Friday, 30 May 2025
TheStatesTimes

ระทึก!! หาม ‘จนท.ดับไฟป่า’ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ส่งรพ. หลังช่วยดับไฟป่าใน จ.พิษณุโลก นานหลายชั่วโมง

(18 มี.ค. 67) นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ได้สั่งการให้ ศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าฯ (War Room สบอ.11) ได้แจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ป่า ที่บริเวณพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตามที่ได้รับแจ้งพบจุด Hotspot ในพื้นที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จำนวน 2 จุด จึงได้ร่วมกับสถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด และจุดเฝ้าระวัง (ภาคประชาชน) เข้าดำเนินการตรวจสอบและควบคุมไฟป่า จุดที่ 1 บริเวณบ้านป่าคาย ม. 2 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตรวจสอบแล้วเป็นไฟไหม้ติดตอไม้ และกอไผ่ สถานะดับแล้ว และ จุดที่ 2 บ้านใหม่พนมทอง หมู่ที่ 14 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สถานะสามารถควบคุมไฟได้แล้วบางส่วน โดยไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา นายสรวิชญ์ สีดารักษ์ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้า ตำแหน่งบุคคลภายนอก (ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า) อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่มีอาการอ่อนแรง หน้าซีด ล้มลง และกล้ามเนื้อเกร็งลักษณะเป็นตะคริวช่วงหน้าท้องลงไปถึงช่วงขา ชุดปฏิบัติงานจึงได้ช่วยกันเร่งนำตัวลงจากเขา และแจ้งให้หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้าทราบ และเร่งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยามบ้านนาขาม นำรถกู้ชีพ รพ.วัดโบสถ์ เพื่อรอรับตัว แต่เนื่องจากใช้เวลาเดินเท้าออกมาจากป่าระยะทางทางไกล

หลังจากนั้นได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลวัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจอาการ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการกล้ามเนื้อสลาย หากขาดการรักษาจะทำให้มีอาการโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด และเมื่อเวลา 21.30 น. แพทย์ตรวจพบมีค่าไตผิดปกติ ขณะนี้อาการปลอดภัย แพทย์ลงความเห็นว่าให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ อย่างน้อย 2-3 คืน

ทั้งนี้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานดูแลอาการเจ็บป่วยของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หัวหน้าชุดลาดตระเวน ต้องตรวจสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนปฏิบัติงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องสลับกันเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เข้าดับไฟป่าทำงานหักโหม บางคนอาจมีอาการอ่อนล้าสะสม โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ล่าสุดอาการของนายสรวิชญ์ สีดารักษ์ อาการปลอดภัยแล้ว

เปิด 20 อันดับ 'ชาติเอเชีย' ที่มีรายได้น้อยที่สุด

📍 เช็กลิสต์ 20 อันดับประเทศในเอเชียที่มีรายได้ต่ำที่สุด โดยอ้างอิงตามรายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) ต่อหัว PPP (ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ)

'กฟผ.' ชวนคนไทยประหยัดไฟด้วยอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ห้าดาว ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า เซฟสิ่งแวดล้อม และเซฟพลังงาน

(18 มี.ค. 67) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานรณรงค์ประหยัดพลังงาน ประหยัดไฟใน ‘ฤดูเซฟ’ โดยมีนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 ดาราศิลปินดัง แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์ และวงพาราด็อกซ์ ร่วมสร้างสีสันในงาน ณ ลานกิจกรรมบริเวณลิฟต์แก้ว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ผลักดันและจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนนำพาประเทศไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 ผ่านนโยบายต่าง ๆ โดยในช่วงหน้าร้อนนี้ กระทรวงพลังงานได้เชิญชวนให้คนไทยทุกคนร่วมกันประหยัดพลังงาน ผ่านเคล็ดไม่ลับ 5 ป. ได้แก่ 1) ‘ปิด’ ไฟที่ไม่จำเป็น 2) ‘ปรับ’ แอร์อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส 3) ‘ปลด’ ปลั๊กเมื่อเลิกใช้ 4) ‘เปลี่ยน’ มาใช้ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ และหลอดไฟ LED รวมถึง 5) ‘ปลูก’ ต้นไม้บริเวณบ้าน 

โดยฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า หรือ Demand Side Management (DSM) ที่ กฟผ. ดำเนินการ และเป็นส่วนสำคัญที่สร้างการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ห้าดาว ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพด้านพลังงาน และรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เปลี่ยนฤดูร้อนให้เป็นฤดูเซฟ เซฟทั้งเงินในกระเป๋า เซฟสิ่งแวดล้อม และเซฟพลังงานในภาพรวมของประเทศ

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กว่าว่า ฤดูร้อนของทุกปีประเทศไทยจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานจึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และช่วยให้ประเทศประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ของ กฟผ. เป็นสัญลักษณ์ของการประหยัดพลังงานที่ได้รับการยอมรับมายาวนานกว่า 30 ปี ในวันนี้ กฟผ. ได้ทำการปรับปรุงรูปแบบฉลากเบอร์ 5 โฉมใหม่ ให้สอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคสินค้าและบริการของคนรุ่นใหม่ ที่เลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์ของฉลากให้เหมาะสมกับยุคเทคโนโลยีดิจิทัล โดย 1) เพิ่มค่าประสิทธิภาพสูงสุดจาก 3 ดาว เป็น 5 ดาว 2) เพิ่มข้อมูลด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 3) ใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 4) เพิ่ม QR Code บนฉลาก เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างสะดวก

สำหรับการปรับดีไซน์ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ นับเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ โดยได้รณรงค์ผ่านเพลงดัง ‘ฤดูร้อน’ ของวงพาราด็อกซ์ ที่ได้นำมาดัดแปลงเนื้อร้องเป็น ‘ฤดูเซฟ’ สร้างการจดจำ โดยฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แบบใหม่ เริ่มใช้งานแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 24 ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานและติดฉลาก ในอนาคตมีแผนติดฉลากให้กับแผงโซลาร์เซลล์ และอินเวอร์เตอร์ที่ใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ประหยัดพลังงานอื่น ๆ อีก เช่น กิจกรรมเสนอไอเดียประหยัดไฟดับร้อนสุดสร้างสรรค์ของ กฟผ. ‘เล่นปุ๊บ แจกปั๊บ ดับร้อน ในฤดูเซฟ’ ลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ได้ตลอดเดือนเมษายน 2567 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ด้าน แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์ ได้เล่าถึงการเข้ามามีส่วนร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญนี้ว่า เนื่องจากเป็นคนชอบอยู่บ้าน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งบ้านจึงต้องมีฉลากเบอร์ 5 เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า อยากให้ทุกคนตระหนักถึงการใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า ซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ จะทำให้ประสิทธิภาพของการประหยัดไฟพลังงานดีขึ้นอย่างแน่นอน

ในขณะที่วงพาราด็อกซ์ กล่าวว่า ฉลากเบอร์ 5 ไม่ได้มีแค่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ข้าวกล้อง เสื้อผ้า และผ้าม่าน ที่ได้รับการติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เช่นกัน ขอฝากถึงคนไทยทุกคน หากซื้อผลิตภัณฑ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้มองหาฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ห้าดาว เป็นอันดับแรก เพราะนอกจากจะช่วยชาติประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย

'ทรัมป์' ลุยหาเสียง-ขึ้นเวทีปราศรัยในรัฐโอไฮโอ กร้าว!! หากตนพ่ายแพ้ 'สหรัฐฯ จะต้องนองเลือด'

(18 มี.ค.67) สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ปราศรัยหาเสียงให้กับเบอร์นี โมเรโน ผู้ลงสมัครวุฒิสภาของพรรครีพับลิกัน ในเมืองแวนดาเลีย รัฐโอไฮโอ และอ้างว่า ตนจะปกป้องความมั่นคงทางสังคม พร้อมเตือนว่า ประเทศจะนองเลือดถ้าเขาพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งเดือน พ.ย. นี้

ทั้งนี้ ในการปราศรัย ทรัมป์ได้กล่าวยกย่องโมเรโนว่าเป็น ‘แชมป์คนแรกของอเมริกา’ และเป็น ‘นักการเมืองคนนอก’ ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตพัฒนาชุมชนในโอไฮโอ

“เขาจะเป็นนักรบในวอชิงตัน” ทรัมป์กล่าว

ขณะเดียวกันทรัมป์ก็ใช้เวทีนี้ในการเผยแพร่คำกล่าวปราศรัยที่เต็มไปด้วยคำหยาบคายและดูหมิ่นตามสไตล์ของเขา ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า ประเทศจะล่มสลายอีกครั้ง หากปธน.ไบเดนชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 2

“ถ้าผมไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ประเทศจะต้องนองเลือด" ทรัมป์เตือน ขณะที่พูดถึงผลกระทบภายนอกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และได้เผยแผนจ่อเพิ่มภาษีรถยนต์แบรนด์ต่างชาติ

หลังจากนั้น ทรัมป์ก็อ้างว่า “ถ้าผมไม่ชนะเลือกตั้งครั้งนี้ ผมไม่มั่นใจว่าพวกคุณจะมีโอกาสได้เลือกตั้งอีกครั้งในประเทศนี้หรือเปล่า”

ด้านรอยเตอร์ได้ถามเจมส์ ซิงเกอร์ โฆษกหาเสียงของไบเดน ถึงคำปราศรัยดังกล่าวของทรัมป์ ซิงเกอร์จึงประณาม ‘ลัทธิหัวรุนแรง’ ของทรัมป์ และว่านั่นเป็น ‘ความกระหายอยากแก้แค้น’ และเป็น ‘ภัยคุกคามจากความรุนแรงทางการเมือง’

'ดร.สุวินัย' เลคเชอร์ความเชื่อเรื่อง 'สมมติเทพ' ของ 'พุทธ-พราหมณ์' ผู้ประกอบแต่คุณงามความดี ภายใต้ทศพิธราชธรรม

(18 มี.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ 'สมมติเทพ' ระบุว่า...

สถาบันกษัตริย์ในภูมิภาคนี้ ผูกพันกับพระวิษณุนารายณ์ (มหาเทพผู้ปกป้อง) และบูชาพระวิษณุนารายณ์

ในตำนาน พระวิษณุนารายณ์ อวตารลงมาเป็นพระรามเพื่อปราบอธรรมใน 'รามเกียรติ์' ซึ่งเป็นวรรณคดีประจำชาติ...พระรามเป็นกษัตริย์

พระวิษณุนารายณ์ยังอวตารลงมาเป็น พระกฤษณะเพื่อปราบอธรรม ใน 'มหาภารตะยุทธ' ...ซึ่งเป็นวรรณคดีประจำชาติของอินเดีย...พระกฤษณะก็เป็นกษัตริย์

'สมมติเทพ' คือคติความเชื่อเรื่องกษัตริย์ทรงเป็นเทพลงมาจุติเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อประกอบคุณความดี (ทศพิธราชธรรม) และสะสมบารมี เมื่อเสด็จสวรรคตก็กลับขึ้นสรวงสวรรค์

เมืองไทยได้รับคติพราหมณ์นี้มาจากขอม โดยที่ขอมก็รับมาจากอินเดียใต้อีกทอดหนึ่ง คติความเชื่อนี้แยกไม่ออกจากโลกทัศน์แบบไตรภูมิ ซึ่งเป็นโลกทัศน์ของพุทธศาสนาด้วย

ในพระไตรปิฎกคำว่า 'เทพ' มี 3 อย่างคือ...

(1) อุบัติเทพ : เทพโดยกำเนิด ได้แก่เทวดาที่อยู่ในสวรรค์
(2) สมมติเทพ : เทพโดยสมมติ คือบุคคลที่เป็นเทวดาเดินดินโดยการยอมรับหรือตกลงร่วมกันของมนุษย์ในเชิงสถาบัน ได้แก่ พระมหากษัตริย์ (ถ้าในประเทศญี่ปุ่น คือพระจักรพรรดิที่ถือเป็นสมมติเทพของญี่ปุ่น)
(3) วิสุทธิเทพ : เทพโดยความบริสุทธิ์ของจิต ได้แก่ พระอรหันต์

จะเห็นได้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งอยู่บนคติและรากฐานความเชื่อแต่โบราณของสองศาสนาผสมผสานกัน คือ พราหมณ์ กับ พุทธ

โดยที่พราหมณ์จะเชื่อว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ เป็นอวตารปางหนึ่งที่ลงมาดับทุกข์เข็ญให้ประชาชนของพระองค์ ส่วนพุทธก็จะเชื่อว่าพระมหากษัตริย์เป็นพระโพธิสัตว์ ทรงมีภาระบำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้เข้าสู่พุทธภูมิในกาลข้างหน้า

พระครูสมุห์ วิษุวัตร วรกิจจฺโจ 
เจ้าอาวาสวัดฝายหิน 

“เขาเป็นสมมติเทพ ชาวบ้านในประเทศไทยเคารพนับถือแต่ไหนแต่ไรมา อาตมาเสียดาย ติดตามข่าวทำไมถึงไป คิดถึงขั้นนั้น แล้วถ้าโยมไม่คิด บริวารเขาคิด"

4 ผู้บัญชาการทหารเรือ ประชุมมูลนิธิ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5

วันนี้ 18 มีนาคม 2567 มีการประชุม คณะกรรมการมูลนิธิ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณป้อมพระจุลจอมเกล้า ที่ห้องวุฒิชัยเฉลิมลาภ ชั้นที่ 1 อาคารราชนาวิกสภา โดยมี พลเรือเอกทวีศักดิ์ โสมาภา อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธาน พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอกสมประสงค์ นิลสมัย อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เข้าร่วมประชุม 

โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมประชุม มีวาระการประชุม ที่สำคัญ ได้แก่ การพิจารณาแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2567 ตลอดจนแนวทาง การมอบทุนการศึกษา ประจำปี 2567
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

States TOON EP.159

4 Kings 3 ตอน หยามยุติธรรม!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต

'รทสช.' จัดทัพ 18 สส. ถกงบประมาณปี 67 วาระ 2-3 กำชับ 'สส.-กมธ.งบประมาณฯ' ยึดประโยชน์ 'ชาติ-ปชช.'

เมื่อวานนี้ (18 มี.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เผยว่า พรรครวมไทยชาติได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วาระ 2 และ 3 ในวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ ทั้งในส่วนของสส.ของพรรคที่ได้สงวนคำแปรญัตติไว้ และในส่วนของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่พรรคส่งไปเป็นกมธ. ทั้งสส.และกมธ.ที่เตรียมข้อมูลอภิปรายมี 18 คน

ทั้งนี้ กมธ.ของพรรคจะมีการชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่มีรัฐมนตรีของพรรคดูแลอยู่ ถึงเหตุผลในการพิจารณางบประมาณของแต่ละกระทรวงที่ไม่ได้ปรับลดงบประมาณลงว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ขณะที่สส.จะอภิปรายถึงเหตุผลในการสงวนคำแปรญัตติในการขอปรับลดงบประมาณโดยมีเป้าหมายที่ประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ถือเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สส. และกมธ.ที่พรรคได้ส่งไปทำงาน

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 มอบประกาศเกียรติคุณ ให้กับข้าราชการตำรวจ

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 เวลา 09.30 น. พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ ให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัด ณ ห้องประชุมอาคารสโมสรคุ้มแก้ว - ขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่  

"รายชื่อผู้รับใบประกาศเกียรติคุณ กรณีจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ

คดี ไอซ์ 323 กก. สภ.แม่ฟ้าหลวง ชร.      
1 พ.ต.อ. ธวัชวงศ์ ชูกิจคุณ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 
2 พ.ต.อ. เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน จว.เชียงราย 
3 พ.ต.ท. ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่จัน จว.เชียงราย
4 พ.ต.ท. เอกชัย คิดจักร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 
5 พ.ต.ท. อนันต์ คำมี สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 
6 พ.ต.ต. สุวิชา  สิทธิวงค์ สว.สส.สภ.แม่จัน จว.เชียงราย 
7 พ.ต.ต. วิทย์วศิน นิธิกุลกาญน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 
8 พ.ต.ต. พิชิตพงศ์ ทะนันชัย สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย 
9 พ.ต.ต. สำเริง สิทธิวรปัญญา สว.สส.สภ.เวียงชัย จว.เชียงราย 
10 พ.ต.ต. ผดุง ท้ายเรือคำ สว.สส.สภ.แม่เมาะ จว.ลำปาง 
11 ร.ต.อ. วชิรพัตช์  วรรณสอน รอง สว.สส.สภ.แม่จัน จว.เชียงราย 
12 ร.ต.อ. วีระพงษ์ ลินลาจม รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.5
13 ร.ต.อ. เปา บุรี รอง สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.5
14 ร.ต.ท. ประภาส สมบัติ รอง สว.(สส.) กก.สส.3 บก.สส.ภ.5  
15 ร.ต.ท. ศุภชัย ปานโชติ รอง สว.(ป.) สภ.แม่จัน จว.เชียงราย  
16 ร.ต.ต. วรวุฒิ  อิ่นคำ รอง สว.(ป.) สภ.แม่จัน จว.เชียงราย
17 ด.ต. อนันต์ เทพฟองคำ ผบ.หมู่(สส.) กก.สส.1 บก.สส.ภ.5  
18 จ.ส.ต. สุชัย เสริมตระกูล ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 
19 ส.ต.อ. ธนพงษ์ ไชยชนะ ผบ.หมู่(สส.) กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 
20 ส.ต.อ. วันเฉลิม เรืองฤทธิ์ ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 
21 ส.ต.ท. ภูริณัฐ พันธ์งามเครือ ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 
22 ส.ต.ท. นเรนทร์ฤทธิ์ ภูสีดิน ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 
23 ส.ต.ท. นรินศักดิ์ คำอ้าย ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 

คดี ยาบ้า 1,000,000 เม็ด สภ.ห้วยไร่ พร.      
1 พ.ต.อ. ธวัชวงศ์ ชูกิจคุณ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 
2 พ.ต.ท. ปิยะศักดิ์ ศรีเรือน รอง ผกก.สส.สภ.ไชยปราการ จว.เชียงใหม่ 
3 พ.ต.ท. ชุมพล พิณไชย รอง ผกก.สส.สภ.บ่อเกลือ จว.น่าน 
4 พ.ต.ท. สัณหณัฐ อุทกัง สว.อก.สภ.สะเมิง จว.เชียงใหม่ 
5 พ.ต.ท. สันต์ชัย หินทราย สว.กก.สส.ภ.จว.พะเยา  
6 ร.ต.อ. อรรถพล บุญทวี รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5  
7 ร.ต.อ. อธิป พูลสวัสดิ์  รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5  
8 ส.ต.อ. ปรัษฐา สุวรรณกุล ผบ.หมู่(ป.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 
9 ส.ต.ท. พิชญะ อินทร์บัว ผบ.หมู่(สส.) กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 

คดี ยาบ้า 20,282 เม็ด สภ.ดอยหล่อ ชม.      
1 พ.ต.ต. วีระชน กัญญาโภค สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่  
2 ร.ต.ท. นิรันดร์ หมอเก่ง รอง สว.(สส.) สภ.สะเมิง จว.เชียงใหม่ 
3 ด.ต. มานิตย์ เศวตวีรภัทร์ ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ 
4 ด.ต. วิรัตน์ โยรภัตร ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ 
5 ด.ต. เอนก เนตรพงศ์ ผบ.หมู่(จร.) กลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ 
6 จ.ส.ต. อภินันท์ ต้นหนองดู่ ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ 
7 จ.ส.ต. รัชชานนท์ คำอินทร์ ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ 
8 ส.ต.อ. นัฐพล ปัญญา  ผบ.หมู่(สส.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่  
9 ส.ต.อ. วัชระ ลาภเกิด ผบ.หมู่(จร.) กลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ 
10 ส.ต.อ. รัชชานนท์ เศวตวีรภัทร์ ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่
11 ส.ต.อ. เมธารินทร์ เรือนแก้ว ผบ.หมู่(ป.) กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่
  
และจากกรณี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 เวลาประมาณ 01.00 น. ข้าราชการตำรวจชุดจับกุมของ   ภ.จว.เชียงใหม่ และ ภ.5 ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.แววดาวหรือดาว ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมาร์ ผู้ต้องหาซึ่งก่อเหตุบุกรุกเข้าไปในห้องนอนและใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย นายจ้างได้รับบาดเจ็บสาหัสและลักเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายหลบหนีไป ต่อมาวันที่ 11 ก.พ.67 เวลา 19.30 น. ชุดจับกุมของ สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่ และ กก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ได้ใช้ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีในการติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ด้วยความรวดเร็ว จึงเห็นสมควรมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาด้วยความรวดเร็ว ดังมีบัญชีรายชื่อต่อไปนี้

ข้าราชการตำรวจชุดจับกุม สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
1.  พ.ต.ท.พีระพล ขวาของ สว.สส.สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
2.  ร.ต.อ.นพดล  ตุ่นคำ รอง สว.(ป.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
3.  ร.ต.ท.ยอดไทย วงค์กาวิน รอง สว.(ป.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
4.  ด.ต.กอบเกียรติ ทารักษ์ ผบ.หมู่(ป.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
5.  ด.ต.วิเชียร  สรอยศักดิ์ ผบ.หมู่(ป.)สภ.ช้างเผือก  จว.เชียงใหม่
6.  ด.ต.หนึ่งธนา ยาท้วม ผบ.หมู่(ป.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
7.  จ.ส.ต.ชิตพล นวลแก้ว ผบ.หมู่(สส.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่
8.  ส.ต.อ.สัจจวัชร เหล่ายานะ ผบ.หมู่(สส.)สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่

บัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจชุดจับกุม บก.สส.ภ.5

1.  พ.ต.ต.สหัส จินะผ่อง  สวป.สภ.แม่กา จว.พะเยา
2.  ด.ต.กันธกฤตย์ วรพักตร์ ผบ.หมู่(สส.)กก.สส.1 บก.สส.ภ.5
3.  ส.ต.อ.เอกภาพ ศรีพลาย ผบ.หมู่(ป.)กก.ปพ.บก.สส.ภ.5
4.  ส.ต.ต.ศักดิ์ศิวา วรรณแดงงาม ผบ.หมู่ กองร้อยควบคุมฝูงชน กก.ปพ.บก.สส.ภ.5

วิภาดา/เชียงใหม่

'ตำรวจเทา-นักโทษเทวดา-พรรคล้มการปกครอง'  อาชญากรแผ่นดินจองกินโต๊ะประเทศนี้ไม่รู้จบ

สังคมประเทศไทยยามนี้ ถ้าเปรียบคนที่ป่วยเป็นโรค ก็น่าจะมีหลายโรคกำลัง 'รุมทึ้งชีวิต' นับเวลาจากนี้ไปถ้าประเทศไทยไม่ตายคาแผ่นดินโลก ร่างขวานทองก็คงเสื่อมโทรมหมดสภาพเป็นแน่แท้

ประชาชนตาดำ ๆ แบบเรา ๆ ยามถูกโจรทำร้ายก็อยากหันไปพึ่งพาตำรวจ แต่ข่าว 'ตำรวจบดขยี้กัน' แฉความเลวของอีกฝ่ายออกสื่อแทบทุกช่องกินเวลาร่วมเดือน ภาพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อันเป็นความหวังทางกฎหมาย ก็ทำให้คนไทยไปกันไม่ค่อยจะเป็น และดูเหมือนว่าตำรวจที่ทะเลาะกันไม่แคร์ว่าคนไทยจะคิดกับพวกเขาอย่างไร รุ่นใหญ่ยังออกหมัดกันไม่เลิก ฝ่ายตำรวจรุ่นเล็ก ๆ ก็มีข่าวย่อย ๆ ในเรื่องน่าทุเรศออกสื่อไม่เว้นวัน

ต้องบันทึกไว้ว่าเป็นยุคที่ตำรวจไทยตกต่ำถึงขีดสุด 

วันที่นักโทษผู้วิเศษออกจากสวรรค์ชั้น 14 ก็มีทั้งนายตำรวจ นักการเมือง เดินตามตูดด้วยความนอบน้อมถ่อมตน เป็นภาพที่ตอกย้ำว่าคนใหญ่คนโตในประเทศไทยที่ควรจะวางตัวให้น่าเชื่อถือศรัทธา มีราคาในสายตาสังคมโลกต่ำขนาดไหน? 

เวลาใกล้ ๆ กัน ประเทศไทยก็มีพรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง มี สส. ในพรรคไม่น้อยที่โดนคดี 112 และคดีอื่น ๆ อีกเพียบ แต่ก็ไม่วายยังมีคนมืดบอดสนับสนุนไม่เลิกรา สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนคนไทยชอบ 'คนที่ถูกใจ' มากกว่าจะสนับสนุน 'คนที่ทำเรื่องถูกต้อง'

ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานถึงความน่าอัปยศอดสูเหล่านี้ ก็ใช่ว่าข่าว ‘อาชญากรแผ่นดิน’ จะเงียบหายไปจากสังคมไทย จีนเทา โจรต่างชาติ นักธุรกิจสีดำ และคนไทยเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ก็ยังเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เด็กชั้นประถมปลาย จนถึงมัธยมต้น เวลาพักกลางวันและหลังเลิกเรียนไม่อ่านหนังสือกันแล้ว มีโทรศัพท์คนละเครื่องก็หลบผู้ปกครองไปเล่นพนัน เสพติดจนบางครอบครัวพ่อแม่ต้องเป็นหนี้เป็นสิน แถมบางโรงเรียนก็มีครูเป็นอย่างในทางเลวๆ 

บางทีผมก็คิด หรือจะถึงเวลาที่เราต้องมารวมตัวกันออกหน้าปัดกวาดสังคมให้สะอาดเสียเอง คงจะดีไม่น้อยถ้าสังคมไทยจะมีคนอย่าง 'Paul Kersey' เหมือนในหนัง 'Death Wish' บ้าง

คนเดียวก็ยังดี!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top