Monday, 30 June 2025
TheStatesTimes

‘อรรถวิชช์’ ท้าแคนดิเดตผู้ว่าฯ สางปัญหาบ้านมั่นคง ชี้ ชาวบ้านผ่อนไม่ไหว เสนอให้เช่าที่ดินมั่นคงแทน

‘อรรถวิชช์’ ท้า แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. กล้าหรือไม่ เข้ามาดูปัญหาบ้านมั่นคงริมคลองเปรม หลายบ้านผ่อนไม่ไหว ไม่อยากเข้าโครงการ เสนอให้เช่าที่ดินมั่นคงแทน แก้ปัญหาไม่ต้องสร้างที่อยู่ใหม่

ชาวบ้านชุมชนริมคลองเปรมประชากร พื้นที่เขตจตุจักร ดอนเมือง หลักสี่ รวมตัวกันสะท้อนปัญหาโครงการบ้านมั่นคง ผ่านการทำ Workshop ร่วมกับนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า และทีมงานพรรคกล้า และได้พบปัญหาหลายจนทำให้โครงการช่วยเหลือกลายเป็นภาระให้กับชาวบ้านหลายคน

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า จากการทำพูดคุยทำ Workshop ร่วมกัน เกี่ยวกับปัญหาที่อยู่อาศัยริมคลองเปรมประชากร โครงการบ้านมั่นคงที่มีจุดประสงค์ช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย ชาวบ้านบางส่วนตอบรับยอมผ่อนบ้านใหม่ แต่อีกส่วนผ่อนบ้านปลูกใหม่ไม่ได้จริงๆ ซึ่งเป็นผลจากกติกาที่เป็นปัญหา 

ก.แรงงาน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันครบรอบพระราชพิธีราชาภิเษกและวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2565

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันครบรอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2565 โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน 

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ เสด็จบำเพ็ญกุศล ณ สำนักสงฆ์ฐิติสาราราม อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

วันนี้ (2 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 4) เสด็จเป็นประธานงานพิธีสักการะองค์พญานาคราช ณ สำนักสงฆ์ฐิติสาราราม อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยมีนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน เฝ้ารับเสด็จ ในโอกาสนี้ 

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้ทรงจุดเทียนเครื่องบวงสรวง ทรงโปรยดอกไม้ถวายเทพยาดา ณ แท่นพิธีบวงสรวงรูปปั้นพญนาค หน้ามณฑลพิธี จากนั้นทรงเสด็จดำเนินขึ้นปะรำพิธี ทรงจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล ทรงกรุณาให้ นายพันศักดิ์ ศรีพยัคฆเฉวต เลขานุการรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ (นายประภัตร โพธสุธน) เป็นผู้แทนฯ กล่าวถวายพระพุทธรูป พร้อมอ่านหมายประทานนามพระพุทธรูป นามว่า "พระพุทธสิริอุทัยกัญญานาคราชประกายธรรม" ทรงกรุณาประทานผ้าสไบทิพย์ ทรงกรุณาให้ นายประกาย ณ สงขลา ที่ปรึกษาเลขานุการในองค์ฯ เชิญห่มพระพุทธรูป ทรงกรุณาประเคนเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ให้พร จากนั้นทรงประทานของที่ระลึกแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์

‘เพชร กรุณพล’ ลั่น อย่าใช้มาตรฐานปชป.ตัดสิน หลัง ‘บุญยอด’ โจมตี ‘พิธา’ หาเสียงเกินจริง

‘เพชร กรุณพล’ สวน ‘บุญยอด’ อย่าใช้มาตรฐาน ปชป.ตัดสิน หลังโจมตี ‘พิธา’ หาเสียงเกินจริง ย้ำ 4 นโยบายก้าวไกล ถ้าเป็นรัฐบาลทำได้ทันที 

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในเรื่อง 4 นโยบายที่สามารถทำได้ทันที หากได้เป็นพรรคใหญ่ในรัฐบาล ได้แก่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า และรัฐสวัสดิการ เป็นการหาเสียงเกินจริงและไม่สามารถทำได้ตามใจหรือทันที ว่า นายบุญยอดคงตัดสินจากมาตรฐานพรรคที่ตนเองสังกัด ซึ่งต้องอาศัยอำนาจนอกระบบหรืออำนาจจากเผด็จการให้ตัวเองได้เป็นรัฐบาล จึงไม่สามารถมีนโยบายที่ยึดโยงกับประโยชน์ของประชาชนออกมาได้ แม้กระทั่งการหาเสียงก็ต้องโกหกประชาชนว่าจะไม่ร่วมกับเผด็จการ แต่สุดท้ายก็ไปโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้มีตำแหน่งในรัฐบาล แต่พอมีอำนาจกลับไม่สนใจที่จะแก้ไขกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมและฉุดรั้งไม่ให้ประเทศนี้มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเสมอภาคเป็นธรรมและทั่วถึง คอยอุ้มแต่ทุนใหญ่ ทั้งที่เป็นผู้ดูแลกระทรวงสำคัญ ได้แก่ กระทรงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายกรุณพล กล่าวต่อว่า การกล่าวหาว่านายพิธาไม่เข้าใจการแก้ไขกฎหมายในระบบรัฐสภา นายบุญยอดจะเอามาตรฐานพรรคตัวเองมาตัดสินพรรคอื่นไม่ได้ เพราะพรรคเสียงข้างมากในสภาที่มีเจตจำนงทางการเมือง ย่อมมีความสามารถพอในการแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสมัยที่พรรคของนายบุญยอดเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก จึงไม่สามารถแก้กฎหมายหรือผลักดันนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เลย เพราะไม่เคยคิดชนะการเลือกตั้งด้วยนโยบาย จนในที่สุดประชาชนเสื่อมศรัทธา ความนิยมตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน ต้องเผชิญกับปัญหาความวุ่นวายภายในพรรค ทำให้มีแต่คนเดินออกเป็นว่าเล่นดังทุกวันนี้

วันฉัตรมงคล ตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรีและราชอาณาจักรไทย

ในหลวงรัชกาลที่ 10 โปรดให้ตั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ พระบรมมหาราชวัง มีการเฉลิมพระปรมาภิไธยตามพระสุพรรณบัฏว่า "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" และมีพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"

ทั้งนี้ คำว่า “ฉัตรมงคล” หมายความว่า พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร จะกระทำในวันคล้ายวันบรมราชาภิเษก สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คำว่า “พระบาท” นำหน้า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า “พระบรมราชโองการ” และอีกประการหนึ่งคือ ยังไม่มีการใช้ นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้น

5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 เป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี

5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย

ดังนั้นรัฐบาลไทยและพสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" ในโอกาศนั้นได้ทรงพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี 

‘ม.ร.ว.รุจีสมร’ อดีตคุณครูใหญ่รร.วรรณวิทย์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว สิริอายุ 101 ปี 7 เดือน

เพจศิษย์เก่าโรงเรียนวรรณวิทย์ Wannawit School Alumni ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งข่าว โดยระบุว่า คุณครูใหญ่โรงเรียนวรรณวิทย์ ม.ร.ว.รุจีสมร สุขสวัสดิ์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว กำหนดรดน้ำศพ ณ วัดธาตุทอง เวลาประมาณ 15.30 น. ในวันที่ 4 พ.ค. 65

จากการโทรศัพท์สอบถามอดีตผู้จัดการโรงเรียนวรรณวิทย์ ก็ได้เล่าว่า ม.ร.ว.รุจีสมร เสียชีวิตด้วยอาการสงบ จากโรคชรา โดยเสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ในคืนที่ผ่าน ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งการเสียชีวิตของ ม.ร.ว.รุจีสมร สร้างความโศกเศร้ากับบรรดาลูกศิษย์และคุณครูโรงเรียนวรรณวิทย์เป็นอย่างยิ่ง

'เพื่อไทย' อัด ‘บิ๊กตู่’ แก้ปัญหาของแพงล้มเหลว แนะถอยได้แล้ว ก่อนประชาชนลุกฮือไล่

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยทั้งประเทศตกทุกข์ได้ยากอย่างแสนสาหัส จากการที่รัฐบาลนิ่งเฉย ปล่อยปละละเลย ไม่สนใจดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพ ในภาวะที่ประชาชนตกงาน เรียนจบไม่มีงานทำมาตั้งแต่ปี 63 จนถึงสิ้นปี 64 รวมมากกว่า 2 ล้านคน ขณะที่ในเดือนนี้รัฐทยอยเลิกอุดหนุนค่าพลังงาน ทั้งราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นลิตรละ 2 บาท กระทบกับต้นทุนค่าขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก๊าซหุงต้มราคาปรับขึ้นอีก 15 บาทต่อถัง (15 กก.) และจะปรับขึ้นอีกในเดือนมิ.ย. อีก 15 บาท ทำให้ราคาอาหารปรับเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ส่วนค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนนี้จนถึงส.ค.จะปรับขึ้นอยู่ที่หน่วยละ 4 บาทเป็นค่าไฟที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต้นทุนการใช้ชีวิตของประชาชนแพงขึ้นทั้งหมด ปัญหากำลังทับถมรุมเร้าคนไทยให้จนมุม ไม่สามารถจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ แม้ทำงานมีรายได้ต่อวันหรือทำการเกษตร ก็ล้วนต้องทำมาเพื่อจ่ายไป ซ้ำที่หามาได้ยังไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าอาหารต่อวันด้วยซ้ำ ขณะที่รัฐบาล คณะรัฐมนตรีหรือแม้แต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ 

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพมี 2 วิธี ทำได้ทันที คือ 1.) ปรับลดกำไรของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 3 หน่วยงาน ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟน.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลง โดยในปี 63 กฟผ. มีกำไรสุทธิ 31,311 ล้านบาท ปี 64 กำไรอยู่ที่ 33,486 ล้านบาท ส่วน กฟน. มีกำไรในปี 62 อยู่ที่ 5,356 ล้านบาท ปี 63 กำไรเพิ่มขึ้น 5,922 ล้านบาท ส่วน กฟภ.มีกำไรในปี 63 อยู่ที่ 9,986 ล้านบาท ปี 64 อยู่ที่ 15,694 ล้านบาท 

2.) กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปบริหารจัดการราคาสินค้าที่ปลายทางซึ่งมีราคาสูง ขณะที่ผู้ผลิตอย่างเกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวน หรือผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขายส่งสินค้าได้ในราคาที่ต่ำ ถูกกดราคา เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นยุคคนผลิตขายจน คนซื้อของแพง

‘ชัชชาติ’ ยันไม่หวนคืนการเมืองสนามใหญ่ หลัง ‘วิษณุ’ ระบุติดลิสต์นายกฯ สำรอง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ยืนยันว่า จะไม่กลับไปเล่นการเมืองสนามใหญ่ หลังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า นายชัชชาติ เป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีสำรอง ซึ่งไม่ทราบวิธีเอารายชื่อออก อีกทั้งตนเองมาทางการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ชัดเจนแล้ว จึงขอมุ่งเน้นไปที่สนามผู้ว่าฯ กทม. พร้อมยืนยันว่าไม่เคยทำผิดกฎหมาย และไม่เคยซื้อเสียงเลือกตั้ง ซึ่งข่าวที่ปล่อยออกมาเป็นข่าวปลอม และมองว่าเริ่มมีการพยายามใส่ร้ายป้ายสี โดยขอให้แข่งขันกันที่นโยบาย


ที่มา : https://mgronline.com/uptodate/detail/9650000041973

ผบ.ตร. เปิดสูตรแก้หนี้ตำรวจ เป้าปลดหนี้ผู้ใต้บังคับบัญชา 3 แสนล้านบาท ยกเคส ช่วย ‘ตร.หญิง’ หนี้ 1.8 ล้าน จากการค้ำประกัน

ผบ.ตร. เปิดสูตรแก้หนี้ตำรวจ เป้าปลดหนี้ผู้ใต้บังคับบัญชา 3 แสนล้านบาท ยกเคส ช่วย ‘ตร.หญิง’ หนี้ 1.8 ล้าน จากการค้ำประกัน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ เปิดสูตรแก้หนี้ตำรวจ ตั้งเป้าปลดหนี้ 3 แสนล้านบาท แก้แล้ว 2,000 ราย กลุ่มสีแดงหนี้ท่วมขั้นวิกฤต ยกเคส ตร.หญิง หนี้ 1.8 ล้านบาท จากการค้ำประกัน เล่าโครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน พร้อมไอเดีย “สร้างแบรนด์” เพิ่มรายได้ครอบครัวตำรวจ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ Policenewsvarieties เผยแพร่เมื่อ 1 พฤษภาคม 2565 ถึงการแก้ปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ โดยระบุว่า ถึงเรื่องงานบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ฝากเป็นการบ้านให้กับผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติรุ่นต่อไป 

“ในด้านการบริหารจะมีเรื่องแก้ปัญหาหนี้สินตำรวจ สร้างบ้านพักสวัสดิการ อยากให้ทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องหนี้ตำรวจ หลังจากรวมหลายรอบพบว่าตำรวจมีหนี้ 300,000 กว่าล้านบาท โดยแก้ปัญหาไปได้แล้ว 2,000 กว่าราย”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ เผยว่า จากการสำรวจระดับหนี้ของข้าราชการตำรวจ พบว่า กว่า 97% เป็นสีเขียว คืออยู่ในวิสัยที่ยังผ่อนได้ 2% สีส้ม คือร่อแร่ และ 1% สีแดงที่เข้าขั้นวิกฤต ตอนนี้ความเร่งด่วนคือแก้ปัญหากลุ่มสีแดง ซึ่งกลุ่มนี้ช่วยแก้ปัญหาไปแล้ว 2,000 ราย

ผบ.ตร. เล่าว่า วันก่อน คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ มาเล่าให้ฟังว่า มีตำรวจหญิงคนหนึ่งมาเล่าให้ฟัง ดีใจจะร้องไห้บอกว่า เป็นหนี้อยู่ 1.8 ล้านบาท หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่เกิดจากการไปค้ำประกัน พอมีโครงการแก้ปัญหาหนี้ จึงสมัครเข้าโครงการ ก็เลยช่วยกันเจรจาปรับดอกเบี้ย ตัดลงไปเหลือ 400,000 บาท เขาดีใจมาก

“หลัก ๆ ของเราคือการทำรีไฟแนนซ์ สมมติว่าต้นทุนเงินกู้แพง ดอกเบี้ยเงินกู้ก็ต้องแพง โดยต้องดูดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์ว่าเท่าไหร่ ถ้าดอกเบี้ยเงินฝากแพง แสดงว่าต้นทุนแพง เขาจะมาให้กู้ดอกเบี้ยถูก เป็นไปไม่ได้ เราก็พยายามหาสหกรณ์ที่อยากมาเข้าโครงการของเราเพื่อช่วยเหลือตำรวจ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล สมัครเป็นสหกรณ์ต้นแบบ อาจจะแก้ปัญหาแรก ๆ ก่อน รายที่มีหนี้ท่วมมาก ๆ อาจทำรีไฟแนนซ์ให้เฉพาะรายนั้นไป”

“ธนาคารออมสินเขายินดีมาช่วยเรา ดอกเบี้ยเขาไม่เกิน 2 บาท สมมุติต้นทุนมาไม่เกิน 2 บาท ถ้าเราปล่อยสัก 4 บาท สหกรณ์ก็ยังอยู่ได้ แทนที่จะ 7 - 8 บาท แต่อย่างนี้ จะทำทุกคนไม่ได้ มันจำกัด และด้วยสัญญาเดิมที่มีต้นทุนเก่า เพราะฉะนั้นต้องค่อย ๆ ถ่ายเทกันไป ส่วนสหกรณ์ไม่ได้อยู่ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาเป็นอิสระ เขามีการเลือกตั้งประธานสหกรณ์ บางทีเป็นตำรวจที่เกษียณแล้ว จึงอยู่ที่การเจรจา” ผบ.ตร. เผยวิธีแก้ปัญหาหนี้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ย้ำถึงการแก้หนี้ว่า ขอให้ผู้บริหาร ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ เข้าใจหลักการ แล้วก็เอาหลักการไปประยุกต์ใช้เป็นราย ๆ ไป ไปคุยกับเจ้าหนี้ให้ลูกน้อง แต่เป้าหมายของเราไม่ใช่ 1 - 2% เป้าหมายเราคือ 97% กับเป้าหมายที่ 2 คือ คนที่ไม่ได้อยู่ใน 100% นี้ ที่เป็นตำรวจเข้าใหม่

ผบ.ตร. เผยว่า สำหรับ “ตำรวจเข้าใหม่” ใช้วิธีการสร้างภูมิคุ้มกันหนี้ ให้วัคซีนทางการเงิน ป้องกันการสร้างหนี้ 

“ตอนนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจไปให้ความรู้เกี่ยวกับการออม การบริหาร การใช้เงิน โครงการ Money Management & Investment เสียงตอบรับดี แล้วก็พยายามขยายไปทุก ๆ หลักสูตรการศึกษาของตำรวจ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top