Monday, 6 May 2024
ธนาธร_จึงรุ่งเรืองกิจ

'ธนาธร'​ ย้อน​รำลึก​ 45 ปี 6 ตุลา 19 บทเรียนจากอดีต ชนชั้นนำไทยไม่ยอมเรียนรู้ แม้โลกเปลี่ยน

6​ ต.ค. 64​ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก​ 'Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ'​ ระบุว่า... 

(45 ปี 6 ตุลา 19 : บทเรียนจากอดีตที่ชนชั้นนำไทยไม่ยอมเรียนรู้ ในวันที่โลกไม่เหมือนเดิม)​

“6 ตุลา 2519 นี่คือผลของการผลักเขาออกไปแล้วไม่มีใครได้อะไร เราต้องส่งเสียงไปถึงชนชั้นนำ ส่งเสียงไปถึงกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่ถือครองอำนาจในประเทศนี้ ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว จิตวิญญาณของยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนในสังคมสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้รวดเร็วฉับไว ไม่มีทางที่คุณจะฉีกประวัติศาสตร์หน้าใดหน้าหนึ่งจากสังคมไทยได้อีก

เหมือนที่ยุคหนึ่งคุณทำให้ประชาชน ลืมเหตุการณ์ 6 ตุลา ไป เหตุการณ์ 6 ตุลาไม่เคยอยู่ในหนังสือเรียน 24 มิถุนา 2475 ไม่เคยอยู่ในหนังสือเรียน พวกเขาต้องการลบประวัติศาสตร์เหล่านี้ออกไป แล้วเขียนเล่านิทานว่าประเทศไทยมีความสุขสงบ แต่ภายใต้ความสุขสงบที่ชนชั้นนำให้เราเชื่อ มันเต็มไปด้วยความอยุติธรรม ความเอารัดเอาเปรียบระหว่างชนชั้น คุณต้องปรับตัวตามโลกที่เปลี่ยนไป อะไรที่มันไม่สามารถปรับตัวตามโลกได้มันก็ต้องย่อมหายไปตามธรรมชาติ

ยุคนี้เป็นยุคที่มีคดีความทางการเมืองมากที่สุด มีการถูกตั้งข้อหาคดีชุมนุม คดี 112 คดี พ.ร.บ.โรคระบาด เรียกว่ามีคดีทางการเมืองที่มากที่สุด มากกว่ายุคสมัยใด มันแสดงให้เห็นว่าชนชั้นนำกำลังหวาดกลัวและไม่รู้จะจัดการกับคลื่นกระแสความคิดใหม่อย่างไร สิ่งที่ทำคือไล่ฟ้อง ไล่จับ ไล่ขังประชาชน การทำแบบนี้ยิ่งจะทำให้เกิดความโกรธแค้น ยิ่งจะทำให้พวกเขาสุดโต่ง ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดี

'ธนาธร' เผย ถ้าได้เป็นนายกฯ จะไม่ทอดทิ้งเพื่อนบ้าน ลั่น!! มีผู้ลำบากอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือ

13 เม.ย. 65 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า สงกรานต์ปีนี้ ผมได้ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอีกหลายหมื่นหลายแสนครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกันด้วยภัยสงคราม

หลายเดือนที่ผ่านมา ผมดีใจที่เห็นพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมากออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับสงครามยูเครนอย่างเปิดเผย

คนจำนวนมากชื่นชมกับความพยายามของคนยูเครนที่จะปกป้องอธิปไตย บ้านเกิดและครอบครัวของพวกเขา ยืนหยัดต่อสู้กับผู้รุกราน

ประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องกับความอหังการของมหาอำนาจคนใด ตายเกลื่อนถนน นักแสดงลุกขึ้นมาจับปืน ประชาชนกลายเป็นนักรบ พ่อแม่พาลูกทิ้งบ้าน หนีตายอพยพไปประเทศอื่น ตึกรามบ้านช่องกลายเป็นซากปรักหักพัง ทั้งหมดนี้เป็นภาพที่เราเห็นจากยูเครน

จนวันนี้ มีคนยูเครนมากกว่า 4 ล้านคนอพยพทิ้งบ้านตัวเองเพื่อเอาตัวรอดจากสงครามไปแล้ว

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ยังมีสงคราม และผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม อยู่ใกล้เรามากกว่ายูเครนมากนัก

เพียงแค่ข้ามชายแดน

ที่ริมแม่น้ำเมยและริมแม่น้ำสาละวิน มีผู้หนีตายจากสงครามกลางเมืองเมียนมาอยู่หลายหมื่นคน

พวกเขาเหล่านี้ คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามอย่างบ้าคลั่งที่มีต่อประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา

นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ประชาชนหลายล้านคนลุกขึ้นมาต่อต้านเผด็จการด้วยความหวังถึงสังคมประชาธิปไตย สังคมที่ดีกว่า

พวกเขาถูกปราบปราม พวกเขาถูกเข่นฆ่าอย่างเลือดเย็น

ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นจับอาวุธร่วมกับกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์

รัฐบาลทหารปราบปรามกลุ่มต่อต้านอย่างหนักด้วยอาวุธสงคราม และด้วยการโจมตีทางอากาศ ประชาชนจำนวนมากบ้านแตกสาแหรกขาด จำต้องทิ้งบ้านเกิด หาที่ปลอดภัยซุกหัวนอน

รัฐบาลโปแลนด์ เพื่อนบ้านยูเครนเปิดประเทศต้อนรับผู้อพยพ ประชาชนชาวโปแลนด์ช่วยกันหาอาหารและเสื้อผ้าสนับสนุนประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลโปแลนด์ให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเข้าถึงการแพทย์ การศึกษา และหางานได้ในโปแลนด์

เมื่อผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาหาที่ปลอดภัยซุกหัวนอน หวังพึ่งฝั่งไทย สิ่งที่รัฐบาลเราทำกลับเป็นการผลักไสไล่ส่งพวกเขาออกไป ด้วยข้ออ้างโควิด และข้ออ้างว่าผู้ลี้ภัยสมัครใจกลับเอง ทั้งที่องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรการกุศลหลายหน่วยงานที่ผมพูดคุยด้วย ให้ข้อมูลตรงกันว่าชาวพม่าที่พยายามหลบภัยสงครามข้ามแดนมาฝั่งไทย ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกดดันให้กลับไปฝั่งพม่าทั้งหมด หรืออย่างดีที่สุดก็ค้างคืนกันบนเกาะกลางแม่น้ำหรือริมตลิ่ง ชิดพรมแดนไทย

ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ เข้าไม่ถึงน้ำประปา ห้องน้ำสะอาด หมอพยาบาล และหยูกยา เด็กๆ ไม่ได้รับการศึกษา อยู่อาศัยในเพิงพักที่สร้างตามมีตามเกิดริมฝั่งน้ำ ไม่รู้ชะตากรรมว่าเมื่อไหร่สงครามจะสงบ เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สมาชิกในครอบครัวของเขาที่ถูกฆ่าตายจะได้รับความเป็นธรรม

ฤดูฝนกำลังจะมา ผมนึกไม่ออกว่าพวกเขาจะอยู่กินหลับนอนกันอย่างไร

ในโลกของเผด็จการ ชีวิตประชาชนคนธรรมดาราคาถูกเสมอ ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรียงไกรของผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีคนธรรมดาอยู่ในนั้น

'ดร.นิว' เผย 10 เหตุผล 'ธนาธร' โดน ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ ชี้!! มีเจตนาบิดเบือนข้อมูล-โจมตีกระทบถึงสถาบันฯ 

'ดร.นิว' ยกเหตุ 10 ข้อ ทำไม'ธนาธร'ถึงโดน ม.112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชี้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลโจมตีบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ให้กระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ สอดรับการเคลื่อนไหวเครือข่ายม็อบสามนิ้วล้มล้างการปกครอง

13 เม.ย. 65 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์รข้อความในเฟซบุ๊ก หัวข้อ ทำไมนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงโดน ม.112 พร้อมกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ? มีรายละเอียดดังนี้

1.) หัวข้อการไลฟ์สด "วัคซีนพระราชทาน: ใครได้-ใครเสีย?" ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการประดิษฐ์วาทกรรม "วัคซีนพระราชทาน" เพื่อเชื่อมโยงและบิดเบือนให้ร้ายพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่วัคซีนดังกล่าวไม่ได้จัดว่าเป็นวัคซีนพระราชทานแต่ประการใด การแอบอ้างใช้คำว่า "พระราชทาน" ของนายธนาธรจึงเป็นข้อความอันเป็นเท็จ และเป็นการกระทำความผิดโดยเจตนา

2.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ (Siam Bioscience) เป็นบริษัทเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นฐานในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลกของประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็น "...บริษัทที่มีในหลวง ร.10 ถือหุ้นอยู่ 100%..." ตามที่นายธนาธรพยายามเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ประการใด

(2.1.) บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ที่สามารถรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าได้

(2.2.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ มีโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหลายรายการ เช่น PIC/S GMP, ISO9001, ISO17025 และ ISO13485

(2.3.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ มีกำลังการผลิตที่สูงถึง 200 ล้านโดสต่อปี สอดคล้องกับความต้องการผลิตวัคซีนจำนวนมากของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า

(2.4.) บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ดำเนินการผลิตวัคซีนโดยยึดนโยบาย "ไม่กำไร ไม่ขาดทุน" ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิดนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า

3.) นายธนาธรกล่าวโกหกบิดเบือน "...ตั้งใจตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตยา ไม่ใช่ผลิตวัคซีนนะครับ..."
แม้ว่าบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์จะไม่ได้ผลิตวัคซีนโดยตรง แต่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มีเทคโนโลยีชั้นสูงที่ก้าวหน้าและทันสมัย สามารถผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงนำมาใช้ผลิตวัคซีนโควิด-19 แบบไวรัสเวกเตอร์ (Viral vector) ของบริษัทแอสตร้าเซเนก้าได้อีกด้วย

4.) นายธนาธร กล่าวด้อยค่าโจมตี "...บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์และบริษัทในเครือ ตั้งแต่ตั้งขึ้นมา เมื่อปี 2552 ยังไม่เห็นบริษัทไหนเลยที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างชัดเจน ทุกบริษัทมียอดขาดทุนสะสมเกือบทั้งหมด..."
การขาดทุนของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มาจากการลงทุนในเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งมีกำลังการผลิตที่สูงถึงหลายร้อยล้านโดสต่อปี จึงไม่แปลกที่จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะก่อตั้งขึ้นใน ปี พ.ศ. 2552 โดยเริ่มการผลิตและการขายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 อีกทั้งยังมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้รับยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง

นอกจากวัคซีนโควิด-19 แบบไวรัสเวกเตอร์ (Viral vector) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) สำคัญที่ทางบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการรับรองและผลิตอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ยาฮอร์โมนอีริโทโพอิติน (Erythropoietin) สำหรับกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง รักษาภาวะโลหิตจางจากไตวายเรื้อรัง และยาฟิลกราสทิม (Filgrastim) สำหรับกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวควบคู่กับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง สร้างความมั่นคงทางยา และดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

'ธันวา' ตอก 'ธนาธร' เลือกวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล แต่ทำไมต้องโยงไปหาสถาบันพระมหากษัตริย์

7 มิ.ย. 2565 - นายธันวา​ ไกรฤกษ์​ ทีมโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย​ โพสต์เฟซบุ๊กว่าคดีไลฟ์สดวัคซีนพระราชทาน ถูกใช้เป็นข้อหาการเมือง ปิดปากคนวิจารณ์รัฐบาลประยุทธ์ ???

..คุณธนาธรบอกการใช้ม.112 ในยุคปัจจุบันก็เพื่อหยุดการวิพากษ์วิจารณ์คนที่ต่อต้านรัฐบาล เพื่อรักษาอำนาจของลุงตู่ โดยต้องแลกด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น

หากเป็นเช่นนั้นจริง ผมคงโดนมาตรา 112 เล่นงานด้วยแล้วครับ เพราะผมโพสต์ด่ารัฐบาลเรื่องวัคซีนโควิด เรื่องเตียง เรื่องยา เรื่องการนำส่งผู้ป่วย ทุกวัน ออกข่าวเป็น 10 ครั้ง

ที่ต่างกันคือผมไม่ได้เอาไปโยงกับสถาบัน

คุณต้องยอมรับก่อนว่าคุณต้องการจะวิพากษ์วิจารณ์เฉพาะรัฐบาล หรือคุณต้องการจะเชื่อมโยงไปถึงสถาบัน เพื่อให้สังคมเกิดข้อครหา ด้วย

หากคุณไม่เริ่มต้นจากการยอมรับแล้ว ประเด็นมันก็จะผิดเพี้ยนไปอย่างที่กำลังกล่าวอยู่ว่ารัฐบาลใช้มาตรา 112 ปิดปากคน

'ธนาธร' ควงนายก อบต. ก้าวหน้า เปิดตัวสนามแข่งวิ่งเทรลเขาค้อ หวังสร้าง 'ชาโมนีส์เมืองไทย' ดึงรายได้เข้าชุมชน

ธนาธรพร้อมนายก อบต. คณะก้าวหน้า ร่วมงานเปิดตัวสนามแข่งวิ่งเทรล ในพื้นที่ชุมชนม้งที่ใหญ่ที่สุดในไทย ที่เขาค้อ หวังดึงรายได้เข้าชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจและอาชีพโดยไม่รบกวนธรรมชาติ 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนราพงษ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ นายก อบต. เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ร่วมกิจกรรมพูดคุยและเปิดตัวสนามแข่งวิ่งเทรล La Sportiva Kheknoi Ultra Trail ซึ่งจัดโดย ลา สปอร์ติวา แบรนด์อุปกรณ์กีฬาและการผจญภัยสัญชาติอิตาลี ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของสนามแข่งนี้ 

ธนาธรพูดถึงความสำคัญของรัฐในการสนับสนุนให้ประชาชนได้เล่นกีฬา และออกกำลังกาย ในฐานะหนึ่งในการรับมือสังคมสูงวัย เพราะประชากรที่ออกกำลังสม่ำเสมอ จะแก่ตัวอย่างมีคุณภาพ แข็งแรง ไม่เป็นโรคภัยร้ายแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมกีฬายังสามารถสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ทำให้คณะก้าวหน้าสนับสนุนให้ท้องถิ่นหลายแห่งที่ทำงานร่วมกัน และพื้นที่มีศักยภาพ คิดจัดอีเวนท์แข่งขัน หนึ่งในนั้นก็คืออบต. เข็กน้อย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขาค้อ มีสภาพธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ สวยงาม และเส้นทางขึ้นลงเขาท้าทายนักแข่งอย่างมาก โดยศักยภาพพื้นที่สามารถเป็น 'ชาโมนีส์เมืองไทย' หรือเป็นเมืองหลวงแห่งกิจกรรมท่องเที่ยวกีฬาเชิงผจญภัย เหมือนกับที่เมืองชาโมนีส์ของฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของกิจกรรมผจญภัยแห่งยุโรปและของโลก

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรม ม.112 ซัด แค่หาทางลงให้ตนเอง อย่าอ้างคนส่วนใหญ่

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรมคดี ม.112 อย่าเอาความต้องการของตัวเองมาอ้างว่าเป็นความเห็นคนส่วนใหญ่ ลั่นคนติดคุกเพราะจงใจจาบจ้วงสถาบัน อัดถ้าไม่อยากอยู่ก็ออกไป ไม่ใช่ชักศึกเข้าบ้าน ชี้นิสัยคนไทย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่ใช่กล้าทำแล้วค่อยหนีไปต่างประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เสนอนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 พร้อมทั้งระบุว่า การพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันเป็นเสรีภาพที่ทำได้ ไม่ใช่อาชญากรรมว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่จำเป็นต้องนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 เพราะไม่มีใครต้องมาติดคุกเพราะจาบจ้วงสถาบัน แต่ปัจจุบันที่มีก็เพราะคนบางกลุ่มมักไปปลุกปั่นเยาวชนด้วยชุดข้อมูลผิด ๆ ดังนั้น การที่มีคนติดคุกตามมาตรา 112 อยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะคนเหล่านั้นจงใจจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปเลย แยกแยะให้ออก

‘ธนาธร’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ เปิดตัวกับ รทสช.เป็นเรื่องดี พร้อมเหน็บ อย่าหนีเวทีดีเบตเหมือนปี 62

‘ธนาธร’ ให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครส.ส.ก้าวไกล เชื่อ ได้ส.ส. เขตมากกว่า อนาคตใหม่ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ เปิดตัวกับ รทสช.เป็นเรื่องดี ช่วยปปช.ตัดสินใจง่าย เหน็บอย่าหนีดิเบตเหมือนปี 62  อยากเห็น ‘ประยุทธ์-พิธา’ ประชันวิสัยทัศน์กัน

(9 ม.ค. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้กำลังว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยระบุว่าตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกลมาตลอด ทั้งการทำหน้าที่ของส.ส. ในสภา และกิจกรรมเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งเติบโตขึ้นกว่าในยุคของอนาคตใหม่อย่างเห็นได้ชัด จากการที่พรรคก้าวไกลได้ทำงานพิสูจน์ตัวเองตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ว่าเป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้จริง และมีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคงไม่ทอดทิ้งประชาชน

สถานทูตอิหร่านสวน 'ธนาธร' สอดเหตุประท้วงภายใน ด้านชาวเน็ตฟาดแรง!! "อยู่เฉยๆ จะตายหรือไง"

'ธนาธร' จุ้นประท้วงอิหร่าน ฟากสถานเอกอัครราชทูตรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย สวนกลับหน้าชา ฝั่งชาวเน็ตฟาดแรงอยู่เฉยๆ จะตายหรือไง

(4 ก.พ.66) TopNews เผยพฤติกรรมชักศึกเข้าบ้านอีกครั้ง สำหรับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงการกรณีชาวอิหร่านเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านรัฐบาล โดยนายธนาธร ระบุว่า ตนเองขอยืนเคียงข้างชาวอิหร่านที่ต่อสู้กับเผด็จการ พร้อมอ้างว่าตนเองก็กำลังต่อสู่แบบเดียวกันที่ประเทศไทย และยังชวนให้ลงชื่อสนับสนุนชาวอิหร่าน

อย่างไรก็ตามปรากฏว่า แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของสถานเอกอัครราชทูตรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย ได้เข้ามาทวิตข้อความตอบกลับโพสต์ดังกล่าวของนายธนาธรว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรกว่า 400 ปีระหว่างอิหร่านกับไทย มีความแน่นแฟ้นเกินกว่าผลกระทบจากเกมการเมือง และการเลือกตั้ง ด้วยความเคารพต่อประชาชนผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย เรามั่นใจว่าการแสดงออกทางการเมืองดังกล่าว ไม่สามารถมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศได้

‘ธนาธร’ ลุยหาเสียงสมุทรปราการ ชู ‘ก้าวไกล’ เป็นพรรคกล้าปฏิรูปชนต้นตอปัญหา

ธนาธร-ไอติม’ นำทัพผู้สมัครก้าวไกลสมุทรปราการ 8 เขตขึ้นรถลงเรือเดินตลาด ได้เสียงตอบรับล้นหลาม ‘ธนาธร’ ชี้ ประเทศไทยจะไปต่อ ต้องเปลี่ยนการเมือง ยก ‘ก้าวไกล’ กล้าปฏิรูปชนต้นตอปัญหา ปลุกอำนาจอยู่ในบัตรเลือกตั้ง ส่งต่อสังคมที่ดีกว่าให้คนรุ่นหลัง 

(23 มี.ค.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ตลอดทั้งวัน

เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ ธนาธรและพริษฐ์ เดินชุมชนพบปะพูดคุยกับประชาชนภายในหมู่บ้านสยามนิเวศน์ 1 และ 2 ร่วมกับ บุญเลิศ แสงพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 ก่อนเดินทางมายังตลาดเทศบาลเมืองพระประแดง ร่วมเดินหาเสียงพบปะชาวตลาดและชุมชนกับ วีรภัทร คันธะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 6

จากนั้นช่วงบ่าย เดินทางไปยังตลาดปากน้ำและชุมชนโดยรอบ ร่วมกับ พนิดา มงคลสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 และ รัชนก สุขประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 ก่อนร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงที่ อ.สำโรง ร่วมกับ พิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 3, วุฒินันท์ บุญชู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 4, นิตยา มีศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 และ ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 8

ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย ธนาธร ระบุว่าวันนี้ตนเดินตลาดมาทั้งวัน ก่อนหน้านี้ก็ได้เดินตลาดมาในทุกภาค พ่อค้าแม่ขายและประชาชนทุกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไปต่อไม่ไหวแล้ว นี่คือผลพวงจากวิกฤติโควิดที่ไม่ได้เป็นความผิดของประชาชนเลย และนี่ยิ่งเป็นเหตุผลให้ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นมา เพราะหากประชาชนอยู่ในสภาพอ่อนล้าเช่นนี้ ประเทศชาติจะเข้มแข็งได้อย่างไร

ประเทศไทยไม่สามารถสร้างอนาคตจากการแจกเงินอย่างเดียว แต่ต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่มาสร้างงานให้ประชาชน รองรับคนจบการศึกษาใหม่ปีละ 7-8 แสนตำแหน่ง ทุกวันนี้อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้งยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนแต่ไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมของคนไทย และไม่สามารถพาประเทศไปไกลกว่านี้แล้ว ประเทศไทยสามารถสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองได้มากมายจากปัญหาที่ดำรงอยู่ เช่น รถเมล์ไฟฟ้า เพื่อแก้ทั้งปัญหามลพิษ การจราจร และการเข้าไม่ถึงระบบขนส่งสาธารณะของคนไทย ไปได้พร้อมๆ กัน เป็นต้น

ธนาธรกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าการเมืองยังเป็นแบบนี้อยู่ จะสร้างสังคมและประเทศไทยที่มีอนาคต จะต้องมีการปฏิรูปในเรื่องยากๆ ในเรื่องที่จะต้องเจอตอ เช่น การปฏิรูปกองทัพ การต่อสู้กับทุนผูกขาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ และวันนี้พรรคที่ตนเห็นว่ามีเจตจำนงปฏิรูปในเรื่องยากๆ กล้าชนปัญหาที่ต้นตอแบบนี้ ก็มีอยู่เพียงพรรคเดียวเท่านั้นคือพรรคก้าวไกล

‘ธนาธร’ ปราศรัยอุบลฯ ขอแรงกา ‘ก้าวไกล’ ลั่น ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงประเทศ - ปฏิรูปกองทัพ

‘ธนาธร’ ปราศรัยอุบลฯ ชวนประชาชน เลือกตั้งทั้งที กาให้ดีไม่เสียของ กาก้าวไกลไปเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

(27 มี.ค.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มต้นที่อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล อำเภอตระการพืชผล อำเภอพิบูลมังสาหาร และอำเภอเมืองอุบลราชธานีเป็นจุดสุดท้าย ระหว่างการลงพื้นที่ ได้ร่วมกิจกรรมหลากหลายเพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และช่วยหาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคก้าวไกล

ช่วงเช้า ธนาธร พร้อมด้วย ชิราวุธ แก้วชิณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 6 พรรคก้าวไกล ร่วมเสวนากับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ บริเวณร้านนาตาลแคมป์ปิ้ง อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลฯ โดยระบุว่า อุบลราชธานีเป็นเมืองที่มีศักยภาพ หากสามารถเชื่อมโยงการขนส่งภายในจังหวัด และผลักดันให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างอำเภอได้ จะช่วยสร้างเม็ดเงินและกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการรายย่อย ยกตัวอย่างเช่นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ทั้งหาดชมดาว สามพันโบก ผาแต้ม ช่องเม็ก จนถึงอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแต่ยังขาดการสนับสนุน หากพัฒนาการท่องเที่ยวของอุบลฯ ได้ จะสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่

จากนั้น ธนาธร พร้อมด้วย เพทาย ศรีสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 5 เดินทางต่อไปยังเวทีปราศรัยย่อยอำเภอตระการพืชผล พูดถึงนโยบายแก้ปัญหาปากท้องและปฏิรูปที่ดินทำกิน ต่อด้วยเวทีปราศรัยย่อยที่วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เดินทางมาฟังการปราศรัยทั้งจากตัวอำเภอและจากอำเภอข้างเคียง โดยธนาธร กล่าวว่า อุบลราชธานีเป็นโรงเรียนทางการเมืองของตน  เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาได้ร่วมรับฟังปัญหาการก่อสร้างเขื่อนปากมูล ทำให้เกิดความสนใจปัญหาการเมืองและโครงสร้างสังคม ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ต่อมา ธนาธร พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ได้ขึ้นรถซาเล้ง แห่หาเสียงไปรอบเมืองพิบูลมังสาหาร เพื่อเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยใหญ่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 11 เขต ที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ก่อนเริ่มต้นการปราศรัยใหญ่ ธนาธรยังได้ร่วมเสวนากับศิลปิน เยาวชนคนรุ่นใหม่ ณ ร้านส่งสาร อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยย้ำว่านโยบายของพรรคก้าวไกลที่ประกาศออกมา จะมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยให้เข้มแข็ง แข่งขันกับทุนใหญ่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top