'บิ๊กป้อม' คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' ย้ำ!! จนท.รัฐ พัวพัน โดน 'วินัย-อาญา' แน่

พล.อ.ประวิตร คุมเข้มปราบ 'ขบวนการค้ามนุษย์' เน้นทำงานเชิงรุก 'ผู้เสียหาย เป็นศูนย์กลาง' ย้ำเอาผิด จนท.รัฐ ทั้งวินัย/อาญา หากพัวพัน สั่งตั้ง 'รองโจ๊ก' นั่งหน.เฉพาะกิจช่วยเหลือ/เยียวยาเหยื่อ

(3 พ.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม 2 คณะ ต่อเนื่องกัน คือ คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ คณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

เวลา 10.00น. เริ่มการประชุม คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่4/2565 ที่ประชุมได้รับทราบ ความก้าวหน้าการจัดตั้งศูนย์คัดแยกฯ ผู้เสียหาย (ดอนเมือง) ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอบรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดอนเมือง ให้เป็นศูนย์คัดแยกฯ และกำลังดำเนินการพัฒนาระบบศูนย์คัดแยกฯ ซึ่งเป็นกลไกการทำงานที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ และรับทราบความคืบหน้า 8 หน่วยงานหลัก ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรองรับแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ พ.ศ.2565 จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับ และติดตามการดำเนินงาน ช่วยเหลือและเยียวยา ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.สตช. เป็นประธาน

จากนั้นมีการประชุมต่อเนื่อง คณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐ มิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 1/2565 โดยมีการพิจารณาเห็นชอบ รายงานผลการดำเนินการ ของคณะอนุกรรมการติดตามการดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 55-ปัจจุบัน รวม 95 ราย และกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการดำเนินการทางวินัยและการดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยมีปลัด ก.ยุติธรรม เป็นประธาน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ อย่างจริงจัง มาโดยตลอดซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมย้ำกับ สตช., พม., ยธ. และเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง จะต้องทุ่มเท เสียสละในการปฎิบัติหน้าที่ ตามกฏหมาย อย่างเคร่งครัด โดยยึดหลัก "ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง" และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมมือกันทำงานด้วยดี ที่ผ่านมา กระทั่งประเทศไทยได้รับการประกาศขึ้นเทียร์ 2 ในปี 65 ที่ผ่านมา แต่หากมีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือสมประโยชน์ จะต้องถูกดำเนินคดี ลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาโดยไม่มีข้อยกเว้นอย่างเด็ดขาด