Sunday, 1 June 2025
TheStatesTimes

ผบ.ตร. ขอให้ตำรวจทุกนายอยู่ในพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 งดออกนอกพื้นที่เพื่ออวยพรผู้บังคับบัญชา ลดเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19

วันที่ 19 ธันวาคม 2564 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ขอให้ข้าราชการตำรวจงดเดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อเข้าอวยพรปีใหม่ผู้บังคับบัญชา เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (COVID-19) และให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความสะดวกการจราจร งานบริการ หรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน และถือว่าเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ที่ตำรวจทุกนายมอบให้แก่พี่น้องประชาชนอีกด้วย

ตำรวจเข้ม มาตรการจราจร เทศกาลปีใหม่ จัดกำลังกว่า 80,000 นาย อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย พี่น้องประชาชนเต็มที่ 

18 ธ.ค. 64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมมาตรการรับมือและอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย และตั้งจุดตรวจ จุดสกัด โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถใช้ถนน และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศจร.ตร.) รับผิดชอบการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผอ.ศจร.ตร. ได้กำหนดนโยบายด้านการจราจรโดยมีจุดเน้นดังนี้

1.) การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร  ในช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. 65 ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ตั้งแต่การจัดทำแผนที่แสดงเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยง และ เส้นทางลัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คืนพื้นผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายใน 25 ธ.ค. 64 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรในแต่ละเส้นทาง บริเวณทางร่วมทางแยก และหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถ โดยมีศูนย์ควบคุมสั่งที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีสายด่วน 1193 หรือ เพจ facebook ตำรวจทางหลวง และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) สายด่วนหมายเลข 1197 (พื้นที่ กทม.) เพื่อให้บริการประชาชน ในการสอบถามเส้นทาง รับแจ้งอุบัติเหตุ
 
2.) ห้องพักฟรีทั่วไทย ของขวัญปีใหม่จากใจตำรวจทางหลวง มีหน่วยบริการ 201 หน่วยทั่วประเทศมีห้องพักผ่อนฟรี สำหรับให้ประชาชนแวะพักเหนื่อย พร้อมบริการเครื่องดื่มและขนมทานเล่น ห้องน้ำสะอาดซึ่งทุกหน่วย บริการมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้มาตรฐาน โดยให้บริการจองห้องพักของหน่วยบริการตำรวจทางหลวง ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.booking.hwpdth.com  

3.) ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร 2 ฉบับ  
(1) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง (Reversible Lane) ขาออก กทม. 9 เส้นทาง ระหว่าง 29 ธ.ค. 64 ถึง 1 ม.ค. 65 และขาเข้า กทม. 16 เส้นทาง ระหว่าง 1 ถึง 4 ม.ค.65  เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว 
(2) ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย ตั้งแต่วันที่ 30 - 31 ธ.ค. 64  และตั้งแต่ 2 - 4 ม.ค. 65 เส้นทางห้ามวิ่ง 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 194 กม. ทั้งนี้สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถยื่นคำขอขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com โดยเริ่มเปิดระบบขออนุญาตทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 64  เป็นต้นไป

4.) การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่  

รมว.สุชาติ มอบ ผู้ช่วยรัฐมนตรี เปิดประชุมใหญ่ของสมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20/2564

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดประชุมใหญ่ของสมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย (TEAM) ครั้งที่ 20/2564 ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน 

วันที่ 19 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่ของสมาพันธ์แรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย (TEAM) ครั้งที่ 20/2564 โดยมีนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ศูนย์ฝึกอบรมเพื่อคนทำงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา 

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลและการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานภายใต้การนำของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแรงงานไทย โดยได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครอง และกำกับดูแล เพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานให้ดีขึ้น อันเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคง ด้านแรงงานในการสร้างผลิตภาพ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในวงกว้าง กระทรวงแรงงานมีความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงาน และได้ดำเนินการในทุกมิติเพื่อช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบอย่างต่อเนื่อง 

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดพิธีสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณเนื่องในวันประสูติ “เสด็จเตี่ย” 19 ธันวาคม 2564

พลเรือโท พิชัย  ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นำคณะผู้บังคับบัญชา และคณะฝ่ายอำนวยการในทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมประกอบพิธีสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระกรุณาคุณ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการทัพเรือภาคที่ 1 และครอบครัว

ในวันเดียวกัน พลเรือตรี สุระศักดิ์  สิงขรวัฒน์ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 ประกอบพิธีเปลี่ยนธงราชนาวี เปลี่ยนธงเครื่องหมายยศในเวลา 08.00 น. เพื่อให้เกิดความสง่างามและสมพระเกียรติ เป็นไปตามดำริของ พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้นประกอบพิธีสักการะ รวมถึงยิงสลุตถวาย ณ ศาลพระตำหนักพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง จ.ตราด โดยมีคณะฝ่ายอำนวยการในทัพเรือภาคที่ 1 หัวหน้าศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง และผู้บังคับการเรือในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน ร่วมพิธีฯ

นายกฯ ยินดี "บาส-ปอป้อ" 2 นักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมทีมชาติ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกให้ประเทศไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบข่าวดีของวงการกีฬาไทย และประเทศไทย ที่แบดมินตัน คู่ผสมไทย "บาส-ปอป้อ" หรือ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คว้าแชมป์รายการล่าสุด TotalEnergies BWF World Championships 2021 ประเภทแบดมินตันคู่ผสม ที่เมืองอูเอลบา ประเทศสเปน 

‘หมอยง’ เชื่อ ‘โอมิครอน’ ระบาดถึงไทยแน่ ชี้ มีโอกาสเกิดคลัสเตอร์ใหม่ กระจายตัวเร็ว

‘หมอยง’ ยกบทเรียนต่างประเทศ โควิด-19 สายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ กระจายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เชื่อประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้น ในอนาคตอันใกล้นี้ จะเลยปีใหม่หรือไม่ยังไม่ทราบ และมีโอกาสที่จะเกิดเป็นคลัสเตอร์ กระจายอย่างรวดเร็ว 

วันนี้ (20 ธ.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan หัวข้อ โควิด-19 โอมิครอน มาแน่ ไม่อยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ โดยระบุว่า

เมื่อมองย้อนอดีตสายพันธุ์อังกฤษ แอลฟา ระบาดในอังกฤษตั้งแต่ปลายปี 2563 พบผู้ป่วยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เป็นชาวอังกฤษ เดือนมกราคม 2564 ทุกคนที่เข้ามาจะต้องกักตัว 14 วัน เราควบคุมได้ดี จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม ก็เข้าสู่ประเทศไทยจนได้ โดยเข้ามาทางชายแดนด้านตะวันออก

สายพันธุ์อินเดีย เกิดในประเทศอินเดีย เดลตา ใน ต้นปี 2564 พบในแคมป์คนงานก่อสร้าง เดือนพฤษภาคม เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วมาแทนที่สายพันธุ์แอลฟาในเวลาต่อมา ใช้เวลาเพียงเดือนกว่า ๆ เท่านั้น ก็กระจายทั่วประเทศไทย จนถึงวันนี้

ขณะนี้การเดินทางเข้าประเทศไทย ใช้ test to go ไม่มีการกักตัว ยกเว้นคนที่ตรวจพบด้วย RT-PCR เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเดินทาง ทั้งครอบครัว 4 คนพ่อแม่ลูก ตรวจพบเฉพาะลูก 1 คน ก็จะกักตัวลูก ไว้รักษา และปล่อยผู้ที่ตรวจเป็นลบทั้งหมด และให้ทำ ATK รายงานผลมา ทุกคนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ถือเป็นความเสี่ยงสูง โอกาสผู้ที่ปล่อยไป จะติดเชื้อแบบไม่มีอาการ สายพันธุ์โอมิครอน เป็นไปได้สูง ที่จะแพร่กระจายเชื้อต่อไปได้

บทเรียนจากต่างประเทศ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน กระจายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ร่วม 90 ประเทศ ที่ตรวจพบ มีอัตราเร่งกระจายในพื้นที่ยุโรป และอเมริกาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็มก็ติดได้ ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่จำกัดอยู่ที่ทวีปแอฟริกา ส่วนใหญ่จะเป็นยุโรป และอเมริกาที่จะมีโอกาสนำเชื้อเข้ามา

โฆษกรัฐบาลเผย ”บิ๊กตู่” สั่งการเดินหน้า พลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยว ปรับยุทธศาสตร์เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ และความยั่งยืน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินนโยบายตามแผนพลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยว โดยปรับยุทธศาสตร์เน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ และความยั่งยืน (high-value and sustainable tourism) ภายใต้แผน 3R ประกอบด้วย (1) Reopen (ไตรมาสที่สามปี 2564) ช่วงทดลองเปิดประเทศภายใต้นโยบาย Phuket Sandbox (2) Recover (ไตรมาสที่สี่ปี 2565) การเปิดประเทศเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564 และ (3) Resilient (ปี 2566-2570) การส่งเสริมการท่องเที่ยวไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและความยั่งยืน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเล็งเห็นว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลายประเทศได้ปรับมาตรการด้านการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ไทยจึงได้เตรียมแผนที่จะเปิดจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชา ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นประมาณ 8-15 ล้านคน และมีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2565 ซึ่งหากสามารถเปิดชายแดนได้ตามแผนก็คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 15 ล้านคน

"นายกฯ" หนุนไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ย้ำ บทบาทไทยในฐานะดีทรอยต์แห่งเอเชีย 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนตามนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมก้าวหน้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะ ล่าสุดบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,000 ล้านบาท ยกระดับกระบวนการผลิตในโรงงานด้วยเทคโนโลยีและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ล้ำสมัย และเป็นการลงทุนในประเทศไทยครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย มูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท

ด้านบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA)เริ่มลงทุนเดินหน้าผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรที่ทันสมัย ซึ่งมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเป็นโรงงานแบตเตอรี่แห่งแรกที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมยังเตรียมขยายกำลังการผลิตสู่ 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีตามแผนในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดอาเซียนด้วย

นายธนกร กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย คิดเป็นประมาณ 5.9 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP หรือประมาณ 11% ของ GDP ภาคอุตสาหกรรมในปี 2563 ไทยมีการผลิตรถยนต์รวม 1.4 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 11 ของโลก  มีมูลค่าการส่งออกรวม 919,000 ล้านบาท และยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 นี้ การผลิตรวมราว 1.6 ล้านคัน ขยายตัวร้อยละ 15 และปี 2565 คาดว่าการผลิตจะขยายตัวอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน โดยโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ไทยประกอบด้วยผู้ผลิตรถยนต์ 19 ราย ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 10 ราย ผู้ผลิตชิ้นส่วนมากกว่า 2,300 ราย รวมแรงงานในภาคอุตสาหกรรม 750,000 คน 

นายธนกร กล่าวว่า ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ย้ำให้ไทยรักษาความเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย โดยให้เตรียมพร้อมปรับทักษะ( Up-skill  Re-skill )ของภาคการผลิตของไทย สร้างนวัตกรรมใหม่ สร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นทิศทางการผลิตของยานยนต์โลก รวมทั้งนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และแก้ปัญหามลพิษ ฝุ่น PM 2.5 เพื่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

‘ประกันสังคม’ ปฏิรูประบบบำนาญชราภาพ ขยายอายุเกษียณเป็น 60 ปี เริ่มใช้กับรายใหม่

ประกันสังคม ปฏิรูประบบบำนาญชราภาพ ขยายอายุเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปี ยกเหตุโครงสร้างผู้สูงอายุ จำนวนผู้รับบำนาญเพิ่มและยาวนานขึ้น หวังควบคุมต้นทุน เริ่มใช้กับผู้ประกันตนรายใหม่

20 ธ.ค. 64  สำนักงานประกันสังคม (สปส.) แจงความคืบหน้าการปฏิรูประบบบำนาญชราภาพ โดยการขยายอายุผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ ว่าเนื่องจากโครงสร้างประชากรที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้มีจำนวนแรงงานลดลง ในขณะเดียวกันก็ส่งผลให้มีจำนวนผู้สูงอายุและผู้รับบำนาญเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ระบบการแพทย์ที่ดีขึ้นและสุขภาพที่ดีขึ้น ทำให้อายุเฉลี่ยของประชากรก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้ประกันตนจะได้รับบำนาญเป็นระยะเวลายาวนานขึ้น เนื่องจากบำนาญประกันสังคมเป็นการดูแลตลอดชีวิต 

อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นก็จะตามมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อไม่ให้ต้นทุนสูงขึ้นมากจนเกินไป ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างต้องนำส่ง สำนักงานประกันสังคม จึงมีนโยบายการปรับปรุงอายุเกิดสิทธิรับบำนาญ (หรือที่เรียกกันว่าอายุเกษียณ) เพื่อให้เกิดสมดุลกับโครงสร้างประชากรผู้สูงอายุ และควบคุมต้นทุนของระบบบำนาญให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยการขยายอายุผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพเป็นมาตรการปกติที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกดำเนินการ

สำนักงานประกันสังคม ได้มีการจัดทำแนวทางการปฏิรูประบบบำนาญชราภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ระบบบำนาญชราภาพ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงให้กับลูกจ้างผู้ประกันตนเมื่อต้องเข้าสู่วัยเกษียณ โดยที่การขยายอายุผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพจาก 55 ปี เป็น 60 ปี เป็นมาตรการหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการใช้กับผู้ประกันตนใหม่และผู้ประกันตนที่อายุน้อยเท่านั้น ผู้ประกันตนปัจจุบันที่ใกล้เกษียณอายุจะไม่ได้รับผลกระทบ 

ประกันสังคม ปฏิรูประบบบำนาญขยายอายุเกษียณ 55 เป็น 60 ปี เริ่มใช้กับรายใหม่

สื่อดังแฉ ‘ข่าวกรองเพนตากอน’ ผิดพลาด ทิ้งระเบิดมั่ว สังหารผู้บริสุทธิ์กว่า 1,300 คน

เอกสารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เองระบุ ปฏิบัติการทางอากาศของอเมริกาในตะวันออกกลางมี “ข้อผิดพลาดร้ายแรงด้านข่าวกรอง” ส่งผลให้พลเรือนหลายพันคน ซึ่งรวมถึงเด็กมากมายต้องสังเวยชีวิต

รายงานของสื่อดัง “นิวยอร์กไทมส์” เมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) โดยอ้างอิงเอกสารลับของเพนตากอนกองใหญ่ที่ครอบคลุมการเสียชีวิตของพลเรือนกว่า 1,300 คน เป็นการบ่อนทำลายคำกล่าวอ้างเรื่อยมาของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ว่า อเมริกาทำสงครามด้วยระเบิดที่มีความแม่นยำ

นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า บันทึกเหล่านี้ไม่มีแม้แต่ฉบับเดียวที่ระบุถึงการตรวจสอบพบการกระทำผิดหรือการดำเนินการทางวินัยกับผู้รับผิดชอบ

แม้หลายกรณีที่นิวยอร์กไทมส์กล่าวถึงในรายงานชุดแรกจากทั้งหมดสองชุดที่เตรียมเผยแพร่นั้นเคยเป็นข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่จากการตรวจสอบของหนังสือพิมพ์ดังฉบับนี้พบว่า จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตซึ่งมีการบันทึกไว้ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างน้อยหลายร้อยคน

รายงานข่าวในวันเสาร์ของนิวยอร์กไทมส์ พูดถึง 3 กรณี โดยที่ 1 ในนั้นคือเหตุการณ์การทิ้งระเบิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2016 ที่หน่วยรบพิเศษของอเมริกาเชื่อว่า เป็นจุดรวมพล 3 แห่งของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ทางเหนือของซีเรีย มีการรายงานเบื้องต้นว่า นักรบไอเอสถูกสังหาร 85 คน แต่แท้จริงผู้เสียชีวิตคือเกษตรกรและชาวบ้านรวม 120 คน

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือการโจมตีในเมืองเราะมาดีของอิรักเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 หลังจากมีภาพชายคนหนึ่งลาก “วัตถุหนักที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” เข้าไปในที่ตั้งของไอเอส ซึ่งผลการตรวจสอบในภายหลังพบว่า วัตถุดังกล่าวคือเด็กที่เสียชีวิตจากการโจมตี

รายงานระบุว่า ภาพจากการสอดแนมคุณภาพต่ำมักเป็นสาเหตุความล้มเหลวในการล็อกเป้าที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้เอง อเมริกาต้องถอนคำอวดอ้างที่ว่า รถยนต์ซึ่งถูกโดรนของตนทำลายบนถนนในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีระเบิดซุกซ่อนอยู่ เพราะกลายเป็นว่า เหยื่อในการโจมตีดังกล่าวเป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 10 คน และมีเด็กอยู่ด้วย

รายงานเสริมว่า พลเรือนที่รอดชีวิตจำนวนมากกลายเป็นคนพิการที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่ผู้ที่ได้รับเงินชดเชยจริงมีแค่หลักสิบรายเท่านั้น

ทางด้าน บิลล์ เออร์บัน โฆษกกองบัญชาการทหารด้านกลาง (CENTCOM) ของสหรัฐฯ ตอบข้อซักถามของนิวยอร์กไทมส์เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยยอมรับว่า แม้แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกยังเกิดข้อผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะโดยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือการตีความข้อมูลผิดพลาดก็ตาม และอเมริกาพยายามเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย สืบสวนทุกเหตุการณ์ และเสียใจกับทุกชีวิตผู้บริสุทธิ์

อเมริกาเพิ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในตะวันออกกลางอย่างรวดเร็วในช่วงปีท้าย ๆ ของคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่การสนับสนุนจากชาวอเมริกันสำหรับสงครามภาคพื้นดินที่ไม่รู้จบเริ่มเหือดแห้งลง

โอบามา ระบุว่า แนวทางใหม่ที่มักมีการใช้โดรนจากพื้นที่ห่างไกลมากเข้าปฏิบัติการโจมตีนั้นถือเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่แม่นยำที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถลดการเสียชีวิตของพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top