Saturday, 21 June 2025
TheStatesTimes

‘โรม’ เดือด เดินหน้าฟ้องหมิ่นฯ ‘สิระ – ชัยยันต์’ กรณีแถลงกล่าวหาใช้เจ้าหน้าที่รัฐคุกคาม ไล่ที่ชาวบ้านเกาะงำ จ.ภูเก็ต เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมาพร้อมทีมทนายส่วนตัวเพื่อยื่นฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส. ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินมาที่ศาลอาญา เพื่อจะมาฟ้องนายสิระ ในฐานะประธาน ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงนายชัยยันต์ เนื่องจากทั้งสองคนได้แถลงข่าวในลักษณะที่พยายามทำให้สังคมเข้าใจว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องใน การสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จับเด็กไล่ที่ชาวบ้านออกจากที่ดินที่เป็นที่อยู่อาศัยบนเกาะงำ จ.ภูเก็ต การแถลงข่าวดังกล่าวตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนในเวลานั้นเป็น ส.ส. ที่มีอายุงานประมาณ 6 เดือน และเป็น ส.ส. ฝ่ายค้านคงไม่สามารถไปสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำการในลักษณะดังกล่าวได้

ดังนั้นการใส่ความดังกล่าวตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่หมิ่นประมาททำให้ตนได้รับความเสียหาย จึงขอมาใช้สิทธิ์ทางศาลเป็นการคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา มูลค่าการฟ้องของทางแพ่งจะอยู่ที่ 50 ล้านบาท ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร แต่ก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว

เมื่อถามว่าการแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เกิดขึ้นก่อนช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่กี่วันเป็นน่าจะเป็นวันที่ วันที่ 8 - 9 ก.พ. ตอนนั้นตนเองก็ได้ยืนยันกับทางสื่อมวลชนโดยมีรูปภาพ ข้อมูล หลักฐานพร้อมที่จะยืนยันได้ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแน่นอน ว่า โดยการชี้แจงของตนก็ชัดเจน เพราะเท่าที่ทราบนายสิระ และนายชัยยันต์ ก็ไม่ได้มีการขยายความต่อมากนัก แต่สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว ตนขอใช้สิทธิ์ทางศาลอยู่ดี ไม่เช่นนั้นก็จะมีกรณีการใส่ความ และเผยแพร่กระจายออกไปทำให้ไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้ทั้งหมด

นายรังสิมันต์ เปิดเผยต่อว่า จริง ๆ ตนผิดหวังและเกรงใจ เนื่องจากว่านายชัยยันต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน เหมือนกับพรรคก้าวไกล แต่กรณีนี้ตนคิดว่าเป็นกรณีส่วนบุคคลดำเนินการแถลงข่าวดังกล่าว และตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยแล้วเรื่องที่จะต้องมาใช้สิทธิ์ทางศาลในวันนี้

อุทัยธานี - แก้ปัญหาภัยแล้ง ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อส่งเสริมการเกษตร อำเภอทัพทัน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร. อลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี  จังหวัดอุทัยธานี พร้อมหน่วยข้าราชการและผู้อำนวยการ  ศูนย์อำนวยการ จิตอาสาพระราชทาน จังหวัดอุทัยธานี ดำเนินการร่วมตรวจประเมินผลการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ประจำปี 2564 ร่วมกับ พันโท ผดุงศักดิ์ ปิ่นเกตุ หัวหน้าชุดประเมินผลภัยแล้งที่ 9​ และคณะ สถานที่ ณ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร  บ้านสวนขวัญ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ บ้านสวนขวัญ หมู่ที่ 13 ตำบลตลุกดู่  อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี 

ทั้งนี้นาง ปรียารัตน์ ลานพลอย ท้องถิ่นอำเภอทัพทัน  นาย สุรศักดิ์ ภักดี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม  และจิตอาสาพระราชทานจังหวัดอุทัยธานี​ รวมทั้งสิ้น 78 คน ดำเนินการร่วมตรวจประเมินผลการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าแบบจุ่มใต้น้ำ พร้อมการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ตำบลตลุกดู่  อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี 


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี  ศรีอนันต์

พท.ชี้! เหตุเข่นฆ่า ปชช.เมียนมา วัดระดับความเป็นมนุษย์ของ "ประยุทธ์" ซัดเลิกหนุนทหารพม่า

วันที่ 2 เมษายน 2564 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท.กล่าวกรณีทหารเมียนมากระทำรุนแรงเข่นฆ่าประชาชนและชาวกะเหรี่ยงไทใหญ่จนบาดเจ็บล้มตาย สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวโลกเป็นอย่างมากว่า กะเหรี่ยงที่ยังมีชีวิตรอดนับพันคนหลบหนีเข้ามาในชายแดนไทยหวังรักษาชีวิต แต่กลับถูกกีดกันไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ โดยทหารไทยที่บริเวณแม่สามแลบ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ตรึงกำลังกั้นแนวชายแดน ห้ามไม่ให้ผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยงข้ามแดนเข้ามา ถือเป็นการกระทำที่สวนทางคำพูดที่สวยหรูของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกว่าพร้อมเปิดรับผู้ลี้ภัยและดูแลเต็มที่ 

จึงปฏิเสธได้ยากว่าประเทศไทยไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดการกระทำที่เข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การผลักดันคนหนีตายให้กลับไปในแดนสงครามจึงเท่ากับไล่เขาให้ไปตาย ในทางปฏิบัติแม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาผู้ลี้ภัยปี ค.ศ.1951 และไม่มีกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการ แต่ไทยเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารด้านประเด็นผู้ลี้ภัย (Executive Committee : ExCom) ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และยังอยู่ในภาคีกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างน้อย 7 ฉบับ ดังนั้นรัฐบาลไทยควรปฏิบัติกับชาวกะเหรี่ยงตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลเหล่านี้ โดยควรให้ที่พักพิงหรือปัจจัยสี่ตามสมควรแก่การดำรงชีวิตอยู่ หากสถานการณ์สงบลงแล้วจึงควรเนินการส่งผู้ลี้ภัยกลับถิ่นในภายหลัง

นางสาวอรุณี กล่าวต่อว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ชาติที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งประชาคมอาเซียน อีกทั้งยังเคยเป็นประธานอาเซียนมาก่อน แต่ท่าทีของไทยต่อสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันกลับไม่ชัดเจน แม้กระทั่งในเรื่องมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานที่ควรกระทำ ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งจึงอยากขอร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์เห็นคุณค่าของชีวิตคนให้เท่ากัน โดยขอให้ดูแลผู้ลี้ภัยจากเมียนมาทันทีภายใต้การดูแลป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น และอย่าให้เกิดปัญหาซ้อนปัญหาตามมาภายหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมาขณะนี้คือสงคราม เหตุใดเพื่อนบ้านอย่างไทย จึงสนับสนุนอุ้มชูทหาร แต่นิ่งเฉยดูดายกับการเข่นฆ่าประชาชน เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นการวัดระดับความเป็นมนุษย์ วัดระดับสติปัญญาและความสามารถในการบริหารจัดการปัญหาระหว่างประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นอย่างดี

ประเมินใช้จ่ายหยุดยาวสงกรานต์แค่คนละ 5,700 บาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลสำรวจการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ พบว่า ในวันหยุดยาว 6 วันระหว่างวันที่ 10 - 15 เม.ย.นี้ การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ 5,700 บาท โดยการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 24,000 ล้านบาท หดตัว 4% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงสังสรรค์รับประทานอาหารมากที่สุด อยู่ที่ 9,795 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนวันหยุดเพื่อสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมอื่น ๆ ปรับตัวลดลงทั้งหมด

สำหรับสาเหตุของค่าใช้จ่ายที่ลดลงนั้น เป็นเพราะความกังวลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 และความเสี่ยงในการไม่มีงานทำหรือภาระค่าครองชีพ สะท้อนแนวโน้มสถานการณ์กำลังซื้อในระยะข้างหน้าจึงยังมีความเปราะบาง ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเวลาและรูปแบบที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในช่วงนี้

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจมีสัดส่วน 67% ได้รับสิทธิจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน และมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ได้รับสิทธิ เห็นว่า ปัจจัยด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมีผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์

พังงา - เริ่มแล้ว...งาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” ประจำปี 2564

เมื่อคืนวันที่ 1 เมษายน 2564  ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า อ.เมืองพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวเปิดงาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” ประจำปี 2564 เพื่อหารายได้ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้ รวมทั้งกิจกรรมสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยมี นายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการต่าง ๆ และภาคเอกชน ร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้

นางวิภาดา ทิพญพงศ์ธาดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา กล่าวว่า งาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” จัดในระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางจังหวัดพังงาจึงจำเป็นต้องลดความแออัดของผู้คนที่มาเที่ยวชมงานลง ดังนั้นในปีนี้จึงมีการตรวจวัดตามมาตรการก่อนเข้างาน ไม่มีการออกร้านมัจฉากาชาดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเบียดเสียดกันขึ้น แต่ยังคงมีกิจกรรมต่าง ๆ ทุกคืนตลอดงาน เช่น การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ การประกวดร้องเพลงของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าบาติก การจำหน่ายสลากการกุศล การเปิดรับบริจาคเงินเพื่อใช้ในกิจการของเหล่ากาชาด การแข่งขันกีฬา การประกวดผลผลิตทางการเกษต

นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจำหน่ายสินค้าโอทอปของดีเมืองพังงา สินค้าพื้นเมืองพื้นบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเบ็ดเตล็ด ส่วนเวทีกลางจะมีการแสดงของศิลปินนักร้องชื่อดังทุกค่ำคืน ทั้งนี้ก็เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปใช้ในกิจการสาธารณกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อนจากภัยต่าง ๆ เช่นช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ มอบทุนเด็กนักเรียนยากจน เป็นต้น  สำหรับผู้ที่บริจาคเงินสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้เป็น 2 เท่าของยอดที่บริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ส่วนสลากการกุศลจำหน่ายในราคาใบละ 100 บาท ลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะ Mitsubishi รุ่น Triton สร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย รวม 300 รางวัล


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี  

แบงก์ชาติสำรองเงินสด 1.6 หมื่นล. รับคนเบิกใช้สงกรานต์

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือน เม..นี้ ธปท. ประเมินว่า ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ โดยธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์เพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายปกติ เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2563 ที่มีการเลื่อนวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และใกล้เคียงกับปี 2562

ทั้งนี้การประเมินดังกล่าว สะท้อนถึงมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในขณะที่แนวโน้มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย  ธปท. ยืนยันว่า จะเตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ

โฆษกรัฐบาล เผย เตรียมใช้แอปพลิเคชันใหม่ "กระเป๋าสุขภาพ - หมอพร้อม" ให้ ปชช. ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ย้ำ นายกฯหวังคนไทยได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่า 60 % เพื่อพร้อมเปิดประเทศได้ปี 65 

วันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า จากการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดเล็กที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเมื่อช่วงเช้า ได้มีการพูดถึงการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนรับวัคซีนที่ขณะนี้ได้ทยอยจัดสรรเข้ามาในประเทศ และได้ทยอยฉีด เพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัดโดยได้พิจารณาระบบแอปพลิเคชันเพื่อให้ประชาชนลงทะเบียน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและกระจายที่ถูกต้อง และเก็บข้อมูลได้ครบถ้วนสมบูรณ์ 

เป็นการต่อยอดจากแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” มาเป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าสุขภาพหรือ "Health wallet” ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย พร้อมประสานหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข จัดทำแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม" เพื่อบริหารจัดการลงทะเบียนให้ประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีน โดยจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ ให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการบริหารจัดการให้ประชาชนคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อจะได้เปิดประเทศอย่างเต็มที่ตามที่ได้เคยพูดกันไว้ โดยนายกฯต้องการให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ในปลายปี 64 จะทำให้เปิดประเทศได้อย่างเป็นทางการได้ต้นปี 65

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ‘สามารถ เจนชัยจิตรวนิช’ เย้ย ‘ปิยะบุตร’ เปรียบดัง ‘มวยไม่มีราคา ม้าไม่มีชั้น’ ไม่ให้ราคา ปมล่า 1 ล้านรายชื่อ รื้อระบอบประยุทธ์ ชี้สุดสงสาร ยิ่งนานวันคนติดตามยิ่งน้อยลง

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ว่า ตนได้รับข้อมูลจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ส่งมาให้กรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ต้องการที่จะล่ารายชื่อ 1 ล้านรายชื่อ เพื่อ "ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์" ในวันที่ 6 เม.ย.64 โดยตนคิดว่าคนอย่าง นายปิยบุตร เป็นคนไม่มีราคา ไม่มีค่าพอที่จะให้ความสำคัญ และคงไม่มีใครบ้าจี้ไปลงชื่อเพราะกลัวว่าในอนาคตอาจจะต้องเดือดร้อนหรือติดคุกตามไปด้วย

“ทั้งนี้ ผมก็อยากตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพราะมั่นใจว่าจะได้รับเสียงจากประชาชนเพราะทุกวันนี้ก็มีชาวบ้านเสนอมาว่าให้ช่วยบอก นายปิยบุตร ออกนอกประเทศไปเสียที หากมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อนายปิยบุตรจริง คาดว่าคงมีคนเกือบทั้งประเทศที่จะออกมาลงชื่อขับไล่ นายปิยบุตร ออกนอกประเทศ แต่จริงแล้วไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจที่จะขับไล่ใครคนใดออกนอกประเทศจริง มีแต่คนที่ไม่อยากอยู่บ้านไหนก็สามารถเดินทางไปบ้านอื่นได้ ตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หากไม่พอใจกฎหมายรัฐหรือเมืองไหนก็สามารถย้ายถิ่นฐานไปอยู่รัฐอื่นได้”

นายสามารถ เผยอีกว่า นายปิยบุตรก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่พอใจกฎหมายในประเทศไทย ไม่พอใจระบบสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนทั้งประเทศ นายปิยบุตรก็ควรเดินทางออกไปนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศที่อยากจะอยู่แต่ไม่รู้ว่าประเทศนั้นๆ เขาอยากจะให้ นายปิยบุตร อยู่หรือไม่เพราะกลัวว่าอาจจะไปเผาบ้านเมืองเขาอีก โดยตนขอยกคำโบราณว่า "เกิดเป็นคนต้องรู้จักสำนึกบุญคุณ ชีวิตไม่มีทางมืดมน มีแต่จะรุ่งโรจน์เฟื่องฟู" ที่ยกขึ้นมาก็เพื่อเตือนสติ นายปิยบุตร อีกทั้ง ทุกวันนี้ตนรู้สึกสงสาร นายปิยบุตร เพราะยิ่งนานวัน คนที่เดินตามยิ่งน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งเทศบาลหรือท้องถิ่นที่ผ่านมา ทีมของคณะก้าวหน้าก็ได้แค่ 10 เทศบาลเท่านั้นจากทั้งหมด 2,472 แห่ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์เสียด้วยซ้ำ

นายสามารถ เผยต่อว่า การที่ นายปิยบุตร จะมาขอรายชื่อไล่ระบอบประยุทธ์นั้น ขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่มี “ระบอบประยุทธ์” ประเทศไทยมีแต่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งคนไทยเทิดทูนไว้เหนือเกล้า เพราะคนไทยรักสถาบันพระมหากษัตริย์ และวันที่ 6 เม.ย. ตรงกับวันจักรี ซึ่งพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ และในวันที่1 เม.ย. คือตรงกับวันเลิกทาส สมัยรัชกาลที่ 5 อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านรู้ทัน นายปิยบุตร กันหมดฝากบอกมาว่า “มวยไม่มีราคา ม้าไม่มีชั้น” เหตุจากผลการเลือกตั้งล่าสุดคงจะชัดเจนแล้ว

ศาลปกครอง เพิกถอนคำสั่ง ‘คลัง’ เรียกเงิน ‘ยิ่งลักษณ์’ จ่ายชดเชยทุจริตจำนำข้าวจำนวน 3.5 หมื่นล้าน ระบุ เป็นการทุจริตในระดับปฏิบัติ มีหลายส่วนราชการเกี่ยวข้อง

ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จ่ายค่าชดเชยสินไหมในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังเป็นคำสั่งมิชอบ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่บุคคลเพียงคนเดียวที่มีอำนาจสั่งการ แต่เป็นการดำเนินการผ่านคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกทั้งยังมีส่วนราชการอื่นๆที่ร่วมพิจารณาด้วย

ศาลฯ ได้รวมพิจารณา 4 คดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี, รมว.คลัง, รมช.คลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง, สำนักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงคลัง, กรมบังคับคดี, อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร

เนื่องจากถูกเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 3.57 หมื่นล้านบาท จากการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและประธาน กขช. ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยังความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการ

โดยศาลพิจารณาแล้ว แม้ฟังได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น การตรวจสอบคุณสมบัติเกษตรกร การลักลอบนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ การเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งการทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นในระดับปฎิบัติการที่มีเจ้าหน้าที่หลายคนเกี่ยวข้อง แต่การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดกลับไม่ได้มีการดำเนินสอบสวนให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่คนใดควรต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใดจากการทุจริต

อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับรู้เฉพาะขั้นตอนการทำเอ็มโอยูเพื่อให้มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ในส่วนการทำสัญญาระบายข้าวไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนการเป็นประธาน กขช.ก็เข้าประชุมครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และมีมาตรการตรวจสอบทุจริตเรื่อยมา จึงไม่ใช่การกระทำที่จงใจปล่อยให้เกิดการทุจริต และไม่ยับยั้งหลังมีหน่วยงานท้วงติง เนื่องจากเป็นการกำกับดูแลของ กขช. ที่มีหลายส่วนราชการ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังรับว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

ขณะเดียวกัน โครงการรับจำนำเป็นนโยบายสาธารณะที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ไม่ใช่นโยบายแสวงหากำไร จึงไม่สามารถประเมินเรื่องความคุ้มค่าจากผลกำไรขาดทุน การคิดคำนวณความเสียหาย โดยไม่หักรายได้จากการระบายข้าวในอนาคต หรือสินค้าเหลือคงคลัง

เสียง (เพรียก) แห่งสายน้ำปัตตานี... ตอนที่ 2

แม่น้ำปัตตานีจัดว่าเป็นสายน้ำสั้นเมื่อเทียบกับแม่น้ำอื่น ๆ เพราะระยะทางยาวไม่เกิน 130 กิโลเมตร หากจ้ำพายคงใช้เวลาไม่เกิน 4 วัน พวกเรามีเวลา 7 วัน จึงมากพอที่จะอ้อยอิ่งและแวะทักทายพูดคุยกับผู้คน ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกับต้องรีบเก็บข้อมูลสายน้ำที่ได้รับการไหว้วานจากเพื่อนด้วย

ต้นน้ำปัตตานี ประกอบด้วยลำคลองสาขามากมายซึ่งไหลมาบรรจบกันจนสายน้ำลึกและใหญ่มากขึ้น จากที่กว้างเพียงไม่กี่เมตร กลายเป็นสิบเมตร ยี่สิบเมตร และกว้างกว่านั้นในช่วงปลายน้ำก่อนที่จะไหลออกสู่ทะเล

ยอมรับว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดของการเดินทางรอบนี้มากนัก เพราะรู้ว่าจะพายกับเพื่อนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เมื่อไม่ได้ทำการบ้านมาล่วงหน้า จึงไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรกับสายน้ำนี้ มีแค่แอบหวั่นใจเล็ก ๆ ลึก ๆ ว่าอาจจะเจอกลุ่มคนน่ากลัวหรือเหตุการณ์อันน่าประหวั่น ส่วนแม่น้ำปัตตานีคิดว่าก็คงไหลเรียบ ๆ ไม่น่าจะมีเกาะแก่งสร้างความตื่นเต้นหวือหวา แต่ปรากฎว่าทุกวันพบเจอเรื่องราวและกิจกรรมสนุกตื่นเต้น ไฮไลต์ของแต่ละวันแตกต่างกันแทบจะโดยสิ้นเชิง อย่างวันแรกนั้นกว่าจะได้เริ่มพายก็บ่ายคล้อยมากแล้ว ล่องกันไปเพียงชั่วโมงครึ่งก็ต้องเริ่มมองหาสถานที่พักแรมแล้ว แต่ก็ดี เพราะถือเป็นการทำความคุ้นเคยกันระหว่างสองเกลอที่เพิ่งเจอกัน

และได้เริ่มสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไปในตัวด้วย รู้สึกดีที่ได้ร่อนเร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แปลกและสงบเช่นนี้ น้ำไหลเอื่อย บางช่วงตื้นเขิน ทำให้ท้องเรือครูดดินหิน ตามโค้งน้ำบางจุดมีกิ่งก้านไม้ขวาง ต้องพายฉวัดตวัดหลบบ้าง สนุกดี เสียงนกดังมาจากสุมทุมพุ่มไม้ ประกอบกับช่วงแดดร่มลมตกด้วยแล้วยิ่งทำให้จิตใจสงบได้อย่างน่าประหลาด พวกเราได้จุดพักแรมริมน้ำ เป็นหาดทรายกว้างพอให้สยายเต็นท์สองหลังกับเหลือพื้นที่สำหรับนั่งเล่นและทำสำรับกับข้าวอีกนิดหน่อย



ตลิ่งสูงสองฝั่งน้ำเป็นพื้นที่สวนยาง เขาต้องปลูกกันเป็นขั้น เพราะเป็นพื้นที่ค่อนข้างชัน มีกล้วยและทุเรียนปลูกสลับในบางพื้นที่ด้วย จุดสังเกตประการหนึ่งที่ค่อนข้างสร้างความประหลาดใจ คือแม้จะเข้าสู่เดือนมีนาคมแล้ว แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังคงเขียวขจี ไม่เห็นไม้สลัดใบชัดเจนเหมือนป่าทางภาคเหนือ ที่ดีกว่ามากหลายเท่าก็คืออากาศสะอาด ไม่มีหมอกควันที่ส่งผลต่อทัศนวิสัยและต่อระบบทางเดินหายใจของคน ต้องบอกว่าคนแถวนี้โชคดีกว่าประชากรชาวเหนือโดยแท้

แต่สิ่งที่ไม่ค่อยต่าง คือมลพิษปนเปื้อนในน้ำ แม้จะลงไปอาบน้ำท่าในน้ำซึ่งคล้ายจะใส แต่ก็รู้สึกแขยงบ้าง ทั้งนี้เพราะรู้เห็นมาว่าต้นน้ำแถวเมืองเบตงนั้นมีสภาพเป็นน้ำครำ ถึงแม้จะเจือจางมาบ้างแล้วจากลำห้วยสาขาอื่น ๆ ก็ตามที แต่ระดับสิ่งเจือปนอันไม่พึงประสงค์น่าจะยังคงมากพอสมควร เช่นนี้แล้ว หากสามารถสะท้อนเสียงกลับไปยังเมืองต้นทางน้ำเสียได้บ้าง ก็อยากให้มีการจัดการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ หากคุณภาพน้ำในแม่น้ำดี ก็จะเอื้อประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศด้วยเช่นกัน


 

มื้อเย็นทำทานกันง่าย ๆ ข้าวหม้อแกงหม้อ กินอิ่มหมีพีมันแล้วนั่งคุยสัพเพเหระกับเขียนอะไรต่อมิอะไรลงสมุดบันทึกสักพักก็แยกย้ายกันมุดเต็นท์ตัวเอง ตกกลางคืนอากาศเย็นเกือบหนาว ต้องนอนห่มผ้า ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะเข้าใจผิด คิดว่าภาคใต้มีแต่ฝนกับร้อนเท่านั้น เสียงน้ำไหลเป็นบทเพลงกล่อมนอนขนานเอก ถือเป็นเสียงดนตรีธรรมชาติบำบัดที่ดีมาก สำหรับตัวเองแล้ว ผมพบว่าการพาตัวเองไปให้ขุนเขาและสายน้ำโอบกอดนั้นเป็นการรีชาร์จแบตเตอรี่ชีวิต หรือเปรียบเทียบคล้ายกับเด็กทารกในอ้อมกอดมารดา หลับปุ๋ยอย่างอบอุ่นปลอดภัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top