Tuesday, 23 April 2024
กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - เดินหน้าพัฒนาพลังน้ำแบบสูบกลับ พลังงานทดแทนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบตเตอรี่พลังน้ำเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าแห่งอนาคต

กฟผ. เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมพื้นที่ทั่วประเทศ สำหรับพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เพื่อผลิตไฟฟ้ารองรับความต้องการในรูปแบบแหล่งพลังงานสำรอง ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Energy Storage System (ESS) ที่ช่วยเติมเต็มให้กับโครงข่ายระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เป็นระบบกักเก็บพลังงานชนิดหนึ่งที่ถูกคิดค้นบนพื้นฐานความคิดในการจัดการกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน เพราะโดยปกติการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางคืนที่ค่อนดึกไปแล้วนั้นจะมีการใช้ไฟฟ้าลดลง ทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเหลือในระบบ ดังนั้น การทำงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเป็นโรงไฟฟ้าที่มีอ่างเก็บน้ำสองส่วนคือ อ่างเก็บน้ำส่วนบน และอ่างเก็บน้ำส่วนล่าง น้ำจะถูกปล่อยจากอ่างเก็บน้ำลงมาเพื่อหมุนกังหันและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยสามารถตอบสนองผลิตไฟฟ้าได้ทันที เมื่อต้องการผลิตไฟฟ้าเสริมเข้าระบบในกรณีเร่งด่วน ขณะที่โรงไฟฟ้าทั่วไปต้องใช้เวลาเริ่มเดินเครื่องกว่า 2-4 ชั่วโมง และในช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำหรือน้อยลง จะใช้ไฟฟ้าที่เหลือในระบบจ่ายให้กับปั๊มน้ำขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ในอ่างเก็บน้ำส่วนล่าง เพื่อสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำส่วนล่างนี้กลับขึ้นไปเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำส่วนบนเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อไป

ปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ 3 แห่ง ได้แก่ 1) เขื่อนศรีนครินทร์ เครื่องที่ 4-5 จังหวัดกาญจนบุรี กำลังผลิตเครื่องละ 180 เมกะวัตต์ รวมแล้วมีกำลังผลิต 360 เมกะวัตต์ 2) เขื่อนภูมิพล เครื่องที่ 8 จังหวัดตาก กำลังผลิต 171 เมกะวัตต์ และ 3) โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เครื่องที่ 1-4 กำลังผลิตเครื่องละ 250 เมกะวัตต์ รวมแล้วมีกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ทั่วประเทศในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ โดยมีโครงการสำรวจและศึกษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบเป็นผู้สำรวจพื้นที่และศึกษาความเหมาะสม ปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA ) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ จ.ชัยภูมิ เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าและสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับแห่งที่ 2 ในภาคอีสาน ต่อจากโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับถือเป็นระบบเก็บกับพลังงานที่มีต้นทุนต่ำสุดในปัจจุบัน สำหรับระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Grid System) เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ นับเป็นการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มี

ประสิทธิภาพสูงสุด สามารถตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าช่วงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า อีกทั้งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่แหล่งเรียนรู้ด้านพลังงาน ช่วยเพิ่มรายได้ของชุมชนอีกทางหนึ่ง

สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ - ถ้ำบาตร จัดพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูป องค์ที่ 99 ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9

พระครูปลัดกุศล เขมวีโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 99 หน้าตัก 2.5 เมตร สูง 4 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ และเพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาแด่เทพเทวาและมนุษย์ได้มากราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลชัย ประดิษฐานไว้ ณ สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ตำบลสิงห์  อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา

นายชิษณุพงศ์ - นางธัญญารัตน์  ปัญจไชยโรจน์ และครอบครัว เจ้าภาพฯ พร้อมด้วยคณะศิษย์พระครูปลัดกุศลฯ สาธุทุกหมู่เหล่าที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเข้าร่วมพิธีบวงสรวงและรวมพลังศรัทธาหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 99 อย่างล้นหลาม ภายใต้การจัดพิธีบวงสรวงมีการวางมาตรการการป้องกันควบคุมโควิด-19 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ตั้งจุดตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิประชาชนก่อนเข้าร่วมพิธีอย่างทั่วถึงกัน

สำหรับพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 100 และ 101 กำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 น. จึงขอเชิญชวนสาธุชนทั้งหลายรวมกำลังร่วมพลังศรัทธาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ฝากไว้ในแผ่นดินโดยทั่วกัน

และขอเชิญสาธุชนทุกหมู่เหล่ารวมพลังศรัทธาร่วมสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย จำนวน 500 พระองค์ ประดิษฐานไว้ ณ สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ตำบลสิงห์  อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาเป็นพุทธานุสสติ แก่พุทธศาสนิกชน และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

 

'ปารีณา' เปิดรับหลักฐานจัดการ 'เสรีพิศุทธ์' อ้าง!! 'รุกลำน้ำเจ้าพระยา - กาญจนบุรี'

“ปารีณา” เปิดรับข้อมูลจัดการ “เสรีพิศุทธ์” ก่อนยื่น ป.ป.ช. 18 เม.ย. รุกลำน้ำเจ้าพระยา-เมืองกาญจน์ สวมบทอดีตลูกพรรคดีเด่น ยันขึ้นป้าย “บิ๊กป้อม” ไม่ใช่อยากเป็นนายกฯ แต่ส่งสัญญาณยุบสภา เตรียมเลือกตั้ง

วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ปารีณา ไกร์คุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุว่า “สุขสันต์วันสงกรานต์ ปีนี้ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านร่างหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กรณีบุกรุกลำน้ำที่เจ้าพระยา และกาญจนบุรี ที่จะยื่นต่อ ป.ป.ช.ในวันจันทร์นี้ ซึ่งปารีณายังต้องการข้อมูลอีก จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน และข้าราชการที่อยากจะช่วยปารีณาจัดการกับอดีตบิ๊กตำรวจท่านนี้ สามารถส่งเอกสารข้อมูลมาทางไปรษณีย์ที่ 99/9 หมู่ 3 ตำบลบางโตนด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี 70120 ทั้งนี้ ปารีณา ยินดีรับเรื่องร้องเรียนทั่วแผ่นดิน พร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนนอกสภาต่อไป”

‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่กาญจนบุรี 4 ส.ค.นี้ ติดตามแก้ปัญหาน้ำแล้ง – ดูแผนฟื้นฟูท่องเที่ยว

‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่กาญจนบุรี 4 ส.ค.นี้ ติตตามข้อสั่งการแก้ปัญหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค-เกษตร และการปรับภูมิทัศน์สองฝั่งแม่น้ำแคว แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชาวกาญจน์ พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่        

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 4 สิงหาคม 2565 เพื่อติตตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการ และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ โดยมีกำหนดการ ดังนี้ โดยช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะติดตามการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็น พื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและมีภัยแล้งเป็นประจำทุกปี เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา และเป็นพื้นที่เขตเงาฝน ไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน รวมทั้งขาดแคลนระบบชลประทาน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ “โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง”15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด ไว้เป็น “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง 

เปิดม่านเมืองกาญจน์ สังเวียนวัดพลัง ‘พท-ภท.’ ชิงชัย 5 เขต 'อุ๊งอิ๊ง' เตรียมพาเหรดเรียกเรตติ้ง

แม้สัญญาณลั่นระฆังเลือกตั้งจะยังคงแผ่วเบา แต่คาดว่าอีกไม่นานก็คงดังกังวาล หลังวาระ 4 ปีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเวียนบรรจบมาในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งเราจะได้เห็นท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาก่อนครบวาระ 4 ปีหรือไม่ ก็คงต้องตามดูกัน

ทว่าในกรณีที่มีการประกาศยุบสภาก่อนวาระจริง ก็คงจะต้องมีการจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน หลังจากวันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภามีผลบังคับใช้นั้น และนั่นก็ทำให้บรรดาพรรคการเมืองเปิดยุทธศาสตร์ชิงพื้นที่กันอย่างไวว่อง

อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณจะยังไม่ชัด แต่หลายพรรคการเมืองก็เริ่มออกมาอัดนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในหลาย ๆ พื้นที่จังหวัดกันบ้างแล้ว 

หนึ่งในสนามที่ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนในการปูตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่น่าจับตาไม่น้อยนั้น ก็คือ จังหวัด กาญจนบุรี โดยการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขตนั้น เริ่มมีการเคลื่อนพลสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครฯ ออกมาแล้วหลายพรรค แต่ก็มีอีกหลายพรรคการเมืองยังคงเงียบเหงา เพราะยังไม่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลยแม้แต่เขตเดียว เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคก้าวไกล (กก.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)หรือแม้กระทั่งพรรค ประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นต้น

สำหรับพรรคการเมืองที่มีการเปิดตัวสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ที่ชัดเจน แต่ยังไม่ครบทั้ง 5 เขต ที่ฮือฮาที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เนื่องจากว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ล้วน เป็น ส.ส.ที่ย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่สำคัญเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าที่มีประสบการทางด้านการเมืองที่สุดที่ชาวกาญจนบุรีต่างก็รู้จัก เช่น พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ครั้งนี้ลงในนามพรรคภูมิใจไทย แต่พื้นที่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) ยังมีว่าที่ผู้สมัครที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คือ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ ลูกสาวสุดที่รักของ นาวาโท นพ.เดชา สุขารมณ์ หรือหมอเดชา อดีต ส.ส.กาญจนบุรี หลายสมัยที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเขตนี้ขึ้นอยู่กับผลโพลว่าใครจะได้รับความนิยมมากกว่า พรรคภูมิใจไทย ก็จะส่งคนนั้นลงสมัคร

ด้านเขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชื่อผู้สมัคร แต่คาดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวว่าที่ผู้สมัครที่เหมาะสม 

ส่วนเขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน หรือ ส.ส.กุ๊ก แชมป์เก่า ที่เป็นดาวเด่นในสภา ได้ลงสมัครพื้นที่เดิม 100% 

เขต 4 (อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และ อ.บ่อพลอย) นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ หรือผู้ใหญ่แหลม อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่พลาดที่จะได้เป็นว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน 

ขณะที่ เขต 5 (อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี) นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ หรือพี่เมศ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะได้ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย 100% เช่นกัน

ถัดจากพรรคภูมิใจไทย ก็มีอีก 1 พรรคสำคัญที่จะต้องเอ่ยถึง คือ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยครั้งนี้พรรคเพื่อไทย ประกาศส่งชื่อว่าที่ผู้สมัครครบแล้วทั้ง 5 เขต ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขต ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือ กอล์ฟ นักธุรกิจอาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จ และอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด โดยได้รับการชักชวนให้เข้าสู่วงการการเมืองจาก มดดำ คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดังของเมืองไทย

เขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ อดีต สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี คนนี้ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเช่นกัน

แต่ว่าที่ผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวแล้วสร้างความฮือฮาให้กับคอการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) น.ส.พลอย ธนิกุล หรือน้องพลอย ทายาท แคล้ว ธนิกุล อดีตเจ้าพ่อนครบาล และ เขมพร ต่างใจเย็น หรือเจ๊เขม เจ้าแม่ธุรกิจก่อสร้าง โดยที่ผ่านมา น.ส.พลอย หรือ น้องพลอย ลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาโดยตลอด แต่ในที่สุดกลับกลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่คว้าตัวไปครอง หลังจากเปิดตัว น.ส.พลอย ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากชาว อ.พนมทวน อ.ท่ามะกา กันอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าไปแสดงความยินดีและต้อนรับกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

‘ลุงหนู’ เตรียมนำทัพหาเสียง จ.กาญจนบุรี พร้อมเปิดตัว 5 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภูมิใจไทย

(8 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 10 - 11 ก.พ.นี้ พรรคภูมิใจไทย นำทีมโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค จะลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ตลอดจนจัดเวทีปราศรัย ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี และ จ.นครปฐม พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยในวันที่ 10 ก.พ.นี้ เริ่มที่ จ.กาญจนบุรี โดยตั้งแต่เวลา 15.45 น. จะขึ้นรถแห่พบปะประชาชนพี่น้อง ชาว จ.กาญจนบุรี 

จากนั้น เดินทางถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แล้วเดินทางไปวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง (วัดใต้) กราบสักการะรูปหล่อพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) และกราบพระเทพปริยัติโสภณ (เจ้าคุณปัญญา) เจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี 

จากนั้น นายอนุทิน และคณะจะเดินทางถึงท่าเรือวัดใต้ แล้วเดินทางโดยทางเรือล่องแม่น้ำแม่กลองเดินทางผ่านบ้านลิ้นช้าง เข้าสู่แม่น้าแควใหญ่ แวะทักทายชาวเรือ ชาวแพที่ท่าเรือเทียบแพแควใหญ่ (เกาะรัตนกาญจน์) ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ ในเวลา 17.45 น. ณ ลานเอนกประสงค์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว

‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ตรวจแผนพัฒนาแหล่งน้ำ - มอบที่ทำกิน ขจัดความยากจน - พา ปชช. ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำ

(13 ก.พ. 66) เวลา 14.00 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.ดีอีเอส, รมว.ศธ., รมช.คลัง, รมช.กห. และคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามการพัฒนาทรัพยากรน้ำ และแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

โดยเมื่อเดินทางถึง ที่ทำการโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้ร่วมประชุมหารือและรับฟังการบรรยายสรุป จาก ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ., รองเลขาฯ สทนช., อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, กรมชลประทาน ,ผอ.สคทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปภาพรวม จ.กาญจนบุรี อยู่ในพื้นที่ ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำท่าจีน ปัญหาน้ำท่วมมักเกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาต้นน้ำ ลำน้ำระบายได้ช้า เนื่องจากมีสิ่งกีดขวาง และลำน้ำตื้นเขิน ปัญหาภัยแล้งเกิดจากภาวะฝนน้อย และฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และความต้องการจากการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ทั้งงบปี 61-65, งบกลางปี 65 และงบบูรณาการปี 66 รวมทั้งอีก 3 โครงการสำคัญ วงเงิน 16,669 ล้านบาท ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์ 75,469 ครัวเรือน ได้แก่ โครงการขยายความจุอ่างเก็บน้ำลำอีซู และโครงการผันน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะที่ 1 และโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ รวมทั้งดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล และขยายระบบส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะ อ.เลาขวัญ และอ.ห้วยกระเจา ซึ่งประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดเรียกว่าเป็น ‘อีสาน จ.กาญจนบุรี’

'ตันบูซายัต' ปลายทางสถานีรถไฟสายมรณะ เสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ที่รอวันนักท่องเที่ยวไปเยือน

เมื่อพูดถึงความเลวร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW 2) ใครๆ หลายคนรวมถึงชาวต่างชาติคงคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายกักกันเชลยที่จังหวัดกาญจนบุรี จุดที่ฝั่งกองทัพญี่ปุ่นปักธงให้สร้างทางรถไฟเชื่อมจากประเทศไทยไปยังพม่า 

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าปลายทางของสถานีรถไฟสายมรณะแห่งนี้สิ้นสุดที่สถานี 'ตันบูซายัต' ในเมืองตันบูซายัต รัฐมอญ ประเทศเมียนมาในปัจจุบัน 

วันนี้เอย่าขอพาไปเที่ยวเมืองตันบูซายัต ปลายทางของทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักทางรถไฟสายมรณะสายนี้กันก่อนดีกว่า เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปทางทิศตะวันตกจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ ไปยังปลายทางที่เมืองตันบูซายัต ประเทศเมียนมา

ทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้ มีความยาวจากหนองปลาดุกถึงสถานีตันบูซายัตรวม 415 กิโลเมตร เป็นทางรถไฟอยู่ในเขตประเทศไทยประมาณ 303.95 กิโลเมตร และอยู่ในเขตประเทศเมียนมา 111.05 กิโลเมตร มีสถานีจำนวน 53 สถานีแต่ได้ยุบสถานีไป 23 สถานี ปัจจุบันเหลือสถานีที่เปิดให้บริการ 30 สถานี

‘พิธา’ ขึ้นเวทีปราศรัยเมืองกาญฯ ชู ‘ทลายทุนทหาร’ คืนที่ดิน-งบประมาณให้ ปชช. เอาทหารออกจากการเมือง

เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัย จังหวัดกาญจนบุรี เผย ตั้งแต่เดินทางมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ตนนึกถึงโจทย์ความท้าทายทางการทหาร พร้อมยกตัวอย่างวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีเป็นวัน ‘Anzac Day’ ของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นความทรงจำแรกต่อกาญจนบุรีของตน ซึ่งเป็นวันแสดงความรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในสงคราม โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นจุดที่ทำให้คิดถึงความท้าทายในยุคสมัยนั้น เป็นความท้าทายทางทหารในอดีต

แต่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ความท้าทายทางทหารแบบเดิมก็เปลี่ยนไป กลายเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ความท้าทายจากสังคมสูงวัยและทางดิจิทัลแทน แม้ว่าทุกวันนี้ความท้าทายและความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอยู่ แต่ไม่มีใครเอาทหารไปรบกันตรง ๆ เป็นหลักอีกแล้ว ดังนั้น ตนจึงอยากตั้งคำถามถึงปัจจุบันว่า ทหารมีไว้ทำไม คำตอบคือ ทหารมีไว้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วันนี้ตนจึงชวนมาทำลายทุนทหารที่กาญจนบุรีด้วยกัน

นายพิธากล่าวกลางเวทีปราศรัยว่า พื้นที่ที่เป็นที่ดินของกองทัพมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ คือ ที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมยกตัวอย่างโรงสูบน้ำเพื่อประชาชน ที่ตำบลท่าเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท แต่ไม่สามารถสูบน้ำได้สักหยด เนื่องจากอยู่บนที่ดินทหาร พี่น้องที่แก่งเสี้ยนอยากจัดการขยะก็จัดการไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่ทหาร

นายพิธาย้ำอีกว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทหารจำเป็นต้องใช้ที่ดิน โดยที่ดินราชพัสดุมีทั้งหมด 12 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งของที่ราชพัสดุเป็นที่ดินของกองทัพ คิดเป็นขนาดง่าย ๆ คือ มี 5 กรุงเทพรวมกัน ยังไม่มากเท่าที่ดินทหาร เมื่อมีที่ดินกองทัพก็นำมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด โยนตั้งคำถามต่ออีกว่า ทหารทำธุรกิจ แต่งบประมาณในการทำธุรกิจของกองทัพ ทำไมไม่เคยเข้าหลวงเลย แต่กลับเก็บเงินเข้าขุมทรัพย์สีเขียว พร้อมตั้งคำถามว่านี่คือหน้าที่ของทหารไทยหรือไม่

โดยนายพิธาเชื่อว่า ตนขึ้นมาพูดนโยบาย ‘ททท.’ เพื่อชาวกาญจนบุรี นั้นต่างจากพรรคการเมืองที่ผ่านมา เพราะ ‘ททท.’ ของตน ไม่ใช่นโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่คือ ‘ทลายทุนทหาร’

“ทหารมีไว้เพื่อทำสนามกอล์ฟ สนามมวย สนามม้า ปั๊มน้ำมัน บาร์ลับ ร้านกาแฟ โรงแรมหกดาว ทำบ้านสวัสดิการโกงกินจนเกิดเหตุกราดยิงที่โคราช นี่คือหน้าที่ทหารหรือ?” นายพิธาตั้งคำถาม

นายพิธาเปิดเผยต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงสำคัญในการตัดวงจรอุบาทว์ เอาทหารออกจากการเมือง ให้เหมือนแยกน้ำออกจากน้ำมัน ไม่ให้มีวันบรรจบกันอีก การแก้แบบก้าวไกล คือ การแก้ไขปัญหาทั้งหมด ทำแบบที่นักการเมืองเขาไม่ทำหรือไม่กล้าที่จะทำกัน

โดยหัวหน้าพรรคเสนอการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

1.) แจกใบแดงให้นายทหาร ภายใน 7 ปีหลังเกษียณไม่สามารถเข้าสู่การเมืองได้
2.) ระบบเสนาธิการร่วม ผู้นำกองทัพอยู่ใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
3.) ยกเลิกศาลทหาร
4.) ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ
5.) รีดไขมันจากกองทัพ เอางบประมาณมาทำสวัสดิการประชาชน

โดยบนเวทียังมีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.​พรรคก้าวไกล 5 จังหวัด พร้อมการปราศรัยแนวนโยบาย ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’ โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล และนางอมรัตน์ โชคปมิตตกุล

โดยว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลทั้ง 5 จังหวัด ประกอบด้วย

จังหวัดราชบุรี
เขต 1 นภดล อารีประเสริฐกุล
เขต 2 ปีรเมษ มณีโชติ
เขต 3 ภิญโญศิลป์ สังวาลวงศ์
เขต 4 วิชา อินทร์จันทร์
เขต 5 ธนพจน์ ทรัพย์ยอดแก้ว

‘ทนายตั้ม’ โพสต์เตือนความจำ ‘ครูปรีชา’ หลังลงสมัครส.ส.แล้ว บอกอย่าลืมนัดที่ศาล

‘ทนายตั้ม’ โพสต์ข้อความถึง ‘ครูปรีชา’ บอก ยินดีกับชาวกาญจนบุรี หลังครูคนดังลงสมัคร ส.ส. พร้อมฝากเตือนความจำอย่าลืมมีนัดเดทกันที่ศาลอีกหลายคดี

จากกรณี เป็นที่ฮือฮา หลังอดีตคนดังจากคดีหวย 30 ล้าน เจ้าของวลีเด็ด “ความจริงก็คือความจริง” นายปรีชา ใคร่ครวญ ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชากรไทย (ปชท.)


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top