Tuesday, 14 May 2024
TheStatesTimes

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จัดการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 และพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเครื่องหมายเชิดชูเกียรติกิตติมศักดิ์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) พร้อมกำหนดจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้บริจาค และข้าราชการตำรวจผู้ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ประจำปี 2564 และพิธีมอบเข็มแม่นปืนกิตติมศักดิ์

วันที่ 28 ต.ค. 64 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมกาประชุมฯ

 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุมฯ ได้กำหนดให้มีการจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานและองค์กรผู้บริจาคทุนทรัพย์ และสิ่งของ ในการสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 7 ราย 

และหน่วยงาน/ข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 2 ราย และพิธีมอบเข็มแม่นปืนกิตติมศักดิ์ให้แก่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจำนวน 2 นาย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

• หน่วยงานและองค์กรผู้บริจาคทุนทรัพย์ และสิ่งของ ในการสนับสนุนภารกิจ

ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

1. มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

ผู้รับโล่ : พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) 

2. สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (International Narotics and Law Enforcement Section- INL กรุงเทพฯ)

ผู้รับโล่ : คุณเกรกอร์ ชอว์ (Mr. Gregory  Shaw) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (INL) สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย

3. มูลนิธิคนไทยเก่งขึ้น 

ผู้รับโล่ : คุณสวรรย์ พิภูษณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร 

บริษัท ซี-เอ็ด ยูเคชั่น จำกัด มหาชน

4. บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ผู้รับโล่ : คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ 

(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

5. ธนาคารออมสิน

ผู้รับโล่ : คุณเสกสรร ทวีกสิกรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน สายงานกิจการ สาขา 1

6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ผู้รับโล่ : คุณสุดจิตตรา คำดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสื่อสารและภาพลักษณ์

7. มูลนิธิจำนง ภิรมย์ภักดี

ผู้รับโล่ : นางสาวจิตภัสร์  กฤดากร

'โฆษกรัฐบาล' ขอบคุณ 'Russell Crown' ช่วยโปรโมตการเปิดประเทศแบบปลอดภัย 1 พ.ย. นี้  พร้อมชวนเดินเที่ยวไทย ขณะที่ 'นายก' แนะกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และททท. เชิญศิลปินระดับโลกแทนลิซ่า Blackpink พร้อมชูศิลปะไทย 5 ภาคในเวทีเคาท์ดาวน์ 2565 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ นาย Russell Crowe อีกครั้ง แม้จะเดินทางออกนอกประเทศหลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศไทย แต่ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ใจความว่า "วันที่ 1 พ.ย. จะเป็นวันแรกที่ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส จาก 45 ประเทศ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงโดยไม่ต้องกักตัว พร้อมชื่นชมประเทศไทยที่มีสถานที่สวยงาม มีเสน่ห์และน่าสนใจจำนวนมาก ผู้คนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เป็นกันเอง ขอเชิญชวนผู้ที่ถูกล็อกดาว์น  แยกกักหรือกักตัวรวมทั้งอื่น ๆ  กลับมาท่องเที่ยว" ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวไทย ยังแสดงให้เห็นว่า นาย Russell Crowe มีความเชื่อมั่นและมั่นใจในมาตรการการเปิดประเทศแบบปลอดภัย Safety Entry และการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว Test and Go ของไทยตามแนวทางที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ให้ไว้ โดยจะเริ่ม 1 พ.ย. นี้ด้วย 

โฆษกประจำสำนักนายกกล่าวกรณี ศิลปินลิซ่า Blackpink ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่จะจัดขึ้นได้ เนื่องจากติดตารางงานที่กำหนดไว้ก่อนหน้าว่า นายกรัฐมนตรียังแสดงความเสียใจแต่เข้าใจ จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หารือเชิญศิลปินระดับโลกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักท่านอื่น ๆ ร่วมกิจกรรมแทน เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังแนะให้มีการแสดง 5 ภาคเพิ่มเติม เพื่อแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย ที่มีศักยภาพไม่แพ้ความมั่นคงและเศรษฐกิจ และเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศด้วยเช่นกัน

โฆษกรัฐบาลเผย “นายก”ปลื้มผลสำรวจนักธุรกิจต่างชาติ พบมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น นักธุรกิจต่างประเทศในไทยยังสนับสนุนการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้  เชื่อมีนักท่องเที่ยว/นักธุรกิจรอเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก

นายธนกร วังบุญคงชนะ เผยภายหลังพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศมาตรการเปิดประเทศแบบปลอดภัยพร้อมรับผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำ 45 ประเทศและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เริ่ม 1 พ.ย. นี้ ก็ได้การตอบรับจากภาคเอกชนไทยและนักธุรกิจชาวต่างชาติในไทยเป็นอย่างดี 

โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างชาติในไทย ไตรมาสที่ 3/ 2564 จากหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย 41 ประเทศ สมาชิกรวม 7,810 สถานประกอบการ พบว่าส่วนนักธุรกิจต่างชาติส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ เพิ่มขึ้นเป็น 44.9 และ 38.4 จากเดิมอยู่ที่ 29.8 และ 26.8 ตามลำดับ ในไตรมาส 2/64 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มเป็น 41.7 จาก 27.7  เป็นค่าดัชนีสูงสุดใน 4 รอบการสำรวจ นับจากไตรมาส 4/2563 นอกจากนี้ ร้อยละ 50 ยังเชื่อว่าไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากผลกระทบโควิด-19 และเชื่อว่าเศรษฐกิจและธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 4 ปีนี้ ด้วย ทั้งนี้ นักธุรกิจต่างชาติในไทยยังสนับสนุนการเปิดประเทศของไทย เพราะทำให้การเดินทางเข้าไทยและท่องเที่ยวในไทยง่ายและสะดวกเพิ่มมากขึ้น  เชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจรอเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งไทยเองยังเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2564 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น  เช่นเดียวกับการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ภาคการท่องเที่ยวในเดือนกันยายน 2564 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 2,198,337 คน ทั้งในรูปแบบการท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)  รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) ด้วย

'อนุทิน' สั่งเร่ง คุมระบาดเชียงใหม่ จ่อลงตรวจพื้นที่เอง เชื่อ จว.มีความพร้อมรับมือ ยังไม่ถึงขั้นตั้งศบค.ส่วนหน้า 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (สสจ.) ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างไรบ้าง หลังเพื่อติดเชื้อจำนวนมาก และจำนวนเตียงรองรับคนไข้ไม่พอ ว่า ในจังหวัดเชียงใหม่ ยังมีความพร้อมทางด้านการแพทย์อยู่ มากกว่าหลายๆ จังหวัด และได้เร่งให้เข้าไปแก้ปัญหาให้มากที่สุด เรื่องของวัคซีนก็รีบนำเข้าไปแก้ปัญหาการระบาดให้มากที่สุด เหมือนที่เราได้จัดการในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศ

เมื่อถามว่า จำเป็นที่จะต้องตั้งศบค.ส่วนหน้าในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติมเพื่อคุมการระบาดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้รอดูสถานการณ์สักพักหนึ่ง อย่างน้อยเรื่องการเตรียมพร้อม เรื่องการดูแลผู้ป่วยก็มีความพร้อมอยู่ ในสัปดาห์หน้าตนคงจะไปดูสถานการณ์ แต่ทราบว่าส่วนใหญ่ติดมาจากคนที่เข้ามาค้าขายในเมือง และกลับออกไปในพื้นที่ก็นำเชื้อไปติด ซึ่งต้องเร่งแก้ไข แต่ในจังหวัดเชียงใหม่มีสถานพยาบาลค่อนข้างที่จะครบถ้วนสมบูรณ์ และโรงบาลสนามก็มีความพร้อมอยู่เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขรับทราบแล้ว กำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่

ผู้โดยสารเที่ยวบินสหรัฐฯ โชว์ถ่อย ต่อยแอร์สาวจนจมูกหัก ต้องลงจอดฉุกเฉิน

เที่ยวบินลำหนึ่งต้องเบี่ยงไปลงจอดที่เมืองเดนเวอร์ สหรัฐฯ เมื่อค่ำคืนวันพุธ (27 ต.ค.) ที่ผ่านมา หลังผู้โดยสารคนหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายพนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องบิน จนถึงขั้นจมูกหัก จากคำแถลงของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ระบุในถ้อยแถลงว่า เที่ยวบิน 976 จากท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ.เคนเนดี ในเมืองนิวยอร์ก มุ่งหน้าสู่เมืองแซนตาแอนา รัฐแคลิฟอร์เนีย เบี่ยงไปลงจอดที่เมืองเดนเวอร์ อย่างปลอดภัย ก่อนตำรวจจะขึ้นมาคุมตัวและพาผู้โดยสารผู้ก่อเหตุลงไป

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเหตุการณ์เปิดเผยว่าเหตุโจมตีเกิดขึ้นทั้งที่ไม่มีประเด็นยั่วยุใด ๆ ผู้โดยสารรายดังกล่าวจู่ ๆ ก็เดินไปบริเวณด้านหลังเครื่องบินและต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของแอร์โฮสเตส 2 ครั้ง ส่งผลให้จมูกของเธอหัก

ในวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ดัก พาร์เกอร์ ซีอีโอของอเมริกัน แอร์ไลน์ ระบุว่าเหตุการณ์เมื่อวันพุธ (27 ต.ค.) "ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมเกเรเลวร้ายที่สุดที่เราเคยเจอ" พร้อมบอกว่าทางสายการบินกำลังให้การสนับสนุนพนักงานต้อนรับผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ และเตรียมออกคำสั่งไม่ให้ชายที่ถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายเธอ ใช้บริการของสายการบินอีก

"เท่านั้นยังไม่พอ เรากำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อรับประกันว่าเขาจะถูกดำเนินคดีในขอบเขตเต็มเหนี่ยวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เขากล่าว

States TOON EP.33

ผมชื่อ ‘นายยกเลิก’ ครับ!

วันนี้ในอดีต ‘รัชกาลที่ 3’ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘คุณหญิงโม’ เป็นท้าวสุรนารี วีรกรรมหญิงไทยที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก!!

ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" หรือท้าวมะโหโรง เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2339 โม เมื่ออายุได้ 25 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำขาว พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ต่อมานายทองคำขาว ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "พระภักดีสุริยเดช" ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา "พระภักดีสุริยเดช" ได้เลื่อนเป็น "พระยาสุริยเดช" ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม ชาวเมืองนครราชสีมาเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า "คุณหญิงโม" และ "พระยาปลัดทองคำ" ท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียกแทนตัวคุณหญิงโมว่า "แม่" มีผู้มาฝากตัวเป็นลูกหลานกับคุณหญิงโมอยู่มาก ซึ่งเป็นกำลังและอำนาจส่งเสริมคุณหญิงโมให้ทำการใด ๆ ได้สำเร็จเสมอ หนึ่งในลูกหลานคนสำคัญที่มีส่วนร่วมกับคุณหญิงโม เข้ากอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ คือ นางสาวบุญเหลือ

31 ตุลาคมของทุกปี เป็น ‘วันออมแห่งชาติ’ เพื่อปลูกฝังคนไทยมีนิสัยรักการออมและตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงิน

คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็น 'วันออมแห่งชาติ' เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการออม รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน

การออมเงิน ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะเงินออมไม่เพียงแต่จะสร้างความมั่นคงส่วนบุคคล หรือส่งเสริมความสงบเรียบร้อยทางสังคม แต่ยังช่วยลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง 

ซึ่งทางภาครัฐก็ไม่ได้ละเลยถึงเรื่องดังกล่าว อีกทั้งตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงิน โดยคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2541 กำหนดให้วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็น 'วันออมแห่งชาติ' เพื่อส่งเสริมให้คนไทยรักการออม และตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงิน

‘อนุทิน’ ยินดี ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งที่ปรึกษา ‘เพื่อไทย’ ชี้ ไม่ใช่คู่แข่ง ‘ภูมิใจไทย’ ในพื้นที่อีสาน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) คิดว่าจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดมิติใหม่ขึ้นหรือไม่ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกอย่างต้องมีพลวัต ต้องมีคลื่นลูกใหม่มาทดแทนคลื่นลูกเก่า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะที่พรรคพท.ปรับเปลี่ยนมาแต่ละคนนั้น ต่างก็มีคุณสมบัติที่ดี มีการศึกษาที่ดีจะได้มาทำงานช่วยกันเพื่อบ้านเมือง ตนไม่มีปัญหาเพราะมองเป็นบวก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นคู่แข่งของพรรคภูมิใจไทยในการเจาะพื้นที่ต่าง ๆ หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า ของภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีถึง 6 คนอยู่แล้ว ไม่แข่งกับใครเราก็อยู่ของเราอย่างนี้

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย จะต้องปรับยุทธศาสตร์ในภาคอีสานอย่างไรเมื่อพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างเช่นนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดคือ พรรคจะต้องมีนโยบายที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าเราเข้าไปดูแลปากท้องเขาได้ ดูแล สารทุกข์สุกดิบของเขาได้และผู้สมัครเองก็ต้องขยัน เข้าถึงใจประชาชนให้ได้ การเมืองก็อยู่ตรงนี้ คือต้องทำงานให้กับประชาชน ให้ประชาชนมั่นใจ และไม่ว่าอะไรก็ตามก็จบตรงนี้ เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนหรือเปล่า เพราะนั่นคือคำตอบ

พิธีประทานรางวัล "เทพมเหศักดิ์" ประจำปี ๒๕๖๔ แด่ ผู้สนับสนุนส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ 

ณ เรือนไทยเพชรไพลิน มหาวิทยาลัยธนบุรี แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ เวลา 10.30 น. หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ (พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔) องค์ประธานอุปถัมภ์รางวัล "เทพมเหศักดิ์" เสด็จเป็นองค์ประธาน ในพิธีประทานรางวัล ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ รางวัล "เทพมเหศักดิ์ " ประจำปี ๒๕๖๔ แด่ ผู้สนับสนุนส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ  ทรงกรุณาประทานรางวัลให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเป็นแรงขับเคลื่อนการดำเนินงานกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนพิการ

 โดย "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ประธานจัดงานฯ ขอประทานอนุญาตกราบทูลถวายรายงานวัตถุประสงค์โครงการฯ จัดงานในครั้งนี้

ซึ่งจัดขึ้นจาก "ไตรภาคี" คือ  สมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / สมาคมคนพิการภาคตะวันออก / สมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย  ซึ่งมี ภาครัฐ ภาคเอกชน สถานประกอบการ และประชาชน ที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 80 รางวัล  อาทิ เช่น อธืบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ / อธิบดีกรมจัดหางาน / จัดหางานจังสมุทรปราการ / จัดหางานจังหวัดชลบุรี / บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ / เค เยาวราช / ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี / นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย / นายศุพชีพ ดิษเทศ นายกสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย / นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย /  นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล บริษัท โอวาท โปรแอนด์ควิก จำกัด / มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล  / มูลนิธิเมาไม่ขับ / มูลนิธิใจงาม / บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) / บริษัท เทเวศ ประกันภัยจำกัด (มหาชน) / บริษัทอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยจำกัด (มหาชน) / บริษัท เอสซีจีเซรามิกซ์ จำกัด (มหาชน) / บริษัท ยูโรเซีย 2003 (ประเทศไทย) จำกัด / บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) / บริษัทเซ็นทรัลมอเตอร์วีล (ประเทศไทย) จำกัด / โรงเรียนสอนวิชาชีพและบริการปิยะแสงปัญญา (ชุมพร) / บริษัท อินดัสเตรียลวอเตอร์ รีซอร์ตเมแนจเม้นท์ จำกัด / บริษัท ปิโตรเลียมไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด / บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และอีกมากมาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top