Friday, 13 June 2025
TheStatesTimes

กลุ่มต้านวัคซีนจัด ‘ปาร์ตี้โควิด’ หวังติดเชื้อเพื่อได้ ‘กรีนพาส’ 

ชายคนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตและอีกหลายคนอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน หลังเข้าร่วม ‘ปาร์ตี้โคโรนา’ ในอิตาลี ซึ่งบรรดาผู้เข้าร่วมมีความตั้งใจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หวังได้ ‘กรีนพาส’ โดยไม่ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน

รายงานข่าวระบุว่าชายวัย 55 ปีเสียชีวิตในออสเตรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังติดเชื้อที่งานปาร์ตี้ในเมืองแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของอิตาลี

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อว่าชายคนดังกล่าวเป็นพวกต่อต้านวัคซีน ซึ่งต้องการติดเชื้อไวรัสเพื่อให้ได้มาซึ่ง ‘กรีนพาส’ บัตรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในอิตาลี สำหรับทำงาน เข้าไปรับทานอาหารในร้านอาหารและใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

ผู้ที่มีสิทธิรับกรีนพาสจะต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว หรือเป็นบุคคลที่หายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่เกิน 6 เดือน

นอกจากชายคนดังกล่าวแล้ว ยังมีคนอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 3 ราย รวมถึงเด็กชายรายหนึ่ง ที่ตอนนี้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทางภาคเหนือของอิตาลี หลังติดเชื้อไวรัสจากปาร์ตี้เดียวกัน โดยในนั้น 2 คนอาการหนักถึงขั้นเข้าห้องไอซียู

จนถึงตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แล้วมากกว่า 133,000 คนในอิตาลี

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ป่วยหลายคนยอมรับมีเจตนาพยายามติดเชื้อโควิด-19 แม้ภายใต้กฎหมายฉุกเฉิน ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ไปจนถึงอย่างน้อย 31 ธันวาคม การแพร่กระจายเชื้อไวรัสโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมในอิตาลีก็ตาม

แพทริก ฟรานโซนี ผู้ประสานงานหน่วยต่อต้านโควิด-19 ในโบลซาโน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นระบุว่า “เราได้รับรายงานจากแพทย์ผู้ดูแลคนไข้ ว่ามีผู้ป่วยมากกว่า 1 คนที่ยอมรับว่าติดเชื้อโดยเจตนา”

กระบี่ - ‘ทหารจิตอาสา’ สนธิกำลัง ‘ตำรวจอาสารักษาดินแดน’ เข้าฟื้นฟูบ้านที่ดินสไลด์ทับห้องครัว – ห้องน้ำเสียหา เพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ตำบลเขาเขน ให้อยู่ต่อได้

เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน 2564 พันเอก ภาณุวัฒน์ สุคชเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก อาทิตย์ ภากรสังขรัตน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา สนธิกำลังทหารจิตอาสา ตำรวจจิตอาสา และอาสารักษาดินแดนอำเภอจิตอาสา เราทำความดีเพื่อชาติศาสตร์กษัตริย์  ระดมกำลังเข้าร่วมฟื้นฟูพัฒนาบ้านเรือนพร้อมนำสิ่งของบริโภคและอุปโภค ไปมอบให้กับนายเล็ก และนางสุจินต์ คำศิริ อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ที่  6 บ้านคลองปัญญา ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

ที่ถูกดินจากเนินเขาหลังบ้านสไลด์ไหลลงมาทับบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ โรงรถยนต์ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนอิ่มตัวจึงเกิดดินล้วนซุยไม่สามารถเกาะตัวกันได้ จึงเปิดดินสไลด์ไหลลงมาทับบ้านกลังดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 นาฬิกา ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเกิดเหตุทหารจิตอาสาของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ และอาสารักษาดินแดนอำเภอปลายพระยา ร่วมถึงตำรวจจิตอาสาสถานีตำรวจภูธรอำเภอปลายพระยา ได้เข้าให้การช่วยเหลือไปครั้งหนึ่งแล้ว

 

เจาะลึก Big Deal ‘ทรู - ดีแทค’ ใครได้ ใครเสีย!? | Click on Clear THE TOPIC EP.94

???? Exclusive สดวันนี้!! พบกับแขกรับเชิญพิเศษ ‘ดร.สันติ กีระนันทน์’ เลขานุการคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร

???? ใน Topic : เจาะลึก Big Deal ‘ทรู - ดีแทค’ ใครได้ ใครเสีย!?

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

กาฬสินธุ์ - กู๊ดไอเดีย!! เปิดตัว “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใยอัจฉริยะ” ผ่าน APP Line เพื่อแจ้งเบาะแสยาเสพติด

จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2565 พร้อมพัฒนา “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใจอัจฉริยะ” ผ่าน Line  เข้าถึงง่าย ใช้ง่าย เพื่อรับแจ้งเบาะแสยาเสพติด การเข้ารับการบำบัดยาเสพติด คาดหวังจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานปล่อยแถวชุดปฏิบัติการ ตามยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2565 เพื่อมุ่งสู่ชุมชนมั่นคง สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน โดยมีนายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถว

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การปล่อยแถวชุดปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ พร้อมกันทั้งจังหวัด รวม 86 จุดเป้าหมาย โดยกำหนดดำเนินการทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาไปพร้อมกัน นอกจากนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.กาฬสินธุ์ (ศอ.ปส.จ.กส.) ยังได้เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้าง ปิดล้อมตรวจค้น โดยนำเทคโนโลยีการสื่อสาร App Line มาพัฒนาเป็น “ตู้ผู้ว่าฯ ห่วงใยอัจฉริยะ” ในการรับข้อมูลข่าวสารจากประชาชนเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ขอเข้ารับการบำบัด และการรายงานต่าง ๆ อีกด้วย

 

สหรัฐฯ อ่วม!! โควิดระลอกล่าสุด ‘รุนแรง-เลวร้าย’ กว่าปีก่อน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกล่าสุดในสหรัฐอเมริกา กำลังส่งผลกระทบต่อแผนกผู้ป่วยหนักของบางรัฐท้องถิ่น ขณะหลายพื้นที่ของประเทศเผชิญการระบาดที่รุนแรงกว่าปีก่อน

จากรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ย. 64) อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลหรือเป็นผู้ป่วยต้องสงสัยใน 15 รัฐท้องถิ่น กำลังมีสัดส่วนการครองเตียงในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว

‘โบว์ ณัฏฐา’ วอนสื่อเลิกบิดเบือนเรื่องวัคซีน หลังโหมข่าวคนตาย จาก ‘สูตรไขว้’ ทั้งที่ยังไม่พิสูจน์

นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ ‘โบว์’ นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว วอนสื่อต้องหยุดบิดเบือนเรื่องวัคซีน โดยระบุว่า เพื่อประโยชน์ของสังคม ขอพูดตรง ๆ และเรียกร้องจรรยาบรรณจากเพจข่าวไทยรัฐทีวีนะคะ สำหรับข่าววันที่ 24 พ.ย. ที่พาดหัวว่า “สูตรไขว้ดับ” ทั้งที่ในเนื้อข่าวผู้ตายเพิ่งฉีดวัคซีนโมเดอร์นามา เป็นเพศชายอายุ 26 อาการก่อนตายที่ญาติบรรยายไว้คล้ายอาการของคนกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบซึ่งเป็นอาการที่เกิดยากแต่พบได้กับเพศชายอายุต่ำกว่า 30 ที่ฉีดวัคซีน mRNA อยู่แล้วและเป็นสถิติทางการแพทย์ที่รับรู้ตรงกันทั่วโลก แต่ทั้งที่ยังสรุปสาเหตุการตายไม่ได้ สื่อกลับพยายามชี้นำโดยการพาดหัวให้คนเข้าใจว่าสาเหตุเป็นเพราะวัคซีนสูตรไขว้

โดยหลักการสื่อไม่ควรสรุปอะไรก่อนการชันสูตรโดยแพทย์ทั้งสิ้นเพราะคุณไม่มีข้อมูลภาวะที่เฉพาะตัวของร่างกายแต่ละคน และโดยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เท่าที่มีจนถึงวันนี้ การเสียชีวิตหลังฉีดเข็มสองก็ไม่สามารถเชื่อมโยงอะไรกับวัคซีนเชื้อตายเข็มแรกที่ฉีดไปได้เลย เพราะวัคซีนเชื้อตายเป็นวัคซีนที่ไม่ซับซ้อนและให้ผลกับร่างกายคนปกติเหมือนการเคยติดเชื้อจริงที่อ่อนแอมาแล้วเท่านั้น แต่สื่อก็ยังพยายามโยงให้คนเข้าใจผิด และการสื่อสารสาธารณะด้วยคำว่า “สูตรไขว้ดับ” โดยสื่อกระแสหลักแบบนี้จะสร้างความหวาดกลัวให้สังคมและอาจมีผลต่อการควบคุมโรคได้

สิ่งที่ควรเป็นที่ทั้งรัฐและสื่อควรทำ คือการให้ข้อเท็จจริงกับสังคมว่าวัคซีนแต่ละชนิดมีความเสี่ยงอย่างไรในสถิติกี่เปอร์เซ็นต์กับกลุ่มอายุและเพศอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจโดยประเมินความเสี่ยงตามข้อเท็จจริงได้เอง และเมื่อเกิดเคสที่ผิดปกติต้องรายงานข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาไม่บิดเบือนหรือชี้นำ โดยเฉพาะการชี้นำในลักษณะแบบฟันธงโดยไร้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างสิ้นเชิงเช่นครั้งนี้ 

‘สิระ’ จี้ ศบค. ทบทวนเปิดสถานบันเทิง ย้อนถามลืมภาพคนตายข้างถนนแล้วหรือ

‘สิระ’ จี้ ศบค. รับผิดชอบหากเกิดคลัสเตอร์สถานบันเทิงใหม่ ถามลืมภาพคนไทยตายข้างถนนแล้วหรือ แนะคิดให้ดีหยุดเอาชีวิตประชาชนไปเสี่ยงตาย จี้ ผบ.ตร. จัดการให้เด็ดขาด

วันที่ 25 พ.ย. 64 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงของ ศบค. ว่า ประเทศไทยเคยได้รับบทเรียนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทำลายชีวิตของคนไทยไปจำนวนมหาศาล รวมทั้งยังทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติพังยับ เพราะฉะนั้น ผู้ที่รับผิดชอบในการพิจารณาให้เปิดสถานบันเทิง ต้องคิดให้รอบคอบ และขอให้คิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่า หากเปิดแล้วเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 กระจายไปในวงกว้างซ้ำอีกครั้ง ศบค. จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้

นับหนึ่งลงทุนท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 หลังช้ามานาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธาน ในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุน โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ระหว่าง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่เสนอผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐได้รับดีที่สุด เป็นไปตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน และมติ ครม. ได้อนุมัติไว้

สำหรับ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบัง รองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยก่อสร้างท่าเทียบเรือ สำหรับรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รวมทั้งพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง ก่อสร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งระหว่างประเทศ ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือ โครงข่ายและระบบการขนส่งต่อเนื่องที่จำเป็นในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังที่จะเชื่อมต่อกับภายนอกให้เพียงพอ รองรับการขยายตัวของปริมาณเรือและสินค้าประเภทต่าง ๆ

ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างท่าเรือ F1 แล้วเสร็จ สามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 ส่วนท่าเทียบเรือ F2 จะแล้วเสร็จปี 2572 และเมื่อโครงการในระยะที่ 3 แล้วเสร็จจะสามารถรองรับความจุตู้สินค้าจาก 11 ล้านตู้/ปี เป็น 18 ล้านตู้/ปี หรือเพิ่มตู้สินค้าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านตู้/ปี รับการขยายตัวของปริมาณเรือขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้น เชื่อมต่อการพัฒนาสู่ท่าเรือบก เป็นศูนย์กลางการค้าบริการขนส่ง ยกระดับไทยเป็นประตูการค้าเชื่อมภูมิภาคเอเชียไปสู่ระดับโลกโดยผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินที่ภาครัฐจะได้รับจากโครงการเป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อ TEU (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีขนาด 20 ฟุต) มีระยะเวลาร่วมลงทุน 35 ปี 

‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ และ ‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ’ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก 

‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ และ ‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ’ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก 

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ดำเนินการขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พร้อมพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชด้วย ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 เป็นวันเสด็จพระราชดำเนินในพิธี โดยใช้สถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก คือ บริเวณหน้าสำนักหอสมุดกลาง

หลังจากพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทางด้านหลังสำนักหอสมุดกลาง เสด็จขึ้นหอสมุดกลางทางประตูด้านหลัง เสด็จเข้าห้องรับรอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทูลเกล้าฯ ถวายครุยปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และรองอธิการบดีทูลเกล้าฯ ถวายครุยปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางสังคมวิทยา แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงฉลองพระองค์ครุย แล้วทรงลงปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยมของมหาวิทยาลัย เมื่อถึงหมายกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเข้าเวทีที่ประทับ ทรงบูชาพระรัตนตรัย แล้วเสด็จประทับพระราชอาสน์ ที่หน้าสำนักหอสมุดกลาง

'วัชระ' ยื่น 'ป.ป.ช.' สอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ทำชาวบ้านเดือดร้อน หลังปิดจ๊อบไม่คืนสภาพเดิมถนนและไฟฟ้าเกาะกลาง 

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายไพโรจน์ นิยมเดชา นักสืบคดีทุจริต ถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 

ขอให้สอบสวนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค เฉพาะช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 ถึงบางแค ระยะทาง 9 กิโลเมตร บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ผู้ก่อสร้างในวงเงิน 13,380 ล้านบาท กลับคืนสภาพถนนด้วยการลาดยางแทนถนนคอนกรีตให้กรุงเทพมหานครอันเป็นการผิดสัญญาการก่อสร้างว่าเป็นการผิดกฎหมายป.ป.ช.หรือกฎหมายอาญาอื่นใดหรือไม่ ข้าราชการกรุงเทพมหานคร คู่สัญญาและบริษัทเอกชนต้องรับผิดชอบตามกฎหมายหรือไม่ กรณีนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวฝั่งธนบุรีว่าไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาการก่อสร้างคือไม่ได้คืนสภาพถนนให้กับกรุงเทพมหานครในสภาพเดิมตามที่ระบุไว้ในสัญญาและการก่อสร้างรถไฟฟ้าได้เสร็จมานานแล้วทำให้รัฐเสียประโยชน์ คือ

1. สภาพถนน เดิมเป็นถนนคอนกรีตตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 จนถึงบางแคระยะทาง 9 กิโลเมตร บริษัทก่อสร้างกลับลาดยางแทนถนนคอนกรีต โดยไม่ปรากฏว่ากรุงเทพมหานครหรือคู่สัญญามีการทักท้วงแต่อย่างใด  จึงขอให้ตรวจสอบว่าบริษัทเอกชนปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้างครบถ้วนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนห่งประเทศไทย หรือ รฟม.และข้าราชการกรุงเทพมหานครปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือผิดกฎหมายอื่นใดของป.ป.ช.หรือไม่ 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top