Monday, 12 May 2025
Hard News Team

'บิ๊กป้อม' คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' ย้ำ!! จนท.รัฐ พัวพัน โดน 'วินัย-อาญา' แน่

พล.อ.ประวิตร คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' เน้นทำงานเชิงรุก 'ผู้เสียหาย เป็นศูนย์กลาง' ย้ำเอาผิด จนท.รัฐ ทั้งวินัย/อาญา หากพัวพัน สั่งตั้ง 'รองโจ๊ก' นั่งหน.เฉพาะกิจช่วยเหลือ/เยียวยาเหยื่อ

(3 พ.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม 2 คณะ ต่อเนื่องกัน คือ คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ คณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

เวลา 10.00น. เริ่มการประชุม คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่4/2565 ที่ประชุมได้รับทราบ ความก้าวหน้าการจัดตั้งศูนย์คัดแยกฯ ผู้เสียหาย (ดอนเมือง) ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอบรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดอนเมือง ให้เป็นศูนย์คัดแยกฯ และกำลังดำเนินการพัฒนาระบบศูนย์คัดแยกฯ ซึ่งเป็นกลไกการทำงานที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ และรับทราบความคืบหน้า 8 หน่วยงานหลัก ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรองรับแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ พ.ศ.2565 จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับ และติดตามการดำเนินงาน ช่วยเหลือและเยียวยา ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.สตช. เป็นประธาน

'กาตาร์' จ้างแฟนบอลดูฟุตบอลโลกฟรี แลกวิจารณ์เชิงบวก กระตุ้นทัวร์นาเมนต์

กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก2022 ยอมรับ!! มีการจ้างแฟนบอลจากเนเธอร์แลนด์ ให้เดินทางมาชมแบบฟรี ๆ แลกกับการเขียนคำชมในโซเชียลมีเดีย

NOS สถานีทีวีของเนเธอร์แลนด์ รายงานว่ามีแฟนบอลชาวดัตช์จำนวน 50 คน ในนามของ 'Fans Leader' ถูกเชิญจาก 'กาตาร์' เจ้าภาพฟุตบอลโลกหนล่าสุด ให้เดินทางไปชมเกมในรอบสุดท้าย โดยทางฝั่งเจ้าภาพได้ทำการออกค่าที่พัก และตั๋วเข้าชมแก่แฟนบอลกลุ่มนี้แบบฟรี ๆ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ทัวร์นาเมนต์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยตัวแทนของคณะกรรมการจัดแข่งขัน เวิลด์ คัพ (SC) ที่กาตาร์ ยืนยันว่าทั้งหมดเป็น 'เรื่องจริง'

'อำนวย บุญริ้ว' นายกเทศมนตรี ลงพื้นที่คุมเข้ม!! ตรวจความพร้อม รับเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2565

นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมเพื่อรับมือเทศกาลวันลอยกระทงที่จะจัดขึ้นในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 5-8 พฤศจิกายน นี้ 

โดย การลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในครั้งนี้ นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ พร้อมด้วย พ.จ.อ.พิรภพ แสงเพชร ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี นายธนสัน วสันต์ กำนันตำบลแพรกษาใหม่ จ.อ.สุทัศ ทับวันนา ผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเเพรกษาใหม่ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบความพร้อมรับมือเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2565

โดยทางด้าน นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเพื่อรับมือเทศกาลวันลอยกระทงที่ใกล้จะมาถึง พร้อมทั้ง ได้กำชับและได้มีการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นหลัก และกำชับให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อสร้างความอุ่นใจและคอยดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานในปีนี้ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ต่าง ๆ เดินทางมาร่วมงานลอยกระทงเป็นจำนวนมาก

‘ดีอีเอส’ ผนึก ‘กสทช.-35 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต’ ระงับแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย ภายใน 24 ชม.

ดีอีเอส ร่วมกับ กสทช. และ 35 หน่วยงานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หาแนวทางแจ้งเตือน ระงับการเผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย ภายใน 24 ชม.

(3 พ.ย. 65) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 35 ราย รับทราบ และชี้แจงประกาศกระทรวงดิจิทัลฯ เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 เพื่อระงับเนื้อหาข้อมูลเท็จ ความมั่นคง ลามกอนาจาร หลังรับแจ้งการกระทำผิด

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ (26 ต.ค. 2565) ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีรายละเอียดที่สำคัญโดยสรุป ดังนี้...

1. ปรับปรุงประกาศฉบับเดิม เมื่อปี 2560 ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อคุ้มครองประชาชนมากยิ่งขึ้น และสร้างหลักประกันแก่ผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย หากได้ปฏิบัติตามข้อร้องเรียนของประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการ หรือตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศอย่างถูกต้องครบถ้วน จะเข้าข้อยกเว้นความรับผิด (Safe Harbor) ของผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ 

2. ขั้นตอนการปฏิบัติของผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ คือ ต้องมีช่องทางเพื่อรับแจ้งเนื้อหาที่เป็นความผิด ทั้งข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง กระทบต่อความมั่นคง หรือลามกอนาจาร จากประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการ โดยจัดทำแบบฟอร์มข้อเรื่องร้องเรียน (Complaint Form) และเมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้ระงับหรือนำเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออกจากระบบ หรือเมื่อได้รับคำสั่งให้ระงับหรือนำข้อมูลออกจากระบบจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระงับหรือนำข้อมูลฯ ออกจากระบบของตน ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามลักษณะเนื้อหาของข้อมูล ดังนี้…

- เนื้อหาที่เป็นเท็จ บิดเบือน ปลอม ตามมาตรา 14 (1) ให้ระงับ หรือนำข้อมูลออก ทันที ไม่เกิน 7 วัน 
- เนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคง ตามมาตรา 14 (2) และ (3) ให้ระงับ นำข้อมูลออกทันที แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- เนื้อหาที่มีลักษณะลามก ตามมาตรา 14 (4) ให้ระงับ นำข้อมูลออกทันที แต่ไม่เกิน 3 วัน สำหรับกรณีภาพลามกอนาจารเด็ก ต้องระงับหรือนำข้อมูลออก ทันที แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง

3. สำหรับประชาชนทั่วไป หรือผู้ใช้บริการต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือต้องมีการลงบันทึกประจำวันไว้กับตำรวจก่อนดำเนินการแจ้งไปยังผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ ประกาศนี้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 25 ธันวาคม 2565) เพื่อให้ผู้ให้บริการ/สื่อสังคมออนไลน์ เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม

“ประกาศฉบับนี้ ออกมาเพื่อเร่งระงับข้อมูลผิด กฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่า อย่าใช้ช่องทางนี้ ในการกลั่นแกล้งผู้อื่น หากดำเนินการ โดยเจตนาไม่สุจริต หรือเป็นเท็จ ผู้แจ้งอาจต้องรับผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญาได้” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการกระทำความผิดเนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ การฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนผ่านระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ช่วยลดภาระของประชาชนหรือผู้เสียหาย และตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ ดีอีเอส ได้ร่วมกับ 36 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย... 

สภาพก่อน-หลัง บ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร ชุมชนประชาร่วมใจ1

✨ ดูดีขนาดไหน มาดูด้วยตาเอาเอง!!
สภาพ 'ก่อน' และ 'หลัง' การพัฒนาบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร ชุมชนประชาร่วมใจ 1 จตุจักร 

Cr.Thanat Narupornpong

'แบงก์ชาติ' เผยเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 3 ปี 65 'เกษตร-ท่องเที่ยว' ฟื้นต่อเนื่อง เชื่อ Q4 ดีกว่านี้

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ (ธปท. สภน.) โดยนางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส แถลงข่าว “ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 3/2565” ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 3/2565 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยรายได้ภาคเกษตรขยายตัว ตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งราคาข้าวที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการส่งออก ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และราคาปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุนการผลิต ส่วนด้านผลผลิตเกษตรขยายตัวแม้ชะลอลงบ้างจากผลผลิตสุกรที่ยังหดตัวจากปัญหาโรคระบาด ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว ตามการผลิตในหมวดอาหาร เช่น ข้าวโพดกระป๋อง ถั่วแระแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์โคนม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวและแป้ง จากความต้องการของตลาดต่างประเทศ รวมทั้งหมวดเครื่องดื่มปรับดีขึ้นตามกิจกรรมในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว

ภาคท่องเที่ยวขยายตัว จากนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาภาคเหนือมากขึ้นหลังจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด 19 และนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้ สะท้อนจากการเดินทางเข้ามาภาคเหนือทั้งทางบกและอากาศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราการเข้าพักสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดบริการขยายตัวตามภาคการท่องเที่ยว หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดยานยนต์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น การลงทุนภาคเอกชนหดตัวเล็กน้อย ตามการลงทุนก่อสร้างที่หดตัว และการลงทุนของการผลิตเพื่อส่งออกชะลอลงหลังจากเร่งตัวในช่วงก่อนหน้า การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่อง จากรายจ่ายประจำที่กลับมาหดตัว ขณะที่รายจ่ายลงทุนยังหดตัวตามการก่อสร้างให้กับท้องถิ่นและโครงการก่อสร้างระบบถนน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามราคาอาหารสด ส่วนราคาพลังงานชะลอลง ตลาดแรงงานปรับดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคมที่สูงกว่าก่อนช่วงโควิด 19 ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบอาชีพอิสระปรับดีขึ้นต่อเนื่อง

แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 4/2565 คาดว่าปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคบริการและการท่องเที่ยว ประกอบกับด้านแรงงานที่ทยอยฟื้นตัว และรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การบริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ยังมีปัจจัยกดดันจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกคาดว่าทรงตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง

แม้สถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายลงมาก แต่ ธปท. ยังคงมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ยังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีโครงการ 'มหกรรมร่วมใจแก้หนี้' เป็นโครงการร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง และ ธปท. เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังกลับมาไม่เต็มที่ และอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยมี 2 รูปแบบ คือ...

'เพจดัง' รีวิว!! ประสบการณ์หาหมอที่ออสเตรเลีย 'หมอ-ยา' เข้าถึงยาก ไม่เจ็บปางตายปล่อยร่างกายฮีลตัวเอง

สำหรับใครหลายคนที่เคยมองว่าระบบสาธารณสุขไทยไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ ลองดูข้อมูลนี้ อาจจะเปลี่ยนมุมคิดได้เยอะ!!

(3 พ.ย. 65) เฟซบุ๊กเพจ 'Slang A-hO-lic' ได้เผยประสบการณ์การหาหมอที่ประเทศออสเตรเลียไว้อย่างน่าสนใจว่า...

รีวิวประสบการณ์หาหมอ..ที่ออสเตรเลีย!🇦🇺

ซวยยยย มารอบนี้ป่วยยย
สงสัยเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูที่นี่
เป็นทั้งไข้ หวัด ไอแห้งๆ เป็นอยู่เกือบ 7 วันแล้ว

โอ้ยยย ทำไงดี?

หาหมอที่นี่ เค้าทำยังไง(ฟะ)?

พูดเสร็จก็ค้นหาข้อมูลในเน็ตทันที

สรุป...
- ไปคลินิกแพง
- ส่วนใหญ่ต้องนัดหมอล่วงหน้า
- หลัง 6 โมงเย็น ส่วนใหญ่มีค่าบริการเพิ่ม
- หมอส่วนใหญ่เป็นหมอทั่วไป (GP)

และก็ค้นพบว่า อ้อ!! ที่นี่ส่วนใหญ่เค้าก็นิยมพบหมอออนไลน์แฮะ

ราคาไม่แพงมาก คุยกับหมอ...
- 3 นาที เสีย 900 บาท 
- เกิน 3 นาที 1200!
- เกิน 10 นาที 1500!
(เนี่ยนะ ไม่แพง 5555+)

เอาวะ ลองดู!!

เปิดเว็บไซต์ ผูกบัตรเครดิต 
รอ 30 นาที หมอถึงจะโทรมา
พอโทรมา ก็ถามว่าเป็นอะไร เลยอธิบายอาการไป
หมอก็ อืมๆ โอเค จากนั้นก็อธิบายว่า...
ไอคิดว่าน่าจะเป็น ไวรัสหวัดแหละ 
ไวรัสเกิดจาก...บลาๆ

หมอดันอธิบายซะเยอะ สรุป เกิน 3 นาที เสียพันสอง! 5555

สรุป...
- หมอให้กิน honey lemon เยอะ ๆ
- บอกเป็นแค่นี้ ไม่ต้องกินยาไรมาก
- ไวรัสเกิดเอง เดี๋ยวก็หายเองได้
- ไม่จำเป็นต้องทานยาฆ่าเชื้อ แถมส่ง pdf มาให้อ่านด้วยว่า
- การทานยาฆ่าเชื้อสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดี เดี๋ยวเกิดดื้อยาขึ้นมา อนาคตจะลำบาก

ถ้าอยากกิน ลองหา vitamin c + zinc มากินเอา เดี๋ยวก็หายเองตามธรรมชาติ 555

สรุปนะครับ...
- สาธารณสุขที่นี่แพงงงงง
- หมอเข้าถึงตัวยาก ยาเข้าถึงยากเช่นกัน
- ส่วนใหญ่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอเท่านั้น
- จะเดินไปซื้อร้านยาเองแบบในไทยนี่ไม่ได้นะ ฮา

ดังนั้น สำหรับใครที่อยู่เมืองนอก ถ้าเจ็บไม่ปางตาย ปล่อยให้ร่างกายฮีลตัวเองเถอะครับ 555

'วราวุธ' ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในงาน GCNT Forum 2022 รวมพลังภาคธุรกิจนำพาประเทศไทย ก้าวสู่สังคม Carbon Neutrality 

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2565) เวลา 11.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เข้าร่วมการประชุมผู้นำความยั่งยืนประจำปี GCNT Forum 2022 ภายใต้แนวคิด Accelerating Business Solutions to Tackle Climate & Biodiversity Challenges ที่สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ GCNT (Global Compact Network Thailand) ร่วมกับ สหประชาชาติ ประเทศไทย และองค์กรสมาชิกกว่า 110 องค์กร ทั้งไทยและต่างประเทศรวมพลังจัดขึ้น เพื่อเพิ่มมาตรการรับมือกับวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ 

ในการประชุมฯ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ 'เร่งหาทางออกของภาคธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนและวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพ' โดยมองว่า ภาคเอกชนและสหประชาชาติเป็นภาคีที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของไทย ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในภูมิภาคที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งผลักดันให้ใช้แนวคิด BCG มาส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ อาทิ การฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การจัดการป่าไม้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้ประชาชนท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนมีขีดความสามารถในการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้ประเทศไทยมีโครงข่ายรากฐานที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปกป้องธรรมชาติอย่างเป็นรูปธรรม วัดผล และขยายผลได้

หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกัน 'ซ้อมทรมาน-อุ้มหาย' ช่วยยกระดับ ขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นายกฯ ยินดี สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชน UN ชื่นชมไทยที่ประกาศใช้ พ.ร.บ. ป้องกันซ้อมทรมาน-อุ้มหาย ยืนยัน ขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ยกระดับ การคุ้มครองสิทธิ ตามมาตรฐานสากล

(3 พ.ย. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Office of the High Commissioner for Human Rights: OHCHR) เห็นถึงความพยายามของรัฐบาล โดยชื่นชมประเทศไทยที่ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

นายอนุชา กล่าวว่า สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมองว่า พระราชบัญญัติฯ ซึ่งประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิบัติตามคำมั่นของไทยเพื่อขจัดการกระทำทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายให้หมดสิ้น และเป็นการให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายจากการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งพระราชบัญญัติฯ มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องสิทธิในการที่จะไม่ถูกทรมานเป็นสิทธิมนุษยชนที่ไม่อาจระงับชั่วคราวได้ (non-derogation) และหลักการไม่ส่งใครกลับไปเผชิญอันตราย (non-refoulement) ซึ่งป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ขับไล่ เนรเทศ หรือส่งบุคคลใดไปยังอีกประเทศหนึ่งที่อาจเผชิญความเสี่ยงต่อการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย

สถาบันยานยนต์ ผนึก เกาหลี ร่วมเทสต์แบตเตอรี่รถอีวี เสริมศักยภาพการทดสอบแบตฯ รถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ

สถาบันยานยนต์ ร่วมมือ เกาหลี พัฒนาการทดสอบแบตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า เสริมศักยภาพการทดสอบของประเทศไทย

เมื่อวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 สถาบันยานยนต์ (สยย.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOC (Memorandum Of Cooperation) ด้านการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับ Korea Conformity Laboratories (KCL) ประเทศเกาหลีใต้ ณ ห้องประชุม 301 สถาบันยานยนต์ สำนักงานกล้วยน้ำไท

โดย นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ และ นายคิม แจฮง (Mr. Kim 
Jae Hong) ประธานของ KCL เป็นผู้ลงนามความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ เทคโนโลยีด้านการทดสอบ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านวิศวกรรม การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการประเมินผลการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า การส่งเสริมห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนามาตรฐานการทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย และประเทศเกาหลีใต้ ให้เดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top