Monday, 30 June 2025
TheStatesTimes

‘วรวุฒิ อุ่นใจ’ ย้ำ ‘พรรคกล้า’ ชู แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงแก้วิกฤตชาติ ให้โอกาสคนตัวเล็กเติบโตมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งแม้โควิดที่เข้าสู่ปีที่ 3 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็เจอภัยสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ขย่มซ้ำเราเหมือนจะอยู่ในภาวะสงครามโลกทางเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว และยังมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะบานปลายได้อีกมาก และการเกิดขั้วอำนาจใหม่ทำให้ไทยต้องปรับตัวขนานใหญ่จากนี้ไป

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ทางออกเศรษฐกิจไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นนโยบายปฏิบัติ ใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.เน้นการพึ่งพาตนเอง เน้นการบริโภคด้วยวัตถุดิบในประเทศ เน้นเทคโนโลยีเป็นของตนเอง เน้นการสร้างตลาดคุณภาพที่ยั่งยืน ทั้งภายในและต่างประเทศ 2.เน้นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จนถึงการใช้ชีวิตในทางประเทศที่ล่อแหลมต่อภาวะสงคราม คือวางตัวเป็นกลางค้าขายได้ทุกฝ่าย พรรคกล้าใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ต่อยอดพัฒนาเป็นแนวทางเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ที่เน้นพัฒนาเอสเอ็มอี และชาวนาเกษตรกรไทย ให้แข็งแรงเติบโตได้ ไม่ถูกจำกัด

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ชี้ ‘นาโต’ เป็นผู้จุดชนวนสงครามยูเครนเอง เหตุความโกรธเกรี้ยวของปูติน อาจเกิดเพราะ“เสียงเห่าของนาโตที่หน้าประตูบ้านรัสเซีย”

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัสในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (3 พ.ค.) ระบุต้องการพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเพื่อพูดคุยเรื่องสงครามยูเครน พร้อมเปรียบเทียบการนองเลือดที่เกิดขึ้นว่าไม่ต่างจากการสังหารหมู่ที่รวันดา ขณะเดียวกัน ทรงชี้ว่าชนวนเหตุของสงครามครั้งนี้อาจมาจากพฤติกรรมขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ไปข่มขู่รัสเซียถึงหน้าบ้าน

โป๊ปฟรานซิสได้ประทานสัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Corriere Della Sera ของอิตาลี โดยตรัสว่าพระองค์เคยส่งสาส์นถึงปูติน ราวๆ 20 วันหลังเกิดสงคราม เพื่อบอกกับเขาว่า “ข้าพเจ้ายินดีที่จะเดินทางไปมอสโก”

“เรายังไม่ได้รับคำตอบใดๆ และยังยืนกรานข้อเสนอนั้นอยู่ แต่ข้าพเจ้าเกรงว่า ปูติน อาจจะไม่สามารถ หรือไม่ต้องการที่จะพบกับข้าพเจ้าในเวลานี้”

“แต่เราจะไม่พยายามยับยั้งความรุนแรงป่าเถื่อนนี้ได้หรือ? เมื่อ 25 ปีก่อน เราก็ได้เห็นสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่รวันดามาแล้ว”

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวทุตซี (Tutsi) โดยรัฐบาลฮูตูสุดโต่งระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. ปี 1994 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปราว 800,000 คน และถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20

โป๊ปฟรานซิสทรงออกมาเรียกร้องสันติภาพในยูเครนอย่างต่อเนื่อง และทรงประณาม “สงครามที่โหดร้ายและขาดสติ” ครั้งนี้ โดยไม่ได้ทรงเอ่ยถึง ปูติน หรือมอสโกตรงๆ

“ข้าพเจ้ายังไม่ไปกรุงเคียฟในตอนนี้ ข้าพเจ้าคิดว่ายังไม่ควรที่จะไป ข้าพเจ้าจะต้องไปเยือนมอสโกก่อน และต้องได้พบกับ ปูติน ก่อน” โป๊ปตรัส

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ สมีกาโตะ ได้มีการเบิกเงินวัดไป 6 แสนบาท ก่อนที่จะลาสิกขา นำไปให้คนกลาง เพื่อนำไปจ่ายให้กับผู้สื่อข่าวท้องถิ่น เพื่อปิดเรื่องฉาวถูกแฉความสัมพันธ์กับ น.ส.ตอง

ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว’ ได้โพสต์ความคืบหน้ากรณีนี้ โดยระบุว่า ‘โกหกออกสื่อ ครั้ง 2 คราวนี้เป็น ‘คดี’ ครับ …
.
ด่วน! ‘อดีตพระกาโตะ’ พงศกร จันทร์แก้ว ยอมรับ เบิกเงินวัดไป 6 แสน ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส โดยช่างเป็นคนไปเบิกเงิน เพื่อนำเงินไปให้ ‘คนกลาง’ (จ่ายสีกาตอง และสื่อ) ยืนยันกับ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ว่า วันนี้จะนำเงินจากญาติ ไปคืนให้วัด ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินวัด แต่เพราะคนกลางเร่งรัด จะเอาเงินให้ได้
.
ครั้งแรก ในคลิปไม่ใช่เสียงอาตมา แค่เสียงคล้าย ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสีกาตอง ครั้งสอง ยอมรับว่ามีสัมพันธ์กับสีกาตอง แต่ใช้เงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินวัด คดียักยอกทรัพย์ ยอมความได้ แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ยอมความไม่ได้’

มะเร็งคร่าชีวิต ‘เจริญ คันธวงศ์’ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของฉายา ‘คนดีศรีสภาฯ’ ในวัย 89 ปี

วันนี้ (4 พ.ค.65) น.ส.เพ็ญจุรี คันธวงศ์ บุตรสาวของนายเจริญ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เมื่อเช้านี้ วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 น้องๆ VDO call มาให้ลาพ่อ พ่อเจริญไปสวรรค์แล้ว …เวลา 08.09 น. ลูกรักพ่อที่สุดในโลก พ่อไม่เจ็บไม่ปวดแล้วนะจ๊ะ หลับให้สบายจ๊ะ พ่อ …ลูกจะรีบหาย อยากไปกราบพ่ออีกซักครั้งนะจ๊ะ

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวในนามพรรคถึงกรณี การเสียชีวิตของ ดร.เจริญ คันธวงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 10 สมัย เป็นบุคคลที่ได้ทุ่มเททำงานให้กับประชาชนและประเทศมาอย่างยาวนาน พรรคประชาธิปัตย์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของบุคลากรที่ทรงคุณค่าของพรรคอีกท่านหนึ่ง

'ดร.เจริญ คันธวงศ์' เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2476 ที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เป็นบุตรของนายคำมูล และนางน้อย คันธวงศ์ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับ 2) ปริญญาโท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปริญญาเอก การบริหารอุดมศึกษา จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ สหรัฐอเมริกา

เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ปี 2531) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน (2533) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ปี 2538)

เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2518, 2519, 2529, 2531, 2535, 2538, 2539, 2544, 2548, 2554 รวมได้รับเลือกตั้งมา 10 สมัย ก่อนที่จะวางมือทางการเมือง

เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร ในเขตคลองเตย ยานนาวาและบางคอแหลมมาอย่างยาวนานต่อเนื่องถึง 8 สมัย โดยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด และในการเลือกตั้งปี 2548 ได้ย้ายไปลงในระบบบัญชีรายชื่อ และได้รับเลือกตั้งอีกสมัย เป็น ส.ส.สมัยที่ 9

TOPIC 1 | 'ค่าเหยียบแผ่นดิน' งบสานต่อการท่องเที่ยวให้เฟื่องฟู พร้อมดูแล ต่างชาติ' ให้อุ่นใจตลอดทริป

จบดรามา ‘ค่าเหยียบแผ่นดิน’ จากความเกลียดชังนโยบายการเมือง ด้อยค่าประเทศ ที่แทบจะกลายเป็นความขบขันในกลุ่มนักท่องเที่ยว และคนทำงานท่องเที่ยว เมื่อเกิดดรามา ปั่นกระแสตั้งคำถาม 'ค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท ($9)'

...เก็บไปทำไม ?

...เก็บแล้ว ใครจะมา ?

...เก็บแล้วเข้ากระเป๋าใครบ้าง ?

...ได้ไม่คุ้มเสีย ?

รัฐบาลแต่ละประเทศ เก็บไปเพื่อเป็นงบสานต่อการท่องเที่ยวให้เฟื่องฟู พร้อมดูแล ‘ต่างชาติ’ ให้อุ่นใจตลอดทริป ยังไงเล่า!!

Click on Clear Original โดย ปริม THE STATES TIMES (กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา)

.

.

สวนนงนุชพัทยา ร่วมกับ  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ลงนาม MOU  ส่งเสริมการเรียนการสอนของนักศึกษา

วันนี้ (4 พ.ค.65) เวลา 11.30 น. ที่ ห้องลอยฟ้า 2  สวนนงนุชพัทยา รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์  ตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พร้อมด้วย นาย กัมพล ตันสัจจา  ประธานสวนนงนุชพัทยา  ได้ร่วมลงนาม MOU บันทึกความเข้าใจ  เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักศึกษา ให้มีคุณภาพความรู้ ทักษะด้านวิชาการและวิชาชีพ รวมถึงการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทย


       

'สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา' ส.ส. พรรคก้าวไกล ชี้ ม.112 ใช้เล่นงานผู้เห็นต่างโดยไม่สนหลักความยุติธรรม หลังศาลสั่งถอนประกัน 'ใบปอ-เนติพร'

ต่อกรณีที่ เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งเพิกถอนประกัน ใบปอ และ เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับความมั่นคง ในคดีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 โดยให้เหตุผลว่ากระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวด้วยการเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย หรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ เกี่ยวกับการไปทำโพลเหตุการณ์ชาวบ้านถูกสำนักงานทรัพย์สินฯไล่ที่นั้น

สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเพิกถอนประกันตัวด้วยเหตุผลเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า คดีตามมาตรา 112 เป็นคดีนโยบายเพื่อเอาไว้เล่นงานผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยไม่สนใจหลักความยุติธรรม ซึ่งจะเห็นว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการนำคดี ม. 112 ไปใช้จับกุมคุมตัวนักกิจกรรมการเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เหล่านั้น เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การไปปล้นชิงฆ่าฟันใคร กระทั่งไม่ใช่คดีล่วงละเมิดคุกคามทางเพศที่ยังได้รับสิทธิประกันตัวเพื่อไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างครบถ้วน

"แต่พอเป็น คดี 112 กลับอ้างว่าเป็นคดีร้ายแรง จึงไม่ต้องสนใจหลักการยุติธรรมที่ต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินว่ามีความผิด ไม่ต้องสนใจสิทธิประกันตัว ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่กลับพยายามหาเหตุในการเอาพวกเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำอยู่ร่ำไป"

สุทธวรรณ กล่าวว่า กฎหมายใดก็ตามที่เป็นเหมือนใบเบิกทางให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอย่างไรก็ได้เพื่อยึดเอาสิทธิเสรีภาพของประชาชนไปอย่างไม่มีเหตุผลและหลักการองรับ กฎหมายนั้นย่อมสมควรถูกแก้ไขหรือยกเลิก เพราะการใช้กฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือเล่นงานกันเช่นนี้ นอกจากไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม ยิ่งเป็นเหตุให้เสื่อมศรัทธาลงไปเรื่อยๆแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อประชาชนอีกด้วย

"ประเทศที่มีอารยธรรมไม่มีประเทศใดกักขังคนหนุ่มสาวไว้ในคุกเพียงเพราะพวกเขาคิดและตั้งคำถาม เพราะหมายถึงการกักขังอนาคตของตัวเองไว้ด้วยความมืดบอด การเพิกถอนประกันในครั้งนี้ แม้ด้วยอำนาจศาลอาจปิดปากผู้คนไว้ด้วยความกลัว แต่คงไม่อาจห้ามความกังขาสงสัยถึงความสมเหตุสมผลของคำสั่งได้"

ก.อุตฯ เผยผลศึกษาผลิตภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 2564 ยังแกร่งฝ่าโควิด-19 จากคุณภาพปัจจัยทุนและการบริหารจัดการ พร้อมเดินหน้าปี 2565 เสริมความเข้มแข็งภาคอุตสาหกรรมไทย ยกระดับผลิตภาพการผลิต 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของผลิตภาพการผลิตอย่างใกล้ชิด โดยจากการสำรวจข้อมูลประจำปี 2564 ได้นำแบบแจ้งข้อมูลการประกอบกิจการโรงงานรายปี (ร.ง.9) มาวิเคราะห์ความสามารถในการผลิตและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการภาคอุตสาหกรรม พบว่า ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ผลิตภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังมีความแข็งแกร่งจากคุณภาพปัจจัยทุนและการบริหารจัดการที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 0.34 และ 1.70 ต่อปี ตามลำดับ สะท้อนถึงคุณภาพปัจจัยทุนและการบริหารจัดการที่เป็นภูมิคุ้มกันหลักให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่รอดได้ภายใต้สถานการณ์ที่ยากจะควบคุมของผลกระทบห่วงโซ่การผลิตโลกที่หยุดชะงักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

การที่จะรักษาความสามารถในการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลก โรคระบาด หรือสงครามระหว่างประเทศในรูปแบบต่างๆ จำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งในด้านประสิทธิภาพและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมี 5 กลไกสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง คือ...

1. การพัฒนาทักษะแรงงาน 
2. การใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ/ กึ่งอัตโนมัติ 
3. การบริหารจัดการด้านต้นทุนและการเงิน 
4. การยกระดับการผลิตไปสู่รูปแบบการผลิตแบบรับจ้างออกแบบพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ (ODM) และการออกแบบพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของผู้ประกอบการ (OBM) ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น 
และ 5. การลงทุนด้านเทคโนโลยีและวิจัยพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การจัดการ และการสร้างนวัตกรรมในสินค้า มีการจดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตรต่างๆ ที่จะนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ได้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงมากให้กับสินค้าและเศรษฐกิจของประเทศ 

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯปลื้ม ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเมืองสวยงามของไทย หลัง Forbes advisor จัดให้ อยุธยา เป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนช่วงหลังโควิด – 19

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “Forbes advisor” เว็บไซต์ในเครือนิตยสาร Forbes จัดอันดับให้ "อยุธยา" เป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด – 19

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบผลการจัดอันดับดังกล่าว ขอบคุณที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสถานที่ที่สวยงามเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่า ด้วยเอกลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่หลากหลาย และได้รับความนิยมตลอดมา ประกอบกับศักยภาพการบริหารจัดการตามความเหมาะสมของสถานการณ์ และการควบคุมโรคทางสาธารณสุข จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเดินทางในประเทศไทยอย่างคึกคักในเร็ววันนี้ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 50 เมือง ทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด – 19 และยังเป็น 1 ใน 8 แห่งของทวีปเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับเท่านั้น ทั้งนี้ Forbes advisor ได้ยกย่อง "อยุธยา" ว่าเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงทศวรรษ 1700 ซึ่งเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

โดยสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่หากมีโอกาสค้างคืนก็จะได้เห็นภาพวัดต่าง ๆ ในช่วงเช้า และช่วงเย็น ที่เงียบสงบ ในส่วนของเมืองอื่นๆ ในเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับ ได้แก่ ฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศภูฏาน อัสสัม ประเทศอินเดีย ลอมบก ประเทศอินโดนีเซีย ไทเป ไต้หวัน ประเทศอุซเบกิสถาน และโดฮา ประเทศกาตาร์

'รัสเซีย' สับขาหลอก ตีเมือง Lviv ชายแดนตะวันตกของยูเครน คาดขู่ 'ชาติตะวันตก' หยุดหนุนส่งอาวุธผ่านช่องทางโปแลนด์

ข่าวคืบหน้าการใช้กำลังทหารของรัสเซียในยูเครนล่าสุด มีรายงานว่า ขีปนาวุธรัสเซีย ได้ยิงเข้าไปในเมือง Lviv (ลวีฟ) ทางภาคตะวันตกของยูเครนติดกับชายแดนโปแลนด์ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม (2022) ที่ผ่านมา

การโจมตีของรัสเซียด้านตะวันตก เกิดขึ้นหลังจากที่โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้ออกมาเตือนว่า รัสเซียมีแผนการที่จะปิดเกมในภูมิภาคดอนบาส ทางด้านตะวันออกติดกับชายแดนรัสเซียให้ได้ในเร็ววันนี้ เพื่อต้องการผนวกดินแดนนี้ทั้งผืนไปเป็นของรัสเซีย 

ในขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียก็ยังกดดันอย่างหนักที่โรงงานถลุงเหล็ก Azovstal Steel Plant ที่มั่นจุดสุดท้ายของกองกำลังยูเครนในเมืองมาริอูโปล ท่าเรือทางตอนใต้ของยูเครน 

แต่ขณะที่หลายคนกำลังจับตาการโจมตีของรัสเซียทางฝั่งตะวันออก และ ตอนใต้ของยูเครน กองทัพรัสเซียก็สร้างความประหลาดใจด้วยการโจมตีเมือง Lviv ทางด้านตะวันตกสุดของยูเครนในวันนี้ โดยสร้างความเสียหายให้แก่โรงงานผลิตไฟฟ้า 3 แห่ง และสถานีจ่ายน้ำประปาอีก 2 แห่ง ทำให้บางพื้นที่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วถึง 7 ราย

ซึ่งเป้าหมายของการโจมตีเมือง Lviv นอกจากจะเป็นการโจมตีแบบสับขาหลอกแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงชาติตะวันตก ให้หยุดส่งอาวุธให้กับยูเครนผ่านช่องทางโปแลนด์ เนื่องจากจุดที่มีการยิงขีปนาวุธอยู่ห่างจากพรมแดนโปแลนด์เพียง 70 กิโลเมตรเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top