Friday, 4 July 2025
TheStatesTimes

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.

“ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” โครงการป่าที่ภักดี น้อมนำแนวทางพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย ร่วมกับศูนย์ราชการุณย์เขาล้านสภากาชาดไทย จัดโครงการป่าที่ภักดี เพื่อส่งมอบ “ ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ณ ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด

นายเตช  บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทยเป็นประธานในการงาน ส่งมอบ “ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” โครงการป่าภักดี โดยมีพระมหาไมตรี ปุญญามะรินโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด  นางชุลีพร เตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตราด คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย นางสุนันทา  ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอาสากาชาด นางนนทิยา แก้วเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานกลาง รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชพล ไชยพร รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ภายใต้มาตรการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

การส่งมอบของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนาในครั้งนี้ เป็นการน้อมนำแนวทางจากพระราชดำรัส ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำพระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า" ที่พระราชทานแก่ราษฎรบ้านถ้ำติ้ว อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2525 และมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อันเป็นแนวทางสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรของคนในชาติ โดยเฉพาะสำนักงานยุวกาชาด ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สภากาชาดไทยที่มีอาสายุวกาชาดผู้รักษ์ในทรัพยากรของประเทศอันจักได้สนองพระเดชพระคุณประดับพระบารมีแห่งพระองค์ โดยโครงการป่าที่ภักดีนอกจากเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้แล้ว

โครงการนี้ยังเป็นการสร้างเยาวชนผู้ผ่านเข้ามาเยือนในผืนป่าได้มีแนวคิดทักษะช่วยเหลือผู้อื่น และความรักษ์ในปิตุภูมิและมาตุภูมิถิ่นเกิดของตนวัตถุประสงค์ของโครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงออกถึงการดำเนินงานด้วยความตั้งใจที่ว่าจักทำเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย พระองค์ผู้ทรงมีคุณูปการต่อผืนป่าและทรัพยากรของประเทศอีกทั้งเพื่อรวมพลังเยาวชนในการบำรุงรักษาผืนป่าราชพฤกษ์ ต้นมหาพรหมราชินี ต้นรวงผึ้งและต้นจำปีสิรินธร ให้สมกับเป็น“ถิ่นของต้นไม้แห่งความจงรักภักดี” สถานที่แห่งความอุดมสมบูรณ์ ดินแดนแห่งความมีมนุษยธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตราด

ส่งแล้วตู้แรก "ไก่ไปซาอุฯ" จุรินทร์ สร้างประวัติศาสตร์ในรอบ 18 ปี "บุกตลาดอาหารซาอุ" ตั้งเป้าไทยส่งออกไก่ 980,000 ตันปีนี้และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่งออกไก่แปรรูป "ตู้ปฐมฤกษ์" ของไทย ไปซาอุดิอาระเบีย พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย  นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ (มีนบุรี 2)

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลักดันประสานงานกับรัฐบาลซาอุฯจนกระทั่งประสบความสำเร็จให้การรับรองอนุมัติให้นำเข้าไก่จากประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยมีโรงงานของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟได้รับการรับรองจำนวน 5 โรงงาน ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือช่วยประสานงานกับประเทศซาอุดิอาระเบียจนสามารถส่งออกไก่ของไทยกับซาอุฯได้สำเร็จเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกไก่ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

วันนี้ส่งมอบไก่ล็อตแรกไปยังประเทศซาอุฯเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ตั้งแต่ปี 2547 และเดือนนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 600 ตัน มูลค่า 47 ล้านบาท และภายในสิ้นปีจะส่งออกได้ 300 ตู้ ปริมาณ 6,000 ตัน มูลค่า 400-500 ล้านบาท และคาดว่าเราจะสามารถทำได้ถึง 60,000 ตัน ภายใน 5 ปี หรือมูลค่า 4,200 ล้านบาท ทั้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูปที่ผ่านกระบวนการมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดตามหลักศาสนาอิสลาม ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 

นายจุรินทร์ กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของการส่งออกสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบียโดยเฉพาะไก่ซึ่งเป็นสินค้าเป้าหมายที่มีความสำคัญหลังจากที่เราขาดโอกาสไปตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เมื่อตนเข้ามารับหน้าที่เป้าหมายหนึ่งที่ตั้งไว้คือการฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับซาอุดิอาระเบียโดยเฉพาะสินค้าสำคัญหนึ่งปีที่ผ่านมาได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรและประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เจรจากับทางการซาอุฯ จนคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ซาอุดิอาระเบียตรวจโรงงานและให้การรับรองแล้ว 11 โรงงาน ที่ได้คุณภาพมาตรฐานที่จะส่งออกไก่ไปซาอุฯ และหลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบีย ตนได้สั่งการอีกครั้งให้ทูตพาณิชย์กับทูตเกษตรและผู้แทนสถานทูตไทยประจำซาอุดิอาระเบียเดินทางไปพบกับ องค์การอาหารและยาของซาอุดิอาระเบีย (SFDA)  และออกประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565  จะสามารถส่งออกไก่ไปซาอุดิอาระเบียได้ ขอขอบคุณคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่ช่วยประสานงาน ดูแลมาตรฐานต่างๆให้เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม 

“ช่วงที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียนำเข้าไก่ 75% จากประเทศบราซิล  25% จากยูเครนและฝรั่งเศส จากนี้ไปตนคิดว่าไก่จากประเทศไทยจะเป็นตลาดสำคัญที่ซาอุดิอาระเบียได้ในอนาคต โดยปี 64 เราส่งออกไก่ไปทั่วโลกประมาณ 900,000 ตันนำเงินเข้าประเทศประมาณ 100,000 ล้านบาท และปี 65 ตั้งเป้าว่าจะทำได้ 980,000 ตัน การส่งออกไก่ไปซาอุถือเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกและเพิ่มตัวเลขการส่งออกไก่ของไทยด้วย ขอแสดงความยินดีกับซีพีเอฟเป็นโรงงานแรกที่ได้ส่งออกไก่ไปซาอุฯ ตู้ปฐมฤกษ์ หลังจากที่ขาดหายไป 18 ปี และกระทรวงพาณิชย์มีแผนงานสำคัญที่จะประสานงานกับซาอุดิอาระเบียนำคณะเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย ไปขายของทำตัวเลขส่งออกสำหรับการเดินทางไปเยือนและขอเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

“ประยุทธ์” หารือรองเลขาธิการสหประชาชาติ แสวงหาแนวทางการเติบโตที่ยั่งยืน “ย้ำ” ไทยพร้อมส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางอามีนา เจ โมฮัมเหม็ด (Ms. Amina J. Mohammed) รองเลขาธิการสหประชาชาติ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุม Asia-Pacific Forum on Sustainable Development ครั้งที่ 9

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับและชื่นชมรองเลขาธิการฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาของสหประชาชาติท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของรองเลขาธิการฯ อย่างเต็มที่ พร้อมเชื่อมั่นว่า สหประชาชาติจะสนับสนุนประเทศต่างๆ ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และตอบสนองต่อความท้าทายของโลกปัจจุบัน ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีนี้ ไทยมุ่งส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุมด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งสอดคล้องและส่งเสริมกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและSDGs

ด้านรองเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรี การหารือวันนี้จะเป็นโอกาสอันดีต่อความร่วมมือระหว่างไทยและสหประชาชาติ ไทยเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค และสนับสนุนการดำเนินงานของสหประชาชาติมาอย่างต่อเนื่อง สหประชาชาติมุ่งแสวงหาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทยเพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือระดับภูมิภาคไปสู่การแก้ไขปัญหาในประเด็นท้าทายระดับโลก ทั้งปัญหาความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และการเงิน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับโรคระบาด พร้อมกล่าวชื่นชมบทบาทผู้นำของนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานสาธารณสุขของไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรองเลขาธิการฯ ต่างเห็นพ้องว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความขัดแย้งของประเทศต่างๆ เป็นความท้าทายสำคัญต่อการบรรลุ SDGs ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านเยาวชนและด้านเอกชน ภายใต้คณะกรรมการด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ และไทยยังจัดทำรายงาน Voluntary National Review (VNR) เป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามความคืบหน้าในการขับเคลื่อน SDGs ของไทย รวมทั้งไทยได้นำปัญหาและอุปสรรคมาเป็นบทเรียนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคนรุ่นใหม่ ให้มีฐานรากที่มั่นคง ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งรองเลขาธิการฯ ชื่นชมที่ไทยรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ พร้อมชื่นชมว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการเข้ามามีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่และภาคประชาสังคม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

ชวนลงนามถวายพระพร 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' ผ่านออนไลน์ ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เม.ย.

สำนักพระราชวังชวนประชาชนลงนามถวายพระพรกรมสมเด็จพระเทพฯ ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เม.ย.2565 ผ่านออนไลน์

วันที่ 28 มี.ค. 65 เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th แจ้งประชาสัมพันธ์ความว่า สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดีสิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2565 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2565

บทเรียนเสพเฟกนิวส์!! มือโพสต์ทหารบินฉีดไฟเซอร์ ขอขมา ผบ.ทบ. พร้อมสำนึกผิด รับเป็นบทเรียนชีวิต

มือโพสต์ ทหารบินสหรัฐฯ ฉีดไฟเซอร์ ขอขมา ผบ.ทบ. รับเป็นบทเรียนเสพเฟกนิวส์ ด้านผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก เผยแจ้งหมิ่นประมาทตัวเลขหลักสิบ หนึ่งในนั้นมี ส.ส.ณัฐชา ก้าวไกล

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ. ปานศิริ มีผล อดีตทหารนอกราชการ เตรียมทหารรุ่น 13 นำ น.ส.สิรพัชญ์ ปฏิพัทธวินิจ พร้อมด้วย พัฒนฉัตร เลิศอำไพนนท์ สามี นำพวงมาลัยเข้าขอขมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) 

จากกรณี น.ส.สิรพัชญ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Amilie siraphat patipattawinij กล่าวหา กำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค. 64 ว่าบินไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยมี พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก พร้อมด้วย พล.ต.อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการกองทัพบก เป็นผู้รับมอบ

น.ส.สิรพัชญ์ กล่าวว่า ตนไปส่องทวิตเตอร์และรับทราบในสิ่งที่ผิดๆ ว่าทหารไทยไปฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ ด้วยความที่เราอินกับข่าวก็เลยนำมาโพสต์ต่อจากนั้นได้รับทราบความจริงก็ลบโพสต์ทันทีว่าทหารไทยไม่ได้ไปฉีดวัคซีนแต่ไปร่วมฝึกกับทหารสหรัฐอเมริกาหลังจากที่ได้ลบโพสต์ไปแล้วก็มีปัญหาเข้ามาโดยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

ต้องเข้าใจว่าในช่วงนั้นวัคซีนก็ขาดแคลนในประเทศไทย และตนก็ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้เมื่อได้รับการแชร์ข่าวดังกล่าวมาก็รู้สึกว่าทำไมทหารถึงบินไปฉีดวัคซีนได้ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ตนจึงติดต่อขอโอกาสมาขอขมา ผบ.ทบ.ว่าเรารู้ข้อเท็จจริงแล้วก็ยินดีปรับปรุงตัวและช่วยประชาสัมพันธ์ชี้แจงข่าวที่เป็นจริงของกองทัพบกว่าเฟกนิวส์มีอยู่จริง ทั้งนี้ฝากเตือนน้องๆ เด็กยุคใหม่ว่าการที่จะส่งต่อโพสต์หรือแชร์ต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนไม่ใช่โพสต์เพื่อสนุกปากหรือเรียกยอดไลก์ยอดแชร์

"ยอมรับว่าหลังถูกดำเนินคดีมีผลกระทบต่อความรู้สึก และชีวิตประจำวันมากซึ่งตัวเองไม่ได้มีเจตนาจะบิดเบือนเรารับทราบข่าวมาอย่างไรแล้วก็โพสต์ไปอย่างนั้นแพร่กระจายไปตามที่เราข่าวที่เรารับทราบมา" น.ส.สิรพัชญ์ กล่าว

พล.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ตนรู้จักกับแม่ของสามีคุณสิรพัชญ์ จึงเข้ามาเป็นตัวกลางประสานให้เพราะรู้ว่าทั้งหมดเป็นความทุกข์อย่างแสนสาหัส จากกรณีแค่นี้หลังที่ได้รับเฟกนิวส์มาสั้นๆ แต่ผลที่ตามมารุนแรงต่อชีวิตประจำวันของเขาสิ่งที่คิดคือเราเป็นคนไทยด้วยกันก็น่าจะพูดคุยกันได้จากปัญหาของเขาตนจึงได้ประสานมาที่กองทัพบก

สมอ. คุมเข้ม!! ‘หลอดไฟแอลอีดี - ยางหล่อดอกซ้ำ’ ย้ำต้องได้มาตรฐาน มีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้

สมอ. ควบคุมหลอดไฟแอลอีดี และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก ต้องได้มาตรฐาน มอก. มีผลบังคับใช้ 29 มีนาคม 2565 และ 5 พฤษภาคม 2565 เตือนผู้ประกอบการทุกราย ก่อนทำ นำเข้า ต้องขออนุญาตจาก สมอ.  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรม และการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้า โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญและได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินงานด้านการมาตรฐานของประเทศ ทั้งการกำหนดมาตรฐาน การควบคุมและกำกับติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน 

“การดำเนินงานด้านการกำหนดมาตรฐานของ สมอ. มีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะการคุ้มครองประชาชนที่ต้องได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป เพื่อให้การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศ สามารถแข่งขันทางการค้าได้อย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ซึ่งผมได้กำชับกับสมอ. ให้เร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชนให้ประกาศเป็นสินค้าควบคุมเป็นอันดับแรก” นายสุริยะฯ กล่าว

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ดำเนินงานตามนโยบายท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด โดยประกาศควบคุมสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนแล้วจำนวน 127 รายการ รวมถึงสินค้า 3 รายการ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ได้แก่ หลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ มอก.2779-2562 และหลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัว มอก.2780-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มีนาคม 2565 และยางหล่อดอกซ้ำสำหรับรถบรรทุก รถบัส และรถพ่วง มอก.2979-2562 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นี้ด้วย 

ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายที่จะทำ หรือนำเข้าสินค้าดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย โดยสินค้าทุกชิ้นจะต้องแสดงเครื่องหมายมาตรฐานบังคับคู่กับ QR code เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้รับใบอนุญาตได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย ผู้ทำหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมายมาตรฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

เลขาธิการ สมอ. กล่าวต่อว่า มาตรฐานหลอดแอลอีดีเปลี่ยนทดแทนขั้วคู่ ซึ่งโดยทั่วไปอาจเรียกว่า หลอดแอลอีดีชนิด T5, T8 หรือ หลอดแอลอีดีแบบยาว จะควบคุมเรื่องความปลอดภัยในขณะใช้งาน เพื่อป้องกันไฟรั่ว  ไฟดูด ควบคุมอุณหภูมิของขั้วหลอดในภาวะไฟฟ้าวิกฤติ และการติดไฟ เป็นต้น ขณะนี้มีผู้ยื่นขออนุญาตแล้วจำนวน 3 ราย เป็นผู้ทำ 1 ราย ผู้นำเข้า 2 ราย  

CPF ประเดิมส่งไก่ล็อตแรกไปซาอุฯ ช่วยหนุนส่งออกไก่ปีนี้ เพิ่มเป็น 9.8 แสนตัน

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับซีพีเอฟ ได้ฤกษ์ปล่อยขบวนตู้คอนเทนเนอร์ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่เที่ยวแรกของไทยไปยังซาอุดีอาระเบีย หลังฟื้นความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ร่วมกันทำพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป ออกจากโรงงานแปรรูปไก่เนื้อ มีนบุรี เพื่อเตรียมส่งออกไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย

โดยนายจุรินทร์ระบุว่า หลังเสียโอกาสมานาน 18 ปี ครั้งนี้นับเป็นผลิตภัณฑ์ไก่จากประเทศไทย ล็อตแรก ตั้งแต่ปี 2547 โดยรัฐบาลซาอุฯ ได้อนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของไทยจากโรงงาน 11 แห่ง ที่ผ่านการตรวจรับรองแล้ว ทำให้ในปี 2565 ตั้งเป้ายอดการส่งออกไก่ เพิ่มเป็น 9.8 แสนตัน มูลค่ารวม 1.1 แสนล้านบาท เฉพาะประเทศซาอุฯ ประมาณ 6 หมื่นตัน จากที่ปี 2564 สามารถส่งออกได้ 9 แสนตัน โดยมั่นใจว่าคุณภาพไก่ไทย สามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างไม่มีปัญหา ขณะเดียวกันยังได้สั่งให้มีการควบคุมราคาขายไก่ในประเทศให้เป็นไปตามต้นทุน ป้องกันการขึ้นราคาจนประชาชนเดือดร้อน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปล่อยขบวน ส่งต่อน้ำใจไทย ยกทัพเครื่องอุปโภคบริโภคลงพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ บรรเทาทุกข์ผู้ว่างงาน ตกงาน ขาดรายได้ สู้ภัยโควิด-19

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ  คณะกรรมการฯ และผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีเปิด โครงการ “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อน้ำใจไทย สู้ภัยโควิด-19” แจกจ่ายถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น  เช่น  ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ รวม 5,000 ชุด แก่ผู้ประสบปัญหาว่างงาน หรือตกงาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วทุกเขตกรุงเทพมหานคร [50 เขต] รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,750,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) โดยมีผู้แทนจากสำนักงานเขต อาทิ นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร นางมาศวัลย์  ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน  นายสุนิต บุญยมหาศาล ผู้อำนวยการเขตยานนาวา  นายกษิระ ศรีเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และนายพงศธร ชั้นไพศาลศิลป์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสาทร ร่วมในพิธีเปิดโครงการฯ ณ บริเวณลานสำนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เขตพลับพลาไชย กรุงเทพฯ

โดยในช่วงบ่ายของวันนี้  (28 มี.ค.65) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ / หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย และนางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์  นำทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสาทร เขตละ 100 ชุด

สำหรับการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค มูลนิธิฯ กำหนดลงพื้นที่แจกจ่ายนับตั้งแต่วันนี้ – 28 เมษายน 65 โดยกำหนดออกแจกจ่ายวันละ 2 เขต  โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ประสานงานกับสำนักงานเขตทุกเขต ในการกำหนดวัน จัดเตรียมสถานที่และชุมชนในพื้นที่ เพื่อจัดระเบียบ ตั้งจุดคัดกรองประชาชนในแต่ละจุดตามหลักการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่และกำลังอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทยอยลงพื้นที่เพื่อแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร (รวม 50 เขต) 

ไต้หวัน ชี้! ผลพวงโลกคว่ำบาตรรัสเซีย ดัน ‘หยวน’ ผงาดแทนที่ ‘ดอลลาร์’

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน ชี้ สงครามในยูเครน และการที่รัสเซียถูกกีดกันออกจากระบบการเงินโลกได้สร้างโอกาสทองให้สกุลเงิน ‘หยวน’ ของจีนก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมข้ามแดนแข่งกับดอลลาร์สหรัฐ

รัสเซีย ประกาศชัดเจนว่าหวังพึ่งจีนเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และเตรียมนำเงินทุนสำรองสกุลหยวนออกมาใช้ หลังจากที่ถูกชาติตะวันตกปิดกั้นไม่ให้สามารถเข้าถึงเงินทุนสำรองสกุลดอลลาร์สหรัฐ และยูโรได้

เฉิน หมิงทง (Chen Ming-tong) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติไต้หวัน กล่าวต่อรัฐสภาวันนี้ (28 มี.ค.) ว่า จีนพยายามมานานที่จะลดความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐลง และสงครามยูเครนก็ยิ่งเปิดโอกาสให้เงินหยวนก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก

“ไม่ว่าจะในแง่การค้า (trade) หรือระบบการออกเงินตรา (currency issuance system) นี่คือโอกาสที่จีนจะต้องรีบคว้าเอาไว้” เฉิน กล่าว

ไต้หวัน ซึ่งถูกจีนอ้างว่าเป็นดินแดนในอธิปไตย ได้ยกระดับการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงนับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุ ด้วยเกรงว่าจีนอาจจะฉวยโอกาสรุกรานเหมือนอย่างที่รัสเซียทำกับยูเครน

เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ยังเฝ้าจับตาด้วยว่า สงครามในต่างแดนครั้งนี้จะให้ “บทเรียน” อะไรกับจีนและไต้หวันบ้าง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top