Thursday, 2 May 2024
Hard News Team

มองมุมไหนก็งดงาม!! ‘ภูเขาทอง’ ตระหง่านล้ำเหนือกาลเวลา เสริมความงามผ่านฉากหลัง ‘ปักษาวายุภักษ์’

ภูเขาทอง กับฉากหลัง ปักษาวายุภักษ์บนตึกกระทรวงการคลัง ที่อารีย์

เสริมความงดงาม เด่นตระหง่านท่ามกลางป่าคอนกรีต


ที่มา : https://web.facebook.com/photo/?fbid=497382721745391&set=a.242244413925891


👍มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

'พาณิชย์' ชงแก้อาหารสัตว์แพง เว้นมาตรการ 3 ต่อ 1 เปิดนำเข้าข้าวโพด 6 แสนตัน

'จุรินทร์' เป็นประธานการประชุม นบขพ. และคณะกรรมการนโยบายอาหาร มีมติผ่อนปรนมาตรการ 3 ต่อ 1 เพิ่มโควตานำเข้าข้าวโพดเป็น 6 แสนตัน ลดภาษีเหลือ 0% ชั่วคราว 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ พร้อมทำเรื่องเสนอ ครม. อนุมัติทันที 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) และคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้มีมติในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยยกเว้นเงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิม ในการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน (มาตรการ 3 ต่อ 1) เป็นการชั่วคราวก่อน คือ ระหว่างเดือนพ.ค.-31 ก.ค.2565 ซึ่งเป็นการผ่อนปรนมาตรการที่กำหนดไว้เดิมในการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดในประเทศ 

ทั้งนี้ ยังได้อนุมัติเพิ่มโควตานำเข้าข้าวโพดภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จากเดิมให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าไม่เกิน 54,700 ตัน เป็นให้ อคส. และผู้นำเข้าทั่วไปนำเข้าได้ ปริมาณ 600,000 ตัน ภายในเดือนพ.ค.-31 ก.ค.2565 โดยลดภาษีนำเข้าข้าวโพดจากอัตรา 20% เป็น 0% เป็นการชั่วคราว ในช่วง 3 เดือนนี้ และกระทรวงพาณิชย์จะช่วยจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ให้เพียงพอในประเทศในช่วง 3 เดือนนี้ด้วย

สำหรับการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้ง 3 ช่องทาง ทั้งจากการผ่อนปรนมาตรการ 3 ต่อ 1 การนำเข้าภายใต้ WTO และการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน กำหนดปริมาณไว้รวมกันจะต้องไม่เกิน 1,200,000 ตัน ซึ่งรวมข้าวบาร์เลย์ด้วย และให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย เพื่อติดตามประเมินการผลดำเนินการทั้งหมด โดยสามารถเสนอให้ทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการต่อไปได้เพื่อความเหมาะสม

นายจุรินทร์กล่าวว่า มติแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าว จะดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป คาดว่า เร็วสุดน่าจะเป็นวันที่ 3 พ.ค.2565 เพราะต้องเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลน เพื่อให้มีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิตอาหารสัตว์ป้อนให้กับผู้เลี้ยงสุกร ไก่ ไข่ไก่ และไม่ให้กระทบต่อราคาเนื้อสัตว์ปลายทางถึงผู้บริโภค

'ชวน' ขอบคุณ 'สุเทพ' ยันไม่คิดหวนเป็นหัวหน้าพรรคอีก ยัน!! ยังช่วยพรรคเต็มที่ พร้อมหนุน 'จุรินทร์' กอบกู้ ปชป.

(2 พ.ค.65) ที่รัฐสภา คุณชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. เสนอให้นายชวน กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ตนไม่มีความคิดที่จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค เพียงแต่พยายามที่จะช่วย โดยส่วนตัวตนเป็นหนี้บุญคุณพรรค เพราะในฐานะเป็นนักการเมืองมาจากพื้นฐานชาวบ้านคนหนึ่ง 

"เราไม่มีพื้นฐานความมั่งมี ร่ำรวย ครอบครัวใหญ่โต แต่เรามีโอกาสได้เพราะพรรคปชป. ไม่ว่าสถานการณ์ของพรรคจะขึ้นหรือลงก็ตามไม่มีความทิ้งพรรค มีแต่จะคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะช่วยกันภายใต้การดูแลของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. ต้องยอมรับว่าตอนเลือกหัวหน้าพรรค ตนและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยทำให้นายจุรินทร์ชนะและสามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้

"เมื่อเลือกเข้ามาแล้ว ก็พยายามช่วยประคับประคองให้เขาทำงานได้ ซึ่งเข้าใจดีว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีความคิดที่แตกต่างและมีการแข่งขันสูงในตอนเลือกหัวหน้าพรรค จึงทำให้ผู้ร่วมแข่งขันลาออกไปหลายท่าน ซึ่งทรัพยากรคนเหล่านั้นน่าเสียดาย แต่พรรคต้องอยู่ และประสบการณ์นี้เราก็เคยผ่านมาแล้วที่มีคนตั้งพรรคใหม่บ้างมากมาย แต่เชื่อว่าความดีงามของพรรค ความยั่งยืนยาวนาน และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและในระบบรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตเรื่องกฎหมายความยุติธรรม กฎหมายที่เข้มงวด กวดขัน ตรงไปตรงมา"

คุณชวน เผยอีกว่า "ทั้งหมด คือ สิ่งที่ทำให้พรรคอยู่รอดมาได้อย่างยาวนาน 70 กว่าปี ซึ่งไม่ง่ายนักที่พรรคการเมืองเจริญได้ยาวอย่างนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องช่วยกันประคับประคองต่อไปเพราะเข้าใจดีว่าสมัยนี้หลายท่านก็มีความรู้สึกที่ไม่พอใจหัวหน้าบ้าง หรือมีความรู้สึกเป็นห่วง วิตกกังวลในการเลือกต้งครั้งต่อไปบ้าง ก็เข้าใจดีแต่พยายามให้กำลังใจทุกคนว่าเมื่อมีปัญหาต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ อย่าซ้ำเติมให้พรรคยิ่งลำบากขึ้น ดีที่ว่าบรรดาเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เข้าใจและมาหารือกัน

"หลายคนมาหารือว่าตนพอจะไหวไหม หากให้มารักษาการสักพักหนึ่ง ตนตอบว่า ไม่มีความคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ แต่จะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาที่เรามี โดยทั่วไปนายจุรินทร์ก็ไม่ธรรมดา เป็นคนเก่งคนหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดถึงแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกันบ้างก็ตาม แต่ความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งเป็นหัวใจของพรรคปชป. ก็ยังคงยึดมั่นอยู่ แต่การทำงานอาจถูกใจบ้างหรือไม่ถูกใจบ้าง ก็พยายามให้กำลังใจแต่ก็ต้องยอมรับว่า หากมีอะไรที่สมาชิกไม่พอใจต้องพยายามทำความเข้าใจ อย่าเฉย นี่คือสิ่งที่ตนพยายามเตือน"

'วัชระ' ชี้!! 'สมคิด' เหมาะสม แคนดิเดต 'นายกฯ' ยกระดับมหาเทพศก. สร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศไทย

"วัชระ" โพสต์เปิดใจ ตั้งแต่ชู "สมคิด" แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย ดีลอะไหล่การเมืองง่าย ชี้สเปค "สมคิด" ระดับมหาเทพศก. ฟันธง คือตัวเลือกที่ใช่ที่สุด ในหมู่ทุกพรรคการเมือง ชี้มีคอนเนคชันระดับโลก รู้ลึกรู้จริงภาคธุรกิจ และรู้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าหลังจากการประชุมใหญ่ของพรรค "สร้างอนาคตไทย" เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีไฮไลท์ที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1.การเปิดตัวกรรมการบริหารชุดใหญ่และคณะกรรมการสำคัญอีกหลายชุด และ 2.การพูดถึงเป้าหมายของพรรคที่จะเชิญท่านอาจารย์ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ1 ของพรรคสร้างอนาคตไทย ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า นั้น ผลตอบรับออกมาดีมากๆ

ตนในฐานะที่เป็น "ด่านหน้า" ทำหน้าที่พบปะผู้คนทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา ตนเห็นความเปลี่ยนแปลง และปฏิกิริยาทางการเมือง ที่พูดได้ว่าเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองขนาดมหึมา (ของจริง) ได้อย่างชัดเจน ดังนี้...

1.ในส่วนของส.ส.ที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ และดาวฤกษ์ทางการเมือง ที่เป็นน้ำดีและมีผลงานที่ประชาชนในพื้นที่ยอมรับ ก่อนหน้านี้คุยยากแถมโทรศัพท์ "สายหลุด" เป็นประจำ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คุยง่ายสบายใจ แถมชวนตนกินกาแฟวันหนึ่งไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้ว

2.ในส่วนของผู้คนที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นประเภทบุคคล 'ดี-เด่น-ดัง' ที่เราหวังจะดึงมาร่วมงานทางการเมือง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เช่นเดียวกัน

นายวัชระ ย้ำว่า นี่คือสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนมากว่า บรรดานักการเมือง และส.ส.ทั่วประเทศต่างรู้ดีว่าประชาชนคนไทย ทั้งประเทศหมดหวังและกลัวเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องปากท้องของตนเองในปัจจุบัน และอนาคตมากที่สุด

"นักการเมืองเป็นพวกนกรู้ครับ ดังนั้นการที่พวกเขาจะเลือกอยู่พรรคใดนั้น? พวกเขาจะต้องเลือกพรรคที่เขามั่นใจว่าประชาชนไม่ต่อต้านและเชื่อมั่นในฝีมือมากที่สุด ซึ่งก็คือพรรค 'สร้างอนาคตไทย' ครับ" นายวัรชะกล่าว

และสิ่งนี้เป็นตัวตอกย้ำมากที่สุดว่า ท่าน "อาจารย์สมคิด" คือตัวเลือกที่ "ใช่ที่สุด" และ "โดนใจ" ประชาชนมากที่สุด ในหมู่ตัวเลือกของทุกพรรคการเมืองในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (ฟันธง) พร้อมย้ำว่า สเปคท่าน "อาจารย์สมคิด" คือ สเปคระดับ "มหาเทพ" ทางเศรษฐกิจ

1.บุคลิกและคอนเน็คชั่นระดับโลกเพียบ...ค้าขายกับนานาชาติสบายใจหายห่วงไม่อายใคร

2.กับภาคเอกชนและภาคธุรกิจในประเทศก็ "รู้ลึกรู้จริง" ไม่ต้องไปแนะนำตัวกันใหม่ให้เสียเวลา ทำงานร่วมกันได้เลย

3.อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้เลย ก็คือท่าน "อาจารย์สมคิด" เป็นคนที่รู้จักระบบระเบียบบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างดีมาก

เพราะฉะนั้นจะสามารถผสมผสานการทำงาน ระหว่างภาคเอกชนและรัฐได้เป็นอย่างดี เรื่องแบบนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้เรื่องรู้ราวในระบบราชการมาบริหารก็ติดขัดไปหมด ไอ้ครั้นจะรอให้แก้กฎหมายต่างๆอย่างที่หลายคนพูด ก็หมดเวลาแก้ไม่ทันการแล้วครับ

‘เพื่อไทย’ โว!! ‘ท่อส่งน้ำอีอีซี’ หมัดน็อกรบ. จุดแตกหัก!! ‘กลุ่ม 16’ ไม่ยกมือให้ 'บิ๊กตู่'

(2 ..65) พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส..มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151ว่า...

พรรคเพื่อไทยได้นัดหารือกับ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส..บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 เมื่อวันที่ 28 เม..65 โดยมีนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่, นายดล เหตะกูล รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาร่วมด้วย โดยพรรคเล็กได้สอบถามความพร้อมของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งได้บอกไปว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมมาก

มีเรื่องใหญ่หลายเรื่อง เช่น การจัดซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์, เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว, เรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี โดยหัวหน้ากลุ่ม 16 เป็นบอร์ดการประปา เป็นหน่วยงานที่ถือหุ้นบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกมาก่อน แบบนี้เป็นการปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ถ้าพรรคเพื่อไทยมีข้อมูล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นจุดแตกหักของรัฐบาล ยกมือให้ไม่ได้ หากในสัปดาห์นี้ ถ้าบริษัท วงศ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด เซ็นสัญญากับกรมธนารักษ์ วันที่ 3 .. จากนั้นวันที่ 4 .. ผมและกลุ่ม 16 นัดทานข้าวเย็น ขณะนี้นายพิเชษฐ และนายมนูญ ยืนยันนัดหมายมาแล้ว ยืนยันว่า มีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สามารถน็อกรัฐบาลพล..ประยุทธ์ได้แน่ อย่าชิงยุบสภาไปก่อน” นายยุทธพงศ์ ระบุ

เมื่อถามว่า ถ้าไม่ใช่ พล..ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะเป็นพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน คือการล้มรัฐบาล เมื่อ พล..ประยุทธ์ไป จะมีช่องทางตามกฎหมาย ต้องนำรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ มาดูก่อน พรรคเพื่อไทยยังเหลือชื่อแคนดิเดตนายกฯ อยู่ ต้องมาในระบบกติกาก่อน แต่ถ้ายังเลือกนายกฯ ในกติกาไม่ได้ ต้องใช้ข้อยกเว้นพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ก็ว่ากันไป งานนี้ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว จะยุบสภาไม่ได้ มั่นใจว่าถ้า พล..ประยุทธ์ไม่รีบยุบสภาหนีไปก่อน อาจจะตายกลางสภาได้

'ทิดกาโตะ' รับแล้ว!! มีความสัมพันธ์กับตองจริง เผย!! 'ถูกยั่วยวน - ฝ่ายหญิงบังคับขู่เอาเงิน'

(2 พ.ค.65) พงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตหลวงพี่กาโตะ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ภายในรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยยอมรับว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาวที่ชื่อตองจริง เนื่องจากถูกยั่วยวน รวมทั้งระบุด้วยว่าถูกฝ่ายหญิงแบล็คเมล์พยายามขอเงินตลอด

"ยอมรับว่าพาไปเขื่อน (มีสัมพันธ์บนรถ) ผู้หญิงมันยั่ว มันเย้า มันยวนเรา ตั้งแต่รอบแรกก็โดนบังคับในการขู่เอาเงินตลอด เพื่อที่จะไปในรอบต่อไป บอกว่าฉันมีหนี้ ถูกแบล็คเมล์ ตั้งใจว่าจะสึกไว้นานแล้ว"

"เรารู้ว่าเราพลาด เราเผลอใจไป แต่สังคมหลายคนก็เข้าใจ ผู้หญิงเดี่ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย พอโอนปั๊บ นึกว่าจบ ไม่จบ อยากบอกสังคมนะว่าอันนี้เป็นเงินส่วนตัวของพระกาโตะ และสึกมามีเงินติดตัวเพียง 4,000 บาทเท่านั้น ไม่ร้องครับแต่แค้น"

"ผมยอมรับพลาดจริงๆ ผมเป็นวัยรุ่น และเริ่มรู้สึกว่าโดนแบล็คเมล์เพราะเขาพยายามมาหาตลอด ผมไม่ได้หลงรัก แต่คึกคะนอง โอนไปแสนนึงนึกว่าจบ แต่ไม่จบ แล้วเขาก็บอกว่าจะไปทำงานกทม. ขอเงินซื้อโน๊ตบุ๊ก (ใบตองยอมรับว่าจริง) แล้วหลังจากนั้นก็ขอของกำนัล ขอทอง ขอแหวน ผมก็ไม่ให้เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่"

อดีตหลวงพี่กาโตะยืนยันว่า เงินที่โอนให้ฝ่ายหญิง ไม่ได้เป็นเงินของวัด แต่เป็นเงินที่ได้จากการเทศน์ของตนเอง

‘เพื่อไทย’ ท้านายกฯ แจง5นโยบายที่อ้างทำแล้ว แต่ปชช.ไม่รู้สึกถึงการพัฒนา หวังรอแค่เลือกตั้งใหม่

(2 ..65) นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ปราศรัยถึงแนวทาง 5 ข้อในการพัฒนาประเทศซึ่งได้รับความสนใจและได้รับความชื่นชมอย่างมาก ซึ่งได้แก่เรื่อง การกระจายอำนาจ / ดึงศักยภาพคนไทยด้วย Soft Power / การใช้ Ai เพื่อการเกษตร / การปรับภาครัฐและภาคเอกชนเข้าสู่ Digital Transformation และ การเตรียมคนไทยเข้าสู่ Metaverse

แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกมาชี้แจงว่า ทั้ง 5 เรื่องนี้พลเอกประยุทธ์ได้ดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ออกมาชี้แจงว่า ได้เข้าใจทั้ง 5 นโยบายนี้ดีพอ และได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และทำไปถึงไหนและมีผลการดำเนินการอย่างไร เหตุใดประชาชนถึงไม่รู้สึกถึงการพัฒนาเลย

ทั้งนี้ ถ้ามั่นใจว่าได้ทำจริง ตนอยากขอให้ออกรายการทีวีแล้วขอให้ตนได้ซักถามอย่างสุภาพเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่อยากให้พลเอกประยุทธ์เข้าใจไปเองว่าได้ทำแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ทำและอาจจะยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากทำแล้วจริง ประเทศไทยน่าจะต้องพัฒนาไปกว่านี้มาก ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่แบบนี้มา 8 ปีตั้งแต่มีการปฏิวัติแล้ว แถมล่าสุดพลเอกประยุทธ์ยังจะกล้าขายฝันประกาศว่าจะพลิกโฉมประเทศไทยอย่างก้าวกระโดดไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ทำให้ยิ่งดูกลายเป็นเหมือนตัวตลกในสายตาของประชาชน จากผลงานบริหารเศรษฐกิจที่ยิ่งกว่าล้มเหลวสวนทางย้อนแย้งกับที่ขายฝันไว้มาตลอด

นอกจากนี้ รมว. ดีอีเอสยังได้โจมตีความนิยมของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน โดยเรียกร้องประชาชนชาวอีสานอย่าได้ยึดติดนโยบายพรรคเพื่อไทยในอดีต ซึ่งเป็นเรื่องน่าขบขันอย่างมาก ทั้งนี้เพราะนโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย สืบทอดมาถึง พรรคเพื่อไทย เป็นที่นิยมของคนอีสานและคนทั้งประเทศอย่างมากเพราะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่หาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้งยังไม่ได้ทำเลยสักนโยบายเดียว เช่น ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท ข้าวเจ้าตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐ ฯลฯ แต่กลับไม่มีความละอายใจเลย แถมยังโฆษณาว่าจะออกนโยบายใหม่ซึ่งประชาชนคงไม่โง่ และน่าจะไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้วเพราะขนาดนโยบายเก่าที่เคยหาเสียงไว้ยังไม่ได้ทำเลย

นายพชร กล่าวว่า ในทางตรงกันข้าม ความเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยด้านการบริหารเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี พัฒนาเศรษฐกิจปากท้องเป็นที่ยอมรับกันอย่างมากตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และต้องขอขอบคุณ พรรคก้าวไกล ที่ช่วยยืนยันเรื่องนี้ โดยการนำภาพอดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร ขึ้นในเวทีประชุมใหญ่ของพรรค อีกทั้งยังมีภาพคนเสื้อแดงที่เป็นสัญลักษณ์และฐานเสียงสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ยิ่งเป็นการยืนยันประวัติศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศจะเห็นด้วยและช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายในการเลือกตั้งคราวหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้

‘โอ๊ค’ โต้ ‘มาร์ค’ อยาก PR ตัวเองเพื่อกอบกู้พรรคก็ทำไป แต่อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์ “Oak Panthongtae @oak_ptt” กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยก้าวไม่พ้นจากครอบครัวชินวัตร ว่า...

อยากจะ PR ตัวเอง เพื่อกลับมากอบกู้พรรคจากเรื่องหื่นเรื่องฉาวของรองหัวหน้าฯ ก็ทำไป อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เลยครับ

ส.ส.สหรัฐฯ เสนอให้อำนาจเด็ดขาด 'ไบเดน' ส่งทหารมะกันร่วมรบ ไม่ต้องสนนานาชาติ

อดัม คินซินเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (1 ..) ว่า จะหาทางยื่นญัตติเรื่องการให้อำนาจการตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวแก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการอนุมัติใช้กำลังทหารหากรัสเซียใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการสืบสวนใดๆ จากนานาชาติ

คินซินเกอร์ พยายามมาตลอดสำหรับผลักดันให้สหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น และก่อนหน้านี้เขาสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่ามันอาจนำมาซึ่ง "สงครามโลกครั้งที่ 3"

ข้อเสนอของ คินซินเกอร์ จะให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับใช้กองทัพอเมริกาเข้าช่วยเหลือปกป้องและกอบกู้บูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ตอบโต้กรณีที่รัสเซียใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ บนแผ่นดินของยูเครน

ญัตตินี้จะให้อำนาจเด็ดขาดกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการลงความเห็นว่าการรุกรานลักษณะดังกล่าวของรัสเซียเกิดขึ้นจริงแล้วหรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องมีการสืบสวนใดๆ จากนานาชาติ แต่สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ของรัสเซีย ระบุว่ามันอาจก่อแรงจูงใจให้กองกำลังยูเครนจัดฉากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ ในความหวังว่าจะลากสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้ง

รายงานข่าวระบุว่า ญัตตินี้จะทำงานเหมือนกับกฎหมาย "การอนุญาตให้ใช้กำลังทหาร หรือ AUMF" ยุคหลังเหตุการณ์ 9/11 ที่ต่ออายุการใช้ทุกปีมาตั้งแต่ปี 2001 โดยการอนุญาตนี้เคยมอบไฟเขียวทางกฎหมายให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อนุมัติโจมตีมาแล้วหลายสิบประเทศ โดยไม่ต้องประกาศสงครามอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ในนั้นรวมถึงอัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรีย โซมาเลีย และเยเมน

"อย่างที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ เคยพูดว่า ปูตินต้องหยุด" ถ้อยแถลงจากสำนักงานของคินซินเกอร์ระบุ "ดังนั้น ผู้บัญชาการโดยตำแหน่งของกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของโลกควรมีอำนาจและหนทางที่จะดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นตามนั้น"

คินซินเกอร์ สมาชิกรีพับลิกันที่มีความเห็นสอดคล้องกับเดโมแครตในประเด็นต่างๆ เกือบทั้งหมด เคยเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้สหรัฐฯ เข้าร่วมกับความขัดแย้งนี้ โดยไม่กี่วันหลังจากกองกำลังรัสเซียบุกเข้าไปในยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เขาเรียกร้องให้นาโต้บังคับใช้เขตห้ามบินเหนือประเทศแห่งนี้ ความเคลื่อนไหวที่จะเห็นพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ทำหน้าที่สอยเครื่องบินรบรัสเซียและโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย

แม้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องบังคับใช้เขตห้ามบินเช่นกัน แต่ทาง ไบเดน ปฏิเสธ โดยบอกว่ามันจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 กับรัสเซีย นอกจากนี้ คินซินเกอร์ ยังกดดันรัฐบาลไบเดน ให้เป็นผู้ส่งมอบเครื่องบินรบที่บริจาคโดยโปแลนด์แก่ยูเครน ซึ่งทางรัฐบาลก็ปฏิเสธเช่นกัน โดยอ้างถึงความเสี่ยงเผชิญหน้ากับรัสเซีย

'พรรคกล้า' ตั้ง 'ดร.บลู' นั่ง ปธ.กก.อำนวยการพื้นที่และสมาชิก นำทัพตัวแทนในทุกภูมิภาค ใกล้ชิดทุกพื้นที่ต่อเนื่อง

คงต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ 'พรรคกล้า' เริ่มก่อตั้งมา 2 ปี ที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนพรรคให้เข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยผู้ที่ขับเคลื่อนพรรคกล้าให้เข้าถึงประชาชนในหลากพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ 'ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี' หรือ 'ดร.บลู' เหรัญญิกและผู้อำนวยการพรรคกล้า เป็นผู้นำทัพ

"2 ปีมานี้ เราไม่เคยหยุดเดินลงไปพบปะพ่อแม่พี่น้องประชาชน รับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยตั้งศูนย์พักคอย ศูนย์กล้าดูแล ลงแจกหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ แจกข้าวและเปิดครัวในโครงการกล้าเติมอิ่ม

"นำทีมไปบริจาคโลหิตในภาวะเลือดขาดแคลนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งในโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น กล้าอาสา, กล้าปลดหนี้, กล้าดูแล เป็นต้น"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top