Thursday, 2 May 2024
Hard News Team

ชาวไต้หวัน ทึ่ง!! แก่นแท้ 'การไหว้' ใต้วัฒนธรรมไทย ความหมายลึกล้ำ 'เคารพผู้อื่น-ตื่นรู้ในผู้มีพระคุณ'

เพจ 'แม่บ้านเกาสง แม่บ้านขาเลาะ On My Bike Way by 章少玲' ได้โพสต์ข้อความประทับใจหลังวัฒนธรรมไทยอย่าง 'การไหว้' กลายเป็นอีก Soft Power ที่เข้าถึงใจคนไต้หวัน โดยระบุว่า...

#พี่นายกสอนน้อง | งานเผยแพร่วัฒนธรรมไทยใน campus ณ มหาวิทยาลัย เกาย่วน 高苑科技大學 KAO YUAN University #KYU

25.04.2022 (วันจันทร์ ที่ตื่นเช้ามากกก)

ขอขอบคุณ อ.ไช่ #蔡惠珍老師 ผู้เชื้อเชิญให้แม่บ้าน ในฐานะ “นายกสมาคมเผยแพร่วัฒนธรรมผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในเกาสง” 高雄市新住民多元文化推廣協會 - Kima協會

เข้าบรรยาย ในหัวข้อเรื่อง “วัฒนธรรมไทยและประเพณีสงกรานต์” #泰國文化與新年習俗 . มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี เกาย่วน #KYU วิทยาเขตลู่จู๋ #路竹

ความพิเศษของงานในวันนี้ คือ เป็นงานบรรยายที่เริ่มตั้งแต่คาบแรก “แปดโมงครึ่ง” แถมมีแต่หนุ่มๆ เทคโนทั้งน้านนนน สงสารจริงๆ ไม่รู้ว่าโดนบังคับมาฟังกันรึปล่าว

เพราะสมัยที่แม่บ้านเรียนมหาวิทยาลัย คาบแรกนี้ ส่วนใหญ่นักศึกษาจะยังไม่ค่อยตื่นกัน

อาจารย์ไช่กระซิบบอกแม่บ้านถึงจุดประสงค์ของการจัดงานว่า ในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยเกาย่วน #高苑科技大學 จะมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศไทยมาเรียนที่นี่เป็นครั้งแรก

ทาง ม.ยังขาดความรู้เรื่องของประเทศไทย เพราะยังไม่เคยจัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในแคมปัสมาก่อน

จึงขอเชิญแม่บ้าน มาทำการบรรยายให้นักศึกษาไต้หวัน รวมทั้งนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากชาติต่างๆ ได้รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีไทยไว้เป็นพื้นฐาน เพื่อจะได้เข้าใจแบล็คกราวด์ของนักศึกษาไทยในแง่ของวัฒนธรรมให้มากขึ้น

ซึ่งความคิดนี้ สร้างความประทับใจให้แม่บ้านเป็นอย่างมาก

นอกเหนือไปจากนั้น แม่บ้านยังได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ไช่ อีกเรื่อง ที่จะมาเข้าสู่กันฟังในโอกาสหน้า

หลังจบการบรรยาย มีนักศึกษาชายชาวไต้หวัน ที่ดูเนิร์ดๆ ท่านหนึ่ง บอกกับแม่บ้านว่า เขาเคยเห็น #น้องเมย์ นักแบดมินตันของไทย ยกมือขึ้นไหว้คณะกรรมการและผู้ชม ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่า มันหมายความว่าอย่างไร

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า...

การไหว้” นอกจากจะแสดงออกถึงความเคารพผู้อื่น ยังเป็นการรำลึกถึงพระคุณของพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ที่ได้ให้ความรัก ฟูมฟักดูแลและฝึกฝน จนมีเราในวันนี้

'กรณ์' ผุด!! 'ทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า' ใต้พลังนักธุรกิจรุ่นใหม่ รวบหลากประสบการณ์ 'ฟื้นเศรษฐกิจ-แก้วิกฤตปากท้อง'

(2 ..65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ประจำปีเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า...

ภารกิจของพรรคกล้าขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีคนเก่ง มีจิตสาธารณะ อาสาเข้ามาช่วยงานพรรคในฐานะทีมงาน ผู้สมัคร เพรรคกล้าจึงได้คนคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา เชื่อมต่อคนระหว่างรุ่นได้อย่างลงตัว และพร้อมที่จะนำความสำเร็จจากประสบการณ์การทำธุรกิจ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ต่อยอดภารกิจสำคัญที่สุดของพรรคในขณะนี้คือ “การสร้างรายได้ สร้างโอกาส”

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้าได้แต่งตั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นั่งประธานยุทธศาสตร์ โดยมีตนและนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ มีนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ให้คำปรึกษาในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมและถูกต้องในการนำประเทศไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับทีมเศรษฐกิจ แต่งตั้งนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค อดีตนายกสมาคมค้าปลีกไทยเป็น เป็นประธานทีมเศรษฐกิจ ร่วมด้วยนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะมาดูแลภารกิจต่างๆ ของพรรคประกอบด้วย ดร.อัครเวช โชตินฤมล นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ดูแล "เศรษฐกิจสีเทา" ด้วยภารกิจการเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ชูนโยบาย "กล้า Green Deal" เพื่อหารายได้เพิ่มเข้าประเทศ

นายเทมส์ ไกรทัศน์ นักธุรกิจภาคบริการ ว่าที่ผู้สมัคร ส..ภูเก็ต ดูแลภารกิจเศรษฐกิจท่องเที่ยว ร่วมกับ ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ที่จะดูแลภารกิจเศรษฐกิจท่องเที่ยวล้านนา

นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ นักธุรกิจส่งออกจิวเวลรี่รายใหญ่ ดูแลภารกิจเศรษฐกิจการส่งออก

นายสืบศิษฏ์ ศานติศาสน์ ดูแลภารกิจการศึกษาเพื่ออาชีพ กำลังคน กำลังแรงงานภาคการผลิตเพื่อให้คนไทยมีทักษะใหม่ตอบโจทย์ระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบันและอนาคต

นายกฤษดา เฉลิมสุข อดีตนายกสมาคมโปรแกรมเมอร์ เทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ มาทำงานด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ เสริมยุทธศาสตร์ของพรรค

นอกจากนี้ยังมีคนหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง พีเค พัสกร วรรณศิริกุล ที่เพิ่งเดินเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้า แม้อายุยังน้อยแต่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หลากหลายมิติทั้ง การแสดง อาหาร ภาพยนตร์ โฆษณา แฟชั่น ฯลฯ พีเค จะเข้ามาช่วยตกผลึกวิธีคิดว่าจะส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตอบโจทย์เศรษฐกิจรุ่นใหม่ได้อย่างไร

นางสาวนวลลออ เทอดเกียรติกุล จะเข้ามาดูและภารกิจเศรษฐกิจนวัตกรรมการเกษตร ซึ่งความเป็นจริงคุณนวลลออ ไม่ได้เป็นเกษตรกรมาทั้งชีวิต เคยทำงานออฟฟิศในบริษัทชั้นนำของโลก ก่อนจะลาออกมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรแนวใหม่ นำสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดด้วยตัวเองจนประสบความสำเร็จ ก็จะเอาประสบการณ์เหล่านั้น มาช่วยสร้างเศรษฐกิจพรีเมี่ยม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

นายกฤษฎา เฉลิมสุข อดีตนายกสมาคมโปรแกรมเมอร์ จะเข้ามาดูแลภารกิจเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ

ดร.กฤษณะ ทองแก้ว ที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเรื่องเศรษฐกิจชุมชน ก็จะมาดูแลภารกิจส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับฐานราก

นายศิริศักดิ์ เชื้อวงศ์ นักธุรกิจการเงิน ที่จะมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจการเงิน การลงทุน เพื่อให้ความรู้กับประชาชนเพราะการลงทุนสำคัญมากที่จะสร้างความมั่นคงในชีวิตระยะยาว

นายบุญสืบ จันทร์แจ่มสี ว่าที่ผู้สมัคร สส.ลาดพร้าว-วังทองหลาง ก่อนมาทำงานการเมืองก็ทำธุรกิจสายมาร์เก็ตติ้ง โฆษณา และแบรนด์เมเนเจอร์ อดีตผู้บริหารซัมซุงโบมาย และมีนางสาวกชกร คีรีโชติ นักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มานั่งเป็นเลขาของทีมเศรษฐกิจด้วย

สุขสันต์ วันอีดิ้ลฟิตริ

ศูนย์ดาราศาสตร์ในเอมิเรตส์คาดการณ์ วันอีดิ้ลฟิตริ ประเทศส่วนใหญ่ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 โดยอ้างจาก โมฮัมมัด เชากัต โอเดฮ์ วิศวกรผู้อำนวยการศูนย์ดาราศาสตร์นานาชาติแห่งเอมิเรตส์ (UAE’s International Astronomy Centre) ซึ่งอธิบายว่า ในวันที่ 30 เมษายน 2565 หลังเวลามักริบจะไม่เห็นจันทร์เสี้ยว เนื่องจากดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า และดวงจันทร์จะตกก่อนดวงอาทิตย์ หากกำหนดดูเดือนในวันดังกล่าวก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นเดือน ดังนั้น จึงต้องถือศีลอดต่ออีก 1 วัน และวันอีดิ้ลฟิตริ จะตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม

ประเทศต่างๆ ที่เริ่มถือศีลอดในวันที่ 2 เมษายน 2565 จะสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในวันที่ 1 พฤษภาคม และออกอีดฟิตริ ในวันที่ 2 พฤษภาคม

ส่วนประเทศที่เริ่มเข้าเดือนรอมฎอนในวันที่ 3 เมษายน เช่น ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน อินเดีย โอมาน จอร์แดน และโมร็อกโก จะกำหนดดูจันทร์เสี้ยวในวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งนับเป็นวันที่ 29 ของเดือนรอมฎอน (สำหรับพวกเขา) เพื่อกำหนดวันอีดิ้ลฟิตริ ต่อไป

เขายังกล่าวอีกว่า ประเทศเช่น ออสเตรเลีย และประเทศในภูมิภาคใกล้เคียง จะไม่สามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ในค่ำคืน ที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยในค่ำคืนดังกล่าวจะสามารถเห็นจันทร์เสี้ยวได้ผ่านทางกล้องเทเลสโคป เฉพาะในพื้นที่แถบเอเซียกลาง เอเซียตะวันตก และส่วนมากของประเทศในยุโรป รวมทั้งแอฟริกาใต้ เท่านั้น

ประเทศส่วนมากที่ประกาศดูดวงจันทร์ในค่ำคืนที่ 1 พฤษภาคม 2565 จะประกาศวันอีดิ้ลฟิตริ ในวันที่ 2 พฤษภาคม ในขณะที่บางประเทศ เช่น อินเดีย บังคลาเทศ และปากีสถาน จะประกาศวันอีดิ้ลฟิตริ ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565

วันเฉลิมฉลองอีดิ้ลฟิตริ ตามมาหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งอาจจะมี 29 หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับการเห็นจันทร์เสี้ยวในแต่ละพื้นที่

สำหรับ วันอีฎิ้ลฟิตริ (บ้างสะกด : อีดิ้ลฟิตรี) เป็นวันแรกของการออกจากเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิม (วันที่ 1 ของเดือนเชาวาล) เป็นวันแห่งรางวัลและการตอบแทนสำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบประจำปีในเดือนรอมมฎอน ด้วยการบังคับ ตัวเองด้วยจิตศรัทธาที่มุ่งมั่น จากการกินดื่ม อยู่ในความสำรวมตนลดละกิเลสตัณหา และยืนฟังการอ่าน อัลกุรอานในการละหมาดตะรอเวียะห์เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มตลอดค่ำคืนของเดือนรอมฎอน พร้อมทั้งฝึกฝนด้านความโอบอ้อมอารีและความมีจิตเมตตาและกรุณาต่อผู้ที่ด้อยโอกาสและอ่อนแอกว่า ในช่วงเดือนรอมฎอนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เพื่อขัดเกลาตนเองทั้งกายใจ

ดรามาวงการ 'e-Sport' เมื่อผู้ติดทีมชาติต้องจำใจถอนตัว เหตุคนไร้สปิริต ไล่วิจารณ์ฝีมือ หลังตัวเองไม่ติดทีมชาติ

กลายดรามาวงการเกม จากประกาศรายชื่อนักกีฬาลุยศึก PUBG Nations Cup 2022 พบ 'โค้ชคีย์บอร์ด' ไม่เห็นด้วยหลังมีชื่อ 'JACOB' จากสังกัด MiTH ติดไลน์อัพไปด้วย ทำต้นสังกัดต้องออกมาปกป้องนักกีฬา ด้วยประกาศถอนตัว 'JACOB' จากทีมชาติ

จากกรณีมีการประกาศรายชื่อผู้เล่นคนที่ 2 และ 3 ของทีมชาติไทย ลุยศึก PUBG Nations Cup 2022 ที่จะจัดขึ้นใน ประเทศไทยในวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 19 มิถุนายน ได้แก่ 'J4nku2o' จากสโมสร Attack All Around และ 'JACOB' จาก สังกัด MiTH นั้น

กลับเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จาก 'โค้ชคีย์บอร์ด' เกี่ยวกับผลงานของ 'เจ้าปลื้ม' หรือ 'JACOB' จากสังกัด MiTH ว่าไม่เหมาะสมกับการติดไลน์อัพทีมชาติในชุดนี้ บ้างให้เหตุผลว่าไม่มีประสบการณ์ในการแข่งระดับโลก

จากกรณีดังกล่าว ทำให้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 เพจ 'MiTH' ทีมต้นสังกัดของ 'JACOB' ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อปกป้องความรู้สึกของนักกีฬาในสังกัดหลังถูกโจมตีจาก 'เกรียนคีย์บอร์ด' จึงออกมาประกาศถอนตัว ‘นายวีรภัทร จันทะเนตร’ หรือ ‘Jacob’ ออกจากการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย โดยระบุข้อความว่า...

เนื่องจากทางสโมสร MiTH Esports ได้ทราบความรู้สึกของ Jacob หลังจากที่ได้มีการประกาศรายชื่อตัวแทนประเทศไทย ในรายการ PUBG NATION CUP 2022 อย่างเป็นทางการแล้วนั้น ทาง MiTH Esports จึงขอปกป้องความรู้สึกของ 'JACOB' ด้วยการสนับสนุนความประสงค์ของเจ้าตัว โดยการถอนตัว ‘นายวีรภัทร จันทะเนตร’ หรือ 'JACOB' ออกจากการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย

ทางเราต้องกราบขออภัยอย่างสูงไปถึงทาง Krafton Inc ผู้ให้บริการเกม PUBG : Battlegrounds ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ทางเราต้องกราบขออภัยแฟนๆ MiTH Esports ทุกคน ที่ไม่สามารถส่งตัวน้องปลื้มไปทำหน้าที่การเป็นตัวแทนชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นใครที่ได้เข้ามาเป็นตัวแทน ทางเราขอให้แฟนๆ MiTH Esports ทุกคนร่วมยินดีและให้กำลังใจนักกีฬาของไทยด้วยนะครับ

ถึงแฟนคลับ MiTH Esports ทุกคน การตัดสินใจครั้งนี้ทางเราได้ปรึกษาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว อยากให้แฟนๆ ทุกคนเคารพการตัดสินใจของเรา สุดท้ายนี้ทางเราขอให้แฟนคลับ MiTH Esports ที่รักทุกคนแสดงออกอย่างเหมาะสมที่สุดนะครับ

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีแฟนคลับต่างเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้เจ้าปลื้มผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้

สำหรับต้นเรื่องของดรามาที่ส่งผลให้ 'JACOB' จำต้องถอนตัวนั้น ​สืบเนื่องมาจากการสตรีมไลฟ์สดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ในช่องของ 'นาย ศิริวุฒิ จุลกะเศียน' (Julio) บนเพจ Julio ระหว่างสตรีมมีการพูดคุยกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม นาย ชนาธิป ชัยชโลธร (JobJab), นาย ชยานนท์ สุขมาก (Sceat), และนักกีฬา PUBG PC ท่านอื่นในวงการ ถึงทีมชาติ PUBG PC ของรายการ PUBG Nation Cup โดยมีการกล่าวถึงการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาที่ได้รับคัดเลือกเป็นทีมชาติอย่างไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก

ทางสโมสร MS CHONBURI ESPORTS จึงพิจารณาลงโทษ หักเงินเดือน 50% เป็นเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นการลงโทษ สำหรับความประพฤติที่ไม่สมควร

อย่างไรก็ตาม โลกโซเชียลต่างเดือด ออกมาวิจารณ์ 'โค้ชคีย์บอร์ด' พร้อมติดแฮชแท็ก #ไม่สนิทอย่าติดทีมชาติ ที่ทำให้ 'JACOB' ต้องถอนตัวภายใต้คำวิจารณ์จากกลุ่มนักกีฬาร่วมอาชีพที่ไม่ถูกประกาศให้เป็นตัวจริงทีมชาติ แล้วออกมาไลฟ์วิจารณ์ผู้ที่ติดทีมชาติแบบเสียๆ หายๆ โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่ไปในทางเดียวกัน ว่า...

"ลดเงินเดือน 50% เป็นเวลา 5 เดือน กับอนาคตของเด็กคนหนึ่ง ทำไมตีค่าคนๆ หนึ่งที่ติดทีมชาติถูกจัง"

"ความภาคภูมิใจและโอกาศของคนๆ หนึ่งถูกพังเพราะฝีปากของคนร่วมอาชีพ" 

"หัดชื่นชมและยินดีกับคนอื่นบ้าง" 

"กว่าคนหนึ่งจะยกระดับตัวเองและวงการอีสปอร์ตขึ้นมาได้ต้องฝึกฝนลำบากแค่ไหน เพื่อให้ก้าวผ่านคำว่า เด็กติดเกม"

"มืออาชีพที่ดี ไม่แก้ไขผลการกระทำด้วยคำว่า 'ขอโทษ' แต่ควรรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็นผู้เล่นด้วยเช่นกัน"

รออีกไม่นาน!! สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ อลังการคู่ขนานสะพานพระราม 9

รอยลโฉม สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ ที่คู่ขนานสะพานขึงพระราม9

เป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนสายพระราม3- ดาวคนอง-วงแหวนรอบนอก 

ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางถนนพระราม 2

กำหนดเปิดใช้งาน พ.ศ. 2567

ถ่ายภาพ 26 มกราคม พ.ศ. 2565


ที่มา : https://web.facebook.com/photo/?fbid=499214318228898&set=a.242244413925891


👍มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

'อภิสิทธิ์' กล่าวเตือน 'อุ๊งอิ๊ง' ระวังเจอรัฐประหาร หากนิรโทษกรรม พา 'ทักษิณ' กลับเมืองไทย

วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูปสภาที่ 3 กรณีท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ขึ้นมาแล้วหวังว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ และนางสาวแพทองธารจะเอานายทักษิณกลับบ้าน ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าอาจจะมีการรัฐประหารเกิดใหม่อีกรอบว่า...

ต้องยอมรับว่าความกังวลตรงนี้มีแน่นอน เพราะเกิดความรู้สึกว่าในที่สุดพรรคเพื่อไทย ก็ยังก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร ทั้งนี้สมมติว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งอีก ลำพังตรงนั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าประชาชนเลือก เพียงแต่ว่าอย่าย้อนกลับไปสู่ พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นลักษณะของการเอื้อประโยชน์ ให้ครอบครัว ให้พวกพ้องหรือไปทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย

ซึ่งอาจจะรวมไปถึงแนวคิดเรื่องการนิรโทษกรรม ฉะนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล ถ้าตัวบุคคลนั้นผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งตนพูดเสมอว่าการได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งมา เป็นความยินยอมพร้อมใจของประชาชนให้เข้ามาผลักดันนโยบายหรือทำงานให้กับประเทศชาติ แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้เข้ามาทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักของกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ ยังตอบคำถามในประเด็นการรัฐประหาร ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วย และไม่เอาระบอบประยุทธ์ แต่ท้ายที่สุดคนใต้กลับไม่เอา และสนับสนุนให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปร่วมรัฐบาลว่า ตนก็พยายามนำเสนอว่า ถ้าความเห็นต่างตรงนี้ ยังถูกมองเป็นแค่เรื่องว่า เราเป็นศัตรูกันเราอยู่คนละข้างกัน สุดท้ายการเมืองก็จะเป็นแพ้แค่เรื่องเอาชนะอีกฝ่าย โดยวิธีการอะไรก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นการใช้เงิน ใช้อำนาจรัฐ

'แองเจลิน่า โจลี' เยือนชาวเมือง Lviv ในยูเครน ด้านชาวเน็ตเสียงแตก ถกถาม "เธอสมควรไปหรือ?!"

รอยเตอร์รายงานว่า นักแสดงฮอลลีวูด แองเจลินา โจลี เยือนเมืองลวีฟทางตะวันตกยูเครนเมื่อวันเสาร์ โดยไปที่สถานีเพื่อพบปะผู้คนที่พลัดถิ่นจากสงครามกับรัสเซีย ก่อนออกเดินทางในภายหลังหลังจากเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังขึ้น

โจลี วัย 46 ปี เป็นทูตพิเศษของหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า มีผู้อพยพมากกว่า 12.7 ล้านคนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของประชากรก่อนสงครามในยูเครน

ในระหว่างการเยี่ยมชมสถานี โจลีได้พบกับอาสาสมัครที่ทำงานกับผู้พลัดถิ่น ซึ่งบอกกับเธอว่าจิตแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่แต่ละคนได้พูดคุยกับคนประมาณ 15 คนต่อวัน อาสาสมัครหลายคนในสถานีเป็นเด็กอายุตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี

“พวกเขาคงช็อค ... ฉันรู้ว่าการบาดเจ็บส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างไร ฉันรู้ว่ามีคนแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสำคัญมากเพียงใด เสียงของพวกเขามีความสำคัญเพียงใด ฉันรู้ว่าการรักษานั้นเป็นอย่างไรสำหรับพวกเขา” โจลี กล่าว

มีอยู่ช่วงหนึ่งระหว่างที่เธอไปที่สถานี เธอจั๊กจี้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในชุดแดง ซึ่งหัวเราะออกมาด้วยความยินดี เธอยังถ่ายรูปร่วมกับอาสาสมัครและเด็กบางคนอีกด้วย

ต่อมา ไซเรนโจมตีทางอากาศเริ่มส่งเสียง โจลีและผู้ช่วยของเธอเดินออกจากสถานีอย่างรวดเร็วและขึ้นรถที่รออยู่

เมื่อเดือนที่แล้ว ในบทบาทของเธอในฐานะทูตพิเศษ โจลีได้ไปเยือนเยเมน ซึ่งผู้คนนับล้านต้องพลัดถิ่นจากสงคราม

แม้ว่าโจลีจะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งแล้วในฐานะทูตพิเศษของหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แต่การเดินทางไปยูเครนของเธอทำให้เกิดประเด็นถกเถียงในวงกว้าง โดยเฉพาะในสื่อของโลกตะวันตก

เช่น BBC News ที่ไม่น่ามีดรามาก็มีดรามาเกิดขึ้นเพราะกรณีนี้ เช่น ท็อปเมนต์บอกกับ BBC News ว่า "แองเจลินา โจลีเริ่มการโปรโมทของเธออีกครั้ง" นั่น... ผมแก้ไขพาดหัวข่าวให้คุณแล้ว" แต่อีกท็อปเมนต์โต้ว่า "ขอบคุณ แองเจลินา โจลีสำหรับงานด้านมนุษยธรรมของคุณ พวกที่แสดงความเกลียดชังทุกคนในโพสต์นี้ทำอะไรเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อช่วยยูเครนกันล้างล่ะ?"

'สหรัฐฯ' วางแผนใช้วีซ่าดึงดูด 'หัวกะทิรัสเซีย' เชื่อ!! หากสำเร็จจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

เอเจนซีส์ - รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนที่จะใช้วีซ่าเข้าอเมริกาเพื่อดึงดูดบรรดานักวิทยาศาสตร์รัสเซียเชี่ยวชาญสาขาอวกาศและสาขาไอที คณิตศาสตร์ เซมิคอนดักเตอร์เข้ามาทำงานในสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามยูเครนที่เห็นคนรุ่นใหม่รัสเซียอพยพออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก

บลูมเบิร์ก สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ กำลังวางแผนต้องการได้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ อวกาศ และทางไอทีจากรัสเซียเข้ามาทำงานในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยทำให้ข้อกำหนดวีซ่าเข้าสหรัฐฯ สำหรับคนเหล่านี้ง่ายขึ้น

อ้างอิงบลูมเบิร์กที่ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ โจ ไบเดน เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนต้องการปล้นมันสมองของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในสาขาวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ทั้งอวกาศ เซมิคอนดักเตอร์ คณิตศาสตร์ และไอที โดยต้องการได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการไหลออกของพลเมืองรัสเซียที่มีการศึกษาท่ามกลางเศรษฐกิจรัสเซียเกิดปัญหาจากการถูกโลกตะวันตก รวมสหรัฐฯ คว่ำบาตรเนื่องมาจากสงครามยูเครน

ไบเดนต้องการใช้วีซ่าสหรัฐฯ เป็นตัวดึงดูดความสนใจคนเหล่านี้ด้วยการกำหนดให้เงื่อนไขการออกวีซ่าเข้าประเทศของคนกลุ่มนี้มีความยากลำบากลดลง สำหรับพลเมืองรัสเซียที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อวกาศความมั่นคงทางไซเบอร์ คณิตศาสตร์ เซมิคอนดักเตอร์ และปัญญาประดิษฐ หรือ AI

แผนการให้วีซ่าแก่กลุ่มสมองไหลรัสเซียจะมีระยะเวลา 4 ปี โดยทีมยุทธศาสตร์ไบเดนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับอานิสงส์จากแผนนี้ในระยะยาว

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย นิโคไล รุสซานอฟ (Nikolai Roussanov) แสดงความเห็นว่า “ในระยะยาวแล้วภาวะสมองไหลอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับรัสเซียเมื่อพิจารณาจากทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต”

เกษตรฯ ทำไวทำจริง ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว 2,600 องค์กร ใน 50 จังหวัด

เกษตรฯ ทำไวทำจริง ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว 2,600 องค์กร ใน 50 จังหวัด พร้อมพัฒนาหมู่บ้านประมงท่องเที่ยวฟิชเชอร์แมนวิลเลจ รีสอร์ต 53 โครงการ ตั้งเป้าอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย เปิดเผยวันนี้ (1 พ.ค) ภายหลังการประชุม

คณะกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2565ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนประมงให้เกิดการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืนและเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมประมงจึงได้ดำเนินการโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมงระหว่างปี 2563-2565 โดยจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว จำนวน 2,600 องค์กร มีการบริหารจัดการร่วมกัน ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู การบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม เพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับชุมชน การส่งเสริมการแปรรูปสัตว์น้ำ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สินค้าประมงและส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้า รวมถึงพัฒนาต่อยอดกิจกรรมจากอาชีพการประมงทำให้เกิดมั่นคงในการประกอบอาชีพประมง ชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้  

โดยในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้อนุมัติโครงการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนประมง ปีงบ 2565 (องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น) เพื่อสร้างรายได้ความมั่นคงในการประกอบอาชีพการทำประมง ให้กับองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในพื้นที่ 50 จังหวัด (พื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล และในพื้นที่ 28 จังหวัดแหล่งน้ำจืด) รวม 200 ชุมชน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมงตามเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรครบเรียบร้อยแล้ว เป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ด้านชายฝั่ง 81 องค์กร ด้านประมงน้ำจืด 83 องค์กรและด้านแปรรูป 36 องค์กรๆ ละ 100,000 บาท เพื่อให้ชุมชนนำไปดำเนินการพัฒนาอาชีพด้านประมงตามความต้องการและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชน กิจกรรมประกอบด้วย 

1.) กิจกรรมพัฒนาอาชีพประมง อาทิ การปรับเปลี่ยนเครื่องมือที่เหมาะสมและถูกกฎหมาย การสนับสนุนอุปกรณ์ซ่อมแซมเครื่องมือทำการประมงและเรือประมง การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การผลิตอาหารสัตว์น้ำเพื่อจำหน่าย การเลี้ยงปลาในกระชังเพื่อจำหน่ายและแปรรูป 

2.) กิจกรรมเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ อาทิ การพัฒนาแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ การสร้างแปลงอาคารสัตว์น้ำธรรมชาติ การจัดตั้งและพัฒนาธนาคารสัตว์น้ำ (ธนาคารปูม้า) การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ การจัดตั้งโรงเพาะฟักพันธุ์สัตว์น้ำเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) จัดสร้างกระชังอนุบาลสัตว์น้ำก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 

3.) เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ อาทิ การพัฒนารูปแบบการแปรรูปสัตว์น้ำตามมาตรฐานและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค การส่งเสริมการตลาดเพื่อจัดจำหน่ายสินค้า 

4.) การถ่ายทอดเทคโนโลยีและเพิ่มทักษะการทำการประมง อาทิ การอบรมให้ความรู้การทำการประมงถูกกฎหมายและศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากพื้นที่ต้นแบบ 

และ 5.) กิจกรรมอื่นๆ เช่น ซ่อมแซมอาคารที่ทำการประมง ปรับปรุงแพชุมชน เป็นต้น ซึ่งเมื่อนับรวมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2563 - ปี 2565 ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านประมงให้กับชุมชนประมงท้องถิ่น รวม 594 ชุมชน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 22 จากองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นทั้งหมด เป็นเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 59,400,000 บาท 

ซึ่งผลจากการดำเนินงานพัฒนาอาชีพด้านประมงและส่งเสริมด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยการบริหารจัดการร่วมกันของชุมชน เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังดำเนินการ พบว่า ชาวประมงมีความพึงพอใจกับทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยในปี 2563 ชาวประมงท้องถิ่นสามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 และปี 2564 สามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.13 และจากการสนับสนุนการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทำให้ต้นทุนในการประกอบอาชีพลดลง ศักยภาพในการทำประมงเพิ่มขึ้น และสามารถต่อยอดกิจกรรมในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพประมงได้ ส่งผลให้องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เกิดความเข้มแข็ง และมีรายได้จากการประกอบอาชีพการทำประมงได้มั่นคงยิ่งขึ้น 

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม คณะกรรมการฯ ยังได้รับทราบรายงานอื่นๆ ดังนี้ 

1.) ความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน6คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพัฒนาประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ประมงนอกน่านน้ำ และประมงเพาะเลี้ยงเช่น แนวทางช่วยเหลือโดยการอุดหนุนน้ำมันให้กับประมง, แนวทางการจัดสรรวันทำการประมง, การเตรียมความพร้อมระบบการขนส่งทางรถไฟของสินค้าสัตว์น้ำ เป็นต้น 

2.) การฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้ได้ผลผลิต 4 แสนตัน ภายในปี 2566 การรับรองการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตเพื่อส่งออก 

โดยประธานการประชุมฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคมผู้เพาะเลี้ยง อุตสาหกรรมประมง และหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประชุมหารือในแนวทางการจัดระบบสินเชื่อและแหล่งทุน เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้ได้ผลผลิต 4 แสนตัน ภายในปี 2566 

3.) ความก้าวหน้าโครงการฟิชเชอร์แมนวิลเลจรีสอร์ต (Fisherman’s Village Resort) มีการส่งเสริมชุมชนประมงชายฝั่งที่มีศักยภาพ 22 จังหวัด สามารถสร้างแหล่งท่องเที่ยวได้ 53 แห่ง เป็นการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งชุมชนประมงด้วย โดยให้นำแนวทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) มาประยุกต์ใช้ และให้ส่งเสริมการตลาดแบบออนไลน์ (Online Market) เพื่อช่วยสนับสนุนการขายและการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านประมงมากขึ้น 

4.) ความก้าวหน้าของคณะทำงานส่งเสริมและพัฒนาการกระจายสินค้าประมงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ในการขยายช่องทางการกระจายสินค้าประมงผ่านศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ และการเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ 

5.) ความก้าวหน้าโครงการนำเรือออกนอกระบบ 

6.) การสาธิตเรือฝึกปลาลัง ณ ท่าเทียบเรือศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Fisheries Development Center : SEAFDEC) 

7.) ความก้าวหน้าการดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

‘พิธา’ นำทีม ‘แรงงานก้าวไกล’ ร่วมขบวนหน้าทำเนียบ ชี้!! 136 ปีมีเเต่ความล้าหลัง คุณภาพชีวิตเเรงงานไม่คืบ

‘พิธา’ นำทีม ส.ส.สัดส่วนแรงงาน พรรคก้าวไกล ร่วมเดินขบวนหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องสิทธิ ‘วันเเรงงานสากล’ ประกาศ ‘ก้าวไกล’ พร้อมต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงานและผลักดันรัฐสวัสดิการ พร้อมเชิญชวนร่วมแสดงความเห็นร่างกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ฉบับก้าวไกล เพื่อสนับสนุนสิทธิการรวมตัว ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้เเรงงานทุกระบบ  

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย สุเทพ อู่อ้น, ทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ จรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี เขต 6 ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส.ที่ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิเเรงงาน พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินขบวนไปพร้อมกับกลุ่มสหภาพแรงงานที่มารวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องสิทธิ เนื่องในวันเเรงงานแห่งชาติ และวันเเรงงานสากล 1 พฤษภาคม 2565 

พิธา กล่าวว่า ถึงเวลาที่พวกเราต้องสู้ในเรื่องรัฐสวัสดิการ ซึ่งจะไปสู่จุดนั้นได้ต้องเริ่มจากการลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลง ไม่ว่างบประมาณด้านความมั่นคง หรืองบที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ตรวจสอบไม่ได้ เพื่อนำมาสร้างรัฐสวัสดิการให้กับประเทศไทย พรรคก้าวไกล เสนอให้มีเบี้ยบำนาญเพื่อคนหลังวัยเกษียณถ้วนหน้า 3,000 บาท เสนอให้มีการจ้างงานและระบบพัฒนาคนทำงานเพื่อไปดูเเลผู้สูงอายุ เพราะด้วยงบประมาณก้อนนี้ ทำให้คนอีกจำนวนมากที่ต้องยอมออกจากงานไปดูแลพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่บ้านได้รับศักยภาพของเขากลับคืนมาแล้วออกไปทำงานได้อีกครั้ง 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top