Sunday, 22 June 2025
Hard News Team

'อุตตม' เผย พรรคเตรียมประชุมใหญ่ 20 เม.ย.นี้ พร้อมเปิดตัวผู้บริหาร-ยุทธศาสตร์เคลื่อนประเทศพ้นวิกฤต

'อุตตม' โพสต์สวัสดีปีใหม่ไทย เผยพรรคเตรียมประชุมใหญ่ 20 เม.ย. นี้ พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารอย่างเป็นทางการ และเสนอแนวทาง-ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพ้นวิกฤต

13​ เม.ย. 65 นายอุตตม สาวนายน แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า สวัสดีเช้าวันปีใหม่ไทย และสงกรานต์ เนื่องในวันแสงแรกของปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งศุภมงคลตามประเพณีไทย จึงขอส่งความปรารถนาดีให้ทุกท่านอีกครั้ง ขอให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข เจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง และมีความสมหวังในสิ่งปรารถนาตลอดทั้งปี

พร้อมถือโอกาส บอกกล่าวว่า สัปดาห์หน้าในวันพุธที่ 20 เม.ย. พรรคสร้างอนาคตไทยจะจัดประชุมสามัญครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของพรรคสร้างอนาคตไทย หลังจากที่พรรคได้เปิดตัวแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคไปเมื่อวันที่ 9 ก.พ. และพวกเราทีมงานสร้างอนาคตไทย ก็ได้เร่งทำงานอย่างต่อเนื่อง ตามที่คณะผู้ก่อตั้งพรรคได้แสดงเจตนารมณ์ไว้

ในการประชุมสามัญครั้งนี้ จะมีการนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย และยุทธศาสตร์เพื่อนำพาประเทศออกจากภาวะวิกฤตในทุกๆ ด้าน และสร้างรากฐานสู่ความมั่นคงยั่งยืนในอนาคต

พร้อมกันนี้จะได้นำเสนอทีมผู้บริหารของพรรคอย่างเป็นทางการ หลังจากที่สมาชิกในที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว

'รองเลขาฯ พท.' พา 'นายกในดวงใจ' ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมชวนสาวกสแกนคิวอาร์โค้ด AR 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์'

13 เม.ย. 65​ น.ส.อรุณี กาสยานนท์​ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ​(พท.) ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่​า​ "สงกรานต์พา 2 นายกฯ ในดวงใจ มาไหว้สักการะหลวงพ่อพุทธชินราช (วัดใหญ่) ที่งดงามที่สุดในโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลในปีใหม่ไทย

ลองสแกนคิวอาร์โค้ดดูนะคะ AR (Augmented reality) มาแรง ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์จะนำพาเราไปสู่อนาคตไม่ใช่ถอยหลัง 
#ครอบครัวเพื่อไทย"
ดร.อรุณี กาสยานนท์
รองเลขาธิการรพรรคเพื่อไทน
13 เมษายน 2565


ที่มา : https://www.facebook.com/kasayanond/posts/541286357365070

'ดร.นิว' เผย 10 เหตุผล 'ธนาธร' โดน ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ ชี้!! มีเจตนาบิดเบือนข้อมูล-โจมตีกระทบถึงสถาบันฯ 

'ดร.นิว' ยกเหตุ 10 ข้อ ทำไม'ธนาธร'ถึงโดน ม.112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชี้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลโจมตีบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ให้กระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ สอดรับการเคลื่อนไหวเครือข่ายม็อบสามนิ้วล้มล้างการปกครอง

13 เม.ย. 65 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์รข้อความในเฟซบุ๊ก หัวข้อ ทำไมนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงโดน ม.112 พร้อมกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ? มีรายละเอียดดังนี้

1.) หัวข้อการไลฟ์สด "วัคซีนพระราชทาน: ใครได้-ใครเสีย?" ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการประดิษฐ์วาทกรรม "วัคซีนพระราชทาน" เพื่อเชื่อมโยงและบิดเบือนให้ร้ายพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่วัคซีนดังกล่าวไม่ได้จัดว่าเป็นวัคซีนพระราชทานแต่ประการใด การแอบอ้างใช้คำว่า "พระราชทาน" ของนายธนาธรจึงเป็นข้อความอันเป็นเท็จ และเป็นการกระทำความผิดโดยเจตนา

2.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ (Siam Bioscience) เป็นบริษัทเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นฐานในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลกของประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็น "...บริษัทที่มีในหลวง ร.10 ถือหุ้นอยู่ 100%..." ตามที่นายธนาธรพยายามเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ประการใด

(2.1.) บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ที่สามารถรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าได้

(2.2.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ มีโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหลายรายการ เช่น PIC/S GMP, ISO9001, ISO17025 และ ISO13485

(2.3.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ มีกำลังการผลิตที่สูงถึง 200 ล้านโดสต่อปี สอดคล้องกับความต้องการผลิตวัคซีนจำนวนมากของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า

(2.4.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ดำเนินการผลิตวัคซีนโดยยึดนโยบาย "ไม่กำไร ไม่ขาดทุน" ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิดนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า

3.) นายธนาธรกล่าวโกหกบิดเบือน "...ตั้งใจตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตยา ไม่ใช่ผลิตวัคซีนนะครับ..."
แม้ว่าบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์จะไม่ได้ผลิตวัคซีนโดยตรง แต่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มีเทคโนโลยีชั้นสูงที่ก้าวหน้าและทันสมัย สามารถผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงนำมาใช้ผลิตวัคซีนโควิด-19 แบบไวรัสเวกเตอร์ (Viral vector) ของบริษัทแอสตร้าเซเนก้าได้อีกด้วย

4.) นายธนาธร กล่าวด้อยค่าโจมตี "...บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์และบริษัทในเครือ ตั้งแต่ตั้งขึ้นมา เมื่อปี 2552 ยังไม่เห็นบริษัทไหนเลยที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างชัดเจน ทุกบริษัทมียอดขาดทุนสะสมเกือบทั้งหมด..."
การขาดทุนของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มาจากการลงทุนในเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งมีกำลังการผลิตที่สูงถึงหลายร้อยล้านโดสต่อปี จึงไม่แปลกที่จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะก่อตั้งขึ้นใน ปี พ.ศ. 2552 โดยเริ่มการผลิตและการขายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 อีกทั้งยังมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้รับยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง

นอกจากวัคซีนโควิด-19 แบบไวรัสเวกเตอร์ (Viral vector) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) สำคัญที่ทางบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการรับรองและผลิตอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ยาฮอร์โมนอีริโทโพอิติน (Erythropoietin) สำหรับกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง รักษาภาวะโลหิตจางจากไตวายเรื้อรัง และยาฟิลกราสทิม (Filgrastim) สำหรับกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวควบคู่กับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง สร้างความมั่นคงทางยา และดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

'ธนาธร' เผย ถ้าได้เป็นนายกฯ จะไม่ทอดทิ้งเพื่อนบ้าน ลั่น!! มีผู้ลำบากอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือ

13 เม.ย. 65 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า สงกรานต์ปีนี้ ผมได้ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอีกหลายหมื่นหลายแสนครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกันด้วยภัยสงคราม

หลายเดือนที่ผ่านมา ผมดีใจที่เห็นพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมากออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับสงครามยูเครนอย่างเปิดเผย

คนจำนวนมากชื่นชมกับความพยายามของคนยูเครนที่จะปกป้องอธิปไตย บ้านเกิดและครอบครัวของพวกเขา ยืนหยัดต่อสู้กับผู้รุกราน

ประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องกับความอหังการของมหาอำนาจคนใด ตายเกลื่อนถนน นักแสดงลุกขึ้นมาจับปืน ประชาชนกลายเป็นนักรบ พ่อแม่พาลูกทิ้งบ้าน หนีตายอพยพไปประเทศอื่น ตึกรามบ้านช่องกลายเป็นซากปรักหักพัง ทั้งหมดนี้เป็นภาพที่เราเห็นจากยูเครน

จนวันนี้ มีคนยูเครนมากกว่า 4 ล้านคนอพยพทิ้งบ้านตัวเองเพื่อเอาตัวรอดจากสงครามไปแล้ว

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ยังมีสงคราม และผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม อยู่ใกล้เรามากกว่ายูเครนมากนัก

เพียงแค่ข้ามชายแดน

ที่ริมแม่น้ำเมยและริมแม่น้ำสาละวิน มีผู้หนีตายจากสงครามกลางเมืองเมียนมาอยู่หลายหมื่นคน

พวกเขาเหล่านี้ คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามอย่างบ้าคลั่งที่มีต่อประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา

นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ประชาชนหลายล้านคนลุกขึ้นมาต่อต้านเผด็จการด้วยความหวังถึงสังคมประชาธิปไตย สังคมที่ดีกว่า

พวกเขาถูกปราบปราม พวกเขาถูกเข่นฆ่าอย่างเลือดเย็น

ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นจับอาวุธร่วมกับกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์

รัฐบาลทหารปราบปรามกลุ่มต่อต้านอย่างหนักด้วยอาวุธสงคราม และด้วยการโจมตีทางอากาศ ประชาชนจำนวนมากบ้านแตกสาแหรกขาด จำต้องทิ้งบ้านเกิด หาที่ปลอดภัยซุกหัวนอน

รัฐบาลโปแลนด์ เพื่อนบ้านยูเครนเปิดประเทศต้อนรับผู้อพยพ ประชาชนชาวโปแลนด์ช่วยกันหาอาหารและเสื้อผ้าสนับสนุนประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลโปแลนด์ให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเข้าถึงการแพทย์ การศึกษา และหางานได้ในโปแลนด์

เมื่อผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาหาที่ปลอดภัยซุกหัวนอน หวังพึ่งฝั่งไทย สิ่งที่รัฐบาลเราทำกลับเป็นการผลักไสไล่ส่งพวกเขาออกไป ด้วยข้ออ้างโควิด และข้ออ้างว่าผู้ลี้ภัยสมัครใจกลับเอง ทั้งที่องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรการกุศลหลายหน่วยงานที่ผมพูดคุยด้วย ให้ข้อมูลตรงกันว่าชาวพม่าที่พยายามหลบภัยสงครามข้ามแดนมาฝั่งไทย ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกดดันให้กลับไปฝั่งพม่าทั้งหมด หรืออย่างดีที่สุดก็ค้างคืนกันบนเกาะกลางแม่น้ำหรือริมตลิ่ง ชิดพรมแดนไทย

ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ เข้าไม่ถึงน้ำประปา ห้องน้ำสะอาด หมอพยาบาล และหยูกยา เด็กๆ ไม่ได้รับการศึกษา อยู่อาศัยในเพิงพักที่สร้างตามมีตามเกิดริมฝั่งน้ำ ไม่รู้ชะตากรรมว่าเมื่อไหร่สงครามจะสงบ เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สมาชิกในครอบครัวของเขาที่ถูกฆ่าตายจะได้รับความเป็นธรรม

ฤดูฝนกำลังจะมา ผมนึกไม่ออกว่าพวกเขาจะอยู่กินหลับนอนกันอย่างไร

ในโลกของเผด็จการ ชีวิตประชาชนคนธรรมดาราคาถูกเสมอ ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรียงไกรของผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีคนธรรมดาอยู่ในนั้น

'ไบเดน' โทษ 'ปูติน' ทำให้ปชช.อเมริกันกระเป๋าฉีก น้ำมัน-อาหาร-ของใช้ ราคาแพง เงินเฟ้อสูงในรอบ 40 ปี

ประชาชนชาวอเมริกาต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น สำหรับซื้อเบนซิน อาหารและข้าวของจำเป็นอื่นๆ ในเดือนที่แล้ว ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันอังคาร (12 เม.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวโทษต้นตอไปที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.1981 เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน แม้อีกด้านหนึ่งพวกเขากำลังหาทางลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม ต่อกรณีที่เปิดปฏิบัติการทหารรุกรานยูเครน

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นฉุดรั้งคะแนนนิยมของไบเดนให้ลดต่ำลง และประธานาธิบดีรายนี้พยายามกล่าวโทษไปที่ประธานาธิบดีวลาดิมร์ ปูติน และการรุกรานที่ก่อความปั่นป่วนแก่ตลาดพลังงานโลก

"ราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 70% มาจากการขึ้นราคาเบนซินของปูติน" ไบเดนกล่าวอ้างระหว่างปราศรัยในไอโอวา แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่ามันคิดเป็นสัดส่วนราวๆ เกือบครึ่งหนึ่งเท่านั้น

ราคาต่างๆ เริ่มเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และในขณะที่รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่าแม้ราคาจะแตะระดับสูงสุดในหลายรายการ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่ามันอาจกำลังเข้าสู่ระดับคงที่

ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. เป็นไปตามที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้แต่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานหลัก ซึ่งไม่รับรวมภาคอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% น้อยกว่าที่คาดหมายไว้

ปูตินสั่งลุยในยูเครนจนกว่าจะชนะ หลังเจรจาเจอทางตัน เชื่อ 'ระเบียบโลกสหรัฐฯ' กำลังพังทลาย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยในวันอังคาร (12 เม.ย.) การเจรจาสันติภาพกับยูเครนเจอทางตัน และใช้การออกมาพูดต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ประกาศเดินหน้าโจมตีต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และเย้ยหยันตะวันตกว่ากำลังล้มเหลวในการบีบบังคับให้มอสโกคุกเข่ายอมจำนน ผ่านมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วง เชื่อกฎระเบียบโลกขั้วเดี่ยวที่ครอบงำโดยสหรัฐฯ กำลังล่มสลาย พร้อมแซะอเมริกาพร้อมสู้กับรัสเซียจนกว่าจะสิ้นชาวยูเครนคนสุดท้าย

ในการปราศรัยเกี่ยวกับสงครามต่อหน้าสาธารณะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กองกำลังรัสเซียล่าถอยจากทางตอนเหนือของยูเครน หลังหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูทางเข้ากรุงเคียฟเป็นเวลานาน ปูติน สัญญาว่าจะบรรลุทุกเป้าหมายขั้นสูงในยูเครน

คำกล่าวที่เป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดจนถึงตอนนี้ว่าสงครามจะลากยาวต่อไป ปูตินระบุว่า เคียฟกัดเซาะการเจรจาสันติภาพ ด้วยการจัดฉากในสิ่งที่เขาเรียกว่าการกล่าวหาอันเป็นเท็จ ว่ารัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม และจากข้อเรียกร้องขอคำรับประกันด้านความมั่นคงครอบคลุมทั่วทั้งยูเครน

"เป็นอีกครั้งที่เรากลับสู่สถานการณ์ทางตันสำหรับเรา" ปูตินกล่าวระหว่างแถลงสรุป ขณะเดินทางเยือนฐานปล่อยวอสโตชินี คอสโมโดรม (Vostochny Cosmodrome) ทางตะวันออกของมอสโก ราว 5,550 กิโลเมตร

เมื่อถูกคนงานของหน่วยงานอวกาศรัสเซีย ถามว่าปฏิบัติการในยูเครนจะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ปูตินตอบว่า "แน่นอน ผมไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย"

ปูตินกล่าวต่อว่า "รัสเซียจะเดินหน้าอย่างเป็นจังหวะและสุขุมเยือกเย็นในปฏิบัติการ แต่บทสรุปทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดก็คือกฎระเบียบโลกขั้วเดี่ยว ซึ่งสหรัฐฯ ได้สร้างมาหลังจากสงครามเย็น กำลังแตกสลาย"

ประธานาธิบดีปูตินเน้นย้ำว่ารัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้รบ เพราะว่าจำเป็นต้องปกป้องพลเรือนพูดภาษารัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน และป้องกันไม่ให้เพื่อนบ้านอดีตสหภาพโซเวียต กลายเป็นสปริงบอร์ดต่อต้านรัสเซียของบรรดาศัตรูทั้งหลายของมอสโก

ตะวันตกประณามสงครามนี้ว่าเป็นการยึดครองดินแดนในรูปแบบจักรวรรดิอันโหดเหี้ยม โดยมีประเทศอธิปไตยหนึ่งเป็นเป้าหมาย ส่วนยูเครนระบุว่าพวกเขากำลังสู้รบเพื่อความอยู่รอด หลังจาก ปูติน ผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และประกาศรับรองเอกราช 2 แคว้นกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ตำรวจนิวยอร์กเร่งล่ามือปืนกราดยิงในสถานีรถไฟ หลังก่อเหตุโกลาหล มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย

13 เม.ย. 65 - ตำรวจนิวยอร์กในสหรัฐฯ ยังคงเร่งไล่ล่าตัวมือปืนสวมหน้ากากกันแก๊สพิษ ที่ก่อเหตุกราดยิงผู้คนภายในสถานีรถไฟใต้ดินในนครนิวยอร์กช่วงชั่วโมงเร่งด่วน วานนี้ ที่มีผู้คนแออัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 คน

นี่เป็นภาพความปั่นป่วนโกลาหลภายในสถานีรถไฟใต้ดินบรูคลินในนครนิวยอร์ก หลังมีผู้ต้องสงสัยเป็นชายสูงราว 5 ฟุต 5 นิ้ว น้ำหนักราว 81 กิโลกรัม สวมเครื่องแบบคนงานก่อสร้างสีส้มและหน้ากากกันแก๊สพิษ โยนวัตถุบางอย่างเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินบรูคคลิน ก่อนจะเปิดฉากกราดยิง ช่วง 08.30 น. เช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 16 คน ในจำนวนนี้ 10 คนถูกยิง ที่เหลือบาดเจ็บเพราะสูดควันพิษและถูกเหยียบท่ามกลางความโกลาหล ผู้บาดเจ็บนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นชานชาลาและในตู้โดยสารรถไฟ ท่ามกลางควันสีขาวลอยคลุ้ง

‘สามย่าน’ อดีตวงเวียนเชื่อมความเจริญ ใจกลางมหานคร

สามย่าน ต้นถนนพญาไท 
อดีตเคยเป็นวงเวียน

ถนนพญาไทยในอดีต
คือถนนเจ้าแห่งวงเวียน

มีวงเวียน 5 แห่ง
เริ่มต้นที่วงเวียนสามย่าน วงเวียนปทุมวัน วงเวียนราชเทวี วงเวียนพญาไท และสิ้นสุดที่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ปัจจุบันคงเหลือเพียงวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=472485114235152&set=a.242244403925892


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

การศึกษาใหม่เผย!! ไทยติดโผ ประเทศส่วนน้อย แบนบุหรี่ไฟฟ้า

การศึกษาใหม่เผย!! ไทยติดโผ ประเทศส่วนน้อย แบนบุหรี่ไฟฟ้า เผยผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทยเพิ่ม 4,500% ใน 3 ปี สะท้อนปัญหาแบนบุหรี่ไฟฟ้าล้มเหลว แนะใช้กฎหมายคุมเหมือน 67 ประเทศส่วนใหญ่ดีกว่า
 
เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (ECST) เผยผลการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าใน 97 ประเทศ ชี้ไทยเป็นหนึ่ง 1 ในเพียง 30 ประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้า สวนทาง 67 ประเทศที่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกต้องตามกฎหมาย แถมแบนมาตลอด 7 ปี แต่ผู้ใช้เพิ่มขึ้น 4500% สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจและปิดโอกาสผู้สูบบุหรี่ที่เสียชีวิตปีละเกือบ 70,000 คน
 
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เผยผลการศึกษาในหัวข้อ “การเปรียบเทียบระเบียบข้อบังคับและแรงจูงใจของบุหรี่ไฟฟ้าใน 97 ประเทศ” ว่า “การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น หลายประเทศจึงมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อหาวิธีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้สมดุลในแบบที่ห้ามการเข้าถึงของเด็กและคนไม่สูบบุหรี่ แต่ก็ไม่ปิดกั้นโอกาสของคนสูบบุหรี่ที่อยากเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งใน 97 ประเทศ เช่น แคนาดา อิตาลี เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกา เลือกที่จะควบคุมในรูปแบบต่างๆ เช่น ห้ามการเติมส่วนประกอบที่จูงใจเด็ก หรือควบคุมแบบสินค้าบริโภคทั่วไป แต่ประเทศไทยกลับเลือกที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีเพียง 30 ประเทศ เช่นอินเดีย บรูไน สปป.ลาว เกาหลีเหนือ และศรีลังกา ที่เลือกใช้วิธีการแบนเช่นเดียวกัน”


 
การศึกษานี้ ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Social Science & Medicine เมื่อกลางปี 2564 ซึ่งทำการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศต่างๆ รวมถึงข้อดี-ข้อเสียของนโยบายแต่ละประเภท ซึ่งการแบนหรือการปิดกั้นการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จนั้น ก็ทำให้เกิดประเด็นทางจริยธรรมเพราะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้สูบบุหรี่ และทำให้เกิดปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจากแหล่งผิดกฎหมายซึ่งอาจเป็นอันตรายกว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ผลิตแบบมีคุณภาพ และยังสวนทางกับแนวโน้มด้านนโยบายของหลายๆ ประเทศที่เริ่มปลดล็อคสิ่งเสพติดบางชนิด เช่น กัญชา ให้ถูกกฎหมาย
 
“หลายประเทศมีการแก้ไขมาตรการควบคุมยาสูบ เพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายและควบคุมได้ เช่น นิวซีแลนด์ที่เคยแบนบุหรี่ไฟฟ้า หรือ ฟิลิปปินส์ที่รัฐสภาได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุม ขณะที่สหรัฐอเมริกา ก็กำหนดให้ผู้ผลิตและผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าต้องนำผลิตภัณฑ์มาขึ้นทะเบียนก่อนขาย และล่าสุด อย.สหรัฐก็เพิ่งอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าหลายยี่ห้อขายในประเทศได้”

เพื่อนผมปาระเบิด!! ฝากขัง 'บุ๊ค' แร็ปเปอร์วง Eleven Finger ยอมรับเพื่อนปาระเบิดใส่บ้านนายกฯ

ไม่รอด ฝากขัง ‘บุ๊ค ธนายุทธ’ ยอมรับเพื่อนปาระเบิดใส่บ้านนายกฯ แต่ตัวเองไม่เกี่ยวอ้างสำรวจเส้นทางจัดกิจกรรมสงกรานต์ 13 เม.ย. 65 ด้านตำรวจจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย

12 เม.ย. 65 ที่สน.ท่าเรือ พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขัง นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ “บุ๊ค” ศิลปินแร็ปเปอร์วง Eleven Finger ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ในคดีที่ตำรวจนครบาลท่าเรือ รับแจ้งเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในย่านคลองเตย เวลา 21.30 น. ในที่เกิดเหตุตำรวจพบนายธนายุทธ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดอยู่ที่บ้านหลังนี้ และเมื่อตำรวจตรวจค้นบ้านพัก ยึดของกลาง ประทัดลูกบอล 164 ลูก ประทัดไข่มังกร 8 ลูก พลุควัน 1 ลูก และระเบิดควันสีดำ 22 ลูก ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองฯ และนายธนายุทธ ให้การยอมรับว่า พลุและควันสี ที่ตรวจยึดได้ในบ้านพักเป็นของตัวเอง แต่ปฏิเสธว่า ประทัดลูกบอลและไข่มังกร ไม่ใช่ของตัวเอง

ต่อมา ตำรวจนครบาลบางซื่อ เข้าสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายธนายุทธ โดย พนักงานสอบสวน ระบุว่า วันที่ 10 เมษายน นายธนายุทธกับพวก ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเมื่อเลิกชุมนุม นายธนายุทธ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง จากนั้น ขับขี่ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก เมื่อผ่านบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว และนายธนายุทธกับพวก หลบหนีไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก

ต่อมา ตำรวจจับนายธนายุทธพร้อมของกลางประทัดและพลุ ได้ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ จากการสืบสวนพบว่า นายธนายุทธและพวกขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นทันที จึงเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยนายธนายุทธ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนแฟนสาวของนายธนายุทธ ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกันที่บ้านพักย่านคลองเตย ตำรวจนครบาลบางซื่อ แยกไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร โดยฝากขังต่อศาลอาญา รัชดา ไปแล้วเมื่อวานนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top