Monday, 12 May 2025
Hard News Team

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ใต้ คนคุณภาพพร้อมดูแลปชช. ยกผลงาน 'สัมพันธ์ตะวันออกกลาง-ปราบยา' การันตี

(27 ต.ค.65) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. พร้อมนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคใต้ จำนวน 19 คน จาก 10 จังหวัด ได้แก่...

1. นายสุรชัย แดงละอุ่น เขต 1 จ.ชุมพร 
2. นายสมมิตร ทองเหลือ เขต 2 จ.ชุมพร 
3. นายธีระศักดิ์ ปางวิรุฬห์รักษ์ เขต 3 จ.ชุมพร
4. นายพงศกร พรหมสุวรรณ เขต 1 จ.ระนอง

5. นายสุนทร รักษ์รงค์ เขต 6 จ.นครศรีธรรมราช
6. นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ เขต 2 จ.พังงา 
7. นายศิวกรณ์ เอ่งฉ้วน เขต 1 จ.กระบี่ 
8. นายสรวิศทชากร เลขานุกิจ เขต 2 จ.กระบี่ 
9. นายกิตติพงศ์ ผลประยูร เขต 1 จ.ตรัง 
10. นายทวี สุระบาล เขต 2 จ.ตรัง

อัปเดตราคา ‘หมู-เนื้อ-ไก่’

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

ส่งออก 9 เดือนโตพุ่ง 10.6% โกย 7.5 ล้านล้านบาท อานิสงส์ 'โควิดซา - เปิดประเทศ - ค้าขายชายแดนคึกคัก'

‘จุรินทร์’ ปลื้มส่งออกไทย ก.ย.65 โต 7.8% มูลค่า 888,371 ล้านบาท เผยส่งออก 9 เดือนแรกปีนี้พุ่ง 10.6% ร่วม 7.5 ล้านล้านบาท ผลบวกโควิดคลี่คลาย-เปิดประเทศ ค้าชายแดนยังดี 9 เดือนแรก บวก 19.3% เกือบ 4.9 แสนล้านบาท คาดปีนี้โตทะลุเป้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือนก.ย.65 มีมูลค่า 24,919 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 4.3.-4.4% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,772 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เดือนก.ย. ไทยขาดดุลการค้า 853.2 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ส่วนในช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.65) มูลค่าการส่งออกรวม อยู่ที่ 221,366 ล้านเหรียญสหรัฐ  ขยายตัว 10.6% มูลค่าการนำเข้ารวม อยู่ที่ 236,351 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.7% ส่งผลให้ไทย 9 เดือน ไทยขาดดุลการค้า 14,985 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อว่า การส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยคาดว่าทั้งปีนี้ การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ราว 8% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4% มั่นใจว่าการส่งออกไตรมาส 4 ยังจะขยายตัวได้ดี และยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจปีนี้ คาดว่าส่งออกจะโตได้เท่าตัวจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4

สำหรับปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.65 ยังขยายตัวได้ดีมาจาก 1.กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน เริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย 2.ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลาย ทำให้การผลิตสินค้าที่มีชิปเป็นส่วนประกอบสามารถกลับมาผลิตได้ตามความต้องการของตลาด 3.เงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลดีต่อราคาส่งออกสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะสามารถส่งออกข้าวได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7 ล้านตัน

โดยการส่งออกสินค้าในเดือนก.ย. เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม จะพบว่า สินค้าเกษตร กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน โดยขยายตัว 2.7% ที่มูลค่า 2,005 ล้านเหรียญ สินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี คือ ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูป, ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แห้ง, ข้าว สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 โดยขยายตัว 0.8% ที่มูลค่า 1,734 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวได้ดีคือ ไอศกรีม, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป,น้ำตาลทราย และอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 เช่นกัน โดยขยายตัว 9.4% ที่มูลค่า 20,234 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีคือ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องใช้สำหรับเดินทาง, รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศ

ทั้งนี้ตลาดส่งออกสำคัญในเดือน ก.ย.นี้ ที่ขยายตัวได้ในระดับสูง 10 อันดับแรก คือ อันดับ 1 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขยายตัว 70% อันดับ 2 สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ขยายตัว 51.5% อันดับ 3 ซาอุดีอาระเบีย ขยายตัว 36.7% อันดับ 4 CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ขยายตัว 26.3% อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา ขยายตัว 26.2% อันดับ 6 สหภาพยุโรป ขยายตัว 18% อันดับ 7 ออสเตรเลีย ขยายตัว 15.5% อันดับ 8 แคนาดา ขยายตัว 10.6% อันดับ 9 อาเซียน (5) ขยายตัว 9% และอันดับ 10 ลาตินอเมริกา ขยายตัว 6.3%

ยอด IG มิสแกรนด์ วูบหลักล้าน ตามหลัง MU เหตุตำแหน่งรองฯ ของ 'อิงฟ้า' ค้านสายตา

(26 ต.ค. 65) สรปุก หรือ คุณปุ๊ก คนดังบนโลกออนไลน์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud ระบุว่า...

หลังการประกวด Miss Grand International 2022 ยอดผู้ติดตาม (Follower) ใน IG มิสแกรนด์ ได้ลดลงไปล้านกว่าคน จาก 6 ล้านเหลือเพียง 4.7 ล้าน

โดยสาเหตุหลักมาจากแฟนมิสแกรนด์ต่างประเทศ ไม่พอใจกับคำตัดสินที่ให้อิงฟ้าได้รับตำแหน่งรองมิสแกรนด์ไปแบบค้านสายตาผู้ชมทั่วโลก จนไปถึงการตั้งคำถามว่ามีการล็อกตำแหน่งให้อิงฟ้าโดยผู้จัดงานหรือไม่

"IG ของมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ปกติมีผู้ติดตามกว่าหกล้านคน ถูกแห่กดอันฟอลไม่หยุด ตั้งแต่ประกาศท็อป 5 หลังอิงฟ้าเข้ารอบไปแบบค้านสายตาแฟนคลับนางงามทั่วโลก ทั้งเรื่องของภาษา ส่วนสูง และการเดิน จนเขามองว่านี่คือการล็อกมงหรือเปล่า 

โดยเฉพาะด้อมเวียดนามกับฟิลิปปินส์ ที่เป็นแฟนนางงามสายฮาร์ดคอร์ รู้สึกไม่แฮปปี้กับบอสชอยส์เอามาก ๆ จึงประกาศถล่มอันฟอลไม่หยุด จนวันนี้ผู้ติดตามมิสแกรนด์ลดเหลือเพียง 4.7 ล้านคน กลับมาตามหลัง MU หลายแสนฟอลโลเวอร์ 

เท่าที่อ่านด้อมต่างประเทศบอกนี่ไม่ใช่ประกวดนางงาม แต่เป็น Cooking Show หรือรายการทำอาหาร และไทยถูกไล่ให้ไปกินโจ๊กหมูทั้งคืน ก็ไม่รู้ต้องเจ็บหรือแนะนำร้านอร่อย ๆ ในไทยให้เขาดี 

มารอดูกันว่าณวัฒน์จะจัดการกับดราม่านี้ยังไง เพราะนี่คือเรื่องใหญ่มากนะบอกเลย

นอกจากนี้คุณปุ๊ก ยังได้ระบุในคอมเมนต์ด้วยว่า ในรูปที่อิงฟ้าจับมือกับมิสแกรนด์บราซิลผู้ชนะเลิศในการประกวดปีนี้ มีคนเข้าไปกดโกรธถึง 18,200 คน และแทบทั้งหมดไม่มีใครว่ามิสแกรนด์บราซิลเลย ซึ่งในความหมายก็คือ เกือบ 18,200 คนไม่พอใจกับผลการตัดสินให้อิงฟ้าได้รองชนะเลิศ

ทำไมไทยต้องนำเข้าน้ำมัน? ทั้งที่ผลิตน้ำมันได้

รู้ไหม? ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมัน แล้วไม่พอต่อการใช้งานของคนในประเทศ

ราคาน้ำมันที่มีการผันผวนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมส่งผลต่อความไม่พอใจของประชาชนมาตลอด และเมื่อไม่พึงพอใจก็จะเกิดการเปรียบเทียบ ในวิกฤติราคาน้ำมันทุก ๆ ครั้ง ดังที่จะเห็นจนคุ้นตา คือการที่มักมีบางกลุ่ม เปรียบเทียบราคาพลังงานไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย

เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีกรณีผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ที่ลงทุนเดินทางไปถึงมาเลเซียเพื่อเติมน้ำมันที่นั่น ก่อนจะเปรียบเทียบราคาน้ำมันของไทยกับมาเลเซียลงสื่อโซเชียล ส่งผลให้รัฐบาลมาเลเซียสั่งการให้มีการตรวจสอบผู้มาขอรับบริการว่าเป็นพลเมืองมาเลเซียหรือไม่ เนื่องจากราคาน้ำมันของมาเลเซีย ได้รับการชดเชยราคาโดยตรงด้วยภาษีของคนมาเลเซีย

แต่หากมองย้อนกลับไปที่ประเทศลาว จะเห็นว่าประเทศลาวนั้น มีราคาน้ำมันที่สูงกว่าไทยตลอด เนื่องจากว่าลาวนั้น ไม่มีแหล่งเชื้อเพลิงของตนเอง ราคาน้ำมันในลาว จึงเป็นราคาที่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการขนส่งจากประเทศไทยเข้าไปร่วมด้วย เป็นสาเหตุให้มีราคาที่สูงกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง

นั่นทำให้คนลาวบางส่วน เข้ามาเติมน้ำมันในประเทศไทย และประเทศไทยก็สั่งห้ามเช่นเดียวกับมาเลเซีย

หันกลับมาพิจารณาถึงที่มาของราคาน้ำมัน ประเทศที่มีความสามารถในการขุดเจาะน้ำมันได้เอง และกลั่นน้ำมันได้เอง จะมีราคาน้ำมันสำหรับการใช้ในประเทศที่มีราคาถูกลงมากกว่าประเทศที่ต้องนำเข้าพลังงานทั้งหมด

แต่จะถูกมากน้อยเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ประเทศนั้น ๆ มีปริมาณน้ำมันสำรอง และกำลังการผลิตมากเพียงพอที่จะตอบสนองของคนทั้งประเทศหรือไม่

จากข้อมูลของ Worldometer ระบุว่า ใน พ.ศ. 2559 มาเลเซียมีปริมาณน้ำมันสำรอง 3,600,000,000 บาร์เรล มากเป็นอันดับที่ 28 ของโลก ในขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 404,890,000 บาร์เรล อยู่อันดับที่ 50 อีกทั้งมีปริมาณน้อยกว่ามาเลเซียถึง 8.9 เท่า

นอกจากนี้ กำลังการผลิตของมาเลเซียนั้น เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ สำหรับประชากรเพียงแค่ 32 ล้านคน มีน้ำมันเหลือใช้มากถึงวันละ 54,168 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ไทย ทั้ง ๆ ที่ผลิตได้น้อยกว่า แต่กลับมีอัตราการบริโภคที่สูงกว่า จนทำให้กำลังการผลิตต่อวัน น้อยกว่าอัตราการบริโภคมากถึง 770,671 บาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้มาเลเซียจะมีกำลังการผลิตน้ำมันที่ล้นเหลือ แต่มาเลเซียก็ยังมีการนำเข้าน้ำมันมากถึง 197,489 บาร์เรลต่อวัน และส่งออกน้ำมัน 390,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ราคาน้ำมันในมาเลเซียเองก็ผันผวนตามราคาน้ำมันของโลกด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบมากเท่ากับประเทศไทยนั่นเอง

จากรายงานของ Worldometer ระบุว่า มาเลเซียมีน้ำมันสำรอง 0.2% เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันสำรองของโลก (1,650,585,140,000 บาร์เรล อ้างอิงข้อมูล พ.ศ. 2559) ในขณะที่ประเทศไทย มีปริมาณน้ำมันสำรองเพียง 0.02345% เพียงเท่านั้น

'ชัยวุฒิ' คืบ!! แก้ปัญหาลวงปชช. ผ่านสื่อออนไลน์ ฟัน 184 คดี ทำผิดออนไลน์ พร้อมปิด 4,700 URLs

ศาลสั่งฟัน 184 คดี ผู้กระทำความผิดออนไลน์ สั่งปิด มากกว่า 4,700 URLs ด้าน ดีอีเอส ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ 

(26 ต.ค. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในการเป็นประธานการประชุมการแก้ปัญหาฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า...

ดีอีเอส จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อหาแนวทางเร่งรัดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการหลอกลวงทางการเงิน ใน 5 ด้าน ได้แก่ 
1. แก๊ง Call Center 
2. แชร์ลูกโซ่-ระดมทุนออนไลน์  
3. การพนันออนไลน์ 
4. บัญชีม้า  
5. การหลอกหลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ 
ซึ่งคนร้ายมีการปรับรูปแบบและวิธีการหลอกหลวงประชาชน จนมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมพิสูจน์ทราบเหตุหญิงชาวจีนเสียชีวิต หลังเที่ยวผับพร้อมเพื่อนและใช้ยาเสพติด

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ได้มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนของประเทศจีนว่า หญิงชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วหายตัวไป คาดว่าถูกหลอกมาทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมากลับพบว่าได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ทราบภายหลังว่า ผู้เสียชีวิตดังกล่าวคือ น.ส.โย่วซื่อหัว อายุ 32 ปี สัญชาติจีน เสียชีวิตหลังจากไปเที่ยวผับท็อปวัน ถ.รัชดาภิเษก แขวง/เขตห้วยขวาง กทม. ทางญาติของผู้เสียชีวิตติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมาทางสถานทูตได้ประสานข้อมูล ขอความช่วยเหลือมายัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตในกรณีนี้

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผกก.สน.สุทธิสาร ดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวโดยด่วน จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรายละเอียดดังนี้

ผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.65 กับเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน ต่อมาคืนวันที่ 16 ก.ย.65 ทั้งหมดได้ไปเที่ยวที่ร้านท็อปวัน ถ.รัชดาภิเษก โดยได้ชักชวนเพื่อนผู้ชายมาเพิ่มอีก 3 คน จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 17 ก.ย.65 ผู้เสียชีวิตได้มีการอาเจียนและช็อคหมดสติ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำร้านจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพระรามเก้า และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้นภายในวันเดียวกัน ได้มีชายชาวจีนจำนวน 3 คนพร้อมคนขับรถคนไทยอีก 1 คน ได้ไปที่ห้องพักของผู้ตาย นำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของผู้ตายไปเผาทำลายทิ้งทั้งหมดที่ร้านท็อปวัน

ผลการชันสูตรศพเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากพิษของสารเสพติด โดยมีการตรวจพบสารแอมเฟตามีนภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต คาดว่าจะเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกตัวเพื่อนผู้ชายทั้ง 3 คนที่มาเที่ยวคืนดังกล่าวมาสอบปากคำ ทั้งสามยังให้การปฏิเสธในเรื่องการใช้ยาเสพติด และจากการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นผลไม่พบสารเสพติด โดยทั้งสามคนประกอบด้วย
1. นายจาง เหมิง โจว อายุ 26 ปี สัญชาติจีน
2. นายหยู ชุน จุ้ย อายุ 30 ปี สัญชาติจีน
3. นายหลี่ เจิ้ง เสียน อายุ 30 ปี สัญชาติจีน

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรและผลักดันออกนอกประเทศแล้ว
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 4 รายที่นำทรัพย์สินของผู้ตายนำไปเผาทำลายทิ้ง เบื้องต้นได้สั่งการให้ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นท้องที่ของที่พักของผู้เสียชีวิต ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย

1. นายไอแดน ฟาน อายุ 40 ปี สัญชาติวานูอาตู
2. นายจาง เจียน ฟู่ อายุ 42 ปี สัญชาติจีน
3. นายเฉิน เซียน ปิง อายุ 40 ปี สัญชาติจีน
4. นายชัชพิสิฐ แซ่หลี่ อายุ 29 ปี สัญชาติไทย

ทั้ง 4 ราย จะถูกดำเนินคดีในฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำให้เสียหาย ทำลาย  ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด

‘เพื่อไทย’ จวก!! รัฐบาลทำความปลอดภัยปชช. ตกต่ำ เหตุปราบยาเสพติดไม่ได้ - คุมการใช้อาวุธไม่อยู่

(26 ต.ค. 65) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนตกต่ำลงเพราะผู้มีอำนาจล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด และควบคุมอาวุธปืน และเสนอแนะให้ใช้กฎหมายปราบปรามยาเสพติดเข้มงวด ควบคุมอาวุธปืน และต้องมีมาตรการดูแลตรวจสุขภาพจิตผู้ถืออาวุธปืนอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย

จากรายงานข่าวทางสื่อมวลชน ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพล ไปเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในทางที่ผิดล้วนเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นว่า ทุกวันนี้มาตรฐานของความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประชาชนลดต่ำ ภายใต้รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอด 8 ปี การ ‘ปฎิรูปประเทศ’ ล้มเหลว การ ‘ปฎิรูปตำรวจ’ ไม่ได้ถึงไหน

เปิด 6 ยุทธศาสตร์ 'มาดามแอน' เจ้าของใหม่ MU ผู้สร้างอาณาจักรหมื่นล้านขึ้นได้ในช่วง 2 ทศวรรษ

หลังจากที่เป็นข่าวลือมานาน ในที่สุด 'แอน จักรพงษ์' หรือ 'จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์' ก็ได้นั่งแท่นเจ้าของเวทีมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe) คนใหม่อย่างเป็นทางการแบบ 100% เสียทีโดยสาวแอน หรือ 'แม่แอน' ได้ประกาศข่าวดีนี้ด้วยตัวเองผ่านเฟซบุ๊ก Anne Jakrajutatip ที่ทำเอาแฟนนางงามชาวไทยได้เฮสนั่นกันถ้วนหน้า

สำหรับ 'แอน จักรพงษ์' หรือ 'มาดามแอน' เธอคือซีอีโอในบริษัททุนตลาดหลักทรัพย์ที่มีคาแรกเตอร์ฉีกไม่เหมือนใคร ทั้งพูดจาฉะฉาน ชัดเจน ตรงประเด็น วิสัยทัศน์แหลมคม และตอบทุกประเด็นคำถามอย่างแจ่มชัด สร้างความฮือฮาจากคนทั้งประเทศมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน 

วันนี้เธอสร้างเส้นทางชีวิตสู่ความสำเร็จหมื่นล้านด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองอย่างไม่มีใครกังขา และเต็มไปด้วยกรณีศึกษาที่ถูกนำมาตีแผ่!!

>> เธอคว้า 10 ล้านในวัย 21 ปี 
จากอดีตอาตี๋ลูกคนโตแห่งศูนย์เช่าวิดีโอสู่เซียนคอนเทนต์แห่งอาเซียน เธอมาจากอาตี๋ ครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่ครอบครัวดำเนินธุรกิจเปิดร้านเช่าวิดีโอ เธอเริ่มต้นธุรกิจในวัยเพียง 21 ปี และมีมุมมองในการเฟ้นหาคอนเทนต์ เรียกว่า สายตาแหลมคมประหนึ่งเทพ คว้าสารคดี Walking With Dinosaurs มาผลิตในรูปแบบดีวีดีจัดจำหน่ายในบ้านเรา สร้างรายได้ก้อนแรกให้กับเธอมากถึง 10 ล้านบาท และส่งผลให้เธอเป็นนักค้าคอนเทนต์อันดับหนึ่งของประเทศไทยและอาเซียน ณ ปัจจุบัน

>> เธอคว้าหลักร้อยล้านในวัย 25 ปี 
วิสัยทัศน์ของแอน ในการนำเสนอขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่นำเข้ามาให้กับช่องทีวีในยุคนั้น ๆ รวมแล้วน่าจะเกือบทุกช่องที่จะต้องซื้อคอนเทนต์ของเธอ เพื่อมาออกอากาศเรียกคนดูและโกยเรตติ้งท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ถือเป็นช่วงชีวิตที่เริ่มโรยกุหลาบให้เส้นทางตัวเองอย่างเด่นชัดขึ้น

>> เธอคว้าพันล้านในวัย 38 ปี 
เพราะกล้าแตกต่างและเห็นช่องทางตลาดใหม่ในธุรกิจซื้อขายคอนเทนต์ ลงทุน ลงแรง บริหารเองกับมือ ทำให้อาณาจักรคอนเทนต์ JKN เติบโตจนสามารถเดินหน้าเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2560 สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงนักลงทุนเป็นอย่างมาก เป็นข่าวดังใหญ่โตเพราะเธอสามารถสร้างให้หุ้นของ JKN นั้น ติด Ceiling ต่อเนื่อง 4 วัน และ เช่นกัน โควิดก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ดังคำที่เธอเคยบอก “อะไรก็ฆ่าฉันไม่ตาย” นอกจากนี้เธอยังยกระดับ JKN ย้ายเข้า SET ในช่วงโควิดที่ทุกธุรกิจกระทบเป็นวงกว้างแต่ JKN กลับโตสวนกระแสและทำกำไรอย่างมหาศาล

>> เธอตั้งเป้าคว้า 10,000 ล้าน ในวัย 42 ปี 
เธอการประกาศแผนลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของ JKN ด้วยการเข้าซื้อกิจการช่อง NEW18 หวังชุบชีวิตฟื้นคืนช่องทีวีดิจิทัล พร้อมเปลี่ยนชื่อทางการใหม่เป็น JKN18 ตั้งเป้าดันขึ้น TOP10 ทีวีดิจิทัลชั้นนำในเมืองไทย

ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากวิสัยทัศน์ การวางแผน การบริหารจัดการที่ก้าวไกล และมาจากแนวคิดกลยุทธ์การตลาดที่สุขุม นุ่มลึก ซึ่งได้รวบรวมมาไว้เป็นแนวทาง ดังนี้...

(1) มองขาดเรื่อง Content is King
(2) ใช้สื่อที่มีในมืออย่างชาญฉลาดทั้ง JKN TV และ JKN CNBC สื่อสารสร้างให้ผู้ชมเกิดการเสพติดทางสายตาอย่างแยบยล
(3) มองไกลในกลุ่มคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ใช้ Superstar Marketing การันตีด้วยการสร้างยอดขายหลายสิบล้านในชั่วข้ามคืน
(4) CEO Branding ความกล้านำเสนอตัวตนอย่างชัดเจน เด่น และแตกต่าง ในทุกพื้นที่สื่อของไทย และนำเสนอเรื่องราวใหม่ ๆ ในพื้นที่คอนเทนต์ของเธอเอง ใช้ชื่อรายการว่า “Real Anne” ที่ปัจจุบันออกอากาศผ่านทางยูทูบ JKN Official ซึ่งซีซัน 1 มีทั้งหมด 30 ตอน ซึ่งมียอดผู้ชมรวมมากกว่า 30 ล้านวิว และกำลังก้าวเข้าสู่ ซีซันที่ 2 ซึ่งจะออกอากาศให้ได้ชมตอนแรกในวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 64 นี้
(5) วางหมากขุนพลที่จะมาช่วยขับเคลื่อนกระบวนทัพของธุรกิจ JKN ได้อย่างมือฉมัง
(6) นำเสนอโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ก่อนใครด้วยการขึ้นแท่นเป็น Content – Commerce – Company (3C) ที่ให้ข้อมูลว่าพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ในปี 67


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top