Monday, 12 May 2025
Hard News Team

‘ชาวเน็ต’ แฉ!! กลโกงพ่อค้า แผงปาเป้าตุ๊กตางานวัด เฉลย!! ปาโดนเป้าแต่เด้งออก เพราะมีแผ่นสังกะสีแปะอยู่

ถึงว่าได้ยาก เปิดเบื้องหลัง ปาเป้าตุ๊กตางานวัด ทำไมเข้าจุดแล้วเด้งออก เฉลยให้เห็น มีเพียงเป้าเดียวที่ได้ ชาวเน็ตชี้จุด เป้าเดียวคือที่พ่อค้าปาโชว์

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในงานวัด และเทศกาลต่าง ๆ ที่ต้องมี เกมปาเป้า ชิงตุ๊กตาให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ลองความแม่นยำ ทว่า ผู้ใช้ TikTok @phayawanon ได้โพสต์คลิปแฉความลับถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นเกมปาเป้าปาไม่ติด ทั้งที่ปาตรงเป้าหมายที่ร้านกำหนดไว้ แต่ลูกดอกดันเด้งออกมา

โดยผู้โพสต์ เผยว่า ไปงานวัดแล้วเจอป้ายเกมปาตุ๊กตา 1 ดอก 20 บาท 3 ดอก 50 บาท ที่พ่อค้าทิ้งไว้ จึงเก็บมาก่อนจะเปิดดูพบว่า ด้านหน้าที่เป็นรูปตุ๊กตาเรียงเป็นช่องสี่เหลี่ยมมากมายนั้น ต้องมีโชคขนาดไหนถึงจะได้รางวัล

‘ชัชชาติ’ สวนกลับ ‘พ่อเจ เจตริน’ หลังวิจารณืไม่มีผลงาน แนะ!! เปิดเน็ตเช็กความก้าวหน้า แก้ไปแล้วกว่า 2 แสนเรื่อง

‘ชัชชาติ’ ขอบคุณที่นึกถึง ‘พ่อเจ เจตริน’ ทวีตถามหาผลงาน แนะเปิดเน็ตเช็กดูได้ ขนาดแม่ยังโทรถามเมื่อเช้า ‘ทำไมไม่มีผลงาน’

(5 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณี ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือบิดาของ เจ เจตริน นักร้องชื่อดัง ทวีตภาพนายชัชชาติพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ โดยตั้งคำถามถึงผลงานและการทำงานของนายชัชชาติ ว่า ตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวให้เห็นบ้าง?

นายชัชชาติกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นได้ ถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็พร้อมทำ ที่ผ่านมาดำเนินการตามนโยบาย 217 ข้อ ก็ทำมาตลอด เราน้อมรับทุกคำพูด ส่วนตัวยังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่ท่านอยากจะให้ทำอะไรเพิ่ม ส่วนผลงานมีอยู่แล้ว แต่ต้องเข้าไปดู

‘กกต.’ แจง ใช้ ‘รถแห่หาเสียง-เปิดเพลงพรรค’ ได้ แต่ห้ามห้ามรื่นเริง ชี้!! ผู้ช่วยหาเสียงทำทุกอย่างได้เหมือนผู้สมัคร ย้ำห้ามทำผิดกฎหมาย

‘เลขากกต.’ แจง ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องนักการเมืองใช้รถกระบะ-ปิกอัพแห่หาเสียงได้-เปิดเพลงพรรคได้ แต่ห้ามรื่นเริง สำหรับผู้ช่วยหาเสียงทำได้ทุกอย่างเหมือนผู้สมัคร แต่อย่าทำผิดกฎหมาย ขณะคู่สมรสนักร้อง/นักแสดง ของผู้สมัครช่วยหาเสียงได้ไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย

(5 เม.ย.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการใช้รถแห่หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า สามารถใช้หาเสียงได้เมื่อมีผู้สมัคร หรือสมาชิกพรรค ตลอดจนแคนดิเดตนายกฯของพรรคอยู่บนรถ และสามารถเปิดเพลงหรือร้องเพลงของพรรคได้เท่านั้น แต่รถแห่ที่มีการแสดงรื่นเริงบนรถทำไม่ได้ ดังนั้นหากมีการร้องเรียนมาที่ กกต.จะต้องพิจารณาเป็นกรณี

ส่วนผู้ช่วยหาเสียงของพรรคการเมืองสามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกับผู้สมัคร แต่อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และสามารถขึ้นเวทีดีเบตได้ หากพรรคส่งเป็นตัวแทน และอยากให้สื่อให้โอกาสกับทุกพรรคการเมืองได้ประชันนโยบายเวทีดีเบต ซึ่งการทำกิจกรรมของผู้ช่วยหาเสียงจะต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคทั้งหมด ยกเว้นกรณีที่เป็นสามีหรือภรรยาของผู้สมัครจะถือเป็นคนเดียวกันตามกฎหมาย จึงไม่ต้องคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายหาเสียง ดังนั้นแม้คู่สมรสจะเป็นดารานักร้องหรือนักแสดงก็สามารถช่วยหาเสียงได้โดยไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/722415

นักชก 'สปป.ลาว' โร่แฉ ‘กัมพูชา’ โกงโบกาตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน พร้อมโพสต์ระบาย!! “แพ้แบบไม่น่าเชื่อ ได้แต้มแต่ไม่ชนะ”

หลังจากที่มีข่าวว่า กัมพูชา ได้ จัดการแข่งขันกีฬา โบกาตอร์ ชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการทดสอบ และเตรียมความพร้อมก่อนที่จะจัดการแข่งขันในศึกซีเกมส์ 2023 ในครั้งนี้ 

โดยชิงชัยทั้งหมด 21 เหรียญทอง และมีชาติที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 4 ประเทศ คือ กัมพูชา,  สปป.ลาว, เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์

กัมพูชา กวาดเหรียญไปเกินครึ่งโดยมีผลงาน 11 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดงขณะที่อันดับ 2 ลาว คว้าไปได้ 5 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง ตามด้วยอันดับ 3 เวียดนาม คว้าได้ 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และอันดับ 4 ฟิลิปปินส์ คว้าได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง

วธ.จัดงานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ๒๕๖๖ เชิญชวนประชาชนร่วม “สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจสู่สากล” เผยแพร่ความงามอัตลักษณ์ความเป็นไทย รองรับการขึ้นมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ

วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม  นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหารวธ. พร้อมเครือข่าย เข้าร่วมแสดงมุทิตาจิตในกิจกรรม “รดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ผู้บริหารงานวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๖” เพื่อสืบสานอัตลักษณ์ความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมไทย ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวแสดงมุทิตาจิตในกิจกรรม “รดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมและผู้บริหารงานวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๖” ด้วยกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี เสริมสร้างค่านิยมและความเป็นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ ถือเป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ของไทย โดยในประเพณีนี้มีพิธีสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน ความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้ใหญ่ และบุคคลที่เคารพรัก เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสมานฉันท์ปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม ทั้งยังถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแด่ศิลปินแห่งชาติ รวมถึงเป็นแบบอย่างของการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ให้แก่องค์กรและประชาชนทั่วไป อีกด้วย 

“ปี ๒๕๖๖ นี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่องค์การยูเนสโก ได้รับรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมของไทย "สงกรานต์ในประเทศไทย" (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เข้าวาระการพิจารณาการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในเดือนธันวาคม ๒๕๖๖ นี้  ถือเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ รายการที่ ๔ ของประเทศ ต่อจาก โขน นวดไทย และโนรา จึงเป็นโอกาสอันดีในการเผยแพร่คุณค่าสาระ อัตลักษณ์ความงามของสงกรานต์ ประเพณีที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความนิยม ได้เกิดการรับรู้และเข้าใจอย่างถูกต้องในคุณค่าที่แท้จริงของประเพณีวัฒนธรรมของไทย” นายอิทธิพล กล่าว
 
นายคเณศ เค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พุทธศักราช ๒๕๖๐ ผู้แทนศิลปินแห่งชาติ ได้กล่าวอวยพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ ว่า ในนามของศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรม ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม และผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้มีโอกาสมาร่วมให้พรในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ระลึกถึงและมาร่วมกันแสดงมุทิตาจิตในวันนี้ รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่คนรุ่นหลังให้ความสำคัญ และระลึกถึงผู้อาวุโส โดยการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรศิลปินฯ นี้ เป็นการแสดงออกถึงความรัก ความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อผู้ใหญ่ และครูอาจารย์ ทำให้เกิดความรู้สึกปลาบปลื้มและมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง “ในวาระสงกรานต์ปีใหม่ไทย จึงขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก และขออำนาจคุณพระศรี-รัตนตรัย จงดลบันดาลให้ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความรักความสามัคคีให้แก่กัน และร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ สืบไป” นายคเณศ กล่าว
 
ทั้งนี้ ภายในงานมีศิลปินแห่งชาติ ทั้ง ๓ สาขา ร่วมพิธี อาทิ นายคเณศ เค้ามูลคดี  นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์  นายสมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์  นายเสวต เทศน์ธรรม  นายสมเศียร พานทอง  นายบุญเลิศ นาจพินิจ  นายชัยชนะ บุญนะโชติ  นางสาววนิดา พึ่งสุนทร  นายเผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี  นายสุประวัติ ปัทมสูต  นางพิสมัย วิไลศักดิ์  นางรัจนา พวงประยงค์  นายนคร ถนอมทรัพย์  ศ.พิเศษ อารี สุทธิพันธุ์  นางสาวทัศนีย์ ขุนทอง  นายปัญญา วิจินธนสาร นางชมัยภร บางคมบาง  ศ.เกียรติคุณ วิชัย สิทธิรัตน์  นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี  นายวินัย พันธุรักษ์  นายปี๊บ คงลายทอง  นางสุดา ชื่นบาน  ศ.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร  นายนพพล โกมารชุน  นายวิโรจน์ วีระวัฒนานนท์  นางผ่องศรี วรนุช  นายสิงห์คม บริสุทธิ์  นายวิรัช อยู่ถาวร  นางรุ่งฤดี เพ็งเจริญ  นายไพฑูรย์ เข้มแข็ง  นายธงชัย รักปทุม และ พันโทวิชิต โห้ไทย  โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม  ทายาทศิลปินแห่งชาติ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เครือข่ายศิลปวัฒนธรรม เข้าร่วมสรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ รวมถึงผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม  เพื่อร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันงดงาม เสริมสร้างค่านิยมและความเป็นไทย  ซึ่งการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เป็นพิธีกรรมที่แสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน ความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้ใหญ่ และบุคคลที่เคารพรัก อันจะช่วยสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม ทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแด่ศิลปินแห่งชาติ รวมถึงเป็นแบบอย่างของการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพรผู้อาวุโสให้แก่องค์กรและประชาชนทั่วไป  และ บริเวณหน้างานยังมีนิทรรศการให้ความรู้ คุณค่า สาระ แนวทางปฏิบัติเนื่องในประเพณีสงกรานต์ อีกด้วย 

‘ศุภชัย’ เผยศาลสั่งห้าม ‘ชูวิทย์’ ยุ่งเรื่องกัญชาพรรค ‘ภท.’ ชี้!! มีเจตนาบิดเบือนความเข้าใจของประชาชน

‘ศุภชัย’ เผยศาลสั่งห้าม ‘ชูวิทย์’ จ้อ-แสดงการกระทำด้วยวิธีใด ๆ เกี่ยวกับปม ‘กัญชา’ ที่เกี่ยวข้อง ‘พรรคภูมิใจไทย’ อีก

(5 เม.ย.66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วานนี้ (4 เม.ย.66) พรรคภูมิใจไทย มอบอำนาจให้ตนยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่ง กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กระทำละเมิดต่อ พรรคภูมิใจไทย ในการแพร่ข่าว ไขข่าว ฝ่าฝืนต่อความเป็นจริงทำให้พรรคเสียหาย เป็นการฟ้องละเมิดและเรียกค่าเสียหาย และยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว และไต่สวนฉุกเฉิน ห้ามมิให้นายชูวิทย์ ดำเนินการตามที่ถูกฟ้อง คือ การกล่าวหาบิดเบือน กับพรรคภูมิใจไทย 

ทั้งนี้ เมื่อวาน (4 เม.ย.66) หลังจากคณะตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องเป็นการร้อง ห้ามมิให้พูด อาจจะเป็นการฟ้อง ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำร้องไม่เป็นการเฉพาะเจาะจง เป็นการยื่นคำร้องทั่วไป จึงยกคำร้อง แต่วันนี้พรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ขอไต่สวนฉุกเฉิน อีก และมีการไต่สวนจนเสร็จสิ้นเมื่อช่วงบ่าย ออกมา

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า โดยเนื้อหามีดังนี้ วิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลายสาขา ทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งใช้เครื่องกระจายเสียงประกาศข้อเท็จจริงต่างๆ ตามคำฟ้องในที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์มีนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสมาชิกของโจทก์ไม่เหมาะสมที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อเท็จจริง ตามที่จําเลยกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายต่อบุคคลทั่วไปนั้น ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามที่จําเลยกล่าวอ้างหรือไม่ จึงเป็นการกระทําซ้ำ และกระทําต่อไป ซึ่งการที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจําเลยกระทําละเมิด

‘สุวัจน์–กรณ์’ โดดลงสปีดโบ๊ทลุยเกาะโหลนช่วย ‘เทมส์–อรทัย’ ชูนโยบายพัฒนา ‘ภูเก็ต’ ให้ถูกใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ชพก.คิกออฟภูเก็ต! ‘สุวัจน์ – กรณ์’ ลงสปีดโบ๊ท เยี่ยมชุมชน เกาะไร้ไฟฟ้า ช่วย ‘เทมส์–อรทัย’ ลั่น มั่นใจ 2 ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ปักธงได้ นโยบายปัง พัฒนาภูเก็ตสู่ท่องเที่ยว World Class 

(5 เม.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวพน้าพรรค เดินทางมา จ.ภูเก็ต ทำกิจกรรมร่วมกับ 2 ผู้สมัคร ส.ส. คือ นายเทมส์ ไกรทัศน์ เขต 2 เบอร์ 7 และ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ เขต 3 เบอร์ 1 โดยช่วงบ่ายพบปะพี่น้องประชาชน ที่ ต.ฉลอง และได้นั่งเรือสปีดโบ๊ทไปยัง ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะโหลน  ต.ราไวย์ อ.เมือง  ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้ง ของนายเทมส์ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไม่มากนัก แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ และในฤดูแล้งยังประสบภาวะขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียง 20 กว่าหลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านได้ขอให้ทางนายสุวัจน์ นายกรณ์ และนายเทมส์ ซึ่งเป็นผู้สมัครในพื้นที่ช่วยผลักดันให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวให้เจริญกว่าที่เป็นอยู่ 

และช่วงเย็นได้ร่วมประเพณีสวดกลางบ้านและพบปะพี่น้องประชาชนที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของนางสาวอรทัย

นายสุวัจน์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า มีความพร้อมที่จะพัฒนาการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตสู่ระดับ World Class โดยต้องเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระจายและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เข้าถึงกันและสะดวกปลอดภัย เช่น มอเตอร์เวย์ทุกทิศทั่วไทย เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงมารีน่า และการจราจรภูเก็ต ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวระดับสูงให้เพิ่มขึ้น  

“พื้นที่เกาะโหลน ผมมองว่ามีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศและเริ่มศักยภาพท่องเที่ยวภูเก็ตได้ แต่ขณะนี้บนเกาะโหลนไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้ชาวชุมชนต้องอพยพข้ามไปอยู่ในเมือง พื้นที่ยิ่งทรุดโทรม ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานในการดำรงชีวิต เปรียบเสมือนเกาะร้างซึ่งน่าเสียดาย เมื่อพรรคชาติพัฒนากล้าได้รับข้อมูลจากผู้นำท้องถิ่นทราบว่าเคยมีโครงการจะนำไฟฟ้าผ่านสายเคเบิ้ลใต้ทะเลมาที่เกาะแต่ไม่มีการทำโครงการดังกล่าวอย่างจริงจัง เราจึงอยากให้รื้อฟื้นเพื่อทำให้เกาะโหลนมีไฟฟ้าใช้ เพื่อเกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หากพัฒนาได้ชาวบ้านจะกลับมาอยู่ในพื้นที่ดังเดิม” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่านโยบายที่นำเสนอจะทำได้เมื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้นหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาล โดยตรงก็จะดี ถ้าเป็นฝ่ายค้านต้องยกมือถามว่า เมื่อไรจะทำ หมายถึงหากเป็นรัฐบาลก็ทำเอง แต่ถ้าเป็นเจ้ากระทรวง ท่องเที่ยวและกีฬาทำได้เลย เป็นเรื่องปกติ ใครเป็นรัฐบาลได้ทำในสิ่งที่บอกกับประชาชนไว้ ทุกพรรคจึงอยากเป็นรัฐบาล เพราะได้ลงมือทำ แต่หากเป็นฝ่ายค้านมีแต่จะยกมือถามว่าเมื่อไรจะทำ ทำไมทำช้า อย่างไรก็ดีเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ขณะที่ผู้สมัครของพรรค ที่พรรคส่ง 2 เขต จาก 3 เขต ตนมั่นใจเพราะพรรคชาติพัฒนากล้าได้ทำโพลของพรรค  พบว่าพอใจ มีนโยบายส่งเสริมมท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของพรรคตอบโจทย์ได้ จึงมั่นใจว่าจะได้แจ้งเกิด และพัฒนาภูเก็ตเป็นเกาะระดับโลกของการท่องเที่ยว ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ประเทศ ดังนั้นเมื่อได้เบอร์แล้ว จึงรีบลงพื้นที่เห็นแห่งแรก 

‘ผู้การจ๋อ’ ลุยฟ้อง ‘อัจฉริยะ’ หมิ่นประมาทโยงขบวนการค้ายา ท้า!! แน่จริงอย่าหนีเจอกันบัลลังก์ศาล พร้อมพิสูจน์ความจริง

‘ผู้การฯจ๋อ’ จัดหนักให้ ‘อัจฉริยะ’ แฉมั่วซั่ว ยื่นฟ้องศาลอาญา ฐานแจ้งความเท็จหมิ่นประมาทโยงขบวนการยาเสพติดทำเสื่อมเสียชื่อเสียง

(5 เม.ย.66) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ได้เดินทางไปยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ ในฐานความผิดฐาน แจ้งความเท็จหมิ่นประมาทแกล้งฟ้องให้ต้องรับโทษ ต่อศาลอาญา  ยืนยันทุกอย่างที่นายอัจฉริยะกล่าวโทษ ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( บก.ปปป.) ว่าโยงขบวนการค้ายาเสพติดไม่เป็นความจริง ลั่น พร้อมพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล หากคู่กรณีมีหลักฐานให้เอามายืนยัน อย่าอ้างพูดไปเรื่อยให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด ไม่มีใครสามารถปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของคุณเองหรือรับงานใครมา เพื่อหวังดิสเครดิต ผมไม่รู้สึกหวาดหวั่น และมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า “ไม่ใช่ไปฟังผีบอกแล้วเที่ยวกล่าวหาเขาไปทั่ว ข้าราชการที่บริสุทธิ์ทุกคนไม่ควรปล่อยให้พวกที่ตระเวนหาแสงทำอย่างนี้ ควรออกมาปกป้องตนเองและหน่วยงานของตนเองด้วย ปัจจุบันกลายเป็นว่าใช้สื่อหาประโยชน์ ใครอยู่เบื้องหลังกี่คนลากออกมาให้หมด อย่าทำเป็นอีแอบนุ่งกระโปรงอยู่หลังเวที แต่ไม่กล้าเต้น แน่จริงมาว่ากันที่บัลลังก์ศาล ผมพร้อมจะพิสูจน์ความจริงทั้งหมดและความไม่จริงของขบวนการพวกนี้ พบกัน 19 มิถุนายน 2566 ที่ ศาลอาญา อย่าร้อง อย่าเลื่อน ก็แล้วกันผบก.สส.บช.น.กล่าว"

‘สุวัจน์ - กรณ์’ บุกภูเก็ต ช่วย ‘เทมส์ - อรทัย’ หาเสียง ชูจุดขายพัฒนาภูเก็ตสู่ท่องเที่ยว World Class

(5 เม.ย.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวพน้าพรรค เดินทางมาจ.ภูเก็ต ทำกิจกรรมร่วมกับ 2 ผู้สมัคร ส.ส. คือ นายเทมส์ ไกรทัศน์ เขต 2 เบอร์ 7 และ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ เขต 3 เบอร์ 1 โดยช่วงบ่ายพบปะพี่น้องประชาชน ที่ ต.ฉลอง และได้นั่งเรือไปยัง ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะโหลน  ต.ราไวย์ อ.เมือง  ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้ง ของนายเทมส์ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไม่มากนัก แต่กลับไม่มีไฟฟ้าใช้ และในฤดูแล้งยังประสบภาวะขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือเพียง 20 กว่าหลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านได้ขอให้ทางนายสุวัจน์ นายกรณ์ และนายเทมส์ ที่เป็นผู้สมัครในพื้นที่ช่วยผลักดันให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวให้เจริญกว่าที่เป็นอยู่ จากนั้นในช่วงเย็นก็ได้ร่วมประเพณีสวดกลางบ้านและพบปะพี่น้องประชาชนที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของนางสาวอรทัย

นายสุวัจน์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า มีความพร้อมที่จะพัฒนาการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตสู่ระดับ World Class โดยต้องเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระจายและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เข้าถึงกันและสะดวกปลอดภัย เช่น มอเตอร์เวย์ทุกทิศทั่วไทย เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงมารีน่า และการจราจรภูเก็ต ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวระดับสูงให้พิ่มขึ้น  

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า จ.ภูเก็ต สามารถพัฒนาเป็น Entertainment Complex โดยนโยบายเฉดสีของพรรคชาติพัฒนากล้าที่จะหารายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาทใน 5 ปี และ 1 ในเฉดสีที่สามารถสร้างรายได้ได้มาก คือ เฉดสีเทา การนำธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน เพื่อจัดการให้ถูกกำหมายสร้างภายได้ให้ประเทศชาติ คือการสร้างกาสิโนนำร่องในเมืองที่พร้อม เช่น ภูเก็ต เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว คือ นกตัวที่ 1.นำธุรกิจที่อยู่ใต้ดินมาบนดิน นกตัวที่ 2. คนไทยที่ไปเล่นการพันที่ในประเทศเพื่อนบ้านก็จะกลับมาเล่นที่เมืองไทย และ นกตัวที่ 3 คือ ดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา โดยนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า เราพร้อมที่จะพัฒนาภูเก็ตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในระดับโลก รวมถึง เราเน้นนโยบายสร้างรายได้ 5 ล้านล้านระบบ ทำธุรกิจนอกระบบมาอยู่ในระบบ 

'พิธา' เสนอนโยบาย '5 ต.' ดันหวยใบเสร็จ-ลดภาษี SMEs โวย!! ศก.ยังไม่ฟื้น เพราะช่วยเหลือคนตัวเล็กไม่เท่าทุนใหญ่

‘พิธา’ ร่วมวงนโยบายเอสเอ็มอี ชี้แม้โควิดผ่านไปแล้วแต่ยังไม่ฟื้น ได้ความช่วยเหลือไม่เท่าทุนใหญ่ รัฐบาลก้าวไกล พร้อมกิโยตินกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เสนอนโยบาย '5ต.' ดันหวยใบเสร็จ-ลดภาษีเอสเอ็มอี

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บรรยายในงาน Move Forward SME Conference ที่พรรคก้าวไกลจัดขึ้น โดยมีการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ด้านต่างๆ มาร่วมพูดคุยกับทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล

พิธา บรรยายปิดท้ายวงพูดคุย ระบุว่าคำถามสำคัญเร่งด่วนสำหรับ SMEs ในขณะนี้ คือสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้ว SMEs ไทยฟื้นตัวหรือยัง? วันนี้ทุกคนรู้ดีว่าการเติบโตของ GDP ไทยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ค่าเฉลี่ยการเติบโตติดลบไป 6.2% แต่เมื่อมองไปในภาพลึก จะพบว่าสำหรับ SMEs การติดลบสูงถึงกว่า 10% สัดส่วนของ SMEs ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ 35% หายไป 1% เต็มๆ คิดเป็นมูลค่ากว่าหลายแสนล้านบาท ที่ผ่านมา SMEs จึงเป็นผู้ที่เจ็บลึกและเจ็บยาว

พิธากล่าวต่อว่า สำหรับ SMEs แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่กำไร แต่คือสภาพคล่อง ที่เป็นดั่งชีพจรสุดท้าย แต่ระหว่างวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ปรากฏว่า SMEs กลับเข้าไม่ถึงสภาพคล่อง ไม่สามารถกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤติได้ แม้จะมี พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ออกมา แต่ก็มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเป็นลูกค้าธนาคารพาณิชย์มาก่อน สิ่งที่ตามมาก็คือในปี 2565 ไตรมาส 2 ธนาคารมีการปล่อยกู้ให้กลุ่มทุนใหญ่ เป็นสัดส่วนกว่า 10% ขณะที่การปล่อยกู้ให้ SMEs มีสัดส่วนน้อยมาก ดังนั้น สิ่งที่ SMEs ต้องการในตอนนี้ คือการอัดฉีดสภาพคล่องโดยเร็วที่สุด ไม่อาจปล่อยให้ล้มหายได้

พิธากล่าวต่อไป ว่าพรรคก้าวไกลเห็นความสำคัญของ SMEs เสมอมา โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด พรรคลงไปทำงานผ่านกลไกกรรมาธิการการเศรษฐกิจ นำงบประมาณที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา อภิปรายให้เห็นจุดบกพร่องของ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ที่ไม่ทำให้ SMEs เข้าถึงได้จริงๆ รวมทั้งการผลักดันนโยบายทลายทุนผูกขาด เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันระหว่างทุนใหญ่และธุรกิจ SMEs ผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นต้น

ส่วนในระยะต่อไป พรรคก้าวไกลเห็นว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับ SMEs คือกฎหมายและระเบียบที่ล้าหลังหลายพันฉบับ บางฉบับมีมาตั้งแต่ปี 2490 พรรคก้าวไกลยืนยันว่าสามารถกิโยตินทิ้งได้ถึง 50%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top