Wednesday, 3 July 2024
TheStatesTimes

'Devas IPASON' บริษัทไอทีจากจีน แจ้ง!! ไปไม่รอดในไทย เหลือพนักงาน 5 คน จาก 160 คน ฝ่ายขายไปเกลี้ยง

(24 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Devas IPASON ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ชื่อดังจากประเทศจีน ได้โพสต์ชี้แจง ระบุว่า

“แจ้งให้ผู้บริโภคทราบ”

“น่าเสียดาย หลังจากผ่านไป 20 เดือน บริษัทของเราไม่สามารถอยู่รอดได้ในประเทศไทย จากทีมงาน 160 คน ขณะนี้เหลือพนักงานเพียง 5 คนเท่านั้น ที่จะทำงานขั้นสุดท้าย เพิ่งล้มละลาย การขายทรัพย์สินในสำนักงานและการจัดการปัญหาหลังการขายบางส่วน”

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตทีมงานหลังการขายทั้งหมดได้ลาออกแล้ว ความสามารถของเราในการจัดการหลังการขาย จึงมีจำกัดสำหรับผู้บริโภคบางรายที่ไม่ตอบกลับหรือตอบกลับล่าช้า หากคุณต้องการเร่งการประมวลผล โปรดติดต่อเราที่สำนักงานเราจะจัดหาผลิตภัณฑ์หลังการขายให้กับคุณ”

“หากไม่มีผลิตภัณฑ์หลังการขายที่เกี่ยวข้องเราจะจัดเตรียมทางเลือกให้กับผู้บริโภคทุกคนที่มา ไปที่สำนักงาน เราจะเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นการแสดงความขอโทษของเรา ที่อยู่บริษัท เลขที่ 39 ซอย สุขุมวิท 101/2 บางนาเหนือ บางนา กรุงเทพฯ 10260”

“ทั้งนี้บริษัท Devas IPASON (เดวาส์ ไอพาสัน) เป็นแบรนด์ไอทีจากประเทศจีนถือหุ้นโดยบริษัท IPASON, Colorful และ Deva’s Natural ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในวงการผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประมวลผลคุณภาพสูง ทำการตลาดไปทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย”

'ด้อมส้ม' เปิดใจ!! รับฟังข้อมูล 'สลิ่ม' แล้วเกิดเอ๊ะ-ตั้งคำถามต่อ ลองค้นข้อมูล จนได้คำตอบเพียงพอ "สลิ่มจะหลอกเราทำไม"

(24 มิ.ย.67) ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ ได้โพสต์วิดีโอพร้อมแคปชันระบุว่า “ไลฟ์ทุกวันได้อะไร? เงินเหรอ? รับจ้างเหรอ? ไอโอเหรอ? เปล่า ได้คนคิดได้แบบหนูนี่ล่ะ คือรางวัลที่ดีที่สุดของสลิ่ม”

โดยภายในวิดีโอ เป็นการพูดคุยกับสมาชิกอีก 3 คน โดยมีสมาชิกหญิงท่านหนึ่งกล่าวว่า “ที่เราขึ้นไลฟ์ แล้วเราพูดทุกวัน ๆ หนูว่ามันก็ต้องสํานึกบ้างแหละ มันก็ต้องเข้าไปในสํานึก ต้องมีเอ๊ะแบบที่หนูไปฟังพี่ทุกวัน ๆ จนหนูเอ๊ะ แล้วหนูก็ตั้งคําถาม หนูก็มีคําถามมาถามทุกวันเหมือนกันเนอะ”

ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ กล่าวถามกลับไปว่า “แล้วพวกพี่ตอบหนูได้ไหมล่ะ?”

สมาชิกหญิงรายดังกล่าวตอบว่า “ตอบได้ทุกคําถาม แล้วมันก็เป็นข้อมูลจริง ซึ่งหนูก็ไปอ้างอิงจากในเน็ตมาอีกรอบหนึ่งว่าที่เขาพูดมาตรงไหม? ถ้าไม่ตรง เราก็จะมีข้อมูลมาแย้งว่าพูดไม่ตรงเลย หรือเรื่องนี้มันไม่จริง แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีนะ หนูยังไม่คัดค้านอะไรเลย”

ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก @plm89thailand หรือ ‘พี่ลุงแมนไทยแลนด์แดนสวรรค์’ ตอบกลับว่า “ก็ใช่อะสิ แล้วสลิ่มไม่รู้จะไปพูดหลอกพวกหนูทำไม”

สมาชิกหญิงรายดังกล่าวตอบว่า “แล้วทำไมไปเรียกเขาสลิ่ม จริง ๆ ความรู้เขาแน่นมากเลยนะ คุณกลัวคนมีความรู้กันเหรอ งง” 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 เตรียมจับมือนำงานวิจัยและนวัตกรรมลดปัญหาอาชญากรรม

วันนี้ (24 มิ.ย.67) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดภายใต้หัวข้อ “การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการบังคับใช้กฎหมายในสังคมดิจิทัล” โดยมี พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้บริหารโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1,000 คน ณ ห้องประชุมเตมียเวส โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดน ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้การดำรงชีวิตได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในทางกลับกันก็อาจก่อให้เกิดผลเสียตามมา ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ ต้องรับผลกระทบจากกระแสการเปลี่ยนแปลงทางสังคมนี้ ส่วนหนึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมที่มีรูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น ทำให้ยากต่อการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อบุคคล เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ

ดังนั้น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจึงมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรม รวมทั้ง ภาคประชาชนที่จะต้องทำความเข้าใจร่วมกันถึงวิธีการบังคับใช้กฎหมาย การวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดอาชญากรรม การบริหารองค์กร ตลอดจนการจัดสรรเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมต่อการดำเนินงาน เพื่อควบคุมปัญหาอาชญากรรมให้มีอัตราการเกิดน้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปฏิรูปและพัฒนาวิทยาการด้านการอำนวยความยุติธรรมให้ทันสมัย มีการผลักดันการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการสร้างมาตรการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมของประเทศ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า การจัดการประชุมวิชาการระดับชาติฯ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจครั้งนี้ นับว่าเป็นเวทีสำคัญ สำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและส่งเสริมให้คณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมและอื่นๆ ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนผลงานทางวิชาการสู่สาธารณชน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดผลงานวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สามารถนำไปต่อยอดในการเรียนการสอนและการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม ซึ่งกระทรวง อว.พร้อมร่วมมือกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจในทุกมิติ โดยเฉพาะการนำงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาร่วมต่อยอดและพัฒนาการดำเนินการเพื่อลดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนต่อไป

ทั้งนี้ กิจกรรมในงานการประชุมวิชาการระดับชาติ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2567 ประกอบไปด้วย การปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ อาชญากรรมในยุคสังคมดิจิทัล โดย ดร.ปริญญา หอมเอนก การเสวนาในหัวข้อ การเฝ้าระวังภัยในยุคสังคมดิจิทัล จากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล รองอธิการบดีฝ่ายความปลอดภัย มหาวิทยาลัยรังสิต, ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และ ร.ต.อ.ดร.เขมชาติ ประกายหงส์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยและผลงานวิชาการสาขาสังคมศาสตร์ อาชญาวิทยา และการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมาย และนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีนักวิชาการสนใจเข้าร่วมนำเสนอเป็นจำนวนมาก บริเวณงานมีการ จัดแสดงนิทรรศการและแสดงบูธผลงาน อาทิ บูธชมรมไซเบอร์ บูธ กสทช. บูธสำนักงานกิจการยุติธรรมฐานข้อมูลงานวิจัยในกระบวนการยุติธรรม บูธโครงการวิจัย และบูธหลักสูตรคณะต่างๆ ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นต้น

‘หนุ่มเกาหลี’ ลั่น!! คนในชาติตัวเองหล่อกว่า ‘ชายไทย’ ทำชาวเน็ตไทยแห่วิจารณ์ยับ ไม่ยอมโดนหยามเรื่องนี้

(24 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อคนทั่วโลก ดังนั้นเราจึงมักเห็นคอนเทนต์ซ้ำ ๆ ในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะคอนเทนต์สัมภาษณ์คนตามท้องถนน

ล่าสุด หนุ่มเกาหลีรายหนึ่งได้กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ หลังให้สัมภาษณ์ในช่องติ๊กต็อกช่องหนึ่ง โดยในคลิปวิดีโอจะเริ่มจากพิธีกรสัมภาษณ์สาวต่างชาติที่มาทำงานในเกาหลีใต้ และถูกถามว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างเกาหลีและประเทศไทย

เธอตอบว่า “เพิ่งมาครั้งแรก ยังไม่รู้อะไรมาก” ซึ่งสาวรายนี้มาพร้อมกับเพื่อนชายชาวเกาหลี เพื่อนของเธอจึงกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู แต่เธอปฏิเสธและบอกให้เพื่อนพูดเอง

หนุ่มคนนี้จึงพูดว่า “ผู้ชายเกาหลีหล่อมากกว่าถ้าเทียบกับผู้ชายไทย” พิธีกรจึงหันไปถามความเห็นผู้หญิง สาวคนนี้บอกว่า “ฉันคิดว่าก็เหมือน ๆ กันนะ” ทำเอาคลิปวิดีโอนี้กลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย

บางคนมองว่าพิธีกรถามคำถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมระหว่างประเทศ แต่ผู้ชายคนนี้กลับตอบเรื่องหน้าตา ก็สะท้อนถึงทัศนคติที่ไม่ดีรึเปล่า ถ้าผู้หญิงพูดเองก็จะเสียหาย ดีแล้วที่ผู้หญิงฉลาด และไม่ยอมทำตาม

บางคนก็แสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนานว่า “ลุกซ์ของคนเกาหลีส่วนใหญ่อาจจะดูดีกว่าผู้ชายไทย แต่ถ้าบอกว่าหล่อกว่า ยอมไม่ได้” แถมบ้างก็เชียร์ให้ผู้ชายไทยหันมาดูแลตัวเองและแต่งหน้า แต่งตัว แข่งกับคนเกาหลีไปเลย

‘ญี่ปุ่น’ พบ!! วัยทำงาน 60% ‘ขาดแรงจูงใจ’ ช่วงหน้าฝน ทำให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ‘การทำงาน’ ที่ลดลง

เมื่อวานนี้ (23 มิ.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทอาหารรายใหญ่ของญี่ปุ่น พบว่าประชาชนคนวัยทำงานในญี่ปุ่นราวร้อยละ 60 รู้สึกขาดแรงจูงใจยามประเทศเข้าสู่ช่วงฤดูฝน

การสำรวจนี้ที่มุ่งเน้นผลกระทบจากรูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ระบุว่าผู้คนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากความกดอากาศที่ผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะฤดูฝนที่มาช้าในหลายภูมิภาคอย่างคิวชู

เมื่อถามถึงสุขภาพในช่วงฤดูฝน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.6 ตอบว่า ‘ขาดแรงจูงใจ’ ตามด้วยปัญหาอย่าง ‘ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างไร’, ‘รู้สึกไม่สบาย’ และ ‘ประสิทธิภาพการทำงานลดลง’

นอกจากนั้น การสำรวจนี้ที่มุ่งเน้นการจัดการสุขภาพและมีผู้ตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ อายุ 20-60 ปี จำนวน 2,000 คน ระหว่างวันที่ 26-28 เม.ย. ยังตรวจสอบผลกระทบจากการทำงานระยะไกลต่อสุขภาพด้วย

ผู้ตอบแบบสอบถามราวหนึ่งในสี่ที่ทำงานระยะไกลอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ เผยว่ามีแรงจูงใจลดลงและแนวโน้มทำงานต่อไปแม้รู้สึกไม่สบายตัว โดยภาวะนี้พบมากเป็นพิเศษในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 20-29 ปี หรือคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 50

ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 71 ยอมรับว่าปกปิดปัญหาสุขภาพของตนเองและยังคงทำงานต่อไป โดยเฉพาะผู้หญิงอายุ 30-39 ปี ที่คิดเป็นอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 81.2

'อินเตอร์ลิ้งค์ฯ' จัดปาร์ตี้คอนเสิร์ตแห่งปีให้ลูกค้าคนสำคัญ เชื่อมสัมพันธ์แทนคำขอบคุณด้วยหัวใจ ในงาน 'INTERLINK THANK YOU PARTY 2024'

จบไปอย่างชื่นมื่นกับความประทับใจแบบไม่รู้ลืม กับงานเลี้ยงยิ่งใหญ่แห่งปี “INTERLINK THANK YOU PARTY 2024” ที่ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น ตั้งใจคืนกำไร มอบความสุข สุดมันส์ไปกับคอนเสิร์ตสุดตระการตาให้กับลูกค้าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนขององค์กร แทนคำขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ร่วมเดินทางไปสู่ความสำเร็จร่วมกันทั้งคู่ค้า และพันธมิตร

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ นำโดย CEO คุณสมบัติ อนันตรัมพร พร้อมด้วย ดร.ชลิดา อนันตรัมพร ได้รังสรรค์งานปาร์ตี้คอนเสิร์ต “INTERLINK THANK YOU PARTY 2024” พร้อมกับให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคนพิเศษที่ได้ร่วมเดินทางไปกับเรา และให้การสนับสนุน สินค้า และอุปกรณ์ LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE ด้วยดีเสมอมา รวมถึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแห่งการเติบโต กว่า 38 ปี ที่บริษัทฯ ก้าวมาสู่ความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ผ่านการคืนกำไรพร้อมความสุข สร้างรอยยิ้ม และความครื้นเครงให้กับลูกค้าจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศกว่า 1500 บริษัทฯ มาร่วมดื่มด่ำกับบรรยากาศความสนุกสนาน และลิ้มรสชาติอาหารที่จัดมาให้เฉพาะลูกค้าคนพิเศษในงานนี้เท่านั้น ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

ภายในงาน ทุกท่านยังได้เพลิดเพลิน บรรเทิงไปกับปาร์ตี้สุดมันส์แบบครบรสความอบอุ่น รับฟังเสียงเพลงบรรเลงผ่านคอนเสิร์ตที่อินเตอร์ลิงค์ฯ จัดชุดใหญ่นำทัพศิลปินแห่งยุค 90’ ทั้ง ชมพู ฟรุตตี้/แคทรียา อิงลิช/FIRZTER/อ๊อฟ ปองศักดิ์ ที่ขนเพลงรวมรุ่นมาเอาใจลูกค้าทุกท่านให้ได้ฟัง ร่วมเอ็นจอย พร้อมแดนซ์กันกระจายอย่างสนุกสนานไปตลอดทั้งค่ำคืน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกก่อนเข้าไปรับฟังบทเพลงอันไพเราะ เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลุ้นซองสุ่ม กิจกรรมตู้เกมส์ลุ้นรางวัล เพื่อรับของรางวัลสุด Exclusive กันอย่างท่วมท้นล้นหลาม แทนคำขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามข่าวสารในทุก ช่องทางการประชาสัมพันธ์ของอินเตอร์ลิ้งค์อีกด้วย

คุณสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับในค่ำคืนนี้ ผมรู้สึกดีใจ และมีความยินดีที่ได้ต้อนรับทุกท่าน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น เพราะทุกท่านเปรียบเสมือนเป็นครอบครัวของเรา ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 38 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีทุกท่านร่วมเดินเคียงข้าง และสนับสนุนแบรนด์ LINK AMERICAN AND GERMAN RACK เราคงจะไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนจนถึงทุกวันนี้ ผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านจากใจอีกครั้งที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในสินค้า อุปกรณ์ และบริการของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ด้วยดีเสมอมา เพื่อนำพาธุรกิจให้เติบโต อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนแบบมีคุณภาพไปด้วยกันครับ”

 

 

‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ปัดสัมภาษณ์นักข่าว หลังมีข่าวลือเลิก ‘นาย ณภัทร’ สะพัด

(24 มิย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้ตามสัมภาษณ์ใบเฟิร์น ที่งาน ‘ทรูทั่วไทย’ True Power Soft Power ที่เจ้าตัวมาในฐานะ Brand Ambassador ซึ่งนักข่าวได้ตามไปหลังไมค์กับ ผู้จัดการส่วนตัว ว่าจะขอสัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ ซึ่ง ใบเฟิร์น เองได้แจ้งกับทางทีมงานว่าวันนี้ไม่สะดวกตอบคำถามนักข่าว

ทันที่เสร็จ ใบเฟิร์น เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินทางกลับ ซึ่งเจ้าตัวได้ทักทายนักข่าวที่ตามมาเก็บภาพว่า “ครั้งหน้านะ คุยยาว ๆ เลย”

ขณะที่มีข่าวลือจากวงใน ว่า ใบเฟิร์น และ นาย ตัดสินใจจบความสัมพันธ์หลังกลับจากทริปสวิตเซอร์แลนด์ ในอินสตาแกรมของ ใบเฟิร์น ยังได้โพสต์ภาพ เวิร์คช็อปการแสดง พร้อมแคปชั่น “แหลกสลายมันเป็นแบบนี้นี่เอง #ทิชา” ซึ่ง นาย ณภัทร ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์อิโมจิ รูปชูสองนิ้วและหัวใจสีขาวให้ 

จากนี้ก็คงต้องรอ ใบเฟิร์น-นาย พร้อม ที่จะตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้เป็นไปตามข่าวลือหรือไม่

‘คลินิกจีน’ เคลม!! ฝังเข็มบนศีรษะช่วยเพิ่ม IQ - เสริมความจำ นักเรียน-วัยทำงานแห่จองคิว ฟากชาวเน็ตท้วง “เป็นไปได้เหรอ?”

(24 มิ.ย.67) คลินิกฝังเข็ม IQ Boost ในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน นำเสนอแพ็กเกจ ฝังเข็มที่ศีรษะช่วยเสริมความฉลาดปราดเปรื่อง และพัฒนาเรื่องความจำได้ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ที่มีผู้ปกครองนำบุตรหลานของตนเข้ามาจองคิวฝังเข็มกันเป็นจำนวนมาก 

หง โชวไห่ แพทย์แผนโบราณจีนด้านการฝังเข็มกล่าวว่า การฝังเข็มสามารถกระตุ้นสมอง ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์สมองให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้ออกซิเจนไหลเวียนไปยังสมองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความฉลาดหลักแหลมให้กับสมองของเราได้ 

การฝังเข็มถูกกล่าวถึงในตำราทางการแพทย์จีนโบราณที่รู้จักกันในชื่อ ‘หวงตี้เน่ยจิง’ หรือคัมภีร์ลับแห่งจักรพรรดิเหลือง ซึ่งเป็นตำราแพทย์แผนโบราณของจีนที่มีอายุย้อนกลับไปนานถึง 100 ปีก่อนคริสตกาล

โจว ไห่เจียง แพทย์ด้านการฝังเข็มอีกคนในคลินิกได้อธิบายว่า ในฝังเข็มตรง ‘จุดไป๋ฮุ่ย’ หรือจุดที่อยู่ตรงกึ่งกลางศีรษะจะช่วยกระตุ้นสมอง และสร้างความกระปรี้กระเปร่า

โดยศาสตร์ด้านการฝังเข็มของจีนได้กล่าวถึง ‘The Four Intelligence Points’ หรือจุดอัจฉริยะทั้ง 4 อัน ได้แก่ ตำแหน่ง 4 จุด ที่ล้อมรอบจุดไป๋ฮุ่ย เกี่ยวพันกับอาการปวดศีรษะ, นอนไม่หลับ, และอาการหลงลืม

ส่วน จุดเฟิงชี่ หรือตำแหน่ง 2 จุดบริเวณก้านคอ จะกระตุ้นออกซิเจนให้ไหลเวียนในศีรษะและใบหน้าได้ดี ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพด้านความทรงจำ ทางคลินิกจึงเคลมว่า หากฝังเข็มให้ตรงจุดเหล่านี้โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถเพิ่ม IQ ได้ 

หลังจากที่ปล่อยโฆษณาแพ็กเกจฝังเข็มเพิ่ม IQ ออกไป ก็มีกลุ่มนักเรียน และคนทำงานเข้ามาจองรอบฝังเข็มที่ศีรษะกับทางคลินิกเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยราว 50-60 คิวต่อวัน

แต่ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียลที่ยังกังขากับวิธีการฝังเข็มแนวนี้ ว่าน่าเชื่อถือจริงหรือไม่

หม่า กวนฟู่เฉิง แพทย์แผนจีนโบราณแห่งโรงพยาบาลเซี่ยเหมินได้กล่าวกับสื่อจีนว่า การฝังเข็มเพื่อความอัจฉริยะ มีความเป็นไปได้ แต่ไม่ได้ถึงการเพิ่ม IQ ของคนอย่างที่เข้าใจกัน

เนื่องจากโดยหลักการแล้ว การฝังเข็มเป็นวิธีการควบคุมการทำงานทางสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ด้วยการกระตุ้นในจุดฝังเข็ม จึงช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือดในสมอง ปรับปรุงสภาพแวดล้อมจุลภาคของสมอง และสามารถส่งเสริมการฟื้นตัวของการทำงานของสมองได้ 

ในเวลาเดียวกัน การฝังเข็มยังสามารถควบคุมสมดุลของหยิน-หยาง พลังชี่ และการไหลเวียนโลหิต ซึ่งช่วยในเรื่องอาการนอนไม่หลับได้ดี แต่ไม่ใช่เครื่องมือที่เพิ่มระดับ IQ ได้โดยตรง

แต่ทั้งนี้ อวี๋ จิน ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การฝังเข็มและสมองที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนกว่างโจว ยืนยันอีกเสียงว่า การฝังเข็มมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการทำงานของสมองได้จริง แต่ต้องดำเนินการโดยแพทย์มืออาชีพ และพบว่า การฝังเข็มยังประสบความสำเร็จในการรักษาอาการที่เกิดจากโรคทางสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคอัลไซเมอร์ ความบกพร่องทางสติปัญญาในเด็ก และโรคสมองพิการ ได้ 

นับเป็นศาสตร์พิศวงจากตำราแพทย์แผนจีนที่มีอายุมานานกว่า 2,000 ปี ที่วงการแพทย์ยุคใหม่ให้ความสนใจและต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเหล่านี้ด้วยความตื่นเต้น 

ชื่นชม!! ‘นร.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย’ คว้า 16 เหรียญทอง แข่งขันวิทย์ฯ-นวัตกรรมนานาชาติ 'WYSII 2024' ณ มาเลเซีย

(24 มิ.ย. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลชื่นชมนักเรียนไทยสุดเก่ง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมระดับนานาชาติ ด้วยการคว้ารางวัลเหรียญทองและรางวัลพิเศษ จากการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมระดับนานาชาติ World Youth Stem Invention Innovation (WYSII) 2024 ณ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค. 2567 ในรูปแบบออนไลน์ 

นายคารม กล่าวว่า เด็กนักเรียนไทยที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่เด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา สามารถคว้ารางวัลมาได้รวมทั้งหมด 26 รางวัล แยกเป็น รางวัลเหรียญทอง 16 รางวัล และรางวัลพิเศษ 10 รางวัล สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง คือ โครงงานการตรวจจับเนื้องอกในสมองจากภาพ MRI โดยใช้การวิเคราะห์ฮิสโตแกรม ซึ่งเป็นโครงงานที่น้อง ๆ นักเรียนได้คิดค้นขึ้นมา เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมองเพิ่มมากขึ้น และการวินิจฉัยก็ยังมีความผิดพลาด

โดยผลงานชิ้นนี้เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์วินิจฉัยผลตรวจสมอง และใช้คอมพิวเตอร์ในการเขียนโปรแกรมขึ้นมาเอง นำมาใช้วิเคราะห์จากภาพตรวจ MRI สมองของผู้ป่วย เกิดผลที่แม่นยำมากกว่า 90% ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก และในอนาคตอาจนำไปต่อยอดทำเป็นภาพ 3D เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนในการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะโรคเนื้องอกในสมองเพียงอย่างเดียว อาจจะวินิจฉัยโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับสมองได้ด้วย

“รัฐบาลมุ่งพัฒนากำลังคนควบคู่กับระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยให้ความสำคัญ ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า สร้างโอกาส สร้างระบบการวิจัยและพัฒนาที่มีคุณภาพ ซึ่งทุกอย่างพัฒนาได้ด้วยคน และเยาวชนไทย รวมถึงบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป” นายคารม ย้ำ

‘เศรษฐา’ เร่ง ‘ททท.’ ปั้นทริปเที่ยวตอบโจทย์แต่ละชาติช่วงโลว์ซีซัน ล็อกเป้า!! 'กลุ่มตะวันออกกลาง-รัสเซีย-คาซัคฯ-อินเดีย' ดีมานด์สูง

(24 มิ.ย.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ภารกิจเช้านี้เตรียมและติดตามงาน 2 เรื่อง เรื่องแรกตนได้เชิญทาง ททท. มาเตรียมแผนการท่องเที่ยวในช่วง Q2 - Q3 ที่เป็นช่วง Low Season ของไทย 

“ผมได้ขอให้ ททท. เตรียมแพ็กเกจสำหรับแต่ละประเทศที่มีศักยภาพเพื่อจะทำแผนการท่องเที่ยวราย Segment ให้ตอบโจทย์ของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวจากกลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย หรือประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย, คาซัคสถาน, อินเดีย ที่มีความต้องการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงและมีความชอบเฉพาะที่แตกต่าง” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายเศรษฐา เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังได้พบกับ Mr. Marcus Wallenberg ประธานกลุ่มบริษัท SAAB SEB ซึ่งตนเคยพบตอนห้วงประชุม World Economic Forum ที่ Davos เพื่อติดตามประเด็นต่าง ๆ ที่เคยคุยไว้ เช่น การดึงดูดการลงทุนในไทย การเข้ามาตั้งโรงงานของ Astra Zeneca ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมแล้ว และทางบริษัทฯ จะวางแผนพบกับนักลงทุนไทย เพื่อทำงานร่วมกันระหว่างการประชุม Davos ในปีหน้า


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top