Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

'ไอลอว์' ยอมรับ 'บุ้ง-ตะวัน' อดอาหารในคุกหลายครั้งแล้ว ความพยายามไม่เป็นผล จนไม่รู้จะเคลื่อนไหวยังไงต่อ

(22 ก.พ. 67) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และสมาชิกโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

เรื่องบุ้ง ทะลุวัง อดอาหาร มาเกือบสามสัปดาห์แล้ว เรื่องตะวัน และแฟรงค์ ที่ก็เพิ่งเข้าโรงพยาบาลกันไป

ไม่ได้ลืมพวกเขานะครับ ก็คิดอยู่นะ ว่าจะทำอะไรได้บ้าง พอจะตั้งต้นค้นคว้า และเขียนบทความเรื่องต่าง ๆ ก็พบว่า เขียนไปหมดแล้ว เพราะการอดอาหารเกิดขึ้นหลายรอบ ก็เขียนไว้หลายเรื่องแล้ว ก็ตันเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ

การจะต่อสู้เรียกร้องจนพวกเขาได้เห็นสิ่งที่กำลังเรียกร้อง ภายในช่วงเวลาอดอาหารนี้ ยังไม่เห็นช่องทางเลย ตอนที่เรียกร้องกันเมื่อปีที่แล้วก็พยายามแล้ว แต่มันไม่ได้เกิดขึ้น

‘กฤษฎา-รมช.คลัง’ คิกออฟ ‘โครงการ บสย. Business School’ ดึง ‘บสย.- ธปท.’ ให้ความรู้นักศึกษาเพื่อก้าวสู่ SMEs รุ่นใหม่

ไม่นานมานี้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง สนับสนุนให้หน่วยงานจากภาคการเงิน ภาคการศึกษา และภาคการพัฒนาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะทางการเงินให้กับประชาชนถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลังที่สำคัญด้านการสร้างโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ล่าสุด ตนพร้อมด้วยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จัด ‘โครงการ บสย. Business School’ โดยเริ่ม Kick Off โครงการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว บสย. และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้ในหลักสูตรทางด้านการเงิน เพื่อเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวไปสู่การตั้งธุรกิจ และผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ให้กับนักศึกษา โดยเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้พื้นฐานทางด้านการเงิน สำหรับนำไปใช้กับครอบครัว และนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจได้ต่อไปในอนาคต 

โซเชียลแชร์!! คนโพสต์ขายยาเสพติดโจ๋งครึ่ม ไม่กลัวไม่ว่า แถมการันตีส่งถึงมือลูกค้าให้ด้วย

(22 ก.พ. 67) รายงานแจ้งว่าเพจเฟซบุ๊ก ‘ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์’ ได้โพสต์ภาพเฟซบุ๊กของชายรายหนึ่งโพสต์ขายยาเสพติดแบบไม่เกรงกลัวใคร แถวยังบอกอีกว่าถึงมือลูกค้าแน่นอน 

โดยข้อความระบุว่า "เล่นแบบนี้เลยเหรอครับ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย"

ขณะที่ข้อความภาพจากเฟซบุ๊กของชายรายดังกล่าวระบุว่า "หวัดดีวัยรุ่นเพชรบูรณ์ ใครสนใจตัวเล็ก-ตัวใหญ่ ในพื้นที่นัดรับได้ที่อำเภอเมือง งานชนงาน ของถึงมือแน่นอน กำลังแพ็คจัดส่งให้คืนนี้นะครับลูกค้าทุกคน #เสรี ไม่เกิน 5 เม็ด #ของแทร่" 

ทั้งนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ เริ่มอยู่ยากขึ้นทุกวัน, เพชรบูรณ์ของแทร่แน่นอน, อนาคตลูกหลาน, บ้านเมืองมันเกิดอะไรขึ้นกฎหมายมันอ่อนมากเสรีทุกอย่าง เป็นต้น 

‘ตะวัน’ ถูกหามส่ง ‘รพ.ธรรมศาสตร์’ หลังประท้วงอดอาหารเข้าวันที่ 9

(22 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan ของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 116 จากการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ เปิดเผยว่า ขณะกำลังรอเข้าเยี่ยม เพื่อนได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าได้มีการส่งตัวตะวันไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แล้ว ขอให้ตะวันปลอดภัย หายใจเข้าไว้

ล่าสุด ตะวัน ได้ส่งตัวถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘ดร.เอ้’ แนะ 3 แนวทางแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ใน กทม. ชี้!! หากปล่อยไว้นาน กระทบสุขภาพ เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด

(22 ก.พ. 67) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นพิษในพื้นที่ กทม. ปัจจุบันถึงขั้นวิกฤตแล้ว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างมาก ถือเป็นภัยต่อรุ่นลูกหลาน เพราะอัตราการเป็นโรคมะเร็งปอดและโรคที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 จะมีอัตราการตายก้าวกระโดด

กทม. ควรแก้ปัญหามาตั้งนานแล้ว แต่กลับปล่อยให้ถึงขั้นวิกฤตแบบทุกวันนี้ ทั้งที่กทม. มีอำนาจเต็มในการแก้ปัญหา โดยใช้ข้อบัญญัติ กทม.ทางด้านความสะอาด ความปลอดภัยและความเรียบร้อย ทุกเขตมีหน้าที่และเจ้าหน้าที่พร้อม สามารถตรวจจับควันดำ ตรวจสอบไซต์งานก่อสร้างได้ ทั้งจับ ปรับ ไปจนถึงระงับการก่อสร้างได้ แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่บังคับใช้หรือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

“ภารกิจ กทม.ถือเป็นภารกิจที่หนักหน่วง ผู้บริหารจึงต้องมีภาวะผู้นำ ในเรื่องการติดตามงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และปัญหา กทม.จะแก้ไขสั่งการแบบลอยตัวไม่ได้ กทม. ต้องการผู้นำที่ดุดัน และเอาจริงมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วปัญหาฝุ่นพิษ หรือทุกปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย” นายสุชัชวีร์ กล่าว

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ส่วน 11 มาตรการลดฝุ่นที่ กทม. ประกาศออกมาทั้ง เข้มงวดตรวจจับรถควันดำ ประสานตำรวจเข้มงวดกวดขัน ขอความร่วมมือ Work From Home รณรงค์บำรุงรักษาเครื่องยนต์ ควบคุมสถานประกอบการไม่ปล่อยมลพิษ งดกิจกรรมเกิดฝุ่น เข้มงวดห้ามเผาทุกชนิด เพิ่มความถี่ล้างถนน ฉีดล้างต้นไม้

ให้ความรู้สุขภาพอนามัย ออกหน่วยบริการสาธารณสุข หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดำเนินการตามมาตรการ ลดฝุ่นในโรงเรียนนั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวันอยู่แล้ว และต้องทำมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่มาประกาศ มาทำตอนนี้ ทุกวันนี้เรายังเห็นรถขนส่งควันดำวิ่งกันอยู่เลย ยังเห็นไซต์งานก่อสร้างที่ไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีอะไรปกปิดหรือป้องกันอยู่เลย

ดังนั้น สิ่งที่ กทม.ควรต้องแก้ปัญหาในเรื่องฝุ่นพิษและทำเร่งด่วน คือ 

1.ป้าย กทม.ต้องขึ้นแสดงสภาพอากาศ รัฐรู้แค่ไหน ประชาชนต้องรู้เท่านั้น 

2.อำนาจ กทม.มีอยู่แล้วในการจัดการเรื่องฝุ่น โดยคุมเรื่องรถขนส่งและไซต์งานก่อสร้างที่ไร้ความรับผิดชอบ

3.กำหนดเขตมลพิษต่ำ Bangkok Low Emission Zone หรือ B-LEZ (บีเลส) นำร่อง 16 เขตกรุงเทพฯชั้นใน ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรอาศัยหนาแน่น ทั้งผู้อยู่อาศัย ผู้มาทำงาน และนักเรียน มีทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก

ยะลา-เบตง ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมเตรียมพร้อมนายกลงพื้นที่

เบตง นายอำเภอเบตง ปล่อยแถวหน่วยงานด้านความมั่นคง กวาดล้างอาชญากรรมในห้วงนายกรัฐมนตรีมาตรวจราชการในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา

วันที่ 22 ก.พ.67 ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเบตง ถ.สุขยางค์ อ.เบตง จ.ยะลา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงนายกรัฐมนตรีมาตรวจราชการในพื้นที่อำเภอเบตง และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง, พ.ต.อ.ธีรภัทร ปิยะถาวร ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง, พ.ต.ท.ทีปวัฒน์ ทองบุ สวญ.สภ.ยะรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง สภ.อัยเยอร์เวง สภ.ยะรม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตชด. ทหาร ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชน เข้าร่วม

นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง กล่าวว่า อำเภอเบตงเป็นเมือง 1 ใน 7 เมืองเศรษฐกิจหลักในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ มีกำหนดเดินทางตรวจราชการในพื้นที่อำเภอเบตง ในระหว่างวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ 2567 จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยออกปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ลาดตระเวนเส้นทางการปิดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

ตม.3 ระดมเข้ม X-RAY พื้นที่เสี่ยง 25 จุด ปูพรมตรวจค้นสถานบริการ ร้านอาหาร คาราโอเกะ รวบ 4 คนไทย 7 ต่างด้าว ลอบทำงานผิดกฎหมาย

บก.ตม.3 มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก ของประเทศไทย รวมจำนวน 25 จังหวัด ได้ดำเนินการสืบสวน รวบรวมข้อมูล การกระทำผิดกฎหมายของคนต่างด้าวรวมถึงคนไทย ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ลักลอบทำงาน เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต รับคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ หลบหนีเข้าเมือง อยู่เกินกำหนดอนุญาต ซึ่งคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย อาจก่ออาชญากรรมอื่น ๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนได้ บก.ตม.3 จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อวางแผนระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิด

หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด บก.ตม.3 ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด  ซึ่งในห้วงเดือน มกราคม 2567 - ปัจจุบัน ได้ดำเนินการตรวจค้น ตรวจสอบ เป้าหมายในพื้นที่ทั้งหมด 25 จุดเสี่ยง มีผลการจับกุมรวมทั้งสิ้น 11 ราย แบ่งเป็น คนต่างด้าวสัญชาติลาว 4 ราย สัญชาติกัมพูชา 3 ราย และคนไทย จำนวน 4 ราย 

ซึ่งผู้กระทำผิดทั้ง 11 รายข้างต้น ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน, ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยได้ประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตพ้นจากการจับกุม รวมถึงความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของคนต่างด้าวยังถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และนอกจากนี้ในส่วนของเจ้าของสถานที่ที่ให้คนต่างด้าวพักอาศัย แต่ไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 38 ก็ได้ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วย

บก.ตม.3 ได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และจะยังคงดำเนินมาตรการเข้มข้น ต่อเนื่องในการป้องกัน ปราบปราม สืบสวน จับกุม การกระทำผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

แฉ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เส้นเงินเว็บพนัน ‘มินนี่’ ฟอกเงินผ่านวิธี ‘สังฆทานเวียน’

เปิดปมหลักฐานที่โยงมาถึงตัว 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. นั่นก็คือ 'เส้นเงิน' หรือเส้นทางการเงิน จากเว็บพนันออนไลน์ เข้ามาถึงตัวบิ๊กโจ๊กจำนวนมหาศาล ประมาณ 300 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า ซึ่งมือขวาของบิ๊กโจ๊ก คือ พ.ต.อ.คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นคนถือ

ซึ่ง พ.ต.อ.คริษฐ์ ตอนนี้ ก็โดนจับข้อหารับเงินเว็บพนันออนไลน์แล้วถึง 2 คดี ล้วนแต่เป็นเครือข่าย 'มินนี่' อายุน้อยร้อยเว็บ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สาวเส้นทางการเงินย้อนไปหลายปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา เมื่อเงินมาถึงบัญชีม้าในมือของ พ.ต.อ.คริษฐ์ ก็มีการเบิกมาให้บิ๊กโจ๊กใช้ทำคดี ใช้รักษาพยาบาล และอื่น ๆ

โดยมีเทคนิค 'สังฆทานเวียน' กล่าวคือ พ.ต.อ.คริษฐ์ ถอนเงินสดมาให้บิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กเอาไปให้เมีย แล้วเมียเอามาให้ พ.ต.อ.คริษฐ์อีกที เพื่อสร้างเส้นทางการเงินว่า เมียบิ๊กโจ๊ก ให้เงินส่วนตัว สนับสนุนสามีในการทำคดี

ซึ่งบิ๊กโจ๊กก็เคยอ้างถึงเรื่องนี้ว่า เมียตัวเองเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยเป็นพันล้าน มีธุรกิจเดินรถที่ภาคใต้ ก็เอาเงินส่วนตัวมาช่วยชาติ

แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่เชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประเด็นนี้แล้ว พบว่าธุรกิจเดินรถของเมียบิ๊กโจ๊กที่อ้างถึงนั้น ไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีแต่อย่างใด ดูจากการจ่ายภาษี และแสดงงบดุลบริษัท

จุดสลบของบิ๊กโจ๊ก ก็คือ การที่ พ.ต.อ.คริษฐ์ ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเงินสกปรกไว้อย่างละเอียดยิบ ไม่มีตกหล่นแม้แต่รายการเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครกล้ายักยอกไปใช้เอง

การยึดคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.อ.คริษฐ์ ไปตรวจ แล้วเจอรายการบัญชีเหล่านี้ จึงเป็นหลักฐานที่แน่นหนามาก

‘เจ้าของรถรับจ้าง’ ไอเดียบรรเจิด!! เนรมิต ‘รถแดงติดแอร์’ หวังเอาใจคนขี้ร้อน พ่วงระบบกรองฝุ่น วิ่งรับส่งทั่วเชียงใหม่

(22 ก.พ. 67) สำหรับการเดินทางไปตามที่ต่างๆ ในเชียงใหม่นั้น รถสี่ล้อแดงรับจ้าง หรือ ‘รถแดง’ ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะสามารถเรียกใช้บริการได้สะดวกและพบเห็นวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่ทั่วไป

ซึ่งลักษณะที่นั่งของผู้โดยสารจะเป็นเบาะสองแถวอยู่ทางด้านหลังของตัวรถที่ต่อเติมเป็นห้องโดยสาร ที่มีหลังคาบังแดดบังฝน มีทางขึ้นจากท้ายรถ และมีช่องหน้าต่างเปิดโล่งทั้งข้างของตัวรถ เพื่อชมวิวระหว่างทางได้ และรับลม โดยที่บางคันอาจจะมีการติดตั้งพัดลมเพิ่มเติมในห้องโดยสารด้านหลังเพื่อช่วยคลายร้อนให้กับผู้โดยสาร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างมีการกล่าวถึงรถสี่ล้อแดงรับจ้างคันหนึ่ง ที่แตกต่างจากทั่วไป และเป็นที่ชื่นชอบประทับใจของนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ

โดยรถคันดังกล่าวนี้มีความพิเศษกว่าคันอื่นๆ ตรงที่เป็น ‘รถแดงติดแอร์’ หรือ มีการติดตั้งระบบปรับอากาศเย็นสบายไว้ในส่วนของห้องผู้โดยสารด้วย พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและเครื่องฟอกอากาศป้องกันฝุ่น PM2.5

รวมทั้งเบาะนั่งที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้ อีกทั้งมีหมอนและผ้าห่มให้บริการพร้อมสรรพ นอกจากนี้ทางคนขับยังมีบริการถ่ายภาพสวยๆ ให้อีกด้วย หากเป็นการจ้างเหมานำเที่ยว

จากการสอบถามทราบว่า ‘รถสี่ล้อแดงติดแอร์’ คันนี้เป็นของ นายรณกฤต อินสิงห์ หรือ ‘โก้’ อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า เดิมทีหลังจากที่เรียนจบได้ประกอบอาชีพเป็นนักดนตรี กระทั่งเกือบสิบปีที่แล้วได้เปลี่ยนมายึดอาชีพขับรถสี่ล้อแดงวิ่งรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

ด้วยความรักในอาชีพนี้เป็นอย่างมาก จึงอยากจะพัฒนาการให้บริการต่างๆ ให้ดีขึ้น กระทั่งเมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว เกิดแนวความคิดว่า อยากจะติดตั้งระบบปรับอากาศ หรือแอร์ในห้องผู้โดยสารด้านหลัง เนื่องจากอยากทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเย็นสบายเหมือนคนขับที่เปิดแอร์ได้ตลอดเวลาที่ขับรถ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน และจะได้มีความสุขกับการใช้บริการรถสี่ล้อแดง

จากนั้นตัวเองจึงได้อาศัยความรู้ด้านช่างที่พอมีอยู่ทำการออกแบบ พร้อมทั้งขอคำปรึกษาแนะนำจากช่างที่มีความชำนาญ และดำเนินการติดตั้งระบบปรับอากาศกับรถสี่ล้อแดงคันแรกของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีประตูด้านหลังที่ปิดทึบได้ และกระจกด้านข้างที่เปิดปิดได้ ในกรณีที่ต้องการปิดแอร์และเปิดรับอากาศจากด้านนอก

ซึ่งถือว่าเป็นรถต้นแบบและน่าจะเป็นคันแรกในเชียงใหม่ พร้อมนำออกวิ่งให้บริการรับส่งผู้โดยสารในตัวเมืองเชียงใหม่และรับเหมานำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งใกล้เคียง โดยได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้ใช้บริการอยู่ตลอด ต่อมาเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว จึงได้ทำ ‘รถแดงติดแอร์’ อีกคันหนึ่ง ซึ่งเป็นคันที่สองของตัวเองและเป็นคันที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้

ทั้งนี้ในส่วนของห้องผู้โดยสารนั้น นอกจากการติดแอร์ทำให้อากาศเย็นสบายแล้ว ยังมีระบบฟอกอากาศกรองฝุ่น PM2.5 ลำโพงบลูทูธ พัดลม ที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เบาะนั่งที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้ พร้อมหมอนและผ้าห่มให้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและมีความสุขตลอดการเดินทาง

ขณะเดียวกันในกรณีที่นักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารทำการว่าจ้างเหมานำเที่ยว ตัวเองยังมีบริการถ่ายภาพและตกแต่งภาพเบื้องต้นให้เป็นพิเศษอีกด้วย โดยที่ตัวเองทำหน้าที่เป็นทั้งคนขับรถและช่างภาพ พร้อมอุปกรณ์ถ่ายภาพ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบบริการพิเศษนี้เป็นอย่างมาก

นายรณกฤต บอกว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติจ้างเหมา ‘รถแดงติดแอร์’ ของตัวเองให้นำเที่ยวเป็นประจำเกือบทุกวัน ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับการบอกต่อจากกลุ่มเพื่อนฝูงคนรู้จักที่เคยมาใช้บริการและประทับใจในการให้บริการ ทำให้ตัวเองรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งและตั้งใจจะพัฒนาบริการต่างๆ ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้หากผู้ใดที่สนใจอยากใช้บริการ ‘รถแดงติดแอร์’ สามารถติดต่อจองคิวหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก ‘รถนำเที่ยวเชียงใหม่&ภาคเหนือ #รถแดงติดแอร์’ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 083-582-3255

สตม.รวบแม่ค้าออนไลน์ชาวเมียนมาแอบไลฟ์สดขายของหนีภาษีของกลาง 200 รายการ

ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุม นางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร

ตม.จว.สมุทรสาคร ได้สืบสวนทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มีพฤติการณ์ลักลอบขายสินค้าหนีภาษีทางช่องทางออนไลน์ จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึก เบื้องต้นพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร โดยได้มีการไลฟ์สดและโพสต์ขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตัวสินค้า  

มีความผิดทางกฎหมาย จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง เป็นกลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันหรือสเปรย์ฉีดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งไม่มีฉลากภาษาไทย และเครื่องหมาย อย. ร่วม 200 รายการ และจากการตรวจสอบเอกสารของนางมิ พบใบอนุญาตทำงานระบุประเภท กรรมกร แต่มาลักลอบขายสินค้าออนไลน์ และไม่ได้ทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาตไว้ตามกฎหมาย จึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top