Wednesday, 21 May 2025
TheStatesTimes

เพชรบูรณ์ - ‘มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์’ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย

นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เชิญถุงยังชีพพระราชทานในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ไปมอบให้ นายเพียร โพยนอก  ผู้ประสบอัคคีภัย  ณ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 6 ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยมีนายวิชาญ เดชเรืองศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง  กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะกรรมการ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอบึงสามพัน หัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา เข้าร่วม พร้อมมอบเงินและสิ่งของเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

นายวิชาญ เดชเรืองศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. ได้เกิดเหตุอัคคีภัย ณ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ นายเพียร โพยนอก อายุ 74 ปี ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้อยู่ในตัวบ้าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ องค์การบริหารส่วนตำบลพญาวัง องค์การบริหารส่วนตำบลซับไม้แดง และที่ทำการปกครองอำเภอบึงสามพัน รวมรถดับเพลิงที่เข้าให้การช่วยเหลือ 3 คัน และเพลิงสงบลงเวลา 16.00 น.

โดยในโอกาสนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้มอบ เงิน  ถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย และองค์การบริหารส่วนตำบลพญาวัง  จะดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบและอำนาจหน้าที่ต่อไป จากนั้นเวลา 15.30 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมคณะ  เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานใน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์  และ เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบให้กับ ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงที่ประสบภัยหนาว พื้นที่อำเภอบึงสามพันจำนวน 4 ราย และอำเภอหนองไผ่ จำนวน 5 ราย

สุโขทัย - อบจ.สุโขทัย ร่วมกับเทศบาลศรีสำโรง จัดโครงการคลองสวยน้ำใส กำจัดผักตบชวาและวัชพืชในคลอง เสริมแหล่งพักผ่อนเติมสุขให้ชุมชน

โครงการคลองสวยน้ำใส (กิจกรรมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชคลองตาปาน) พื้นที่แหล่งน้ำสำคัญของอำเภอศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีนายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากร องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเทศบาลตำบลศรีสำโรง

ซึ่งอบจ.สุโขทัย ได้สนับสนุนเครื่องจักรกล พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ที่กีดขวางทางน้ำในคลองตาปาน ที่เป็นคลองน้ำสำคัญในพื้นที่อำเภอศรีสำโรง ที่ใช้ประโยชน์จากคลองน้ำสายนี้ และเพื่อพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณคู คลอง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชน ชาวชุมชน ในพื้นที่ได้มีส่วนร่วม และตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรแหล่งน้ำในชุมชน

'มาดามแป้ง' ยันยังไม่พร้อมลงสนามการเมือง หลังมีข่าว ‘บิ๊กป้อม’ ทาบลงชิงผู้ว่าฯ กทม.

13 ม.ค. 65 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ตอบคำถามสื่อมวลชน ก่อนนำนักฟุตบอลทีมชาติไทยครับพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีที่หลายฝ่ายเชียร์ให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ชื่อของตนเป็นแคนดิเดตมาทุกยุคทุกสมัย ยืนยันว่าถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ซึ่งความจริง ตนไม่ได้มีความสนใจที่จะลงเล่นการเมือง แต่จะให้ตอบปฏิเสธไปเลยในวันนี้ก็คงไม่ใช่ เพราะบางทีการพูดไปแล้วอนาคตอาจเกิดเป็นโชคชะตา คำพูดก็จะถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์

“จึงขอพูดว่า ณ วันนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรไป และขอขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความผ่านมาทางเพจที่อยากให้แป้ง ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. วันนี้ขอพาบอลไทยไปบอลโลกก่อน” นางนวลพรรณ ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ที่ได้พบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการทาบทาม ให้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ มาดามแป้ง นวลพรรณ บอกว่า พล.อ.ประวิตร เพียงแต่แสดงความยินดีกับชัยชนะของฟุตบอลไทยในทุกครั้งที่ลงแข่งขันทุกครั้ง อีกทั้งพล.อ.ประวิตรก็ไม่เคยพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองหรือการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรยังไม่ได้มีการทาบทามใช่ หรือไม่ เธอกล่าวว่า ยังไม่มีอะไร ถามย้ำว่าสรุปยังไม่มีความสนใจในเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ นางนวลพรรณ กล่าวว่า “แต่แป้งก็อ่านหนังสือพิมพ์การเมืองทุกวัน”

"ณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร กลุ่มเบญจจินดา เข้ารับรางวัล “เพชรรัตนชาติ” บุคคลต้นแบบตัวอย่างดีเด่น สาขาต้นแบบนักบริหารดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2565

คุณณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร กลุ่มเบญจจินดา เข้ารับรางวัล “เพชรรัตนชาติ” บุคคลต้นแบบตัวอย่างดีเด่น สาขาต้นแบบนักบริหารดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2565 จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาองค์กรเยาวชน และ สภาองค์กรวัฒนธรรมไทย อาเซียน โดยมีหม่อมหลวงวันชัย นวรัตน์ เป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ MCC HALL เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
 

โฆษกรัฐบาลเผย ”นายก” ชื่นชมทุกหน่วยงานที่มีส่วนผลักดันความตกลง FTA ส่งผลให้ตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA 10 เดือนแรก ปี 2564 ขยายตัว 31.67% มูลค่าส่งออกกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 

นายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA เดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 31.67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยทำให้มีมูลค่าการส่งออกถึง 63,104.43 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ สูงถึง 78.51% นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงาน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมมีส่วนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจนสามารถทำให้ตัวเลขการส่งออกสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการของรัฐบาลจะส่งผลสำคัญต่อสำเร็จในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA นั้น มีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นทุกตลาด และตลาดที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 อาเซียน (มูลค่า 21,539.08 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยตลาดส่งออกสำคัญของอาเซียนคือ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ อันดับ 2 จีน (มูลค่า 21,372.57 ล้านเหรียญสหรัฐ) อันดับ 3 ออสเตรเลีย (มูลค่า 6,891.79 ล้านเหรียญสหรัฐ) อันดับ 4 ญี่ปุ่น (มูลค่า 5,784.20 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอันดับ 5 อินเดีย (มูลค่า 3,990.80 ล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงความตกลง Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP ซึ่งเป็นความตกลงใหม่ที่รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีผลักดันการเจรจาในวาระที่ไทยเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2562 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้งสิ้นแล้ว ประเทศไทยมี FTA ที่มีผลบังคบใช้แล้วรวมทั้งสิ้น 14 ฉบับ 

รองโฆษกรัฐบาล เผย ผลพูดคุยสันติภาพจชต. ไทย-BRN ชี้ นายกฯ พอใจ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจผลการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 11 และ 12 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้าคณะ ทำการพูดคุยกับคณะผู้แทน BRN นำโดยอุสตาส อานัส อับดุลเราะห์มาน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และมี ตันซรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นอร์ เป็นผู้อำนวยความสะดวก และผู้เชี่ยวชาญอีก 2 คน ร่วมสังเกตการณ์ด้วย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยึดถือ 3 ประเด็น เป็นแนวทางในการพูดคุยระยะต่อไป คือ 1.การลดความรุนแรง 2.การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ และ 3.การแสวงหาทางออกทางการเมือง โดยจะมีกลไกการทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย การมีบุคคลผู้ประสานงาน และคณะทำงานร่วมของทั้งสองฝ่ายในแต่ละเรื่อง ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้การพูดคุยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง คล่องตัว และเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม 

ศพดส.ตร. พบเรือประมงสองจังหวัด สวมทะเบียนลอบทำประมงผิดกฎหมาย สั่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้อง เชื่อ!!เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น

จากกรณีที่ประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยมีข้อสังเกตในเรื่องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังในทุกภาคส่วน ปัญหาการบังคับใช้แรงงานและแรงงานข้ามชาติซึ่งเกิดขึ้นในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงภาคการประมง รวมทั้งปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตามที่ทราบแล้ว นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการประมง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) โดยเร่งด่วน

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้เดินทางมาตรวจสอบเรือประมงต้องสงสัยในการสวมซาก ปลอมเปลี่ยนแปลงชื่อเรือ ที่คานเรือ ต.โกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 

หลังได้รับรายงานจาก สภ.สัตหีบว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2565 เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจประมงชลบุรีเข้าตรวจสอบเรือประมงชื่อโนรีนาวา ณ ท่าเทียบเรือสะพานปลาป้าแคลง ซึ่งเรือลำดังกล่าวยื่นคำร้องขอปิดสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือชั่วคราว เนื่องจากกรณีตัวเรือเกิดชำรุดเสียหายต้องซ่อมแชม โดยนำเรือเข้าอู่เรือคานเรือ หรือท่าเทียบเรือประมงไว้กับด่านตรวจประมงชลบุรี แต่เมื่อไปตรวจสอบ ไม่พบเรือลำดังกล่าวที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาป้าแคลง จึงขยายผลตรวจสอบ จนพบเรือดังกล่าว ถูกนำไปจอดไว้ห่างออกไป ซึ่งคาดว่าจะนำเรือไปจม เพื่อนำหมายเลขเรือดังกล่าวไปสวมซากเรือ 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1/หน.ชป.2 พ.ต.อ.น้ำเพขร ทรัพย์อุดม รอง ผบก.คด./รอง หน.ชป.ที่ 2 พร้อมพวกตำรวจสืบสวนขยายผลจนได้ข้อมูลว่า มีเรือที่เกี่ยวข้องกัน อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร จึงเดินทางมาตรวจสอบพบเรือต้องสงสัยอีก 1 ลำ จึงร่วมกับพิสูจน์หลักฐาน กรมเจ้าท่า กรมประมง ศรชล. ตำรวจน้ำ ทำการตรวจพิสูจน์

เบื้องต้นพบว่า นายสนั่น แซ่ลี้ เป็นเจ้าของเรือ โดยให้การว่า ซื้อเรือ ศุภประภานำโชค   มาจาก น.ส.สุธีรา มุกดา อยู่ที่ ต.แสมสาร  ชลบุรี  เมื่อวันที่ 16 พ.ย.64  ในราคาสามแสนบาท   โดยจดทะเบียนที่ กรมเจ้าท่าถูกต้อง ก่อนผู้ขายจะขับเรือมาส่งให้ ที่ท่าหน้าบ้าน เลขที่ 82/6 ม.2 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  โดยผู้ซื้อเดินทางด้วยรถยนต์ มาจดทะเบียนโอนเรือให้ที่ จท.สมุทรสาคร  และจอดเรือไว้ที่ท่าหน้าบ้านประมาณ 20 วัน จึงนำเรือมาขึ้นคานซ่อมแซม ที่คานเรือ เนื่องจากเรือมีสภาพทรุดโทรมมาก จากนั้นตน ก็ไปขอโอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และได้รับแล้ว  มีเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง  

จากการตรวจสอบกายภาพของเรือ พบมีชื่อ เลขทะเบียน เลขเครื่องหมายประจำเรือประมง  มีการตอกเลขอัตลักษณ์2 แห่ง จึงได้แจ้งจท. Pipo ศรชล. พฐ. ร่วมตรวจสอบเรือ โดยตรวจวัดขนาด และตรวจเลขอัตลักษณ์ พฐ.ตรวจพิสูจน์ ชื่อเรือ  เลขทะเบียน โดยจะลอกสี  เพื่อดูชื่อเรือที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งตรวจ การตอก ร่องรอยลักษณะ 

โดยเบื้องต้นพบว่า เรือลำดังกล่าวมีการขูดเปลี่ยนแปลงหมายเลขเป็นอีกลำหนึ่ง ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ เรือ ศุภประภานำโชค เรือโนรีนาวา ที่ตรวจพบที่ สัตหับ จ.ชลบุรี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรือต้องสงสัยที่ตรวจพบทั้งหมด มีความเชื่อมโยงกัน มีการขูดลอกเลข เพื่อปลอมแปลงชื่อเรือ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียดของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบการกระทำความผิด จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี รวมทั้งขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ยืนยันว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ แยกน้ำดีออกจากน้ำเสีย เพื่อแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล” 

 

ลำพูน - ‘วัดมหาวัน’ เชิญพุทธศาสนิกชน! ร่วมไหว้สาใส่ขันดอกบูชาพระรอดหลวง โอกาสสมโภชวัดมหาวันครบ 1,365 ปี

พระประกอบบุญ สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เจริญพรว่า ประชาชนชาวพุทธทั่วประเทศต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระรอดหลวงในเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2565 พระรอดหลวงอายุ1,400 ปี คู่เมืองลำพูน ไหว้ขอพรพระรอดหลวง แก้บนพระรอด เช่าบูชาพระรอดสุดขลังของดีเมืองลำพูน และเที่ยวชมบรรยากาศภายในวัดมหาวัน ชมศิลปวัฒนธรรม ในวันที่ 26-30 มกราคม 2565 เชิญชาวพุทธมาร่วมพิธีไหว้สาใส่ขันดอกแขวนโคมจุดประทีปหมื่นดวง ถวายบูชาพระรอดพันปีชมนิทรรศการพระเครื่องพระสกุลลำพูน  การแสดงศิลปวัฒนธรรม กาดมั่ว สินค้าอาหารพื้นเมืองเหนือ

ทั้งนี้นักนิยมพระเครื่องหลายต่อหลายคนเมื่อมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดลำพูน ส่วนใหญ่ไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปที่วัดมหาวัน วัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นวัดหลวงเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวีแล้ว วัดนี้ยังเป็นต้นตำนานของพระรอดเมืองลำพูน ที่นักสะสมพระเครื่องต่างต้องการมีไว้ครอบครอง เป็นที่รู้กันดีว่าวัดมหาวันลำพูนเป็นต้นกำเนิดของพระรอด

พระประกอบบุญ สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เจริญพรอีกว่า พิธีสมโภชมหาพุทธาภิเษกพระรอดสัมฤทธิ์ พระรอดรัตนมณีหยกดำ พระพุทธธาตุเจ้า บูรระปิดทองพระพุทธรูปโบราณ พระกริ่งอิ่มบุญ มหากุศลสร้างมหามณฑปพระพุทธสิกขีปฏิมากรพระรอดหลวง กำหนดการ ในวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. จะมีพิธีแห่พระรอดสัมฤทธิ์ พระรอดรัตนมณีหยกดำพระพุทธธาตุเจ้า จากวัดพระสิงห์วรมหาวิหารจังหวัดเชียงใหม่สู่วัดมหาวันจังหวัดลำพูน และในวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 16.00 น.พิธีแห่อัญเชิญพระรอดพันปีสู่ข่วงแก้วลานบุญบูชา ใส่ขันดอกทุกวัน

ในเวลา 16.00 น.มีพิธีเปิดงานพระรอดมหาวัน วันที่ 28 มกราคม 2565  เวลา 17.00 น.ประกอบพิธีทำบุญอุทิศแด่บูรพาจาร์ยและอดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวัน ในวันที่ 29 มกราคม 2565  เวลา 19.00 น.ประกอบพิธีสมโภชมหาพุทธาพิเษกพระพุทธรูปต่าง ๆ จุดประทีปโคมไฟ และวันที่ 30 มกราคม 2565  ตั้งแต่เวลา 08.00 น.พิธีบรวงสรวง และพิธีแห่พระรอดคุ้มเมือง และเวลา 13.00 น. พิธีบรวงสรวง ยกปลีฉัตรพระรอดหยก และเจริญพระพุทธมนต์สมโภชเบิกเนตรพระกริ่งอิ่มบุญ พระรอดหยก พระรอดสัมฤทธิ์ พระพุทธธาตุเจ้า พระพุทธรูปโบราณปิดทอง และพิธีทอดผ้าป่าสร้างมณฑปพระพุทธสิกขีปฎิมากรพระรอดหลวงเทิดพระบารมีพระนางเจ้าจามเทวีศรีหริภุญชัย ตามลำดับ

 

ก.เกษตรฯ ลั่นป้องกันโรค ASF ในสุกรตั้งแต่ปี 61 ยัน ไม่ปกปิด - เยียวยาแล้วกว่า 3 พันราย

กระทรวงเกษตรฯ. เคลียร์ทุกประเด็นโรค ASF ในสุกร ยืนยันป้องกันโรคตั้งแต่ปี 2561 ไม่ปกปิดไม่ละเลย เผยช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรแล้วกว่า 3 พันราย ผนึกทุกภาคีเครือข่ายร่วมควบคุมโรคให้สงบและขอคืนสภาพปลอดโรคโดยเร็ว

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า ตามที่ประเทศไทยได้มีการตรวจพบเชื้อโรค ASF ในสุกรจากการเก็บตัวอย่างจากพื้นผิวสัมผัส (surface swab) ที่โรงฆ่าแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ตรวจโดยห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์เพื่อยืนยันผล ตนได้มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ต้น และสั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์รีบดำเนินการทันที ทั้งนี้นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้เร่งดำเนินการเพื่อหารือและทำความเข้าใจร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว ได้ประชุมคณะทำงานด้านวิชาการในการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรค ASF ในสุกรและแถลงต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2565 ซึ่งจะประกาศเขตโรคระบาดและมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดที่พบโรค และรายงานแจ้งไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ต่อไป โดยการดำเนินการต่างๆ จะคำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติอย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด วอนเกษตรกรอย่าตระหนก โรค ASF เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ย้ำไม่ระบาดติดต่อสู่คน

กรมปศุสัตว์ย้ำ ไม่เคยปกปิดโรค ASF ในสุกร ได้ดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคมาตั้งแต่ปี 2561 ที่พบการระบาดเกิดโรค ASF ในสุกรครั้งแรกในประเทศจีน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคมาโดยตลอด

โดยสั่งการในปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรค การซ้อมแผนเตรียมความพร้อมรับมือ จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค ASF ในสุกร (contingency plan) และแนวทางเวชปฏิบัติของโรค ASF ในสุกร (Clinical Practice Guideline) และได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์ การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจเข้มนักท่องเที่ยวและเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคเข้าประเทศ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการส่งออก ลดความเสี่ยงจากการส่งออกสุกร โดยห้ามรถขนส่งสุกรมีชีวิตเข้าไปส่งสุกรในประเทศที่มีการระบาด ให้ใช้รถขนถ่ายข้ามแดนในการส่งสุกรไปยังประเทศปลายทางแทน และต้องมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

การบูรณาการความร่วมมือร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ในการจัดประชุมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม) ในการป้องกันโรค การทำงานบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน ในการจัดตั้งโรงพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด 5 จุด ที่ด่านกักกันสัตว์เชียงราย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และสระแก้ว การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ โดยได้จัดทำเป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาลาว ภาษาพม่า ภาษาเขมร เป็นต้น

การสุ่มเก็บตัวอย่างและส่งวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติเพื่อเฝ้าระวังโรค ซึ่งผลวิเคราะห์จากการเก็บตัวอย่างตอนนั้นเป็นลบต่อโรค ASF ในสุกรทั้งหมด แต่ให้ผลบวกต่อโรคชนิดอื่นๆ เช่น โรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร (PRRS) โรคท้องร่วงระบาดในสุกร (PED) โรคอหิวาต์สุกร (CSF) และโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) เป็นต้น

สำหรับ ประเด็นเงินชดเชย เนื่องจากโรคนี้ไม่มีวัคซีนและยารักษาจำเพาะ หากพบการระบาดของโรคในประเทศแล้วจะกำจัดโรคได้ยากก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ดำเนินการคือการลดความเสี่ยงโดยการทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อป้องกันการเกิดโรค อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พร้อมชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายเพื่อป้องกันโรค ที่ผ่านมาได้ดำเนินการขออนุมัติจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยได้ดำเนินการชดเชยค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง รวมเกษตรกรทั้งสิ้น 3,239 ราย สุกรจำนวน 112,752 ตัว เป็นเงิน 470,426,009 บาท

และในปี 2565 กรมปศุสัตว์ได้ขออนุมัติงบประมาณในส่วนดังกล่าวแก่เกษตรกรจำนวน 4,941 ราย สุกรจำนวน 159,453 ตัว เป็นเงิน 574,111,262.5 บาท เพื่อเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย ซึ่งครม. ได้อนุมัติแล้ว จะเร่งเยียวยาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเร็วต่อไป

กรณี ปัญหาราคาเนื้อสุกรแพง มาจากหลายปัจจัย สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาเนื้อสุกรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณสุกรมีชีวิตที่ถูกแปรสภาพเป็นเนื้อสุกรลดลง ประกอบกับภาวะต้นทุนการผลิตสุกรขุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการจัดทำระบบป้องกันภัยทางชีวภาพของฟาร์มสุกร และต้นทุนด้านการขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ผลผลิตสุกรลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพในฟาร์มสุกรของไทยเพิ่มขึ้น ในรอบปี 2564 พบการระบาดของโรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร (PRRS) โรคท้องร่วงระบาดในสุกร (PED) โรคอหิวาต์สุกร (CSF) เกษตรกรต้องลดความหนาแน่นของสุกรในฟาร์ม และเลิกเลี้ยงสุกรในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงด้านสุขภาพ โดยได้มีมาตรการให้การแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว โดยมาตรการระยะเร่งด่วนกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ประกาศห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 เดือน (6 มกราคม-5 เมษายน 2565) ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น และเร่งสำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน มาตรการระยะสั้น มีการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

CNN เลือก ‘ต้มยำกุ้ง’ ติด 1 ใน 20 ซุปที่ดีที่สุดในโลก

เพจ กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565 สำนักข่าว CNN ของสหรัฐอเมริกา ได้คัดเลือก "ต้มยำกุ้ง" ของไทยเป็น 1 ใน 20 รายการอาหารประเภทซุปที่ดีที่สุดในโลก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top