Tuesday, 24 June 2025
TheStatesTimes

วันนี้เมื่อกว่า 237 ปีมาแล้ว ถูกบันทึกว่าเป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงทำพิธีอัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต มาประดิษฐานในพระอุโบสถ วันพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นครั้งแรก

กล่าวถึงพระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญที่สุดของประเทศไทย ถูกจารึกว่าปรากฎเมื่อราวปี พ.ศ.1977 และได้ถูกอัญเชิญไปยังดินแดนต่าง ๆ มากมาย โดยในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จดำรงพระยศเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงเป็นแม่ทัพตีได้เมืองเวียงจันทน์ และได้เชิญพระแก้วมรกตลงมายังกรุงธนบุรี โดยพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ยังวัดอรุณราชวราราม และมีพิธีสมโพช 3 วัน

ต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 จึงได้ทรงสร้างพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 2 ปี เมื่อพระอุโบสถสร้างเสร็จ จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญ พระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่วัดอรุณฯ ในเวลานั้น มาประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2327

พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองไทย และมีความสำคัญ โดยเมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างกรุงเทพมหานคร ได้พระราชทานนามพระนครใหม่ให้ต้องกับพระแก้วมรกตว่า ‘กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์’ ซึ่งแปลโดยย่อได้ว่า เป็น ‘เมืองเทวดาที่มีพระแก้วมรกตเป็นหลักชัย’

นอกจากนี้ ที่มาของคำว่า กรุงรัตนโกสินทร์ เกิดจากคำว่า รัตน์+โกสินทร์ โดย รัตนะ แปลว่า แก้ว ส่วน โกสินทร์ แปลว่า สีเขียว กรุงรัตนโกสินทร์ ก็คือ กรุงแก้วสีเขียว ซึ่งก็คือ เมืองแห่งพระแก้วมรกต นั่นเอง

กว่า 237 ปี นับจากอดีตสู่ปัจจุบัน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ยังคงประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองไทยมายาวนาน เสมือนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว และสัญลักษณ์แห่งความดีงาม ที่คนไทยทุกหมู่เหล่า เดินทางมากราบไหว้สักการะกันอยู่เสมอ


ที่มา: https://lanpothai.blogspot.com/2019/03/blog-post.html

ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน มาตรการรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ประเทศเมียนมาร์ ในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก นำคณะผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ประกอบไปด้วย พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก , พลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการกองทัพบก ,พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 ค่ายรัตนรังสรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง

เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามสายงาน ผลการปฏิบัติงานความรับผิดชอบตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านฝั่งเมียนมาร์ และประชุมสรุปแผนการเตรียมการปฏิบัติในการรองรับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ เพื่อให้ทุกส่วนได้เตรียมความพร้อม รองรับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เมียมาร์ ตามหลักมนุษยธรรมโดยใช้พื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นพื้นที่แรกรับ คัดแยก และดูแลจนกว่าสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการผลักดันกลับประเทศตามช่องทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กรณีมีผู้ได้รับผลกระทบอพยพจากสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมาร์เข้ามายังฝั่งไทย ว่ากองทัพภาคที่ 4 ด้วยความรับผิดชอบของกองกำลังเทพสตรี ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ซึ่งทุกพื้นที่ที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา โดยได้มีการจัดเตรียมพื้นที่แรกรับและพื้นที่พักรอชั่วคราวไว้ในพื้นที่ จำนวน 4 แห่ง ของจังหวัดระนอง และชุมพร พร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ


ภาพ/ข่าว : นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ผวาโควิด-19 สั่งงดจัดงานสงกรานต์ ปี 64 ส่วนงานเทศกาลดอกลำดวนบาน ไม่หวั่นเดินหน้าจัดงานชูการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.64 ที่สำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.ศรีเสงี่ยม ณูรักษา ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ได้ลงนามในหนังสือประกาศยกเลิกโครงการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2564 โดยมีข้อความระบุว่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของเด็กและเยาวชน เป็นการเฝ้าระวังและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค-19 เทศบาลเมืองศรีสะเกษ จึงขอประกาศยกเลิกการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ปี 2564 ดังกล่าว

แม้ว่าขณะนี้มีแม่ค้าขายผักชาว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ติดเชื้อโควิด-19 มาจากตลาดบางแควันเดอร์ กรุงเทพฯ จากการระบาดรอบ 2 เป็นรายแรกของ จ.ศรีสะเกษ โดยได้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ แต่ว่า จ.ศรีสะเกษ ยังคงเดินหน้าจัดงาน “เทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ” ประจำปี 2564 ที่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 17 - 21 มี.ค.64 นี้ เช่นเคย

โดยยังคงมีการแสดง แสง สี เสียง เรื่อง อารยธรรมแห่งศรัทธา มนตรา ศรีพฤทเธศวร ตอนสืบราชมรรคา ศรีชยราชา ชัยวรมันที่ 7 ซึ่งจะเปิดแสดงรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 17 มี.ค. 64 นี้ เวลา 19.00 น. และจะทำการแสดงให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเข้ารับชมรอบแสดงจริง ในวันที่ 19 - 21 มี.ค.นี้ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีประชาชนมาร่วมชมงานครั้งนี้เป็นจำนวนมาก


ภาพ / ข่าว : ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

โรงงานผลิตเสื้อผ้าของ Uniqlo แบรนด์ดังของญี่ปุ่น ในพม่า 2 แห่งถูกไฟไหม้หลังเกิดเหตุจลาจลในเมืองย่างกุ้ง หลังจากที่มีการลอบวางเพลิงโรงงานเย็บผ้าของผู้ประกอบการชาวจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โรงงานดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ Fast Retailing ผู้ผลิตเสื้อผ้าหลายแบรนด์ดังของญี่ปุ่น ได้แก่ Uniqlo GU ที่เพิ่งขยายโรงงานผลิตเสื้อผ้าในพม่าถึง 6 แห่ง เพื่อเป็นฐานการผลิตหลักให้กับโรงงานแม่ในญี่ปุ่น

แถมในจำนวนนั้นเป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้งถึง 5 แห่ง หนึ่งในจุดศูนย์กลางของการประท้วงที่รุนแรงที่สุดในพม่า ที่ตอนนี้รัฐบาลทหารพม่าได้ประกาศกฎอัยการศึกครอบคลุมในหลายเขตของเมือง

แต่แล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางบริษัทที่ญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันว่าโรงงานผลิตเสื้อของ Uniqlo ได้ถูกมือมืดลอบวางเพลิงถึง 2 แห่งในช่วงวันอาทิตย์ที่เกิดการจลาจล และกล่าวว่าโรงงานถูกระบุเป็นเป้าหมายในการโจมตี และตอนนี้กำลังประเมินมูลค่าความเสียหาย แต่ยังโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในโรงงาน

ในพม่าเริ่มมีผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุน สร้างโรงงานผลิตสินค้าในพม่ามากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ผลิตแบรนด์ Uniqlo ตั้งใจจะใช้พม่าเป็นฐานการผลิตสินค้าหลักส่งออกไปทั่วโลก

แต่จากเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วง และเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างดุเดือด ที่ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 180 คน เหตุจลาจล เผาทำลายโรงงาน ทรัพย์สินมีอยู่ทั่วไปและยากจะควบคุม จน ทาง Uniqlo กำลังพิจารณาที่ถอนฐานการผลิตออกจากพม่าไปประเทศอื่นแทนเพื่อความปลอดภัย

ไม่ใช่เพียงแค่โรงงานของจีน และญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบเต็มๆจากเหตุจลาจลวางเพลิง ตอนนี้โรงงานผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่อย่าง H&M ที่มีโรงงานในพม่าถึง 40 แห่ง และอีกหลายเจ้าจำเป็นต้องปิดโรงงานชั่วคราวแล้วในตอนนี้

และหากสถานการณ์บ้านเมืองในพม่ายังคงมีความรุนแรง และยืดเยื้อ นักลงทุนต่างชาติจึงเริ่มคิดจะยุติการดำเนินธุรกิจในพม่า และย้ายฐานออกไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจพม่า ที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ และการผลิตเสื้อผ้า

อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า และสิ่งทอของพม่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากที่พม่าเริ่มเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลพลเรือนตามครรลองประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ด้วยข้อได้เปรียบด้านค่าแรง และบรรยากาศทางการเมืองที่เริ่มกลับมาดีขึ้น เป็นสิ่งจูงใจให้ผู้ประกอบการแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของโลกนำเม็ดเงินมาลงทุนตั้งโรงงานในพม่ากันมากขึ้น จนอุตสาหกรรมนี้กลายเป็นหนึ่งเสาหลักของเศรษฐกิจพม่า

ดังนั้นการลุกฮือของชาวพม่า และสถานการณ์ที่บานปลายก็จะส่งผลต่อการลงทุนของต่างชาติที่เริ่มพิจารณาย้ายฐานลงทุนไปประเทศอื่นที่มีข้อได้เปรียบด้านค่าแรงเหมือนกัน เช่น บังคลาเทศ เวียดนาม อินโดนิเซีย หรือ จีน ที่จะส่งผลเสียต่อการเติบโตของเศรษฐกิจพม่าไปอีกยาว


อ้างอิง :

https://asia.nikkei.com/Spotlight/Myanmar-Coup/Uniqlo-parent-latest-victim-in-Myanmar-garment-sector-violence?fbclid=IwAR3soA0LGFO_RUizpRTa8nj_yG6gDxFUexV03GeiLS7H0nswAy8xLwQL6CU

https://www.japantimes.co.jp/news/2021/03/16/business/corporate-business/myanmar-fast-retailing-fire/


By : Jeans Aroonrat

“นายไพร” ยันศาลชี้ชัด โครงการจัดหาทุนซื้อทองคำ ไม่ใช่เรื่องทุจริต เป็นเรื่องของระเบียน ลั่น ทำไปโดยสุจริตใช้เงินส่วนตัวไปช่วยโครงการหลายล้าน เป็นการปิดทองหลังพระ พร้อมเป็นทน.หาดใหญ่

ที่บ้านพักเขตเทศบาลนครหาด นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้กล่าวเปิดใจกับทีมข่าวสื่อมวลชน ที่มาร่วมทำข่าว ถึงกรณีในเรื่องของการถูกกล่าวหาว่า กระทำการโดยทุจริต เกี่ยวกับโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระพุทธมงคลมหาราช พระประจำเมืองหาดใหญ่

โดยกล่าวว่า ผมมีความตั้งใจที่จะบูรณะพระพุทธมงคลมหาราช องค์พระยืน เนื่องจากตอนผมเข้าไปองค์พระมันมีรอยรั่ว จึงตั้งใจบูรณะให้ดีขึ้น  เมื่อมีเงินแล้วจึงค่อยปิดทอง จึงคิดจะสร้างหลวงปู่ทวดขึ้นมาเพื่อให้คนเช่า ร่วมทำบุญเป็นการหาเงินสัก 60 - 70 ล้านบาทมาบูรณะ  ดังนั้นก็คือจากมูลนิธิสิรินธร ในพระบาทราชูปถัมภ์ซึ่งรับเป็นเจ้าภาพ  ถ้าจะทำขนาดนี้เทศบาลก็ต้องลงทุนถึงเกือบ 40 ล้านถึงจะพอ เพื่อทำพระขึ้นมาชุดหนึ่ง และเมื่อขายแล้วหักต้นทุน ก็จะเหลือให้กำไรประมาณ 70 ถึง 80 ล้าน โดยเห็นว่าถ้าเอามา 30 - 40 ล้านมันดูเยอะ ก็จึงตกลงเอามาเพียงครึ่งเดียวพอ และอีกครึ่งหนึ่งจะไปหาจากยอดจองพระ จึงได้ทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยผ่านสภา และผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นก็ให้การอนุมัติ และดำเนินการตามระเบียบถูกต้องทุกอย่าง

เรื่องนี้ถูกนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามร้องเรียนแล้วป.ป.ช.ก็ชี้ว่าผิด ส่งเรื่องให้อัยการและบอกว่าตนดำเนินการโดยทุจริต เพราะไม่จัดประมูล ซึ่งผมก็สู้กันในชั้นศาลว่า เงินอุดหนุนมันไม่ต้องประมูล คนรับเงินอุดหนุนสามารถรับไปได้เลยและทำตามระเบียบของเขา ทั้งเงิน ทั้งของ เป็นของเขาหมด เว้นแต่จะมีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น เพียงแต่ส่งรายละเอียดว่าใช้จ่ายอะไรบ้างเท่านั้นพอ เช่นเดียวกับการอุดหนุนการจัดงานตรุษจีนให้แก่องค์กรต่าง ๆ ก็ไม่ต้องประมูล ซึ่งศาลวิเคราะห์ทุกอย่างแล้วดูรายละเอียด ศาลบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทุจริต เพราะเงินก็ไม่อยู่ที่นายกไพร พระก็ไม่อยู่ที่นายกไพร เงินก็ส่งให้มูลนิธิสิรินธร ซึ่งก็ทำไปตามนั้นเพียงแต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆเกี่ยวกับบัญชีจองพระนั้น ศาลบอกทำไมไม่ทำตามระเบียบเสีย แล้วขออนุมัติเข้าสภา เลยลงโทษ 157 ซึ่งก็ต้องอุทธรณ์ เงินจองพระ พระก็ยังไม่มีเป็นการจองก่อนล่วงหน้า เงินบัญชีก็ไม่ใช่ของเทศบาลยังไม่ถือว่าเป็นรายได้ของเทศบาล เราจึงประมูลจัดซื้อ จัดจ้างไม่ได้

ดังนั้นต้องชี้แจงและอุทธรณ์เรื่องนี้ไปว่า อย่างนี้มันสุดวิสัย ตรงนี้มันเป็นเพียงเรื่องระหว่างดำเนินการ และต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายอีกหลายเรื่องเช่นค่าจัดทำพระให้เพียงพอต่อการคุ้มค่าและได้กำไรตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ เกี่ยวกับการโฆษณา ค่าพิธีกรรม ค่าแพ็คกิ้งก็ดี และยังมีค่าอื่นๆอีกหลายล้าน  เอามาจากยอดจอง เทศบาลให้มา เพียง 20 ล้านเท่านั้น ยังมีหนี้สินจากการดำเนินโครงการอีกมาก และทำพระได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยอดจองนี้ที่ศาลบอกว่าทำไมไม่ทำแบบเดียวกันกับเงินก้อนแรกจากเทศบาล เลยลงโทษว่าผมไม่ปฏิบัติตามระเบียบให้ครบถ้วน เพราะตรงนี้ทำไมไม่ทำโครงการขึ้นมาไม่จัดซื้อ จัดจ้าง ซึ่งมันทำไม่ได้ และตรงนี้มันเงินข้างนอกไม่ใช่เงินของเทศบาล จึงต้องชี้แจงไปในชั้นอุทธรณ์ต่อไป  .

เพราะเงินยังอยู่กลางอากาศ เงินนี้เมื่อเคลียร์บัญชีกันเสร็จ เหลือพระเท่าไหร่ เหลือเงินเท่าไหร่ มูลนิธิก็จะส่งให้เทศบาลทั้งหมด พระนี่ก็จะเป็นของเทศบาลคนเดียวโดยไม่มีภาระผูกพันใด ๆ อีก ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ส่งเงินไปได้ 10 กว่าล้าน จาก 20 ล้าน  เท่ากับว่าเทศบาลลงทุนเพียง 5 ล้านบาท และยังมีพระรอจำหน่ายอีกเกือบ 100 ล้าน ดังนั้นจึงไม่เสียหายเลย แต่เขาบอกว่าผิดที่ระเบียบ ผิดที่ขั้นตอนการปฏิบัติซึ่งความจริงแล้วขั้นตอนก็ไม่ผิด ระเบียบก็ไม่ผิด และผมก็ไม่ทุจริต ผมได้ทำอย่างดีที่สุด ซึ่งผมเองก็ช่วยด้วยเงินส่วนตัวไปหลายล้านบาท โดยถือว่าเป็นการร่วมทำบุญเป็นการปิดทองหลังพระโดยไม่เคยบอกใครและไม่เคยไปอวดอ้างความดีอะไรกับใคร ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผมผิดทั้ง ๆ ที่ผมกล้าเสียสละขนาดนี้ และผมก็หมดไปหลายล้าน ผมจึงไม่ทุจริตแน่นอน และศาลก็บอกแล้วว่าไม่ทุจริตจึงยกฟ้องในข้อกล่าวหาว่าทุจริต นอกจากในเรื่องของระเบียบ

ที่สำคัญที่สุด เทศบาลก็ไม่ได้เสียหาย ซ้ำยังได้ประโยชน์มาก และอีกประเด็นหนึ่งผมยืนยันได้ว่าไม่ผิดระเบียบแน่นอน ดังนั้นการที่ผมจะลงสมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ครั้งนี้จึงมั่นใจว่า ไม่ต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกแน่นอน

ดังนั้นจึงขอยืนยันว่าเทศบาลนครหาดใหญ่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ตนก็จะต้องชี้แจงข้อกฎหมายที่เราไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และยื่นอุทธรณ์ ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นการทุจริต แต่เป็นเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ ซึ่งก็ยืนยันว่าดำเนินการโดยถูกต้อง มีเจตนาที่บริสุทธิ์ เทศบาลไม่เสียหายแต่ยังได้ประโยชน์ และได้กำไรจากโครงการนี้มหาศาล


ภาพ/ข่าว : นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ประธานรัฐสภา ‘ชวน หลีกภัย’ เห็นใจคนคิดแก้รัฐธรรมนูญ ชี้รัฐธรรมนูญ 60 เขียนให้แก้ยาก เปิดช่องแก้รายมาตราง่ายกว่า

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เวลา 08.05 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการดำเนินการต่อไปภายหลังที่ประชุมรัฐสภาลงมติโหวตไม่เห็นชอบการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ในวาระ 3 ว่า จบไปแล้ว ส่วนการเสนอแก้รายมาตรานั้น คงต้องเสนอในสมัยประชุมหน้า

ขณะที่ประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับและการทำประชามติ ยังไม่มีอะไรชัดเจน ทางสภาเองก็ได้มีการหารือว่าจะมีกระบวนการในการทำอย่างไร ซึ่งยังตอบไม่ได้ แต่ถ้ากรณีที่จะทำใหม่ หากพูดตามจริงในขณะนี้หน้าตาเป็นอย่างไร จะเริ่มอย่างไร ก็คงไม่มีใครตอบได้

นายชวน กล่าวว่า "หลังจากปิดสมัยประชุมในวันนี้ ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปศึกษารายละเอียด ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เน้นย้ำว่าจะต้องทำประชามติเสียก่อน ว่าจะต้องมีกระบวนการอย่างไร ซึ่งเราจะต้องดู ต้องตั้งคำถามอย่างไร เพราะในรัฐธรรมนูญไม่มีระบุ"

"เมื่อถามว่าจำเป็นต้องถามกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องการทำประชามติ นายชวน กล่าวว่า เป็นงานด้านบริหาร ศาลก็วินิจฉัยไปตามข้อกฎหมายแต่วิธีการปฏิบัติไม่แน่ใจว่าศาลทราบหรือไม่"

เมื่อถามว่าเป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายชวน กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญเขียนเพื่อไม่ให้แก้ไข หลักๆ คือเขียนเพื่อให้แก้ยากที่สุด ฉะนั้นไม่ง่ายตั้งแต่ต้น ก็เห็นใจคนที่คิดจะแก้ไขเพราะเราจะเห็นว่าการแก้มันยากมาก เงื่อนไขต่าง ๆ เช่น การลงคะแนนเสียงของสมาชิก หรือวุฒิสภาต้องไม่น้อยกว่าเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแต่ด้วยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือไม่ต้องการให้แก้ แต่ก็ไม่ถึงกับขั้นแก้ไม่ได้เลย หากมีการแก้รายมาตราอาจจะง่ายกว่า แต่ทางศาลรัฐธรรมนูญไปตีความว่าการแก้จะมีผลกระทบต่อรัฐธรรมนูญ 2560"

‘เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส’ เหน็บ ‘บางพรรค’ เล่นใหญ่ใจไม่ถึง แสดงละครหลอกประชาชน ทำทีโวยวาย สุดท้ายหลบไม่ลงคะแนน เย้ยนักเลือกตั้งยอมเผด็จการสืบทอดอำนาจต่อ

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เวลา 08.30 น.ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการลงมติคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นความประสงค์ของผู้มีอำนาจ ที่ยึดอำนาจมา เขียนรัฐธรรมนูญและ ตั้งศาลรัฐธรรมนูญเอง ฝ่ายค้านพยายามทำเต็มที่ที่สุดแล้ว

แต่มีขบวนการเหนี่ยวรั้งตลอดเวลา และนักการเมืองก็ยอมให้ยึดอำนาจของเราไปให้ศาลตามที่เขาต้องการ เพื่อให้ ส.ว.250 คนเลือกนายกฯ ต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นการสืบทอดอำนาจตามที่วางแผนเอาไว้ แต่ก็อยู่ที่ฝ่ายการเมืองทั้งที่มาจากการเลือกตั้งยังไปสนับสนุนเผด็จการกันอีก

"เมื่อคืนก็แสดงบทบาทไม่เอาอย่างนั้นอย่างนี้ โวยวายในสภาแล้วก็หลบไม่ลงคะแนน ควรจะลงคะแนนแม้ฝ่ายประชาธิปไตยจะแพ้ก็ยังดูดี ไม่ใช่มาเล่นบทหลอกลวงประชาชนไปวัน ๆ เพราะต้องใช้เสียง ส.ว .84 คนเขาไม่ยกให้หรอก มีเพียง 2 เท่านั้นที่ยกให้ แม้ฝ่ายค้านจะยกเต็มที่เท่าไหร่ก็แพ้ เราก็ต้องรอเลือกตั้งกันใหม่ และให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ จะปล่อยบ้านเมืองเป็นอย่างนี้หรือ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

เราได้เรียนรู้อะไรจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 ของ ‘ลุงตู่’ กันบ้าง?

ฉีดแล้วจ้า!! ลุงตู่ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วจ้า หลังจากเจอ ‘โรคเลื่อน’ เพราะมีข่าวว่า พบผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้วเสียชีวิต! เดี๋ยว ๆๆๆ โปรดใจเย็น ล่าสุดยังไม่มีรายงานแบบบ่งชี้ชัดว่า ผู้ที่เสียชีวิตมีต้นเหตุมาจากการฉีดวัคซีนนี้หรือไม่ รวมทั้งองค์การอนามัยโลก ก็ยังยืนยันว่า การฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ยังทำได้ต่อไป

ว่าแล้ว ลุงตู่ ของเราจึงหย่อนตัวบนเก้าอี้ ถลกแขนเสื้อแล้วจัดการให้คุณหมอยง ‘แทงจึ๊ก!’ เข้าหัวไหล่ เรียกว่าเป็นแข็มแรกของแอสตราเซเนกากับคนไทย ประเทศไทย และกำลังทยอยฉีดกันไปอย่างต่อเนื่อง ทางแอสตราเซเนกายังยืนยันต่อมาอีกว่า ความเสี่ยงในการฉีด มีน้อยกว่าประโยชน์ที่ได้รับอย่างแน่นอน

3 วันมาแล้วที่ลุงตู่ฉีดวัคซีนไป ยังสุขภาพแข็งแรงดี ปึ้ก ๆ !! งั้นไปดูกันหน่อยว่า การฉีดครั้งนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมกันอีกบ้าง?

ตัวถ่วงประชาธิปไตย 'ชัยธวัช' ชี้ คนไทยรู้สึกแล้ว ส.ว.ไม่จำเป็น ย้ำ สภาเดี่ยว - ปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ - องค์กรอิสระ เป็นเรื่องสำคัญ ต้องชัดเป็นคำถามพ่วงในประชามติด้วย

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2564 ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังมติของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในสมัยประชุมวิสามัญ ในการพิจารณาเเก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเเห่งราชอาณาจักรไทย ในวาระ 3 มีมติโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาเเละสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรฝั่งรัฐบาลส่วนใหญ่ไม่โหวตรับร่างดังกล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า จากเมื่อวานนี้ (17 มี.ค. 64) ที่มติสภามีการการคว่ำวาระที่ 3 ของร่างเเก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการเเสดงให้เห็นชัดเจนว่า อุปสรรคที่สำคัญในการขัดขวางการเปลี่ยนผ่านจากระบอบคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) มาสู่ระบอบประชาธิปไตย คือ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เเละสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรฝั่งรัฐบาลจำนวนหนึ่ง

ซึ่งมีเจตนาที่ไม่ต้องการให้ที่จะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ( สสร.) ขึ้นมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้น ประเด็นที่อ้างว่าจะต้องไปทำประชามติถามประชาชนก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

“พฤติการณ์ที่ผ่านมามันชัดเจนมาโดยตลอดว่า ผู้มีอำนาจร่วมมือกับสว.เเละ ส.ส.จำนวนหนึ่ง พยายามเตะถ่วงมาโดยตลอดให้นานที่สุด ให้ประเทศไทยอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับคสช. (2560) ให้ยาวนานที่สุด เเละไม่มีความต้องการที่จะให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ดังนั้นประเด็นเรื่องจะทำประชามติ หรือไม่ทำประชามติ หรือต้องทำประชามติตอนไหน เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เมื่อวานคือ บทสรุปของกระบวนการที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน เเละการที่พรรคร่วมรัฐบาล( ภูมิใจไทย ) จำนวนหนึ่งออกจากห้องประชุมสภาผู้เเทนราษฎรโดยไม่ร่วมลงมติในวาระ 3 และให้เหตุผลว่าควรจะมีการเลื่อนวาระที่ 3 ออกไปก่อน

เพื่อไปถามศาลรัฐธรรมนูยอีกครั้งเพื่อให้มีความชัดเจนนั้น อันนี้ก็เป็นเพียงข้ออ้างเช่นกัน เเละยิ่งเป็นการทำให้หลงทิศหลงทาง เพราะจะทำให้เป็นการเตะถ่วงยืดเยื้อไปอีกนานไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไปหลอกคว่ำ หลอกประชาชนในท้ายที่สุด ยิ่งเป็นการสร้างความเสียหาย เสียโอกาสสำหรับสังคมไทยในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปอีก อย่างกรณี ที่อ้างว่าควรจะเลื่อนไปก่อน เเล้วไปถามศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความอีกครั้ง ก็จะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การเสนอร่างเเก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในลักษณะคล้ายกันก็จะไม่สามารถกระทำได้ในสมัยประชุมหน้า คือจะยืดไปอีก เพื่อไปเริ่มในเดือนพฤศจิกายน ยิ่งเป็นการหลอกต้มประชาชนนานเกินไป" นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า "ประเด็นสำคัญไม่ใช่ควรจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความ หรืออ้างว่าไม่ต้องการที่จะร่วมสังฆกรรมเพื่อล้มร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยมือตนเอง เเต่ควรจะไปถามเเกนนำรัฐบาล โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เเละพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า จะรับผิดชอบอย่างไรกับการหักหลังประชาชนเช่นนี้ พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคหากมีความจริงใจจริง ๆ ต้องการผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริงๆ ต้องถามความรับผิดชอบจากเเกนนำพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี เเละหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ"

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการคว่ำร่างเเก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เมื่อวานนี้เเล้ว ( 17 มีค 64 ) โดยอ้างว่าต้องไปถามประชาชนก่อนผ่านการทำประชามติ ดังนั้น ก็ถือว่าเป็นความผิดชอบของรัฐบาล หลังจากที่พระราชบัญญัติประชามติ พ.ศ.... ที่จะพิจารณาในวันนี้ ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเเละมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย หลังจากนี้รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบที่จะต้องจัดทำประชามติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นคนตัดสินใจ ลงมติทั้งประเทศเห็นชอบหรือไม่ ที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 เเล้วให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

นอกจากนั้น อาจมีความจำเป็นต้องถามในประเด็นที่สำคัญ เป็นคำถามพ่วงไปด้วย เช่น ประชาชนเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้มีสมาชิกวุฒิสภา ( สว.) อยู่ต่อไป หรือเห็นชอบหรือไม่ที่จะต้องมีการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญเเละองค์กรอิสระอื่น ๆ เพราะเป็นประเด็นใหญ่ที่เสียงของประชาชนมีความชอบธรรมที่สุดที่จะลงมติ โดยในเช้าวันนี้ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมหารืออีกครั้ง

"ต้องยอมรับว่าจนถึงปัจจุบันนี้ ประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมี ส.ว อีกเเล้ว การมี ส.ว.กลับเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ นอกจากจะถามว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ คำถามประเภทนี้อาจจำเป็นที่จะต้องถามคำถามพ่วงไปด้วย" ชัยธวัช กล่าวทิ้งท้าย

รัฐบาลญี่ปุ่นผวาข้อมูลรั่ว สั่งตรวจสอบ แอปพลิเคชัน ‘Line’ หลังสื่อชี้ยอมให้วิศวกรจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน ขณะที่บริษัทฯ ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ยังไม่มีการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานอย่างไม่เหมาะสมเกิดขึ้นแต่อย่างใด

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จะดำเนินการสอบสวนแอปพลิเคชันไลน์ (Line) ของซี โฮลดิ้งส์ คอร์ป ซึ่งอยู่ในเครือของซอฟต์แบงก์ คอร์ปของญี่ปุ่น หลังจากสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า Line ได้ปล่อยให้วิศวกรชาวจีนที่เซี่ยงไฮ้เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบ

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคและสื่อญี่ปุ่นรายอื่น ๆ รายงานก่อนหน้านี้ว่า ภายใต้กฎหมายความเป็นส่วนตัวของญี่ปุ่นนั้น บริษัทต่างๆ ต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเมื่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ถูกส่งไปยังต่างประเทศ

“ตอนนี้เรายังบอกไม่ได้ว่า Line ละเมิดกฎระเบียบหรือไม่ และเราจะทำการสอบสวนเพื่อหาความจริง” เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้รับผิดชอบกฎหมายความเป็นส่วนตัวกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ พร้อมเสริมว่า ถ้าหากพบว่า Line กระทำผิดจริง ทางสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นสามารถสั่งให้ทางบริษัทดำเนินการแก้ไขปรับปรุงได้

ด้านโฆษกของ Line ระบุว่า “ไม่มีเหตุการณ์ใดที่เป็นการละเมิดกฎหมายหรือกฎระเบียบต่าง ๆ เราจะยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบในทุกประเทศ รวมถึงในญี่ปุ่นด้วย”

แถลงการณ์ทางเว็บไซต์ของ Line ในเวลาต่อมามีใจความว่า ทางบริษัทขออภัยที่ทำให้เกิดความกังวล และไม่ได้อธิบายอย่างเพียงพอเพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงนโยบายเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลของบริษัท และระบุเพิ่มเติมว่า ยังไม่มีการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานอย่างไม่เหมาะสมเกิดขึ้นแต่อย่างใด


ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/71886


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top