Friday, 19 April 2024
ปตท

ปตท. ‘ยืดหนี้ - ไม่คิดดอก’ กฟผ. หวังช่วยแบ่งเบาต้นทุนค่าไฟ

ปตท .ร่วมแบ่งเบาต้นทุนค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้ กฟผ. มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท และไม่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยล่าช้า

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แบกรับภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในการช่วยตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ตามนโยบายของภาครัฐตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์พลังงานโลกที่มีความผันผวนสูง ส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้ามีต้นทุนสูงขึ้นมาก ประกอบกับประชาชนยังคงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 จึงมีมติอนุมัติให้ ปตท. ร่วมช่วยบรรเทาภาระต้นทุนผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชน โดยการเลื่อนกำหนดชำระเงินค่าก๊าซฯ งวดเดือนพฤษภาคม 2565 มูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท ออกไปเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยไม่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยมูลค่าประมาณ 340 ล้านบาทที่จะเกิดขึ้น เพื่อมีส่วนช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับ กฟผ. ในการแบกรับต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน

“ปตท. และ กฟผ. ต่างเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน และจากวิกฤตการณ์พลังงานดังกล่าว ทั้งสององค์กรได้หารือร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากกระทรวงพลังงานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อพิจารณาการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด และคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงานของประเทศตาม พันธกิจหลักของทั้งสององค์กร” นายอรรถพล กล่าว


 ที่มา: https://www.thaipost.net/economy-news/145507/

กองทัพเรือ ร่วม ปตท. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ครั้งที่ 4

กองทัพเรือ ร่วมกับ บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ครั้งที่ 4 

วันที่ 21 มิ.ย.65 พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนกองทัพเรือ และหม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย เป็นผู้แทนบริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ระหว่างกองทัพเรือกับ บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4 โดยมีผู้บังคับบัญชา หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ และคณะทำงานของบริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม บก.กร.(1)

‘ปตท.–อินโนบิก–จุฬาฯ’ เผยผลวิจัย ‘มณีแดง’ ความหวังต้านเซลล์ชรา รับสังคมผู้สูงวัย

การชะลอความแก่ต่อสู้กับความร่วงโรยของวัย จัดเป็นหนึ่งในความปรารถนาของมนุษย์มาอย่างยาวนาน เห็นได้จากในภาพยนตร์ ละคร หนังสือนิยาย เรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีการกล่าวอ้างถึงยาอายุวัฒนะ ยาต้านความแก่ชรามากมายหลายรูปแบบ ยิ่งทุกวันนี้โลกเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว (โดยกรมกิจการผู้สูงอายุรายงานว่า สังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2568 หรืออีกเพียง 3 ปีข้างหน้า) ทำให้ยาต้านความชรายิ่งจะกลายเป็นตัวช่วยสำคัญของมนุษย์ในการต่อสู้กับความเจ็บป่วยที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

ผลงานวิจัย ‘โมเลกุลมณีแดง’ จากความร่วมมือของ ‘ปตท. – อินโนบิก – จุฬาฯ’ ได้ทำให้เรื่องยาชะลอความแก่ต้านความชรา เข้าใกล้ความจริงขึ้นมา ไม่ได้อยู่แต่เพียงในเรื่องเล่าหรือความฝันของมนุษย์อีกต่อไป โดยงานวิจัยดังกล่าวได้ค้นพบ ‘กลไกต้นน้ำของความชรา’ อันนำไปสู่การพัฒนา ‘โมเลกุลมณีแดง’ หรือ RED-GEMs (REjuvenating DNA by GEnomic Stability Molecules) ซึ่งมีบทบาทในการช่วยปกป้องดีเอ็นเอและป้องกันความแก่ชราในดีเอ็นเอ จากนั้นได้มีการทดสอบในสัตว์ คือ หนู, หมู และลิง ได้รับผลดีไม่มีผลข้างเคียง พร้อมทดสอบในมนุษย์ และเตรียมกระบวนการผลิตโมเลกุลมณีแดงสู่สังคมต่อไป

โดยล่าสุดได้มีงานแถลงข่าวและพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด พัฒนางานวิจัย ‘โมเลกุลมณีแดง’ นวัตกรรมต้านเซลล์ชรา เตรียมพร้อมทดสอบในมนุษย์ ณ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย และ ภาคเอกชนอย่าง ปตท. ในการผลักดันผลงานของนักวิจัยไทย ที่ไม่เพียงแค่การตอบโจทย์สังคมสูงวัยเท่านั้น ยังถือเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทย และตอบโจทย์เป้าหมาย New S-Curve ในการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์

ในงานดังกล่าว ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยว่า นับเป็น ‘ครั้งแรกของโลก’ จากการที่ได้ค้นพบกลไกต้นน้ำของความชราสู่การพัฒนา ‘โมเลกุลมณีแดง’ โดยทั่วไปในดีเอ็นเอจะมีรอยแยก ซึ่งมีบทบาทในการช่วยปกป้องดีเอ็นเอและป้องกันความแก่ชราในดีเอ็นเอ โดยเมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น รอยแยกดีเอ็นเอจะลดลง ทำให้เกิดแรงตึงทั่วสายของดีเอ็นเอ ดีเอ็นเอไม่สามารถหมุนตัวได้อย่างปกติ และถูกทำลายได้ง่าย เราจึงพบรอยโรคในดีเอ็นเอของเซลล์ที่แก่ชราแล้วเยอะขึ้น ซึ่งรอยโรคดีเอ็นเอนี้จะส่งสัญญาณให้เซลล์หยุดการแบ่งตัวตามปกติและเข้าสู่ความแก่ชรา รวมถึงอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์และมะเร็งได้ โมเลกุลมณีแดง คือ ยีนที่มีหน้าที่เป็นกรรไกรเพื่อสร้างรอยแยกดีเอ็นเอ เซลล์ที่ได้รับมณีแดงจะมีดีเอ็นเอที่แข็งแรงขึ้น และทำให้เซลล์ที่เสื่อมลงแล้วกลับมาดีขึ้น

ทีมวิจัยได้ทดสอบกับหนูวัยชราที่มีแผลเบาหวาน แผลไฟไหม้ พบว่าหนูวัยชรากลับเป็นหนูที่มีความแข็งแรงและกระตือรือร้นขึ้น ทั้งการทำงานของ สมอง ตับ และไต ในส่วนของไขมันในช่องท้องและพังผืดในตับได้ลดหายไปด้วย ด้านแผลเบาหวาน แผลไฟไหม้หายดี ไม่มีผลข้างเคียง นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้ทดสอบในหมูแรกเกิด และทดสอบคุณภาพเนื้อเมื่อมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม พบว่ามีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น แน่นขึ้น ปัจจุบันโครงการได้ทดสอบในลิงแสม และหนูที่เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และปอดเป็นพังผืด ขณะนี้ได้ทดสอบมณีแดงกับลิงแสมแล้ว 3 เข็มในระยะเวลา 3 สัปดาห์ จากที่วางแผนไว้ 8 เข็ม ในระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยลิงแสมทุกตัวปลอดภัยดี และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

‘CPN’ ผนึก ‘ปตท.-อีโวลท์’ ทุ่ม 200 ล้าน ผุดที่ชาร์จรถอีวีในเซ็นทรัล 37 แห่งทั่วปท.

เซ็นทรัลพัฒนาจับมือกลุ่ม ปตท.ภายใต้แบรนด์ ‘ออน-ไอออน’ (on-ion) เดินหน้า The Future of eMobility Lifestyle อัดงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทขยายความร่วมมือให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (on-ion EV Charging Station) ในศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนากว่า 350 ช่องจอด นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วย บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด ร่วมขยายสถานีกว่า 50 ช่องจอด รวมกว่า 400 ช่องจอด ภายในสิ้นปี 2565 นี้

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อตอบรับเทรนด์ EV ที่คนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจพลังงานรายใหญ่ ร่วมขยายสถานีฯ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลกว่า 400 ช่องจอดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดและเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มศูนย์การค้าของไทย โดยเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2565 ตอบรับการเดินทางในทุกๆ วัน (short haul) หรือจะเดินทางแบบเมืองเชื่อมเมือง (long haul) สะท้อนความเป็นศูนย์กลางของทุกจังหวัด ท่องเที่ยวได้จากเหนือจดใต้ ผ่าน 37 สาขา กว่า 18 จังหวัดทั่วประเทศ

สำหรับความโดดเด่นของจุดชาร์จรถไฟฟ้าในเซ็นทรัล คือ... 

1.) จุดชาร์จครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เกิด Worry-Free Journey การเดินทางแบบไร้กังวล

2.) ความสะดวกสบาย ชาร์จไฟกับรถยนต์ได้ทุกแบรนด์ ทุกค่าย

3.) สถานที่และระบบชาร์จมีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง

4.) ได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกลุ่มเซ็นทรัล ส่งเสริม Eco-lifestyle Marketing ทั้งโปรโมชัน และส่วนลด เช่น ชาร์จฟรี 1 ชั่วโมงแรก เมื่อช้อปในศูนย์การค้าครบ 800 บาท สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด เฉพาะ 1 เดือนแรก เพื่อสนับสนุนการใช้รถ EV ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทย และร่วมกันดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดตามดีมานด์ของลูกค้าในอนาคต และขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ที่อยู่อาศัย, โรงแรม และอาคารสำนักงานโดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการลดการปลดปล่อยก๊าซ CO2 ให้ประเทศไทยได้มากกว่า 5,250 ตันต่อปี 

ขณะที่ นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. โดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ได้ขยายสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion EV Charging Station) บนทำเลศักยภาพร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา รองรับการเติบโตของตลาด EV ให้พลังงานทางเลือกอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด ในรูปแบบของ ‘Green Charging Network’ ผ่าน on-ion Mobile Application

ท่ามกลางวิกฤติราคาพลังงานที่แผ่ขยายไปทั้่วโลก หลากหลายมาตรการถูกงัดมาใช้รับมืออย่างเต็มที่ ประเทศไหนทำอะไรบ้าง ไปดูกัน

จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียได้ตอบโต้โดยการไม่ส่งก๊าซธรรรมชาติและน้ำมันไปให้ในหลายประเทศยุโรป ส่งผลให้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรปและส่งผลกระทบไปทั่วโลกในขณะนี้ 

แม้กระทั่งประเทศในภูมิภาคเอเชีย ต่างก็เผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติการณ์พลังงานครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ในบางประเทศราคาพลังงานพุ่งสูงเป็นประวัติการ รวมถึงขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันอย่างหนัก ยกตัวอย่าง เช่น ศรีลังกา เป็นต้น

แน่นอนว่า วิกฤติราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายๆ ประเทศ จึงมีมาตรการประหยัดพลังงานออกมาช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ไทย – รณรงค์ประหยัดพลังงานผ่านแนวทาง 4ป. 3ช.

สำหรับประเทศไทยเอง มีมาตรการด้านการประหยัดพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การกำหนดมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้า เบอร์ 5 

ล่าสุด ภายใต้แคมเปญ 'ทราบแล้วเปลี่ยน' เป็นการรณรงค์ให้ทุกคนประหยัดพลังงาน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สื่อสารออกมาตรงๆ เลยว่า “ไม่ต้องประหยัดพลังงานเพื่อใคร ให้ประหยัดพลังงานเพื่อตนเอง” 

โดยแนะนำเคล็ดลับประหยัดพลังงานที่เรียกว่า 4 ป. 3 ช. ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล ดังนี้...

>> 4 ป. ได้แก่ ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก เปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 
>> และ 3 ช. ได้แก่ เช็กรถ ชัวร์เส้นทาง ใช้รถสาธารณะ

แคนาดา-จัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน

รัฐบาลแคนาดา ได้จัดทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่าง ๆ ให้ออกมาตรการประหยัดพลังงานของอาคาร และอุปกรณ์พลังงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ 

ขณะที่ในภาคขนส่งได้ออกกฎหมาย (Green Lavy) เพื่อจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน เช่น รถประเภท Station Wagons รถเอสยูวี เป็นต้น โดยการคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถดังกล่าว

ฝรั่งเศส-ห้ามเปิดไฟป้ายโฆษณาช่วงตี 1 ถึง 6 โมงเช้า

เนื่องจากฝรั่งเศสพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียถึง 1 ใน 5 ดังนั้นเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศแผนพลังงาน energy sobriety โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการร่างแผนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดมาตรการประหยัดพลังงานในฝรั่งเศส โดยตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2019 ภายในปี 2024

นอกจากนี้ รัฐบาลยังออกมาตรการประหยัดพลังงานโดยให้ห้างร้านต่างๆ ร่วมมือกันปิดประตูเข้าออก ในขณะเปิดเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน และห้ามเปิดใช้ป้ายโฆษณาที่ใช้ไฟส่องสว่างในทุกเมืองระหว่างช่วงเวลา 1.00 น. ถึง 6.00 น. ซึ่งเป็นมาตรการที่บังคับใช้กับเมืองที่มีประชากรน้อยกว่า 800,000 คน 

เยอรมนี-อาคารสาธารณะ ห้ามเปิดฮีตเตอร์เกิน 19 องศา

ภายหลังสหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เยอรมนีปรับลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียลงเหลือเพียง 35% จากเดิมที่พึ่งพาการนำเข้ามากถึง 55% พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะยุติการนำเข้าทั้งหมด แน่นอนว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อพลังงานภายในประเทศอย่างหนัก และรัฐบาลได้ออกมาตรการประหยัดพลังงานสำหรับช่วงฤดูหนาว โดยจะจำกัดการใช้ไฟฟ้าภายในอาคารสาธารณะและอาคารสำนักงานต่างๆ ให้ปิดเครื่องทำความร้อนในห้องที่ไม่คนใช้งาน 

และนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป อาคารสาธารณะนอกเหนือจากโรงพยาบาล จะต้องจำกัดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อนอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส

สเปน-แนะเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงาน ช่วยประหยัดพลังงาน 

นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของประเทศสเปน เรียกร้องให้รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ และพนักงานบริษัทเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงการรณรงค์ให้บริษัทต่าง ๆ ปิดประตูเพื่อกันความร้อนจากอากาศด้านนอกเข้ามาภายในอาคาร ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

อินเดีย-สิ่งปลูกสร้างใหม่ ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
.
รัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาตรการสำหรับการปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยใหม่ โดยจะกำหนดให้ อาคารที่พักอาศัยปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งคาดว่าจะประหยัดไฟฟฟ้าได้ราว 120,000 ล้านรูปี ภายในยปี 2573 เพื่อลดการผลิตไฟฟ้า 3 แสนล้านหน่วย

กลุ่ม ปตท. มอบบัตรเติมน้ำมัน 200,000 บาท สนับสนุน กทม. ทำงานบรรเทาเหตุน้ำท่วม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 200,000 บาท ในนามกลุ่ม ปตท. แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กลางขวา) เพื่อสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานครในการช่วยเหลือเหตุอุทกภัย และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กทม.

โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวด้วยว่า ปตท. ถือเป็นส่วนสำคัญของเมือง ทั้งในเรื่องการสร้างงานและเศรษฐกิจ ต้องขอขอบคุณทาง ปตท. เป็นอย่างมากที่ช่วย กทม. มาตลอด และหวังว่าจะร่วมมือกันต่อไป

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวถึงโครงการ Saturday School Bangkok ซึ่งขณะนี้เปิดรับคุณครูอาสา (Volunteer Teacher) พร้อมเชิญชวนพนักงาน ปตท. มาช่วยสอนภาษาอังกฤษ สอนเรื่องพลังงาน เรื่องแยกขยะ ฯลฯ เพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจปัญหาสังคม เข้าถึงเด็กๆ และได้ร่วมแบ่งปันโอกาสให้น้อง ๆ อีกด้วย

คน ปตท. ตั้งเป้าบรรจุ 10,000 ถุงยังชีพ ส่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโนรู

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ในนาม ‘ชมรมพลังไทยใจอาสา กลุ่ม ปตท.’ ร่วมบรรจุถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลพายุโนรู ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ได้แก่ เทศบาลตำบลวารินชำราบ, อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1,000 ถุง พร้อมส่งทีมปฏิบัติการชมรม PTT Group SEALs เจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนและอุปกรณ์กู้ภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 

นอกจากนั้นจะนำส่งที่ ตำบลท่ามะนาว อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จำนวน 500 ถุง โดยในปี 2565 นี้ ปตท. มีแผนการดำเนินการแจกจ่ายถุงยังชีพเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนกว่า 10,000 ถุง โดยถุงยังชีพประกอบด้วย อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและสามารถใช้ได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเบื้องต้น

ปตท.สุดเจ๋ง!! ต่อยอดโรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง เปลี่ยนสถานะก๊าซฯ จากการผลิตใช้ปลูกพืชเมืองหนาว

ปตท. คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี พ.ศ. 2565 ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม สะท้อนการดำเนินงานที่เป็นเลิศ สนับสนุนนโยบายรัฐอย่างต่อเนื่อง 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม ประจำปี พ.ศ. 2565 แก่ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในโอกาสที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ผ่านการตรวจประเมินและได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าและเป็นกำลังใจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ ทำเนียบรัฐบาล

โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ได้ดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาอย่างต่อเนื่องทั้งภาคพลังงานและภาคสังคม ด้วยการสร้างนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกภาคส่วน โดยล่าสุดได้ใช้องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมนำความเย็นที่เกิดจากกระบวนเปลี่ยนสถานะของก๊าซฯ จากกระบวนการผลิตมาปรับใช้เพาะปลูกพืชเมืองหนาว คือ สตรอว์เบอรี่พันธุ์ Akihime ที่โรงเรือนอัจฉริยะ ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ จ.ระยอง ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี อันเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ทั้งด้านเกษตรวิศวกรรม เทคโนโลยีการปลูกสู่เกษตรกรในพื้นที่ จ.ระยอง

อนึ่ง ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ของ ปตท. ‘ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต’ หรือ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond’ ปตท. พร้อมเป็นฟันเฟืองสนับสนุนนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ  สร้างคุณค่าต่อสังคมไทยและประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ปตท. ผนึก ‘ม.เชียงใหม่-ซีพีพี’ แปลงของเสียเป็นพลังงาน ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก พาไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ปตท. ลงนาม MOU ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ บริษัท ซีพีพี ในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

นายณรงค์ไชย ปัญญไพโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) กับ ดร.พฤกษ์ อักกะรังสี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ คุณอานนท์ฤทธิ์ธาร ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ ผู้แทนจากบริษัท ซีพีพี จำกัด 

สำหรับการลงนามความร่วมมือดังกล่าว เป็นการต่อยอดจากการพัฒนาก๊าซไบโอมีเทนอัดจากน้ำเสียและของเสียโรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ของ บริษัท ซีพีพี โดยการกักเก็บก๊าซมีเทนจากการบำบัดน้ำเสียแบบไร้อากาศ มาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซ NGV ในสถานีบริการ NGV ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันได้ต่อยอดความร่วมมือ เพื่อขอการรับรองคาร์บอนเครดิต ในโครงการ T-VER ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำของประเทศอย่างแข็งแรงและยั่งยืนตลอดไป

‘บิ๊กพลังงาน’ ผนึก TCNN พาไทยสู่ Net Zero ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์

กลุ่ม ปตท. ผนึกกำลังเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ยกระดับลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมขับเคลื่อนประเทศมุ่งสู่ Net Zero 

ไม่นานมานี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network หรือ TCNN) ได้เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรรมการเครือข่ายฯ (Council Board) ประจำปี 2565 

โดยในงานนี้มี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน), นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรรมการเครือข่ายฯ และผู้บริหารกลุ่ม ปตท. เข้าร่วมการประชุม เพื่อสรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการฯ ยังได้หารือถึงแผนการดำเนินงานให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ของ TCNN ในการเป็น ‘เครือข่ายแกนนำของประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero’ อีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top