Thursday, 15 May 2025
Region

ชลบุรี - สร้างความมั่นใจ "บางเสร่" ตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 กลุ่มประมง 78 ราย พบทุกคนปลอดเชื้อ

วันนี้ 2 ส.ค.64 ที่สะพานท่าเทียบเรือกลุ่มประมงบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ ร่วมกับ เทศบาลตำบลบางเสร่ กลุ่มเกษตกรทำประมงบางเสร่ และฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ บูรณาการร่วม การตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ชุดคิท) ให้กับชาวประมงพื้นบ้านแบบเชิงรุก สกัดกั้นการแพร่ระบาด พื้นที่เศรษฐกิจชุมชน ย่านการค้า การท่องเที่ยว โดยมี นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรี ตำบลบางเสร่ พร้อมคณะผู้บริหาร , นายสำราญ ก้องเสนาะ ประธานกลุ่มเกษตรกรทำประมงบางเสร่ , คุณภาชินี บุญเรือง ผอ. รพ.สต.ตำบลบางเสร่ , นาย วรฤทธิ์ จังบวร กำนันตำบลบางเสร่ , นางสาว วลีพร อินอนงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่4 บางเสร่ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ประมงบางเสร่ ร่วมอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนชาวประมง พร้อมประชาสัมพันธ์รณรงค์ การป้องกันโควิด-19

นาย ชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรี ตำบลบางเสร่ กล่าวว่า สำหรับการตรวจแบบเชิงรุก ในพื้นที่กลุ่มประมงบางเสร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ เศรษฐกิจ มีประชากร กลุ่มแรงงานต่างด้าว จำนวนมาก ในวันนี้ทำการตรวจเชิงรุก โดยกลุ่มประมงบางเสร่ ร่วมกับสมาชิก จัดหาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ชุดคิท) เพื่อมาตรวจสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวตำบลบางเสร่ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งถือว่าพื้นที่นี้ เป็นจุดศูนย์กลาง เส้นทางการค้า การท่องเที่ยว และในสถานการณ์ปกติ ตรงนี้จะเป็นจุดรับนักท่องเที่ยว ประชาชน มีการค้าขาย ตลอดทั้งวัน จึงจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเชิงรุก และเราจะลงทุกพื้นที่ ในตำบลบางเสร่ เพื่อสแกนหา กลุ่มคนกลุ่มเสี่ยง  เพื่อให้ตำบลบางเสร่เป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ ปลอดโรค ปลอดภัย

 และสำหรับการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันแรก แบบเชิงรุก จากชุดคิท มีผู้เข้ารับการตรวจทั้งสิ้น 78 ราย ในเบื้องต้น ไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 78 ราย แต่ยังคงเน้นย้ำให้ทุกคนดูแลป้องกันตนเอง ในสถานวิกฤตโควิด-19 เชื่อมั่นในบางเสร่บ้านเรา เราจะผ่านและเดินหน้าไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล  ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ฉะเชิงเทรา - “นายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกอบจ.ฉะเชิงเทรา มอบโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันที่ 2 ส.ค. 2564 นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รับมอบโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา แพทย์หญิงสมบัติ ชุติมานุกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธโสธร หัวหน้าส่วนราชการ และบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดตั้งโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมนี้ได้ตรวจดูความพร้อมก่อนลำเลียงผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าดูแลรักษา ณ โรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา หมู่ที่ 6 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า อบจ.ฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา ใช้งบประมาณมากกว่า 12 ล้านบาท โดยมีการดำเนินการดำเนินดังนี้

1. พื้นที่อาคารและบริเวณโดยรอบที่ปรับปรุง

2. เตียงสำหรับผู้ป่วยพร้อมเครื่องนอนและอุปกรณ์จำเป็น จำนวน 1,200 ชุด

3. ห้องพักสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 5 ห้อง พร้อมอุปกรณ์

4. ระบบบำบัดน้ำเสีย

5. ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 10 ตู้

6. พัดลมระบายอากาศ จำนวน 14 ตัว

7. เครื่องฟอกอากาศ จำนวน 5 เครื่อง

8. เครื่องผลิตไอน้ำระบายความร้อน จำนวน 3 เครื่อง

9. ระบบไฟฟ้า/แสงสว่าง ภายในและภายนอกอาคาร

10. ระบบประปาสำหรับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

11. ระบบสื่อสาร แนะนำ ปรึกษาสำหรับผู้ป่วย

12. ห้องสุขา จำนวน 80 ห้อง รถสุขา จำนวน 5 คัน (60 ห้อง)

ทั้งนี้มีจัดตั้งระบบบริการดูแลรักษาพยาบาล ผู้ป่วยที่เข้าข่าย PUI ในกรณีที่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล ตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วย การให้การวินิจฉัยดูแลรักษาแบบ One Stop Services สามารถรับผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 ได้ดูแลรักษาแบบผู้ป่วยใน และให้การดูแลผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ใช้เป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการคงที่และได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลหรือวิกฤตจนดีขึ้นแล้ว

นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเตรียมรองรับผู้ป่วยไว้ 1,200 เตียง และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเตียงกระดาษมาให้เพิ่มอีก 200 เตียง ซึ่งจะได้จัดเสริมเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อจะได้รองรับผู้ป่วยได้เพิ่มเป็น 1,400 เตียง

ลำปาง - รองผู้ว่าฯ ลำปาง ตรวจติดตามการดำเนินงานป้องกันโรค COVID-19 พื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 ที่ จ.ลำปาง นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นำทีมตรวจเยี่ยมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ติดตามการดำเนินงานป้องกันโรค COVID-19 เข้าตรวจประเมินการปฏิบัติตามแผนมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดลำปางโดยมีนายอดิศักดิ์  กิจเจริญธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 และนายมาโนช  ชูชาติวรรณกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องมาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปให้รายละเอียดข้อมูล ณ ห้องประชุมมุ่งงานเลิศ อาคารประชาสัมพันธ์แม่เมาะ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

นายจำลักษ์ กล่าวว่า “จังหวัดลำปาง ได้ประกาศกำหนดให้หน่วยงานสถานประกอบการต่าง ๆ ผู้ที่มีผู้ปฏิบัติงานจำนวนมากต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนโดยเบื้องต้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมทีมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าทำการตรวจเยี่ยมประเมินผลการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อ COVID-19 สำหรับสถานประกอบการ(โรงงาน) หรือ Good Factory Practice (GFP) ของ กฟผ.แม่เมาะ ทั้งนี้เนื่องจากภายในสถานประกอบการโรงไฟฟ้ารวมถึงบริเวณพื้นที่เหมืองแม่เมาะ ถือเป็นสถานที่ประกอบการขนาดใหญ่ ที่แต่ละวันจะมีพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งของ กฟผ.แม่เมาะ และของบริษัทคู่สัญญา เข้าไปปฏิบัติหน้าที่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ก็อาจเกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างจนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัดได้ ทั้งยังจะส่งผลต่อภารกิจหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศ”

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า “ในมาตรการปฏิบัตินั้น กฟผ.แม่เมาะ ได้มีการนำมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อ COVID-19 เข้ามาใช้อย่างเข้มข้น ภายใต้แผนปฏิบัติการ ZERO COVID โดยมีเป้าหมายกำหนดให้พื้นที่โรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ ต้องเป็นเขตพื้นที่ปลอดเชื้อ COVID-19 ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนไทยต้องมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทาง กฟผ. แม่เมาะ จึงได้สั่งการให้พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ต้องกักตัวเองอยู่ภายในบริเวณพื้นที่ Safe Zone ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับในส่วนบุคลากรทั่วไปได้เน้นกำชับให้ทุกหน่วยทุกพื้นที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด

ส่วนในกรณีฉุกเฉินหากปรากฏว่ามีการตรวจพบพนักงานเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 ทาง กฟผ.แม่เมาะได้จัดทำพื้นที่ FAI หรือ Factory Accommodation Isolation ไว้จำนวน 2 แห่ง คือ ที่อาคารถิ่นเทเวศร์ ใช้สำหรับเป็นสถานที่พักคอยของผู้ป่วยสีเขียวจำนวน 16 ห้อง และที่อาคารอเนกประสงค์ห้วยคิง ได้ทำการจัดตั้งเป็น รพ.สนาม รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 60 เตียง ประกอบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ก็ได้มีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วเกินกว่าร้อยละ 90 จึงเชื่อมั่นได้ว่าพื้นที่โรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ จะเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงสุด และจะไม่เป็นจุดแพร่ระบาดของเชื้อโควิดอย่างแน่นอน


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

เชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ “ล้างเมืองเชียงใหม่ สู้ภัยโควิด -19”

เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมล้างเมืองเชียงใหม่ สู้ภัยโควิด-19 ล้างถนนและทางเท้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดเมืองเชียงใหม่ สร้างความมั่นใจให้ประชาชน

วันที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 20.00 น. ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ นายไทณ์ โรจน์รัตนจินดา รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ ล้างเมืองเชียงใหม่ สู้ภัยโควิด -19 เป็นการเดินหน้านโยบายของเทศบาลฯ ภายใต้หลักการ “สร้าง สาน เสริม” การสร้างใหม่ สานต่อ และเสริมพลังการพัฒนา ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้จัดให้มีการทำความสะอาดถนนและทางเท้าในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ทั้งสี่แขวงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนชาวเชียงใหม่

การจัดกิจกรรมดังกล่าวในช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนน้อยที่สุด โดยมี นางบงกช ตุวานนท์ ประธานสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ นางสาวรัชนี ชมชื่น รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายพิศุทธ์ พิศุทธกุล นางสาวพรผกา ตาระกา ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ หัวหน้าแขวงทั้งสี่แขวง เจ้าหน้าที่เทศบาล และประชาชนชาวเชียงใหม่ เข้าร่วมกิจกรรม


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

ขอนแก่น – สั่งปิดตลาดสดศรีเมืองทอง เพิ่มอีก 7 วัน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อเชื่อโยงคลัสเตอร์หลายจังหวัด พร้อมสั่งปรับปรุงตลาดให้ถูกสุขอนามัยฝ่าฝืนเอาผิดตามกฎหมาย ขณะที่ อบจ.ขอนแก่น จัดซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” จากสภากาชาดไทยชุดแรก 30,000 โดส

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ส.ค.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นที่ประชุมวันนี้ได้มีข้อสรุปและมีมติร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันท์ในการที่จะมีประกาศคำสั่งจังหวัดเพิ่มเติมให้สอดรับกับการที่ ศบค.ปรับให้ขอนแก่น จัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดง โดยเฉพาะกับการกำหนดจำนวนบุคลที่จะเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งการตั้ง รพ.สนาม ที่เรือนจำ อ.พล ภายใต้การกำกับและควบคุมของกรมราชทัณฑ์และ รพ.พล การกำหนดจุดตรวจการเข้าและออกเมือง จากเดิมกำหนดจุดตรวจที่ด่านนาโน อ.บ้านไผ่ ให้เป็น ด่านตรวจ อ.พล การผ่อนผันการเดินทางของ สส.และ สว. ที่ต้องเดินทางไปปฎิบัติงานและประชุมในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม การขยายระยะเวลาการสอบของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยในการจัดการสอบกลุ่มข้าราชการพิเศษ จากเดิม กำหนดการสอบ ส.ค. ไปเป็นเดือน ก.ย.

“วันนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ อบจ.ขอนแก่น จัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ตามระเบียบของสภากาชาดไทย เบื้องต้น 30,000 โดส สำหรับการฉีดให้กับชาวขอนแก่นกลุ่มเป้าหมาย 15,000 คน ซึ่งจะใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท โดยในการพิจารณารายชื่อของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมอบหมายให้ สสจ.ขอนแก่น ตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมและขอนแก่นพร้อมเป็นลำดับแรก ซึ่งเมื่อมีติเป็นเอกฉันท์ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกับ อบจ.ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่สภากาชาดไทยกำหนดไว้ต่อไป”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังมีมติในการขยายระยะเวลาการปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน ไปจนกว่าสถานการฯจะคลี่คลาย รวมทั้งการมีคำสั่งปิดตลาดศรีเมืองทองออกไปอีก 7 วัน จากเดิมครบกำหนดสั่งปิดในวันที่ 5 ส.ค. เนื่องจากเป็นคลัสเตอร์ที่พบการแพร่เชื้อในกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า และขณะนี้การสอบสวนโรคยังคงพบว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อของตลาดแห่งนี้ยังคงเชื่อมโยงไปในกลุ่มตลาดของอีกหลายจังหวัด ทำให้ที่ประชุมจึงมีคำสั่งปิดตลาดต่อไปอีกและให้มีการจัดระบบด้านสุขอนามัย ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้การขาดเครื่องพ่นออกชิเจนแบบไฮโฟ ในการใช้ในการรักษาผู้ป่วยในภาพรวมยังคงขาดแคลนอยู่ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าต้องใช้เครื่องดังกล่าวในการรักษาประมาณ 110 เครื่องดังนั้น นอกจากการประสานงานร่วม อบจ.ขอนแก่น,เทศบาลนครขอนแก่นแล้ว ยังคงขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในการขอรับการสนับสนุนเครื่องพ่นออกซิเจนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนในระยะนี้

สมุทรสาคร – อาลัย “นางฟ้าชุดขาว” ทำงานหนักดูแลผู้ป่วย ติดโควิด-19 เสียชีวิต

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 2  สิงหาคม 2564 ที่วัดศรีเมือง ม.3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาครนางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีณาปนกิจศพนางสาวอุไรวรรณ จันทรปลิน อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพ ปฏิบัติงานอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 โรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีพระครูสาครสิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง เจ้าคณะตำบลบ้านเกาะ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมด้วย นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร  แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมญาติพี่น้องเข้าร่วมพิธีประมาณ 80 คน โดยภายในงานมีแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาครได้ร่วมร้องเพลงมาร์ชพยาบาล เพื่อเป็นการอาลัยผู้ตายและส่งดวงวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์

สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้องเนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยู่กันมีจำนวน 9 คนและมีผู้ติดเชื้อโควิด 7 คนซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ โดยทางด้านเพื่อนพยาบาลรุ่น 6 วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเก้าเพชรบุรี กล่าวว่า พวกตนรู้สึกเสียใจมากคือไม่คิดว่ามันเป็นความจริง  มันเกิดขึ้นกับเพื่อนเราจริง ๆ ใช่ไหม ไม่มีใครอยากให้มันสูญเสีย ด้วยโรคที่เราดูแลคนไข้หรือว่าดูแลคนอื่นแล้วเราต้องมาเป็น เขาก็ต้องจากไป ซึ่งตนอยากให้ทางภาครัฐจัดวัคซีนให้เร็วเพื่อจะป้องกันได้เร็ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าใครที่เดินมาจะเป็น บางคนก็ปกปิดข้อมูล บางคนก็บอกไม่บอกพอมาถึงก็เป็นแล้วมานอนรวมกัน คือเราไม่รู้เพราะตอนนี้มันเป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มีใครรู้อะไรดีที่สุด แต่เราอยากให้เขาดูแลเราให้ดีที่สุดเพราะเราต้องดูแลคนไข้

ส่วนทางด้านนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร  กล่าวว่าสำหรับสวัสดิการในการดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ทางผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์หลายอย่างที่โรงพยาบาลดูแลให้ รวมทั้งประกันชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมทั้งหมดให้ และในส่วนโรงพยาบาลเองก็มีเงินที่ทางโรงพยาบาลได้รวบรวมไว้แล้วเพื่อให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป


ภาพ/ข่าว  ชูชาต แดพยนต์  ทีมข่าวสมุทรสาคร

สระแก้ว - ‘ตรีนุช’ ตรวจเยี่ยมกิจกรรมการขับเคลื่อนความปลอดภัยสู่สถานศึกษา พร้อมมอบนวัตกรรมเครื่องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตรวจเยี่ยมกิจกรรมการขับเคลื่อนความปลอดภัยสู่สถานศึกษา และเครือข่ายความร่วมมือตามโครงการ ศธ. ห่วงใยประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมมอบนวัตกรรมเครื่องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว

น.ส.ตรีนุช เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เกิดการระบาด อย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก รัฐบาลได้ตระหนักความสำคัญถึงปัญหาดังกล่าว จึงเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อันจะช่วยสถานการณ์ให้ดีขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้มอบหมายให้วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เป็นผู้ประสานและจัดทำนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่สนับสนุนและช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้น รวมทั้งวางแนวทางการขับเคลื่อนให้กับสถานศึกษาในสังกัด สอศ.ทุกแห่ง ดำเนินการสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและ กระทรวงศึกษาธิการ วาระเร่งด่วน (Quick Win) และเป็นการแสดงถึงศักยภาพของ สถานศึกษาอาชีวศึกษาโดยเฉพาะครูและผู้เรียนอาชีวศึกษาที่มีความรู้และสมรรถนะอาชีพที่สามารถคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

ด้าน ดร.สุเทพ กล่าวว่า สอศ.ได้มอบให้วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เป็นผู้ประสานและจัดทำนวัตกรรมรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ นวัตกรรมด้านการป้องกัน และนวัตกรรมด้านการบริการทางการแพทย์ ซึ่งนวัตกรรมด้านการป้องกัน จะเป็นการเน้นการฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยการใช้น้ำยา และแสงยูวีซี ส่วนนวัตกรรมด้านการบริการทางการแพทย์ เน้นการใช้หุ่นยนต์ช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์ โดยในวันนี้ได้จัดพิธีส่งมอบเครื่องมืออุปกรณ์นวัตกรรมดังกล่าวให้แก่โรงพยาบาลสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว (อบจ.สระแก้ว) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดสระแก้ว สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสระแก้ว ที่ว่าการอำเภอวัฒนานคร สำนักงานเทศบาลตำบลวัฒนานคร สถานีตำรวจภูธรวัฒนานคร,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว โรงพยาบาลวัฒนานคร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์  โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าเกวียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลวัฒนานคร ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสระแก้ว โรงเรียนวัฒนานคร และโรงเรียนอนุบาลศรีวัฒนาวิทยา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนต่อไป


ภาพ/ข่าว  ทีมงาน อบจ,สระแก้ว / บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน

นราธิวาส - มทภ.4 สั่งขนย้ายเตียงไม้ไผ่ จัดทำโดย ฉก.นราธิวาส รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ามารับการรักษา สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม จังหวัดชายแดนภาคใต้

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการ กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล ขนย้ายเตียงไม้ไผ่ จำนวน 250 เตียง ที่สนับสนุนจัดทำจาก หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เตรียมแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดสงขลา รองรับปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเดินทางกลับมารักษาตัวยังภูมิลำเนา

สำหรับโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามให้เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มีพื้นที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 โดยผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาส่วนมากเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น เข้ามารักษาตัว ณ ภูมิลำเนา ซึ่งทางจังหวัดได้เปิดให้มีการประสานเพื่อขอเข้ามารับการรักษาที่เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

กาฬสินธุ์ - สสจ.กาฬสินธุ์ มอบรถรับส่งผู้ป่วยโควิด ด้านที่ปรึกษารมว.คมนาคม ส่งตัวแทนสานบุญมอบเครื่องช่วยหายใจ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ปล่อยขบวนรถรับ-ส่งผู้ป่วย 16 คัน เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลใช้ในการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 ด้านที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ส่งตัวแทนสะพานบุญมอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ขณะที่สถานการณ์โรคพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 142 ราย ยอดสะสม 3,381 ราย

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ลานสนามกีฬากลาง จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ ดร.สม นาสะอ้าน รองนายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ นายยุทธพล ภูเลื่อน รองนายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันปล่อยขบวนรถพยาบาลรับ-ส่ง ผู้ป่วย โดยงบเงินกู้โควิด-19 จากรัฐบาล จำนวน 16 คัน เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ใช้ในการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19

นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รถรับ-ส่งผู้ป่วย หรือรถกู้ชีพฉุกเฉิน ทั้ง 16 คันดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ในงบเงินกู้เพื่อแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยส่งมอบให้กับโรงพยาบาลกมลาไสย เขาวง คำม่วง ดอนจาน ท่าคันโท นาคู นามน ยางตลาด ร่องคำ สมเด็จ สหัสขันธ์ สามชัย หนองกุงศรี ห้วยผึ้ง ห้วยเม็ก แห่งละ 1 คัน และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ จำนวน 2 คัน ทั้งนี้ เพื่อนำมาใช้บริการรับส่งผู้ป่วยโควิด-19 เป็นหลัก  และในอนาคตเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ก็จะให้บริการสำหรับรับส่งผู้ป่วยทั่วไป

นพ.อภิชัยกล่าวอีกว่า สำหรับว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังน่าเป็นห่วง มีจำนวนผู้ป่วยผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อย เนื่องจากยังมีการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง และแจ้งความประสงค์ขอรับการรักษาที่ภูมิลำเนา ดังนั้น รถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อใช้สำหรับรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด-19 จึงสำคัญและจำเป็น โดยอุปกรณ์ภายใน จะเป็นส่วนประกอบสำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยผู้ติดเชื้อ มีระบบห้องความดันลบ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันท่วงที

ด้านนายณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ หรือ สจ.เบ๊นซ์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ หรือเลขาบัส เลขานุการนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นตัวแทนนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางมัลลิกา แสนภักดี ประธานนักบริหารระดับสูงธรรมศาสตร์เพื่อสังคม (นมธ.) ร่วมเป็นสะพานบุญ ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจ (FHNC) จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 220,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยมีนพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลร่วมรับมอบ

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมอบสนับสนุนค่าน้ำมันจำนวน 10,000 บาท แก่สมาคมเมตตาธรรมทิพยสถานกาฬสินธุ์ เพื่อใช้เป็นค่าน้ำมันในการรับส่งผู้ป่วยกลับมารักษาที่บ้าน และร่วมกับนายประภาส ยงคะวิสัย มอบน้ำยาฆ่าเชื้อ เครื่องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ หน้ากาก น้ำดื่ม และเจลแอลกอฮอล์ ให้กับมูลนิธิใจถึงใจกาฬสินธุ์ เพื่อใช้ในการปฏิบัติภาคกิจช่วยเหลือสังคมอีกด้วย

ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดวันที่ 3 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นสูงอีก 142  ราย เป็นผู้ป่วยขอกลับมารักษาในภูมิลำเนา 44 ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อจากต่างจังหวัดตรวจพบระหว่างกักตัว 82 ราย ติดเชื้อภายในจังหวัด 16 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,381 ราย กำลังรักษา 1,959 ราย รักษาหายแล้ว 1,407 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

นราธิวาส - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จัดพิธีรดน้ำศพ และส่งศพวีรชนทหารกล้ากลับภูมิลำเนา จังหวัดขอนแก่น

ณ วัดบางนรา ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและวางหรีดเคารพศพ อาสาสมัครทหารพราน เกียรติขจร นาคดี  อายุ 24 ปี  กำลังพลตำเเหน่ง ผู้ช่วยเครื่องยิงจรวด กองร้อยทหารพรานที่ 4509 ปฏิบัติงานกองร้อยทหารพรานที่ 4514 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งเสียชีวิต จากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 เข้าใส่ฐานปฏิบัติการ ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ บริเวณบ้านแฆแบะ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ เขตรอยต่อกับบ้านปาดังยอ หมู่ที่ 3 ตำมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย โดยแรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประยุทธ์ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย และเสียชีวิต จำนวน 1 นาย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลา 02.30 น. ที่ผ่านมา

ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เป็นผู้แทนวางหรีดเคารพศพของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกและวางหรีดเคารพศพ ในนามแม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมกันนี้พันเอกทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้เป็นผู้แทน ครอบครัวของอาสาสมัครทหารพราน เกียรติขจร นาคดี รับมอบเข็มบางระจัน เพื่อประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติแก่วีรชนผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อความสงบของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนรับมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น และเนื่องจากอาสาสมัครทหารพราน เกียรติขจร มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ประกอบกับอยู่ในช่วงสถานการณ์ประกาศล็อกดาวน์ 29 จังหวัดของประเทศไทย ครอบครัวจึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมพิธี และรับศพได้ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้สั่งการหน่วยต้นสังกัดดำเนินการอย่างสมเกียรติ เพื่อนำศพอาสาสมัครทหารพราน เกียรติขจร นาคดี กลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาต่อไป ก่อนเข้าสู่พิธีรดน้ำศพตามลำดับ ขณะที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ฝากความห่วงใย และแสดงความเสียใจมายังครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมสั่งการเร่งช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิต่าง ๆ ตามระเบียบของทางราชการอย่างเร็วที่สุด

จากนั้น เวลา 15.30 น. พลตรี ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานพิธีส่งศพของอาสาสมัครทหารพราน เกียรติขจร นาคดี  ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส (สนามบินบ้านทอน) ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยศพผู้กล้าถูกคลุมด้วยธงชาติอย่างสมเกียรติ เคลื่อนผ่านทหารกองเกียรติยศที่ยืนให้ความเคารพไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งจะมีพิธีรับศพ ณ ท่าอากาศยานขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนา ณ บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 7 ตำบลวังสวาบ อำเภอภูผาม่าน  จังหวัดขอนแก่นต่อไป 


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top