Wednesday, 15 May 2024
TheStatesTimes

“โฆษกรัฐบาล” ยัน บิ๊กตู่-รมต.ทั้ง 6 คน หารือวานนี้ไม่เกี่ยวการเมือง ย้ำ ไม่ก้าวก่ายเรื่องใน พปชร. พร้อมเผย “นายก” ปลื้ม ปชช.ชอบ “คนละครึ่ง เฟส 3” เร่งเดินหน้ามาตรการคุมราคาสินค้า 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีวานนี้ (25 ต.ค.)ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ทำให้มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ทั้งการหารือเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และการทำพื้นที่ การประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญในวันที่ 9 ตุลาคม นั้น 

ยืนยันว่า การหารือดังกล่าวเป็นการหารือเรื่องการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดินรวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนและเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งมี่ผ่านมาเราเสียโอกาสไปมากในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ยืนยันไม่ได้เกี่ยวการเมือง นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารราชการประเทศ ไม่ก้าวก่ายการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.)การเมืองเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค  นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลภายนอกพรรค ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง การกระทำการใดๆ เกี่ยวกับการเมือง นายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีระมัดระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19 ของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จากประชาชนทั่วประเทศที่ได้เข้าร่วมมาตรการ โครงการของรัฐ ระหว่างวันที่ 18-21 ต.ค.2564ในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 จาก 5 มาตรการ ได้แก่ มาตรการคนละครึ่งเฟส 3,มาตรการลดค่าไฟฟ้า น้ำปะปา,มาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง 2,000 บาท,มาตรการลดค่าเทอมนักเรียน นักศึกษา ,มาตรการเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม พบว่า ประชาชนกลุ่มสำรวจ มีความพึงพอใจมาตรการ “คนละครึ่ง เฟส 3” มากที่สุด เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ ประคับประคองการบริโภค ทำให้ประชาชนมีการวางแผนการใช้จ่ายดีขึ้น รองลงมาคือมาตรการลดค่าไฟฟ้า น้ำปะปา มาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง 2,000 บาท มาตรการลดค่าเทอมนักเรียน-นักศึกษา และมาตรการเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และม.40 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ตามลำดับ 

นายธนกร กล่าวว่า ของความคืบหน้ามาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพของรัฐ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มียอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 40.30 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 124,414.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.44 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 110,123.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 55,975.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 54,148.1 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 84,680 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 2,764 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 144 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 10,598.9 ล้านบาท และ 4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 784.5 ล้านบาท

“สงคราม” แนะใช้ 100 ล้านจ้างดนตรีในประเทศดีกว่าจ้างลิซ่า แบล็กพิงก์ โชว์ตัวคน อัด “บิ๊กตู่” ทอดทิ้งอยุธยาปล่อยชาวบ้านจมน้ำนาน 2 เดือนเหตุไม่มีส.ส.พลังประชารัฐ

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ ให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในหลายพื้นที่ของจังหวัด อยุธยา พบว่าอำเภอบางบาลน่าเป็นห่วงมาก  เพราะรัฐบาลยัดเยียดให้เป็นที่รับน้ำแทนพื้นที่เศรษฐกิจอื่นๆจนถึงเวลานี้กว่า 2 เดือน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มบอกว่ารัฐบาลแก้ปัญหาแบบรอให้น้ำระเหยไปเอง อย่างมากที่ทำคือถ่ายรูปตอนแจกถุงยังชีพ 1 ถุง แล้วก็หายหัว ทั้งบางบาลบางจุดท่วมถึง 4 เมตรด้วยซ้ำไป

 

ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจน้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส.ส.พลังประชารัฐ แต่ที่อยุธยา  ไม่มีส.ส.พลังประชารัฐ พลเอกประยุทธ์จึงไม่ให้ความสำคัญ เพราะเป้าประสงค์การเดินทางไปตรวจน้ำท่วมไปเพื่อสร้างภาพมากกว่า  น้ำท่วมปีนี้หนักมาก บางพื้นที่น้ำท่วมสูง  3 เมตร บางที่ 4 เมตร ข้าวของเสียหาย บ้านพัง ไร้ซึ่งการเหลียวแลประชาชนไม่ได้ต้องการถุงยังชีพ แต่ต้องการแค่ความจริงใจจากรัฐบาลที่จะช่วยประชาชนอย่างแท้จริง

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า กรณีที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณหลายร้อยล้านบาทจ้าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ และ แอนเดรีย โบเชลลี มาร่วมงานเคาต์ดาวน์ปีใหม่ ตามบัญชาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ดีเพราะเงินที่ดำเนินการเป็นภาษีพี่น้องประชาชน ควรที่จะให้ความสำคัญกับประชาชน  กิจกรรมบันเทิงในประเทศต้องหยุดการแสดงทั้งหมด หยุดกิจกรรม  นักร้องนักดนตรี นับแสนคนตกงาน จากมาตรการรัฐ แต่พอจะเปิดการท่องเที่ยวรัฐบาลกลับไม่ให้ความสำคัญกลุ่มคนเหล่านี้

“โฆษกกห.” เผย  แรงงานเมียนมาทะลักเข้าไทยฝั่งชายแดนตะวันตก หลังการเมืองภายในเพื่อนบ้านส่อรุนแรง ขอมั่นใจฝ่ายมั่นคงคุมได้ ยังไม่เพิ่มกำลัง เตรียมขยายผลโยงค้ามนุษย์หรือไม่ หลังพบ จนท.รัฐเอี่ยวพรึบ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก ว่า เป็นไปตามคาดการณ์ของฝ่ายความมั่นคงประเมินแล้ว เพราะสถานการณ์ในเมียนมามีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังฝนจากนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐถูกกลุ่มต่อต้านทำร้ายและได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตหลายราย รวมทั้งกำลังทหารในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับไทย ถูกถูกกองกำลังของชนกลุ่มน้อยเข้าโจมตี รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศเขา และการเปิดประเทศของไทยที่ผู้ประกอบการต้องการแรงงานมากขึ้น จึงประเมินแล้วว่าจะมีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมากขึ้น รวมถึงผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ดูแลพื้นที่ชายแดนที่ติดกับเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมาก็จับผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ จ.กาญจนบุรี ได้หลายร้อยคน แต่ขอให้มั่นใจว่า แม้ไทยจะเปิดประเทศ แต่ฝ่ายความมั่นคงก็จะทำงานหนัก และพร้อมแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับโรคระบาด

สายพันธุ์ ‘เดลตา พลัส’ บุกไทย พบแล้วผู้ป่วยรายแรก เผยแพร่ไวขึ้น 15%

จากกรณีที่ นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยถึงการพบชายอายุ 49 ปี มีประวัติทำงานที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีการส่งตัวอย่างที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทางทหาร กองทัพบก (AFRIMS) พบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ AY.4.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์เดลตา ทว่า เป็นการตรวจพบตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ปัจจุบันผู้ป่วยได้รักษาหายแล้ว มีการสุ่มตรวจรายอื่นๆ และยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายดังกล่าว

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ระบุถึงการพบสายพันธุ์เดลตาพลัสในประเทศไทยว่า ไทยพบไวรัสเดลตาพลัส (Delta Plus) รายแรกที่อยุธยา แพร่ระบาดเร็วขึ้น 15% หลังจากที่มีข่าวการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลตาพลัสในอังกฤษ โดยพบจำนวนผู้ติดเชื้อ 6% จนทางการอังกฤษจัดให้เป็น VUI (Variant Under Investigation) เนื่องจากมีความสามารถในการระบาดเพิ่มขึ้น 15% แต่ยังไม่ได้ยกระดับขึ้นเป็นไวรัสที่น่าเป็นกังวล : VOC (Variant of Concern) เพราะยังขาดข้อมูลเรื่องความรุนแรงในการก่อโรค และการดื้อต่อวัคซีน

“ไวรัสเดลตาพลัสเป็นปัจจัยที่ทางอังกฤษให้ความสนใจ เพราะเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่มีการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อหลายหมื่นคนต่อวัน แต่คงไม่ได้เกิดจากปัจจัยไวรัส Delta Plus เพียงลำพัง แต่น่าจะเกิดจากการผ่อนคลายมาตรการของทางการอังกฤษ ร่วมกับการที่ประชาชนอังกฤษหย่อนวินัยในการป้องกันโรคระบาด

“ทางกรมควบคุมโรคได้แถลงว่า พบไวรัส Delta Plus ที่อยุธยา จากการถอดรหัสจีโนม ซึ่งทำเป็นประจำอยู่แล้ว และเคยพบว่ามีสายพันธุ์ย่อยของไวรัสเดลตาในประเทศไทย 4 สายพันธุ์ ซึ่งไม่ได้มีลักษณะการแพร่ระบาด หรือความสามารถในการก่อโรครุนแรง แตกต่างกับไวรัสสายพันธุ์เดลตา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564

Metaverse​ โลกเสมือนจริง ชีวิตคู่ขนานเชื่อม​ ออฟไลน์-ออนไลน์' ให้เป็นหนึ่ง | Click on Clear THE TOPIC EP.72

???? โลก​ 2​ ใบ​ ที่ไม่ได้เกิดจาก​ 'ป๊อบ​ ปองกูล'​ 
ตามติด 'Metaverse' เทคโนโลยีโลกเสมือน​ ที่กำลังเข้าใกล้ชีวิตผู้คนชัดขึ้น​ โดย ‘อ.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์’ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ​ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง!!!
????ใน Topic : Metaverse​ โลกเสมือนจริง ชีวิตคู่ขนานเชื่อม​ ออฟไลน์-ออนไลน์' ให้เป็นหนึ่ง!!

จับประเด็น เน้นความรู้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

นครนายก - จัดพิธีบวงสรวงเบิกเนตร องค์ท้าวเวสสุวรรณ ความสูง 4.5 เมตร และพิธีทอดกฐินประจำปี 2564 ที่วัดวังบัว

ที่วัดวังบัว ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก พระสมุห์อำนาจ โฆสธมฺโม เจ้าอาวาสวัดวังบัว ประกอบพิธีบวงสรวงเบิกเนตรและมอบถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณ  ซึ่งประดิษฐานหน้าซุ้มประตูวัด และพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 โดยมี คุณพ่อสงคราม คุณแม่สำรวย ธารไพฑูรย์ ประธานจัดสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ พร้อมด้วย นางสาวภริม พูลเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ เขต3 คุณแม่ภรภัทร พูลเจริญ พร้อมคณะผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธี

เริ่มพิธีบวงสรวง คุณพ่อสงคราม คุณแม่สำรวย ธารไพฑูรย์ ประธานจัดสร้าง จุดธูปเทียนบูชาที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง พราหมณ์ทำพิธีอันเชิญเทพยดาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระครูโสภณนาคกิจ เจ้าคณะอำเภอบ้านนา เจ้าอาวาสวัดช้าง ประธานฝ่ายสงฆ์ ขึ้นรถกระเช้าทำพิธีเบิกเนตรองค์ท้าวเวสสุสวรรณ ซึ่งที่มีความสูง 4.5 เมตร และประพรมน้ำพระพุทธมนต์โปรยข้าวตอกดอกไม้ งบประมาณจัดสร้าง 200,000 บาท จากนั้น ศรราม น้ำเพชร พระเอกลิเกชื่อดัง ได้รำถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งทำให้ผู้ที่มาร่วมในพิธีต่างฮือฮา เข้ามาดูพระเอกลิเกชื่อดังและขอถ่ายภาพ

 

แอดมินเพจ ‘พิสูจน์บั้งไฟพญานาค’ หอบเอกสารรายชื่อหมู่บ้าน ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ร้องสถานทูตลาว พร้อมพิสูจน์ความจริง ‘บั้งไฟพญานาค’

คลิปที่ นายสมภพ ขำสวัสดิ์ เจ้าของเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาค พร้อมด้วยสมาชิกในกลุ่มบันทึกไว้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา  เป็นคลิปที่ถ่ายไว้ ที่ บ้านตาลชุม อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย คลิปดังกล่าว จะเห็นลูกไฟสีแดงอมชมพู พุ่งขึ้นฟ้า นายสมภพ แสดงความมั่นใจว่า ลูกไฟที่พุ่งขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นที่บริเวณแม่น้ำโขง แต่เกิดขึ้นที่ บ้านห้วยสายพาย เมืองท่าพระบาท แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว

นอกจากนี้ ยังมีอีกคลิปที่มีการทดลองยิงลูกไฟพญานาค จากฝีมือมนุษย์ ที่มีการทดสอบยิงขึ้นฟ้าหลายนัด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายสมภพ ขำสวัสดิ์ แอดมินเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาค นำหลักฐานเป็น รายชื่อหมู่บ้าน ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บันทึกการเกิดบั้งไฟพญานาค มาเป็นหลักฐานยื่นให้สถานเอกอัครราชทูตลาว สืบหาความจริงกรณีการเกิดบั้งไฟพญานาคเป็นการยิงกระสุนแสงจากหมู่บ้านฝั่งลาว ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนไทยมานานหลายสิบปี

ด่วน “บิ๊กตู่” สั่งตั้งคกก.ตรวจสอบส่งออกถุงมือยางใช้แล้ว 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการส่งออกถุงมือยางที่ใช้งานแล้วจากประเทศไทยไปต่างประเทศ ซึ่งมีปลัดหลายกระทรวง และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งจะนัดประชุมนัดแรกวันที่ 27 ต.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมทั้งการดำเนินการในช่วงต่อไป เบื้องต้นนายกฯ ไม่ได้ระบุกรอบเวลา แต่จะต้องเร่งสรุปให้เร็วที่สุด  

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้นับหนึ่ง จึงขอให้รอผลการหารือในวันที่ 27 ต.ค.ออกมาก่อน แต่ก็เข้าใจว่า กรณีนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมายของผู้ที่เอาสิ่งที่ผิดกฎหมายออกไปนอกประเทศ คือถุงมือยางที่เป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ใช้แล้วส่งออกไปนอกประเทศถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตามรายละเอียดทั้งหมดนั้นตอนนี้ยังไม่อยากพูดมากเพราะต้องให้ทางกรรมการที่มาจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลทั้งหมดก่อน  

“ประยุทธ์” เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 ย้ำอาเซียนต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งให้ภูมิภาค “ลั่น” ไทยต้องการเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผู้นำและผู้แทนสมาชิกอาเซียน ซึ่ง
การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 39 นี้ ที่ประชุมมีประเด็นหลักที่หยิบยกขึ้นหารือหลักๆ ได้แก่ พัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือกับหุ้นส่วนภายนอกภูมิภาค 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อที่ประชุมว่า ทุกประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ สมาชิกอาเซียนต้องรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความเป็นแกนกลางของอาเซียนเพื่อเอาชนะกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบที่โลกกำลังเผชิญ ทั้งโควิด-19 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความท้าทายต่อภูมิรัฐศาสตร์ในโลกและในภูมิภาค อาเซียนจะต้องมีความร่วมมือที่สร้างสรรค์กับภายนอกภูมิภาค และรักษาความสงบสุขในภูมิภาค เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้าต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวเสนอ 3 แนวทางโดยให้ดำเนินการควบคู่กันไป ว่า 1. อาเซียนควรเพิ่มพูนความสัมพันธ์กับภาคีภายนอกให้มากยิ่งขึ้น รักษาความเป็นเอกภาพ มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนข้อริเริ่มต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสและสร้างพลังของอาเซียนในการดำเนินความสัมพันธ์ภายนอก และเห็นว่าอาเซียนควรใช้โอกาสจากความเป็นหุ้นส่วนเหล่านี้ในการผลักดันวาระต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของอาเซียนและส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียนในภูมิภาคต่อไป

2.อาเซียนต้องร่วมกันส่งเสียงที่ชัดเจนและสอดคล้องกันเกี่ยวกับความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกต่าง ๆ ที่อาเซียนมีบทบาทนำ โดยใช้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (AOIP) เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนให้มหาอำนาจมีปฏิสัมพันธ์กันในภูมิภาคของเราอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค  3. อาเซียนควรมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยอาจพิจารณาใช้แนวทางใหม่ ๆ ในการปฏิสัมพันธ์กับทั้งสองประเทศ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถแสวงจุดร่วมในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาคได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น  

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ถือเป็นบททดสอบความสามารถของอาเซียนในการจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาค อาเซียนควรมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมาเพื่อความน่าเชื่อถือของอาเซียนในประชาคมระหว่างประเทศ โดยไทยต้องการที่จะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมาและพร้อมฉันทามติ 5 ข้อ ทั้งนี้ ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนจะมีบทบาทช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและบรรยากาศสำหรับการหารือที่สร้างสรรค์ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ได้ การยุติความรุนแรง และการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีโดยการพูดคุยและหารือระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ควรจะยังคงดำเนินต่อไปและกระจายไปสู่ทุกฝ่ายอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว 

ตร.ปทุมฯ รวบ! สาวแสบหลอกขายมือถือออนไลน์ ก่อนเชิดเงินหนี พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 7 ล้านบาท

สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับกุมตัว นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23 ปี  ที่อยู่ 390 ถนนคลองเรียน 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา ตามหมายจับ จำนวน 2 หมาย ดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 133/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ 2.หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 330/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยทางเจ้าหน้าที่ตามจับกุม นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23ปี  ได้ที่จับกุม หน้าบ้านเลขที่ 429/6 ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น.ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาที่ สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ด้านพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้านให้แก่ประชาชนและเป็นภัยต่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์(Social Media) เป็นจำนวนมาก ตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมชุดสืบสวน สภ.สามโคก ทำการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับ ผู้กระทำความผิด โดยการหลอกลวงประชาชน โดยใช้สื่อสังคมอนไลน์(Social Media )

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สามโคก ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.รุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23 ปี  ที่อยู่ 390 ถนนคลองเรียน 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา ตามหมายจับ จำนวน 2 หมาย ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 133/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ

2.หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 330/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

โดยทางเจ้าหน้าที่ตามจับกุม นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23ปี จึงได้นำตัวมาที่ สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี พฤติการณ์ กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.รุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ (ผู้ต้องหา) ได้ประกาศหลอกขายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น เอ็กซ์อาร์ (Iphone XR) สีดำ ขนาด 64 Gb ในราคาประมาณ 11,000-12,000 บาท ในแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรม(Instagram) ที่รับฝากขายสินค้าประเภทไอที ซึ่ง น.ส.รุ้งไพลินฯ ผู้ต้องหา ได้ลงรายละเอียดของข้อมูลสินค้าพร้อมข้อมูลการ ติดต่อซื้อ-ขายสินค้าระหว่างกัน

โดยเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและสนใจซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ฯที่น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ที่ประกาศเอกสารประชาสัมพันธ์หลอกขาย ผู้เสียหายจะไปติดต่อซื้อโทรศัพท์ฯกับน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์(Line)กับตัวน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหา โดยระหว่างที่พูดคุยซื้อ-ขายกันอยู่นั้น น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จะใช้กลอุบายสร้างความน่าเชื่อถือ ว่ามีสินค้าฯจริง และจะแถมอุปกรณ์เสริมจำนวนหลายรายการให้ ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือ และแรงจูงใจ ในการซื้อโทรศัพท์ฯให้กับผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ตกลงราคาซื้อ-ขายแล้วเรียบร้อยแล้ว น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จะส่งบัญชีธนาคารของน.ส.รุ้งไพลินฯ ให้กับผู้เสียหายไว้สำหรับโอนเงินชำระค้าโทรศัพท์ฯ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินให้กับน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาไป น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา)ไม่ยอมส่งสินค้าโทรศัพท์ฯ ให้กับผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายได้ทวงถามน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ก็ได้บ่ายเบี่ยงที่จะส่งสินค้า และจะบล็อกผู้เสียหายทันที จนไม่สามารถติดต่อตัวน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา)ได้ ต่อมาผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับต่อศาลฯ ตามรายละเอียดข้างต้น เพื่อสืบสวนติดตามตัวน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. จากการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 469/6 ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง และพบน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าไปแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ โดย น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) รับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับในคดีนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้สิทธิ์และข้อกล่าวหา ตามหมายจับ ให้น.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาทราบ ว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ทางด้าน น.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาทราบและเข้าใจดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top