Friday, 26 April 2024
ฮ่องกง

ศาลฮ่องกงตัดสิน 'วัยทีน' ผิดฐานแบ่งแยกดินแดน เจ้าตัวกร้าว!! “ไม่มีอะไรต้องละอาย”

รายงานจากเอเอฟพีและรอยเตอร์ (3 พ.ย. 64) เผย คำพิพากษาของศาลฮ่องกง โดยระบุถึง ‘โทนี ชุง’ นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชฮ่องกงวัย 20 ปี กลายเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่ถูกตัดสินว่าทำผิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่จีนออกมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

โทนี ชุง ซึ่งเป็นอดีตแกนนำกลุ่มหนุนเอกราชในชื่อ ‘นักศึกษาท้องถิ่นนิยม’ ที่ยุบตัวก่อนหน้ากฎหมายความมั่นคงจะมีผลบังคับใช้ ยอมรับสารภาพผิดในข้อหาแบ่งแยกดินแดน และข้อหาฟอกเงินอีก 1 ข้อหา แต่เขาปฏิเสธข้อหาปลุกปั่นโค่นล้มรัฐและข้อหาฟอกเงินอีกข้อหา

อัยการอีวาน เฉิง กล่าวว่า ชุง เป็นผู้ดำเนินการเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มนักศึกษาท้องถิ่นนิยมสาขาสหรัฐฯ และองค์กรชื่อ ‘พรรคริเริ่มเอกราช’ การตรวจค้นที่บ้านของเขาพบเสื้อยืด, ธง และหนังสือที่สนับสนุนเอกราชฮ่องกง ส่วนข้อหาฟอกเงินนั้นเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคที่เขาได้รับผ่านบัญชี PayPal

เจ้าหน้าที่ฮ่องกงจับกุม ชุง ซึ่งตอนนั้นอายุ 19 ปี พร้อมกับพวกอีก 2 คน ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำฮ่องกงไม่กี่เมตร เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เขาถูกปฏิเสธประกันตัวและโดนคุมขังมานับแต่ตอนนั้น

กลุ่ม ‘เพื่อนของฮ่องกง’ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ออกแถลงการณ์หลังจากชุงถูกจับกุมว่า พวกเขากำลังพยายามจัดการให้ชุงเข้าสถานกงสุลสหรัฐฯ ในวันนั้นเพื่อขอลี้ภัย

ระหว่างให้การในศาลเมื่อวันพุธ ชุงกล่าวต่อศาลว่า ‘เขามีสติสัมปชัญญะและไม่มีสิ่งใดต้องละอายแก่ใจ’ ทำให้ผู้พิพากษาสแตนลีย์ ชาน กล่าวเตือนทันทีว่า ศาลไม่อนุญาตให้กล่าวถ้อยคำเกี่ยวข้องกับการเมืองในศาล และนัดวันอ่านคำพิพากษาโทษวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้

คดีของชุงเป็นคดีแบ่งแยกดินแดนคดีที่ 4 ที่ถูกพิจารณาคดีตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เขาก็ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือนฐานดูหมิ่นธงชาติจีนและชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย

ทางการฮ่องกงเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจะไม่มีผลย้อนหลังกับการกระทำในอดีต แต่อัยการอ้างความผิดหลายประการที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากฎหมายจะเริ่มบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว

‘ฮ่องกง’ สั่งระงับเที่ยวบินจาก 8 ประเทศ พร้อมห้ามนั่งกินในร้านหลัง 18.00 น. 

แครี แลม หัวหน้าผู้บริหารเกาะฮ่องกง แถลงในวันนี้ (5 มกราคม 65) ว่า เตรียมใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอน โดยกำหนดมาตรการ ดังนี้

1.) ระงับเที่ยวบินเข้าฮ่องกงจากประเทศออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 65 เป็นต้นไป

2.) ร้านอาหารห้ามให้บริการรับประทานที่ร้านระหว่างเวลา 18.00 - 05.00 น. ส่วนเวลา 05.00 - 18.00 น. อนุญาตให้รับประทานที่ร้านได้ โดยจำกัดที่นั่ง 2 - 6 คนต่อโต๊ะ ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 65 เป็นต้นไป

สี จิ้นผิง จี้ ฮ่องกง ทุ่มกำลังเร่งคุมโควิด หลังติดเชื้อพุ่ง - คนป่วยล้นโรงพยาบาล

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ออกโรงเตือนผู้นำฮ่องกงให้ทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ หลังผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด จนผู้ป่วยต้องนอนนอกโรงพยาบาล

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในฮ่องกงพุ่งขึ้นมากกว่า 40 เท่าจากตัวเลขเมื่อช่วงเริ่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยล่าสุดในวันพุธที่ 16 ก.พ. 65 ทางการรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 4,285 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่รวมผู้ที่มีผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวกอีกกว่า 7,000 คน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ออกมายอมรับว่า การตอบสนองต่อการระบาดของรัฐบาลของเธอไม่เป็นที่น่าพอใจ และโรงพยาบาลกับเจ้าหน้าที่การแพทย์กำลังรับมือผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นไม่ไหว

ล่าสุดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายฉบับในจีนรายงานตรงกันว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้แสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความห่วงใยชาวฮ่องกงผ่านนาย ฮั่น เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรี เขายังสั่งการให้รัฐบาลของนางหล่ำทุ่มกำลังและทรัพยากรทั้งหมด เพื่อใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อรับรองความปลอดภัยและสุขภาพของชาวฮ่องกง และรับประกันเสถียรภาพในสังคม

'แคร์รี่ แลม' อดีตผู้บริหารฮ่องกง เผยสิ่งที่อยากทำ!! 'ดูซีรีย์-เที่ยวเขตชั้นในของจีน' เซย์โน!! โกอเมริกา!!

ไม่นานมานี้ เฟซบุ๊กเพจ 'ลึกชัดกับผิงผิง' สื่อที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีน ได้เปิดเผยคำกล่าวบางส่วนของอดีตผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง อย่างนางแคร์รี่ แลม ภายหลังพ้นภาระหน้าที่ระบุว่า...

"ว่างแล้ว อยากดูซีรีย์จีน ท่องเที่ยวเขตแดนชั้นในจีน"

นางแคร์รี่ แลม เพิ่งพ้นหน้าที่ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เธอยืดเส้นยืดสายอย่างสบายและพูดคุยกับสื่ออย่างยิ้มแย้ม

นางแคร์รี่ แลม กล่าวว่า ช่วง 5 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เป็นช่วงที่ทำงานหนักมาก ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับสมาชิกครอบครัว ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ดูละครโทรทัศน์ ทั้งไม่มีเวลาไปเที่ยว หลังเกษียณอายุจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว

>> พิธีกรถามว่าคิดจะไปสหรัฐอเมริกาไหม? 
นางแคร์รี่ แลมตอบว่า “ไม่เคยมีความคิดหรือหวังที่จะไปสหรัฐอเมริกา” 

>> พิธีกรถามว่าชอบดูซีรีย์เกาหลีใต้หรือซีรีย์จีน
นางแคร์รี่ แลมตอบว่า “ส่วนใหญ่จะเป็นซีรีย์จีน”

จอยักษ์ หนัก 600 กก. หล่นกลางเวทีคอนเสิร์ต ทับแดนเซอร์วง 'มิลเลอร์' บาดเจ็บ 2 ราย

จอยักษ์ หนัก 600 กิโลกรัมบนเวทีคอนเสิร์ตบอยแบนด์ดังของฮ่องกงอย่าง ‘มิลเลอร์’ ตกลงบนกลางเวที ขณะวงกำลังทำการแสดงในฮ่องกงโคลิเซียม ก่อนที่จอจะกระแทกใส่แดนเซอร์ 2 ราย ต่อหน้าแฟนคลับที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด มีการบันทึกภาพขณะจอยักษ์หลุดถล่มลงมาบนเวที เผยนาทีที่จอตกลงใส่แดนเซอร์หนึ่งรายบริเวณศีรษะ ก่อนที่จอจะล้มทับใส่แดนเซอร์อีกราย โดยหลังจากที่จอถล่มลงมา ดนตรีของคอนเสิร์ตถูกหยุดลงในทันที และผู้จัดการวงบอยแบนด์ได้เร่งออกมากล่าวกับแฟนคลับข้างล่างเวที เพื่อขอให้ผู้ชมทั้งหมดเดินทางออกจากบริเวณสนามจัดคอนเสิร์ตในทันที

สำนักข่าว The South China Morning Post รายงานว่า แดนเซอร์ทั้งสองรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน โดยแดนเซอร์รายแรกได้รับบาดเจ็บบริเวณคอ และกำลังอยู่ในอาการวิกฤต ในขณะที่มีรายงานว่าแดนเซอร์อีกรายอยู่ในอาการทรงตัว ทั้งนี้ มีแฟนคลับหญิงอีกหลายรายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากตกอยู่ในอาการช็อกกับเหตุที่เกิดขึ้น

รัฐบาลท้องถิ่นของฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์ เพื่อย้ำเตือนในทัวร์คอนเสิร์ตยังคงรักษาระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการแสดงครั้งต่อไป ก่อนจะย้ำว่าทางการจะเร่งสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ “ผมรู้สึกตกใจจากเหตุการณ์นี้ ผมขอส่งความปรารถนาดีไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และหวังว่าเขาจะหายดีในเร็ววัน” จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงระบุ

ในขณะที่ เควิน ยัง เลขาธิการด้านวัฒนธรรมของฮ่องกงออกมาระบุว่า การแสดงของวงมิลเลอร์จะถูกระงับเอาไว้ก่อน จนกว่าโครงสร้างของเวทีจะได้รับการจัดการใหม่เพื่อให้มีความปลอดภัย โดยมิลเลอร์มีแผนการแสดงในฮ่องกงโคลิเซียมอีก 12 โชว์ ก่อนที่จะจัดการแสดงครั้งต่อไปที่ท่าเรือวิกตอเรีย

ด้านชาวฮ่องกงที่เข้าไปชมในคอนเสิร์ตต่างพากันระบุว่าพวกเขารู้สึกแย่มากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...“ฉันไม่เคยรู้สึกว่าการไปคอนเสิร์ตแย่ขนาดนี้ การเดินออกจากโคลิเซียมให้ความรู้สึกเหมือนเดินออกจากโรงฝังศพ มันอึมครึมไม่มีใครพูด” ผู้ชมคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์บอกวาไรตี้ “ผู้หญิงคนอื่นๆ ในกลุ่มผู้ชมกำลังร้องไห้ เพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่ของเขาตั้งคำถามว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายและไม่อาจยอมรับได้ในฮ่องกงที่โคลิเซียม”

‘สี จิ้นผิง’ มุ่งมั่นรวมชาติ สั่งพรรคคอมมิวนิสต์ ต้อง ‘ชนะใจ’ คนฮ่องกง-มาเก๊า-ไต้หวันให้ได้

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์ดำเนินนโยบายเพื่อ “เอาชนะใจ” ประชาชนทั้งในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันให้ได้ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการฟื้นฟูชาติจีน (national rejuvenation)

คำสั่งซึ่งมีขึ้นระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ผู้นำจีนได้มอบหมายให้แก่กรมการแนวร่วม (United Front Work Department) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีหน้าที่แผ่ขยายอิทธิพลของจีนทั้งในและต่างประเทศ

“การสร้างแนวร่วมถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นที่สำคัญ (ว่าพรรคคอมมิวนิสต์) จะสามารถเอาชนะศัตรู บริหาร และฟื้นฟูชาติบ้านเมืองได้ และยังเป็นการรณรงค์ให้คนจีนทั้งในและนอกประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูชาติ” สำนักข่าวซินหวาอ้างถ้อยแถลงของ สี ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง

ผู้นำจีนย้ำว่า โลกกำลังเผชิญ “ความเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง” ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ดังนั้นภารกิจของกรมการแนวร่วมจึงยิ่งมีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้อง “สร้างสมดุลระหว่างความธรรมดาสามัญ (Commonality) กับความหลากหลาย (Diversity)” เพื่อ “เอาชนะใจประชาชนในฮ่องกง, มาเก๊า และไต้หวัน รวมไปถึงชาวจีนที่อาศัยอยู่ในต่างแดน”

ฮ่องกงจัดหนัก!! เตรียมแจกตั๋วเครื่องบิน 500,000 ใบ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว รับเปิดประเทศ

สื่อฮ่องกงรายงานว่า ฮ่องกงจะแจกตั๋วเครื่องบิน 500,000 ใบ เพื่อดึงดูดนักเดินทางให้กลับมาท่องเที่ยวในฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลฮ่องกงประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งหมดในกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศ

หนังสือพิมพ์ ซิง เตา (Sing Tao) ของฮ่องกง รายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ใกล้ชิดแวดวงการเมืองและภาคธุรกิจฮ่องกงว่า ฮ่องกงจะแจกตั๋วเครื่องบิน 500,000 ใบ เพื่อดึงดูดนักเดินทางให้กลับมาท่องเที่ยวฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลฮ่องกงประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งหมดในกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศ 

ทั้งยังระบุว่า นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง อาจจะประกาศแผนการให้ประชาชนกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติในเดือนตุลาคม ยกเว้นในกรณีที่การระบาดของโรคโควิดในฮ่องกงย่ำแย่ลงจากสถานการณ์ระบาดในปัจจุบัน

'ฮ่องกง' เตรียมแจกตั๋วบินฟรี 5 แสนใบ!! ดึงดูด นทท. สัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำ

เมื่อวันที่ (2 ก.พ. 66) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีน ได้ทำการเปิดตัวโครงการดึงดูดนักท่องเที่ยว นักเดินทางเพื่อธุรกิจ และนักลงทุน พร้อมประกาศชุดมาตรการจูงใจอื่น ๆ

'จอห์น ลี' ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ประกาศ ณ พิธีเปิดตัวโครงการ 'สวัสดีฮ่องกง' (Hello Hong Kong) ว่า ฮ่องกงได้จัดเตรียมบัตรโดยสารเครื่องบิน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก จำนวน 500,000 ใบ

ลีกล่าวว่า บรรดาแขกที่เดินทางเยือนฮ่องกงสามารถใช้ประโยชน์จากข้อเสนอพิเศษ บัตรกำนัล และสิ่งจูงใจอื่น ๆ มากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำมากยิ่งขึ้นในฮ่องกง

‘นางแบบฮ่องกง’ ถูกฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็น-เนื้อต้มในหม้อซุป ‘ตร.’ คาด ปมขัดแย้งมรดกกับครอบครัวของอดีตสามี

‘แอบบี้ ชอย’ นางแบบดังฮ่องกงถูกฆ่าหั่นศพ พบขายัดในตู้เย็น เนื้ออยู่ในหม้อต้มซุป ส่วนหัวยังหาไม่เจอ ตำรวจรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว คาดอดีตสามีรวมหัวกับพ่อแม่ช่วยกันลงมือ

(25 ก.พ. 66) เกิดเหตุฆาตกรรมสยองในฮ่องกง เมื่อนางแบบดัง ‘แอบบี้ ชอย’ (Abby Choi) วัย 28 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 21กุมภาพันธ์ จนกระทั่งวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) ตำรวจพบว่า เธอถูกฆ่าหั่นศพ โดยอวัยวะถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ขาของเธอถูกแช่อยู่ในตู้เย็นของบ้านครอบครัวอดีตสามี นอกจากนี้ยังเจอชิ้นเนื้อในหม้อต้มซุปอีกด้วย แต่ร่างกายส่วนศีรษะ ลำตัว แขน มือของแอบบี้ยังหาไม่เจอ โดยตอนนี้ ตำรวจได้จับตัวผู้ต้องสงสัยได้ คือ พ่อและแม่ และพี่ชายของ อเล็กซ์ กวัง (Alex Kwong) อดีตสามีของเธอที่ยังไม่พบตัว

ตำรวจเผยว่า การฆาตกรรมครั้งนี้ถูกตระเตรียมอย่างดี เนื่องจากในห้องเช่าที่พบชิ้นส่วนของแอบบี้ มีเครื่องมือที่ใช้แยกชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ทั้งเลื่อยไฟฟ้า เครื่องบดเนื้อ เสื้อกันฝนแบบยาว ถุงมือ และหน้ากากเฟซชิลด์

สำหรับปมเหตุฆาตกรรมเชื่อว่า น่าจะเกิดการขัดแย้งเรื่องมรดกและทรัพย์สินกับครอบครัวอดีตสามี เพราะ แอบบี้ ชอย มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เธอแต่งงานกับ อเล็กซ์ กวัง และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ก่อนจะจดทะเบียนหย่ากัน แต่แอบบี้ยังคงให้การช่วยเหลือครอบครัวอดีตสามีมาตลอด และซื้ออพาร์ตเมนต์ ให้พวกเขาอาศัยอยู่ โดยโอนชื่อให้พ่อของอดีตสามีเป็นเจ้าของ

ต่อมาแอบบี้ แต่งงานอีกครั้งกับหนุ่มนักธุรกิจและมีลูกด้วยกันอีก 2 คน ซึ่งปลายปีที่แล้ว แอบบี้ตั้งใจจะขายทรัพย์สิน ทำให้เกิดข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์อพาร์ตเมนต์ รวมถึงเรื่องเงินอีกหลายสิบล้านดอลลาร์ ทำให้เชื่อได้ว่า อาจเป็นชนวนเหตุความแค้นของครอบครัวอดีตสามี จึงรวมหัวก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้


ที่มา : https://www.facebook.com/104219177610338/posts/pfbid02kQqSbq3uG5JXDSkDiDGbQV7MbAh7DfXj8QSwsn3cw4rzwbGQn5vvgxrAMHqrXREcl/?mibextid=Nif5oz

‘ฮ่องกง’ ประเดิมจัด ‘สงกรานต์’ หลังชะงักไป 3 ปี พร้อมสารพัดกิจกรรม ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมไทย

ฮ่องกง, 11 เม.ย. (ซินหัว) — ประชาชนจำนวนไม่น้อยเข้าร่วมกิจกรรมสาดน้ำเคล้าเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ตามประเพณีไทย บริเวณถนนเฉิงหนาน ย่านเกาลูน เขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันอาทิตย์ (9 เม.ย.) ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่าบริเวณรอบถนนเฉิงหนานของฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็น “เสี่ยวไท่กั๋ว” (ประเทศไทยขนาดเล็ก) เนื่องจากมีชาวไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยผู้คนไม่ว่าเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่ามาจากแห่งหนไหน ต่างสาดน้ำเล่นกันอย่างคึกคัก แสดงความเบิกบานใจและส่งมอบคำอวยพรให้แก่กัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top