Monday, 30 June 2025
Hard News Team

คนอะไร? เจอพี่ชายโบ้ย แถมฝ่ายค้านยังไล่โซ้ยต่อทั้งวัน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมานั่งปั่นงานชาติต่อ เมื่อมีเวลา

เพจศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ได้โพสต์ภาพการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคำบรรยายว่า แม้จะมีอภิปรายในรัฐสภา แต่ #หน้าที่และความรับผิดชอบ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ได้หยุดตามไปด้วย เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนที่รอการแก้ไขและพัฒนายังมีอีกมาก ดังนั้น การบริหารราชการแผ่นดินจึงรอช้าไม่ได้ 

จึงเป็นเรื่องคุ้นเคยกับการที่เราได้เห็นภาพนายกฯ ทำหน้าที่ทั้งผู้นำฝ่ายบริหาร และรับฟังการตรวจสอบจากรัฐสภาในเวลาเดียวกัน


ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=366737012307170&set=pb.100069126223361.-2207520000..

นายกฯ ชื่นชม ‘อภิญญา ทาจิตต์’ รับรางวัล TIP Heroes 2022 จากสหรัฐฯ

(20 ก.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมแสดงความยินดี และชื่นชมการทุ่มเททำงานช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ จนทำให้ คุณอภิญญา ทาจิตต์ จากองค์กร Stella Maris สังฆมณฑลจันทบุรี ได้รับรางวัล TIP Heroes ในปีนี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศรายชื่อ นักสู้ต่อต้านการค้ามนุษย์ (TIP Heroes) ประจำปี 2022 จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นบุคคลหลากหลายประเทศทั่วโลกที่มีผลงานในด้านปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยทั้ง 6 คนได้รับประกาศเกียรติคุณยกย่องต่อการอุทิศตนเพื่อต่อสู้กับปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งน่าภูมิใจว่า 1 ในนั้นมีคนไทยรวมอยู่ ได้แก่ คุณอภิญญา ทาจิตต์ จากองค์กร Stella Maris สังฆมณฑลจันทบุรี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมกรมประมงบินประสานมาเลเซียขอเรือประมง IUU ที่หลบหนีกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

จากกรณีที่เมื่อเดือน ธ.ค.๖๔ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการประมง ร่วมกับ ศรชล จับกุมเรือประมงปลอมแปลงสัญชาติซึ่งลักลอบเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จำนวน ๕ ลำ พร้อมดำเนินคดีเจ้าของเรือและลูกเรือรวมจำนวน ๒๒ ราย ซึ่งร่วมกันกระทำความผิดกรณีลักลอบเข้ามาในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ และมีการปิดบังและเปลี่ยนแปลงชื่อเรือและสัญชาติจากมาเลเซียเป็นสัญชาติอินโดนีเซีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น

ความคืบหน้าในส่วนของคดีนั้น ศาลได้มีการพิจารณาคดีเกี่ยวกับเรือประมงดังกล่าวไปแล้วจำนวน ๓ ลำ เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพ โดยสั่งริบเรือประมง และปรับเงินจำนวนกว่า  ๑๙ ล้านบาท ส่วนอีก ๒ ลำ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี ต่อมาในช่วงเดือน มี.ค.๖๕ ระหว่างที่มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนั้น ในส่วนของเรือประมงที่ยึดไว้ทั้ง ๕ ลำ ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ กรมศุลกากรจังหวัดสงขลา ได้เข้าสู่กระบวนการประมูลเรือขายทอดตลาดของกรมศุลกากร แต่ปรากฏว่า หลังจากที่เรือประมงทั้ง ๕ ลำ ถูกประมูลไปแล้วนั้น กลับฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของเจ้าหน้าที่ ลักลอบเดินทางออกไปยังน่านน้ำประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานกับทางการมาเลเซียเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง ๕ ลำดังกล่าว ซึ่งต่อมาในช่วงเดือน พ.ค.๖๕ ทางการมาเลเซียได้แจ้งว่า สามารถติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง ๕ ลำไว้ได้ครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายของทางการมาเลเซีย

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซีย เพื่อขอความร่วมมือในการขอรับเรือประมงทั้ง ๕ ลำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้บูรณาการร่วมกับ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เพื่อดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซียต่อไป

ในวันนี้ (๒๐ ก.ค.๖๕) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.๑, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และนายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ได้เดินทางไปพบกับ ดาโต๊ะ สรี ซัมรี บิน ยะฮ์ยา ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานความร่วมมือในการนำเรือประมง ๕ ลำดังกล่าวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ณ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพบปะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งการแสวงหาความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกรณีเรือประมงทั้ง ๕ ลำดังกล่าว จะถูกนำกลับมาดำเนินคดีในความผิดฐาน ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกราชณาจักร และลักลอบออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการของกรมเจ้าท่า และตรวจคนเข้าเมือง

ฉะเชิงเทรา-ปปช.ลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำบาดาลอ.สนามชัยเขต

(19 ก.ค.65) นายสมชาย ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ได้ลงพื้นที่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบประมาณ 14,109,300 บาท อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ยังไม่ได้ส่งมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใด ) โดยลงพื้นที่ ณ บ้านทุ่งเหียง ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำเขต 9  และผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดาน  

จากการลงพื้นที่ พบว่าโครงการดังกล่าวมีการขุดเจาะน้ำบาดาล  ทำเสร็จเมื่อปี2564 จำนวน 4 บ่อ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากเลขมิเตอร์และสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าวพบว่าได้มีการจ่ายน้ำให้กับชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น จนกระทั่งเกิดเหตุมีช้างที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหลุดมาจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงโครงการฯมาเหยียบทำให้เกิดความเสียหาย 1 บ่อ และอุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากช้างป่าทำลาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างซ่อมแซมจากผู้รับจ้าง 

ขณะที่ท่อส่งน้ำหลักเชื่อมทั้ง 4 บ่อเกิดความเสียหายทำให้ท่อน้ำรั่ว จำนวน 3 จุด ชาวบ้านผู้ควบคุมการเปิด-ปิดน้ำบาดาลจึงได้ทำการปิดท่อส่งน้ำชั่วคราวไปก่อน โดยโครงการนี้มีประชาชนที่ได้รับประโยชน์จำนวน 30 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 และผู้รับจ้าง ได้นำอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมท่อส่งน้ำมาเตรียมการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะซ่อมแซมแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565 

สำหรับโครงการดังกล่าวยังอยู่ในระยะเวลาประกัน 2 ปี ทั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดฉะเชิงเทราได้ขอเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของโครงการฯ และขั้นตอนการดำเนินโครงการจากสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 9 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด 

'กระทรวงเกษตรฯ' หารือ 'หอการค้า' ขยายความร่วมมือภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ 'เฉลิมชัย'

'อลงกรณ์' จับมือ 'สนั่น' ขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงยกระดับรายได้เกษตรกรเพิ่มมูลค่าการค้าส่งออกสู่เป้าหมายประเทศมหาอำนาจอาหารภายในปี 2030

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งขยายความร่วมมือกับทุกภาคีภาคส่วน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีกำหนดประชุมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อหารือแนวทางและโครงการขยายความร่วมมือในทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในการยกระดับภาคเกษตรกรรมสู่เกษตรมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเพิ่มรายได้เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าการค้าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสู่เป้าหมายประเทศผู้ส่งออกอาหารท็อปเทนของโลกและมหาอำนาจอาหารภายในปี 2030 โดยตนจะนำคณะหารือกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและคณะในวันพรุ่งนี้ที่สำนักงานใหญ่หอการค้าไทย โดยจะมีประเด็นการหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือในโครงการที่ผ่านมาเช่นโครงการ 1 ไร่ 1 แสนและแนวทางความร่วมมือใหม่ๆ เช่น...

การส่งเสริมระบบการค้าสินค้าเกษตรที่เสรีและเป็นธรรม การพัฒนาธุรกิจเกษตรครอบคลุมถึงระบบตลาดสินค้าเกษตรแบบออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ การพัฒนาระบบประมูลสินค้าเกษตร ระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ การส่งเสริมเกษตรพันธสัญญา และระบบประกันภัยพืชผล รวมทั้งความร่วมมือด้านการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิรูประบบอำนวยความสะดวกทางการค้าการส่งเสริมระบบเกษตรกรรมยั่งยืน 

พก.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ”

วันนี้ (20 ก.ค. 65) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ กรุงเทพฯ "นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ" อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ” โดยนางสาวอมรศรี รัศมิทัต ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ (กคพ.) เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลให้กับผู้ใช้บริการในสถานคุ้มครองฯ เนื่องจากคนพิการที่อยู่ในความดูแลภายใต้สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ 11 แห่ง ยังมีผู้ใช้บริการกลุ่มบุคคลไร้รากเหง้าประสบปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติในปัจจุบันมีร้อยละ 10 ของผู้ใช้บริการทั้งหมดที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและบริการต่างๆ จากภาครัฐได้ ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมากองคุ้มครองฯ ได้ดำเนินการทบทวนความรู้ตามข้อกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจัดทำข้อมูลยื่นคำร้องเพื่อพัฒนาสถานะทางทะเบียนราษฎรและสัญชาติ 

อบต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เสริมสร้างความรู้สิทธิคนพิการ ตามกฎหมาย

อบต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เสริมสร้างความรู้สิทธิคนพิการ ตามกฎหมาย

20 ก.ค. 65 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ หมู่ที่ 4 ตำบลเกษตรสุวรรณ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จัด "โครงการอบรมให้ความรู้สิทธิที่ควรได้รับสำหรับคนพิการ" จัดโดยสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ  และได้รับเกียรติจาก "นางอมรรัตน์" กตัญชลีกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกษตรสุวรรณ เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทกับกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับการอบรม คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการ ครอบครัวคนพิการ กว่า 40 คน เพื่อแสดงถึงความความห่วงใยการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ครอบครัวคนพิการ ที่อาศัยอยู่ในความรับผิดชอบ และจะมุ่งมั่นสร้างความรัก ความสามัคคี ความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามนโยบายของภาครัฐ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนประชาสัมพันธ์ถึงการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการประชุม APEC 2022  ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจความผิดต่อชีวิต/ร่างกาย และความผิดเกี่ยวกับทรัพย์

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่ 20 ก.ค.65 เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ได้แถลงผลการปฏิบัติที่น่าสนใจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คดีที่ 1 จับกุมคนร้ายประสบปัญหาทางการเงิน ใช้อาวุธปืนปลอมชิงทรัพย์ร้านทอง ในห้างสรรพสินค้าย่านพัฒนาการ สน.คลองตัน บก.น.๕ วันที่ 19 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว นายประภากร หรือ กร อายุ 42 ปี ที่ห้องพักเลขที่ 210 ชั้น 2 ฝันดีแมนชั่น ซอยชยางกูร 38 ถนนชยางกูร อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมได้ตรวจยึดของกลาง

1.สร้อยข้อมือทองคำจี้ รูปหัวใจ พบในขวดโลชั่นทาผิว NIVEA จำนวน 1 เส้น

2.สร้อยข้อมือทองคำจี้ รูปปี่เชี้ยะ พบในขวดโลชั่นทาผิว NIVEA จำนวน 1 เส้น 

3.สร้อยข้อมือทองคำลายลูกคิดพลอย พบในขวดโลชั่นทาผิว NIVEA จำนวน 1 เส้น 

4.สร้อยข้อมือทองคำจี้เลข 8 พบในขวดโลออนครีม NIVEA จำนวน 1 เส้น 

5.สร้อยข้อมือทองคำจี้กุหลาบหัวใจเลข 9 พบในขวดโลออนครีม NIVEA จำนวน 1 เส้น 

6.สร้อยข้อมือทองคำลายดอกพิกุล พบในขวดแป้ง POND'S จำนวน 1 เส้น

7.ตะขอทองคำรูปตัว S พบในขวดแป้ง POND'S จำนวน 1 ชิ้น 

8.ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 500 บาท พบในกระเป๋ากางเกงข้างหน้าซ้าย ตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่   จำนวน 1 ฉบับ

9. ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 50 บาท พบในกระเป๋ากางเกงข้างหน้าช้ายที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่    จำนวน 1 ฉบับ

10. ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 1,000 บาท จำนวน 12 ฉบับ

11. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Realme จำนวน 1 เครื่อง 

12. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi จำนวน 1 เครื่อง

13. ชิมโทรศัพท์ AIS พบในกระเป๋ากางเกงข้างหน้าด้านขวาจำนวน 1 เบอร์

โดยกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อพ้นการจับกุม และพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

จากการตรวจสอบประวัติ นายประภากร เคยมีประวัติการต้องโทษ คดีฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน โดยประสบปัญหาการขาดทุนจากร้านที่เปิดและถูกดำเนินคดี กรณีไม่ปิดจุดเสี่ยง สถานบันเทิง ห้าง คลินิก บ่อน อาบ อบนวด

คดีที่ 2  กรณีผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ชนเด็กแล้วอุ้มขึ้นรถไปวางทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ สน.บุคคโล บก.น.8 เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ว่ามีชาย อายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อยืดสีฟ้า ได้อุ้มเด็กซึ่งได้รับบาดเจ็บมาวางทิ้งไว้หน้า โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับข้อมูลจากเด็กที่ถูกวางทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาล อายุประมาณ 4 ปี และถูกรถชนบริเวณลานจอดรถห้างบิ้กซี สาขาดาวคะนองแล้วถูกอุ้มขึ้นรถแล้วนำมาวางทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลดังกล่าว 

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้ออกตรวจที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาดาวคะนอง บริเวณทางเข้า – ออก และภายในบริเวณลานจอดรถของห้างฯ พบว่ารถยนต์ที่ขับมาชนเด็กเป็นรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด กะบะด้านหลังติดตั้งตู้ทึบ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฒ 348 กรุงเทพมหานคร โดยขับรถเข้ามาภายในห้างฯ เวลาประมาณ 12.45 น. จากนั้นได้จอดเพื่อนำของมาส่งที่ห้างๆ ต่อมาได้ขับรถเลี้ยวเข้ามาภายในลานจอดรถเพื่อที่จะเดินทางกลับ และเมื่อเวลาประมาณ 13.15 น. ได้ขับรถชนเด็ก (ตามคำบอกเล่าพยานที่เห็นเหตุการณ์) จากนั้นเวลาประมาณ 13.19 น. ได้ขับรถออกจากห้างฯ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.21 น. รถยนต์คันดังกล่าวขับมุ่งหน้าผ่านบริเวณแยกดาวคะนอง แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ และได้ขับมุ่งหน้าไปทางแยกพระรามที่ 2 ไปตามถนนสุขสวัสดิ์ จากนั้นเวลาประมาณ 13.25 น. ได้ขับผ่านบริเวณห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาบางปะกอก และได้กลับรถบริเวณแยกราษฎร์พัฒนา แขวงบางปะกอก  เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ต่อมาเวลาประมาณ 13.28 น. ได้เลี้ยวรถจอดบริเวณหน้า โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ จากนั้นคนขับรถได้อุ้มเด็กลงมาวางทิ้งไว้ที่หน้าโรงพยาบาลดังกล่าว แล้วขับรถหลบหนีไป มุ่งหน้าแยกพระรามที่ 2 

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้สอบข้อมูลจากทะเบียนรถคันดังกล่าว จึงได้ทราบว่ามีนายอานนท์ฯ อายุ 52 ปี เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว และนำตัวเด็กไปวางทิ้งไว้ที่หน้าโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ จึงได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

จากการตรวจสอบประวัติ นายอานนท์ ไม่มีประวัติการต้องโทษ ผลการตรวจวัดไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกาย ไม่มียาเสพติดในร่างกาย

คดีที่ 3 191 เปิดแผนวิเคราะห์อาชญากรรมสยบโจรลอบตัดสายไฟเมืองกรุง วันที่ 15 ก.ค.65เวลา 00.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย บริเวณริมถนนราษฎร์รัฐพัฒนา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ดังนี้

1.นายอณุ (สงวนนามสกุล)  อายุ  29 ปี

2.น.ส.ปารวตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี

พร้อมด้วยของกลาง

1.สายเคเบิ้ล น้ำหนัก 16 กิโลกรัม

2.สายเคเบิ้ล อยู่ภายในท่อพลาสติกสีดำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ซม. ยาว 6 เมตร    จำนวน    1 เส้น

3.สายเคเบิ้ล อยู่ภายในท่อพลาสติกสีดำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ซม. ยาว 6.5 เมตร  จำนวน    1 เส้น

4.คีมตัดสายไฟ สีเขียว - ดำ  จำนวน    1 อัน

5.ปลอกหุ้มสายเคเบิ้ลเปล่า จำนวน  13 อัน

6.รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน XXX-8982 กรุงเทพมหานคร   จำนวน    1 คัน

โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือ การพาทรัพย์นั้นไป”

สืบเนื่องจากในห้วงเดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2565 มีผู้เสียหายและประชาชนพลเมืองดี ได้แจ้งเหตุผ่านโทรศัพท์สายด่วน 191 เกี่ยวกับเหตุลักสายไฟในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจำนวนหลายเหตุ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในวงกว้าง ตามดำริของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล “นครบาลใส่ใจ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้รวบรวมสถิติ วิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมและพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย เพื่อเฝ้าระวังติดตามป้องกันมิให้คนร้ายสามารถก่อเหตุอาชญากรรมซ้ำ ตลอดจนสืบสวนติดตามพฤติกรรมกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งในวันที่ 15 ก.ค.65 เวลา 00.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจได้ออกตรวจพื้นที่ตามแผนวิเคราะห์อาชญากรรม ซึ่งมีการวางแผนวิเคราะห์และประเมินพื้นที่กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสในการเกิดอาชญากรรม โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราไปตามเส้นทางที่กำหนดได้พบรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่ในบริเวณ ซอยเคหะร่มเกล้า 78 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร และเมื่อเฝ้าสังเกตการณ์จึงพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถที่อยู่ในกลุ่มต้องสงสัยในการก่อเหตุลักลอบตัดสายไฟสายเคเบิ้ล โดยมีชายเป็นผู้ขับขี่ ทราบชื่อต่อมาในภายหลังว่า นายอณุ ได้ลงมาจากรถ จากนั้นได้ปีนขึ้นไปบนสายเคเบิ้ลในบริเวณดังกล่าว และมีผู้หญิงคนหนี่งคอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทราบชื่อต่อมาในภายหลังว่า น.ส.ปารวตรี เป็นผู้ที่นั่งรถมาด้วยกัน ได้ขนสายเคเบิ้ลที่ถูกตัดกองทิ้งลงมาขึ้นไปที่บริเวณท้ายรถกระบะ และทั้งสองได้ขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวไป 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามรถกระบะต้องสงสัย จนกระทั่งพบว่ารถกระบะได้ถูกนำไปจอดที่บริเวณริมถนนราษฎร์รัฐพัฒนา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้งสองกำลังช่วยกันปลอกสายเคเบิ้ลที่เพิ่งจะลักลอบตัดมา และพบสายเคเบิ้ลจำนวนมากอยู่ในบริเวณท้ายรถกระบะ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การ “รับสารภาพ” ว่า ได้นำสายเคเบิ้ลที่ลักลอบตัดมาจากสถานที่ต่างๆมาปลอกเพื่อเอาทองแดงข้างในไปขายต่อในราคากิโลกรัมละ 180-190 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้เคยก่อเหตุลักลอบตัดสายไฟและสายเคเบิ้ลในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาแล้วจำนวนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมด้วยของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองราย ผลปรากฏดังนี้

1.นายอณุ เคยต้องโทษ คดียาเสพติดเมื่อ ปี 2554 สภ.ห้วยยาง จว.ประจวบคีรีขันธ์

2.น.ส.ปารวตรี มีประวัติ ข้อหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา  

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด

แม่บ้านตำรวจนครบาล นำทีมลงพื้นที่ เยี่ยมกำลังพลและครอบครัว ตามโครงการ "ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน"

(20 ก.ค. 65) ชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล นำโดย คุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล และคุณลภัทธิตา จินตกานนท์ รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล นำคณะชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2, ผู้แทน สน.สุทธิสาร, ผู้แทนสน.วังทองหลาง, ผู้แทน กก.ต่อต้านการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 
โดยได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่...

1. ตรวจเยี่ยม ร.ต.ท.ประสิทธิ คำปาปัว รอง สว.จร.สน.สุทธิสาร และ นายกฤษฏิ์สรัช คำปาปัว(บุตร) ณ แฟลต สน.วิภาวดี 

2.ตรวจเยี่ยม ร.ต.ท.จักรวาล วงศ์ชัย รอง สว.จร.สน.วังทองหลาง และ ด.ญ.ธนิดาพร วงศ์ชัย (บุตร) ณ แฟลต สน.วังทองหลาง 

3. ตรวจเยี่ยม ส.ต.ท.กฤษดา การุณ ผู้บังคับหมู่ ปฏิบัติงานสังกัดกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ ผู้ก่อเกตุยิงประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณห้างสรรพสินค้า เทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 และขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้นรักษาตัว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top