Saturday, 26 April 2025
TheStudyTimes

คุณเน็กส์ ณัฐดนัย องอาจวาจา | THE STUDY TIMES STORY EP.49

บทสัมภาษณ์ คุณเน็กส์ ณัฐดนัย องอาจวาจา นักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, นักเรียนทุนฟิสิกส์ พสวท.
นักเรียนทุนฟิสิกส์ พสวท. ที่โดดเด่นทั้งด้านการเรียนและกิจกรรม

คุณเน็กส์จบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบ ได้ทุนจาก พสวท. ปริญญาตรี โท เอก กำลังจะไปศึกษาต่อที่อเมริกา

คุณเน็กส์สอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ในห้อง GATE Program หรือ Gifted and Talented education Program ยาวตั้งแต่ระดับมัธยมต้นจนถึงมัธยมปลาย เน้นการเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตอนที่เรียนช่วงแรกๆ คุณเน็กส์ค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น โดยกล่าวว่า ถ้าอยากเรียนที่สวนกุหลาบอยากให้น้องๆ เตรียมตัวและตั้งใจ 

นอกจากเรื่องการเรียนที่เข้มข้นแล้ว โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยยังเน้นการทำกิจกรรมที่เยอะมาก ซึ่งคุณเน็กส์เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น โรงเรียนจะมีงานสมานมิตรจัดในวันจันทร์แรกของเดือนกันยายน เหมือนเป็นการเปิดโรงเรียนให้ศิษย์เก่ามามีส่วนร่วม และมีกิจกรรมจตุรมิตร คือการแข่งขันฟุตบอล 4 โรงเรียน มีการแปรอักษร มีกิจกรรมตามระดับชั้น เช่น การรับน้อง การสันทนาการมีกิจกรรมที่ชื่อว่า ละอ่อน ที่พี่ ม.6 จัดให้น้อง ม.1 

นอกจากนี้ในโรงเรียนจะมีการเลือกประธานนักเรียน คุณเน็กส์ก็ได้เข้าไปทำงานร่วมกับกรรมการนักเรียน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทำให้คุณเน็กส์ได้ฝึกกระบวนการทำงาน งานเอกสาร มีระบบการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน

สำหรับการแบ่งเวลาเรียนและทำกิจกรรมของคุณเน็กส์นั้นมองว่า ถ้าเราอยากทำอะไร เราจะมีเวลาว่างสำหรับมัน เราสนใจในอะไร จะพยายามทำทุกอย่างให้เสร็จเพื่อเอาเวลาไปทำมัน

จุดเริ่มต้นความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์ ย้อนไปในช่วงวัยเด็ก ที่บ้านเล่าให้ฟังว่าคุณเน็กส์เป็นคนที่ชอบตั้งคำถามกับทุกอย่าง มีความอยากรู้อยากเห็น ขี้สงสัย ซึ่งค้นพบว่าสิ่งที่สามารถให้คำตอบได้คือวิทยาศาสตร์ หลายสิ่งสามารถอธิบายและหาคำตอบได้ด้วยหลักการของวิทยาศาสตร์ พอได้มาเรียนตรงนี้ก็ยิ่งตอบโจทย์

คุณเน็กส์มีโอกาสเข้าร่วมโครงการพสวท. เป็นโครงการของ สสวท.  ต้องการสร้างบุคลากรในการวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ คุณเน็กส์ได้เข้าร่วมตอนช่วงม.4 มีนักเรียนจากทั่วประเทศเข้ามาสอบเข้าร่วมโครงการ เมื่อเข้ารอบก็จะมีการเฟ้นหา ทดสอบในด้านวิทยาศาสตร์ลึกยิ่งขึ้น ทั้งการสอบวัดเชิงความคิดสร้างสรรค์ ครั้งหนึ่งโจทย์ที่คุณเน็กส์ได้รับคือ มีแป้งและน้ำหลากหลายชนิด และมีถั่วจำนวนหนึ่ง โจทย์มีอยู่ว่าให้ทำภาชนะใส่ถั่วให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการวัดทักษะทางความคิด ต้องมีทักษะเชิงวิชาการและการประยุกต์ที่ดีด้วย 

เทคนิคการเรียนและการทำคะแนนสอบของคุณเน็กส์ คือ ต้องทำให้การเรียนเป็นสิ่งที่น่าพอใจกับตัวเอง หาวิธีการทำให้วิชาที่เราไม่ชอบเรียน เป็นวิชาที่น่าพอใจกับเรา เช่น เราชื่นชอบศิลปะ ชอบการจดโน้ตสวยๆ อาจพยายามจดโน้ตวิชาที่เราไม่ชอบให้ดูสวยงาม จะทำให้เราอยากกลับมาอ่าน หาสิ่งจูงใจเล็กๆ ที่ทำให้เรายังสนุกกับการเรียนอยู่ได้ ส่วนเรื่องการทำข้อสอบ เป็นเรื่องของการเตรียมตัว 70% ต้องวิเคราะห์ข้อสอบให้ทะลุปรุโปร่ง ดูว่าข้อสอบต้องการวัดอะไร เตรียมตัวหาวิธีการในการทำข้อสอบ ส่วนอีก 30 % คือการทบทวนเนื้อหา จะทำให้เรามีแนวทางและมีเทคนิคในการทำข้อสอบ

นอกจากนี้ ในความสนใจทางด้านดนตรีและกีฬา คุณเน็กส์ชอบเล่นกีฬาบาสเกตบอล มีจุดสนใจมาจากกลุ่มเพื่อนที่มีความชอบเหมือนกันชวนกันไปเล่นช่วงพักกลางวัน จนค้นพบว่าบาสเป็นกีฬาที่ชอบมาก ทำให้ไปศึกษาและฝึกฝนเพิ่มเติม ประกอบกับเป็นช่วงที่โรงเรียนหานักกีฬา ทำให้คุณเน็กส์มีโอกาสเข้าร่วมฝึกซ้อมและแข่งขัน นอกจากนี้กีฬาบาสยังทำให้คุณเน็กส์ปิดมุมมองใหม่ๆ จากที่เคยทำข้อสอบอยู่คนเดียว เป็นการได้ออกมาอยู่ในสังคม รู้จักผู้คนมากขึ้น ได้ฝึกซ้อม ทำงานเป็นทีม 

เรื่องของดนตรี คุณเน็กส์มีความสนใจในกีตาร์ เพราะช่วงเรียนออนไลน์มีเวลาว่างเยอะ ออกไปเล่นกีฬาก็ไม่ได้ เลยหาเครื่องดนตรีมาเล่นคนเดียวที่บ้าน สิ่งที่ทำให้คุณเน็กส์สนใจ คือเบื้องหลังของดนตรี การผลิตกีตาร์ กีตาร์สร้างมาอย่างไร วัสดุที่เขาใช้ทำกีตาร์คืออะไร ถือเป็นการประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ด้วย

ปัจจุบันคุณเน็กส์ได้รับทุนจากพสวท. สอบคัดเลือกในสาขาวิชาฟิสิกส์ ได้ทุนเรียนต่อระดับปริญญาตรี โท เอก โดยเลือกไปศึกษาที่ประเทศอเมริกา โดยคุณเน็กส์ต้องเดินทางไปเรียนปรับพื้นฐานที่ประเทศอเมริกาก่อน จากนั้นค่อยเลือกศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย 

ในอนาคตคุณเน็กส์มีเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง ได้ใช้ความสามารถที่ได้จากการศึกษาและการพัฒนาตนเองมาช่วยเหลือผู้อื่น และได้ใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ 

สุดท้ายคุณเน็กส์ฝากทริคในเรื่องการค้นหาตัวเอง สิ่งสำคัญคือ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำหลายๆ อย่าง จะรู้ว่าสิ่งไหนชอบ หรือไม่ชอบ ซื่อสัตย์กับตัวเองให้มากพอ ว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่เราชอบจริงหรือเปล่า เราชอบทำสิ่งนี้เพราะอะไร เหตุผลอะไร อย่าคล้อยตามคนอื่นๆ หรือสภาพสังคม ให้โอกาสกับตัวเองและซื่อสัตย์กับตัวเอง
.

.

.

.

คุณนีน่า ณัชชา ติรวัฒนกุล | THE STUDY TIMES STORY EP.50

บทสัมภาษณ์ คุณนีน่า ณัชชา ติรวัฒนกุล ทนายความอิสระ และติวเตอร์สอนกฎหมาย ที่สถาบัน Bangkok Law
ติวเตอร์กฎหมายสายภาษาอังกฤษ ที่เชื่อว่า ‘ภาษา’ คือ ประตูสู่ ‘โอกาส’

ปัจจุบัน คุณนีน่าเป็นติวเตอร์สอนกฎหมาย ที่สถาบัน Bangkok Law  

แรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นในการเลือกเรียน ‘นิติศาสตร์’ ในตอนแรกคุณนีน่าได้ทุนของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ แต่คุณนีน่ารู้สึกไม่ชอบเลยไปค้นหาตัวเองว่าแท้จริงชอบอะไร จนตัดสินใจว่าคณะนิติศาสตร์เป็นสิ่งที่จอบโจทย์มากที่สุด ส่วนเสน่ห์ของการเรียนนิติศาสตร์คือภาษาที่ใช้ และสังคมที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ทุกคนที่มาเรียนรักความถูกต้อง และมีความคิดที่แตกต่างกันไป ส่วนการเรียนค่อนข้างยาก แต่โชคดีที่คุณนีน่ามีเพื่อนที่เรียนเก่งมาก ได้ศึกษาเทคนิคจากเพื่อนๆ ทำให้รู้จุดที่ต้องทบทวน และช่วยกันติว ทำให้สามารถเรียนผ่านมาได้

ช่วงที่คุณนีน่าเรียนที่จุฬาฯ ได้ทำกิจกรรมเยอะมากจนไม่ค่อยได้เข้าเรียน เมื่อมาเรียนที่ธรรมศาสตร์จึงตัดสินใจไม่ทำกิจกรรม ตั้งใจศึกเล่าเรียนอย่างเดียว หลังจากเรียนจบคุณนีน่าก็ได้เข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เช่น โครงการภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย กฎหมายระหว่างประเทศ และได้มีการฝึกล่ามที่กระทรวงยุติธรรม คุณนีน่าชื่นชอบที่จะหาความรู้ ถือว่าเป็นการเปิดโลก ได้ทั้งข้อมูล เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ สิ่งสำคัญมากกว่าเนื้อหาความรู้ที่ได้มา คือประสบการณ์ในการใช้ชีวิต 

เทคนิคในการเรียนของคุณนีน่า คือ ใช้การถามเทคนิคจากหลายๆ คน และนำมาปรับใช้กับตัวเอง ทำข้อสอบเก่า เพื่อจำกัดขอบเขตในการอ่านหนังสือ ใช้วิธีการจดโน้ตสรุปเป็นรูปแบบของตัวเองแลกเปลี่ยนกับเพื่อน

สำหรับการฝึกทักษะภาษาอังกฤษของคุณนีน่า มีพื้นฐานจากการที่ครอบครัวจะพูดภาษาอังกฤษกัน ทำให้คุณนีน่าคิดว่าถึงเวลาที่ตัวเองต้องฝึกภาษาอังกฤษ โดยเริ่มศึกษาจากการแชร์โพสต์ภาษาอังกฤษที่ง่ายๆ ฝึกภาษาโดยการถามเพื่อนตลอดเวลา ฝึกพูดกับเพื่อน คุณนีน่าเองเคยเจอคำพูดดูถูกที่ว่า ถ้าพูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด ทำให้คุณนีน่ายิ่งอยากจะพัฒนาตัวเอง ฝึกฟัง พูด ทำตาม ทำซ้ำทุกวัน จนสามารถเก่งภาษาขึ้นมาได้ 

มีครั้งหนึ่งที่คุณนีน่าจะต้องไปเรียนศาลโลกที่เนเธอร์แลนด์ กังวลมากว่าจะพูดได้ไหม แต่พอเรียนจริงๆ ทุกคนไม่ได้พูดสำเนียงอังกฤษ เพราะมาจากหลายประเทศ มีหลากหลายสำเนียง ทำให้คุณนีน่ากล้าพูด และค้นพบว่าไม่จำเป็นต้องสำเนียงดี แค่มั่นใจก็พูดออกมาเลย 

นอกจากนี้คุณนีน่าได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “Legal English By NN” สอนภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย และเป็นเจ้าของเพจร่วม “กฎหมายไม่ยากอย่างที่คิด” ให้ความรู้ทางกฎหมาย 

ปัจจุบันคุณนีน่าเป็นทนายความอิสระ และติวเตอร์สอนกฎหมาย ที่สถาบัน Bangkok Law ความยากคือการเตรียมตัวพูด ต้องฝึกทั้งทักษะการพูด คุณนีน่ามองว่า ติวเตอร์เป็นงานที่ยากและท้าทาย แต่ช่วยพัฒนาตัวเองได้เยอะมาก 

สุดท้ายคุณนีน่าฝากถึงคนที่อยากเรียนนิติศาสตร์ ให้ถามตัวเอง ค้นหาตัวเองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์กับตัวเอง คนเราเกิดมาทั้งทีควรเกิดมาเพื่อสร้างประโยชน์ นำความรู้มาช่วยเหลือผู้คน เรียนรู้จนสามารถเอาความรู้มาช่วยเหลือผู้อื่นได้ หาทิศทางวิธีการเรียนที่ถูกต้อง นำความรู้จากนิติศาสตร์มาใช้ประโยชน์ช่วยเหลือ ผดุงความยุติธรรมให้ถูกต้อง อยู่ในที่ที่มีความสุข ทำสิ่งที่ความสุข 

.

.

.

.

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง คลื่นเสียงสำหรับนักเรียน ม.5

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง คลื่นเสียงสำหรับนักเรียน ม.5

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล

อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น

#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse

.

.

BMAT: เรื่อง ติวฟรี BMAT เตรียมสอบแพทย์สำหรับ ม.ปลาย

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน

BMAT: เรื่อง ติวฟรี BMAT เตรียมสอบแพทย์สำหรับ ม.ปลาย

โดย ครูจึ๋ง สมนึก สงวนตระกูล

นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbusho

เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง Computer Engineering Osaka University

#BMAT เรียนเตรียมสอบแพทย์ Critical Thinking, Problem Solving, Maths & Science

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse

.

.

คุณแนน ทิวาภรณ์ กาญจนมยูร | THE STUDY TIMES STORY EP.51

บทสัมภาษณ์ คุณแนน ทิวาภรณ์ กาญจนมยูร ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ
นักสังคมสงเคราะห์ ผู้หวังให้ผู้ทุกข์ยากได้รับการช่วยเหลือ ด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นของคุณแนนในการเลือกเรียนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มาจากตอนเด็กๆ คุณแนนได้อาศัยอยู่ที่จังหวัดลำปาง ช่วงมัธยมปลายต้องตัดสินใจเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร อยากไปทางไหน จนได้ไปอ่านหนังสือจุดประกายความอยากเป็นนักสังคมศาสตร์ ที่นางเอกในนิยายเป็นนักพัฒนากรได้ช่วยเหลือคนอยู่ในชุมชน เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็น 

เมื่อค้นคว้าหาข้อมูลพร้อมแล้ว จึงตั้งเป้าสอบตรงเข้าคณะสังคมสังเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในช่วงที่เรียนคุณแนนพบกับคนที่มีความสนใจเหมือนกันมารวมกันอยู่ในคณะ ทุกคนมีเป้าหมายอยากเปลี่ยนแปลงสังคม
 
คุณแนนเล่าว่า คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์แทบจะเป็นคณะเดียวที่เริ่มฝึกงานตั้งแต่ตอนปี 2 มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับชุมชน ในช่วงปี 3 ได้ออกต่างจังหวัด ทุกปิดเทอมไม่ได้กลับบ้าน เพราะต้องอยู่กับพื้นที่จริง มีการเข้าค่ายอยู่ตลอด ทุกๆ ที่มีการให้ความช่วยเหลือแตกต่างกัน ได้เจอกับเหตุการณ์การช่วยเหลือคนจริงๆ ที่มากกว่าในตำรา หัวใจหลักของนักสังคมสงเคราะห์คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ทำให้คุณแนนต้องทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจ 

ด้านกิจกรรม คุณแนนได้รับเลือกเป็นทูตกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU Ambassador) ตำแหน่ง ผู้อัญเชิญหญิง โดยในช่วงรอบคัดเลือกคุณแนนได้รับแบบทดสอบที่ค่อนหนักทั้งการสอบสัมภาษณ์ ดูผลการเรียน กิจกรรม โดยตัวอย่างคำถามในรอบสอบสัมภาษณ์ คือ อยากเปลี่ยนแปลงอะไรในมหาวิทยาลัย การแข่งขันจะคัดจาก 200 ให้เหลือ 30 และเหลือ 5 คนสุดท้าย 

ต่อมาคุณแนนได้รับทุนไปศึกษาที่ Incheon National University ประเทศเกาหลีใต้ เป็นคอร์สระยะสั้น 6 เดือน ในตอนแรกสาขาที่คุณแนนอยากเรียนมีแต่ภาษาเกาหลีล้วน คุณแนนจึงต้องปรับเปลี่ยนมาเรียนด้านภาษาแทน โดยเรียนภาษาอังกฤษเป็นหลัก และเรียนภาษาเกาหลีพื้นฐาน ในด้านของการใช้ชีวิตคุณแนนเล่าว่าแทบจะไม่ต้องปรับตัวเลย เพราะเกาหลีมีวัฒนธรรมเอเชียที่คล้ายกับของไทย มีการฝึกฝนแลกเปลี่ยนทั้งภาษาไทย ภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ ได้เพื่อนใหม่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากทั่วโลก

ในระดับปริญญาโท คุณแนนเลือกเรียนในคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โดยสาขาที่คุณแนนเรียนคือ เศรษฐศาสตร์ทางการเมือง สนใจด้านสังคมเป็นหลัก วิเคราะห์เศรษฐกิจหรือตัวเลข ดูปัจจัยหรือมิติอื่น ๆ ทางสังคม ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกันกับสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ที่ได้เรียนและฝึกงานมา 

นอกจากนี้ คุณแนนยังเคยได้ตำแหน่งกุลธิดากาชาด ในปี พ.ศ.2556-2557 โดยตำแหน่งนี้คุณแนนเห็นประกาศรับสมัครจากโรงพยาบาลจุฬา ซึ่งต้องมีคุณสมบัติคือ เก่ง รอบรู้ พึ่งพาได้ สุขภาพดี คุณแนนรู้สึกว่าอยากที่จะเป็น หลังจากนั้นก็ได้ลองสมัครเข้าไป ซึ่งตอนสมัครคุณแนนก็ต้องเขียนเรียงความ เข้าค่ายคัดสรร ขึ้นเวทีตอบคำถาม แสดงความสามารถพิเศษต่างๆ 

หลังจากได้รับเลือกเป็นกุลธิดากาชาด หน้าที่หลักที่ต้องทำคือเป็นตัวแทนของเยาวชนในการประชาสัมพันธ์ภารกิจของสภากาชาดไทย ให้ผู้คนรู้จักและเข้าใจ

ปัจจุบันคุณแนนทำงานที่องค์การสหประชาชาติ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees ) หน้าที่หลักขององค์กรคือปกป้องหรือคุ้มครองช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นทั่วโลก ซึ่งคุณแนนอยู่ในส่วนระดมทุน ยูนิตที่ดูแลคือสร้างการรับรู้ของผู้ลี้ภัยและระดมทุน มีหน้าที่ดูแลทำอย่างไรให้ให้คนไทยรับรู้และเข้าใจในเรื่องนี้ เห็นอกเห็นใจ สามารถร่วมสร้างรอยยิ้ม เปลี่ยนแปลงและช่วยเหลือไปด้วยกัน 

คุณแนนฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ชีวิตของเราต้องดูตามความชอบ เบื้องต้นต้องรู้จุดมุ่งหมายในชีวิตคืออะไร ทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ ในทุกโอกาสที่เราได้รับ ถ้าเราเต็มที่กับมัน สำเร็จแน่นอน ไม่สำเร็จในปีนี้ ก็ต้องสำเร็จในปีหน้า อยากให้มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีเส้นทางชีวิตในแบบที่ทำได้และมีความสุข ค้นหาและทำตามในสิ่งที่ใฝ่ฝันและอยากจะเป็น
.

.

.

.
 

คุณไอซ์ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล | THE STUDY TIMES STORY EP.52

บทสัมภาษณ์ คุณไอซ์ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่ต้องเรียนให้หนัก แต่ให้เรียนในสิ่งที่รัก แล้วจะทำได้ดี

คุณไอซ์จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โดยอยู่ในห้องของเด็กโครงการความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ หรือ Gifted Math

จุดเริ่มต้นความสนใจในวิชาคณิตศาสตร์ คุณไอซ์เล่าว่า เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเด็กๆ ผ่านการฝึกจากผู้ปกครอง โดยการหลอกล่อให้ฝึกทำวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย จนเกิดเป็นความชอบนับแต่นั้นมา

ส่วนวิชาที่คุณไอซ์มีความสนใจและชื่นชอบมาตั้งแต่แรก คือ วิชาประวัติศาสตร์ มีการอ่านหนังสือ ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ออกมาในรูปแบบของตัวเลข จำเหตุการณ์เป็นปี  รู้สึกว่าประวัติศาสตร์เป็นการจดจำตัวเลขในรูปแบบหนึ่ง หลังจากได้อ่านไปเรื่อยๆ เริ่มเชื่อมโยงเหตุการณ์ ดูบริบททางประวัติศาสตร์มากขึ้น 

ส่วนภูมิศาสตร์ คุณไอซ์เริ่มต้นมาจากความชอบในสถานที่สวยๆ รอบโลก เลยหาความรู้และลองไปเข้าค่ายที่เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ เพื่อศึกษามากยิ่งขึ้น จนรู้สึกว่าวิชานี้มีอะไรมากกว่าที่คิด ต้องใช้ความจำ 45% ส่วนอีก 55% เป็นการวิเคราะห์และคำนวณ  สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ พาร์ทที่คุณไอซ์ชื่นชอบที่สุดคือภาคสนาม ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์ เป็นพาร์ทที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากการนั่งทำข้อสอบในห้อง

คุณไอซ์เรียนจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.96 สำหรับเทคนิคการเรียนนั้น คุณไอซ์ยกตัวอย่างวิชาวิทยาศาสตร์ที่ตัวเองไม่ถนัด ว่าจะต้องมีการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบย้อนหลัง การฝึกทำข้อสอบคือวิธีที่ดีที่สุด พยายามทำทุกอย่างให้ดี พยุงเกรดให้ได้ 

คุณไอซ์ถือเป็นเด็กสายแข่งขันที่กวาดรางวัลมามากมาย เช่น ช่วงมัธยมต้นแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง ช่วงมัธยมปลายแข่งภูมิศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ได้รางวัลเหรียญทอง และตอนนี้ยังได้เป็นผู้แทนประเทศไปแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิก นอกจากนี้ยังเคยไปแข่งแต่งบทร้อยกรองทั้งในระดับโรงเรียนและระดับประเทศ

คุณไอซ์เป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม ตอนแรกก็มีความรู้สึกเหนื่อย และไม่ได้ชอบในการทำกิจกรรม จนได้ลองทำกิจกรรมอาสาแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ มีความสุขที่ได้ทำประโยชน์ต่อสังคม จึงพยายามหากิจกรรมทำมากยิ่งขึ้น ออกไปช่วยทำจิตอาสาหลายๆ งาน โดยกิจกรรมหลักที่ประทับใจ คือ ได้ไปสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้เด็กๆ ที่โรงเรียนแถวบ้าน เพื่อเป็นการเตรียมสอบเข้าม.1 และอีกที่หนึ่งคือ ไปช่วยงานที่ศูนย์ฉีดวัคซีนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วยต้อนรับ ร้องเพลง แบ่งเบาภาระให้กับพี่ๆ ทีมงาน 

หลังเรียนจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คุณไอซ์สอบชิงทุนและได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ไปศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณไอซ์ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียน คือ แรงบันดาลใจและหาจุดเริ่มต้นของตัวเองให้เจอ จุดเริ่มต้นของสิ่งที่ตัวเองรักอยู่ตรงไหน ซึ่งจุดนี้ยากที่สุด ถ้าหาเจอแล้วจะรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำงานได้โดยที่ไม่ฝืน ไม่ต้องทำอะไรเยอะ หรือฝืนตัวเอง ให้แรงบันดาลใจเป็นตัวขับเคลื่อนไป
.

.

.

.

Critical Thinking หรือ การคิดแบบมีวิจารณญาณ ทักษะที่เด็กทุกคนต้องมี

คุณแม่ติ๊ด เจ้าของเพจเลี้ยงลูกให้ยอดเยี่ยม มีความสนใจในเรื่องของการพัฒนาเด็ก ได้มาร่วมพูดคุยถึง Critical Thinking ที่ถือเป็นทักษะสำคัญมากในยุคที่ข่าวสารล้นโลก 

Critical Thinking หรือการคิดแบบมีวิจารณญาณ คือ การคิดแบบที่มีการใตร่ตรองก่อน ไม่ใช่เห็นปุ๊บเชื่อเลย แชร์เลย สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่อ่าน ด้วยเหตุผล มองในหลายแง่มุม อย่าเชื่อเพียงเพราะมันตรงกับความเชื่อเดิมของเรา เพราะจะทำให้เราตัดสินใจได้ไม่ถูกต้อง 

4C ทักษะที่ควรมีในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ Creativity ความคิดสร้างสรรค์, Critical Thinking การคิดแบบมีวิจารณญาณ, Communication การสื่อสาร และ Collaboration การทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่ง Critical Thinking ถือเป็นทักษะที่ฝึกยากที่สุด เนื่องจากต้องอาศัยทักษะอื่นๆ มาช่วยด้วย เช่น เด็กที่จะมี Critical Thinking ต้องมี Creativity ด้วยในระดับหนึ่ง 

ที่สำคัญที่สุดคือ Self-Awareness ความตระหนักรู้ในตนเอง เพราะหลังจากรับรู้ข้อมูลมาแล้ว จะต้องกลับมามองตัวเองอย่างเป็นกลางที่สุด ไม่ด่วนตัดสิน เพราะฉะนั้นการที่จะมี Critical Thinking ได้ดี จะต้องทำตัวว่างๆ เป็นกลาง ไม่นำความคิดของตัวเองมาตัดสินข้อมูลที่ได้รับมา

ปัจจัยหลัก 3 อย่างที่ส่งผลต่อการมี Critical Thinking ได้แก่ 1.) ตัวของเด็ก 2.) คุณพ่อคุณแม่ และการเลี้ยงดู 3.) โรงเรียน หรือระบบการศึกษา โดยทั้งสามปัจจัยหลักต้องสอดคล้อง ส่งเสริมไปด้วยกัน 

โดยพ่อแม่มีความสำคัญมาก เพราะสามารถทุ่มเทกับลูกได้มากกว่าคุณครูที่โรงเรียน และด้วยระบบการศึกษาที่ล้าสมัยไม่สามารถสร้างทักษะบางอย่างที่เป็นทักษะในอนาคตได้ทันเวลา การทำให้เป็นวิถีชีวิต เป็นการเรียนรู้แบบเป็นธรรมชาติมากกว่าการสอน พ่อแม่ในยุคนี้จึงต้องพัฒนาตัวเอง เพราะเด็กคนหนึ่งไม่ได้เกิดมาโดยการมี Critical Thinking เลย  ต้องมีพ่อแม่ที่คอยช่วยชวนพูดคุย ตั้งคำถามปลายเปิดให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น 

ในยุคที่ข้อมูลมีความหลากหลาย รวดเร็ว เข้าถึงง่าย การฝึกลูกให้มีทักษะ Critical Thinking  เพื่อปกป้องลูกให้รู้เท่าทัน ไม่ถูกชักจูง สิ่งสำคัญคือ การสอนว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็นในครั้งแรก ฝึกลูกให้เป็นเด็กช่างสงสัย เวลาที่ได้รับสารอะไรมา ไม่ต้องเชื่อทุกอย่าง หากอยากรู้ค่อยมาทดลองหรือพิสูจน์ หาข้อมูลจากหลายๆ แห่ง บางครั้งหากลูกไม่มี Critical Thinking อาจทำให้ mindset ผิดเพี้ยนไป

นอกจากนี้การที่เด็กได้อ่านหนังสือเยอะ หากทำให้เป็นวิถีของเขา จะฝึกในเรื่องของ Critical Thinking ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีคลังข้อมูลความรู้เยอะ และการมี Critical Thinking ยังทำให้สามารถเชื่อมโยงความคิดได้ดี 

ในส่วนของการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่พบเจอ หากพ่อแม่ใช้วิถีชีวิตแบบชวนกันคิดแก้ปัญหา ชวนแชร์มุมมอง เป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ก็เป็นส่วนที่ช่วยให้เกิด Critical Thinking ประสบการณ์ประจำวันเหล่านี้ล้วนอยู่ในชีวิตประจำวันที่พ่อแม่สามารถหยิบยกขึ้นมาสอนลูกได้

การฝึกทักษะให้ลูก ไม่ได้ฝึกด้วยการผลักให้ลูกต้องทำเรื่องนี้ให้ได้ จนกลายเป็นความเครียดในครอบครัว การฝึกทักษะต่างๆ หากฝึกด้วยความรู้สึกสนุก หรือเป็นธรรมชาติโดยที่เด็กไม่รู้ตัว ย่อมดีกว่าการที่จะไปสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กจนเกิดความเครียด เด็กแต่ละคนมีจุดแข็งจุดอ่อนแตกต่างกัน เด็กที่มีโอกาสฝึก Critical Thinking ได้ดี ต้องเป็นเด็กที่ชอบคิด แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีธรรมชาติแบบนี้ เพราะฉะนั้นเด็กสามารถไปโดดเด่นด้านอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องโดดเด่นครบทั้ง 4C 


สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : Critical Thinking ทักษะที่เด็กทุกคนต้องมี
Link : https://www.facebook.com/299800753872915/videos/435405360869716
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: ภารวี สุภามาลา

คุณนาดา นาดา ไชยจิตต์ | THE STUDY TIMES STORY EP.53

บทสัมภาษณ์ คุณนาดา นาดา ไชยจิตต์ ปริญญาโท ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ LL.M International Human Rights Law, School of Law, University of Essex, สหราชอาณาจักร
นักสิทธิมนุษยชน ผู้ขับเคลื่อนและผลักดัน 'ความเท่าเทียมทางเพศ'

จุดเริ่มต้นความสนใจของคุณนาดาที่มีต่อคณะนิติศาสตร์นั้น ในตอนแรกไม่มีความคิดที่จะชอบในสาขาวิชานิติศาสตร์ แต่เกิดจากการที่ไปชุมนุม อยากที่จะให้ประเทศไทยทำกฎหมายสมรสเพศเดียวกัน คุณนาดามีแรงขับเคลื่อนในด้านนี้ แต่ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เพราะไม่รู้ว่าภาษาที่เขียนในกฎหมายเป็นอย่างไร จึงตัดสินใจเข้าเรียนในคณะนิติศาสตร์ มีความตั้งใจที่จะเป็นนักกฎหมายให้ได้

หลังจากทำงานได้ระยะหนึ่ง คุณนาดาค้นพบว่าความฝันที่อยากทำงานในด้านนี้มีหลายสาย จึงกลับมาทบทวนกับตัวเองว่าวุฒินิติศาสตร์บัณฑิตอาจยังไม่พอ ประกอบกับอัตลักษณ์ที่เป็น สถาบันทางสังคมท้าทายเกิดเป็นแรงผลักให้ต้องไปต่อ จนได้รับทุน Chevening ซึ่งเป็นทุนที่มอบให้กับผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ทุนนี้ไม่ได้มองหาคนที่เก่งหรือฉลาด แต่มองหาคนที่มีความฝัน มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง จนสุดท้ายคุณนาดาได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ LL.M International Human Rights Law, School of Law, University of Essex ณ ประเทศอังกฤษ

คุณนาดากล่าวว่า ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ University of Essex มีชื่อเสียงและโดดเด่นติดอันดับโลก การที่คุณนาดาเลือกเรียนที่นี่เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะได้รับองค์ความรู้มาจัดการปัญหา ทำให้สังคมเข้าใจว่าประเด็นความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ

สำหรับประสบการณ์การเรียนที่ต่างประเทศหลักสูตร 1 ปี คุณนาดาใช้เวลาในช่วงแรกไปกับการเรียน จนได้เข้าร่วมกิจกรรมศาลจำลอง มีการให้นักศึกษาได้ฝึกเป็นทนายความ มีการจัดอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิความหมายทางเพศโดยตรง ทำให้คุณนาดาได้เจอกับนักกฎหมายที่มีความหลากหลายทางเพศ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

การใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ คุณนาดารู้สึกว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความน่าอยู่ มีระบบการจัดการที่ดี มีระบบสวัสดิการด้านสุขภาพที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้คุณนาดารู้สึกสบายใจ อีกทั้งมีระบบการดูแลนักศึกษา คอยดูแลและให้คำปรึกษาปัญหาทางด้านสุขภาพจิต ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่คุณนาดาประทับใจมาก 

ที่ประเทศอังกฤษ คุณนาดาเล่าว่า สามารถสูดลมหายใจแห่งเสรีภาพเข้าปอดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องมานั่งเครียดว่าใครจะมองว่าเราเป็นเพศอะไร ได้รับการปฏิบัติที่ดี ประเทศอังกฤษส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ส่งเสริมในเรื่องของความหลากหลาย เพราะเชื่อว่าความหลากหลายนำมาซึ่งประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีกลไกในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิที่แข็งแรงมาก

สำหรับจุดเริ่มต้นที่คุณนาดาสนใจในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เริ่มต้นจากการที่คุณนาดาไปสมัครงานด้านเอกสาร แต่ทางบริษัทบอกว่างานนี้รับเฉพาะผู้หญิง เพราะต้องการความละเอียดอ่อน แต่เมื่อจะไปทำงานใช้แรงแบบผู้ชายก็ไม่รับ เพราะต้องการคนที่แข็งแรง คุณนาดามองว่าบทบาททางสังคมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพถูกผูกติดกับบทบาททางเพศ จึงตัดสินใจที่จะไม่ทำงานที่บริษัทแห่งนั้น และไปสมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิบทบาททางเพศ กระทั่งมีบทบาทร่วมขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ 

ปัจจุบันคุณนาดาเป็นที่ปรึกษางานรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Campaign Advisor) ที่มูลนิธิมานุษยะ ดูแลเรื่องของกลไกลสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียม ให้กับกรรมการบริหารของสมาคมท้องฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย

คุณนาดาฝากทิ้งท้ายว่า ไม่ต้องเร่งรีบหรือท้อถอยกับการตามหาความฝันของตัวเอง ให้เวลากับตัวเอง คือหัวใจสำคัญที่สุด
.

.

.

.

จัดเต็ม!! คอนเทนต์เพื่อการศึกษา 1 ก.ค. นี้ แหล่งรวมสาระเพื่อ “การศึกษาและการพัฒนาตัวเอง ” ????????

ทุกคอนเทนต์ จัดเต็มทุกวัน จันทร์-อาทิตย์

✅ข่าวการศึกษา

✅คอลัมนิสต์

✅ข้อมูลโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง

✅ข้อมูลการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ

✅บุคคลในแวดวงการศึกษาที่น่าสนใจ

✅บทความ เทคนิคการพัฒนาตัวเอง

✅รายการสัมภาษณ์ THE STUDY TIMES STORY

ขนกันมาแบบจัดเต็ม!!

เพราะเราคือ THE STUDY TIMES สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์สำหรับทุกคน????✏

Education News Agency for All

????ติดตามได้ทางเว็บไซต์, Facebook, LINE, YouTube, IG และ TiktTok ???? THE STUDY TIMES

ใครมีสกิลทำอาหาร ยกมือขึ้น!! สพฐ. เชิญชวนนักเรียนมัธยมฯ แข่งขันทำอาหาร ต่อยอดอาชีพเชฟมือทอง ในรายการแข่งขัน “สุดยอดเชฟนักคิด สู่นักธุรกิจรุ่นเยาว์”

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย (สมป.) จับมือกับดุสิตธานีและเชฟพล ตัณฑเสถียร จัดแข่งขันประลองฝีมือนักเรียนมัธยมศึกษา ที่ชอบการทำอาหาร ในรายการแข่งขัน “สุดยอดเชฟนักคิด สู่นักธุรกิจรุ่นเยาว์” ขานรับนโยบาย สพฐ. ด้านการสร้างโอกาสและคุณภาพนักเรียน ค้นหาเชฟมือทองรุ่นเยาว์ ที่อนาคตจะประสบความสำเร็จในอาชีพธุรกิจการประกอบอาหาร

ทั้งนี้ จะมีการแข่งขันระดับภูมิภาคก่อน เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะมาแข่งขันกันที่ส่วนกลางวิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งจะเริ่มรับสมัครระหว่างวันที่ 10-31 กรกฎาคม 2564 โดยศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร และจังหวัดตาก ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 09-5497-9516, 08-6182-8187

ศูนย์ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท นครนายก นครปฐม นครสรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สระบุรี อ่างทอง อุทัยธานี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว กาญจนบุรี เพชรบุรี และจังหวัดราชบุรี ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] หรือ [email protected] โทรศัพท์ 09-3846-8702, 08-3915-9625

ศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร สุรินทร์ ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 08-2545-9678

ศูนย์ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี ยะลา และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งใบสมัครที่ Email:yothinkhon@hotmailçom โทรศัพท์ 08-6270-7446

และศูนย์กรุงเทพมหานคร ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 08-8560-9600

โดยทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสดพร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลที่ 1 เงินสด 50,000 บาท รางวัลที่ 2 เงินสด 30,000 บาท และรางวัลที่ 3 เงินสด 20,000 บาท

ลิงก์ใบสมัคร 
https://drive.google.com/file/d/19P9TFGOa2Y1itxXQq-EhQddM1Ug15HSE/view?usp=sharing


ที่มา:

https://www.facebook.com/101216422215115/posts/102618908741533/?d=n
https://www.matichon.co.th/publicize/news_2788659


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top