Saturday, 5 July 2025
TheStatesTimes

'รมว.เฮ้ง'​ มอบ 'ผู้ช่วยฯ'​ ต้อนรับ 'ทูตแคนนาดา'​ หารือมาตรการรองรับการจ้างงานจากผลกระทบโควิด-19

(22 มี.ค.65)​ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ H.E. Dr. Sarah Taylor เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งแคนาดาประจำประเทศไทยและคณะ ในโอกาสที่เยี่ยมคาราวะรวมถึงหารือผลกระทบของโควิด–19 ต่อการจ้างงาน รวมถึงแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย โดยเฉพาะแรงงานเมียนมา แผนพัฒนาทักษะให้แก่แรงงานไทยรวมถึงแรงงานตรีภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 และข้อมูลแรงงานไทยในแคนาดา และแรงงานแคนาดาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย โดยมีพลอากาศตรี เฟื่องศักดิ์ เรืองกล ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องจัตุมงคล ขั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงานยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยและแคนาดา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน 60 ปี 

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกระทรวงแรงงานพร้อมร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของท่านเอกอัครราชทูตอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในด้านแรงงานระหว่างประเทศไทยและแคนาดาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ และร่วมมือกันในการฝ่าฟันกับภาวะวิกฤต โควิด–19 ไปด้วยกัน 

ที่ผ่านมา โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในประเทศไทย จึงเป็นอีกความท้าทายที่ทางกระทรวงแรงงานต้องดูแล เนื่องจากมีการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก รัฐบาลจึงมีมาตรการตรวจสอบคัดกรองหาเชื้อโควิด–19 ในกลุ่มแรงงานดังกล่าวที่ทำงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงดำเนินการปรับเปลี่ยนระเบียบ นโยบาย มาตรการต่างๆ ให้สอดรับกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว และช่วยเหลือให้แรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ที่ทำงานในประเทศ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานได้ต่อไป หรือการผ่อนผันให้ แรงงานข้ามชาติที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

'สวนนงนุชพัทยา'​ ร่วมกับ 'วัดคีรีวงก์'​ เสริมทักษะความรู้ การกินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรคหวังให้คนหันมากินอาหารไทย ต้านโรคภัย

สวนนงนุชพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ร่วมกับพระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ จัดอบรม หัวข้อ "กินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค รุ่นที่ 8" ระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2565 โดยมี พนักงานสวนนงนุช ประชาชนทั่วไปที่ชื่นชมสมุนไพร และเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทย เข้าร่วมอบรม อย่างพร้อมเพรียง

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สำหรับการจัดอบรม "กินอาหารสมุนไพร อย่างไรให้ปลอดภัย ปลอดโรค ในครั้งนี้ เพื่อให้คนไทยหันมาบริโภคอาหารไทย และอยากให้คนไทยรู้ถึงประโยชน์ของอาหาร เนื่องจากอาหารไทยมีประโยชน์มากมาย  อาทิ แกงเขียวหวานช่วยป้องกันอาการไข้,​ มีส่วนช่วยการสร้างภูมิคุ้มกันดีมาก ต้มยำช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคริดสีดวง,​ ช่วยระบายการขับถ่าย ผัดผักบุ้งช่วยในการถอนพิษ,​ บำรุงดวงตา ผัดใบกระเพราช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ,​ ไขมันเกาะตับ,​ ดูแลตับ ผัดเผ็ดช่วยป้องกันยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง,​ โรคหัวใจ,​ มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายดีมาก อาหารดังกล่าว ที่มีอยู่ใกล้ตัวว่ามีประโยชน์ทางโภชนาการสูงและยังสามารถเป็นยารักษาโรคที่ดี มีส่วนสรรพคุณเป็นยาจึงอยากให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมได้เข้าใจถึงประโยชน์ต่างๆรวมถึงสรรพคุณของอาหารไทย

กระทรวงเกษตรฯ​ ผนึก​ ศูนย์​ AIC77 จังหวัด​ ถ่ายทอด​ 701 นวัตกรรมสู่เกษตรอัจฉริยะกว่า 8​ พันราย พร้อมเชื่อมฐานข้อมูลกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ​ หวังพลิกโฉมภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและบิ๊กดาต้า

'อลงกรณ์'​ เร่งจบงานเนชั่นแนลซิงเกิลวินโดซ์ (NSW) และดิจิตอล ทรานสฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัยภายในปีนี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) เปิดเผยวันนี้ (22มี.ค.)ภายหลังเป็นประธานการประชุมผ่านระบบประชุมทางไกล พร้อมด้วย นายประภาส ทองยงค์ รองปลัดกระทรวงเกษตร นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รศ.ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.รุ่งอรุณ ดอนจันทร์ทอง ผู้อำนวยการสถาบันบัวราชมงคลตะวันออก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตบางพระ นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย รศ.ดร. อาณัฐชัย รัตตกุล ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ศูนย์ AIC และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากทั่วประเทศกว่า 400 คน เข้าร่วมประชุมเมื่อวานนี้เพื่อรับทราบความก้าวหน้าของผลการขับเคลื่อนคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ด้าน ทั้งด้าน Big Data และ Gov Tech ด้านเกษตรอัจฉริยะ ด้าน E-Commerce ด้านธุรกิจเกษตร (Agribusiness) และผลการดำเนินงานศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) 

โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน E-Commerce ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการดำเนินงานการกระจายสินค้าเกษตรผ่านช่องทางไปรษณีย์ และโครงการ Thailand E-Commerce ผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน ด้าน Big Data และ Gov Tech ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย 1) ความก้าวหน้าการดำเนินงานเชื่อมโยงข้อมูลศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (NABC:National Agriculture Big Data Center) ภายใต้ MOU ระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ 2) ผลการดำเนินงานการจัดทำและให้บริการภาครัฐของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ National Single Window (NSW) มีบริการที่เชื่อมโยง NSW จำนวน 55 บริการ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 38 บริการ ให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างการปรับปรุง/เพิ่มประสิทธิภาพระบบ จำนวน 17 บริการ และ 3) ผลการดำเนินงานการจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการเกษตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชนตามแนวทางDigital Transformation

ทั้งนี้​ นายอลงกรณ์ ได้แจ้งฝ่ายเลขาฯ ให้กำหนดจัดการประชุมเป็นการเฉพาะในต้นเดือนหน้า (เม.ย.) โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานการจัดทำและให้บริการภาครัฐของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ National Single Window (NSW) ในการวิเคราะห์ ประเด็นเสนอของภาคเอกชน ในการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการบริการในเว็บไซต์ที่ออกแบบให้สามารถเข้าถึงการบริการในเว็บเดียวกัน พร้อมทั้งจัดทำ time line กรอบรระยะเวลาการดำเนินการ 
ในการนี้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้รายงานผลการดำเนินงาน และนำเสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ กิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ “ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ Handy Sense และการขับเคลื่อน ศพก.เกษตรอัจฉริยะ การพัฒนาศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) สู่การทำการเกษตรแบบเกษตรอัจฉริยะ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร (Agribusiness) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานการนำเสนอพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 “ระบบเกษตรพันธสัญญา” และปัญหาราคาสุกรหน้าฟาร์มต่ำกว่าท้องตลาด และการเสนอผลการบริหารจัดการงานวิจัยทางการเกษตร ของศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) บัว ของสถาบันบัวราชมงคลตะวันออก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ โดยที่ประชุมเสนอให้มีการนำผลงานเข้าร่วมแสดงในงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2569 เพื่อแสดงศักยภาพด้านบัวของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สากลซึ่งมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเป็นศูนย์ AIC ประเภทความเป็นเลิศ COE ด้านบัว -ราชินีแห่งพืชน้ำ อีกทั้ง ความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะทำงานคัดเลือกรางวัล AIC Award ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างประกาศเปิดรับสมัครผลงานเข้าร่วมประกวดคัดเลือกรางวัล AIC Award 2022 และความก้าวหน้าการดำเนินงานระบบฐานข้อมูล AIC (Innovation Catalog) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน Innovation Catalog รวมทั้งสิ้น 701 เทคโนโลยี/นวัตกรรม 11 ประเภท การนำไปใช้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก AIC ผ่าน ศพก. สู่เกษตรกรจำนวน 8,709 ราย ศพก. 56 แห่ง จากทั้งสิ้น 882 แห่ง และขยายผลสู่เกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 6 จังหวัด รวม 9 แปลงใหญ่

สิ้น ‘วัฒน์ วรรลยางกูร’ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา เสียชีวิตที่ฝรั่งเศส หลังลี้ภัยการเมือง ปมถูกแจ้งข้อหา ม.112

22 มีนาคม 2565 วจนา วรรลยางกูร หรือ “เตย” ลูกสาวของ “วัฒน์ วรรลยางกูร” นักเขียนรางวัลศรีบูรพา โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Toei Wajana (วจนา วรรลยางกูร) ระบุว่า “คุณพ่อวัฒน์ วรรลยางกูร” จากไปแล้วราวช่วงสามทุ่มครึ่งตามเวลาในฝรั่งเศส หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมทางครอบครัวจะแจ้งอีกครั้งค่ะ”

สำหรับ วัฒน์ วรรลยางกูร เกิด 12 มกราคม พ.ศ. 2498 เป็นนักเขียนชาวไทย เกิดที่ตำบลตะลุง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันอายุ 67 ปี พักรักษาตัวจากอาการเจ็บป่วยโรคเนื้องอกที่ตับ
 

กองเชียร์ 'จาตุรนต์' ผิดหวังอย่างแรง ส่อหลุดแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

22 มี.ค. 65 - นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร" โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "แคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย

บุคคลที่ควรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่มีศักยภาพมากที่สุดในการต่อสู้ให้ระบอบเผด็จการต้องหมดไปตามที่อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศนั่นก็คือ จาตุรนต์ ฉายแสง"

โพสต์ของนายสมยศ สืบเนื่องจากพรรคเพื่อไทย เปิดตัว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมีแนวโน้มว่า จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย


ที่มา : https://www.facebook.com/2252770361439991/posts/5208461675870830/
https://www.thaipost.net/hi-light/109053/
 

‘ทิพานัน’ ชี้ ‘หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย’ คุณวุฒิด่างพร้อย ยกปม ‘ข้อสอบรั่ว’ ตราบาป ‘ทักษิณ’ ทิ้งให้ลูก

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคเพื่อไทย โชคดีที่ได้สายเลือดพันธุกรรม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และนำพาประเทศให้เป็นที่ยอมรับแต่ถูกกลั่นแกล้งถูกทำลาย ว่า หาก นพ.ชลน่าน หมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่าสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม เพราะทั้งคู่ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง แต่หลบหนีคดีออกนอกประเทศเพราะไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งที่ไม่มีใครห้ามไม่ให้กลับประเทศ แต่ไม่ยอมรับผลกรรมการทุจริตโกงชาติบ้านเมือง กลัวติดคุกจึงเลือกไม่กลับ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายทักษิณมีคดีที่ถูกพิพากษาจำคุก ได้แก่ คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำคุก 2 ปี ปัจจุบันคดีหมดอายุความแล้ว, คดีหวยบนดินที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีสั่งการให้เอ็กซิม แบงค์ อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลเมียนมา เพื่อซื้อสินค้าและบริการของบมจ.ชินแซทเทลไลท์ เอื้อประโยชน์แก่ตนเอง ศาลฎีกาฯ จำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีนอมินีถือหุ้นบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกิจการโทรคมนาคม โดยชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาหน่วยงานของรัฐ ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา 

ส่วนยุคของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาฯ พิพากษา จำคุกเป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา, กรณีป.ป.ช.ชี้มูลกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ได้ตำแหน่งผบ.ตร. ซึ่งป.ป.ช. ชี้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีวาระซ่อนเร้น เป็นการกระทำโดยทุจริต

นอกจากนี้ทั้ง 2 คนและญาติพี่น้องตระกูลชินวัตร ยังมีคดีที่อยู่ในชั้นของป.ป.ช. คือ คดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลอตสอง 8 สัญญา มีการแจ้งผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม คือ นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคดีกล่าวหาอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A340-500 และ A340-600 ของบมจ.การบินไทย ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น

'สถานทูตไทยในปักกิ่ง' จัดงานใหญ่ประจำปี 'Thai Fest 2022' ภายใต้ธีม 'สยามวันวาน' กระตุ้นคนจีนไม่ลืมเมืองไทย

ยังคงเป็นอีกภาพสะท้อนความสัมพันธ์อันดีของไทย-จีน หลังจากเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง (สอท.ปักกิ่ง) โดยนายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลไทย (Thai Fest) ณ กรุงปักกิ่ง ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. 65 ภายใต้ธีมงาน “Ancient Siam” หรือ "สยามวันวาน" พาทุกคนไปย้อนเสน่ห์วันวานของเมืองไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

โดยงานนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานรวมกว่า 4,000 คน ตามมาตรการจำกัดการเข้าร่วมของประชาชนในแต่ละรอบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เอกอัครราชทูตประเทศต่างประเทศประจำประเทศจีนและภริยา ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศจีน ประธานศูนย์อาเซียน-จีน ผู้บริหารภาคเอกชนไทยในจีน สื่อมวลชนจีนมากกว่า 30 สำนักข่าว ตลอดจนชุมชนไทยและประชาชนจีนในกรุงปักกิ่ง อีกทั้งยังมีผู้เข้าร่วมชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานเทศกาลไทยผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลรวมประมาณ 12,640,000 ครั้ง และมีผู้เข้าชมวิดีโอแคมเปญกิจกรรมเทศกาลไทยในแอปพลิเคชัน Kuaishou รวมมากกว่า 120,000,000 การรับชม 

'โฆษกก้าวไกล' มั่นใจ!! สนามกรุงเทพ ชี้!! กระแส 'วิโรจน์' ดีขึ้นต่อเนื่อง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง สนามการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่าขณะนี้หลายพรรคต่างเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ และ ส.ก.ออกมาหลังจากที่กรุงเทพมหานครไม่มีการเลือกตั้งมากว่า 8 ปี สำหรับพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจและเตรียมความพร้อมมานาน ลงทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงพร้อมส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ครบทั้ง 50 เขต เพื่อเป็นแรงสนับสนุนการทำงานของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนต่อไป 

"กระแสของว่าที่ผู้ว่าวิโรจน์ ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลังเดินทางไปรับฟังปัญหาของกรุงเทพด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยไปพร้อมแนวทางออกทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่ต้องใช้ทั้งงบประมาณและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ รวมถึง ส.ก.ที่จะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันนโยบายของกรุงเทพให้เป็นจริง ซึ่งการเป็นพรรคการเมืองถือเป็นจุดแข็งในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ เพราะนอกจากสามารถออกแบบนโยบายแล้ว ยังสามารถผลักดันให้เป็นจริงได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงสนับสนุนจากสภาของกรุงเทพ"

สรุป 10 มาตรการ เร่งด่วน ช่วยปชช. ยุค 'วิกฤติ สงครามรัสเซีย-ยูเครน'

เปิด 10 มาตรการช่วยประชาชน ยุคแพงทั้งแผ่นดิน เริ่มเดือนพ.ค.-ก.ค. ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ช่วยค่าน้ำมันจยย.รับจ้าง คงราคาก๊าซ NGV ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตน และลดค่าเอฟทีไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อ่านแถลงการณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน สืบเนื่องจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น

ผมและรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตระหนักดีถึงความลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย และผู้ใช้แรงงาน

จากการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ข้อสรุปว่าสถานการณ์ระหว่างยูเครน-รัสเซีย อาจจะไม่จบลงโดยเร็ว ผมจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมความคิดเพื่อหามาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เพิ่มเติมจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.จนถึงเดือนก.ค.นี้ อย่างน้อย 10 มาตรการ ดังนี้

1.) การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท/เดือน

2.) ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน

3.) ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้ประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม

4.) คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม

5.) ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม

6.) ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.

7.) ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง

8.) กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเม.ย.- มิ.ย. โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป

9.) ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป

10.) ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน
 

'ไบเดน' เชื่อ!! 'ผู้นำรัสเซีย' กำลังหลังชนฝา จนอาจอ้างใช้อาวุธชีวภาพกับยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศว่า “แน่ชัดแล้ว” ว่ารัสเซียกำลังพิจารณาใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพกับยูเครน พร้อมเตือนว่า หากรัสเซียทำจริง จะเผชิญการตอบโต้อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ปราศรัยต่อบรรดาผู้นำธุรกิจในกรุงวอชิงตัน ดีซี ว่า ตอนนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย “กำลังหลังชนกำแพง” พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียว่า สหรัฐฯ ครอบครองอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยูเครน

ไบเดนมองว่า ข้อกล่าวหาของปูติน แสดงให้เห็นว่า “ปูตินกำลังพิจารณาใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยูเครน” ดังนั้น สหรัฐฯ ควรจับตาว่ารัสเซียจะใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านี้จริงหรือไม่ หรือจัดฉากเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้อาวุธเหล่านี้ พร้อมเตือนว่า ถ้ารัสเซียกระทำจริง จะเผชิญกับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top