Saturday, 26 April 2025
TheStatesTimes

‘ชัชชาติ’ ไม่กังวล กรณีถูกร้อง เรื่องป้ายหาเสียง-ด้อยค่าระบบราชการ เผย ฝ่ายกฎหมายชี้แจงไปหมดแล้ว

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วย ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะทีมนโยบาย, น.ส.สุชิรา ศิลานนท์ ผอ.เขตวัฒนา, นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ว่าที่ ส.ก.เขตวัฒนา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และนายอนรรฆ พิทักษ์ธานิน นักวิจัยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงพื้นที่เขตวัฒนาเพื่อสำรวจพื้นที่ชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ ชุมชนคลองเป้ง และชุมชนลีลานุช และเข้าดูการทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพชุมชนและระบบปฐมภูมิ สำรวจคลินิกชุมชนอบอุ่น เครือข่ายสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่มีการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนในชุมชน

เมื่อเวลา 09.35 น. นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ณรงค์วิช สุดกังวาล รองผู้กำกับการจราจร สน.ทองหล่อ ว่า จะปรับให้มีพื้นที่ในการตั้งร้านขายของ ถ้าเป็นไปได้ก็จะให้มีพื้นที่สำหรับหาบเร่แผงลอย เขยิบจากฟุตปาธขึ้นมาอยู่บริเวณภายใน สน.ทองหล่อ ได้หรือไม่ เพราะทองหล่อก็มีความต้องการในการซื้อของที่ราคาไม่แพง อย่างตนก็มาทานข้าวแกงแถวๆ นี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีแหล่งอาหารราคาถูกให้คนที่ทำงานแถวนี้ได้เลือกทาน

เมื่อถามถึงประเด็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการหารือกัน ในกรณีที่นายชัชชาติถูกร้องประเด็นทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิลมีเจตนาแฝงและด้อยค่าระบบข้าราชการใน กทม. นายชัชชาติกล่าวว่า ก็ต้องเคารพ กกต. เดี๋ยวรอท่านตัดสิน ไม่กังวลอะไร ก็แล้วแต่ท่านเลยเพราะคิดว่าฝ่ายกฎหมายเรามีการชี้แจงไปหมดแล้ว ไม่มีอะไร สบายๆ

เมื่อถามถึงเรื่องความชัดเจนในเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าได้มีการเข้าไปดูสัญญาบ้างหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ยังเข้าไปดูไม่ได้ เพราะยังไม่ได้รับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แต่สำหรับตนก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะว่าหน้าที่เราคือไปดูในสิ่งที่คนอื่นทำมาแล้ว และเราไม่ได้ทำอะไรใหม่ เราแค่ไปดูว่าสัญญาเก่าเป็นอย่างไร รับหนี้มาอย่างไร ขั้นตอนเป็นอย่างไรและมาชี้แจง เพราะฉะนั้น 1 เดือนเราจะสรุปได้ว่าที่คนอื่นทำมาเป็นอย่างไร เราก็เหมือนเป็นคนมาเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่เราไม่เคยเห็นเป็นอย่างไร และอาจจะเป็นความคิดว่าเราควรจะเดินต่ออย่างไร แต่ทุกอย่างไม่ได้มีเรื่องของอารมณ์หรือความรู้สึกเกี่ยวข้อง ก็ดูตามเอกสารและเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เรายุติธรรมกับทุกคน

ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ พุ่งทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูงลิ่ว ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวโทษว่า มันเป็นผลกระทบจากปฏิบัติการรัสเซียรุกรานยูเครน

รายงานข่าวระบุว่า ราคาหน้าสถานีบริการสำหรับน้ำมันเบนซินธรรมดา เพิ่มขึ้นเป็น 4.60 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (157.17 บาท) เมื่อวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) และทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าวในวันศุกร์ (27 พ.ค.) จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา (AAA) ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบสัญญาสหรัฐฯ เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ดีดตัวขึ้นกว่า 51% ในปีที่แล้ว

พวกผู้ขับขี่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางรัฐที่ราคาพุ่งสูงอยู่ก่อนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ราคาเบนซินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ เกือบๆ 6.08 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (207.74 บาท) ส่วนฮาวายและวอชิงตัน ก็ทุบสถิติสูงสุดของแต่ละรัฐเช่นกัน เฉลี่ยแล้ว 5.43 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (ราว185.53 บาท) และ 5.22 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (178.36 บาท) ตามลำดับ

ส่วนราคาดีเซลยังคงอยู่ระดับสูงเช่นกัน ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 5.53 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (ราว 188.95 บาท) ต่ำกว่าเล็กน้อยจากสถิติสูงสุดตลอดกาล 5.57 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกนักวิเคราะห์เตือนว่าราคาดีเซลที่ดีดตัวสูงขึ้นจะก่อความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากเชื้อเพลิงชนิดนี้ใช้กับรถบรรทุกและรถไฟ ที่ส่งมอบสินค้าอุปโภคบริโภคเกือบทั้งหมด และใช้กับอุปกรณ์ด้านการเกษตรที่ใช้ในการผลิตอาหารของสหรัฐฯ

ฟิลิป เวอร์เลเกอร์ จูเนียร์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านพลังงานระดับอาวุโส ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์ส ว่า "ประชาชนควรต้องกังวลอย่างที่สุด" หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน เขาประมาณการว่าราคาดีเซลจะแตะระดับ 10 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ในช่วงปลายฤดูร้อนปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

สื่อของรัฐบาลอิหร่าน อวดศักยภาพฐานทัพโดรนใต้ดิน แต่ไม่ยอมเปิดเผยตั้งว่าอยู่แห่งหนใด

สำนักข่าวรอยเตอร์ - กองทัพอิหร่านได้ให้รายละเอียดบางอย่าง (แต่ไม่ใช่ตำแหน่งที่แน่นอน) ของฐานทัพใต้ดินที่เก็บรักษาโดรนทางทหาร สื่อของรัฐรายงานเมื่อวันเสาร์  ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังคุกรุ่นในอ่าวเปอร์เซีย

สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน ระบุว่า โดรน 100 ลำถูกเก็บไว้ใจกลางเทือกเขาซากรอส (Zagros mountains) รวมถึงโดรนรุ่น Ababil-5 ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธ Qaem-9 ซึ่งเป็นโดรนที่ผลิตในอิหร่านแบบเดียวกับโดรนรุ่น Hellfire ที่โจตีจากอากาศสูพื้นดินของสหรัฐ

“ไม่ต้องสงสัยเลย โดรนของกองกำลังติดอาวุธของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านคือกองกำลังที่มีอำนาจมากที่สุดในภูมิภาค” พล.ต.อับดุลราฮิม มูซาวี ผู้บัญชาการกองทัพ กล่าว “ความสามารถของเราในการอัพเกรดโดรนนั้นไม่สามารถหยุดยั้งได้” เขากล่าวเสริม

ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านกล่าวว่าเขาได้บินไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์เป็นเวลา 45 นาทีในวันพฤหัสบดีจากเมืองเคอร์มันชาห์  (Kermanshah) ทางตะวันตกของอิหร่านไปยังไซต์โดรนลับใต้ดิน เขาได้รับอนุญาตให้ถอดผ้าปิดตาเมื่อมาถึงฐานลับแล้วเท่านั้น 

ภาพโทรทัศน์แสดงให้เห็นแถวของโดรนติดขีปนาวุธในอุโมงค์ ซึ่งพวกเขากล่าวว่าอยู่ลึกในใต้ดินหลายร้อยเมตร

สาวเจ้าของรถหรูปอร์เช่ วอนแจ้งเบาะแส หลังถูกนำทะเบียน รวย 9999 ที่มีราคาประมูลสูงถึง 18 ล้าน ไปใช้ โดยรถคันที่สวม ก็เป็นรถหรูยี่ห้อปอร์เช่นเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแจ้งความไว้แล้ว

วันนี้ (29 พ.ค.) เพจผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘Somson Ung’ ได้โพสต์ขอความร่วมมือ หลังถูกคนนำไปสวมทะเบียนรถ รวย 9999 โดยโพสต์ว่า

“ฝากแชร์หน่อยค่า รถพี่ส้มเอง porsche taycan คันในรูปทะเบียน ขาว-ดำ รวย 9999 สวมทะเบียนปลอมค่ะ เจ้าของทะเบียนของจริงใส่รถ porsche cayman สีเทาตามในรูปและในเล่มทะเบียนเลยค่ะ

ใครพบเห็น รถ taycan คันนี้ตามท้องถนนรบกวนถ่ายรูปถ่ายคลิปส่งให้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีด้วยค่ะ ตอนนี้พี่ส้มที่เป็นเจ้าของแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วค่ะฐานปลอมแปลงเอกสารราชการและเผื่อกรณีเจ้าของรถทะเบียนปลอมนำรถไปทำเรื่องผิดกฎหมาย

'พงศ์พรหม' ชี้!! ดราม่าเลขไทย 'จะเก็บหรือจะใช้' ก็อย่ายืมแว่นตาและมาตรวัดตะวันตกมาตัดสิน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวถึงประเด็นดราม่าการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้เลขไทยในเอกสารทางราชการว่า เมื่อซัก 10 กว่าปีที่แล้ว ในขณะที่จีนเริ่มส่งแสงเติบโตอย่างรวดเร็ว ผมไปอ่าน article นึงของนิตยสารที่มีอิทธิพลของ “ตะวันตก” ในหัวข้อว่า “ทำไมภาษาจีนจึงจะไม่มีวันที่จะเป็นภาษาสากลได้?”

สิ่งที่อ่านในวันนั้น คือการใช้ “แว่นตา และมาตรวัด” ตะวันตกมาวัดภาษาจีน เช่นบอกว่าภาษาจีนระบุความเป็นเพศต่างๆมากไปเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษ

รวมถึง font ที่มีความปรับเปลี่ยนมากไป ในแต่ละตัวเมื่อเทียบกับ font ภาษาอังกฤษเช่นกัน

ทุกอย่างเอามาเปรียบเทียบกับภาษาอังกฤษหมด

แต่ในวันนี้ภาษาจีนกำลังก้าวใกล้การเป็นภาษาสากลแล้ว

ตรงข้ามกับที่สื่อตะวันตกเคยพยายามจะ discredit 

เหมือนกับ article หลายๆ article ที่ชมเศรษฐกิจจีน แต่ก็สบประมาทว่าจีนจะโตได้ไม่ไกลเช่นกัน วันนี้ก็เห็นกันแล้วว่าจีนเป็น super power ไปแล้ว

ดราม่าเรื่องเลขไทยในหลายวันที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เกิดจากมุมมอง “แว่นตา และมาตรวัดตะวันตก” ทั้งสิ้น

เหมือนนักวิชาการยุคหนึ่งที่จบอเมริกาแล้วแนะนำว่า

“ให้ถมคลอง เพื่อสร้างถนน”

แทนที่จะเก็บคลอง แล้วสร้างถนนให้อยู่กับคลองได้แบบในฮอลแลนด์
 

‘เซเลนสกี’ เยือนแนวหน้าครั้งแรกนับแต่เกิดสงคราม พร้อมไล่ออก ผบ.ความมั่นคงฐานไม่ปกป้องเมือง

เมื่อวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เดินทางเยือนภาคตะวันออกของประเทศ ที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียรุกราน ในขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบเมืองสำคัญต่างๆ ในภูมิภาคดอนบาส

หลังจากเดินทางเยือนเมืองคาร์คิฟ เซเลนสกีแถลงว่าเขาได้ไล่ออกผู้บัญชาการความมั่นคงของเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้ ในการตำหนิต่อหน้าสาธารณะอย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก

เซเลนสกี ระบุว่า ผู้บัญชาการความมั่นคงท้องถิ่นรายนี้ถูกปลด "โทษฐานที่ไม่ทำงานเพื่อปกป้องเมืองตั้งแต่วันแรก ๆ ของการเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ และคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น"

แม้ประธานาธิบดีไม่ได้เอ่ยชื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว แต่สื่อมวลชนยูเครนระบุว่า บุคคลรายนั้นคือนายโรมัน ดูดิน หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง SBU ประจำแคว้นคาร์คิฟ

ก่อนหน้านี้ สำนักงานของเซเลนสกี โพสต์วิดีโอหนึ่งลงบนเทเลแกรม เป็นภาพประธานาธิบดีสวมเสื้อเกราะกันกระสุน ระหว่างเดินตรวจสอบอาคารต่างๆ ที่ถูกทำลายในเมืองคาร์คิฟ และพื้นที่โดยรอบ

ในขณะที่สงครามทำลายพื้นที่อันกว้างขวางในประเทศของเขา ประธานาธิบดียูเครนรายนี้มีกำหนดพูดคุยกับพวกผู้นำสหภาพยุโรปผ่านวิดีโอลิงก์ ในบรัสเซลล์ ในวันจันทร์ (30 พ.ค.) ในขณะที่อียูกำลังหาทางผ่าทางตันคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย

นับตั้งแต่ล้มเหลวการยึดกรุงเคียฟในช่วงต้นๆ ของสงคราม และจากนั้นก็ล่าถอยออกจากพื้นที่คาร์คิฟ รัสเซียเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน
 

‘รุ้ง’ ถาม คิดยังไงเรื่องยกเลิกมาตรา 112 ‘ชัชชาติ’ ตอบ อย่านำความโกรธแค้นเป็นตัวนำ

รุ้ง-ปนัสยา แกนนำม็อบราษฎรโพสต์ทวิตเตอร์ แจงที่ถามชัชชาติเรื่องยกเลิกมาตรา 112 ถามอย่างซื่อๆ แค่อยากรู้ว่าคิดยังไง ไม่คาดหวังคำตอบและไม่ได้โจมตีใคร ด้านชัชชาติบอกดีใจที่ได้เจอ ถามได้ทุกคำถาม

(30 พ.ค.65) จากกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในงานตลาด (นัด) ราษฎร ที่สวนครูองุ่น ซอยทองหล่อ 3 เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ตอบคำถามที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าม็อบราษฎร ถึงประเด็นการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งนายชัชชาติตอบว่า ต้องมีความละมุนละม่อม โดยเริ่มจากการไม่เอามาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แม้จะอดทนตั้งแต่ปฏิวัติมา แต่ต้องมียุทธศาสตร์ในการเดิน การแก้แค้นจะดีที่สุดเมื่อตอนที่มันเย็นแล้ว อย่าไปเอาความโกรธความแค้นมาทำ เชื่อว่ามียุทธศาสตร์ในการเดิน แล้วเวลาก็อยู่ข้างพวกเรา

‘เพื่อไทย’ สับรัฐ ไร้น้ำยา 8 ปี ทำศก.ต่ำเตี้ย เตรียมปลุก ส.ส. โหวตคว่ำงบ 66

(30 พ.ค.65) นายพชร นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า งบประมาณปี 2566 ที่กำลังจะเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวงเงิน 3,185,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เป็นจำนวนเงิน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.74% แต่ก็ยังน้อยกว่างบประมาณปี 2564 ทีมีงบประมาณ 3,280,000 ล้านบาท อยู่ถึง 100,000 ล้านบาท แสดงว่าประเทศไทยยังเสื่อมถอยถึงต้องจัดงบประมาณลดลง เพราะการเก็บรายได้ที่ไม่ได้ตามคาดประมาณ นอกจากนี้เงินเฟ้อในปีนี้น่าจะสูงถึง 4.9% ตามที่แบงก์ชาติคาดการณ์ จะทำให้งบประมาณปี 2566 หลังจากหักเงินเฟ้อแล้วจะน้อยกว่าปี 2565 ด้วยซ้ำ การจัดงบประมาณที่ลดลงทั้งที่ประเทศต้องการเงินเพื่อฟื้นเศรษฐกิจแสดงถึงความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ปัญหาหลักไม่ได้อยู่แค่เรื่องมากขึ้นหรือน้อยลงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของการใช้งบประมาณแบบไม่มีประสิทธิภาพ พลเอกประยุทธ์จัดงบประมาณมา 8 ปีแล้ว ใช้เงินไปแล้วกว่า 20 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่ำเตี้ย ประชาชนส่วนใหญ่รายได้ลดลง หนี้สินเพิ่มขึ้นมากทั้งหนี้ประเทศ หนี้ครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจ และหนี้เสีย คนตกงานเพิ่มขึ้น คนจนมากขึ้น ความเหลื่อมล้ำห่างมากขึ้น ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยลดลง ทุจริตเพิ่มมากขึ้น ตามที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้อธิบายไว้แล้ว แต่ก็ยังคิดจะจัดงบประมาณแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แล้วจะหวังว่าเศรษฐกิจของไทยจะกลับมาฟื้นคงเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะปัจจุบันโลกอยู่ในภาวะสงครามรัสเซียยูเครน การจัดงบประมาณแบบเดิมๆ จะยิ่งไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นได้เลย

ดังนั้น การจัดงบประมาณที่ยังติดกรอบคิดแบบเดิม ไม่ปรับตามสภาวะเศรษฐกิจและความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศและประชาชนในปัจจุบัน ที่ประชาชนกำลังลำบากกันอย่างมากจากพิษเศรษฐกิจ จากปัญหาราคาน้ำมันแพง ข้าวของราคาแพง เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยจะขึ้น ฯลฯ จะไม่สามารถแก้ปัญหาของประะทศไทยได้ อย่างไรก็ดี งบประมาณที่ดี จะต้องลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดลง เพื่อนำเงินไปฟื้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนให้ได้ก่อน แต่ปรากฏว่างบประมาณปี 2566 กลับมีงบรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นอีกโดยมีงบรายจ่ายประจำถึง 2,396,942.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,932.7 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 1.01% ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เช่นนี้งบรายจ่ายประจำควรที่จะต้องลดเพื่อนำเงินไปฟื้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยสนับสนุนประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า

‘หมอยง’ เคลียร์ชัดใครควรฉีดเข็ม 4 ส่วนวัยรุ่นให้รอดูสถานการณ์ก่อน

(30 พ.ค.65) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan หัวข้อ ‘โควิด 19 วัคซีนเข็มที่ 4’ ระบุว่า…

การให้วัคซีนครบ หมายถึง ให้เบื้องต้น 2 เข็ม และตามด้วยเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ระดับภูมิต้านทานจะขึ้นมาสูง แล้วก็ค่อยๆ ลดลงอีก ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ อยากให้ทุกคนได้รับอย่างน้อย 3 เข็ม

มีคำถามเข้ามามากโดยเฉพาะ เข็ม 4 

การให้เข็ม 4 จะเป็นการกระตุ้นให้ระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นอีก ดังนั้นบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม 608 ที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือถ้าอายุน้อย แต่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 อย่าง หรือบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดโรค บุคลากรทางการแพทย์ ทำงานอยู่ด่านหน้า ควรจะได้รับเข็ม 4 เพื่อให้ระดับภูมิต้านทานสูง และถ้าติดโรค ก็จะได้ลดความรุนแรงของโรคลง
 

'ลุงตู่' ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน! ฟุ้งผลงาน 7 ปี ถือว่าทำเร็วแล้ว

‘บิ๊กตู่’ ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน ฟุ้งผลงาน 6-7 ปี ที่ทำไว้ถือว่าเร็วแล้ว ภายใต้เงื่อนไขกฎหมาย และกระแสต่อต้าน

30 พ.ค. 2565 – เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะนักกีฬาอีสปอร์ตทีมชาติไทยที่ได้รับเหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม (Fifa online, ROV) และ นักกีฬาอีสปอร์ตที่ได้รับรางวัลแชมป์โลก (เกมส์ Free fire ทีม Attack All Around) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีด้วยใจจริง ยินดีที่ประสบความสำเร็จ เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีคาดหวังมานานแล้ว และได้ให้แนวนโยบายในการสนับสนุนกีฬาประเภทดังกล่าว เพื่อให้พัฒนาบุคลากรของเราด้วย ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ทางเศรษฐกิจ ซึ่งนักกีฬาทุกคนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในอนาคตของประเทศไทยซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ จะเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยินดีกับทุกคนด้วยใจจริงและจะให้การสนับสนุนต่อไป เพื่อให้เกิดเป็นมูลค่าสร้างสรรค์ประเทศเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะเรามักมีรายได้ของประเทศจากสิ่งเดิมๆ ดังนั้นจำเป็นต้องหาแหล่งรายได้ใหม่ นอกจากเรื่องของกีฬา การท่องเที่ยวของเราก็พัฒนาให้มีคุณภาพ พัฒนาสาธารณณูปโภคพื้นฐาน แต่ที่สำคัญคือการพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ ซึ่งบางครั้งจำเป็นเราต้องเรียนรู้จากคนอื่นด้วย
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top