Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

'บิ๊กป้อม' กำชับมาตรการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เพื่อลดการบาดเจ็บ-เสียชีวิต

พลเอก ประวิตร เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการแก้ไขปัญหาป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ย้ำบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการสร้างจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเพิ่มจุดตรวจถนนสายรอง 

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (25 ตุลาคม 2565) ว่าคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติเห็นชอบแผนบูรณาการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 โดยให้วิเคราะห์จุดเกิดเหตุซ้ำซาก ทั้งช่วงเทศกาล และไม่ใช่เทศกาล เพื่อนำมาวางแผน ป้องกันความเสี่ยงเชิงรุก และใช้ระบบ War Room ช่วยในการติดตาม ประเมินผล 

รองนายกรัฐมนตรี กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันการกระทำที่ผิดวินัยจราจรอย่างสม่ำเสมอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ เตรียมความพร้อมล่วงหน้า และแจ้งให้หน่วยงานในสังกัด ที่เกี่ยวข้องทราบ รวมถึงให้ส่งเสริมการสร้าง 'วัฒนธรรมความปลอดภัย' ตลอดจนให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการสร้างความตระหนักให้มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับและการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเพิ่มจุดตรวจในถนนสายรอง เน้น ในช่วงเวลา 16.00 -  20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการและแก้ไขปัจจัยเสี่ยง ด้านคน ถนน และยานพาหนะ พร้อมทั้งเร่งรัดมาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่อำเภอที่มีจำนวน ผู้เสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูง ตลอดจนมุ่งเน้นมาตรการสร้างการรับรู้การบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด

หนุ่มโชว์ภาพมุมสูง น้ำท่วมหนักสิงห์บุรี แต่บ้านรอด เพราะทำโคกหนองนาโมเดล

กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลเมื่อผู้ใช้งาน TikTok @looktao9892 ได้เผยคลิปบ้านหลังหนึ่งที่รอดพ้นจากน้ำท่วมหนักเพราะทำ 'โคกหนองนาโมเดล' ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นต่างเข้ามาชื่นชม

ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นภาพมุมสูง ที่เผยให้เห็นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ สำหรับพื้นที่รอบ ๆ จมน้ำท่วม ที่สวนศรีวิเชียร อ.อำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่โดยรอบถูกน้ำท่วมไปหมดแล้ว แต่บ้านหลังดังกล่าวรอดมาได้เพราะนำโคกหนองนาโมเดล มาประยุกต์ใช้ เป็นการจัดการพื้นที่ทางการเกษตร โดยมีคันล้อมความกว้าง 5 เมตร ความสูงของคันล้อม 2 เมตร รวมพื้นที่แปลงนี้ทั้งหมด 12 ไร่ และดินที่นำมาทำคันล้อมได้จากการขุดสระปลาวาฬนั่นเอง

'โตโน่' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่ช่วยบริจาค ขอตอบแทนด้วยการบวชช่วงต้นปีหน้า

'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่บริจาคร่วมโครงการ 'One Man and The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้' ประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า

หลังจากที่นักร้องและนักแสดงหนุ่ม 'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือทางการแพทย์สนับสนุน 2 โรงพยาบาลฝั่งไทยและฝั่งลาว ได้แก่ โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ซึ่งยอดบริจาคทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ค่อนข้างมาก

ล่าสุด 'โตโน่' ได้โพสต์ขอบคุณทุกธารน้ำใจและประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า โดยระบุว่า

"การตัดสินใจนี้ขอมอบให้ทุกความรักที่พวกเรามีต่อกันระหว่าง ไทย ลาวนะครับ"

"ผมไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย หาคำไหนมาขอบคุณ หรือตอบแทนความรัก ความสามัคคี ความมีน้ำใจที่ทุกคนมาร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อ แม่น้ำโขงของเรา เพื่อคุณหมอ คุณพยาบาล จากโรงพยาบาลของทั้ง 2 ฝั่งโขง ในครั้งนี้"

'เพื่อไทย' จี้ รัฐฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย-ค่าครองชีพให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย กรรการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เร่งลดภาระของประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าซ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง ต้องเร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ล่าสุดผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ต้องเสียภาษีตัวอาคารสถานีบริการน้ำมัน อาคารค้าปลีก ห้องน้ำและอื่น ๆ อยู่แล้ว และได้ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีบริเวณถนน ลาน รั้ว ซึ่งจะได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจได้บ้าง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากกรรมการภาษี และกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐเลือกที่จะจัดเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม สร้างภาระให้กับภาคธุรกิจ

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ เรื่องราคาน้ำมันโดยเฉพาะเรื่องราคาหน้าโรงกลั่นของไทย ที่มีราคาสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ และสูงกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นไทยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเอาเปรียบคนไทยที่ต้องซื้อราคาที่แพงกว่า ทั้งที่ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางส่งมาไทยและส่งมาสิงคโปร์ก็เท่ากัน ประสิทธิภาพการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของไทยกับสิงคโปร์ก็ใกล้เคียงกัน อีกทั้งโรงกลั่นไทยยังขยายการกลั่นเป็นแสน ๆ บาเรลต่อวันเพื่อส่งออก แสดงว่าราคาส่งออกก็ต้องกำไรมากแล้ว การคิดราคาหน้าโรงกลั่นไทยสูงกว่าราคาสิงคโปร์จึงเป็นการเอาเปรียบประชาชนไทยมากเกินไป 

'กอบศักดิ์' ชี้ ญี่ปุ่นเลือกกดดอกเบี้ย-ค่าเงิน หวังทำสงครามกับนักเก็งกำไร ปลายทางมักจบไม่สวย

(25 ต.ค. 65) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความ ผ่านเฟสบุ๊ก Kobsak Pootrakool ระบุว่า

หนทางสู่วิกฤตของญี่ปุ่น !!!!

ถ้าทางการญี่ปุ่นยังเลือกที่จะเดินตามแนวทางปัจจุบัน

กดดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไว้ให้ต่ำ เพื่อช่วยรัฐบาลที่มีหนี้มาก

กดค่าเงินไว้ไม่ให้อ่อนไปกว่านี้

ทั้งหมด คงจบลงด้วยการเกิดวิกฤต

ที่จะเป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่า ในเชิงเศรษฐศาสตร์ 3 สิ่งที่อยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นเรื่อง ก็คือ ค่าเงินที่คงที่ ดอกเบี้ยที่เลือกกำหนดตามใจฉัน และเงินทุนที่ไหลอย่างอิสระ (Free Flow of Capital)

ทฤษฎีนี้เรียกว่า Impossible Trinity หรือ “สามเป็นไปไม่ได้” ซึ่งถูกคิดค้นโดย Robert Mundell นักเศษฐศาสตร์รางวัลโนเบล และ John Fleming เมื่อช่วงปี 1960-1963

ประเทศไหนก็ตามที่พยายามจะทำใน 3 สิ่งนี้พร้อม ๆ กัน ปัญหาก็จะตามมา

โดยประเทศที่มีค่าเงินคงที่ แต่อยากจะกดดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เงินจะไหลออกจากประเทศ จากดอกเบี้ยต่ำ ไปหาประเทศที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า นำมาซึ่งเงินสำรองที่จะร่อยหรอลงจนสุดท้าย ก็เกิดวิกฤตค่าเงิน

หรือประเทศที่กดดอกเบี้ยไว้ต่ำกว่าคนอื่น แต่อยากตรึงค่าเงินไว้ ณจุดใดจุดหนึ่ง สุดท้ายก็จะประสบปัญหาเดียวกัน คือเงินไหลออก นำไปสู่แรงกดดันต่อค่าเงินที่ตรึงไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สุดท้ายเงินสำรองก็ร่อยหรอ และสุดท้ายก็ไม่สามารถคงค่าเงินไว้ได้ กลายเป็นวิกฤตเช่นกัน

สิ่งที่ทางการญี่ปุ่นทำขณะนี้ ก็คือเรื่องนี้

1. โลกที่ญี่ปุ่นอยู่ คือโลกของเงินที่ไหลเวียนอย่างอิสระ

2. อีกด้าน การที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีหนี้ภาครัฐเยอะมาก สูงถึง 264% ของ GDP ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ เป็นหนี้ในประเทศ ทำให้ทางการญี่ปุ่นซึ่งขาดดุลการคลังอยู่แล้วถึง 8% ของ GDP และมีภาระดูแลสังคมผู้สูงวัย อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศอย่างยิ่ง

ไม่น่าแปลกใจ ที่แบงก์ชาติญี่ปุ่นจึงมีหน้าที่พิเศษอีกอย่าง ก็คือ ต้องพยายามช่วยกดดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่นเอาไว้ โดยดูแลดอกเบี้ยใน Yield Curve ของญี่ปุ่นที่อายุช่วง 7-10 ปีลงมา ให้ปรับตัวขึ้นไม่มาก เพียงแค่ 0.25% เท่านั้น ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แบงก์ชาติญี่ปุ่น ได้ประกาศโครงการรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ต้องประกาศ Emergency Bond Buying Program อีก 2.5 แสนล้านเยน

3. ค่าเงิน จากเดิมที่ญี่ปุ่นเคยปล่อยให้ค่าเงินเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด แต่เนื่องจากช่วงนี้ค่าเงินเยนได้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง อ่อนสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 30 กว่าปี ทางการญี่ปุ่นจึงเริ่มกังวลใจ และเริ่มเข้าแทรกแซงค่าเงินไม่ให้อ่อนไปกว่านี้ ซึ่งตอนนี้ พยายามขีดเส้นไว้ที่ประมาณ 150 เยน/ดอลลาร์

ซึ่งในเรื่องนี้ หากทางการญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการตรึงค่าเงินไว้ที่ 150 เยน/ดอลลาร์ ตามที่ตั้งใจได้ ระบบค่าเงินเยนก็จะทำตัวเหมือนอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ หรือใกล้เคียงกับระบบดังกล่าว

ทั้งหมดจะทำให้ญี่ปุ่นเข้าเงื่อนไขของทฤษฎี “สามเป็นไปไม่ได้” หรือ Impossible Trinity

และหมายความต่อไปว่า ถ้ายังคงเดินไปตามทางนี้ เงินดอกเบี้ยต่ำในญี่ปุ่น ก็จะไหลออกไปหาเงินดอกเบี้ยสูงในสหรัฐ โดยมีทางการญี่ปุ่นช่วยดูแลความเสี่ยงเรื่องค่าเงินให้

ทหารจัดชุดลาดตระเวนร่วม ไทย-มาเลเซีย ลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ

พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 มอบหมายให้ พ.อ.เรวัตร เซ่งเข็ม ผบ.ร.5 พัน.2/รอง ผบ.ฉก.ร.5 รับผิดชอบชายแดน ไทย-มาเลเซีย ด้าน จังหวัดสตูล จัดชุดลาดตระเวนร่วม ไทย-มาเลเซีย ลาดตระเวนช่องทาง ที่กลุ่ม ลักลอบขนของผิดกฎหมาย ของ อ.ควนโดน และ อ.เมือง จังหวัดสตูล เพราะเป็นช่องทางใช้ในการลักลอบขนของผิดกฎหมายในอดีต ใช้ระยะทาง ในการเดินเท้า 4-5 ชม.

และยังมีร่องรอย การใช้เส้นทาง ในอดีต ที่มี ขวดน้ำ และ กล่องอาหาร ตลอดเส้นทาง เส้นทางมีการขึ้น ลง เขา ชัน จำนวน 3 ยอด ค่อนข้างยากลำบากในการเดินทาง ปัจจุบัน จัดกำลัง เฝ้าตรวจร่วม ตชด. และ ป่าไม้ ในการเฝ้าเส้นทาง ไม่ปรากฏการใช้เส้นทางที่ผ่านมา


นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

'เพื่อไทย' งัด 8 ตราบาปตอกหน้า 'ประยุทธ์' ชี้!! ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งเสื่อม แนะควรสำนึกได้แล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (25 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตกต่ำอย่างสุดขีด แทนที่พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ตัวและแก้ไข กลับส่งคนออกมาโต้ ล่าสุดถึงขนาดให้คนของตัวเองออกมาอวยว่าทำได้ดี ทิ้งมรดกความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศ ซึ่งต่างกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงอยากให้ข้อมูลความจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ทิ้งมรดกที่เหมือนกับตราบาปของคนไทยไว้ 8 เรื่องดังนี้ 

1.) ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศ ไทยพัฒนาน้อยที่สุด จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ไทยได้ฉายาเป็นคนป่วยของเอเชีย ถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงทุกด้าน เป็นมรดกความตกต่ำทางเศรษฐกิจ

2.) เป็นช่วงที่ประเทศก่อหนึ้มากสุดแต่ไม่พัฒนา มีหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้าน กู้เงินมากที่สุด แต่เศรษฐกิจขยายต่ำสุด ลูกหลานต้องมาใช้หนี้กว่า 5 ล้านล้านบาท หรือกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดด้วย ประชาชนก็มีหนี้ครัวเรือนสูงสุดประมาณ 15 ล้านล้านบาท หนี้เสียและหนี้นอกระบบสูงที่สุดด้วย เป็นมรดกหนี้ล้นทะลัก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า 3.) ค่าครองชีพแพงสุด ทั้งราคาสินค้าและบริการ น้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้าแพงที่สุด เงินเฟ้อมากสุด แต่รายได้ของคนไทยไม่เพิ่มแถมลดลง เป็นมรดกสินค้าแพง

'อลงกรณ์' ชี้ 2565 จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ยุคใหม่ ลดก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุภาวะโลกร้อน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานมูลนิธิ Worldview Climate Foundation (WCF) บรรยายพิเศษ หัวข้อ 'ศักยภาพของโครงการบลู คาร์บอนในประเทศไทย' (Potential for blue carbon projects in Thailand) ในการประชุมนานาชาติจัดโดยมูลนิธิ Worldview International ที่กรุงเทพมหานครวันนี้ โดยแสดงวิสัยทัศน์อนาคตประเทศไทยในการเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Nation) เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gases:GHGs) อย่างจริงจังตามพันธกรณีที่นายกรัฐมนตรีของไทยประกาศเป้าหมายในการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์

'ทะลุแก๊ส' ถล่ม 'ทักษิณ' ขุดสังหารหมู่ตากใบ การบังคับใช้แต่กม. จนปราศจากการยื่นมืออันอบอุ่น

'ทะลุแก๊ส' ถล่ม 'ทักษิณ' ขุดสังหารหมู่ตากใบ ประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยบังคับอยากให้ลืม

(25 ต.ค. 65)กลุ่มทะลุแก๊ซ – Thalugaz @thalugazzz ทวิตข้อความว่า 18 ปี #สังหารหมู่ตากใบ ประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยบังคับอยากให้ลืม หลายคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในวันนั้นต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะอวัยวะถูกกดจากการนอนทับกัน 4-5 ชั้นหลายชั่วโมงในรถทหาร อยู่ในสภาพหายใจแทบไม่ออก ปัสสาวะและอุจจาระราด

กรณีตากใบ เป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยเหตุการณ์เริ่มต้นจากการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านจำนวน 6 คนที่ถูกจับกุมตัว มีชาวบ้านในพื้นที่นั้นมามุงดูนับพันคนจนทหารต้องทำการปิดล้อมพื้นที่และสลายการชุมนุม มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ชุมนุม 6 คน

จากนั้นจึงมีการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 1,370 คน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 คน และถูกจับกุมประมาณ 1,300 คน นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากนั้น 8 ปี ว่า “เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็จำไม่ค่อยได้เพราะนานมาแล้ว”

นายทักษิณ ยอมรับว่าการอยู่มานานก็เริ่มใช้อำนาจมากไป ความจริงตามหลักของรัฐศาสตร์ต้องใช้ทั้ง 2 อย่าง อย่างมือ 2 ข้าง มือหนึ่ง เขาเรียกกำปั้นเหล็ก ใช้กฎหมาย แต่มืออีกข้าง ต้องเป็นถุงมือกำมะหยี่ คอยดูคอยให้ความอบอุ่น

“ผมอยู่ในอำนาจนานเข้าเรื่องมันเยอะ ผมจึงบังคับใช้แต่กฎหมาย ไม่ดีเลย ถ้าผมอยู่ต่อไป ต้องใช้ถุงมือกำมะหยี่ มืออบอุ่นให้มาก กฎหมายให้ใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อความสงบเรียบร้อย”

แต่คำขอโทษอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ออกแถลงการณ์ว่า “ผมขอโทษแทนรัฐบาลชุดที่แล้ว และขอโทษแทนรัฐบาลนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้ว ผมมาขอโทษแทน ผมอยากยื่นมือออกไปแล้วบอกว่าผมเป็นคนผิด ผมขอกล่าวคำขอโทษด้วยด้วยใจจริง”


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/248882/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top