Wednesday, 14 May 2025
Region

ปทุมธานี - ฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้ม สสจ.ขอบคุณทุกภาคส่วนช่วยผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ภายในจังหวัดปทุมธานี มีผู้ติดเชื้อลดลงเนื่องจากประชาชนตระหนักรู้ในการป้องกันตนเอง และทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยเหลือกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 มีประชาชนชาวปทุมธานีได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 910,000 คน คิดเป็น 78 เปอร์เซ็นต์ตามทะเบียนราษฎร์ เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นจังหวัดในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ภายในจังหวัดปทุมธานีนั้นตามสถิติจังหวัดปทุมธานีไม่ติด 1 ใน 10 ของประเทศหลายอาทิตย์แล้ว จากการประเมินการติดเชื้อภายในจังหวัดปทุมธานีอยู่ในระดับทรงตัว มีแนวโน้มที่จะลดลง วันนี้เราได้ร่วมมือกับท้องถิ่นและกับทุกภาคส่วนในการดำเนินการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของสถานบริการการการแพทย์ภายในจังหวัดปทุมธานี ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐ เอกชนสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุมมาก ในภาคเอกชนได้เปิดโรงพยาบาลรวมแล้วหลาย 1,000 เตียง สามารถรองรับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี โรงพยาบาลสนามก็ร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ช่วยเหลือกับทำโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย ทำให้มีจำนวนเตียงสามารถดำเนินการรับผู้ป่วยได้ ศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation ทางท้องถิ่นได้เปิดดำเนินการเกือบทุกที่ สามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี

ส่วนการกักตัวเองและดูแลที่บ้าน Home Isolation ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นในการที่จะดูแลตัวเองที่บ้าน ร่วมกับทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือสนับสนุน สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยจะลดลงแล้ว แต่เรายังต้องมีการสุ่มตรวจ  Active surveillance เฝ้าระวังเชิกรุกในจุดสำคัญทั้งหมดว่ายังมีผู้ติดเชื้อในระดับอย่างไรบ้าง เช่น ตลาด แคมป์คนงานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชนแออัด ผมได้มอบนโยบาลให้ทุกอำเภอลงพื้นที่สุ่มตรวจอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในภาพรวมของจังหวัดปทุมธานี ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเนื่องจากประชาชนมีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

นอกจากนี้จังหวัดปทุมธานียังมีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมาก เบื้องต้นมีประชาชนชาวปทุมธานีได้รับการฉีดเข็มแรกไปแล้ว 910,000 คน เมื่อฉีดเข็มแรกหนึ่งไปแล้วการนัดฉีดเข็มสองจะตามมาเอง หากคำนวณตามจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎร์ก็ได้รับการฉีดวัคซีนไปจำนวน 78  เปอร์เซ็นต์แล้ว หากรวมประชากรแฝงด้วยจังหวัดปทุมธานีได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 65 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะไม่ไกลเกินเอื้อมจะให้ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมาย ส่วนกลุ่มที่สำคัญคือกลุ่มผู้สูงอายุได้ 72 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 7 กลุ่มโรคได้รับการฉีดเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว และกลุ่มคนท้องได้ 50-60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ถือว่าปทุมธานีฉีดวัคซีนมากสุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพ ซึ่งเป็นจังหวัดในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งปัจจัยที่ผู้ป่วยภาพร่มลดลงคือการฉีดวัคซีน เราจึงต้องรณรงค์ต้องไป และคงจุดฉีดวัคซีนทุกโรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย โรงพยาบาลภาครัฐ 11 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 12 แห่ง ประชาชนสามารถเข้าถึงทุกอำเภอ และมีศูนย์ฉีดวัคซีนใหญ่อีก 2 แห่ง คือ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเป็นการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และเซียร์รังสิต ของประกันสังคม เมื่อได้รับวัคซีนแล้วในอนาคตโอกาสติดเชื้อจะน้อยลง ถึงติดเชื้อก็ไม่รุนแรง ลดการเสียชีวิต ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือให้ปทุมธานีผ่านวิกฤตสถานการณ์โควิดนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ / รายงาน

แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ ยืนยัน! คลัสเตอร์ รร.สบเมยวิทยาคม ควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว พบยอดผู้ป่วยลดลง วันนี้ 10 ราย

สถานการณ์โควิด -19  จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง ทำให้วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 10 ราย ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรักษาเรียบร้อยแล้ว  นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ในกรระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ในวันนี้ มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด ทั้งหมด 192 ราย พบเชื้อ 10 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดทั้งหมด โดยมีรายละเอียด ดังนี้  รายที่ 523 - 532 รวม 10 ราย เพศชาย 3 ราย เพศหญิง 7 ราย อยู่ใน อ.แม่สะเรียง 2 ราย อ.สบเมย 8 ราย โดยเป็นนักเรียน 6 ราย เจ้าหน้าที่ ตชด. 1 ราย และประชาชน 3 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่มีความเชื่อมโยงของ คลัสเตอร์โรงเรียนสบมยวิทยาคม เข้ารับการกักกันตัวที่ศูนย์กักกันของโรงเรียนและชุมชน ส่งตรวจ RT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่ รพ.สบเมย 8 ราย และ รพ.แม่สะเรียง 2 ราย 

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็กนักเรียน หากประเมินแล้วไม่มีอาการป่วยรุนแรง จะส่งต่อเข้ารับการรักษาในศูนย์แยกกักโรคชุมชน (Community  Isolation : CI) โรงเรียนสบเมยวิทยาคมต่อไป ปัจจุบันพบผู้ป่วยยืนยันใน Cluster โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จำนวนทั้งสิ้น 203 ราย

ส่วน สถานการณ์คลัสเตอร์โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ตั้งแต่เริ่มสถานการณ์ที่พบการแพร่ระบาดจากการเปิดเรียน ในวันที่ 3 กันยายน 2564 จนถึงปัจจุบัน จากการที่ได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงจากจำนวนนักเรียนของโรงเรียนสบเมยวิทยาคม ทั้งหมด 796 คน แบ่งแยกเป็นกลุ่มที่อยู่ในหอพัก จำนวน 354 คน มาเรียนในวันที่ 3 กันยายน 2564 จำนวน 224 คน ไม่มาเรียน 130 คน  กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในหอพัก จำนวน 442 คน มาเรียนในวันที่ 3 กันยายน 2564 จำนวน 242 คน ไม่มาเรียน 200 คน สรุปกลุ่มที่ไม่ได้มาเรียนทั้งที่อยู่ในหอพักและไม่ได้อยู่ในหอพัก รวมทั้งหมด 330 คน กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่ไม่มีประเด็น  ส่วนกลุ่มนักเรียนที่มาเรียนในวันที่ 3 กันยายน 2564 ทั้งหมด 466 คน ได้ดำเนินการตรวจซ้ำจนได้ผลเป็นที่แน่ชัดครบทุกราย ซึ่งมีผลยืนยันพบเป็นผู้ติดเชื้อรวม 49 ราย เข้าสู่รักษาตามระบบ แบ่งเป็นการรักษาอยู่ใน ศูนย์แยกกักโรคชุมชน (Community Isolation : CI) โรงเรียนสบเมยวิทยาคม 32 ราย และ รักษาในโรงพยาบาลสนาม 17 ราย ภาพรวมเด็กที่ติดเชื้อทั้ง 49 ราย เป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สีเขียว มีอาการเล็กน้อย โดยจะครบกระบวนการรักษาในวันที่ 28 กันยายน 2564  ในกรณีครูและผู้บริหาร จำนวน 48 ราย ได้ตรวจซ้ำยืนยันครบทุกราย พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อรวม 2 ราย เข้ากระบวนการรักษาใน ศูนย์แยกกักโรคชุมชน (Community Isolation : CI) โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ไม่มีอาการรุนแรง

สำหรับกรณีประชาชนที่สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยในคลัสเตอร์โรงเรียนสบเมยวิทยาคม มี 2 หมู่บ้านหลัก ได้แก่ บ้านแม่คะตวน และ บ้านแม่สวดใหม่ เจ้าหน้าที่ตรวจเชิงรุกไปแล้ว จำนวน 1,261 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ย. 64) พบผลยืนยันเป็นผู้ป่วยติดเชื้อจำนวน 139 ราย ได้เข้าสู่กระบวนการรักษาครบทุกราย โดยรวมเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สีเขียว มีอาการเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังคงปฏิบัติการออกตรวจเชิงรุกตรวจต่อเนื่องทุกวันให้ครอบคลุมมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของคลัสเตอร์ รร.สบเมยวิทยาคม จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 13 วัน ใกล้จะครบระยะฟักตัวตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด นอกเหนือจากผู้ที่เข้ารับการตรวจยืนยัน ยังไม่มีนักเรียน หรือประชาชนที่แสดงอาการเข้าข่ายโควิดเพิ่มเติม  นอกจากนี้ การดำเนินการใน ศูนย์แยกกักโรคชุมชน (Community Isolation ;CI) โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ได้เปิดรับนักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น โรงเรียนบ้านแม่สวด จำนวน 15 ราย รวมถึงโรงเรียนอื่นๆ 2-3 แห่ง รวม 5 ราย มาดำเนินการรักษาเฝ้าระวังสังเกตอาการ ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเชิงบวกเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเด็ก ลดความเครียดและความกังวล

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า ระยะเวลานี้ สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ผู้ป่วยในคลัสเตอร์ทั้งหมด 188 ราย เข้าสู่ระบวนการรักษาอย่างครบถ้วน ทั้งนี้ จะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

พังงา - ‘จุรินทร์’ หนุนศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รับอันดามันแซนด์บ็อกซ์ 7+7

ริมชายหาดโรงแรม ลา ฟลอร่า หาดบางเนียง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน (The Andaman World Medical & Wellness Hub) และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นวดไทย สมุนไพร และทันตกรรม ระหว่าง สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา นายชาติชาย กิติยานันท์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ส่วนราชการและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วม

หลังจากพิธีเปิดและพิธีลงนามรองนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ เช่นอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กิจกรรมกีฬาเพื่อสุขภาพ กิจกรรมนวดและสปาเพื่อสุขภาพ ก่อนจะมาติดใจการใช้อัคคีบำบัด ซึ่งมีการจุดไฟเผาบนหน้าท้องของผู้รับริการ แล้วหันไปถามผู้บังคับการตำรวจภูธรพังงาว่าช่วยดูหน่อยว่าจะต้องดำเนินคดีวางเพลิงหรือไม่ และบอกว่าเมื่อกี้เกือบจะหยิบดอกไม้จันทน์มาวางด้วย สร้างรอยยิ้มและเสียงฮาให้กับผู้ร่วมงานก่อนจะร่วมหมุนน้ำแข็งหลอดสมุนไพรพร้อมชิมอย่างอร่อย

นายจุรินทร์ฯ กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจที่จังหวัดพังงาได้ริเริ่มเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพโลกแห่งอันดามัน โดยถือเป็นการนำร่องด้านสุขภาพในภูมิภาคอันดามัน และสามารถแผ่ขยายสู่ระดับนานาชาติ ได้แก่ ระดับอาเซียนต่อไป ซึ่งจังหวัดพังงาเป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เชื่อมต่อรองรับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ประกอบกับในพื้นที่มีการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร จึงนำมาประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การนวดแผนไทย การดูแลรักษาสุขภาพ และการรักษาทางด้านทันตกรรม

ในวันนี้ถือว่าเป็นการนำร่อง แทนที่เราจะขายทะเลและหาดทรายอย่างเดียว ก็จะขายในเรื่องของการให้บริการและผลิตภัณฑ์ทางสุขภาพของไทยด้วยเช่นสมุนไพรไทยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอาหารเชิงสุขภาพของไทย การให้บริการเรื่องการนวดแผนไทยสปาไทย รวมทั้งการให้บริการด้านทันตกรรม ซึ่งสำนักงานสาธารสุขจังหวัดพังงาก็จะเข้ามาร่วมมือด้วย ถือว่าเป็นการเริ่มต้นก่อนจะก็ขยายผลต่อไป

ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์และการให้บริการและพื้นที่ ที่จะต่อไปยังภูเก็ตไปกระบี่และจังหวัดอันดามัน ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมที่จะทำให้พังงากลายเป็น HUB หรือเป็นศูนย์กลางของการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพอันดามันต่อไป คาดว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการสร้างงาน สร้างรายได้ ทั้งภาคการเกษตร การจ้างงาน และการปลูกสมุนไพร


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

เชียงใหม่ - สวนสัตว์เชียงใหม่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย จัด “รำลึก...ครบ 2 ปี หมีแพนด้าช่วง ช่วง จากไป”

วันที่ 16 กันยายน 2564 รำลึก..ครบ 2 ปี หมีแพนด้า ‘ช่วง ช่วง’ จากไป กับความทรงจำที่ดีถึงหมีแพนด้าเพศผู้ตัวแรกของไทย ณ รูปปั้นหมีแพนด้าด้านหน้าทางขึ้นส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารได้ให้การต้อนรับ นายอู๋ จื้ออู่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ ที่ให้เกียรติเดินทางมาร่วมรำลึก ครบรอบ 2 ปี หมีแพนด้าช่วง ช่วง ที่จากไปเมื่อ ปี 2562 ในโอกาสนี้ทางกุงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ และผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วย ผู้บริหารสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมถึงทีมพี่เลี้ยงหมีแพนด้า ได้ร่วมกันยืนไว้อาลัย พร้อมนำช่อดอกไม้สดวางเพื่อรำลึกถึงหมีแพนด้าช่วง ช่วง ณ บริเวณรูปปั้นหมีแพนด้าด้านหน้าทางขึ้นส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดซุ้มภาพในอริยบทต่าง ๆ ของหมีแพนด้าช่วง ช่วง ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่อยู่ในไทย  ได้สร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศได้ยิ้ม สนุกและมีความสุขทุกครั้งที่มาเยี่ยมชมหมีแพนด้าภายในสวนสัตว์เชียงใหม่

วันนี้แม้ช่วง ช่วง หมีแพนด้าเพศผู้ทูตสันถวไมตรีไทย-จีน จะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวต่าง ๆ ของหมีแพนด้าช่วง ช่วง จะยังคงอยู่ในใจและอยู่ในความทรงจำของคนไทยไปตลอดกาล

สำหรับหมีแพนด้าช่วง ช่วง มาอยู่ประเทศไทย ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2546  กับหมีแพนด้าหลินฮุ่ย จนกระทั่งปี 2552 ได้ตกลูกน้อยออกมาเป็นหมีแพนด้า “หลินปิง” ขณะนี้ได้เดินทางไปอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนตามสัญญาข้อตกลงระหว่างกัน ปัจจุบันประเทศไทยได้หมีแพนด้า จำนวน 1 ตัว คือ “หลินฮุ่ย” ปัจจุบันอายุเกือบ 20 ปี และมีสุขภาพดี มีความสุข กับการเลี้ยงดูที่เป็นมาตรฐานที่ทางจีนกำหนด


ภาพ/ข่าว  พัฒนชัย / ขัติยะ

มุกดาหาร - กอ.รมน.จว. ม.ห. ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ช่วยเหลือประชาชน และรักษาสถานะภาคีเครือข่ายรู้เท่าทันปัญหาการค้ามนุษย์

กอ.รมน.มุกดาหาร ในฐานะหน่วยงานความมั่นคง มีบทบาทหน้าที่บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มวลชน และประชาชน เพื่อมีส่วนร่วมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน กอ.รมน.มุกดาหาร จึงลงพื้นที่ผนึกกำลังใจคนไทยไม่ทิ้งกัน มอบถุงยังชีพจำนวน 200 ถุงให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส covid-19

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น ภายใต้การอำนวยการของ พันเอก วิระ  สอนถม รอง ผอ.รมน.จังหวัด มุกดาหาร (ท) มอบหมายให้ พ.อ.สุรัช  จันทร์พวง หน.กนผ./ขว.กอ.รมน. ,พ.ท.ตระกูล  ตระกูลสม  หน.ขุดชุมชนสัมพันธ์ กอ.รมน. , จนท.กอ.รมน.มุกดาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มวลชน ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ช่วยเหลือประชาชน และรักษาสถานะภาคีเครือข่ายรู้เท่าทันปัญหาการค้ามนุษย์ โดย ศปป.2 กอ.รมน. เป้าหมายคือประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (COVID-19) ในพื้นที่ชุมชนตำบลมุกดาหาร จำนวน 3 เขต (16 ชุมชน) โดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ถุง ได้แก่ เขต 1 ณ วัดแจ้งนาโป ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จำนวน 74 คน ,เขต 2 ณ วัดศรีมงคลเหนือ ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จำนวน 61 และ เขต 3 ณ วัดคำสายทอง ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จำนวน 75 คน รวมทั้งสิ้น 200 คน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ตราด - ตำรวจท่องเที่ยวตราด พร้อมดูแลนักท่องเที่ยว ขานรับโครงการ “เกาะช้างทูเก็ตเตอร์”

วันที่ 20 ก.ย. 64 พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ สว.ส.ทท.6 กก.2 บก.ทท.1(ตำรวจท่องเที่ยวตราด) เปิดเผยว่า ตามที่ภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของ จ.ตราด ได้กำหนดเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วไป ตามโครงการเปิดการท่องเที่ยวรูปแบบพิเศษ ที่มีมาตรการในเรื่องความปลอดภัยการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ควบคู่กันไปด้วย ภายใต้ชื่อ เกาะช้างทูเก็ตเตอร์ “KOH CHANG TOGETHER” โดยใช้แหล่งท่องเที่ยวเกาะช้างเป็นพื้นที่นำร่อง เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.64 เป็นต้นไป และก็เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนในพื้นที่เกาะช้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวตราด ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ 

ประจวบคีรีขันธ์ - “หัวหิน” คึกคัก นทท.เต็มชายหาด พร้อมเปิดรับต่างชาติเดือน ต.ค.นี้

วันที่ 20 ก.ย. นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน มอบหมายให้ นายมนตรี ชูภู่ นางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมผู้บริหารและ สท. ดูแลประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ของเทศบาลเมืองหัวหินรอบสุดท้ายอีก 4,000 คน ที่ รพ.หัวหิน ตามที่เทศบาลเมืองหัวหินใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้กับประชาชนในพื้นที่จำนวน 27,500 คน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเมืองหัวหินและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว สถานประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปิดเมืองหัวหินในเดือน ต.ค.นี้

นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน เปิดเผยว่าจากกระแสการเปิดเมืองหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัวตามโครงการหัวหินรีชาร์ท ล่าสุดมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวจาก กทม. จังหวัดปริมณฑล เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนตากอากาศที่ อ.หัวหินช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชายหาดหัวหินตลอดแนวตั้งแต่หน้าโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ไปทางหมู่บ้านเขาตะเกียบ มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เดินเล่นชายหาดอยู่เต็ม ส่งผลดีทำให้ธุรกิจม้าเช่าชายหาด ร้านอาหารซีฟู้ดทางลงชายหาดมีบรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอื่น เช่นตลาดโต้รุ่งหัวหิน เริ่มมีนักท่องเที่ยวจับจ่ายซื้อของ การจราจรบนถนสายหลักมีรถหนาแน่น เป็นสัญญาณที่ดีในการท่องเที่ยวก่อนถึงช่วงไฮซีซั่น

แม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวจะมีข้อจำกัดจากการกำหนดเคอร์ฟิวก็ตาม สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเมืองหัวหิน นอกจากวัคซีนแล้ว เทศบาลได้รับนโยบายให้ทำโครงการสมาร์ทซิตี้ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดความคมชัดสูงแล้ว 118 จุด จำนวน 486 ตัวในพื้นที่ 86 ตารางกิโลเมตร พร้อมระบบควบคุม 24 ชม. กล้องวงจรปิดสามารถติดตามใบหน้าบุคคลที่มีข้อมูลพื้นฐานจากหน่วยงานด้านความมั่นคงป้อนเข้าระบบ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวหรือติดตามการเดินทางประชาชนในพื้นที่

ระยอง - รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันยิงปืน ตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการใช้วาวุธปืน และการยิงปืนของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 64 เวลา 08.30 น.ที่สนามยิงปืน หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดระยอง(นปพ.) อ.เมือง จ.ระยอง พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันยิงปืน ตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการใช้วาวุธปืนและการยิงปืนของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 16 ทีม ทุก สภ.ในพื้นที่จังหวัดระยองส่งข้าราชการตำรวจในสังกัดเข้าร่วมจำนวน 3 ทีมแบ่งเป็น ทีม A ได้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทีม B ได้แก่มือดีของแต่ละ สภ. และ ทีม C สุ่มจากตำรวจใน สภ.ทีมละ 3 คน รวมทั้งสิ้น 144 นาย ผู้แข่งขันต้องใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.เท่านั้น ผู้ชนะแต่ละทีมจะได้รับถัวยรางวัลจาก พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง

พล.ต.ต.มานะ กล่าวว่า การจัดโครงการฝึกอบรมฯ ดังกล่าวให้กับข้าราชการตำรวจผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นผู้รักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการพัฒนาคน และการฝึกใช้อาวุธปืนให้มีความพร้อม มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย และฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ ซึ่งการฝึกยิงปืนดังกล่าวเป็นหนึ่งในการพัฒนาบุคคล หากตำรวจยิงปืนแม่นยำ เข้าระงับเหตุถูกวิธี ยิงยับยั้งโจรผู้ร้ายได้ถูกจุด สามารถป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ป้องกันชีวิตประชาชนและชีวิตตนเอง อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งส่งผลให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่น ต่อองค์กรตำรวจ ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ โดยแท้จริง

เพชรบุรี - ทำเก๋!! ชวนประชาชนไดร์ฟทรู ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้บนรถ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลพระจอมเกล้า

เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายแพทย์เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเปิดจุดบริการประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้บนรถ (Drive Thru Vaccine COVID-19) ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่าอยากให้ชาวเพชรบุรีทั้งหมดได้รับวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ ทุกคน ซึ่งจากการติดตามผลการฉีดวัคซีน มีความห่วงใยคนที่มีความเคลื่อนไหวลำบาก เดินทางมาลำบาก ไม่สามารถที่จะเข้าถึงบริการได้ จึงร่วมแรงร่วมใจกันเปิดไดร์ฟทรู เพื่อกลุ่มคนที่พอเคลื่อนไหวได้แต่ญาติพี่น้องลำบากที่จะพามา การฉีดบนรถ หรือไดร์ฟทรู วันอาทิตย์ วันหยุด จะช่วยให้ฉีดได้สะดวกไม่ต้องลงจากรถและยังมีความสำคัญเนื่องจากว่าวันธรรมดา ญาติ ลูกหลาน ไม่สามารถพามาได้ ทั้งนี้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทั้งหมด มีความรู้สึกยินดีที่จะให้บริการ แม้เป็นวันหยุดก็ไม่ยอมหยุดมาช่วยกันทำงานตรงนี้ เพื่อรักษาชีวิตพี่น้องของชาวเพชรบุรีทุกคน

นายสันทัด รัตนะนิรุตติ ชาวเพชรบุรี เปิดเผยว่าได้ขับรถพามารดามารับวัคซีน ที่ผ่านมามารดาตนมีความกลัวมากเรื่องวัคซีน แม้ว่าลูก ๆ ทุกคนที่ฉีดวัคซีนแล้วพยายามบอกแม่ให้ไปแต่ก็ไม่ยอมฉีด จนได้ข่าวว่าโรงพยาบาลพระจอมเกล้ามีบริการแบบไดร์ฟทรู คิดว่าเป็นวิธีที่ดี ลองคุยกับแม่ดูจนยอมตกลง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบวิธีนี้มาก่อน พอมาเห็นเป็นการบริการได้ดีมากทำให้แม่ลดความกลัว และก็จะพาแม่มาฉีดเข็มที่ 2 อีกครั้ง

กรุงเทพฯ - วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต แจกถุงยังชีพให้กับ วินมอเตอร์ไซด์พื้นที่ท่าแร้ง เขตบางเขน จำนวน 1,500 ชุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนรามอินทรา ซอยวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สืบสานต่อยอดบูรพาจารย์ ผู้ก่อตั้งวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต หลวงพ่อใหญ่ พระครูภาวนาภิธาน วิ. แจกถุงยังชีพให้กับ วินมอเตอร์ไซด์พื้นที่ท่าแร้ง เขตบางเขน จำนวน 1,500 ชุด ซึ่งมีพระครูใบฎีกาสันติ กิตฺติโสภโน ผู้สนองงานเจ้าอาวาสฝ่ายเผยแพร่พระพุทธศาสนา  พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ และชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกันจัดโรงทานวัดห่วงใย วินมอเตอร์ไซด์ สายใยศรัทธา เพื่อปวงประชาเป็นสุข 

เนื่องในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ การดำเนินชีวิตประจำวัน และฐานะทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความยากลำบากในหมู่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือตกอยู่ในภาวะที่ต้องปรับรูปแบบการดำรงชีวิตอย่างกะทันหัน และส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนจำนวนมาก ทั้งทางตรง และทางอ้อม เนื่องจากหลายธุรกิจจำเป็นต้องหยุด ต้องปิด ไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ  ทางวัดและประชาชนที่มีจิตศรัทธา ร่วมกันแจกถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย ยารักษาทั่วไป  และบทสวดมนต์ ให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาส และยังสามารถดำรงชีพต่อไปได้ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบุญได้ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต


ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top