Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 66 พรรษา

วันที่ 6 พ.ค.64 พล.ร.ท.ชาญชัยยศ  อัฑฒ์สุวีร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการจัดกิจกรรม  กองเรือยุทธการบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 66 พรรษา 2 เมษายน 2564  ณ ห้องคลังเลือด โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี   

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของกองทัพเรือ และเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ที่รองรับผู้ป่วยในพื้นที่ จ.ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เข้าสู่ภาวะวิกฤตของการขาดโลหิต กองเรือยุทธการจึงได้เชิญชวนกำลังพลร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติฯ ในครั้งนี้

โดยจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตฯ ระหว่างวันที่ 6 - 7 พ.ค.64 คาดว่ากำลังพลที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 150 นาย กองเรือยุทธการได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากวันที่ 8 ก.พ.64 โดยร่วมกับจังหวัดชลบุรี และจะดำเนินการเป็นระยะไปถึงวันที่ 30 ก.ค.64 หรือจนกว่าสถานการณ์การขาดโลหิตจะบรรเทา เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการที่ตั้งไว้ สอดคล้องกับนโยบายกองทัพเรือในการแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิตในภาพรวมของประเทศ


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

สระบุรี - ประธานผู้บริหาร"สระบุรีวณิชชากร กรุ๊ป" มอบทุนทรัพย์สนับสนุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และสร้างอาคาร ICU ให้กับโรงพยาบาลสระบุรีและโรงพยาบาลพระพุทธบาท มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

วันที่ 6 พ.ค.64 เวลา 10.30 น. ณ อาคารสำนักงาน หจก.สระบุรีวณิชชากร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ท่านดร.มงคล ศิริพัฒนกุล ประธานบริหาร สระบุรีวณิชชากร กรุ๊ป มอบทุนทรัพย์เพื่อสนับสนุนโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และสร้างอาคารและห้องแรงดันลบ (Negative Pressure Room) ICU​ คล้ายโรงพยาบาลสนาม​ ของโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อให้สามารถใช้รองรับการรักษาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัส​โค​โร​นา​2019​ ซึ่งแพร่กระจายได้ทางอากาศและผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงได้มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท เป็นจุดเริ่มต้นโดยมีนายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี พร้อมคณะ เข้ารับมอบโดยมีนายธนาพล จีรเดชภัทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค สระบุรี นายสุชนต์ สิงห์เหนี่ยว เลขาฯ ผอ.รพ.สระบุรี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบในครั้งนี้

จากนั้น ดร.มงคล ศิริพัฒนกุล ได้มอบทุนทรัพย์สนับสนุนเพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะนำมาให้บริการแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลพระพุทธบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 500,000 บาทมีนายแพทย์ธงชัย เขมรัตน์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระพุทธบาทพร้อมคณะ เป็นผู้แทนรับมอบมีนายธนาพล จีรเดชภัทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค สระบุรี ร่วมมอบด้วย ดร.มงคล​ ศิริพัฒนกุล​ ได้กล่าวว่าเราต้องร่วมช่วยกันในยามที่บ้านเมืองมีวิกฤต​ ในสถานการณ์ปัจจุบัน อุปกรณ์ทางการแพทย์เช่นออกชิเจน​  อาคารICU ที่ขาดแคลนและมีความสำคัญมาก โดยทุกโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ครบครัน เช่น เครื่องช่วยหายใจ เพื่อใช้ช่วยชีวิตคนไข้ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาและเปลี่ยนคนไข้จากกลุ่มสีแดง ที่มีอาการรุนแรง เพื่อไปยังกลุ่มสีเหลือง ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง ให้ผ่านวิกฤตและปลอดภัย จนไปสู่กลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยรวมทั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและระหว่างการตรวจรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องนึกถึงความสำคัญของการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อจากการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อีกด้วย/ดำรงค์ชื่นจินดารายงาน

นครพนม - ตร.นครพนม รวบแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ ได้ของกลางยาบ้า 770,000 เม็ด

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.นครพนม) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผกก.สืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม  ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ตำรวจตระเวนชายแดน 235 ธาตุพนม (ตชด.235) ตำรวจน้ำธาตุพนม ด่านศุลกากร และทหารชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 2 ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดภาคตะวันออกเฉียวเหนือ (ชป.2 ชอน.) และศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติดฯ (ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม)

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 770,000 เม็ด รถยนต์ toyota รุ่น fortuner หมายเลขทะเบียน ชพ 1071 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ toyota รุ่น altis หมายเลขทะเบียน กจ 8148 มุกดาหาร ภายหลังการจับกุมได้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สืบสวนภ.จว.นครพนม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่อำเภอธาตุพนมเข้าสู่พื้นที่ตอนใน

โดยภายหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนสกัดกั้นจับกุม กระทั่งเวลา 21:50 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าขบวนการดังกล่าวได้นำรถยนต์ Toyota fortuner ไปจอดไว้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดพระธาตุพนม พนมวิทยาคาร เจ้าหน้าที่จึงได้ดักซุ่มรอกระทั่งเวลาผ่านไป 10 นาที ก็มีรถเก๋ง toyota  altis วิ่งเข้ามาจอดด้านข้างและมีชาย 2 คนลงมาขึ้นรถส่วนคนขับรถเก๋งได้ขับรถออกไปด้วยความเร็ว เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อีกชุดติดตามคนขับรถเก๋งไป

หลังประสานงานเรียบร้อยได้เข้าแสดงเพื่อตรวจค้น ซึ่งบุคคลในรถมีอาการตกใจและพยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งตามกระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และเมื่อตรวจสอบภายในรถพบมีกระสอบยาบ้า จำนวน 770,000 เม็ด บรรจุในกระสอบสีขาววางอยู่ด้านหลังรถ ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดได้ขับรถไล่ติดตามรถเก๋ง altis ไปเรื่อย ๆ กระทั่งรถเก๋งคันดังกล่าวได้ไปจอดอยู่บริเวณถนนชยางกูร หน้าร้านข้าวต้มถูกใจ เพื่อรับเพื่อนอีกคน เมื่อเห็นเป็นจังหวะที่เหมาะมีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่บุคคลทั้ง 2 ได้พยายามวิ่งหลบหนีแต่ไปไม่รอด เจ้าหน้าที่สามารถวิ่งไล่ติดตามควบคุมตัวไว้ได้ จึงได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวไทยให้มารับยาบ้าของกลางที่ลักลอบนำเข้ามาทางเรือหางยาวจากประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ อ.ธาตุพนม เพื่อเตรียมส่งไปขายยังพื้นที่ตอนในของไทย โดยได้รับค่าจ้างประมาณ 1 แสนบาท โดยผู้ต้องหาเคยรับจ้างมาแล้วหลายครั้งกระทั่งถูกจับได้ในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีการเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันพบว่าขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดมีการพัฒนารูปแบบในการลักลอบลำเลียง ทั้งการลอยน้ำมา การทำบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลงแต่ได้ปริมาณยาเสพติดเท่าเดิม รวมถึงรูปแบบอื่น ๆ อีก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการในการตั้งด่านตรวจด่านสกัดควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 รวมถึงมีการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงและประชาชนในการร่วมกันหาข่าวและสกัดกลั้นจับกุม ปราบปรามผู้เสพรายย่อย ผู้ค้ารายเล็กและรายใหญ่ โดยเน้นการขยายผลถึงผู้บงการทุกราย


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัสผสข.นครพนม

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยม กำชับหน่วยทหารพรานในพื้นที่ เพิ่มมาตราการ ควบคุมพื้นที่ ในห้วง 10 วันสุดท้าย แห่งเดือนรอมฎอน

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมหน่วย มอบนโยบาย ข้อสั่งการ พร้อมทั้ง เพื่อรับทราบแนวความคิดในการปฏิบัติงานด้านการข่าว ด้านยุทธการ และ ด้านกิจการพลเรือน  รวมถึงรับฟังแนวคิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน และแผนการปฎิบัติที่สำคัญงานในห้วงต่อไป ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 หน่วย ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานใหม่ ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อำเภอระแงะ  โดยมี พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ และ และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร  โดยมี พันเอก จิรวัฒน์ จุฬากาญจน์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 49 เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่  ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งร่วมรับฟังนโยบาย พร้อมกำลังพลของหน่วย

โดย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้มอบนโยบาย ข้อสั่งการสอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติงาน ของชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ต้องอยู่ในความไม่ประมาท การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กำชับเพิ่มมาตราการ ควบคุมพื้นที่ ในห้วง 10 วันสุดท้าย แห่งเดือนรอมฎอน ย้ำ!!!! ไม่ให้เกิดเหตุ  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งการเฝ้าตรวจให้เป็นไปตามสั่งการของ ผอ.รมน.ภาค4 การใช้ระเบียบการนำหน่วย มอบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน การสังเกตุการณ์  รวมทั้งเน้นย้ำผู้บังคับหน่วย เรื่องสวัสดิการ สิทธิกำลังพล โดยฝากความห่วงใยแก่กำลังพล ให้ดูแลตนเอง และเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid -19 อย่างใกล้ชิด


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

ชุมพร - ศรชล.ประสานช่วยเหลือเรือประมง ถูกพายุซัดจม 2 ลำ เสียชีวิต 1 คน

วันนี้ 6 พ.ค.64 เวลา 08.30 น.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชุมพร (ศรชล.จังหวัดชุมพร) โดย น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร ในนามของ ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จังหวัดชุมพร (ศคท.จังหวัดชุมพร)  ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า เกิดเหตุเรือประมงพื้นบ้าน เป็นเรือไฟเบอร์ติดเครื่องยนต์แบบหางยาว  จำนวน 2 ลำ ถูกพายุฝนซัดและจมลงบริเวณหน้าแหลมคอกวาง ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร

เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย เรือจมหายไป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นชาย 1 ราย ได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งพร้อมร่างผู้เสียชีวิต โดย พ.ต.ท.วินัย นิ่มฟัก สว.ส.รน.1 กก.6 บก.รน. สั่งการให้ ร.ต.อ.วสุ บัวจีน รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.1 กก.6 บก.รน. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ รวม 4 นาย นำเรือตรวจการณ์ 532 ออกทำการค้นหาเรือประมงที่สูญหายและกู้เรือประมงที่จม บริเวณหน้าแหลมคอกวาง โดยเจ้าของเรือที่รอดชีวิตพร้อมทีมงานได้ร่วมเดินทางไปด้วย

นาย นรินทร์ เต็งประยูร อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.9 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ. ชุมพร เจ้าของเรือที่รอดชีวิต ที่เดินทางไปพร้อมกับเรือตรวจการณ์ 532 เพื่อไปร่วมกู้เรือของตนเองที่จม และร่วมค้นหาเรือประมงที่สูญหายเป็นเรือไฟเบอร์ ยาว 10 เมตร กว้าง 1.6 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร เป็นเรือหางยาว เอกสารได้จมพร้อมกับเรือ  ส่วนเรืออีกลำที่สูญหายเป็นเรือลักษณะเดียวกัน โดยได้ร่วมกับเรือประมงพื้นบ้านกู้เรือของ นายนรินทร์ฯ นำกลับเข้าฝั่ง ส่วนเรืออีก 1 ลำ ที่สูญหายยังอยู่ระหว่างการค้นหา 

จากการสอบถาม นายอุดม ธนบัตร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ที่รอดชีวิตอีกลำหนึ่งทราบว่า ได้นำเรือออกไปตกหมึกและตกปลากับ นางสาวจุรีรัตน์ อ่ำศรี อายุ 38 ปี ภรรยา ห่างจากฝั่งประมาณ 130 เมตร ได้เกิดฝนตกหนักลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จนเรือจมลงตนได้ลอยพยุงตัวอยู่ในน้ำอีกมือหนึ่งจับเสื้อภรรยาที่ไปด้วยกันเอาไว้ พยุงตัวจนสามารถนำภรรยาเข้าถึงฝั่งได้ แต่ภรรยาเกิดอาการสะอึกและอาเจียนออกมาเป็นเลือดนอนแน่นิ่ง เป็นเหตุให้เสียชีวิต ดังกล่าว


ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

นราธิวาส – ทหารพราน 48 เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด-19

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 เวลา 1500 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 จัดกิจกรรม ทหารพราน48เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด19 ในพื้นที่ บ้านไอสะเตีย บ้านกูเว บ้านบือราแง ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดย เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว มีประชาชนส่วนหนึ่งต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก ขาดแคลนอาหาร ของใช้จำเป็น และยารักษาโรค พันเอก เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 เล็งเห็นความสำคัญถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกิจการพลเรือน จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนทั้งชายและหญิง ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และมวลชนจิตอาสาญาลันนันบารู จัดทำข้าวกล่องนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งใส่ในตู้ปันสุข ทั้งยังเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งอาหารกล่องสำเร็จรูป เครื่องอุปโภคบริโภค, ข้าวสาร, อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมทั้งการช่วยเหลืออื่น ๆ แบบเดริเวอรี่ให้แก่ประชาชนถึงที่พักอาศัย

โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อนอย่างมาก ที่อยู่ห่างไกล โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือด้วยตนเองได้ พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างถูกวิธีตามหลัก DMHTT ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักป้องกันตนเองและครอบครัว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้กำลังพลทุกนายที่ออกปฏิบัติภาระกิจต่างป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนหยิบจับหรือส่งอาหารให้แก่ประชาชน และปฏิบัติตามหลักการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

เพจไทยคู่ฟ้า ตีปี๊ปข่าวดี! ไทยได้สิทธิผลิตยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เพจไทยคู่ฟ้าเผยแพร่ข้อมูลข่าวดี! ไทยได้สิทธิผลิตยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว
โดยมีเนื้อหาระบุว่า “อันที่จริงประเทศไทยมีเทคโนโลยีและความสามารถในการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ที่ผ่านมาต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะติดปัญหาเรื่องสิทธิในการผลิต 

ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญามีคำสั่งปฏิเสธคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าคำยื่นขอสิทธิบัตรของบริษัทที่ยื่นขอเข้ามานั้น "ไม่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น"

ทำให้ปัจจุบันไม่มีผู้ใดมีสิทธิผูกขาดในยาชนิดนี้ ทั้งในโครงสร้างสารออกฤทธิ์หลัก ซึ่งไม่เคยมีการขอรับสิทธิบัตรในประเทศไทย และรูปแบบยาเม็ด 

ดังนั้น หากองค์การเภสัชกรรมหรือบริษัทยาสามัญไทยรายอื่นต้องการจะผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อใช้ในประเทศก็สามารถทำได้

ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมได้ประสานสั่งซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ไว้แล้ว 5 แหล่ง จากประเทศจีน 1 แหล่ง อินเดีย 4 แหล่ง ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบที่มีมาตรฐานและผู้ผลิตยาทั่วโลกใช้วัตถุดิบจากแหล่งต่าง ๆเหล่านี้ 

#ไทยคู่ฟ้า #รวมไทยสร้างชาติ #ร่วมต้านโควิด19

เพจ อูดาชี - Удачи - Udachi : Loving by Knowing Russia ได้โพสต์ถึงชีวิตในอนาคตอันใกล้ที่นำมาสู่ความปลอดภัยและมั่นใจด้านสุขภาพ เพราะทางเพจได้เปิดบริการที่จะพาทุกคนไปท่องเที่ยวและได้รับวัคซีนที่ดีที่สุดในรัสเซียว่า...

เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงจะมีคำถามว่า 'วัคซีนดี ๆ จะมาเมื่อไหร่?' และ 'จะต้องกักตัววนไปอีกกี่รอบ?'

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกของวัคซีนในวันนี้เริ่มมากขึ้น อยู่ที่เราว่าพร้อมหรือยัง? ที่จะมีชีวิตที่ปลอดภัยและความมั่นใจด้านสุขภาพ เพราะทุกท่านจะได้รับวัคซีนที่ดีที่สุดในโลกไปพร้อม ๆ กับการเดินทางได้อย่างมีอิสระ

จากเพจ อูดาชี - Удачи - Udachi : Loving by Knowing Russia ได้โพสต์ถึงชีวิตในอนาคตอันใกล้ที่นำมาสู่ความปลอดภัยและมั่นใจด้านสุขภาพ เพราะทางเพจได้เปิดบริการที่จะพาทุกคนไปท่องเที่ยวและได้รับวัคซีนที่ดีที่สุดในรัสเซียว่า...

ครั้งแรกของประเทศไทยกับทริปวัคซีนระดับโลกภายใต้การดูแลของบริษัท อูดาชี จำกัด ลักซัวรี่ทัวร์รัสเซียอันดับหนึ่งและสถาบันการแพทย์ชั้นนำรัสเซีย

ในเวลานี้สิ่งที่ประเทศไทยต้องการที่สุดคือความมั่นคงในสุขภาพ และอิสระในการใช้ชีวิต

จะดีกว่าไหม หากคุณคือผู้นำที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและคนที่คุณรัก

การเดินทางครั้งใหม่ที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณสู่การเป็นผู้นำกระแสโลก ครั้งแรกกับการพลิกโฉมหน้าการเดินทางท่องเที่ยวในแบบเดิม ๆ สู่โลกใหม่แห่งการเดินทางที่อิสระมากกว่า ปลอดภัยมากกว่า และเหนือกว่าใคร

เดินทางสู่รัสเซียเพื่อท่องเที่ยวและรับวัคซีนสปุตนิควี (Sputnik V) วัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้สูงถึง 91.6% และป้องกันการป่วยที่รุนแรงได้ถึง 100%

มากไปกว่านั้นคุณ คือ ผู้กำหนดวันและเวลาได้เองโดยไม่ต้องรอคิวจนเหนื่อยอีกต่อไป

หากคุณมีเวลา 30 วัน ต่อจากนี้เราสัญญาว่าจะทำหน้าที่กุญแจสู่การเปลี่ยนชีวิตคุณให้มั่นคงทางสุขภาพและกลายเป็นผู้นำกระแสโลกที่แท้จริง

ออกไปเปลี่ยนโลกด้วยตัวคุณเองได้ตั้งแต่พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทัวร์เพิ่มเติม: shorturl.at/ahvKT

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีน Sputnik V: shorturl.at/qEOS8

ข้อมูลวารสารตีพิมพ์เชิงวิชาการทางการแพทย์เกี่ยวกับ Sputnik V: shorturl.at/jALM1

 

บริษัท อูดาชี จำกัด

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/07277

โทรศัพท์: 0852452458

Line: https://lin.ee/h9afsTM

Email: [email protected]

#วัคซีนโควิด19 #SputnikV #สปุตนิควี #สปุตนิคไฟว์ #เที่ยวรัสเซีย


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3363621620407396&id=305440592892196

มาถึง ณ วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า มีการเคลื่อนไหวจากต่างประเทศสนับสนุนชนกลุ่มน้อยในการทำสงครามในเมียนมา และรวมถึงการสร้างกองทัพประชาชนมาป่วนสร้างความวุ่นวายในเมียนมาในขณะนี้

มาถึง ณ วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า มีการเคลื่อนไหวจากต่างประเทศสนับสนุนชนกลุ่มน้อยในการทำสงครามในเมียนมา และรวมถึงการสร้างกองทัพประชาชนมาป่วนสร้างความวุ่นวายในเมียนมาในขณะนี้

ล่าสุดมีภาพกองกำลังคะฉิ่น KIA ถือมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานที่หน้าตาละม้ายคล้าย QW-18 หรือ Qianwei-18 ของจีนเสียด้วย

งานนี้หากคนเมียนมาคิดสักนิด!! น่าจะได้คำตอบว่า 'จีน' ให้การสนับสนุนกองทัพเมียนมาจริงหรือเปล่า หรือจีนจะเป็นผู้สนับสนุนทุกฝ่ายที่จีนได้ผลประโยชน์?

แต่เรื่องนี้ละไว้ก่อน เพราะประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องของขีปนาวุธจีน คือ มีการรายงานเมื่อหลายวันก่อนบนเว็บไซต์ของรอยเตอร์ว่า มีการฝึกวัยรุ่นเพื่อเป็นกองกำลังในการต่อต้านกองทัพเมียนมา จากนั้นไม่นานเท่าไรก็มีข่าวว่าคู่รัก LGBT ชื่อดังในเมียนมาเข้าเป็นกลุ่มกองกำลังต่อต้านกองทัพ ซึ่งมีการโพสคู่กับครูฝึกชาวต่างชาติ และนี่เองเป็นจุดที่เผยให้เห็นว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังงานนี้!!

 

ชาวต่างชาติในภาพนี้คือนาย David Eubank

เขาเป็นใครนะหรือ?

วันนี้เอย่าจะนำเรื่องราวของเขามาให้รู้จักกัน

David Eubank เกิดที่เท็กซัส แต่มาเติบโตมาในครอบครัวของมิชชันนารีที่อาศัยอยู่ประเทศไทย เขาเข้าเรียนที่ Texas A&M University และได้รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพสหรัฐฯ

เขาเป็นอดีตหน่วยรบพิเศษและเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนของกองทัพสหรัฐฯ และตอนนี้เป็นผู้ก่อตั้ง Free Burma Rangers (FBR) โดยมีภารกิจในการบรรเทาทุกข์และปลดแอกเหล่าชาติพันธุ์ที่ถูกกดขี่ พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์

แต่เท่าที่ดู เหมือนองค์กรนี้จะแค่กล่าวอ้างว่าเป็นภารกิจของพระเจ้ามากกว่า เพราะแท้จริงอาจจะมีเบื้องหลังเบื้องลึกว่านั้น

เพราะเมื่อเอย่าเปิดดูเพจ https://www.freeburmarangers.org/ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นเพจคริสต์จักรทั่วไป แต่กลับพบว่าประเทศที่เพจนี้ให้ความสนใจกลับเป็นประเทศเมียนมา, ไทย, อิรัค, เคอร์ดิสถาน, ซีเรียและซูดาน ซึ่งจากประเทศที่เขาระบุไว้ในเพจจะเห็นว่าประเทศส่วนใหญ่เหล่านั้นสหรัฐฯ ได้เข้าไปมีบทบาทไม่ว่าจะเป็น อิรัค, ซูดาน หรือซีเรียและสุดท้ายที่ประเทศไทยเองก็เช่นกัน

แม้คำอ้างในเว็บไซต์จะบอกว่า สิ่งที่เขาทำเป็นภารกิจของพระเจ้า แต่สิ่งที่คนทั่วไปเห็นเหมือนพระเจ้าของชายผู้นี้ น่าจะเป็น 'ประเทศสหรัฐอเมริกา' หรือเปล่า?

เรื่องนี้ดูท่าจะเป็นคำถามที่สหรัฐอเมริกาต้องตอบให้ได้ว่า องค์กรนี้ คือ หนึ่งในกลุ่มองค์กรที่บ่อนทำลายประเทศต่าง ๆ ใช่หรือไม่? แล้วใครจะมาตอบเอย่ากันน้า


ที่มา: AYA IRRAWADEE

ค่อย ๆ ขยับไปทีละประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากเมื่อวันที่ 5 พฤกษาคม เวียดนาม มีจำนวนผู้ติดโควิดเพิ่ม +26 ราย และมีขยายเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 21 วัน

เฟซบุ๊ก Biz Laos ได้โพสต์เผยสถานการณ์ระลอกใหม่ของโควิดในเวียดนามว่า...

จากมาตรการกักตัวที่เข้มงวดและการติดตามผู้สัมผัสอย่างกว้างขวาง ทำให้เวียดนามรักษายอดผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศในระดับต่ำ เพียงกว่า 3,000 คน และ มีผู้เสียชีวิต 35 คน

และแล้ว เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา...

...รายงานข่าวในเวียดนาม เผย พบการระบาดภายในชุมชนเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ และ พบผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มในหลายพื้นที่ โดยผู้ติดเชื้อหลายคน...เชื่อมโยงกับผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก หลังจากกักตัวในโรงแรมครบ 2 สัปดาห์

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม จึงได้ตัดสินใจที่จะขยายระยะเวลาการกักตัว เป็นระยะเวลา 21 วัน สำหรับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่เดินทางเข้ามาในเวียดนาม

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากโรงพยาบาลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก ถูกล็อกดาวน์ในวันพุธ (5) หลังจากแพทย์ของโรงพยาบาลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ ยังมีอีก 14 คนที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนแห่งชาติในกรุงฮานอยตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้ป่วย รวมถึงญาติที่เดินทางมาเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาที่ประกาศล็อกดาวน์ ราว 800 คน ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 อาทิตย์

ยิ่งไปกว่านั้นทางเวียดนามยังตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนที่มีการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในอินเดียอีกด้วย

สำหรับการระบาดในชุมชนครั้งล่าสุด ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองหายเซวือง ทางภาคเหนือ สามารถควบคุมการระบาดได้สำเร็จเมื่อเดือนที่ผ่านมา

แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังในระดับสูงท่ามกลางการระบาดที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวมถึงกัมพูชาและลาว ซึ่งทั้งสองประเทศมีพรมแดนติดกับเวียดนามทั้งสิ้น


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=2316625165136059&id=100003657944356


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top