Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

'ดร.หิมาลัย' ฉายภาพจริงในถิ่นมะกัน แค่วันหาเสียงของ 'ไบเดน' ยังต้องปิดถนน สะท้อน 'จนท.-ปชช.' ให้เกียรติ 'คนสำคัญ' หากไม่ทำใครชาติไหนจะให้เกียรติตาม

(29 ก.พ.67) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี/ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ 'การให้เกียรติผู้นำประเทศ' ระบุว่า...

มาหาลูกชายที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ลูกชายเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่นี่ กำลังเดินอยู่บนถนน เห็นรถติดกับมีตำรวจเดินตรวจมากผิดปกติ ลูกชายเปิดมือถือดู ถึงรู้ว่าท่านประธานาธิบดีเดินหาเสียงอยู่ที่ถนนใกล้เคียง ซึ่งเป็นอีกถนนหนึ่ง มีการปิดถนนในช่วงที่ท่านหาเสียง 

ย้ำนะครับ!! ปิดถนนช่วงที่หาเสียง และเนื่องจากถนนที่เราเดินอยู่ใกล้เคียง รถเลยติดต่อเนื่องมาด้วย 

จนท.ตำรวจ มีการวางกำลังตรวจดูความเรียบร้อยในถนนรอบๆ ใกล้เคียงถนนที่หาเสียง สังเกตดู ไม่เห็นมีใครโวยวายหรือต่อว่า จนท.สักคน แล้วเขาก็ส่งแจ้งเตือนเข้ามือถือคนที่เดินอยู่ใกล้ๆ บริเวณหาเสียงว่าการจราจรติดขัดเพราะอะไร ที่สำคัญเขารถติดเป็นชั่วโมงเลยครับ

ผมมานึกถึงบางประเทศที่คนบางคนไม่เคยให้เกียรติผู้นำหรือบุคคลสำคัญของประเทศเลย ไม่มีใครใหญ่หรือสำคัญไปกว่ากู ชอบอ้างสิทธิเสรีภาพที่กูไม่ยอมเสียให้ใคร แต่พร้อมละเมิดคนอื่นเขาตลอดเวลา 

ถ้าเราไม่ให้เกียรติผู้นำหรือบุคคลสำคัญของประเทศ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศแล้ว ใครเขาจะมาให้เกียรติเรา ยิ่งบางทีพอมีคนต่างชาติต่างภาษามาด่าว่าผู้นำหรือบุคคลสำคัญของเรา กลับไปแสดงความชื่นชม นิยมชมชอบ เหมือนคนอยู่ในบ้าน พ่อแม่เลี้ยงดูมา พี่น้องอยู่กันมา พอโตหน่อย ออกไปข้างนอกบ้าน เขาพูดชมเชยยกยอปอปั้น ให้เศษเงินนิดหน่อย ก็หันกลับมาด่าพ่อแม่พี่น้องตัวเอง 

ลองปรับความคิดใหม่ซิครับ เรื่องในบ้านเราก็เป็นเรื่องภายใน มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ไขกันไป ใครขึ้นมาเป็นผู้นำ เราก็ควรให้เกียรติ การต่อสู้ทางความคิดก็ทำไป คนในบ้านทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ที่บ้านไหนก็เป็น แต่คนนอกบ้านไม่ควรมาเสือก เป็นเรื่องของคนในบ้านเขาจะใช้สิทธิใช้เสียงแก้ไขกันเอง

พูดไปไกลเลยครับ จริงๆ อยากให้เห็นขบวนหาเสียงของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประเทศต้นแบบประชาธิปไตย เขาอยู่บนความจริง ไม่ดัดจริต การรักษาความปลอดภัยผู้นำ การใช้กำลัง จนท.รัฐ ก็ใช้เหมือนเดิมเพราะถือว่ายังเป็นประธานาธิบดีอยู่ 

ตอนผมเจอวันจันทร์ (26 ก.พ.) เวลาประมาณบ่ายๆ ยังเป็นเวลาทำการอยู่ การจัดขบวนรักษาความปลอดภัยก็จัดเหมือนเดิม แต่ลดขนาดลง พอถาม จนท.เขาบอกว่า ถ้าเป็นงานตามกำหนดการราชการ รถขบวนจะเต็มถนน มีการปิดถนน เคลียร์ถนนรอบๆ เหมือนที่เราเห็นในข่าวเลยครับ จะไม่มีให้รถมาวิ่งร่วมขบวน เขาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอย่างมาก ไม่ต้องถึงประธานาธิบดีหรอกครับ กำหนดการงานของนายกเทศมนตรี เขาบอกว่าก็มีรถนำขบวน ปิดถนนเหมือนกัน 

เลยขอให้ลูก Copy คลิปที่เขาส่งเข้ามือถือมาให้ กับถ่ายรูปผมที่ริมถนนส่งมาให้ดูเป็นหลักฐานว่ามาจริง ไม่ได้โม้ครับ 

ฝากไว้นิดครับ ความเห็นต่าง ขัดแย้งกันไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่การให้เกียรติและมีมารยาทที่ดีต่อกัน ก็เป็นเรื่องที่ควรทำครับ สังคมเราก็จะน่าอยู่ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ

'อรรถวิชช์' เตรียมรับมือสร้างคอนโดสูงหน้า 'รร.บดินทรเดชา' พบที่จอดรถโครงการน้อย โอกาสเบียดแย่งที่จอดในละแวกมีสูง

(29 ก.พ.67) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดเผยถึงโครงการคอนโดที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 500 กำลังจะก่อสร้างขึ้นบริเวณตรงข้ามโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) วังทองหลาง ซึ่งอาจสร้างปัญหาด้านการจราจรในอนาคต เนื่องจากโครงการมีจำนวนที่จอดรถน้อยจนเกินไป ว่า...

“ผมมาเตรียมรับมือการสร้างคอนโดสูงในซอยแคบหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งโครงการนี้ไม่ธรรมดามีถึง 11 อาคาร และแต่ละอาคารจะมี 8 ชั้น แล้วที่สําคัญห้องพักมีถึง 512 ห้อง แต่ในขณะที่ที่จอดรถมีเพียงแค่ 206 คัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนแค่ 40% เท่านั้น ไม่ใช่ 1 ต่อ 1 และยังไม่รวมว่าถ้าเกิดมีญาติมาเยี่ยมหรือใครมาเยี่ยมอีก ซึ่งจะจอดรถกันตรงไหน”

“คราวนี้มาดูที่ถนนหน้าซอย ซึ่งเป็นถนนไปกลับสองเลน ไปเลนนึงและกลับเลนนึง ถ้ามีใครจอดรถเข้าสักคันนึง ทีนี้รถติดก็จะติดกันยาวเพราะว่าต้องเบี่ยงเข้าอีกเลนเพื่อแซงกันขึ้นมา”

จากนั้น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ได้ทำการวัดขนาดถนนหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แล้วพบว่ามีขนาดกว้างทั้งสิ้น 6.90 เมตร

“ซึ่งขณะนี้ผมก็เลยไปรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณในซอยนี้ เขาก็ให้ความเห็นกันมาเป็นทิศทางเดียวกันเลยว่าติดตอนเช้าและตอนเย็นช่วงที่รับเด็กนักเรียน แต่ก็จะรู้สึกไม่โอเคถ้าหากมีคอนโดแห่งนี้เกิดขึ้นแล้วมีที่จอดรถไม่เพียงพอ หากถ้าตอนเช้าคนจากคอนโดมาจอดรถไว้แล้วไม่ยอมเอากลับไป ก็เท่ากับรถติดเป็นอัมพาตกันทั้งซอยเลยทีเดียว”

“ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาสําคัญเลยทีเดียวสำหรับในซอยที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ตั้งอยู่ ดังนั้นก็หวังว่าการสร้างคอนโดจะทําไปด้วยความระมัดระวังมากกว่านี้ในเรื่องของที่จอดรถต้องเตรียมให้มีความพร้อมมิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นที่เดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้” นายอรรถวิชช์ กล่าว

‘รัดเกล้า’ เผย ‘กม.สมรสเท่าเทียม’ พิจารณาครบถ้วนแล้ว พร้อมเตรียมดันเข้าระเบียบวาระสภาฯ 20 มีนาคมนี้

(29 ก.พ.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี โฆษกประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เปิดเผยว่า วานนี้ (28 ก.พ.67) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ครบถ้วนทุกมาตราทั้ง 68 มาตราแล้ว และได้มีการทบทวนการพิจารณาแก้ไขรายมาตราทุกมาตราเรียบร้อยแล้ว พร้อมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการนำมติที่ประชุมไปจัดทำร่างรายงานนำเสนอคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ในวันพุธที่ 13 มีนาคม 2567

ซึ่งภายหลังจากคณะกรรมาธิการมีมติเห็นชอบแล้ว จะนำเสนอบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบในวาระ 3 โดยตั้งเป้าหมายให้ทันวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งหากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมก็จะสามารถเดินหน้าเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป

“คณะกรรมาธิการทุกท่านให้ความสำคัญและทุ่มเทให้กับการพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมกันเป็นอย่างมาก การพิจารณากฎหมายได้ดำเนินการไปด้วยความเข้มข้น ละเอียด และถี่ถ้วน เพราะเนื้อหาในร่างกฎหมายนี้เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนสูงในหลากหลายมิติ

นอกเหนือจากความปิติยินดีในภารกิจพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมกันที่ได้เสร็จสิ้นไปแล้วนั้น สมาชิกหลายคนในคณะกรรมาธิการเดินหน้าจัดงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรม ‘บางกอกไพรด์ เฟสติวัล 2024 (Bangkok Pride Festival 2024)’ ที่จะจัดขึ้นภายใต้ธีม ‘Celebration of Love’ ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการนับถอยหลังสู่การฉลองสมรสเท่าเทียมกันในประเทศไทย โดยงานแถลงข่าวดังกล่าวจะมีขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 29 ก.พ. 2567) เวลา 13:00 - 15:00 น.” นางรัดเกล้า กล่าว

กระบี่-ทกจ.กระบี่ จับมือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินหน้าขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) กำหนดพื้นที่ 'อ่าวนาวแลนด์มาร์ก' เป็นชุมชนนำร่อง

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุม อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.)โดยมี 

นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยว่าที่ พ.ต.ท.สราวุฒิ เกาะกลาง สว.ส.ทท.3 กก.2 บก.ทท.3 และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมอบรม

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  เร่งรัดสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวประเทศจีนและประเทศคาซัคสถาน เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและบริหารจัดการแบบบูรณาการอย่างองค์รวม

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ได้บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจัดทำโครงการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) โดยได้กำหนดพื้นที่ “อ่าวนางแลนด์มาร์ก” ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เป็นชุมชนนำร่องในการดำเนินโครงการ และดำเนินการจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง  Strong Tourism Community (S.T.C.) ทั้งชาวไทยและชาวต่าวชาติ ประกอบด้วย พนักงานร้านสะดวกซื้อ (7-11) , พนักงานโรงแรม , พนักงานรักษาความปลอดภัย อ่าวนางแลนด์มาร์ค , และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ จำนวน  67 คน เข้าร่วมอบรม โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล, สร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ข้อมูลท้องถิ่น การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในกรณีประสบเหตุ 

การปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 สามารถถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย 3 ท่อยิงขึ้น บนผิวน้ำได้สำเร็จ

วันที่ 28 ก.พ.67 ซึ่งเป็นการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเรือ Ocean Valor ที่จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดำน้ำ จำนวน 4 เที่ยว โดยมีภารกิจในการค้นหาผู้สูญหาย และทำการสำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโด เพื่อทำลายขีดความสามารถของอาวุธ

โดยผลการปฏิบัติ ไม่พบผู้สูญหายบริเวณพื้นที่ที่สำรวจ และได้ทำการถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย (3 ท่อยิง) ขึ้นบนเรือ Ocean Valor ได้สำเร็จ แต่เนื่องจากภาวะคลื่นลมแรง ความสูงคลื่น 1 – 1.5 เมตร ประกอบกับมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ปฏิบัติการ เป็นอุปสรรคการปฏิบัติงาน โดยชุดปฏิบัติการจะปรับแผนการปฏิบัติในส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ไปปฏิบัติในวันต่อไป 

สำหรับการปฏิบัติการวันพรุ่งนี้ จะมีการปฏิบัติการดำน้ำร่วมกัน ในการค้นหาผู้สูญหาย สำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโดกราบขวา เพื่อทำลายขีดความสามารถ จำนวน 4 เที่ยว 

ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบในโอกาสต่อไป

ศรชล.ภาค 1/ทรภ.1 ส่งเรือช่วยเหลือลูกเรือประมง เชือกพันขาขาด กลางทะเล

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 ก.พ.67 ทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1 ) ได้รับแจ้งจากไต๋เรือ ส.ตะวัน 14 ว่ามีลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากเชือกพันขาขาด บริเวณระยะ 29.6 ไมล์ทะเล จากแหลมปู่เจ้า ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

หลังรับแจ้ง ได้ส่งเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 268 (ต.268) ให้การสนับสนุนขนย้ายผู้ป่วย ลูกเรือ ส.ตะวัน 14 กลับมายังท่าเรือ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) เขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และดำเนินการส่งต่อไปยัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อรับการรักษาโดยเร่งด่วนต่อไป

โดยผู้บาดเจ็บ เป็นลูกเรือประมงที่ประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสจากเชือกพันขาจนขาขวาขาด ดังกล่าว

ส่อง 20 อันดับ ยอดขายรถยนต์ในจีน แบรนด์จีนติดโผเพียบ!! BYD ผงาด!! เบอร์ 1

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการจัดอันดับแบรนด์รถยนต์จีนในปี 2023 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่ Volkswagen ไม่ใช่แบรนด์ที่มียอดขายสูงสุด และสูญเสียตำแหน่งสำคัญนี้ให้กับ BYD ซึ่งสร้างผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าขนานใหญ่

โดยผู้บริโภคในจีนเริ่มเปลี่ยนจากความรักในแบรนด์ต่างประเทศมาสู่แบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น เพราะพวกเขาเชื่อว่าแบรนด์จีนมีศักยภาพและตีโจทย์ความต้องการของพวกเขามากขึ้น ทั้งตัวซอฟต์แวร์ไปจนถึงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น BYD, Geely, Changan มีความสามารถที่ขึ้นมาท้าทายมากกว่าแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Volkswagen, Toyota, Honda ได้อย่างน่าสนใจ

ในขณะเดียวกัน Tesla ก็ยังคงไต่อันดับต่อไปเนื่องจากความนิยมของ Model Y อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

โฆษกเกษตรเผย ”ไชยา“ สั่งลุย ! ฝนหลวงบินลดฝุ่น Pm2.5 ตามนโยบายนายกเศรษฐา

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 (เกินค่ามาตรฐาน) จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายพื้นที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน (สีส้ม) โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และโดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ขึ้นบินปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล และเฝ้าติดตามสถานการณ์และสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน โดยได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองในหลายพื้นที่ลดลงตามนโยบายของรัฐบาล นายกเศรษฐา ทวีสิน ที่มีความตั้งใจจะยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติรวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอากาศสะอาด โดย PM 2.5 เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง 

ซึ่งในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะเริ่ม Kick Off ปฏิบัติการทำฝนหลวงประจำปี 2567 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพื้นที่ภาคการเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ตลอดจนเติมน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ และการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่า และการบรรเทาปัญหาหมอกควัน และค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งถือว่าเป็นภัยพิบัติของประเทศ ดังนั้นการปฏิบัติการครั้งนี้ จึงเป็นการบรรเทาปัญหาความรุนแรง และเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เพื่อเก็บกักน้ำไว้ให้รองรับกับความต้องการของประชาชนในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรอีกด้วย

(สุรินทร์) ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมหน่วย และมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับกำลังป้องกันชายแดนในพื้นที่กองกำลังสุรนารี

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังป้องกันชายแดนพื้นที่กองกำลังสุรนารี ณ ฐานปฏิบัติการปราสาทตาควาย หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยมี พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ให้การต้อนรับ ในการนี้ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้วางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พิทักษ์ไทย และรับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติการของหน่วย พร้อมทั้งมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับกำลังพล เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจต่อไป

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ
 

‘ในหลวง ร.10 - พระราชินี’ พระราชทานสิ่งของแก่ ‘อาสาสมัครทหารพราน’ หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด-ยิงปะทะ จ.นราธิวาส

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพราน นาวิกโยธินที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขณะทำการลาดตระเวนบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านยะลูตง ตำบลกาเยาะมาตรี อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ดังนี้

- อาสาสมัครทหารพราน ณัฐพล ชนะเกียรติ
- อาสาสมัครทหารพราน ดิฐวัฒน์ พุดหอม
- อาสาสมัครทหารพราน กฤษณะ แก้วมณี
- อาสาสมัครทหารพราน วัชรศักดิ์ ชูหอย
- อาสาสมัครทหารพราน ณัฐวัฒน์ มณีพันธ์

โดยทั้ง 5 ราย เข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ถือเป็นความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top