhagni' เผยถึงสงครามการเมืองการทูตรัสเซีย/ยูเครน 2022 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า...

รัสเซียโดยประธานาธิบดีปูตินไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่ประธานาธิบดีไบเดนคาดการณ์ไว้ “เพราะคิดว่าเงาปีศาจสตาลินจะมาหลอกหลอน” คนทั้งโลกได้

แต่ขณะนี้ หลังจากรัสเซียประกาศขับไล่นักการทูตสหภาพยุโรปออกจากกรุงมอสโก เพื่อเป็นการตอบโต้ที่หลายประเทศในสหภาพยุโรปขับไล่นักการทูตรัสเซีย 

ผลตามมา คือ การเจรจาเพื่อยุติสงครามในขณะนี้เป็นไปยากขึ้นและในขณะที่รัสเซียกำลังได้เปรียบในสงครามนี้ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย “เริ่มมีความได้เปรียบมากขึ้น” เพราะว่า...

1. สังคมโลกเริ่มมองย้อนหลังและสามารถเปรียบเทียบ “พฤติกรรมสงครามของสหรัฐฯ, อังกฤษ, นาโต” ในยุคสงครามก่อการร้ายโลกกับพฤติกรรมสงครามของรัสเซีย ว่า มีข้อแตกต่างกันมาก!!

ตั้งแต่ครั้งรัสเซียโดยประธานาธิบดีเบรสเนฟแห่งสหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถาน เพราะมีปัญหาวุ่นวายการเมืองภายในอัฟกานิสถานเองและโซเวียตที่สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอัฟกานิสถาน เห็นโอกาสอันดีที่จะเข้าครองอิทธิพลในเอเชียกลาง จึงส่งกองทัพเข้ายึด

สหรัฐฯ ได้โอกาสที่จะทำลายศรัทธาโซเวียตและพรรคคอมมิวนิสต์อัฟกานิสถาน จึงสนับสนุน มูจาฮิดีน ต่อสู้แบบกองโจรต่อเนื่อง จนในที่สุดโซเวียตเห็นว่า “สิ้นเปลืองไม่คุ้มค่าทางการเมืองและไม่มีผลประโยชน์อะไรจึงถอนทัพ” 

การแทรกแซงของต่างชาติในอัฟกานิสถานทำให้เกิด “แนวคิดต้นตำรับอิสลามเรียกว่า Taliban แปลว่า The Students ซึ่งยึดมั่นในวิถีอิสลามแบบเก่าอย่างเคร่งครัดและสนับสนุน Jihad สงครามศักดิ์สิทธิ์แบบอิสลามและได้ให้ที่พักพิง “อุซามะฮ์ บินลาดิน” ที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเป็นตัวการก่อการวินาศกรรมด้วยการจี้เครื่องบินโดยสารสหรัฐฯ 3 ลำและใช้เครื่องบินเหล่าบินชนตึก WT 1, 2 และเพนตากอน

ด้วยเหตุที่รัฐบาลตอลิบานไม่ส่งตัว อุซามะฮ์ บินลาดิน...สหรัฐฯ จึงถล่มกรุงคาบูลอย่างหนักแบบราบเป็นหน้ากลอง แล้วสร้างให้ใหม่

พร้อมทั้งทำสงครามกองโจรก่อการร้ายกับตอลิบานและดึงเอากองทัพนาโต้เข้าร่วมรบด้วย

แต่ไม่นานกองทัพนาโตถอนตัวเหลือสหรัฐฯ โดดเดี่ยวและไม่สามารถกำจัดกองทัพตอลิบานได้อย่างเด็ดขาด สิ้นเปลืองงบประมาณมากมายมหาศาล จึงถอนทัพในที่สุดเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว (2564)

2. สงครามอ่าวครั้ง 1 และ 2 สหรัฐฯ โจมตีกรุงแบกแดดอย่างหนักจนราบเป็นหน้ากลองและสหรัฐฯ เข้ายึดครองประเทศและบ่อน้ำมันทั้งหมด งานก่อสร้างปฏิสังขรณ์ประเทศเป็นของนายทุนสหรัฐฯ และสหรัฐฯ สร้างบริษัทหรือกองทัพทหารรับจ้าง Black Water เข้ารับงาน รปภ.บริษัทอเมริกันทั้งหมดในอิรัก

3. ช่วงการต่อต้านเปลี่ยนรัฐบาลในตะวันออกกลาง Arab Springs ซึ่งหลายประเทศมีลักษณะเป็น “เผด็จการ” ลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังนั้น NGO ตะวันตกถือโอกาสแทรกแซง ปราบปรามผู้นำที่สหรัฐฯ ควบคุมไม่ได้และจะเป็นภัยกับอิสราเอล ซึ่งมีความผูกพันกับนักการเมืองยิวที่มีอิทธิพลมากๆ ในพรรคการเมือง

และรัฐบาลสหรัฐฯ จะแสวงหาคนที่ “ตะวันตก” ควบคุมได้ง่ายกว่าผู้นำก่อนหน้านี้ เป็นรัฐบาลผนวกกับป้องกันอิสลามหัวรุนแรงไม่ให้เข้าไปมีอำนาจปกครองประเทศซึ่งจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้

4. ทุกครั้งที่กลุ่มแสวงผลประโยชน์ชาติตะวันตกเกิดขึ้น ก็เกิดกลุ่มต่อต้านที่เป็นมุสลิม และกลุ่มใหม่ คือ กลุ่ม ISIS ที่พัฒนาจากกลุ่มต่อต้านสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย ซึ่งสหรัฐฯ ใช้ในการโค่นล้มประธานาธิบดี อัล อัสซัด แห่งซีเรีย แต่ไม่สำเร็จ จึงกลายเป็นสงครามการเมืองและรัสเซียเข้าช่วยประธานาธิบดีอัล อัสซัด ต่อสู้กับ ISIS ซึ่งเชื่อกันว่า สหรัฐฯ จัดตั้งขึ้นมาอย่างลับๆ เพื่อทำลายความแข็งแกร่งของชาติตะวันออกกลางที่สหรัฐฯ ควบคุมไม่ได้

5. สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดที่ตั้ง ISIS เพื่อเล่นละครหลอกสังคมโลก จนบ้านเมืองพินาศไม่เหลือซากเพื่อต้องการเพียงสังหารผู้นำ ISIS ซึ่งต่อมาเรียก สั้นๆ ว่า IS 

สหรัฐฯ จะใช้ยุทธวิธีเด็ดหัว Decapitation ด้วยเครื่องโจมตีทิ้งระเบิด

6. หากเปรียบเทียบตั้งแต่สหภาพโซเวียตล้มสลายลงนั้น “รัสเซียจำเป็นต้องรักษาอำนาจอิทธิพลของรัสเซียไว้ให้ได้”

จึงมีการรบปราบปรามการก่อการร้ายในจอร์เจียและเชชเนียที่ต้องการออกจากอิทธิพลของรัสเซีย

การทำลายที่มั่นกองกำลังก่อการร้าย ก็เพราะหากหลุดมือไปสหรัฐฯ จะเข้ามาครอบงำกลุ่มประเทศเหล่านี้ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซียโดยตรง

แต่การโจมตีของกองทัพรัสเซียแตกต่างจากการทิ้งระเบิดถล่มของสหรัฐฯ เพราะรัสเซียใช้กองกำลังรถถังมากกว่า ผลการโจมตีทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ น่าจะเป็นแบบอย่างให้อิสราเอลโจมตีที่มั่นกลุ่ม Hamas ในปาเลสไตน์

‘ถนนลาดหญ้า’ จากชื่อสมรภูมิ สู่ถนนสายสำคัญ สายที่ 4 ของชาวฝั่งธนบุรี

ถนนลาดหญ้า
ถนนสายที่ 4 ของธนบุรี

ตั้งชื่อตามสมรภูมิลาดหญ้าในสงครามเก้าทัพ
ระหว่างพระเจ้าปดุงแห่งกรุงอังวะ และพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแห่งกรุงเทพมหานคร

เกิดขึ้นหลังสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีใหม่แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพียง 3 ปี
จบด้วยชัยชนะของกรุงเทพมหานคร

‘โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา’ โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ของไทย ตั้งตระหง่านย่าน ‘ปากคองสาน’

โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา
โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ของประเทศไทย
ชาวบ้านเรียกปากคลองสาน 

ตามชื่อที่ตั้งเดิมของโรงพยาบาล
เรียกหลังคาแดง เพราะมีหลังคาสีแดง
และเรียกโรงพยาบาลบ้า เพราะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางรักษาผู้ป่วยจิตเวช

ขนาบด้วย ถนนสมเด็จเจ้าพระยา (ขวา)
ถนนสายที่ 2 ของธนบุรี

และถนนลาดหญ้า (ซ้าย)
ถนนสายที่ 4 ของธนบุรี

หลงรักภูเขาทอง สื่อรักรูปหัวใจจาก 'การไฟฟ้า’ ผ่านมุมมองฟากฝั่ง ‘คลองสาน'

หลงรักภูเขาทอง
ภาพนี้ถ่ายที่คลองสาน
ส่วนหัวใจสีเขียวแดงมาจากตึกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่บางกรวย


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/photos/a.532552690198105/4493489827437685/


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

'วิโรจน์' ร่ายยาว หลังถูกกังขาเหตุขีดฆ่าชื่อกรุงเทพฯ 'ท่านใหม่' โต้กลับ ขอให้ได้ทำตามความฝัน ลมๆ แล้งๆ

(14 เม.ย. 65) จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล ได้จัดทำป้าย/banner หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีการขีดฆ่าชื่อเต็มกรุงเทพมหานคร จากนั้น ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามว่า อย่างนี้เราสมควรเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ การหาเสียงดังกล่าวต้องการทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่ ทำให้นายวิโรจน์ ไม่พอใจพร้อมตอบโต้กลับไปว่า...

"คุณเป็นอะไรของคุณ"

ตกลงเราควรให้ความสำคัญกับอะไรในเมืองๆ นี้?

คน หรือยศถาบรรดาศักดิ์? 

ชื่อเมือง หรือเลือดเนื้อชีวิตของคนที่อยู่ในเมือง?

กรุงเทพเป็นเมืองที่คนอยู่ หรือเทพอยู่?

ความเจริญงอกงามของเมือง เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของคน และความรู้สึกว่าเราทุกคนเป็นเจ้าของเมืองๆ นี้ ไม่ใช่หรือ?

การตีความให้เมืองๆ นี้ เป็นเมืองศักดินา ของคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ แล้วกดให้ประชาชนเป็นเพียงไพร่ทาส ผู้รับใช้เหล่าขุนหลวงพระยา นับวันมีแต่จะทำให้เมืองๆ นี้ กลายเป็นเมืองที่คนจำอยู่อย่างสิ้นหวัง ยอมจำนนต่อโชคชะตา เมื่อเวลาผ่านไป เมืองๆ นี้ มีแต่จะกลายเป็นเมืองที่ต้องคำสาป หยุดการพัฒนา คนที่มีความฝันต้องผันตัวไปอยู่ต่างประเทศ คนมีเงินก็ขนเงินไปลงทุนที่อื่น สุดท้ายคนที่อยู่อาศัยในเมือง ก็จะทยอยแก่ตัวลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และจะเต็มไปด้วยผู้สูงอายุที่ขาดเงินออม ในเมืองที่ไร้สวัสดิการ

ผมว่าพฤติกรรมที่ควรหมดไปจากสังคมนี้ได้แล้ว คือการเอาอคติของตน มาอวยยกตัวเองว่าจงรักภักดี แล้วเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ มาใช้เพื่อโจมตีประชาชนที่คิดต่างจากตน

พฤติกรรมที่นำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ มาใช้เพื่อแบ่งแยกประชาชน ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม ไม่ว่าจะมีเจตนา หรือไม่มีเจตนา ควรจะเลิกได้แล้ว

ผู้ว่ากรุงเทพ มีหน้าที่ในการทำให้เมืองๆ นี้ เป็นเมืองที่คนไม่ว่าจะจน หรือรวย อยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนกัน ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีอย่างเท่าเทียมกัน สวัสดิการที่ดีเสมอภาคกันจะทำให้คนกล้าฝัน กล้าบุกเบิก ทำให้คนมีกำลังซื้อ กล้าซื้อ เมืองก็มีการบริโภค พอเมืองมีการบริโภค เมืองก็จะมีการลงทุน พอมีการลงทุน ก็เกิดการจ้างงานใหม่ๆ เกิด Supply Chain ใหม่ เกิดแหล่งลงทุนใหม่ๆ ทุกๆ คนก็มีโอกาสตั้งตัวได้ หลุดพ้นจากความยากจนได้ เมืองแบบนี้ไม่ใช่หรือ คือเมืองที่มีความหวัง

พอเสียทีเถอะ เมืองที่เอื้อให้กลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มหนึ่งรวยได้ เพราะรู้ข้อมูลวงในก่อนใคร รวยได้เพราะได้อภิสิทธิ์จากกติกาที่ไม่เป็นธรรม รวยได้เพราะเส้นเพราะเครือข่ายอุปถัมภ์

ความร่ำรวยแบบนี้ มันไม่ใช่ความมั่งคั่งที่น่าภูมิใจ แต่เป็น การสูบเลือดสูบเนื้อทำนาบนหลังประชาชน พอกลุ่มทุนเหล่านี้ต้องออกไปแข่งขันในเวทีโลกด้วยกติกาที่เป็นสากล ก็ไม่เคยที่จะประสบความสำเร็จ สุดท้ายต้องบากหน้า กลับมาสูบเลือดสูบเนื้อประชาชนในประเทศเหมือนเดิม

ยืนยันครับว่า กรุงเทพ ที่สามารถเป็นเมืองที่เป็นความหวังของทุกๆ คน ไม่ว่าจะยากดีมีจน จะต้องเริ่มต้นจาก #เมืองที่คนเท่ากัน เท่านั้นครับ

#วิโรจน์ก้าวไก่ #วิโรจน์ก้าวไกล 

'มะกัน' ขู่ รัฐบาลจีน ระวังเจอ 'กรรมสนอง' ปมไม่ช่วยหยุดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งที่สามารถทำได้

จีนควรช่วยหยุด "สงครามอันชั่วร้าย" ของรัสเซียในยูเครน ไม่อย่างนั้นอาจเผชิญการสูญเสียสถานะในเวทีโลก เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในวันพุธ (13 เม.ย.) ส่งเสียงเตือนว่าใครก็ตามที่บ่อนทำลายมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโกตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน จะต้องเจอผลสนองทางเศรษฐกิจ

เยลเลน กล่าวที่สถาบันวิจัยสภาแอตแลนติกในวอชิงตัน ว่า เธอหวังอย่างแรงกล้า จีนจะใช้ "ความสัมพันธ์พิเศษ" ระหว่างพวกเขากับรัสเซีย โน้มน้าวมอสโกให้หาทางยุติความขัดแย้ง และบอกว่าประเทศต่างๆ ที่เหยียบเรือสองแคมในสงครามนี้เป็นพวกสายตาสั้น

"ทัศนคติของโลกที่มีต่อจีน และความตั้งใจของโลกในการเปิดรับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในอนาคต อาจได้รับผลกระทบจากท่าทีของจีนที่มีต่อเสียงเรียกร้องของเรา ที่ขอให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับรัสเซีย" เธอกล่าว

ความเห็นของเธอสะท้อนจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เรียกร้องให้จีนประณามการรุกรานของรัสเซีย และเลือกยืนเคียงข้างประชาธิปไตยตะวันตก ซึ่งปักกิ่งกำลังเพลิดเพลินกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ให้ผลตอบแทนงดงาม

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดน ได้เตือน นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียในวันจันทร์ (11 เม.ย.) ว่าการซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติมจะไม่เป็นประโยชน์กับอินเดีย

อย่างไรก็ตาม หลิว เผิงหยู (Liu Pengyu) โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สวนกลับข้อเรียกร้องของ เยลเลน โดยบอกว่าจีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการผูกโยงความสัมพันธ์จีน-รัสเซียกับวิกฤตยูเครน พร้อมระบุว่า ปักกิ่งมุ่งมั่นสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ

"จีนคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวทุกรูปแบบ และการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนของสหรัฐฯ และจะปกป้องอย่างเด็ดเดี่ยวต่อสิทธิความชอบธรรม ผลประโยชน์ของบุคคลและบริษัทต่างๆ ของจีน" เขากล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านอีเมล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top