Saturday, 28 June 2025
Hard News Team

'บุ๋ม ปนัดดา' ชี้!! ครูก็เป็นคน สิทธิส่วนบุคคลควรมี ลั่น!! ถึงยุคที่สมควรเปลี่ยนกฎนางงามเสียที

‘บุ๋ม ปนัดดา’ มองประเด็น ‘ครูจุ๊บแจง’ ถอนตัวประกวดมิสยูนิเวิร์สเพราะผิดระเบียบรับราชการครู ลั่นเป็นกฎที่ควรจะเปลี่ยนได้แล้วยันควรจะเคารพสิทธิส่วนบุคคลบ้าง เพราะครูก็เป็นคน ถ้าไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียหรือผิดกฎของสถานศึกษา 

หลังจากที่เกิดกรณีของ “จุ๊บแจง กนกวรรณ ชูสุข” ครูสาวที่เข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ต้องสละสิทธิถอนตัวจากการประกวดแบบกะทันหัน เพราะถือว่าผิดกฎของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ออกกฎว่าห้ามครูสตรีเข้าประกวดนางงาม ซึ่งเป็นกฎที่ตั้งแต่เมื่อปี 2506 ก็เลยเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ล่าสุด “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ในฐานะที่เป็นอดีตนางสาวไทย และเคยเป็นอาจารย์เช่นกัน จึงได้ออกมาเผยความรู้สึกถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก และควรจะเปลี่ยนกฎเก่า ๆ ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้แล้ว

“มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเซนซิทีฟนะคะ และเป็นประเด็นที่พูดคุยกันมานาน และจริง ๆ แล้วปีที่บุ๋มประกวดมันไม่มีชุดว่ายน้ำบนเวที มันก็เลยยังมีข้อยกเว้นแบบที่พอจะคุยกันได้มั้ง เขาก็คงจะรู้สึกว่ามันก็คงจะไม่ได้แรงมากขนาดนั้นมั้ง เพราะไม่มีชุดว่ายน้ำบนเวที แต่มีใส่ให้กรรมการดู ตอนรอบต่างหากในห้อง เพื่อเขาจะได้ดูผิวของเราว่ามีผิวแตกลายมั้ยอะไรมั้ย"

"แต่ในส่วนของการประกวดบุ๋มว่า คือในความรู้สึกบุ๋ม ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปแล้ว และที่สำคัญคือครูเองถ้าเขาจัดการเรื่องของเวลา คือเข้าใจว่าไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม แต่ถ้ามันเสียเวลางาน เราต้องขาดลางานโดยที่ไม่สามารถลาได้ อันนั้นถือว่าผิดกฎอยู่แล้ว อันนั้นถือว่าคุณต้องจัดการตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม ยิ่งเป็นระบบราชการอันนี้เราเข้าใจ อาจจะเป็นข้อที่ทำให้ทางต้นสังกัดเขาติงหรือว่ามาได้"

กฏเก่าควรเปลี่ยนได้แล้ว..."แต่ด้วยกฎระเบียบของการเป็นครู และกฎนี้มันมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยพ.ศ.2506 ก่อนบุ๋มจะเกิดอีก คือมันควรจะปรับได้แล้ว เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน และควรเคารพสิทธิส่วนบุคคล คือถ้าเขาจัดการตัวเองได้โดยไม่ได้เสียเวลางาน และทำตามความฝัน โดยไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ คือเขาไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำไปสอนหนังสือ หรือเอาไปโพสต์อะไรที่มันดูยั่วยวนจนเกินงาม หรือทำให้มันเสื่อมเสียหรือโพสต์อะไร" 

"แต่นี่คือการประกวดที่เขามีสิทธิที่เขาจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยด้วยซ้ำไป บุ๋มว่ามันควรจะเปลี่ยนได้แล้ว ครูก็คนนะ ควรมีชีวิตส่วนตัวนะ แม้กระทั่งเรื่องใส่ชุดว่ายน้ำไปเที่ยวทะเลหรืออะไรก็ตาม ครูก็คน เพียงแต่ว่าไม่ได้โพสต์ทะลึ่งตึงตัง หยาบคายจนเกินงาม บุ๋มเข้าใจคำว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น อันนี้เข้าใจ แต่บางทีมันต้องเปลี่ยนไปตามยุคบ้างค่ะ”

บอกครูไม่จำเป็นต้องเสียสละทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตส่วนตัว

“ความเป็นครูในยุคสมัยนี้ ถามว่าขอบเขตควรอยู่ขนาดไหน ก็อาจจะต้องมีความน่าเชื่อถือมากกว่าอาชีพอื่น อันนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ ความน่าเชื่อถือ ความน่าเกรงใจมากกว่าอาชีพอื่น แต่ครูไม่ใช่ว่าจะต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัว นี่ความรู้สึกบุ๋มนะ เพราะถ้าแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวของตัวเองก็ยังไม่มีเนี่ย บุ๋มว่าไม่ใช่" 

"ทุกคนสามารถมีความฝัน มีชีวิตส่วนตัวของตัวเองได้ เพียงแต่ว่าเรายังอาจจะอยู่ในยุคการผสมผสานของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่ยังไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ทันที นี่ก็อาจจะเป็นประเด็นและการเปิดประเด็นได้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับน้องจุ๊บแจงด้วยค่ะ"

"ถ้ามองถึงการผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงเนี่ย บุ๋มมองว่าเป็นเรื่องของกฎการกระทรวงที่เขาต้องคุยกันได้แล้ว อะไรที่มันล้าหลัง อย่างเช่นตอนนั้นที่บุ๋มทำกฎหมายข่มขืน นั่นมัน 33 ปีเลยนะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง นานมาก บุ๋มยังตกใจเลย พอมาศึกษาเรื่องนี้จริงจัง ว่าทำไมมันยังแค่ 8,000 บาทเอง ข่มขืนทั้งที ทำไมมันน้อยจังเลย" 

"ยิ่งพอมานั่งศึกษามัน 33 ปีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันก็ต้องมีคนที่ลุกขึ้นสู้ และต้องทำตรงนี้ให้มันเปลี่ยนแปลงและปรับให้มันทันสมัยขึ้น ถ้าไม่มีประเด็นบางทีก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรค่ะ ประเทศไทยเรามักจะเป็นอย่างนี้”

บอกควรจะไปดูครูที่ประพฤติตัวไม่ดีต่อนักเรียน ดีกว่าจะมาจับจุดยิบๆ ย่อยๆ

“เรื่องที่ครูมาเล่นติ๊กต๊อกแล้วโดนวิจารณ์ อันนี้บุ๋มก็เห็นคุณครูหลายคนมาเล่นกับเด็ก ชวนเด็กเฮฮา แล้วเด็กรู้สึกรักคุณครูด้วยซ้ำไป แล้วเขาก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วม อยากไปเรียน บุ๋มว่าเดี๋ยวนี้ยุคมันเปลี่ยนไปแล้ว มองที่ความตั้งใจ มองที่ผลงานมากกว่ามองแค่การกระทำอยู่ไม่กี่อย่าง แล้วเอามาตัดสินคนทั้งคน บุ๋มว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้าดูที่ผลงาน เขาทำงานได้ดี สอนหนังสือเด็กได้ดี ทำไมไม่มองในจุดนั้น มากกว่ามองในจุดยิบๆ ย่อยๆ"

จีน สุดล้ำ! พัฒนาชุดโต๊ะ - เก้าอี้แบบพิเศษ เปิดมิติใหม่แห่งการงีบให้เด็กนักเรียน

เพจเฟซบุ๊ก Jeenthainews – จีนไทยนิวส์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงชุดโต๊ะ-เก้าอี้ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้เด็กนักเรียนในจีนได้งีบในช่วงกลางวัน ว่า หมดยุคฟุบกับโต๊ะเพื่องีบยามบ่าย เพราะพี่ #จีน เราล้ำกว่านั้นมาก!

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องวัฒนธรรมการ “#นอนกลางวัน” ของชาวจีนมาบ้าง แต่นี่คือปี 2022 เพราะฉะนั้นหมดยุคงีบยามบ่ายด้วยการฟุบหัวลงบนโต๊ะให้ปวดคอแล้ว!

มีคลิปด้วยนะ ใครสนใจตามไปดูได้ที่ https://www.jeenthainews.com/china-news/43193_20220705

'ทักษิณ' ฟาด 'บิ๊กตู่' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่อ? ชี้ ปท.ไทยยังไม่พร้อม ส่วน 'ดอน' ก็หมดไฟ - ไม่ฉลาด

'ทักษิณ' ฟาดแหลก 'ประยุทธ์' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร อย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก 'ดอน'คงหมดไฟแล้ว เครื่องบินพม่ารุกล้ำเข้าไทย เรายังไม่เห็นคำขอโทษจากพม่าเลย ไทยแก้ตัวให้หมด ชี้ต้องเรียกทูตมาประท้วง

(6 ก.ค. 2565) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ "ผู้นำต้องทำงาน ไม่ใช่ผลาญแต่ภาษี" เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ตอนหนึ่งว่า

“...ประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร เพราะความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก...”

กรณีที่คุณดอน (รมว.ต่างประเทศ) ขอโทษแทนพม่า ต้องยอมรับว่าคุณดอนคงหมดไฟแล้ว เพราะขนาดไปประชุมระดับโลกยังใช้ที่ปรึกษาไปแทนเลย พอการต่างประเทศของไทยเป็นแบบนี้ เอาจริง ๆ ผมมองไม่ออกเลยว่า ท่านประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC ไปเพื่ออะไร หรือแค่อยากจะแข่งกับผม เห็นผมเป็นเลยอยากเป็นบ้าง ผมไม่เคยคิดแข่งกับใคร

แต่ว่านะ ท่านอย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมากสำหรับการประชุม APEC เพราะมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างประเทศสูงมาก และรัฐมนตรีการต่างประเทศต้องฉลาด ต้องคล่องตัวและมีความสัมพันธ์กับหลายประเทศ เราจะรับมือยังไง วันนี้การต่างประเทศไทยไม่แข็งแรง พาณิชย์กับคลังก็ไม่แข็งแรง นายกฯนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้า 2-3 ขานี้ไม่แข็งแรง นายกฯก็จะยิ่งเปลี้ยใหญ่

'ดร.สมเกียรติ' ยัน!! ไทยรอด 'วิกฤติน้ำมันแพง-เงินเฟ้อ' ชี้!! ปล่อยให้ปัญหาถูกแก้ไปตามกลไกตลาดพอ

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ข่าวดีของประเทศไทย นี่คือคำทำนาย ที่สนุกมาก

สมัยสอนหนังสือผมรับจ้อบของยูเอ็นแทบทุกปี ไม่ได้เก่งอะไรหรอก แต่เป็นเพราะคนจ้างเป็นเพื่อนของผม มันมาหาที่จุฬาทุกอาทิตย์ เชื่อมือกัน งานหนึ่งปีผมใช้เวลาทำแค่สองเดือน มีเงินไปกินเบียร์กับเพื่อน เค้าจบ U Penn

เป็นเพื่อนพี่โกร่ง ดร วีรพงษ์ ที่เพิ่งไปสวรรค์ ผมแน่ใจว่าเค้าไปชั้นที่นางฟ้าไม่ใส่เสื้อแน่นอน เค้าชอบของเค้า ผมก็ด้วยล่ะ

มีงานสองจ้อบที่ผมจำได้ดี งานหนึ่งคือ inflation ในเอเซีย อีกงานที่ตามมาหลังจากนั้นไม่กี่ปี คือ Low price in Asian Agriculture จำได้แม่น เพราะมันมาแบบมี pattern มาก

ทำเรื่องเงินเฟ้อเพิ่งจบกลายเป็นเรื่องราคาสินค้าตกต่ำซะแล้ว

เรื่องของไทยก็เหมือนกัน

หนึ่ง ราคาน้ำมันจะลดลงไปอยู่ที่ 65 เหรียญในปลายปีนี้ ปีหน้าจะลงไปที่45 เหรียญ ซิตี้แบงค์ทายไว้ ผมเชื่อ อธิบายทีหลังนะ

สอง โรงกลั่นที่สั่งน้ำมันเข้ามาจะขาดทุนยับ ไอ้ที่กำไรช่วงนี้ เก็บไว้จ่ายขาดทุนได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งเค้าหรอก

สาม ราคา commodities จะลงแรง

สี่ ดังนั้นเงินเฟ้อจะลดลงสู่สภาพปกติไม่ต้องมีนโยบายมาตรการใดดอก

'กรณ์' จี้นายกฯ บี้รมว.พลังงาน แฉ ซ้ำ ราคาหน้าโรงกลั่นถูกลง แต่หน้าปั๊มไม่ลด ปล่อยเพิ่มค่าการตลาดฟันกำไร

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี กำชับ 'รัฐมนตรีพลังงาน' ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในช่วงนี้เนื่องจากมีความหละหลวมในการดูแลประชาชนอย่างมาก  เนื่องจากเดือนที่ผ่านมานี้สังคมกดดันท่านรัฐมนตรีเรื่อง 'ค่าการกลั่น' ที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ น้ำมันแพง  ของแพง วันนั้นท่านออกมาสัมภาษณ์ว่า ‘คิดมาก่อนแล้ว เตรียมมาตรการไว้เป็นชุด’ แต่แล้วถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน ส่วน 3-4 วันที่ผ่านมานี้ ท่านได้ปล่อยให้ผู้ขายนํ้ามันเพิ่ม ‘ค่าการตลาด’ (รายได้ของผู้ค้าน้ำมัน) ในกรณีของเบนซินขึ้นมาสูงเกินมาตรฐานปกติอย่างมาก

"วานนี้ (5 ก.ค.) ค่าการตลาด Gasohol95 E10 สูงถึง 3.42 บาทต่อลิตร ส่วน Gasohol 91 อยู่ที่ 3.62 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดปกติไม่ควรเกิน 2 บาท และที่น่าสนใจคือ หากเทียบกับวันที่ พรรคกล้า ได้ออกมากระทุ้งรัฐบาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.เราจะเห็นว่า ราคานํ้ามันที่รับจากโรงกลั่นน้ำมันถูกลง แต่ราคาหน้าปั้มยังอยู่ในระดับเดิม แทนที่คนไทยเรา จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ถูกลง กลับกลายเป็นผู้ค้าเอาไปเป็นรายได้ของตนเอง ซึ่งผู้ค้าใหญ่สุดก็คือ ปตท. นั่นเองรัฐมนตรีพลังงาน ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรครับ" หัวหน้าพรรคกล้า ตั้งข้อสังเกต

ทบ. ฝึกอบรมหลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การพัฒนารัฐบาลติจิทัล (Digital Government Maturity Model)

วันอังคารที่ ๕ ก.ค. ๖๕ พลโท วรพจน์ เร้าเสถียร เจ้ากรมการทหารสื่อสาร เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล นายทหารสัญญาบัตร รุ่นที่ ๒ ณ ห้องประชุม โรงเรียนทหารสื่อสาร กรมการทหารสื่อสาร เวลา ๑๓.๓๐ น. โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๓๒ นาย มีระยะเวลาในการฝึกอบรม ๕ สัปดาห์ มีรูปแบบการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ สำหรับในพิธีปิดการฝึกอบรมมีการเปิดวิดีทัศน์ และมอบประกาศนียบัตรสำเร็จการฝึกอบรมให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม

สำหรับ “หลักสูตรทักษะด้านดิจิทัล นายทหารสัญญาบัตร รุ่นที่ ๒” มุ่งพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลบุคลากรของกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในส่วนของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ภายใต้แนวคิด การปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลติจิทัล โดยกำหนด "แผนพัฒนาทักษะด้านติจิทัลบุคลากรของกระทรวงกลาโหม" ขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงกลาโหม ในระยะ ๘ ปี ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๗๐ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้...

๑. เพื่อให้กระทรวงกลาโหมมีบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัลที่เหมาะสม ที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนหน่วยงานเป็นรัฐบาลดิจิทัล ทั้งนี้เป็นการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

๒. เพื่อให้บุคลากรกระทรวงกลาโหมสามารถปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานตามบทบาทและพฤติกรรมที่คาดหวังในบริบทของการปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล และสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' ส่งซิกเคาะสูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500 ผนึกกำลังสกัดแลนด์สไลด์

เกมพลิกผนึกกำลังสกัดแลนด์สไลด์! ‘บิ๊กตู่’ คุย ‘บิ๊กป้อม’ เคาะสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 แต่ให้ ‘พปชร.’ฟรีโหวต ส่งสัญญาณแกนนำขั้วพรรคร่วมรัฐบาลพรึ่บ ‘ภท.-พรรคเล็ก’ ตกปากรับคำ ‘กลุ่มส.ว.’ ไม่พลาดเอาด้วย ส่วน ‘ปชป.’ เสียงยังแตกเป็น 2 กลุ่ม ‘ซีกฝ่ายค้าน’ รับสภาพแพ้แน่ เตรียมใช้สูตรเดิม “แตกแบงค์”ดิ้นสู้ต่อเฮือกสองยื่นศาลรธน.ขัดเจตนารมย์

(5 ก.ค.65) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวการพิจารณาวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะใช้สูตรหารด้วย 100 หรือ 500 ที่ยังคงมีคะแนนเสียงก้ำกึ่งเบียดกันมาตลอดนั้น แต่ปรากฏว่า ในช่วงบ่ายวันที่ (5 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว เพื่อตกลงให้ใช้สูตร 500 หาร ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้ส่งสัญญาณมาถึงแกนนำในขั้วพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มส.ว.รับทราบถึงแนวทางดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะสนับสนุนการใช้สูตร 500 หาร คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยพรรคพลังประชารัฐจะให้เป็นฟรีโหวต แต่ทิศทางทุกคนจะสนับสนุนการใช้ 500 หาร พรรคประชาธิปัตย์เสียงแตกเป็น 2 กลุ่ม แต่เสียงส่วนใหญ่ 40 คน เอาด้วยหาร500 ส่วนพรรคภูมิใจไทย พรรคเล็ก และ ส.ว.จะเทเสียงให้กับการหาร 500 ทั้งหมด โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แหล่งข่าวของพรรคฯยืนยันว่า จะสนับสนุนสูตรหาร500 แต่การโหวตจะให้เป็นเอกสิทธิ์ส.ส.ของพรรค และการลงมติของพรรคจะเป็นเอกภาพ

'จิรายุ' ผวา!! กัญชาเสรี ทำคนเจ็บป่วยตายทุกวัน เสนอยกเลิกเสรีกัญ จนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ

‘จิรายุ’ จี้!! รัฐบาลปุ๊น ๆ มีข่าวตายป่วยเจ็บเพราะกัญทุกวัน ยังทำนิ่ง เสนอนายกฯ ต้องยกเลิกเสรี กัญไปก่อนจนกว่าจะมีกฎหมายรองรับ โวยห่วงคนพื้นที่ สามวาจนต้องขึ้นป้าย ดูดปุ๊นขับรถเสี่ยงตาย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ผลกระทบจากการเปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศว่า วันนี้ อาการสังคมกำลังป่วยหนัก บ้านเมืองไร้ขื่อแปร เกิดยุคคล้ายกับ  ‘โรงฝิ่น’ ในศตวรรษที่ 19 แต่วันนี้ศตวรรษที่ 21 กำลังเป็นยุค ‘บ้องโจ๋ครองเมือง’ เสรียิ่งกว่า 

ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้เด็กและเยาวชน เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก มีคนเจ็บคนป่วยคนตายทุกวัน ซึ่งดูแล้วหากรัฐบาลจะทำเนียน อ้างว่ารอ พรบ.ประกอบออกมาก็จะดีขึ้นนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะวันนี้ทั้งสื่อโซเชียลวิทยุ โทรทัศน์โฆษณาสินค้าผสมกัญชากันอย่างโจ๋งครึ่ม ตู้กดน้ำใกล้สถานศึกษาโรงเรียน  โรงพยาบาล คอนโดมิเนียมมีเพียบ ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ประกาศยกเลิก เสรีกัญชาไว้ก่อนจนกว่า พรบ.ประกอบจะประกาศใช้เพื่อคืนสังคมที่ดีให้กับครอบครัวคนไทย

‘ยี่ปั๊ว’ คิดได้!! กลเม็ดทำกำไรจากสลากดิจิทัล กดซื้อหวยชุด 80 บาท ขายต่อโซเชียล 100-120 บาท

แฉยี่ปั๊วหากินกับสลากดิจิทัล กดซื้อหวยชุด นำมาขายต่อเลขละ 100-120 บาท ทำให้ถูกซื้อหมดในเวลารวดเร็ว ส่วนหวยใบยังคงราคาแพงเหมือนเดิม 

(5 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหล่าแม่ค้าพ่อค้าตามจุดต่าง ๆ พากันวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องสลากดิจิทัลและเทคนิคในการนำเลขชุดจากสลากดิจิทัลมาจำหน่ายต่อยอด ส่วนราคาหวยยี่ปั๊วปล่อยราคาแพงเหมือนเดิม 

นายชาตรี ขุนอินทร์ นายกสมาคมผู้ค้าสลากคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เหล่ายี่ปั๊ว รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าปลีกทั่วไป ต่างพากันใช้เทคนิคทำกำไรจากสลากดิจิทัล ด้วยการกดซื้อสลากดิจิทัล โดยเน้นเอาเฉพาะเลขชุด จากนั้นก็กดซื้อกันตามกำลังทรัพย์ แล้วบันทึกไว้ นำมาจำหน่ายในกลุ่มโซเซียลด้วยราคาแพงที่เลขละ 100-120 บาท ทำให้สลากดิจิทัลถูกซื้อหมดในเวลาอันรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นเลขชุดที่หมดก่อน 

อนุสรณ์ แนะ!! นายกฯ ไม่ไหวก็อย่าฝืน ประชาชนต้องการผู้นำที่พาประเทศมั่งคง ไม่ใช่ผู้นำที่บังคับทิศทางประเทศไม่ได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลแก้วิกฤตราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง ด้วยการใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ผิดฝาผิดตัว ตลอด 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะยึดวิธีถ้าบริหารผิดพลาด ไร้ประสิทธิภาพ จะปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว หรือโยนความผิดให้คนอื่นไว้ก่อน วิธีคิดถ้ารถเสียให้ทุกคนลงไปช่วยกันเข็น เห็นได้ในหลายสถานการณ์ ประชาชนคนไหนจะอยากอยู่บนรถที่น้ำมันหมด คนขับขับไม่เป็น บังคับพวงมาลัยผิดทิศผิดทาง เข้ารกเข้าพง โอกาสรถพุ่งลงเหวสูง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ความมั่นคงนำทุกอย่าง เพื่อความมั่นคงของเก้าอี้ตัวเองก่อนความมั่นคงของประชาชนหรือไม่ วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ใช้สมช.นำหน่วยงานด้านสาธารณสุขจนพรรคร่วมรัฐบาลต่างโวยวายว่าถูกยึดอำนาจ รัฐซ้อนรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจแทนที่จะใช้สภาพัฒน์ร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจอื่นๆ กลับใช้สมช.นำหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความรู้ ความสามารถ ขาดความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาวิกฤต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top