Friday, 4 July 2025
TheStatesTimes

ย้อนรำลึก ‘ครูเวส สุนทรจามร’ เจ้าของบทเพลงในตำนาน ‘บุพเพสันนิวาส’

เมื่อพูดถึงบทเพลง ‘บุพเพสันนิวาส’ หรือ ‘พรหมลิขิต’ เชื่อว่าหลายคนต้องร้อง ‘อ๋อ’ เพราะนับได้ว่าบทเพลงเหล่านี้ เป็นบทเพลงคุ้นหูที่หลายคนเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง และอาจเรียกได้ว่าเป็นบทเพลง ‘อมตะ’ ที่เป็นผลงานจากนักประพันธ์เพลงชั้นครูอย่าง ‘ครูเวส สุนทรจามร’

โดย ‘เวส สุนทรจามร’ หรือ ‘ครูเวส’ นักประพันธ์เพลงที่มีผลงานแต่งทำนองให้กับวงสุนทราภรณ์ ร่วมกับครูแก้ว อัจฉริยะกุล ครูสุรัฐ พุกกะเวส เป็นจำนวนมาก เป็นครูเพลงที่มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงในวงการหลายคน เช่น วินัย จุลละบุษปะ, เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ประพนธ์ สุนทรจามร, ธนิต ผลประเสริฐ เป็นต้น

แต่หากย้อนกลับไปถึงประวัติความเป็นมาของ ‘เวส สุนทรจามร’ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2442 ที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี มารดาชื่อ นางทองคำ สุนทรจามร บิดาเป็นทหาร ย้ายตามบิดาเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพ เรียนหนังสือที่วัดอนงคาราม พ.ศ. 2457 ขณะอายุได้ 15 ปี ก็สมัครเป็นทหารอยู่ที่ กรมทหารราบที่ 3 ซึ่งอยู่บริเวณกระทรวงกลาโหม และได้ฝึกหัดแตรวงอยู่กับครูฝึกชื่อ สิบตรีอั้น ดีวิมล และครูอั้นได้พาออกไปรับงานนอก เป่าแตรเพลงโฆษณารถแห่หนัง เป่าแตรหน้าโรงหนังก่อนหนังฉาย และเป่าเพลงเชิด เพลงโอด ประกอบภาพยนตร์

ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีการยุบ ย้ายหน่วยทหาร จึงลาออกไปสมัครเป็นทหารในกองแตรวงทหารมหาดเล็ก จนกระทั่งถูกยุบวงเมื่อ พ.ศ. 2475 จึงไปเป็นนักดนตรีของวงดนตรีเครื่องสายฝรั่งหลวง กรมมหรสพ ภายใต้การดูแลของพระเจนดุริยางค์ และเล่นดนตรีแนวแจ๊สกับ เรนัลโด ซีเกร่า บิดาของแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ในเวลาเดียวกันก็ตั้งคณะละครวิทยุ ชื่อ คณะสุนทรจามร ประพันธ์เพลงร่วมกับครูแก้ว อัจฉริยะกุล บันทึกเสียงวางจำหน่าย

พ.ศ. 2481 หลวงสุขุมนัยประดิษฐก่อตั้ง บริษัทไทยฟิล์มร่วมกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล และนายพจน์ สารสิน จัดตั้งวงดนตรีประจำบริษัทเพื่ออัดเพลงประกอบภาพยนตร์ จึงมาชวนไปอยู่ด้วย โดยมีครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นหัวหน้าวง และมีโอกาสได้อัดเพลงยอดฮิตหลายเพลง เช่น เพลงบัวขาว, ลมหวน ของท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์

29 มีนาคม พ.ศ. 2430 วันเกิด ‘พระยาพหลพลพยุหเสนา’ บุคคลสำคัญผู้มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย

พลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา นามเดิม พจน์ พหลโยธิน เป็นนายทหารปืนใหญ่ เชษฐบุรุษ และนายกรัฐมนตรีไทยคนที่สอง ทั้งยังเป็นหนึ่งในสี่ทหารเสือผู้ก่อการปฏิวัติสยามใน พ.ศ. 2475 เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และยังเป็นผู้นำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา

โดยนายพลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา มีนามเดิมว่า “พจน์ พหลโยธิน” เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2430 เวลา 03.30 น. ณ บ้านหน้าวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนคร เป็นบุตรนายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา (ถิ่น พหลโยธิน) (บางตำราว่าเขียนนามบิดาของท่านว่า กิ่ม และบางตำราว่าเขียนนามมารดาของท่านว่า จีบ) กับคุณหญิงจับ พหลโยธิน สมรสกับคุณหญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา

ในด้านของการศึกษา นายพลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เริ่มการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) และย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนสุขุมาลวิทยาลัย จนกระทั่งเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียน นายร้อยทหารบก โดยมีผลการเรียนดีมาตลอด ต่อมาในปี พ.ศ. 2446 ได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกในเมืองโกรสลิสเตอร์ เฟล เด ประเทศเยอรมนี ศึกษาอยู่ 3 ปี ต่อจากนั้นได้เข้าประจำอยู่ในกองทัพบกเยอรมัน สังกัดกรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ในปี พ.ศ. 2455 ได้เดินทางไปศึกษาต่อวิชาช่างแสงที่ประเทศเดนมาร์ก เรียนได้ปีเดียวถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากเงินทุนการศึกษาไม่เพียงพอ อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

โดย นายพลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา รับราชการครั้งแรกประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 จังหวัดราชบุรี และเลื่อนขั้นขึ้นมาตามลำดับ จนวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาพหลพลพยุหเสนา” มีราชทินนามเดียวกับบิดา

ในด้านบทบาททางการเมืองของ พระยาพหลพลพยุหเสนา นับว่าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยไม่น้อย โดยได้ร่วมกับ “คณะราษฎร” โดยเป็นหัวหน้าคณะราษฎรและเป็นหัวหน้าสายทหารบก ทำการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” มาเป็นระบอบ “ประชาธิปไตย” โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ในปี พ.ศ. 2475 ได้รับตำแหน่งพิเศษ เป็นกรรมการกลางกลาโหม ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2475 จึงได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก (บางตำราเดือนกรกฎาคม) และดำรงตำแหน่งกรรมการราษฎร รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา

ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 ได้กระทำรัฐประหารรัฐบาลของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (สมัยที่ 3) อันเนื่องมาจากคณะรัฐมนตรีปิดสภาผู้แทนราษฎร และงดใช้รัฐธรรมนูญ โดยนายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา (ยศในขณะนั้น) ได้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทยหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

กลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ  สสสส. รุ่น 12 สถาบันพระปกเกล้า ถอดบทเรียนเขาหัวโล้นจังหวัดน่าน -”สบขุ่นโมเดล” มุ่งสร้างสันติสุขสู่ความยั่งยืน 

วันที่ 26 มีนาคม ที่โรงเรียนบ้านสบขุ่น ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 12 กลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ ได้จัดเวทีสานเสวนาหาทางออกในการแก้ปัญหา "สบขุ่นโมเดล" เพื่อสันติสุขและยั่งยืน

ดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆอาทิ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ นนทบุรี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สมาชิกอบต.ป่าคา ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทางความคิด ครู ตัวแทนจากบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ NGO ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการ และไม่เข้าร่วมโครงการ ร่วมสานเสวนา โดยกะเทาะปม จากจุดเริ่มต้นของปัญหา จนนำไปสู่ความขัดแย้ง จากนั้นหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง ได้นำเครื่องมืออะไรมาใช้ จนทำให้ชาวบ้านเกิดความมั่นใจ เข้ามามีส่วนร่วมในความร่วมมือ 

“บ้านสบขุ่น” เป็นหมู่บ้านหนึ่ง ที่อยู่บนที่ราบสูง หรือบนภูเขามานาน อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองราว 80 กิโลเมตร มีการทำเกษตรกรรมแบบพออยู่พอกิน แต่หลังจากกระแสโลกาภิวัตน์เข้ามา โลกเปลี่ยนไป 10 ปีให้หลัง จึงปรากฏภาพเป็นเขาหัวโล้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการทำพืชเกษตรเชิงเดี่ยว โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพดบนดอย และยังมีความซับซ้อนเรื่องสิทธิที่ดินทำกินอีกด้วย

ต่อมาปี 2558 บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี เข้ามาเพื่อลดการปลูกข้าวโพดในพื้นที่ โดยหาพืชตัวอื่นที่มีมูลค่าสูงกว่า ให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องขยายพื้นที่เพิ่ม จึงเป็นจุดเริ่มต้น”สบขุ่นโมเดล”

'จนท.สหรัฐฯ' ป้อง 'ไบเดน' หลังหลุดพูดเปลี่ยนการปกครองในรัสเซีย ฟาก 'ริพับลิกัน' ติง!! วันหน้าอย่าพูดนอกสคริปต์อีก

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ต้องพากันรุดออกมาชี้แจงพัลวันในวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) ว่า อเมริกาไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่อาจอยู่ในอำนาจได้อีก" จนถูกมอสโกออกมาตอบโต้ว่าไม่เคารพต่อการเลือกของประชาชนชาวรัสเซีย

คำพูดของไบเดนระหว่างเยือนโปแลนด์ในวันเสาร์ (26 มี.ค.) ยังรวมถึงความเห็นที่เรียก ปูติน ว่า "คนโหดเหี้ยม" ดูเหมือนเป็นการปรับท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อมอสโกขึ้นอย่างมาก ต่อกรณีที่พวกเขายกพลรุกรานยูเครน

เครมลินตอบโต้ความคิดเห็นของไบเดน โดยระบุว่า "มันไม่ใช่การตัดสินใจของไบเดน ประธานาธิบดีรัสเซียเลือกโดยประชาชนชาวรัสเซีย"

ในขณะที่ผู้แทนทูตระดับสูงเรียงแถวออกมาชี้แจงในวันอาทิตย์ (27 มี.ค.) ประธานาธิบดีไบเดน ถูกสอบถามโดยผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ตอนที่เขากำลังเดินทางออกจากโบสถ์แห่งหนึ่งในวอชิงตัน ว่าเขากำลังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซียหรือไม่ ไบเดน ตอบกลับด้วยคำพูดเดียวสั้นๆ ว่า "ไม่"

จูเลียน สมิธ เอคอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำนาโต้ พยายามอธิบายบริบทความเห็นของไบเดน โดยบอกว่ามันมีขึ้นหลังหนึ่งวันหลังจากพบปะพูดคุยกับพวกผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในวอร์ซอ ในขณะที่การรุกรานที่ยืดเยื้อนาน 1 เดือนของรัสเซีย ผลักประชาชนชาวยูเครนราว 1 ใน 4 จากทั้งหมด 44 ล้านคน ต้องหลบหนีจากที่พักอาศัย

"ในช่วงเวลานั้นผมคิดว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยธรรมชาติต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เขาได้ยินมาในวันนั้น" สมิธให้สัมภาษณ์กับรายการ "State of the Union" ของซีเอ็นเอ็น ก่อนระบุว่า "สหรัฐฯ ไม่มีนโยบายเปลี่ยนการปกครองในรัสเซีย"

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม แสดงความคิดเห็นว่า ไบเดน กำลังชี้ให้เห็นว่า ปูติน ไม่ควรมีอำนาจในการทำสงคราม และ บลิงเคน บอกด้วยว่าการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับผู้นำในอนาคตของรัสเซียจะขึ้นอยู่กับประชาชนชาวรัสเซีย

สมาชิกพรรครีพับลิกันวิพากษ์วิจารณ์คำพูดของไบเดน โดยเรียกมันว่าเป็นความผิดพลาดที่เคราะห์ร้าย

เจมส์ ริสช์ วุฒิสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกัน ในคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภา เรียกความเห็นของไบเดน ว่า คำพูดที่น่าลัวและปรารถนาว่าในวันข้างหน้าประธานาธิบดีรายนี้จะไม่พูดอะไรที่อยู่นอกเหนือจากสคริปต์อีก

"คนส่วนใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่รู้หรอกว่าคำพูด 9 คำที่เขาปริปากออกมา ก่อความครึกโครมแค่ไหน มันกำลังก่อปัญหาใหญ่" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น

วุฒิสมาชิก ร็อบ พอร์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการเช่นกัน คร่ำครวญว่ามันเป็นก้าวย่างที่ผิดพลาดในช่วงเวลาสงคราม "มันเข้าทางพวกนักโฆษณาชวนเชื่อรัสเซีย และเข้าทางวลาดิมีร์ ปูติน ดังนั้นมันจึงเป็นความผิดพลาด"

สหรัฐฯ หาทางถ่วงดุลระหว่างเกิดความขัดแย้งในยูเครน เพื่อหลีกเลี่ยงเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงกับรัสเซีย พวกเขาส่งมอบอาวุธให้เคียฟ สำหรับนำไปสู้รบกับรัสเซีย แต่ปฏิเสธส่งทหารเข้าไปยังประเทศแห่งนี้หรือกำหนดเขตห้ามบิน

แนวทางสนับสนุนดังกล่าวช่วยเสริมแสนยานุภาพแก่ยูเครน ที่สามารถต้านทานการรุกรานได้อย่างดุเดือดผิดคาด และจนถึงตอนนี้รัสเซียยังคงล้มเหลวในการยึดเมืองหลักใดๆ ของยูเครน แม้การสู้รบล่วงเลยมากว่า 4 สัปดาห์แล้วก็ตาม

‘วิลล์ สมิธ’ เดือดจัด ตบหน้า ‘คริส ร็อค’ กลางเวทีออสการ์ หลังเล่นมุกเมียโกนหัว เตรียมเล่นหนัง G.I. Jane ภาค 2

‘วิลล์ สมิธ’ เดือดจัด ปรี่เข้าตบหน้า ‘คริส ร็อค’ กลางเวทีออสการ์ หลังเล่นมุกเมียของวิลล์ โกนหัวเตรียมเล่นหนังเรื่อง G.I. Jane ภาค 2 ทั้งที่เธอเป็นโรคผมร่วง

วิลล์ สมิธ นักแสดงชื่อดัง บุกขึ้นเวทีตบหน้า คริส ร็อค นักแสดงตลก กลางงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่คริส ร็อคกำลังขึ้นกล่าวในช่วงการประกาศรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังคริส ร็อคเล่นมุกล้อเลียนทรงผมของ จาดา พิงคิตต์ สมิท ภรรยาของวิลล์ สมิธ ซึ่งตัดสินใจโกนศีรษะเมื่อปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีปัญหาเรื่องผมร่วง โดยกล่าวว่า "จาดา ผมรักคุณ หวังว่าจะได้เห็นคุณแสดงจีไอ เจน ภาค 2 นะ" ซึ่งนางเอกของเรื่องโกนศีรษะด้วยเช่นกัน

'นายกฯ' เตรียม ร่วมประชุมผู้นำบิมสเทค 30 มีค.นี้ - รับมอบตำแหน่งประธานต่อจากศรีลังกา

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation : BIMSTEC) ครั้งที่ 5 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นโดยศรีลังกา และนายโคฐาภยะ ราชปักษะ ประธานาธิบดีศรีลังกา เป็นผู้กล่าวในช่วงพิธีเปิดการประชุม ในวันที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 09.50 น. ผ่านระบบการประชุมทางไกล ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นายธนกร กล่าวว่า บิมสเทค (BIMSTEC) เป็นกรอบความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจระหว่าง 7 ประเทศในอ่าวเบงกอล ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2540 ภายใต้การริเริ่มและผลักดันของไทย เพื่อสอดรับนโยบายมองตะวันตก (Look West) ของไทย เข้ากับนโยบายมองตะวันออก (Look East) ของกลุ่มประเทศเอเชียใต้ และ Act East ของอินเดีย โดย ไทย เคยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2557

'รัฐบาล' ออกมาตรการลดเงินสมทบผู้ประกันตน ให้ 3 เดือน ช่วยนายจ้าง-ลูกจ้าง กว่า 24.2 ล้านคน ฝ่าเศรษฐกิจ ผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน เริ่ม พ.ค.- ก.ค. 65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งยูเครน – รัสเซีย และได้มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน และสั่งการทุกหน่วยงานประเมิน และออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ดังกล่าว ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดมาตรการลดเงินสมทบทั้งในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันทุกมาตรา ม.33, ม. 39 และ ม. 40  เป็นระยะเวลา 3 เดือน 

เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 ได้แก่ หนึ่ง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 5 ของค่าจ้าง เหลือ ร้อยละ 1 ของค่าจ้าง ยกตัวอย่างหากคิดบนฐานค่าจ้าง 15,000 บาท จากเดิมต้องส่งเงินสมทบ 750 บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 150 บาท ทำให้สามารถลดภาระค่าครองชีพ ไปได้ประมาณ 600 บาทต่อคนต่อเดือน

นายธนกร กล่าวว่า สอง ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน จะได้ลดเงินสมทบจากร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.9 คือจากเดิมที่ต้องส่งเงินสมทบ 432 บาท จะลดลงเหลือส่งเงินสมทบ 91 บาท หรือลดภาระค่าครองชีพไปได้ประมาณ 341 บาทต่อคนต่อเดือน

'รองโฆษกรัฐบาล' เผย อนุมัติ1.5 หมื่นล้านบาท ช่วย SMEs โครงการ บยส. ค้ำประกันเงินกู้พ.ร.ก ซอฟท์โลน เริ่มสมัคร 1 เม.ย.นี้

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อจะได้มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการประคับประคองธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 จึงได้มีการออก พ.ร.ก. Soft Loan เมื่อปี 2563 และเพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นมีความมั่นใจว่าจะยังคงได้รับสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ลดปัญหาผิดชำระหนี้ สามารถพยุงการจ้างงานได้ต่อไป รัฐบาลจึงได้เห็นชอบกรอบวงเงิน  15,854 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยใช้กลไก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.Soft Loan ที่จะครบกำหนดเวลาการชำระหนี้คืนในเดือนเม.ย 2565 เป็นต้นไป

โดยในวันที่ 1 เม.ย.นี้ บสย. จะเปิดรับคำขอโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan Extra คาดว่า จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 67,400 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 84,000 ล้านบาท สิทธิประโยชน์คือ 1.ระยะเวลาการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 8 ปี

2.ได้รับยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ SMEs 3.ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก เพียงร้อยละ 1 ต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการ SMEs ให้ ร้อยละ 0.75 (รวม 2 ปีร้อยละ 1.5 จากค่าธรรมเนียมค้ำประกัน ปกติร้อยละ 1.75)
4.สิ้นสุดรับคำขอวันที่ 31 ธันวาคม 2566

'รมว. สุชาติ' นำทีมไทยแลนด์ลุยไซต์งานซาอุฯ เตรียมส่งออกแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เดินทางถึงประเทศซาอุอิอาราเบีย โดยมีนายอับดุลมายิด อัลราชูดีย์ รัฐมนตรีช่วยดูแลกิจการแรงงาน กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม  พร้อมด้วยนายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ กรุงริยาด ประเทศ โดยนายสุชาติกล่าวว่า ในวันนี้ผมได้นำคณะผู้บริหารของกระทรวงแรงงานมายังกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาราเบีย เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงด้านแรงงานในวันที่ 28 มีนาคน 2565 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

จากนั้น นายสุชาติ และคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมและพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานไทย ณ กรุงริยาด รวมทั้งหารือข้อราชการกับนายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณท่านอุปทูต ที่ให้การดูแลอัครราชทูตที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่ของฝ่ายแรงงาน และให้คำแนะนำ สนับสนุน การปฏิบัติงาน ของฝ่ายแรงงานฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน ที่ประจำการที่กรุงริยาดรวมถึงช่วยเหลือดูแลแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบีย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย นอกจากนี้ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ช่วยผลักดันสนับสนุนให้การลงนามความตกลงด้านแรงงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว มุ่งหวังให้การจ้างแรงงานไทยเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านแรงงานของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทางการซาอุดีอาระเบียช่วยตรวจตราในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ปกป้องคุ้มครองสิทธิของนายจ้างและแรงงาน รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ สัญญาจ้างงานระหว่างกันที่เป็นธรรม แรงงานได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย

สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงาน ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1,334 คน แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานส่วนใหญ่เป็นการแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง นายจ้างพาไปทำงาน และ Re - entry ซึ่งตำแหน่งงานที่แรงงานไทยเดินทางไปทำงาน เช่น ช่างเชื่อม ช่างเทคนิค ช่างเครื่องยนต์ ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน ผู้ควบคุมเครื่องจักร คนงานผลิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป คนงานควบคุมเครื่องจักร ผู้ช่วยกุ๊ก แม่บ้าน เป็นต้น

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ผมยังได้พบปะหารือกับตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพการจ้างงานในสถานประกอบการไซด์งานก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย ณ ไซด์งานก่อสร้างบริษัท AL BAWANI -CP02 โดยได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในประเด็นความต้องการแรงงานในกิจการก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย สภาพเศรษฐกิจโดยรวม แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างในอนาคต ตลอดจนแผนการลงทุนในโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ที่วางแผนไว้ ตลอดจนมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียนั้น จะมี E-Contract Program ซึ่งเป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง และลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง

“เสกสกล” เห็นด้วย “ซูเปอร์โพล”ปชช.พอใจ 10 มาตรการช่วยเหลือ อย่าฟังฝ่ายค้านโจมตีนายกฯ เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชน พบว่าร้อยละ 84.2 พอใจ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน ลดภาระค่าไฟฟ้า และประชาชนร้อยละ 59.7   ยังให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานต่อ จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯให้ความสำคัญกับประชาชน  มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนที่อยากให้นายกฯบริหารงานแก้ไขปัญหาต่อไป

นายเสกสกล กล่าวว่า ตลอดเวลาของการทำหน้าที่ นายกฯและรัฐบาล ได้ทำงานอย่างหนักในการที่จะแก้ไขปัญหาประเทศชาติ และแม้จะเกิดวิกฤตต่างๆ ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลถึงปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนที่กำลังเกิดขึ้น นายกฯ และรัฐบาล ยังช่วยกันคิดเพื่อที่จะหามาตรการต่างๆออกมาให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะนายกฯเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top