Sunday, 18 May 2025
World

‘เหม่ยถวน’ อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน โตอย่างแข็งแกร่ง  เผยกำไร 3 เดือนแรก รวมอยู่ที่ 2.87 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 

(ซินหัว) — เหม่ยถวน (Meituan) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน รายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2023 รวมอยู่ที่ 3.59 พันล้านหยวน (ราว 1.76 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเปลี่ยนจากการขาดทุนเป็นกำไร

รายงานผลประกอบการก่อนตรวจสอบของบริษัทฯ ระบุว่ารายได้จากการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรก รวมอยู่ที่ 5.86 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.87 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบปีต่อปี

เหม่ยถวนเพิ่มปริมาณการลงทุนในตลาดผู้บริโภคจีนอย่างต่อเนื่องช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม รวมถึงด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี (R&D) โดยมีการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาแตะ 5 พันล้านหยวน (ราว 2.45 หมื่นล้านบาท) ส่วนรายได้จากการค้าหลักท้องถิ่น อยู่ที่ 4.29 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.1 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 เมื่อเทียบปีต่อปี

หวังซิ่ง ซีอีโอของเหม่ยถวน กล่าวว่าธุรกิจทั้งหมดของบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคในท้องถิ่นที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

‘เครื่องบินโดยสาร C919’ ของจีน ขึ้นบินเชิงพาณิชย์เที่ยวแรก ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ตลาดการบินพลเรือนอย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, เซี่ยงไฮ้ รายงานว่า เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่จีนพัฒนาขึ้นเอง ‘รุ่นซี 919’ (C919) ได้ทำการบินเชิงพาณิชย์เที่ยวแรกจากนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก ไปยังกรุงปักกิ่งทางตอนเหนือเสร็จสิ้น เมื่อวันอาทิตย์ (28 พ.ค.) ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่ตลาดการบินพลเรือนอย่างเป็นทางการ

รายงาน ระบุว่า เที่ยวบินเชิงพาณิชย์เที่ยวแรกนี้ดำเนินงานโดยสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส (China Eastern Airlines) ขึ้นบินจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ หงเฉียว พร้อมผู้โดยสาร 128 คน ด้วยรหัสเอ็มยู 9191 (MU9191) ตอน 10.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เครื่องบินได้รับการต้อนรับด้วยพิธีการฉีดอุโมงค์น้ำ หลังจากลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง ตอน 12.31 น. ตามเวลาท้องถิ่น

อนึ่ง ซี919 ถือเป็นเครื่องบินไอพ่นขนาดใหญ่ที่จีนพัฒนาขึ้นเองรุ่นแรก ซึ่งมีมาตรฐานความสมควรเดินอากาศระดับสากลและสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยอิสระของตนเอง

โครงการ ซี 919 เริ่มต้นปี 2007 พัฒนาโดยบริษัทอากาศยานพาณิชย์แห่งประเทศจีน (COMAC) และมีการส่งออกเครื่องบินลำแรกจากสายการผลิตในเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 โดยเครื่องบินทำการบินเที่ยวปฐมฤกษ์สำเร็จในปี 2017

“เที่ยวบินเชิงพาณิชย์เที่ยวแรกนี้ นับเป็นพิธีก้าวผ่านช่วงสำคัญของเครื่องบินรุ่นใหม่ โดยซี 919 จะดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากสามารถคงสถานะที่ดีในตลาด” จางเสี่ยวกวง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและจัดจำหน่ายของบริษัทฯ กล่าว
 

‘อิสราเอล’ เริ่มทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าระบบชาร์จไร้สายบนถนน วิ่งไปชาร์จไปได้ต่อเนื่องแบบไม่หยุดพักนานกว่า 100 ชั่วโมง

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวซินหัว, เยรูซาเล็ม รายงานว่า แถลงการณ์จากอิเลคทรีออน ไวร์เลส (Electreon Wireless) บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงสัญชาติอิสราเอล เปิดเผยว่าบริษัทฯ เริ่มการทดสอบวิ่งรถยนต์ไฟฟ้าบนถนนชาร์จไร้สายแบบไม่หยุดพักนาน 100 ชั่วโมงแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค) ที่ผ่านมา

บริษัทฯ สร้างระบบชาร์จผ่านถนนโดยใช้ขดลวดทองแดงแบบพิเศษที่ฝังใต้พื้นผิวถนน ซึ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จพร้อมขับขี่บนถนนได้

รายงานระบุว่า การทดสอบขับรถยนต์ระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) ดำเนินการบนถนนทดสอบที่สร้างแบบพิเศษยาว 200 เมตร ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ ในหมู่บ้านชายฝั่งเบตยาไนทางตอนกลางของอิสราเอล

อนึ่ง ก่อนหน้าในเดือนนี้ อิเลคทรีออน ไวร์เลสได้เปิดตัวเส้นทางรถบัสสาธารณะที่ติดตั้งเทคโนโลยีชาร์จไร้สายในเมืองบัดเบลลิงเงนของเยอรมนี โดยบริษัทฯ ยังได้ลงนามข้อตกลงกับหุ้นส่วนหลายรายเพื่อสร้างถนนชาร์จไร้สายในสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป

‘เรเซป ไทยิป แอร์โดกัน’ รักษาตำแหน่งผู้นำตุรกีได้เป็นสมัยที่ 3 หลังคว้าชัยในการเลือกตั้งรอบตัดสิน ครองอำนาจต่ออีก 5 ปี

ประเทศตุรกี ได้จัดการเลือกตั้งใหญ่ไปเมื่อ 14 พฤษภาคมผ่านมา โดยมี 2 ผู้แข่งขันที่มีคะแนนไล่บี้กันมากคือ นาย เรเซป ไทยิป แอร์โดแกน ผู้นำปัจจุบัน และ นาย เคมัล คือลิชดากูลู ผู้นำฝ่ายค้าน แม้ว่า แอโดแกนจะชนะไปแล้วในรอบแรก แต่ได้เสียงสนับสนุนไม่ถึงครึ่ง (50%) จึงต้องมาเลือกตั้งต่อในรอบที่ 2

ผลปรากฏว่า ราเซป ไทยิป แอร์โดแกน ยังคงมีคะแนนนำ สามารถชนะไปได้ด้วยคะแนน 52.14% สมเป็นแมว 9 ชีวิตแห่งออตโตมาน ครองอำนาจการเมืองในรัฐบาลตุรกีเข้าสู่ทศวรรษที่ 3

‘ทวีสุข ธรรมศักดิ์’ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ โพสต์ถึงความเสมอภาคที่ไม่เคยมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์โลก

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 66 นายทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ได้โพสต์ถึงกรณี การประท้วงในฝรั่งเศสที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า…

“ขณะนี้มีการประท้วงในฝรั่งเศส จากแผนสวัสดิการ ความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อความเสมอภาค เสรีภาพ และ ทุพลภาพ ที่ไม่เคยมีอยู่จริง สู้มาแล้ว 200 ปี สู้อยู่ และ สู้ต่อไปอีก 200 ปี ถามจริงๆ 3,000 ปีที่ผ่านมา มีช่วงไหนของประวัติศาสตร์โลก ที่มีความเท่าเทียมกันบ้าง มีแต่สร้างฝันให้คนพูดเอาไปหาผลประโยชน์กับตัวเองทั้งนั้น”

‘เทมาเส็ก’ ตัดเงินเดือนผู้บริหาร เหตุธุรกิจคริปโตเจ๊งยับ หลังร่วมลงทุนกับ FTX สูญเงิน 275 ล้านเหรียญสหรัฐฯ!!

เทมาเส็กโฮลดิงส์ กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ได้ประกาศตัดเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจลงทุนใน FTX แพลทฟอร์มซื้อ-ขายเงินคริปโตชื่อดังที่ล้มละลายไปเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ทำให้เทมาเส็กสูญเงินมากถึง 275 ล้านเหรียญสหรัฐ 

แม้จะมีการไต่สวน แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ อดีตประธานผู้บริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง FTX โดยสำนักอัยการกลางสหรัฐ ว่าเขาอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงเงินของนักลงทุนจากทั่วโลกนับพันล้านดอลลาร์ แต่สุดท้ายศาลได้ตัดสินว่า แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ ไม่มีความผิด

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เทมาเส็ก ได้พิจารณาแล้วว่า ทีมผู้บริหารระดับอาวุโส และ ทีมวิเคราะห์การลงทุนของบริษัทมีส่วนต้องรับผิดชอบร่วมกันในการตัดสินใจร่วมลงทุนกับ FTX  ด้วยการถูกตัดเงินเดือน

ทั้งนี้ เทมาเส็ก ไม่ได้ระบุอัตราเงินเดือนที่จะถูกลดเป็นจำนวนเท่าใด แต่คณะกรรมการกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรู้สึกผิดหวังกับการลงทุนครั้งนั้น และยังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเทมาเส็กอย่างมาก

ครั้งหนึ่ง FTX ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแพลทฟอร์มเทรด เงินคริปโตที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในตลาดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เคยมีมูลค่าการซื้อขายรายวันสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ.โลกมาแล้ว โดยเทมาเส็กได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับ FTX ถึง 2 ครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 เป็นเงิน 210 ล้านเหรียญ และเพิ่มอีก 65 ล้านเหรียญในเดือนมกราคม 2565

ด้านผู้บริหารกองทุนเทมาเส็ก แย้งว่าได้ใช้เวลาประเมินธุรกิจการซื้อขาย แลกเปลี่ยนเงินคริปโตมานานถึง 8 เดือน รวมถึงตรวจสอบบัญชีการเงินที่แสดงผลประกอบการที่มีกำไรของ FTX ก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งถ้าหากเทียบกับมูลค่าของกองทุนเทมาเส็กในเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.98  แสนล้านเหรียญ ก็จะพบว่าเงินที่นำไปลงทุนใน FTX มีสัดส่วนที่น้อยมาก เพียงแค่ 0.09% เท่านั้นที่แทบไม่ส่งผลต่อกำไรโดยรวมของบริษัท

แต่ทว่า ลอเรนซ์ หวัง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ไม่คิดเช่นนั้น เพราะการสูญเงินใน FTX กระทบกับชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเทมาเส็ก ที่เป็นกองทุนของรัฐบาล ซึ่งก็คือเงินออมของชาติ ที่ชาวสิงคโปร์คาดหวังว่ารัฐบาลจะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่า และมีอนาคตที่ดี 

แต่ความผิดพลาดจากการลงทุนใน FTX เกิดจากความมั่นใจในธุรกิจด้านเทคโนโลยี และทรัพย์สินดิจิทัลที่มากเกินไป ว่าจะเป็นเทรนของโลกธุรกิจการเงินยุคใหม่ เทมาเส็กจึงกระโดดลงไปร่วมลงทุนตั้งแต่แรกๆ แม้จะเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงแต่ก็เชื่อมั่นในผลตอบแทนที่มากกว่าในอนาคต แต่สุดท้ายกลายไปการลงทุนที่สูญเปล่าไปทันทีที่ FTX ล่มสลาย ผู้ก่อตั้งอย่าง แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ กลายเป็นบุคคลล้มละลาย และถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และจงใจปกปิดข้อมูลที่ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิด 

และบอร์ดบริหารของเทมาเส็ก ตัดสินใจให้พนักงานเป็นแพะรับบาปของหายนะจากการลงทุนใน FTX ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของการพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆของเทมาเส็ก เมื่อพนักงานต้องแบกรับผลจากการขาดทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้ 

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง : BBC / Channel News Asia

‘จริยา ขัตติยศ’ ชนะเลิศการแข่งขัน Master Chef UK 2023  ขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรติ สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ

ขอแสดงความยินดีกับ คุณจริยา ขัตติยศ วัย 40 ปี ผันตัวจากนักคั่วกาแฟระดับปรมาจารย์สู่แชมป์มาสเตอร์เชฟ กลายเป็นแม่ครัวมือสมัครเล่นคนที่ 19 ที่ได้รับตำแหน่งชนะเลิศในการแข่งขันการทำอาหารอันทรงเกียรติของ รายการสถานีโทรทัศน์ BBC One
ประชันฝีมือกับเหล่าผู้เข้ารอบสุดท้ายที่เหลืออย่าง Anurag Aggarwal (อายุ 41) และ Omar Foster (31 ปี) ) จริยา ได้รับรางวัล MasterChef จากกรรมการสุดเขี้ยวอย่าง John Torode และ Gregg Wallace ในการแข่งขันทำอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรายการโทรทัศน์ในสหราชอาณาจักร

จาก บทสัมภาษณ์บีบีซีวัน คุณจริยา พูดถึงชัยชนะของเธอว่า: “นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก รางวัลนี้มันหมายถึงโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และทุกสิ่งสำหรับฉัน ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเหนือกว่านี้แล้ว ฉันมีความสุขมาก! นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าถ้าคุณฝันอะไรบางอย่างและคุณทำงานหนักและไม่ยอมแพ้ คุณจะได้มันมา นั่นคือสิ่งที่คุณปู่ของฉันพูดกับฉัน - อย่ายอมแพ้ เขาจะภูมิใจในตัวฉันมาก!”

ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

จีนเตรียมจัดพิธีเฉลิมฉลอง กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯเยือนจีน ครั้งที่ 50 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน พุทธศักราช 2566

สมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเฉลิมฉลอง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเยือนจีน ครั้งที่ 50 

พิธีจะจัดขึ้น ณ เรือนรับรองรัฐบาลจีนหยู่ไถ กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เพื่อแสดงถึงมิตรไมตรีระหว่างจีน-ไทยที่มีมาช้านานและจะขยายความร่วมมือใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยไป

‘คิม จองอุน’ กำลังต่อสู้ กับโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง เหตุ เพราะดื่มเหล้า และสูบบุหรี่จัด

สำนักหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคิม จอง-อุน ผู้นำเกาหลีเหนือ ว่าอาจกำลังเผชิญปัญหาอาการนอนไม่หลับรุนแรง อันเนื่องจากการดื่ม เหล้า และ สูบบุหรี่มากเกินไป

โดย นาย อู ซัง-บุม สมาชิกสภา และ เลขาธิการประจำสำนักหน่วยข่าวกรองแห่งรัฐสภาเกาหลีใต้ ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อเมื่อช่วงวันพุธกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สำนักหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เชื่อว่าตอนนี้ผู้นำคิม จอง-อุน กำลังเผชิญปัญหาด้านการนอนบกพร่อง เข้าขั้นโรคนอนไม่หลับอย่างหนัก

อีกทั้งผู้นำคิมยังเป็นคนที่สูบบุหรี่จัด และดื่มเหล้าหนักเป็นประจำอีกด้วย จากข้อมูลวงใน พบว่าเกาหลีเหนือมีการนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งแบรนด์ดังอย่าง Marlboro และ Dunhill อีกทั้งขนมขบเคี้ยวชั้นดีที่ไว้กินแกล้มเหล้าอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำเข้าเพื่อจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ในช่วงที่ประเทศกำลังประสบภาวะขาดแคลนอาหาร
และไม่ได้แค่แอบล้วงข้อมูลวงในเท่านั้น ยังมีการใช้ AI วิเคราะห์ภาพถ่ายในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ผู้นำเกาหลีเหนือไปปรากฏตัว และชี้ว่า ผู้นำโสมแดงมีน้ำหนักเพิ่มกว่าเดิมมาก และน่าจะหนักถึง 140 กิโลกรัมแล้วในตอนนี้ 

และยังมีข่าวกรองหลุดมาอีกว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในเกาหลีเหนือกำลังรวบรวมข้อมูลทางการแพทย์ ในการรักษาอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง รวมถึงการใช้ยา Zolpidem  หนึ่งในยากล่อมประสาทที่ใช้ในการรักษาอาการนอนไม่หลับ ทางหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้จึงมั่นใจว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ เข้าสู่วังวนปัญหาสุขภาพที่น่าเป็นห่วง ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่จัด ที่มีผลต่ออาการนอนไม่หลับของเขา และพบว่า ล่าสุด คิม จอง-อุน ปรากฏตัวออกสื่อด้วยใต้ตาที่ดำคล้ำจากการอดนอน และน่าจะใช้ยาจำพวก Zolpidem ในการรักษา ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อกับผู้ใช้ที่มีนิสัยดื่มเหล้าด้วยเป็นประจำด้วย

และอาจเป็นสาเหตุที่ผู้นำเกาหลีเหนือต้องงดภารกิจสำคัญหลายงานในช่วงเวลานี้ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการบริหารกิจการภายในประเทศที่กำลังประสบปัญหาข้าวยากหมากแพง ส่งผลให้มีคดีอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึง อัตราการเสียชีวิตจากความอดอยาก เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดิมของปีที่ผ่านมา 

มีข้อมูลที่น่าตกใจกว่านั้นคือ อัตราการฆ่าตัวตายของคนเกาหลีเหนือก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 40% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับในยุคสมัยของผู้นำคิม จอง-อุน ซึ่งรัฐบาลเปียงยางเคยประกาศว่าการฆ่าตัวตาย เป็นการกระทำที่ทรยศต่อระบอบสังคมนิยม และมักถูกเรียกว่า "ความป่วยไข้" ที่อาจลุกลามในสังคมเกาหลีเหนือ ทางรัฐบาลจึงออกคำสั่งให้จำกัดการเดินทางเข้า และ ออกจากกรุงเปียงยาง ที่ทางเกาหลีเหนืออาจเชื่อว่าจะสามารถสกัด ข้อมูล หรือแนวความคิดในการทำอัตวินิบาตกรรมไม่ให้กลายเป็นกระแสในเกาหลีเหนือ ไม่แน่ใจว่า การจำกัดการเดินทางเข้าออกกรุง ของชาวเกาหลีเหนือ จะช่วยเรื่องการระบาดของ "ความป่วยไข้" ที่ว่านี้ได้หรือไม่

เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่เรื่องพฤติกรรมการดื่มเหล้า และสูบบุหรี่จัด มีผลต่ออาการนอนไม่หลับนั้น มีหลักฐานทางการแพทย์หลายชิ้นพิสูจน์ว่ามีความเชื่อมโยงกันจริง ๆ ยิ่งดื่มมาก สูบจัด ยิ่งมีผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับพักผ่อน 

ดังนั้นก่อนที่จะคิดวิเคราะห์ไปไกล ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างดาวเทียมสอดแนม ขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีป หรือวิธีสกัดการระบาดของอาการ"ป่วยไข้" ในสังคมเกาหลีเหนือ ลองย้อนมาแก้ปัญหาด้วยหลักเหตุผลในเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด อย่างสุขภาพของตนเอง ให้สำเร็จก่อน น่าจะดีกว่า

สหรัฐฯ ส่งฝูงบิน F-16 ปฏิบัติการไล่ล่าเครื่องบินเล็ก ก่อนจะพบ ตกอยู่ที่ เขตป่าสงวนแห่งชาติจอร์จวอชิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย

กองทัพสหรัฐฯ ส่งฝูงบิน F-16 ออกไล่ติดตามเครื่องบินเล็กซึ่งละเมิดน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยไม่มีสัญญาณตอบรับจากนักบิน และต่อมาเครื่องบินลำดังกล่าวได้ไปตกบริเวณเขตภูเขาในรัฐเวอร์จิเนีย 

ปฏิบัติการไล่ตามเครื่องบินเล็ก Cessna Citation ของฝูงบินขับไล่สหรัฐฯ ได้ก่อให้เกิดเสียงโซนิกบูมดังกระหึ่ม สร้างความแตกตื่นต่อประชาชนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ด้านกองบัญชาการป้องกันทางอากาศและอวกาศประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ (NORAD) แถลงว่า กองทัพสหรัฐฯ พยายามที่จะส่งสัญญาณติดต่อนักบินผู้ควบคุมเครื่อง แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง และต่อมาเครื่องบิน Cessna ลำนี้ได้ไปตกบริเวณภูเขาภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติจอร์จวอชิงตัน ที่รัฐเวอร์จิเนีย

แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า เครื่องบินลำนี้ดูเหมือนจะอยู่ในโหมดบินอัตโนมัติ (autopilot) ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าปฏิบัติการของฝูงบิน F-16 ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินเล็กลำนี้ตก

ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flight Aware พบว่า เครื่องบิน Cessna ลำนี้จดทะเบียนโดยบริษัท Encore Motors of Melbourne Inc. ในรัฐฟลอริดา ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่ามันมีผู้โดยสารอยู่บนเครื่องทั้งหมด 4 คน ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องบินเล็กรุ่นนี้สามารถจุผู้โดยสารได้ระหว่าง 7-12 คน

จอห์น รัมเพล เจ้าของบริษัท Encore ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า บุตรสาว หลาน และพี่เลี้ยงของหลานอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว

“เรายังไม่ทราบเรื่องเครื่องบินตกเลย ตอนนี้กำลังติดต่อไปที่ FAA (องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ) อยู่” รัมเพล ให้ข้อมูลกับวอชิงตันโพสต์ทางโทรศัพท์ ก่อนที่จะตัดสายไป

FAA แถลงว่า เครื่องบิน Cessna ลำนี้เดินทางออกจากสนามบิน Elizabethton Municipal Airport ในรัฐเทนเนสซี และกำลังมุ่งหน้าไปที่สนามบิน MacArthur Airport ที่ลองไอแลนด์ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ห่างจากแมตฮัตตันไปทางตะวันออกประมาณ 80 กิโลเมตร โดยตามข้อมูลของ Flight Aware พบว่ามันเดินทางไปถึงพื้นที่นิวยอร์ก ก่อนจะหันหัวกลับเกือบ 180 องศา และไปประสบอุบัติเหตุตกที่รัฐเวอร์จิเนีย

ตำรวจรัฐเวอร์จิเนียได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามค้นหาซากเครื่องบินลำนี้ และล่าสุดมีรายงานยืนยันว่า ไม่พบผู้รอดชีวิต

ชาวกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลายคนโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์วานนี้ (4 มิ.ย.) ว่าพวกเขาได้ยินเสียงโซนิกบูมจากเครื่องบินขับไล่ ซึ่งดังสนั่นจน “พื้นและกำแพงบ้านสะเทือน” ขณะที่หลายคนบอกว่าเสียงนั้นดังไปไกลจนถึงตอนเหนือของรัฐเวอร์จิเนียและแมริแลนด์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top