Saturday, 20 April 2024
ฉะเชิงเทรา

นายก ไก่ ติวเข้มคนอบจ.ฉะเชิงเทรา ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน

วันที่ 23 มี.ค. 2564 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบาย ให้แก่บุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายรัฐสภา นพเกตุ  นายวรรณา รอดพิทักษ์ รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา / นายทรัพย์ทวี กุลสารี ที่ปรึกษานายก อบจ.ฉะเชิงเทรา / นายมณฑล ไวยเจริญ / น.ส.ปาลาวดี เนื่องจำนงค์ / นายไพศาล ช้างพลายแก้ว และนายขวัญชัย สินสมบัติ เลขานุการ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และนายจักร์กฤษณ์ นนท์จีรพัส ปลัด อบจ.ฉะเชิงเทรา ร่วมชี้แจง ทั้งนี้มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างในสังกัด อบจ.ฉะเชิงเทรา เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุมบางแก้ว อบจ.ฉะเชิงเทรา

สำหรับการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างในสังกัด อบจ.ฉะเชิงเทรา รับทราบนโยบายการปฏิบัติราชการของคณะผู้บริหาร มุ่งหวังให้บุคลากร อบจ.ฉะเชิงเทรา ปฏิบัติราชการด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา

ทั้งนี้นโยบายการปฏิบัติราชการ มี 6 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2. ด้านการสาธารณสุขและการส่งเสริมคุณภาพชีวิต 3. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจและอาชีพ 5. ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ 6. ด้านการบริหารจัดการ ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ท้องถิ่นมีความเจริญก้าวหน้า “เปลี่ยนคุณภาพชีวิต เพื่อคนแปดริ้ว”

นอกจากนี้นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เน้นย้ำนโยบายการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรในสังกัดทุกคนว่า “ผิดระเบียบไม่ทำ สั่งการไม่ถูกให้บอก อะไรคลุมเครือปรึกษาหารือกัน” การทำงานต้องมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง การควบคุมงาน การตรวจรับงานจ้าง การใช้วัสดุ ครุภัณฑ์ของทางราชการ ต้องไม่เอื้อประโยชน์ส่วนตัว การปฏิบัติราชการต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ


ภาพ/ข่าว : สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ (ฉะเชิงเทรา)

ฉะเชิงเทรา - หยุดไม่อยู่ทะลุ 100 ผู้ติดเชื้อโควิค -19 ระลอก 3 จังหวัดเตรียมเปิดใช้ รพ.สนาม

วันนี้ 18 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 ของจังหวัดจังหวัดฉะเชิงเทราล่าสุดวันนี้ครบ 100 ราย พอดีขณะที่นายไมตรี  ไตรติลานันท์ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราขอให้พี่น้องประชาชน การ์ดอย่าตก เพิ่มความเข้มในการดูแลตัวเองให้มากขึ้น ใส่แมสตลอดเวลาที่ออกจากบ้านไปไหนมาไหนหมั่นล้างมือบ่อย ๆ อย่าลืมเว้นระยะห่างกันด้วย

ขณะนี้ จังหวัดฉะเชิงเทราเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดโรงพยาบาลสนาม 90 เตียง ที่จะเปิดในวันที่19 เมษายนนี้ เป็นศูนย์พุทธโสธรประชารักษ์โดยรพ.พุทธโสธร ณ.ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชา การทหารพัฒนา อ.พนมสารคามซึ่งได้มีการซักซ้อมแผนขั้นตอนการปฏิบัติในการรับตัวผู้ป่วยโควิด -19 เข้ามาพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ถูกจัดเตรียมไว้โดยแยก เป็นชายหญิงอย่างชัด เจนซึ่งจะมีทีมแพทย์พยา บาลคอยเฝ้าดูอาการ ผ่านระบบ Intercom เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในโรงพยา บาลหลัก  เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น​อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางจังหวัดจึงได้จัดเตรียมสถานที่และพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการเข้ารับการรักษาตัวของผู้ป่วยโควิด-19

และก่อนหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดยังใด้เซ็นต์คำสั่งงดกิจกรรมทุกชนิดให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เรื่องมาตรา การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในสถานที่ทำงานและกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง

ให้หัวหน้าส่วนราชการ/ผู้บริหารหน่วยงานมอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พัก (Work from Home) และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการปฏิบัติงานทุกชนิด โดยให้เปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานได้ตลอดเวลา และให้ทุกหน่วยงานพิจารณาจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ. สถานที่ทำงาน ในแต่ละวันทำการโดยให้คำ นึงถึงบุคลากรที่จำเป็นสำ  หรับการให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญให้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงาน งดกิจกรรมการจัดประชุม การฝึกอบรม การศึกษาดูงาน การสัมมนาต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมากเว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ ควรมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน  50 คน และให้ควบ คุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด และควรจัดในสถานที่เปิดโล่งมีระบบระ บายอากาศถ่ายเทได้ดี พร้อมดำเนินการตามมาตรา การป้องกันโรคของกระ   ทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการตรวจเช็ตในแต่ละอำเภอที่เป็นเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรืออำเภอที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากสำหรับพนักงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา(ต่างจังหวัด)หรือพนักงานที่ไปปฏิบัติหน้าที่ต่างจังหวัดในช่วงเทศการสงกานต์และเดินทางกลับมาพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปรกติในวันจันทร์ที่19เมษายนนี้พบว่ายังไม่มีการกักตัวหรือราย งานตัวต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่ออำเภอ โดยเฉพาะที่บางปะกง  ที่มีรอยต่อจ.ชลบุรี และสมุทรปราการเกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก


ภาพ/ข่าว  สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ

ฉะเชิงเทรา - นายกไก่ นำทีมบริหาร อบจ.ช่วยชาวบ้าน ณ ธรณีประตูส่งน้ำ คลองสัมปทวน-โพรงอากาศ -ตกระทุ่ม

วันที่ 19 เม.ย. 2564 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายไพศาล ช้างพลายแก้ว เลขานุการนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา นายสุนทร พานแก้ว นายสุเทพ ศิริจำรัส สมาชิกสภา อบจ.ฉะเชิงเทรา นายธนภัทร ศรีอุไร กำนันตำบลโพรงอากาศ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ณ ธรณีประตูส่งน้ำ คลองสัมปทวน-โพรงอากาศ -ตกระทุ่ม ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

ซึ่งการตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถส่งน้ำให้ไหลผ่านได้ จึงส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ หมู่ 7 ,8 ,9 ,10 ,11 ,12 ,13 และหมู่ 14 ตำบลโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว เชื่อมตำบลบางแก้ว และตำบลบางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อน รวม 11,415.5 ไร่

นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กรณีปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของชลประทาน หลังจากลงพื้นที่รับทราบปัญหาความเดือดร้อนแล้ว ตนและคณะได้เดินทางเข้าพบนายสมศักดิ์ ธิมา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อปรึกษาหารือ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในครั้งนี้

นายสมศักดิ์ ธิมา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต และนายสรยุทธ์ กสินธุ์มานะวาท หน.จัดสรรน้ำโครงการพระองค์ไชยานุชิต ได้ชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหา โดยในเบื้องต้นจะเข้าดำเนินการแก้ไขระดับธรณีประตูส่งน้ำ และจะนำเครื่องสูบน้ำไปดำเนินการสูบน้ำทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ต้องการใช้น้ำทำการเกษตรต่อไป


ภาพ/ข่าว  สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ / ฉะเชิงเทรา

ฉะเชิงเทรา – สนธิกำลังไล่ล่าขบวนการมอดไม้พะยูง กลางป่าบนภูเขานรกผีสิง

หมู่ที่ 5 บ้านหนองขาหยั่ง ผุ้ต้องหาใช้ความชำนาญเส้นทางป่าหลบหนี พบเพียงไม่พะยูง กว่า 10 ต้น ถูกโค่นรอการตัดทอนขนย้าย จากมีชาวบ้านหาเห็ดป่าแจ้งผุ้ใหญ่บ้านนำมาสู่ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ ทหารพรานที่1306 ไฟป่า อนุรักษ์ ตำรวจ ผู้นำชุมชนลุยบุกป่าใช้เวลา 3 วันจึงปฏิบัติการสำเร็จ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นายอาคม ชาติกปริญญ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท่าตะเกียบ นายสุริยกมล ไวยหงส์ ปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบ สนธิกำลัง พ.ต.อ.พิพัชร์ พ่วงแพ ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ รอ.สุระ โสรักนิษฐ์ รอง.ผบ.ร้อย.ทหารพรานที่1306 เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.ท่าตะเกียบ ผู้นำชุมชน ปฏิบัติการร่วมไล่ล่าขบวนการมอดไม้พะยูง กลางป่าบนภูเขานรกผีสิง หมู่ที่ 5 บ้านหนองขาหยั่ง ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จากที่ผู้ใหญ่ทะนง ศิริเล็ก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหนองขาหยั่ง แจ้งว่า มีชาวบ้านที่เข้าไปในป่าหาเก็บเห็ด พบกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังตัดไม้กลางป่า

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 64 ในวันแรกของการเริ่มปฏิบัติการร่วม และเมื่อไปถึงชายป่าบริเวณภูเขานรกผีสิงตามตำนานเล่าขานของชาวบ้านต่อ ๆ กันมาว่า เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ แต่มีคนหลงเข้าไปแล้วออกไม่ได้ต้องตายอยู่ในป่าหลายคน ได้มีการวางแผนในการเตรียมปฏิบัติการขึ้นเขานรกผีสิง ที่ต้องระมัอระวังเป็นอย่างดีบนความปลอดภัย หลังจากหน่วยราดตระเวนขึ้นไปชุดแรก และพบเห็นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ของขบวนการมอดไม้จริง แต่ด้วยด้านบนเขามีหุบเหว ป่ารกร้างมาก จึงไม่สามารถทำการจับกุม ผุ้ต้องหาใช้ความชำนาญเส้นทางป่าหลบหนี พบเพียงไม่พะยูง กว่า 10 ต้น ถูกโค่นรอการตัดทอนขนย้าย

ด้าน นายอาคม ชาติกปริญญ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท่าตะเกียบ ต้องขอกำลังทหารพรานที่1306 จาก รอ.สุระ โสรักนิษฐ์ รอง.ผบ.ร้อย.ทหารพรานที่ 1306 ในการร่วมเฝ้าระวังและขนย้ายของกลางคือไม้พยูงจำนวน  29 ท่อน ปริมาตร 1.433 ลบ.ม. ราคาประเมิน เป็นเงิน จำนวน 375,250 บาท ลงจากบนภูเขานรกผีสิง ที่รกร้าง สูงชัน ใช้เวลาไปถึง 3 วัน จนกระทั่งเช้าตรู่วันนี้ จันทร์ ที่ 10 พฤษภาคม 64 จึงขนย้ายได้สำเร็จ เป็นไปด้วยความยากรำบาก ทุลักทุเล ด้วยมีฝนตกลงอย่างหนักทุวันในช่วงบ่ายและค่ำคืน

ผู้ใหญ่ทะนง ศิริเล็ก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหนองขาหยั่ง ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า มีชาวบ้าน ไปหาเก็บเห็ด แล้วไปพบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ คือ ขบวนการมอดไม้ ที่กำลังทำการโค่นไม้พะยูง ตนจึงรีบแจ้งนายอำเภอท่าตะเกียบ ก่อนประสานป่าไม้ ทหารพรานที่1306 ปฏิบัติการร่วม  ด้านนายอาคม ชาติกปริญญ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท่าตะเกียบ ได้ทำการบันทึกพร้อมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ศักรินทร์ กิยาหัต

ฉะเชิงเทรา - 'นายกไก่'​ ลุยแก้ภัยแล้ง ช่วยเกษตรกร ก่อนข้าวยืนต้นตาย พร้อมมีน้ำทำนาตลอดฤดูกาล

นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายไพศาล ช้างพลายแก้ว เลขานุการนายก อบจ., นายสุนทร พานแก้วส.อบจ.ฉะเชิงเทรา, นายธนภัทร ศรีอุไร กำนันตำบลโพรงอากาศ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ บริเวณประตูส่งน้ำ คลองสัมปทวน-โพรงอากาศ -ตอกระทุ่ม ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว เพื่อดูแลแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีน้ำทำนา ในพื้นที่ ต.บางแก้ว ต.บางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา และในพื้นที่ติดต่อกัน หมู่ 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 หมู่ 14 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว รวมพื้นที่ทำนา 11,415 ไร่

โดยใช้งบประมาณของ อบจ.ฉะเชิงเทรา เข้าไปดำเนินการฝังท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.00 เมตร จำนวน 130 ท่อนระยะทางยาวรวม130 เมตร เพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำ ให้ไหลจากคลองแสนแสบไปยังคลองชวดตาสี ได้สะดวก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ต้องการใช้น้ำทำการเกษตร

นายกิตติ เปิดเผยว่า เนื่องจากในพื้นที่ปริมาณน้ำฝนมีน้อย ชาวนาได้ทำการเพาะปลูกข้าวไปแล้วจำนวนมาก แต่กำลังขาดน้ำได้รับความเดือดร้อน ตนและคณะได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่พบว่า ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต กรมชลประทาน ซึ่งเกิดจากธรณีประตูน้ำสูงกว่าระดับน้ำที่มีอยู่ในคลอง น้ำจึงไม่สามารถไหลผ่านไปยังคลองซอย ได้ส่งผลให้ประชาชน ขาดแคลนน้ำทำการเกษตรเป็นวงกว้างกว่า 1 หมื่นไร่ อบจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ร่วมกับทางโครงการชลประทานฯ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ โดยขออนุญาตจาก นายภวัต วัตนพงษ์วานิช ผู้จัดการโรงสีเตียหลีฮง เจ้าของที่ดินบริเวณใกล้เคียง เพื่อฝังท่อเบี่ยงทางน้ำ ระยะทาง 130 เมตร ซึ่งจะช่วยชาวบ้าน เรื่องน้ำทำการเกษตรที่ทำนาในที่ดอนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้สั่งให้นำรถแบล็คโฮ ขุดลอกกำจัดวัชพืช และขุดเนินดินในคลองที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อต้องการให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น และให้น้ำได้ไหลไ ปถึงปลายคลองให้เร็วที่สุด เพื่อจะแบ่งปันน้ำทำนา ให้ได้น้ำกันอย่างทั่วถึงกัน

ที่มา: สัมฤทธิ์ ล้ำเลิศ/ฉะเชิงเทรา

ฉะเชิงเทรา - “นายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกอบจ.ฉะเชิงเทรา มอบโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ 2 ส.ค. 2564 นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รับมอบโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา แพทย์หญิงสมบัติ ชุติมานุกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธโสธร หัวหน้าส่วนราชการ และบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดตั้งโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมนี้ได้ตรวจดูความพร้อมก่อนลำเลียงผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าดูแลรักษา ณ โรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา หมู่ที่ 6 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า อบจ.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา ใช้งบประมาณมากกว่า 12 ล้านบาท โดยมีการดำเนินการดำเนินดังนี้

1. พื้นที่อาคารและบริเวณโดยรอบที่ปรับปรุง

2. เตียงสำหรับผู้ป่วยพร้อมเครื่องนอนและอุปกรณ์จำเป็น จำนวน 1,200 ชุด

3. ห้องพักสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 5 ห้อง พร้อมอุปกรณ์

4. ระบบบำบัดน้ำเสีย

5. ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 10 ตู้

6. พัดลมระบายอากาศ จำนวน 14 ตัว

7. เครื่องฟอกอากาศ จำนวน 5 เครื่อง

8. เครื่องผลิตไอน้ำระบายความร้อน จำนวน 3 เครื่อง

9. ระบบไฟฟ้า/แสงสว่าง ภายในและภายนอกอาคาร

10. ระบบประปาสำหรับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

11. ระบบสื่อสาร แนะนำ ปรึกษาสำหรับผู้ป่วย

12. ห้องสุขา จำนวน 80 ห้อง รถสุขา จำนวน 5 คัน (60 ห้อง)

ทั้งนี้มีจัดตั้งระบบบริการดูแลรักษาพยาบาล ผู้ป่วยที่เข้าข่าย PUI ในกรณีที่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล ตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วย การให้การวินิจฉัยดูแลรักษาแบบ One Stop Services สามารถรับผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 ได้ดูแลรักษาแบบผู้ป่วยใน และให้การดูแลผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ใช้เป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการคงที่และได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลหรือวิกฤตจนดีขึ้นแล้ว

นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้ 1,200 เตียง และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเตียงกระดาษมาให้เพิ่มอีก 200 เตียง ซึ่งจะได้จัดเสริมเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อจะได้รองรับผู้ป่วยได้เพิ่มเป็น 1,400 เตียง

ฉะเชิงเทรา - เปิดบรรยากาศ Bubble and seal โรงพยาบาลสนามภายในโรงงานไทยแอร์โรว์

จากการที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรามีนโยบายโครงการตำบลเข้มแข็ง เพื่อเอ็กซเรย์ทุกตำบล หากมีผู้ติดเชื้อต้องรีบรักษา และผู้เสี่ยงสูงต้องมีสถานที่กักตัว และตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชนในพื้นที่

ทั้งนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2564 นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา ได้มอบหมายให้ นายไพโรจน์ ปลื้มจันทร์ ปลัดอำเภอบางคล้า พร้อมด้วย นายวันชัย เกาะสูงเนิน อุตสาหกรรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ดูโรงงานไทยแอร์โรว์ ซึ่งถูกสั่งปิดโรงงานเป็นเวลา 14 วัน หลังพบว่าพนักงงานติดเชื้อกว่า 700 คน  เมื่อปลายเดือน กค. ที่ผ่านมา และทางโรงงานฯ ได้ทำแผนเสนอขอเปิดโรงงานฯ เมื่อวันที่ 5 ส.ค 2564 เนื่องจากทางโรงงานฯ มีการทำ Bubble and seal พื้นที่เรียบร้อยแล้ว

โรงงานไทยแอร์โรว์เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ที่เขต อ.บางคล้า เป็นโรงงานที่ตั้งอยู่คู่แปดริ้ว มานานกว่า 30 ปี มีพนักงานประมาณ 4,200 คน ถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่ เจ้าของโรงงานเป็นชาวญี่ปุ่น ภายในบริเวณโรงงานมีอาคารถึง 4 โรง ตามแผนที่โรงงานฯ เสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอเปิดโรงงานนั้น ระบุว่าจะขอใช้พนักงานทำงานเพียง 1,050 คน ทางโรงงาน ได้ปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งนำตู้คอนเทนเนอร์ มาจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามภายในโรงงาน มีเตียงสนามประมาณ 300 เตียง และกันพื้นที่เป็นอาคาร สำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง กักตัว อย่างปลอดภัย และหากพบว่าครอบครัวติดเชื้อก็สามารถนำครอบครัวมาพักได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังทีมแพทย์และพยาบาลประจำโรงงาน ให้คำแนะนำในการรักษาตลอด 24 ชม. อีกด้วย

น.ส ณัฐธิดา วาศโสภา พยาบาลประจำโรงงานกล่าวว่า มีแพทย์และพยาบาลเวร 15 คนเข้าเวรตลอด 24 ชม. เพื่อดูแลผู้ป่วย และให้คำแนะนำจนกว่าจะรักษาหายเป็นปกติ ทางด้าน นพ.ธนู นพโสภณ หัวหน้ากลุ่มงานอาชีวเวชกรรม โรงพยาบาลพุทธโสธร ได้กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ได้มาตรฐานเป็นต้นแบบที่ดีให้โรงงานอื่น ได้อีกด้วย

ที่ผ่านมา โรงงานไทยแอร์โรว์ถูกสังคมมองด้วยความไม่มั่นใจ แต่เมื่อเข้ามาดูการจัดทำ Bubble and seal แล้ว ขอชื่นชม และน่าจะเป็นต้นแบบที่ดีให้โรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เมื่อพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แล้วต้องเตรียมความพร้อมในการจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม และสถานที่กักตัวที่ได้มาตรฐานแบบไทยแอร์โรว์ วันนี้ชาวแปดริ้ว ทุกคนจับตามองคลัสเตอร์โรงงานต่าง ๆ เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม และศูนย์อุตสาหกรรมถึง 4 แห่ง มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ประมาณ 2,000 แห่ง จำนวนผู้ติดเชื้อหลัก ๆ มาจากคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม

นโยบายของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้วางกรอบให้โรงงานอุตสาหกรรมจัดทำแผน 4 แผน คือ แผนคน คือให้ความรู้พนักงานในการป้องกันตัวเอง แผนองค์กร ปรับสภาพโรงงานให้เหมาะสม รักษาระยะห่าง มีเจล แอลกอฮอล์ และที่วัดอุณหภูมิ แผนการขนย้ายพนักงาน ต้องชัดเจนว่า ระหว่างที่ทำงานถึงบ้านพัก ต้องปลอดภัย และเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะการทำ Bubble and seal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และสร้างความมั่นใจให้ชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา

“บลูเทค ซิตี้” เข้าร่วมประชุมเตรียมจัดงาน 'นมัสการหลวงพ่อโสธร' และงานประจำปี พ.ศ. 2564 ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

เมื่อวันที่ (5 ต.ค.2564) ที่ห้องประชุมมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดย ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เข้าร่วมประชุมประชุมเตรียมการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ.2564

โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานการประชุมพร้อมด้วยนายพูลทรัพย์ สมบูรณ์ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พระครูสังฆรักษ์คุณากร ฐานิสฺสโร ผู้แทนวัดโสธรวรารามวรวิหาร หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ สถานศึกษา รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือรูปแบบแนวทางและกิจกรรมการจัดงาน พร้อมทั้งมอบหมายภารกิจหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ โดยให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน

 

รวบ 7 โจ๋ ฉะเชิงเทรา!! ‘กวาดล้างแก๊งค้าอาวุธปืนเถื่อนขายทางออนไลน์’ พบของกลาง พร้อมรับสารภาพ

วันนี้ 10 ต.ค.64 เวลา 14.30 น. ตามนโยบายของตำรวจ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการให้ระดมกวาดล้าง ยาเสพติดและอาวุธปืน รวมตลอดถึงอาชญากรรมทุกประเภท อันเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการระดมกวาดล้างตามสั่งการอย่างเคร่งครัด และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้พล.ต.ตนันทวุฒิ สุวรรณละออง ในฐานะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.คมกฤษ ศรีผ่องงาม รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา  พ.ต.อ. ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. นิพนธ์ คล้ายสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.สภ.ฉิมพลี ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และสืบสวนติดตามขยายผลจับกุมกลุ่ม ยาเสพติดและอาวุธปืนในพื้นที่รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉิมพลี ได้ร่วมกันจับกุมตัว ได้แก่

         1.นายจักกริช ยะก๊บ  อายุ 18 ปีอยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.7 ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก

         2.นายศุภโชค แซ่ตั้น อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 40/4 ม.01 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

รวมกับ ผู้ต้องหา อีก 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชน

พร้อมด้วยของกลาง

-  อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบรีวอลเวอร์ , แบบกึ่งออโตเมติก ,แบบหักลำกลาง รวม 19 กระบอก

-  เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 มม. ขนาด 11 มม. ขนาด .22 มม. ขนาดลูกซองเบอร์ 12 รวม 98 นัด

- กัญชาแห้ง 1.61 กรัม

- บันทึกผลตรวจปัสสาวะผลบวก 5 แผ่น

ตร.แปดริ้ว รวบแล้ว!! ‘มือปืนโหดยิงสาว 16 เสียชีวิต’ อ้างระบายเครียด หลังทะเลาะกับแฟนทางมือถือ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก. พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ รอง ผกก. ป.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายวงศ์วรัณ หรือ เอิร์ท วิเขตกิจ อายุ24ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/31 หมู่3 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ  หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/63 ถ.มหาจักรพรรดิ์ ซ.3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถึงแก่ความตายโดยเจตนา พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ของกลาง อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ซีแซด รุ่นรามี่ ขนาด 9 มม. จยย.ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ทะเบียน 1กฒ-9418 พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดที่ หน้าร้านซ่อมรถ จยย. หน้าพิสิษฐ์แมนชั่น หมู่6 ต.โสธร 

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้าย ขับขี่รถจยย. ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ไม่ทราบทะเบียน ขึ้นไปจอดบนสะพานต่างระดับ บริเวณตรงข้ามธนาคาร ธอส. หน้าหอพักพิศิษฐ์แมนชั่น ถ.สิริโสธร ต.หน้าเมือง ใช้อาวุธปืนขนาด 9มม. ยิงสาดลงมาด้านล่าง ใส่กลุ่มคนที่นั่งคุยกันอยู่บริเวณหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 6นัด ก่อนหลบหนีไป โดยกระสุนปืน 1นัดถูก น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี กระสุนถูกบริเวณลำตัว สีข้างด้านซ้าย เพื่อนนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฏร์ ฉะเชิงเทรา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top