“โฆษกรัฐบาล” ยัน บิ๊กตู่-รมต.ทั้ง 6 คน หารือวานนี้ไม่เกี่ยวการเมือง ย้ำ ไม่ก้าวก่ายเรื่องใน พปชร. พร้อมเผย “นายก” ปลื้ม ปชช.ชอบ “คนละครึ่ง เฟส 3” เร่งเดินหน้ามาตรการคุมราคาสินค้า 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีวานนี้ (25 ต.ค.)ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ทำให้มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ทั้งการหารือเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และการทำพื้นที่ การประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญในวันที่ 9 ตุลาคม นั้น 

ยืนยันว่า การหารือดังกล่าวเป็นการหารือเรื่องการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดินรวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนและเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งมี่ผ่านมาเราเสียโอกาสไปมากในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ยืนยันไม่ได้เกี่ยวการเมือง นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารราชการประเทศ ไม่ก้าวก่ายการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.)การเมืองเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค  นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลภายนอกพรรค ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง การกระทำการใดๆ เกี่ยวกับการเมือง นายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีระมัดระวังเรื่องนี้มาโดยตลอด

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19 ของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จากประชาชนทั่วประเทศที่ได้เข้าร่วมมาตรการ โครงการของรัฐ ระหว่างวันที่ 18-21 ต.ค.2564ในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 จาก 5 มาตรการ ได้แก่ มาตรการคนละครึ่งเฟส 3,มาตรการลดค่าไฟฟ้า น้ำปะปา,มาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง 2,000 บาท,มาตรการลดค่าเทอมนักเรียน นักศึกษา ,มาตรการเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม พบว่า ประชาชนกลุ่มสำรวจ มีความพึงพอใจมาตรการ “คนละครึ่ง เฟส 3” มากที่สุด เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ ประคับประคองการบริโภค ทำให้ประชาชนมีการวางแผนการใช้จ่ายดีขึ้น รองลงมาคือมาตรการลดค่าไฟฟ้า น้ำปะปา มาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง 2,000 บาท มาตรการลดค่าเทอมนักเรียน-นักศึกษา และมาตรการเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และม.40 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ตามลำดับ 

นายธนกร กล่าวว่า ของความคืบหน้ามาตรการใช้จ่ายลดค่าครองชีพของรัฐ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มียอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 40.30 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 124,414.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.44 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 110,123.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 55,975.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 54,148.1 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 84,680 คน ยอดใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสม 2,764 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 144 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 10,598.9 ล้านบาท และ 4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 784.5 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของข้อมูลการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ล่าสุด วันที่ 25 ต.ค.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 752.2 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้สะสมจ่าย 388.1 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 364.1 ล้านบาท สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีค่าใช้จ่ายสะสมกว่า 600,000 บาท โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มแล้ว กว่า 65,000 ราย ซึ่งในเดือนพ.ย.นี้ รัฐบาลยังเพิ่มวงเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิในโครงการคนละครึ่งอีกคนละ 1,500 บาท ใช้สิทธิได้ถึง 31 ธันวาคม 2564  โดยขณะนี้ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการประมวลผลจำนวนผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จเพื่อประกอบการพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำสิทธิดังกล่าวกลับมาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ยังเหลืออีกประมาณ 5 แสนสิทธิ ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน G-Wallet บนแอปพลิคเคชัน “เป๋าตัง” จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ 

“จากสถานการ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนาน กระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เร่งรัดมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือและบรรเทาความร้อนของพี่น้องประชาชน เสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน ถือเป็นกำลังใจให้ รัฐบาลเดินหน้ามาตรการ ช่วยเหลือเยียวยาดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากทั้งโควิด-19 และความเดือดร้อนจากอุทกภัยให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม ทั้งติดตามควบคุมราคาสินค้า ค่าครองชีพ ราคาน้ำมัน การพักชำระหนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินเพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไปโดยเร็ว”