Saturday, 5 July 2025
TheStatesTimes

‘บิณฑ์’ รุดช่วย ‘ป้าเขียด นภาพร’ ดาราอาวุโส เผยชีวิตลำบาก หลังป่วยเส้นเลือดสมอง จนพูดไม่ได้

‘ป้าเขียด นภาพร’ ดาราอาวุโส หน้ามืดแล้วล้ม เส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ พูดไม่ได้ ไม่มีแม้เงินซื้อแพมเพิส รอตรวจก้อนเนื้อในรังไข่ ‘บิณฑ์’ รุดช่วย มอบเงินให้ 2 หมื่น

หลังจากที่ล้มป่วยจนไม่สามารถเล่นละครได้อีก มีรายได้เพียงวันละ 100-200 บาทจากการขายของชำที่ปราจีนบุรี ล่าสุดเพจ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ได้เผยเรื่องราวของ ‘ป้าเขียด นภาพร หงสกุล’ นักแสดงอาวุโสเจ้าบทบาทที่ตอนนี้กลายเป็นคนพูดไม่ได้ จากอาการหน้ามืดแล้วล้มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ โดยบิณฑ์เผยว่าตอนนี้ป้าเขียดไม่มีแม้เงินซื้อแพมเพิส พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 2 หมื่น

“สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขมาหลาย 10 ปี แต่วันนี้ ป้าคนนี้มีความทุกข์ใครช่วยป้าได้”

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมอยากพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิงมา 40 กว่าปี เธอสร้างรอยยิ้ม สร้างความสนุกสนานในทุกบทบาทที่เธอได้รับเล่น ผมพูดถึง ป้าเขียด หรือ ป้านภาพร หงสกุล อายุ 76 ปี ป้าป่วยเมื่อต้นปี 2562 นอนห้อง ICU อยู่ 14 วัน ติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดอาการหน้ามืดแล้วล้ม คุณหมอตรวจพบว่าเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ

ทำให้ตอนนี้ป้าเขียดไม่สามารถพูดได้ แต่ฟังรู้เรื่อง ป้าเขียดอยู่กับลูกชาย อายุ 57 ปี ที่คอยดูแลป้าเขียด ลูกชายบอกว่า ตอนนี้เงินที่ได้จากการถ่ายหนังถ่ายละครที่แม่เก็บไว้หมดแล้ว ลูกชายเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีพ ทุกวันนี้ลำบากมากแม้แต่เงินจะซื้อแพมเพิสมาให้แม่ยังไม่มีเลย ทุกวันนี้ รายได้จากการขายของ วันละ 100-200 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย สงสารแม่ที่พูดไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้เลยไม่รู้ว่าต้องการอะไร

ตอนแรกที่ผมเข้าไปหาป้าเขียดจำผมไม่ได้ แต่พอผมเปิดมาสก์ออก ป้าเขียดยิ้มและจำได้ทันทีอยากจะพูดอยากจะบอกว่าจำได้แต่ป้าพูดไม่แล้ว ชีวิตที่เคยสร้างความสุขให้ใครต่อหลายคน วันนี้ป้าเขียดต้องมีสภาพเป็นแบบนี้ แล้วยังไม่รู้เลยว่าวันนี้หมอเอาก้อนเนื้อในรังไข่ไปตรวจไม่รู้จะเป็นมะเร็งอีกรึเปล่า ขอให้ป้าเขียดอย่าเป็นอะไรมากไปกว่านี้เลยนะครับ ขอให้ป้าเขียดกลับมาพูดได้เหมือนเดิมและกลับมาเล่นละครให้พวกเราชมอีกนะป้าเขียด

ช่วยเป็นกำลังใจให้ป้าเขียดด้วยนะครับเพื่อนๆ ผมช่วยป้าเขียด 20,000 บาท ถ้าเพื่อนๆ หรือคนในวงการบันเทิงอยากช่วยเหลือก็โอนเข้า บัญชีลูกชายได้เลยครับ..ชื่อ บัญชี นาย สมคิด หงสกุล ธนาคาร กรุงไทย เลขที่ บัญชี 9 8 3 3 0 1 3 2 3 6 ออมทรัพย์

การช่วยเหลือครั้งนี้สำคัญที่สุดครับ ป้าเขียดจะกลับมาพูดได้หรือไม่ได้อยู่ที่การรักษาอย่างต่อเนื่อง เงินเป็นสิ่งที่สำคัญป้าต้องมีเงินเป็นค่ารักษา ป้าต้องมีกำลังใจจากพวกเราครับ

กราบขอบพระคุณสำหรับทุกๆกำลังใจครับ..”


ที่มา : https://www.facebook.com/Bhin.fanclub/posts/518228212998220

'เจ้าหนี้' เป็นปลื้ม..เมื่อเจอ ‘ลูกหนี้’ สุดยอดวินัย แจงยิบยอด 6 แสนกว่า ผ่านไป 1 ปี ปลดหนี้ได้ 4 แสน

เฟซบุ๊ก Paweena Rungrod โพสต์ภาพและข้อความ ถึงลูกหนี้รายหนึ่ง ที่มีวินัยในการคืนอย่างมากระบุว่า

"กูกราบใจลูกหนี้เลย กูขอให้เขาเจริญ ๆ ๆ ทุกคนล้วนมีปัญหาชีวิต แต่อย่าเอามาเบียดเบียนกันก็พอ เราเองก็มีหนี้ หนี้คือแรงผลักดัน"

โดยภาพดังกล่าวเป็นการเผยให้เห็นยอดหนี้ 649,000 บาท ซึ่งลูกหนี้มีการทยอยคืนเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปี 

ขณะที่ ยอดเงินที่คืนส่วนใหญ่คืนเป็นเงินงวดละ 1,000 บาท บางงวดก็หลักร้อย และมีบางงวดที่เป็นหลักแสน และหลักหมื่น ทำให้ยอดล่าสุดเหลืออยู่ราว 200,000 บาท

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์จำนวนมาก


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4748626358593788&set=a.101734056616398

‘บาริสตา’ ช็อก!! หลังเจอลูกค้าสั่ง ‘นมชมพู ไม่เอาหวาน’ ชาวเน็ตแขวะช่วย!! แบบนี้ต้องเท ‘อุทัยทิพย์’ ลงไปแทน

บาริสตาถึงกับต้องโพสต์โอด หลังเจอลูกค้าสั่ง นมเย็นไม่หวานเลย เผยทำไม่ได้เพราะส่วนผสมทุกตัวในเครื่องดื่มดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นนมข้น หรือน้ำแดงเฮลส์บลูบอย หวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. เฟซบุ๊ก "เอ็ม เอฟฟ." หรือบาริสตาที่ร้านแห่งหนึ่ง ได้โพสต์ลงกลุ่ม "ชมรมลาเต้อาร์ต 100 ลิตร" เผยภาพบิลออเดอร์หนึ่งจากลูกค้าที่สั่ง “นมชมพู ไม่หวานเลย” พร้อมระบุแคปชัน “แล้วฉันนั้นทำอะไรได้บ้างงงง #ช็อกตั้งแต่คนรับออเดอร์ยันบาริสตา #วิญญาณหลุดลอยไป”

ทั้งนี้ หลังจากโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไป ได้มีชาวเน็ตมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่พูดว่าต่อให้เก่งขนาดไหนก็ชงไม่ได้ เพราะว่าด้วยส่วนผสมที่ต้องใช้น้ำแดงเฮลส์บลูบอย และ นมข้น ทำให้นมเย็นนั้นหวานอยู่แล้ว ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนพูดติดตลกว่าให้เทน้ำยี่ห้อ อุทัยทิพย์ ลงไปแทน หรือนำสีผสมอาหารเข้าไปแทนที่เพื่อให้เครื่องดื่มออกมามีสีชมพูตามที่ลูกค้าต้องการ โดยปัจจุบันมีผู้แชร์ภาพดังกล่าวออกไปแล้วกว่า 2,000 ครั้ง


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000027953

https://www.facebook.com/groups/374905523915263/permalink/739090250830120/

ลูกสาว 'วัฒน์ วรรลยางกูร' โอดเป็นลูกพ่อใช้ชีวิตยาก แขวะ เพราะประเทศนี้ที่ทำให้คนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้

วจนา วรรลยางกูร บุตรสาว นายวัฒน์ วรรลยางกูร โพสต์ร่ายยาวถึงผู้เป็นพ่อที่เพิ่งจากไปหลังป่วยหนัก โอดประเทศไทยทำคนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้ เป็นลูกพ่อใช้ชีวิตไม่มีอะไรง่าย แต่ที่ผ่านมาได้เพราะมีกันและกัน

จากกรณี วจนา วรรลยางกูร หรือ เตย ลูกสาวของ วัฒน์ วรรลยางกูร กวีและนักเขียนเจ้าของรางวัลศรีบูรพา ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส เนื่องจากถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญา มาตรา 112 โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า คุณพ่อวัฒน์ วรรลยางกูร จากไปแล้วราวช่วงสามทุ่มครึ่งตามเวลาในฝรั่งเศสหลังจากป่วยหนัก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. น.ส.วจนา วรรลยางกูร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Toei Wajana” ถึงนายวัฒน์ วรรลยางกูร ผู้เป็นพ่อ โดยได้ระบุข้อความว่า

“เป็นลูกพ่อแม่งชีวิตโคตรยาก ไม่มีอะไรง่ายเลย มันไม่ได้ยากเพราะพ่อหรอก มันยากเพราะประเทศนี้แหละที่ทำให้คนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้

เสียใจแน่ เสียใจมาก แต่มันมากกว่านั้น พ่อเป็นชีวิตของเตย เตยเป็นลูกสาวพ่อมาทั้งชีวิตและจะเป็นไปตลอดกาล

ตั้งแต่พ่อป่วยหนักรอบนี้มีภาพเหตุการณ์หนึ่งที่จู่ๆ ก็เข้ามาฉายวนซ้ำไม่หยุด ช่วงตอนเตยอยู่ประถม วันนั้นแม่ไม่อยู่ พ่อเลยต้องเป็นคนไปรับที่โรงเรียน พ่อขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าสีเปลือกมังคุดเหลือแต่โครง รีบมารับเตยตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิก หอบเสื่อม้วน หิ้วกระติกน้ำแข็งแขวนแฮนด์รถมา วันนั้นอากาศร้อนมากบ้านเราไม่มีแอร์ พ่อรีบมารับลูกหน้าโรงเรียนแล้วมุ่งหน้าขึ้นไปต้นน้ำตก เปิดเบียร์พาลูกไปเล่นน้ำให้หายร้อน ลงน้ำกันสองพ่อลูกแป๊บเดียวฟ้าก็มืด ตุเลงรถอีแก่ฝ่าความมืดลงเขากลับบ้านก่อนแม่จะถึงบ้าน คล้ายภารกิจลับสองพ่อลูก

พ่อคนเดียวกันนี้ที่หัดให้ลูกว่ายน้ำด้วยการยกลูกชูขึ้นสองแขน แล้วโยนลงแม่น้ำช่วงไม่ลึกนัก พร้อมมีแม่ยืนกรี๊ดตกใจอยู่ริมฝั่ง

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ยอมขัดใจแม่แล้วตามใจเตย ถ้าเตยตื่นไปวิ่งตอนเช้ากับพ่อแล้วบอกว่าอยากได้อะไร

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ชอบโทร.หาตอนเตยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อให้กูเกิลหาว่าเพลงนี้ใครแต่ง-ปีอะไร เพื่อเอาไปเขียนคอลัมน์

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ชอบใช้ให้พิมพ์ต้นฉบับตั้งแต่เด็กจนโต แถมยังชอบชวนคุยเรื่องการเมืองเป็นกิจวัตร

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ถามถึงเรื่องงานลูกบ่อยกว่าถามว่า ชีวิตเป็นยังไงบ้าง เพราะหวังอยากเห็นลูกไปได้ไกลในเส้นทางของตัวเอง

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ลูกต้องพาหนีตายระหว่างลี้ภัย

พ่อที่โคตรดื้อ แล้วทำให้เราใจอ่อนจนต้องช่วยไปซะทุกเรื่อง

เตยนึกภาพชีวิตที่ไม่มีพ่อไม่ออก ชีวิตพวกเรามันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว แต่เราผ่านมันมาได้เพราะมีกัน

อย่างน้อยพ่อก็ได้ไปอยู่กับแม่แล้วนะ

ลูกสาวของพ่อ”


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=10159207818274892&set=a.373694244891

“ประวิตร” เร่งปราบค้ามนุษย์ สั่งคุ้มครอง-ช่วยเหลือ ผู้เสียหายปลื้ม งานคืบ ส่งผลดี ทิปรีพอร์ต

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)ครั้งที่ 1/2565 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์(ปกค.)ครั้งที่ 1/2565 

โดยที่ประชุมปคม. เห็นชอบร่างข้อเสนอแนวทางการพัฒนากลไกการส่งต่อระดับชาติ และร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกการส่งต่อระดับชาติ และเห็นชอบร่างมาตรฐานการปฎิบัติงานการตรวจคัดกรอง เบื้องต้น เพื่อแสวงหาข้อบ่งชี้ สำหรับบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน แรงงานบังคับ หรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 

นอกจากนั้นเห็นชอบร่างรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และกรอบเวลาการจัดทำรายงาน รวมทั้งเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ครั้งที่5 และการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งที่15 ในปี2565 ที่ประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งประธานคอมมิท (COMMIT Task Force)

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบรายงานการประเมินการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กลางปี ประจำปีค.ศ.2022 และรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2564 ที่นายกรัฐมนตรี เห็นชอบแล้ว และ กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำรายงานฉบับภาษาอังกฤษ ส่งให้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย เมื่อ 21 ม.ค.65 เพื่อใช้ประเมินจัดระดับประเทศไทยในทิปรีพอร์ตแล้ว

โดยสหรัฐฯ แสดงความพอใจต่อการดำเนินงาน และชื่นชมผลการดำเนินคดีค้ามนุษย์ในภาพรวมที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปี2563 รวมถึงการดำเนินงานที่สำคัญของรัฐบาลไทย เช่น การจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหาย (ดอนเมือง) การจัดทำกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) และการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการค้ามนุษย์ ระยะเร่งด่วน 4รุ่น จำนวน 120 คน รวมทั้งการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรม เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์แห่งแรกในภูมิภาค ภายใต้ความร่วมมือ กับรัฐบาลออสเตรเลีย เป็นต้น

'ไทย' เตรียมแผนปรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น เชื่อ มุ่งฟื้นเศรษฐกิจ แม้ยังกังวลผู้ติดเชื้อ

23 มี.ค. 65 สำนักข่าว Voice of America สหรัฐอเมริกา เสนอรายงานพิเศษ Thailand Aiming for Endemic Status as More Travel Restrictions Lifted ว่าด้วยความพยายามของทางการไทย ในการเปลี่ยนสถานะของไวรัสโควิด-19 จากโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ลดความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคลงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลของผู้คนอีกไม่น้อย

ในช่วงต้นเดือน มี.ค. 2565 กระทรวงสาธารณสุขของไทย ประกาศตั้งเป้าให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นภายในเดือน ก.ค. 2565 ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อกำหนดให้ชาวต่างชาติที่จะเดินทางไปประเทศไทยต้องมีผลตรวจคัดกรองไม่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก็ถูกประกาศยกเลิก อย่างไรก็ตาม อนันต์ จงแก้ววัฒนา (Anan Jongkaewwattana) นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้เตือนว่า ยังคงต้องระมัดระวังต่อไป

“เราต้องพูดกันให้ชัดว่าโรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่ามันจะรุนแรงน้อยกว่าสิ่งที่พบระหว่างที่เป็นโรคระบาดใหญ่ สำหรับผม โรคประจำถิ่นหมายความว่าประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่งที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ” อนันต์ กล่าว

ประเทศไทยยังคงต่อสู้กับสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จากเชื้อกลายพันธุ์สายโอมิครอน เช่น ในวันที่ 18 มี.ค. 2565 ที่พบผู้ติดเชื้อ 27,071 คน ทำสถิติติดเชื้อรายงานสูงที่สุด แต่อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ค่อนข้างสูง นับตั้งแต่เริ่มการฉีดวัคซีนในปี 2564 ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 127 ล้านเข็ม ซึ่งนับตั้งแต่เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3 หรือ 4)

แกรี โบเวอร์แมน (Gary Bowerman) นักวิเคราะห์การท่องเที่ยวของทวีปเอเชีย ที่อาศัยอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย กล่าวว่า ประเทศไทยต้องระมัดระวังในการตั้งเป้าหมายในอนาคต เนื่องจากโควิด-19 นั้นคาดเดาไม่ได้ แม้เดือน ก.ค. 2565 คือการกำหนดเป้าหมาย แต่ก็ทราบกันดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ว่าการกำหนดเส้นตายที่ยากและรวดเร็วนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง

“สถานะโรคประจำถิ่น เป็นเรื่องเล็กน้อยในการสื่อสารกับสาธารณชนเพื่อพยายามเปลี่ยนวิธีคิดภายในประเทศ เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ครั้งสำคัญ สถานการณ์ที่ประเทศประสบอยู่คือการปิดตัวอย่างสมบูรณ์ยาวนานถึง 2 ปี และตอนนี้ได้เปิดแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิดครั้งใหญ่ แม้มันไม่ได้อยู่ที่แต่ละประเทศจะบอกว่าเป็นโรคประจำถิ่น แต่เป็นองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่ผมก็เข้าใจได้ว่าทำไมรัฐบาลถึงทำแบบนั้น” โบเวอร์แมน กล่าว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยพยายามหาทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นมา ด้วยโครงการ Test&Go ที่ตัดขั้นตอนการกักตัวออกไป แต่โครงการต้องถูกหยุดไว้ชั่วคราวในเดือน ธ.ค. 2564 จากการเริ่มตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายโอมิครอน อันเป็นเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่ในเวลานั้น ก่อนที่ต้นปี 2565 จะกลับมาดำเนินโครงการต่ออีกครั้ง และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วหลายแสนคน ถึงกระนั้นก็ยังต้องเผชิญความท้าทายอีกเรื่องหนึ่ง คือสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ชาวรัสเซียที่เป็นอีกกลุ่มซึ่งนิยมไปเที่ยวประเทศไทยลดจำนวนลง

‘ส.ว.สมชาย’ ชี้ตั้ง ‘อุ๊งอิ๊ง’ หน.ครอบครัวฯ ไม่ผิด แต่เตือน ระวัง ‘พฤติกรรม-กิจกรรม’ เสี่ยงขัดกม.

‘ส.ว.สมชาย’ ชี้ตั้ง ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย-หาสมาชิกพรรค ไม่ผิดกฎหมาย เตือนระวัง ‘พฤติกรรม-กิจกรรม’ ขัดกฎหมายพรรคการเมือง

23 มีนาคม 2565 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ. ... คนที่ 4 รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเลี่ยงกฎหมายเพราะเปิดให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกครอบครัวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบันกำหนดให้ผู้จะเป็นสมาชิกพรรคต้องชำระค่าสมัคร ว่า ตนมองว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการนั้นยังไม่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองและระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีคำนิยามหรือคำใดที่ระบุถึงประเด็นหัวหน้าครอบครัวและสมาชิกครอบครัว

'อนุทิน' เปิดประชุมวิชาการ กัญชาทางการแพทย์ เผยคืบ ปลดล็อกจากบัญชียาเสพติด ย้ำ อสม. พาผู้สูงอายุฉีดวัคซีน รับสงกรานต์

จ.บึงกาฬ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นประธานในการเปิดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 8 พร้อมกับปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "กัญชา กัญชง ความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ" โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมลงพื้นที่ด้วย  

โดยครั้งนี้เป็นการสัญจรให้ความรู้กัญชา กัญชง แก่ประชาชนในทุกมิติเป็นครั้งที่4  จากเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาสังคมในการสัญจรให้ความรู้โดยการจัดประชุมวิชาการใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ   

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในการปาฐกถารองนายกฯระบุ ถึงความคืบหน้าของกฎหมายที่จะปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 จะมีผลบังคับ 120 วันหลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือมีผลบังคับประมาณเดือนมิ.ย. แต่ช่วงนี้สามารถขออนุญาตปลูกในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนได้ ขณะที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ... ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร สำหรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้พืชกัญชา กัญชง เป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่เป็นทางเลือกการสร้างรายได้ของประชาชนเพิ่มเติมจากพืชเศรษฐกิจหลักอื่นๆ โดยการที่หน่วยงานต่างๆ ได้ให้การสนับสนุนปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดนั้นแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ และโอกาสทางเศรษฐกิจที่จะตามมาอีกมาก  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้ฝากถึงพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ทั่วประเทศ ขอให้ร่วมกันนำผู้สูงอายุในหมู่บ้านและชุมชนมารับวัคซีนให้ครบให้ได้ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยต้องอธิบายผู้สูงอายุให้ทราบถึงความเสี่ยงของการไม่รับวัคซีนซึ่งขณะนี้ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่เสี่ยงและเสียชีวิตสูงสุด ซึ่งหากทำสำเร็จ อสม. จะเป็นกลไกหลักที่ทำให้ประเทศไทยสามารถผ่านเทศกาลสำคัญที่สุดของคนไทยปีนี้ผ่านไปด้วยดีและมีความสุข และขอฝากลูกหลานที่ไปทำงานต่างถิ่นที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ในเทศกาลสงกรานต์ ให้ดูแลล้างตัวเองให้สะอาดทั้งการไม่ร่วมสังสรรค์ ไม่ไปสถานที่เสี่ยง 1 สัปดาห์ พร้อมตรวจ ATK ก่อนเดินทาง  
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า งานประชุมวิชาการทางการแพทย์เขตสุขภาพที่8 ซึ่งครอบคลุมจังหวัดบึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย และหนองบัวลำภู ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ท่องเที่ยวเริงร่า กัญชาริมโขง’ ที่เชื่อมโยงการเป็นแหล่งกัญชาที่ดีที่สุดกับแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างหินสามวาฬและถ้ำนาคา โดยตลอดงาน 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 มี.ค. 2565 มีทั้งการประชุมวิชาการ ให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา กัญชง ในมิติต่างๆ การสาธิตนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากกัญชา การให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ มีการตรวจรักษาและจ่ายยากัญชาทางการแพทย์ และมหกรรมกัญชา กัญชง การออกร้านให้ชิมและเลือกซื้ออาหารที่ปรุงด้วยกัญชา กิจกรรมให้คำปรึกษาด้านการขออนุญาตปลูกกัญชา โดยเขตสุขภาพที่8 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ประมาณ 5,000 คน ซึ่งภายในงานมีการคัดกรองผู้เข้าร่วมงานและดำเนินการภายใต้มาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด    

“ผบ.ทบ.”ต้อนรับ ผบ.กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก สานสัมพันธ์งานมั่นคง ดำรงการฝึกแลกเปลี่ยน พร้อมขยายกรอบความร่วมมือหลักสูตรทางทหาร  

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้การต้อนรับ พล.อ.ชาร์ลส์ เอ ฟลินน์ (Gen. Charles A. Flynn) ผู้บัญชาการกองกำลังทางบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) และคณะ ในโอกาสเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ และเข้าเยี่ยมคำนับผู้บัญชาการทหารบก โดยกองทัพบกได้จัดทหารกองเกียรติยศให้การต้อนรับ จากนั้นผู้บัญชาการกองกำลังทางบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ภายในกองบัญชาการกองทัพบกซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ยุทโธปกรณ์ และวิวัฒนาการด้านต่างๆของกองทัพบกไทย ก่อนเข้าหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในความร่วมมือด้านความมั่นคง ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 

การพบปะในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณและยินดีที่ พล.อ.ชาร์ลส์ เอ ฟลินน์ ตอบรับคำเชิญและเดินทางมาเยือนกองทัพบกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เคยหารือกันผ่านระบบออนไลน์เมื่อ ก.ค. 64 พร้อมกับกล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานกว่า 200 ปี โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคงและการฝึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อาทิ การฝึกร่วมผสม Cobra Gold, การฝึกผสม Balance Torch  และ ล่าสุดคือการฝึกผสม “Hanuman Guardian 2022” ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณที่สหรัฐฯให้การสนับสนุน และดูแลกำลังพล ทบ.ไทย ในขณะเข้าร่วมฝึกที่สหรัฐฯ แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การฝึกได้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล ควบคู่กับการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีทางทหาร

ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดคุยถึงการพัฒนาและขยายกรอบความร่วมมือในการฝึกแลกเปลี่ยนทางทหารทั้งในระดับหน่วยและการศึกษาในหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตรทางทหาร Lightning Academy, Air Assault และ Jungle Operation Training รวมทั้งการสนับสนุนการศึกษาตามโครงการ IMET, หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก และเสนาธิการทหารบกสหรัฐฯ ควบคู่กับการจัดประชุมความร่วมมือด้านการแพทย์ การบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือประชาชน การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้แก่กำลังพลผ่านการบรรยายพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ อาทิ การพัฒนาไซเบอร์และระบบเครือข่ายสารสนเทศ เป็นต้น 

กรุงไทย จับมือ กนอ.จัดสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม 

นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อส่งเสริมมาตรการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน 

อีกทั้งยังเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรหรือระบบจัดการของเสีย ช่วยลดการใช้พลังงานและทรัพยากรให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และขับเคลื่อนธุรกิจให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพตามแนวทางการขับเคลื่อน BCG Model ของรัฐบาล เป็นการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top