Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

"เสกสกล" เผย ทนาย “บิ๊กตู่” เตรียมแจ้งความ "พรรคก้าวไกล" ทำเสื่อมเสีย เหตุโพสต์ภาพ “นายกฯคู่ ธรรมนัส” หลังรอดคดี แนะอย่าใช้วิชามารใส่ร้ายคนอื่น 

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่พรรคก้าวไกลโพสต์ภาพและข้อความทางเฟซบุ๊กของพรรค โดยเป็นภาพร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ คู่กับนายกรัฐมนตรี พร้อมวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ศาลตัดสิน ว่าร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งทุกคนต้องยอมรับ และไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ พรรคก้าวไกลไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกล่าวใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ

นายเสกสกล กล่าวว่า นายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และหัวหน้าทีมกฎหมายของนายกฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมหลักฐาน และจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับพรรคก้าวไกล ในวันที่7 พ.ค.นี้ เวลา14.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง ในกรณีนำภาพนายกฯมาโพสต์คู่กับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วเขียนใส่ร้ายนายกฯนำไปโพสต์ในโชเซียล ซึ่งพรรคก้าวไกล ควรยอมรับคำตัดสินของศาลและยอมรับกติกาของบ้านเมือง ไม่ใช่มีเรื่องอะไรที่ทำให้พรรคตนเองไม่สมหวัง ไม่พอใจ ก็จะออกมาตำหนิ เมื่อเป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน ควรทำเป็นตัวอย่าง แต่กลับคิดลบตลอดเวลา ซึ่งไม่ควรกระทำ 

“พรรคก้าวไกล ต้องมีจิตสำนึกทางการเมือง ไม่ควรเอานายกฯมาเกี่ยวข้อง เล่นทิ่มแทงเพื่อให้นายกฯเสียสมาธิที่จะทุ่มเททำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด พรรคการเมืองและนักการเมืองประเภทนี้ ไม่มีประโยชน์และไม่เป็นที่พึ่งพาของประชาชน จ้องแต่จะใส่ร้ายโจมตี สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติประชาชน”

ราเมศ เผย ฝ่ายกฎหมาย นัดถก แก้ รธน เตรียมพร้อม เปิดสภา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อเปิดประชุมสภาว่า ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ช่วงที่ผ่านมา ส.ส.ทุกคนต่างลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ได้ยกร่างไว้เสร็จแล้ว จึงยังไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา คาดว่านายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิป ของพรรคจะได้มีการประสานเพื่อร่วมหารือกันต่อไป 

ในส่วนของฝ่ายกฎหมายพรรค โดยนายถวิล ไพรสณฑ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายได้มีการนัดประชุมทางออนไลน์ในวันพุธที่ 12 พฤษภาคมนี้เวลา 13.00 น เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ ซึ่งมีบางฉบับที่ได้แก้ไขรายละเอียดเล็กน้อย ในร่างที่เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง โดยจะให้เป็นไปเช่นเดิมคือ บุคคลที่พรรคสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เกิน 3 รายชื่อ โดยพรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวก็ได้ เพื่อเปิดให้สิทธิพรรคการเมืองดำเนินการตามที่เหมาะสม แต่บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีร่างที่ยกร่างไว้ ต้องมาจากบัญชีพรรคการเมืองหรือ ส.ส.เท่านั้น 

ส่วนประเด็นอื่นๆทั้ง 6 ร่างยังเป็นเช่นเดิม พร้อมนำเสนอให้พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมพิจารณาในส่วนของพรรคชัดเจนว่าพร้อมผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตราอย่างเต็มที่ จึงเตรียมความพร้อมไว้เมื่อเปิดสภามาก็สามารถดำเนินการได้ในทันที

“ต้องรอด” ตามหา อาสาสมัครที่พร้อมให้การช่วยเหลือ ด้านงานครัว งานประกอบอาหาร งานทำความสะอาด และงานจัดการส่วนอื่น ๆ เพื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของคลัสเตอร์ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง

“ต้องรอด” ตามหา อาสาสมัครที่พร้อมให้การช่วยเหลือ ด้านงานครัว งานประกอบอาหาร งานทำความสะอาด และงานจัดการส่วนอื่น ๆ เพื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของคลัสเตอร์ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง

โดยสถานที่ทำงานอยู่นอกพื้นที่ชุมชนที่เกิดการระบาดและมีความปลอดภัยจากมาตรการณ์การป้องกันการติดเชื้อ โดยรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนี้

Team Cleaning & Screening

อาสาสมัครทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ : ตรวจสอบ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อของที่รับบริจาค รถยนต์เข้ามาบริจาคและรับสิ่งของ ทำความสะอาดพื้นที่และเก็บล้างอุปกรณ์ โดยจะแบ่งเป็น 3 แผนก ดังนี้

1.) ฝ่ายเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งของ

2.) ฝ่ายฉีดพ่นฆ่าเชื้อรถยนต์

3.) ฝ่ายทำความสะอาดและเก็บล้างอุปกรณ์

Stock & Store (Fresh & Dry)

อาสาสมัครด้านจัดการสต๊อกวัตถุดิบ : จัดสรรวัตถุดิบทั้งของสดและของแห้ง / ประมาณการณ์วัตถุดิบ / ดูแลไม่ให้วัตถุดิบหมดอายุก่อนการผลิต / จัดเตรียมวัตถุดิบก่อนการปรุง / แจ้งข้อมูลวัตถุดิบที่ต้องการให้กับอาสาสมัครด้านข้อมูล โดยจะแบ่งเป็น 3 แผนก ดังนี้

1.) ฝ่ายคลังอาหารสด

2.) ฝ่ายคลังอาหารแห้ง

3.) ฝ่ายคลังเครื่องอุปโภค

Prepare & Cook

ทีมประกอบอาหาร คอยดูแลจัดการงานครัวทั้งหมด คอยดูแลเรื่องการปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่มีอยู่ตามเมนูที่ได้จัดสรรไว้ โดยจะแบ่งเป็น 2 แผนก ดังนี้

1.) ฝ่ายพ่อครัว แม่ครัว

2.) ฝ่ายผู้ช่วยงานครัว

Communication & Information

อาสาสมัครด้านสื่อสารและประสานงาน : คอยให้ข้อมูลและสื่อสารระหว่างผู้ที่เข้ามาบริจาค ผู้ที่เข้ามารับบริจาค และประสานงานด้านรายละเอียดระหว่างการดำเนินงานจากกองอำนวยการไปยังส่วนอื่น ๆ โดยจะแบ่งเป็น 2 แผนก ดังนี้

1.) ฝ่ายประสานงาน

2.) ฝ่ายสื่อสารข้อมูล

Data Collection

อาสาสมัครด้านเก็บข้อมูล : เก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อการบริหารจัดการสัดส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของที่ได้รับบริจาค ของที่ส่งต่อให้ผู้รับบริจาค ข้อมูลปริมาณคงเหลือของวัตถุดิบและเครื่องมือต่าง ๆ จากอาสาสมัครกลุ่มอื่น ๆ เพื่อส่งต่อให้กับกองอำนวยการ

Headquarter

อาสาสมัครกองอำนวยการ : คอยรับข้อมูลจากอาสาสมัครที่ทำการจัดข้อมูลและอาสาสมัครที่ทำการประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ และคอยบริหารให้ขั้นตอนการทำงานของแผนกต่าง ๆ เป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้และคอยแจ้งรายละเอียดที่ต้องการให้กับทีมงานฝ่ายต่าง ๆ ได้รับทราบ โดยจะแบ่งเป็นสามแผนก ดังนี้

1.) ฝ่ายดูแลและสวัสดิการอาสาสมัคร

2.) ฝ่าย ขนส่ง (โลจิสติก) ศูนย์

3.) ฝ่าย คัดกรองและรับสมัครอาสา

 

ทั้งนี้ ทีมงานจะติดต่อกลับหาท่านเมื่อได้กำหนดการ โดยทุกท่านสามารถลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครได้ตาม QR Code ในรูปและที่ Link ด้านล่าง

Link: http://j.mp/6mayarsa

ยก ราชกิจจาฯ “เสรีพิสุทธ์” ตรวจบ้านหลวง “นายกฯ” ต้องขออนุญาต “สำนักงานพระราชวัง” ผ่านทาง หลังราชกิจจา ประกาศโอนกำลังพล-หน่วย สังกัดหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ปี 2562

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จากกรณี กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธาน จะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม กรณีการอยู่บ้านพักรับรองในค่ายทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

ตามที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องให้ กมธ.ตรวจสอบตามความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 128 ที่รับผลประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมทำหนังสือขออนุญาตจากกองทัพบกนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางไปยังบ้านพักรับรอง พล.อ.ประยุทธ์  ต้องใช้ทางผ่านเข้า-ออก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานและเป็นพื้นที่ปิด ต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวังเพื่อขอผ่านทาง  ส่วนรายละเอียดการเข้าพักบ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึง ค่าน้ำ-ค่าไฟ  กองทัพบก เคยส่งข้อมูล ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และ สำนักงาน ป.ป.ช. ก่อนหน้านั้นแล้ว 

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกำหนด โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562
              
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
 
โดยที่เป็นการสมควรโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์
              
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกำหนดนี้เรียกว่า “พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562”

 มาตรา 2 พระราชกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้โอนบรรดาอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศกำหนด ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในพระองค์

มาตรา 4 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกำหนดนี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

“นายกฯ ห่วงประชาชนหลังสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สั่งด่วนทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 


มีความห่วงใยประชาชนจากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้  ส่งผลให้อาจมีภัยอันตรายที่เกิดจากน้ำท่วมและจากพายุได้ จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เพื่อเข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วยความเร่งด่วน อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่ง และสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงได้ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล หากมีฝนตกหนัก อาจมีปัญหาการจราจรติดขัดได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้รับทราบว่ามีการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะ และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่มีน้ำท่วมขังและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกในปริมาณมากซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรในบางพื้นที่ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เตรียมจัดเจ้าหน้าที่หน่วยเบสของสำนักการระบายน้ำ และของสำนักงานเขตพื้นที่เข้าเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ 

“ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 64  กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 64 ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

บอร์ด ธอส. เคาะ 2 มาตรการพักหนี้รายย่อย 3 เดือน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธอส. เห็นชอบให้ จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะออก 2 มาตรการใหม่ พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และ พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ระหว่างวันที่ 11-29 พ.ค. 2564 

สำหรับมาตรการพักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน (1 พ.ค. – 31 ก.ค. 2564) สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ไม่เคย หรือเคยใช้ หรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการความช่วยเหลือเดิมของธนาคาร และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด-19 รวมถึงยังไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามสัญญาเงินกู้ 

ส่วนมาตรการพักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน (1 พ.ค. – 31 ก.ค. 2564) สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะพ้นสิทธิการปรับโครงสร้างหนี้ที่ใช้อยู่หากใช้มาตรการที่ 14 และต้องเป็น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจากโควิด-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้หรือตามคำพิพากษา

ผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร ฟู้ดแพชชั่น เจ้าของแบนด์ บาร์บีคิว พลาซ่า โอด ระบาดระลอก 3 แสนสาหัส ฝากถึงผู้รับผิดชอบ หลังพบยอดขายในหนึ่งวันของร้านอาหารในเครือ ตกต่ำสุด ๆ ปิดยอด 0 บาท เชื่อร้านอื่น ๆ ก็เจอวิกฤติเหมือนกัน

นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาดกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารบาร์บีคิว พลาซ่า, จุ่มแซ่บฮัท, ฌานา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงยอดสั่งซื้ออาหารในเครือ 0 บาท และยังฝากถึงผู้มีส่วนรับผิดชอบในประเทศไทย ว่า...

หลายวันที่ผ่านมา ถูกชวนคุยเรื่องสถานการณ์ร้านอาหารเยอะไปหมด บางเรื่องก็ตอบได้ บางเรื่องก็ตอบไม่ได้

Covid 3 ครั้งนี้ ไม่ต่างกับซูนามิ!! กระหน่ำซ้ำในที่เดิมแบบที่ผู้คนรู้ทั้งรู้ว่า...ซูนามิมา แต่ไม่รู้จะหนีตายไปทางไหน...

Food passion เองก็โดนซูนามิครั้งนี้ไม่ต่างกับพี่น้องร้านอาหารอื่น ๆ เมื่อวาน 1 ในสาขา 1 ในแบรนด์ในเครือ 0 บาทคะ!!

แต่บอกตรง ๆ เราที่เจอแบบนี้ อาจเป็นแค่ 1 ในตัวอย่างของร้านอาหารที่เจอแบบนี้ ยังมีร้านเล็ก ๆ ร้านกลาง ๆ หรือร้านใหญ่ ๆ ก็คงไม่ต่างกัน

ขอฝากโพสนี้ไปถึงผู้มีส่วนรับผิดชอบในประเทศไทย หากยังดำเนินแบบนี้ธุรกิจรายย่อย ๆ ที่ไม่มีสายป่าน ไม่มี connection เขาจะอยู่อย่างไร...ไม่ใช่แค่ธุรกิจร้านอาหาร แต่ยังมีอีกหลายธุรกิจที่กำลังนับถอยหลังระเบิดเวลา...กับถังออกซิเจนถังสุดท้าย

มาถึงบรรทัดนี้ ไม่ใช่แค่คิดให้บริษัทตัวเองรอด ยังคิดเผื่อผู้คนที่เดือดร้อน ผ่านทั้งตัวเองและผ่านไปยังบริษัท

แม้ไม่ได้อยู่ในบทบาทนั้น แต่คิดว่าในฐานะคนไทยคนนึงที่ยังมีสมอง สองมือ ใจที่แข็งแกร่ง ก็คงยังเป็นสิ่งที่ควรทำต่อไป...

รมว.สุชาติ สั่ง ปูพรมตรวจโควิด-19 เชิงรุก แก่แรงงานในโรงงาน 7 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย นายกรัฐมนตรีห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ในสถานประกอบการในพื้นที่สีแดงเข้ม เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร และพระนครศรีอยุธยา ร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมบูรณาการทำงานเชิงรุก จัดรถโมบายตู้ตรวจโรคไปให้ลูกจ้างที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ถึงสถานประกอบการ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากสภาพปัญหาในปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง และมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีดำริกำชับให้กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพิ่มจุดตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกแก่แรงงานในสถานประกอบการเพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมในพื้นที่ เพื่อบูรณาการทำงานเชิงรุก จัดรถโมบาย ตู้ตรวจโรคไปตั้งยังสถานประกอบการให้ลูกจ้างที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ทราบผลภายใต้ 24 – 48 ชั่วโมง ซึ่งหากตรวจพบเชื้อก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการควบคุมดูแลรักษาตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยลูกจ้างในสถานประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจ

"ผมได้กำชับให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้มได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนายจ้างสถานประกอบการ เพื่อให้ลูกจ้างรู้จักวิธีการป้องกันจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 รวมทั้งให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในกลุ่มแรงงานไทย แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ รวมทั้งการออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในทุกกรณีและจัดให้มีมาตรการเฝ้าระวังและตรวจสอบคัดกรองโรค เช่น การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ " นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

กองทัพอากาศจัดเที่ยวบินพิเศษ เชิญสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปช่วยเหลือชาวอินเดียที่ติดเชื้อ COVID-19

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาเครื่องผลิตออกซิเจนและถังบรรจุก๊าซออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์ เพื่อพระราชทานสำหรับช่วยเหลือชาวอินเดียที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ณ สาธารณรัฐอินเดีย

กองทัพอากาศได้จัดเที่ยวบินพิเศษเชิญสิ่งของพระราชทานดังกล่าว โดยจัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (A 340-500) จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเชิญเครื่องผลิตออกซิเจนและถังบรรจุก๊าซออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์พระราชทาน ในการช่วยเหลือชาวอินเดียที่ประสบภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ไปยังสถานเอกอัครรราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย กำหนดเดินทางในวันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เวลา 07.00 น. เดินทางไปกลับในวันเดียวกัน (สำรองวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2564)

พร้อมกันนี้ได้รวบรวมสิ่งของช่วยเหลือชาวอินเดียจาก สมาคมอินเดียในประเทศไทย, หอการค้าไทยอินเดียและสมาคมศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีอินเดียในประเทศไทย โดยสิ่งของที่ลำเลียงไปช่วยเหลือชาวอินเดียที่ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งหมด ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน 70 เครื่อง ถังออกซิเจน 300 ถัง และอุปกรณ์ควบคุมปริมาณออกซิเจน 200 ชุด

โดยในการเดินทางกลับจะนำข้าราชการของสถานเอกอัครราชทูตที่ติดเชื้อ COVID-19 กลับมารักษาพยาบาลที่ประเทศไทย และรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยตามที่ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำการปฏิบัติและสนับสนุนแพทย์และพยาบาลในการปฏิบัติภารกิจนี้ด้วย

สปสช.พร้อมเยียวยา! ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดทุกคน

ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีอาการไม่พึงประสงค์ แม้จะพบในสัดส่วนที่น้อย รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกกรณี

ล่าสุด บอร์ด สปสช. แจ้งว่าพร้อมช่วยเหลือดูแลคนไทยทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม บัตรทอง สิทธิข้าราชการ และบุคลากรสาธารณสุข ที่เป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

โดยจะเริ่มคุ้มครอง ตั้งแต่วัคซีนเข็มแรกที่ฉีดให้คนไทยเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ดำเนินการช่วยเหลือตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545

ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นเรื่องได้ที่โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเขต สปสช. ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณาอัตราช่วยเหลือเยียวยาภายใน 5 วัน


ที่มา : https://www.facebook.com/154553218343826/posts/1169099976889140/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top